ติดตามสถานะการณ์

เจอยีนสู้อัมพาต ในตัวคนหนุ่มสาว
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 พ.ย. 2557 08:01



นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยลอนดอนของอังกฤษ ค้นพบยีนตัวหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันสาเหตุที่ทำให้เป็นอัมพาต ที่เกิดเป็นกันบ่อยที่สุดในหมู่คนหนุ่มสาวและวัยกลางคน

พวกเขาพบหน่วยพันธุกรรมตัวนั้น จากการศึกษาดีเอ็นเอ ของคนไข้ทั่วทั้งอเมริกาและยุโรป รวมเกือบ 16,000 ราย ทั้งยังได้พบด้วยว่า มันยังช่วยป้องกันการเกิดโรคไมเกรนและโรคหัวใจวายอีกด้วย

นักวิจัยเหล่านั้นยอมรับว่า ความสำเร็จครั้งนี้ นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ เพราะมันมีส่วนในการป้องกันหลอดเลือดลำคอ ซึ่งส่งเลือดไปเลี้ยง สมอง แยกฉีกออกจากกัน ซึ่งมันเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของการเป็นอัมพาตในหมู่คนหนุ่มสาว การค้นพบยังจะช่วยให้พบวิธีรักษาโรคใหม่ในอนาคตด้วย.

เจอยีนสู้อัมพาต ในตัวคนหนุ่มสาว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

โยเกิร์ตป้องกัน เป็นเบาหวานได้
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 พ.ย. 2557 10:01



นักวิจัยโรงเรียนการสาธารณสุขฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ศึกษาพบว่าการกินโยเกิร์ตประจำ วันละ 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน แบบที่ 2 ได้ถึงร้อยละ 18 การเป็นเบาหวานแบบที่ 2 นับว่าเป็นโรคเรื้อรัง เนื่องจากร่างกายไม่อาจผลิตอินซูลินได้เพียงพอ หรือไม่เซลล์ของร่างกายกลับต่อต้านอินซูลินเสียเอง

พวกเขาศึกษาเรื่องนี้ จากรายงานผลการศึกษาที่เคยทำมาแล้ว เกี่ยวกับบุคคลในวงการแพทย์ ทั้งแพทย์และพยาบาล จำนวนรวมกันไม่ต่ำกว่า 51,529 คน หลายเรื่องมาพิจารณา

เริ่มด้วยการศึกษาหาความเกี่ยวพันของการดื่มนมเนยชนิดต่างๆ กับการเป็นโรคเบาหวาน และได้พบว่าการกินโยเกิร์ตในปริมาณมากประจำ จะช่วยป้องกันการเป็นเบาหวานแบบที่ 2 ได้.

โยเกิร์ตป้องกัน เป็นเบาหวานได้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ยลโฉม'ศิลาวารี'ดอกไม้หินสุดหายาก พบที่ทุ่งแสลงหลวง (ชมคลิป)
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 27 พ.ย. 2557 12:04



ชาวบ้านพาไปดู‘ศิลาวารี’หรือดอกไม้หินสุดหายาก พบที่คลองชมพูใน อช.ทุ่งแสลงหลวง พิษณุโลก เป็นดอกตูมเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม.พบเพียง5แห่งเท่านั้นในประเทศไทย เตือนนักท่องเที่ยวต้องระวัง อย่าไปเหยียบ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายวุ่น เต๋ยชาวนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้พาผู้สื่อข่าวสำรวจดอกไม้หิน หรือดอกไม้น้ำ หรือดอก ‘ศิลาวารี’ ที่ขณะนี้กำลังโผล่ขึ้นผิวน้ำบริเวณคลองชมพู หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง


---
@'ศิลาวารี' ดอกไม้หินสุดหายาก
---
ทั้งนี้ ดอกไม้ดังกล่าวถือว่าเป็นดอกไม้พันธุ์หายาก ซึ่งลักษณะดอกศิลาวารี เป็นดอกตูมเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร สีส้มอมเหลืองและแดง สวยงามมาก


---
@ดอกตูมเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม.
---
นายวุ่น เต๋ยชาวนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ดร.ละออ อัมพรพรรดิ์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรจน์ และอาจารย์เพ็ชรรัตน์ เวฬคามกุล จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้เข้าไปสำรวจดอกไม้หินหรือดอกศิลาวารี ที่ลำน้ำคลองชมพู แห่งนี้ และยังได้พบดอกไม้หินอีกหลายชนิด ทำให้ชาวบ้านทราบว่าบริเวณลุ่มน้ำชมพู มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เนื่องจากดอกไม้หิน หรือดอกศิลาวารีจะขึ้นตามแหล่งน้ำสะอาด ไม่มีเชื้อโรคปะปน


---
@นักท่องเที่ยว แชะภาพเป็นที่ระลึก!!
---
"เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปตรวจสอบตามคลองลุ่มน้ำชมพู ก็พบว่าดอกศิลาวารีเติบโตแล้ว ในจุดที่อยู่เหนือน้ำมองดูสวยงามมาก เนื่องจากระดับน้ำลดลง บางจุดที่อยู่ใต้น้ำก็มองเห็นสวยงามเช่นกัน ซึ่งดอกศิลาวารีที่คลองลุ่มน้ำชมพูนี้ ถือว่าเป็น 1 ใน 5 แห่งของประเทศที่มีดอกศิลาวารีขึ้นอยู่ หากนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวชมธรรมชาติก็ควรระมัดระวัง ไม่ให้ไปเหยียบย่ำดอกศิลาวารี เนื่องจากเป็นดอกไม้หายากมาก" นายวุ่น กล่าว.

ยลโฉม'ศิลาวารี'ดอกไม้หินสุดหายาก พบที่ทุ่งแสลงหลวง (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ประท้วง 'เฟอร์กูสัน' เริ่มแผ่ว-ผู้ว่าฯมิสซูรีปัดตั้งลูกขุนใหม่
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 27 พ.ย. 2557 23:51



การประท้วงในเมืองเฟอร์กูสันเริ่มสงบลง หลังประท้วงเดือดมา 2 คืน เนื่องจากฝนและหิมะตก ขณะที่ผู้ว่าฯรัฐมิสซูรี ปฏิเสธไม่ตั้งคณะลูกขุนชุดใหม่เพื่อพิจารณาเรื่องการสั่งฟ้องนายตำรวจผู้ยิงวัยรุ่นผิวสีอีกครั้ง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ท้องถนนในเมืองเฟอร์กูสัน ในรัฐมิสซูรี เริ่มกลับเข้าสู่ความสงบในช่วงคืนวันพุธที่ 26 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังประชาชนออกมาประท้วงอย่างรุนแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจที่คณะลูกขุนใหญ่มีคำตัดสินเมื่อคืนวันจันทร์ ไม่สั่งฟ้องดำเนินคดีต่อ ดาร์เรน วิลสัน ตำรวจผิวขาว ผู้ก่อเหตุยิงนาย ไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีอายุ 18 ปี จนถึงแก่ความตายทั้งที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ

นายวิลสัน ซึ่งขณะนี้ถูกย้ายไปปฏิบัติงานอื่น ก่อเหตุยิงนายบราวน์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. อ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง ส่งผลให้ชาวเมืองเฟอร์กูสันซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกันอเมริกัน และมีปัญหากับตำรวจและนักการเมืองประจำเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนขาวมาอย่างยาวนาน ออกมาประท้วงอย่างรุนแรง


---
@รูปของ ไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีผู้ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
---
สถานการณ์ที่ล่าสุดเมืองเฟอร์กูสัน ชานเมืองเซนต์หลุยส์ การประท้วงเบาบางลงในช่วงค่ำวันพุธ มีผู้ประท้วงเพียงไม่กี่สิบคนออกมาชุมนุมกันหน้าสำนักงานตำรวจเมืองเฟอร์กูสัน ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เป็นบรรยากาศที่ตรงข้ามกับเมื่อวันจันทร์ ที่ผู้ชุมนุมนับพันออกมาชุมนุม ก่อเหตุวางเพลิง, ปล้นร้านค้า และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีเสียงปืนซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นของฝ่ายใดดังขึ้นเป็นระยะ ขณะที่การประท้วงขยายไปหลายรัฐในวันอังคาร มีผู้ถูกจับกุมทั่วประเทศกว่า 400 คน

แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐมิสซูรี รวมถึงหลายส่วนในภูมิภาคตะวันตก กลาง และชาวฝั่งทางตะวันออก เลือกที่จะอยู่ภายในบ้าน เรื่องจากสภาพอากาศมีฝน และหิมะตกหนัก แต่ยังผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ออกมาประท้วงการฆาตกรรม ไมเคิล บราวน์ ที่เมืองโอคแลนด์, ลอสแอนเจลิส และซาน ดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ที่นครลอสแอนเจลิส ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันปิดเส้นทางจราจรในขณะที่พวกเขาเดินขบวนในย่านใจกลางเมือง พลางตะโกนว่า "ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีสันติ" ขณะที่ตำรวจเผยว่า มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมราว 50 คน ในข้อหาขัดขืนคำสั่งให้ยุติการชุมนุม


---
@ผู้ชุมนุมออกมาเดินขบวนในย่านกลางนครลอสแอนเจลิสเมื่อคืนวันพุธ
---
ส่วนที่เมืองโอคแลนด์ ประชาชนอย่างน้อย 200 คน ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนพ่นสีวาดภาพกราฟิติไว้ตามกำแพง, ป้ายโฆษณา และจุดจอดรถประจำทาง รวมถึงทุบทำลายกระจกหน้าร้านขายของ ก่อนที่จะไปเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักรออยู่หน้าศาลาว่าการเมือง ขณะที่ในเมืองซาน ดิเอโก ผู้ประท้วงประมาณ 300 คนเดินขบวนอย่างสงบในเขตซิตี้ ไฮส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนขบวนตามไปด้วย

อีกด้านหนึ่ง มีผู้ประท้วงกว่า 5,000 คน ชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร โดยถือป้ายโจมตีการเหยียดสีผิว ตะโกนคำขวัญเหมือนในสหรัฐฯ ว่า “ชีวิตคนดำก็มีความหมาย” และ “ยกมือขึ้น อย่ายิง” ซึ่งในกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมในลอนดอน มีครอบครัวของนายมาร์ค ดักเกน ชายผิวสีผู้ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในลอนดอนเหนือเมื่อปี 2011 และเป็นชนวนให้เกิดเหตุความไม่สงบครั้งใหญ่ที่สุดในอังกฤษรอบหลายทศวรรษ

ขณะที่รัสเซียออกมาโจมตีสหรัฐฯว่า การจลาจลในเฟอร์กูสันและการประท้วงอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯพิสูจน์ให้เห็นว่ากลุ่มผู้ให้ร้ายรัสเซียในรัฐบาลสหรัฐฯเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ไม่อยู่ในฐานะจะมาสั่งสอนรัสเซียเรื่องสิทธิมนุษยชน


---
@ตำรวจแอลเอปั่นจักรยานติดตามการเดินขบวนของผู้ประท้วงเมื่อคืนวันพุธ
---
ทั้งนี้ เหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในรัฐมิสซูรี ทำให้ผู้ว่าการรัฐอย่างนาย เจย์ นิกสัน ต้องเรียก กองกำลังป้องกันชาติ (National Guard) จำนวนประมาณ 2,200 นาย ไปประจำการที่เมืองเฟอร์กูสันและพื้นที่โดยรอบ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท้องถิ่น แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรียกเจ้าหน้าที่มาช้าเกินไปและไม่เพียงพอ

นายนิกสันยังปฏิเสธข้อเรียกร้องที่จะให้ตั้งคณะลูกขุนชุดใหม่ขึ้นมาตัดสินคดีนายบราวน์ ส่วนครอบครัวของบราวน์แถลงว่ารู้สึกถูกบดขยี้แหลกสลายด้วยคำตัดสินของคณะลูกขุน ด้านเหล่าคนมีชื่อเสียงในสหรัฐฯ รวมทั้งดารานักร้อง ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้คว่ำบาตรคำตัดสินของคณะลูกขุนในวัน “แบล็ก ฟรายเดย์” 28 พ.ย. หลังวันขอบคุณพระเจ้าใน 27 พ.ย.

อนึ่ง เมืองเฟอร์กูสันมีประชากรประมาณ 21,000 คน โดย 63% เป็นคนผิวสีชาวแอฟริกันอเมริกัน และอีก 34% เป็นคนขาว และสมาชิกสภาปกครองท้องถิ่นก็เป็นคนขาว โดยสถิติในปี 2013 พบว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ถูกตำรวจเรียกให้จอดข้างทางกว่า 85% เป็นคนผิวสี และอัตราคนผิวสีที่ถูกตำรวจจับกุมก็มีมากกว่าคนขาวถึง 2 เท่า


--
@กองกำลังป้องกันชาติ ยืนคุ้มกันสำนักงานตำรวจมืองเฟอร์กูสัน
--
ประท้วง 'เฟอร์กูสัน' เริ่มแผ่ว-ผู้ว่าฯมิสซูรีปัดตั้งลูกขุนใหม่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พายุฝน-ลูกเห็บถล่มเมืองบริสเบนเจ็บนับสิบ



มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน หลังเกิดพายุฝนและลูกเห็บขนาดยักษ์ถล่มเมืองบริสเบนในออสเตรเลีย เมื่อวันพฤหัสบดี

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/4XJmSnEJNiA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 08:47 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่านายแคมป์เบลล์ นิวแมน มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์พายุฝนและลูกเห็บขนาดยักษ์ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของรัฐควีนส์แลนด์ โดยเฉพาะในเมืองบริสเบนที่มีรายงานการเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจุด ว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 29 ปี และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน



ขณะที่ "เอเนอร์เจ็กซ์" รัฐวิสาหกิจด้านการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าในรัฐควีนส์แลนด์ รายงานว่าอิทธิพลของพายุที่มีความเร็วลมรุนแรงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ต้นไม้จำนวนมากหักโค่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับเสาไฟฟ้า ประชาชนราว 90,000 ครัวเรือนจึงต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างสุดความสามารถ



เมืองบริเสบนคือเมืองใหญ่อันดับ 3 ของออสเตรเลีย โดยมีประชากรอาศัยอยู่ราว 2.2 ล้านคน และเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 แห่ง หรือ "จี 20" เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/283902/ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินกาซ่าซิตี้

 

ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินกาซ่าซิตี้



สำนักงานองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตกาซ่าซิตี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากฝนตกหนักสองวันจนทำให้เกิดน้ำท่วมในดินแดนปาเลสไตน์

วันศุกร์ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 03:28 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกาซ่าซิตี้ดินแดนปาเลสไตน์ เมื่อวันที่28พ.ย.ว่าสำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซ่าซิตี้ดินแดนของปาเลสไตน์เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงสองวันที่ผ่านมาทำให้เกิดน้ำท่วมต้องอพยพประชาชนหลายร้อยคน

ออกนอกพื้นที่จากบ้านเรือนที่อาศัยเพราะถูกน้ำท่วม

เดิมทีนั้นยังมีชาวปาเลสไตน์ราว1แสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัยในดินแดนเขตฉนวนกาซ่า นานถึง3เดือนเพราะผลจากสงครามสู้รบ 50วันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มขบวนการฮามาสซึ่งการฟื้นฟูพื้นที่ดินแดนปาเลสไตน์ก็ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ

สำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากภาวะน้ำท่วมในขณะนี้แต่ทางสำนักงานฯได้สรรหาสิ่งของบรรเทาทุกข์และน้ำดื่มให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว



ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินกาซ่าซิตี้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ตามคาด! มติโอเปกไม่ลดกำลังผลิตสู้สหรัฐฯ ฉุดน้ำมันโลกดิ่งเหวทันที $3
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2557 23:30 น.



รอยเตอร์/เอเอฟพี - เหล่าชาติผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย มีชัยในการประชุมโอเปกวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) หลังทางกลุ่มมีมติคงกำลังผลิตตามเดิม ทำเอาประเทศสมาชิกรายย่อยเคือง ออกจากที่ประชุมโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะเดียวกัน ก็ฉุดให้ราคาน้ำมันร่วงลงทันทีกว่า 3 ดอลลาร์

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ณ เวลา 15.20 น. จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 22.20 น.) ลดลง 2.96 ดอลลาร์ อยู่ที่ 74.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงแตะ 74.36 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2010 ส่วนน้ำมันดิบตลาดสหรัฐฯ ลดลง 2.62 ดอลลาร์ อยู่ที่ 71.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความคาดหมายว่าอุปทานที่ล้นตลาดอยู่แล้วจะพุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่กว่าที่โอเปกจะมีกำหนดประชุมครั้งต่อไปก็ต้องรอจนกว่าวันที่ 5 มิถุนายน 2015

“มันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม” อาลี อัล-นูไอมี รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวด้วยสีหน้าเบิกบาน หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กินเวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมง และเมื่อถูกถามว่าโอเปกตัดสินใจไม่ลดกำลังผลิตและปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบันใช่หรือไม่ เขาตอบว่า “ใช่ ถูกต้องแล้ว”

ท่าทีของเขาผิดกับ นายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา ที่เดินทางออกจากที่ประชุมด้วยอารมณ์ขุ่นมัวและปฏิเสธให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลลัพธ์ของที่ประชุม

เหล่าชาติในอ่าวเปอร์เซียผู้มั่งคั่งแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนมาก่อนแล้วว่าพร้อมฝ่าฟันราคาน้ำมันที่ตกต่ำแม้ว่ามันส่งผลกระทบเจ็บปวดแก่สมาชิกรายย่อยของโอเปกอย่างเวเนซุเอลาและอิหร่าน ที่กดดันให้ลดกำลังผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพแก่ตลาดและคลายแรงกดดันที่มีต่องบประมาณของพวกเขา

ราคาน้ำมันดำดิ่งมาแล้วราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากผลผลิตหินน้ำมันของสหรัฐฯที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นและอุปสงค์ที่อ่อนแอจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในจีนและยุโรป

ทั้งนี้ ถ้าโอเปกซึ่งมีสมาชิก 12 ประเทศและผลิตน้ำมันดิบราว 1 ใน 3 ของโลก ดำเนินการลดกำลังผลิตเพียงฝ่ายเดียวโดยปราศจากความเคลื่อนไหวแบบเดียวกันของคู่แข่ง พวกเขาก็เสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเหล่าชาติผู้ผลิตหินน้ำมันในอเมริกาเหนือ แต่อีกด้านหนึ่ง หากตัดสินใจคงกำลังผลิตในปัจจุบัน ก็เท่ากับว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งของตลาด

อาลี ซาเลห์ อัล-โอมาอีร์ รัฐมนตรีน้ำมันคูเวต บอกว่าโอเปกยอมรับได้ไม่ว่าราคาน้ำมันในตลาดจะอยู่ระดับใดก็ตาม ไม่ว่าจะ 60 ดอลลาร์ 80 ดอลลาร์หรือ 100 ดอลลาร์ ส่วนอะเดล อับเดล เมห์ดี รัฐมนตรีเชื้อเพลิงของอิรัก มองว่าราคาต่ำสุดของน้ำมันน่าจะอยู่ที่ 65 - 70 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่าสงครามราคาครั้งนี้อาจทำให้น้ำมันในชั้นหินอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในอนาคต เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งจะช่วยคลายแรงกดดันต่อโอเปกในระยะยาว

“เราตีความที่ซาอุดีอาระเบีย ขายแนวคิดปล่อยราคาน้ำมันระยะสั้นให้ลดต่ำลง ยืนพื้นที่ 60 ดอลลาร์ ก็เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาในช่วงหลายปีข้างหน้า ที่ระดับ 80 ดอลลาร์ขึ้นไป" โอลิเวอร์ จาค็อบ จากเปโตรมาตริกซ์กล่าว "หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ โอเปกจะปล่อยให้ราคาอยู่ในระดับต่ำต่อไปสักพักเพื่อชะลอโครงการพัฒนาต่างๆ ในสหรัฐฯ” เขากล่าว อ้างถึงโครงการน้ำมันชั้นหินของอเมริกา

 

อึ้ง! พบเลือดคนรอบเหมืองทองอัคราปนเปื้อนโลหะหนักกว่าครึ่ง “หมอพรทิพย์” ลุยเจาะซ้ำอีก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2557 08:35 น.



เพชรบูรณ์/พิจิตร - “หมอพรทิพย์” ตั้งโต๊ะเจาะเลือดชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราซ้ำรอบ 4 หลัง 3 รอบแรก 600 ตัวอย่างเจอโลหะหนักในเลือดมากถึง 300 ตัวอย่าง จนต้องแจ้งผู้ว่าฯ-สสจ. และโรงพยาบาลในพื้นที่เฝ้าระวัง-ดูแลเป็นพิเศษ ขณะที่แกนนำยังต้องเดินขึ้นโรงพักมอบตัวคดีหมิ่น



พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมคณะแพทย์จากนิติวิทยาศาสตร์ ทีมเจาะเลือดจากคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่รอบเหมืองทองอัคราไมนิ่ง ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เพื่อตรวจสุขภาพประชาชน ที่วัดดงหลง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อทำการเจาะเลือดซ้ำเฉพาะผู้ที่มีรายชื่อเป็นชาวบ้านผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง



พญ.คุณหญิง พรทิพย์กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนรอบเหมืองทองคำ จึงนำคณะเข้ามาตรวจเลือดชาวบ้านอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ก็ส่งทีมงานเข้ามาสุ่มตัวอย่างตรวจแล้ว 3 ครั้ง เพราะประชาชนได้รับผลกระทบสะสมแบบเรื้อรัง ทั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป

ด้าน ดร.สมิทธ์ ตุงคะสมิต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การลงพื้นที่รอบเหมืองทองคำครั้งนี้เพื่อตรวจสุขภาพประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหมืองแร่ทองคำแต่อย่างใด เราสนใจแค่คนป่วยที่ต้องอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา เนื่องจากผลตรวจเลือดประชาชนรอบเหมืองใน 3 อำเภอ คือ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ที่อยู่ตอนเหนือของเหมือง 600 ตัวอย่าง เบื้องต้นพบว่ามีสารโลหะหนักอยู่ในเลือด 300 ตัวอย่าง

ดร.สมิทธ์กล่าวอีกว่า สารแมงกานีส และอาเซนิกที่พบในร่างกายชาวบ้านรอบเหมือง คือโลหะหนักที่พบมากในแร่ทองคำ คำถามก็คือ สารเหล่านี้ไปอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างไร นี่คือปัญหา เพราะการระเบิดหินเป็นผลทำให้ฟุ้งกระจาย สารโลหะหนักที่ไม่มีวันย่อยสลายลงสู่แหล่งน้ำ แปลงพืชผักสวนครัว ซึ่งจากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์เชิงวิชาการอย่างละเอียด ก่อนที่จะสรุปผลอีกครั้งต้นเดือนมกราคมว่าสารที่อยู่ในร่างกายประชาชนมีมากน้อยเพียงใด ก่อนแก้ปัญหากรณีเหมืองแร่ทองคำต่อไป

“วันนี้ประชาชนมีความเสียง ประมาณครึ่งหนึ่งมีสารโลหะหนักแล้ว จึงได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด สสจ.พิจิตร และเข้าพบ ผอ.โรงพยาบาลพิจิตร ว่าบุคคลเหล่านี้ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษกรณีเข้ารับการรักษา ส่วนการลงพื้นที่ของหมอพรทิพย์ ก็ได้ทำความเข้าใจ และให้ความรู้ชาวบ้านถึงการรักษาสุขภาพเบื้องต้นแล้ว”

น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรงค์ แกนนำชาวบ้านรอบเหมือง กล่าวว่า คณะของ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ ตรวจเลือดคนที่ตรวจไปแล้วซ้ำอีก 329 คน และตรวจคนใหม่ด้วย เนื่องจากมีแมงกานีสและสารหนูสูงมาก และวันนี้ยังพบว่าปนเปื้อนในบ่อน้ำตื้นบริเวณรอบเหมืองหมดแล้ว รวมถึงในพืชผักสวนครัว การตรวจตะกอนดินก็พบการปนเปื้อนเช่นกัน ซึ่งจะมีการเปิดเผยเอกสารหลักฐานดังกล่าว โดยเฉพาะผลเลือดในเดือนธันวาคมนี้

วันนี้ตนและแกนนำชาวบ้านจากพิจิตรจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ กทม.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่บริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่พาชาวบ้านไปเรียกร้องให้สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยได้ดูแลช่วยเหลือชาวบ้าน รวมถึงตนที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งมีชาวบ้านเจ็บป่วยจำนวนมาก หลังจากพยายามร้องเรียนต่ออัครามาโดยตลอดแต่ถูกปฏิเสธ

สำหรับบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด บริษัท ริชภูมิไมนิ่ง จำกัด บริษัท ไทยโกลบอลเวนเจอร์ส จำกัด ได้รับอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำ-เงิน ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด ปี 2549 จำนวน 59 แปลง 507,996 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.พิจิตร ได้แก่ ต.เขาทราย เขาเจ็ดลูก ท้ายทุ่ง และทับคล้อ อ.ทับคล้อ ต.หนองพระ วังทรายพูน หนองปลาไหล และหนองปล้อง อ.วังทรายพูน ต.ท่าเยี่ยม อ.สากเหล็ก ต.วังงิ้ว สำนักขุนเณร และห้วยพุก อ.ดงเจริญ ส่วน จ.เพชรบูรณ์ ได้แก่ ต.วังหิน อ.วังโป่ง และจ.พิษณุโลก ได้แก่ ต. บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก เนินมะปรางวังยาง บ้านมุง ไทรย้อย วังโพรง และชมพู อ.เนินมะปราง

ขณะที่ตลอดระยะเวลาการทำเหมือง มีชาวบ้านร้องเรียนมาตลอดว่าทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติเหือดแห้ง ขาดน้ำใช้ทำการเกษตร ชาวบ้านต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ ก่อมลพิษทางฝุ่น เสียง แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดหิน ปนเปื้อนสารพิษไซยาไนด์และสารหนู ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย ล่าสุดบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด กำลังเตรียมยื่นขอประทานบัตรโครงการระยะที่ 3 พร้อมกับบริษัทอื่นที่ยื่นขออาชญาบัตรพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายแสนไร่ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

 

พายุซูเปอร์เซลล์ถล่มบริสเบน ลูกเห็บก้อนเบ้อเริ่ม เครื่องบินหงายท้อง-หลังคากระจุย. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2557 17:31 น.



เอเอฟพี - บรรดาเครื่องบินขนาดเล็กพากันหงายท้อง หลังคาบ้านถูกฉีกกระจัดกระจาย เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์" เกิดขึ้นในแถบชายฝั่งตะวันออกของแดนจิงโจ้ สร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า พายุฝนฟ้าคะนองลูกนี้คือหนึ่งในพายุที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเห็นในประเทศนี้ แถมยังเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ที่สร้างความเสียหายให้กับเมืองบริสเบน ทำให้มีลูกเห็บขนาดเท่าลูกเทนนิสตกลงมาเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) แถมยังทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 39 ราย

ด้วยกระแสลมหมุนที่มีความเร็ว 140 กิโลเมตร ซึ่งแรงเทียบเท่ากับพายุไซโคลนระดับ 2 ได้ทำให้บรรดาต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนออกมา แถมยังทำให้เสาไฟฟ้าล้ม
ที่สนามบินอาร์เชอร์ฟิลด์ ห่างจากย่านใจกลางธุรกิจของบริสเบนออกไป 11 กิโลเมตร มีเครื่องบินขนาดเล็กอย่างน้อย 4 ลำหงายท้องให้เห็น

"มันดูราวกับเป็นวันสิ้นโลกเลยล่ะ" ชาวบ้านคนหนึ่งบอกกับนักข่าว เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่บนหลังคาเหลือแค่เพียงโครงเหล็ก เพราะความรุนแรงของพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์" ลูกนี้

ขณะที่ชาวบริสเบนอีกรายบอกว่า มีลูกเห็บตกลงมาราวกับห่ากระสุน
"ลูกสาวผมร้องให้ยกใหญ่ มันเหมือนกับมีรถไฟขนสินค้าพุ่งตรงเข้ามาหา เสียงมันดังขนาดนั้นเลย แถมขนาดของลูกเห็บก็ใหญ่มากจนเอาครั้งก่อนๆ มาเทียบไม่ได้" จอห์น อาร์เธอร์ บอกกับสถานีวิทยุ



แคมพ์เบล นิวแมน ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า นี่เป็นพายุรุนแรงที่สุดในบริสเบนนับตั้งแต่ปี 1985 แต่ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรง
"มันเป็นพายุที่น่าสะพรึงกลัวมาก ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต" เขาบอกกับสถานีวิทยุ เอบีซี
ประทีป สิงห์ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา บอกกับเอเอฟพีว่า พายุฝนฟ้าคะนองลูกนี้เริ่มก่อตัวจากพายุหมุนทั่วไปทางตอนใต้ของบริสเบน เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี แล้วมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ จนเจอกับอากาศชื้นจากลมทะเลซึ่งทำให้มันกลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์"
"ซูเปอร์เซลล์จะมีกระแสลมหมุนที่ยกตัวขึ้น ดึงดูดความชื้นให้เข้าไปเจอกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าระดับเยือกแข็งและคงสภาพอยู่เป็นเวลานาน อนุภาคของฝนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนแข็งตัวกลายเป็นลูกเห็บ และเนื่องจากการก่อตัวของลูกเห็บเกิดขึ้นในซูเปอร์เซลล์ที่รุนแรง มันจึงลอยอยู่บนอากาศเป็นเวลานาน เมื่อมันใหญ่จนมีน้ำหนักที่มากพอ มันก็จะเริ่มตกลงมา" เขากล่าว
สก็อต เอเมอร์สัน รัฐมนตรีคมนาคมรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับบริสเบนในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป ขณะที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านประกันภัยก็พุ่งพรวดพราดในวันนั้น
สภาประกันภัยออสเตรเลีย ประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นภัยพิบัติตามธรรมชาติ มีผู้ขอเคลมเงินประกัน 15,060 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 109.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
บริษัทประกัน "ซันคอร์ป" เปิดเผยว่า มีบ้านประมาณ 1,000 หลัง รถยนต์ 1,600 คัน เคลมประกันจากเหตุการณ์คราวนี้
เสาไฟฟ้าอย่างน้อย 500 ต้นล้มลงมา บ้านเรือนหลายหมื่นหลังรวมถึงธุรกิจอีกมากมายไม่มีไฟฟ้าใช้ ในระหว่างที่เจ้าพนักงานกำลังเร่งซ่อมแซมในวันนี้ (28 พ.ย.)
โรงเรียนหลายสิบแห่งหยุดการเรียนการสอน พร้อมทั้งมีทหารหลายร้อยนายจากกองกำลังช่วยเหลือฉุกเฉินของกองทัพ เข้ามาช่วยเคลื่อนย้ายต้นไม้และซากปรักหักพังออกจากถนนในบริสเบน

















http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

ฟ้าผ่าเดอะกิ๊ก แอนด์เดอะแก๊ง ใหญ่แค่ไหนก็จับ? โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
29 พฤศจิกายน 2557 06:46 น.



ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ใครเลยจะไปคาดคิดว่า อยู่ๆ คนอย่าง “เดอะกิ๊ก-พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์” อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบ.ชก.) จะมีชะตาชีวิตที่พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วข้ามคืนเช่นนี้
จาก “เจ้าพ่อสอบสวนกลาง” ที่มากบารมี และนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนี้มานับตั้งแต่ปี 2553 วันนี้จะกลายเป็นผู้ต้องหา พร้อม พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก. และพวกในคดีร้ายแรงใน 5 ข้อหาฉกรรจ์ที่มีโทษซึ่งต้องบอกว่า หนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะข้อหาสุดท้ายคือความผิดฐานตามประมวลอาญา มาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ซึ่งคำร้องขอฝากขังระบุชัดเจนว่า “เดอะกิ๊กแอนด์เดอะแก๊ง” มีพฤติกรรม “แอบอ้างเบื้องสูง” ในการแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งค้าน้ำมันเถื่อน ฟอกเงิน รับส่วยในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เปิดอภิมหาบ่อนย่านพระราม 9
ฟ้าผ่าครั้งที่ 1 ย้ายเข้ากรุ

กล่าวสำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์นั้น ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในปี 2553 และนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีใครกล้าแตะ ไม่มีใครกล้าโยกย้าย ผ่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาหลายต่อหลายคน ผ่านรัฐบาลมาหลายรัฐบาล แม้กระทั่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มี “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ไม่สามารถโยกคลอนเก้าอี้ที่มั่นคงดุจภูผาของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ได้

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกลายเป็นอาณาจักรของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ที่ไม่มีใครหน้าไหนแตะ

แต่แล้วจู่ๆ กลางดึกของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ได้มีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์พ้นขาดจากเก้าอี้ ผบช.ก. พร้อมกับ พล.ต.ต.โกวิทย์ โดยให้ไปประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) แบบ “ฟ้าผ่า” ท่ามกลางความสับสนงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น

พล.ต.อ.สมยศให้เหตุผลในการย้ายในครั้งนั้นว่า “มีงานสำคัญที่ต้องมอบหมายให้ทั้งสองท่านไปปฏิบัติ เนื่องจากทั้งสองท่านถือว่ามีความรู้ความสามารถ ส่วนการมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ(ถาวรศิริ) มาทำหน้าที่ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้น ก็เป็นไปตามระเบียบการบริหารจัดการเพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพเท่านั้น”

แน่นอน การถูกโยกย้ายดังกล่าวตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
ทว่า สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป

จากนั้นปมปริศนาซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่ออีกไม่กี่วันถัดมาคือวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมด้วย“คนรู้ใจ” ของเดอะกิ๊กอย่าง “ผู้กำกับอั้ม” พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1 ป. ถูกย้ายเข้ากรุไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะสำหรับ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์นั้น วงการตำรวจรู้ดีว่าเขาคือสายตรงของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากถูกย้ายไม่ถึงสัปดาห์ก็เกิดข่าวสะท้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปรากฏว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาโดยตกจากอาคารสูงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 และญาติตัดสินใจเผาศพอย่างปัจจุบันทันด่วน



ฟ้าผ่าครั้งที่ 2 ถูกออกหมายจับ แอบอ้างเบื้องสูงแสวงหาประโยชน์
ในที่สุดปมปริศนาก็เริ่มคลี่คลายให้เห็นที่มาและที่ไปชัดเจนขึ้น เมื่อในอีก 2 วันถัดมาคือ วันที่ 22 พฤศจิกายน ศาลอาญาก็ได้อนุมัติหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พล.ต.ต.โกวิทย์ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์และพวกรวม 12 คน ด้วยข้อหาฉกาจฉกรรจ์



การเสียชีวิตของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์จึงกลายเป็นเรื่องเดียวกับการย้ายและการออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ไปโดยปริยาย เนื่องเพราะคำร้องขอฝากขังระบุชัดเจนว่า พวกเขาคือ “แก๊งเดียวกัน” โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงกระทำความผิดในข้อหาค้าน้ำมันเถื่อน ซื้อขายเก้าอี้ รับส่วยเพื่อเปิดบ่อนการพนันและ ฟอกเงิน

พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ที่เป็นคนรู้ใจและเป็นมือไม้ในการทำมาหากินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ในทุกเรื่องเสียชีวิต และในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลยืนยันว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ฆ่าตัวตาย

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ถูกออกหมายจับ ถูกสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและถูกส่งตัวไปฝากขัง ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ใครจะไปเชื่อว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์จะมีวันนี้
แต่ความจริงก็คือความจริง

พล.ต.พงศ์พัฒน์และ พล.ต.โกวิทย์ถูกแจ้งข้อหาเดียวกันคือ ทำความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใด มอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง หรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, จัดให้เล่นการพนัน (ถั่วครอบ) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 (1) และความผิดฐาน ฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (5), (9) มาตรา 5 (1), (2) และมาตรา 60

พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ ถูกออกหมายจับ และ แจ้งข้อหาทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ,มาตรา 149, มาตรา 157 และความผิดฐานตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ มาตรา 3 (5), (9) มาตรา 5 (1), (2) และมาตรา 60 ส่วน พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อดีต ผกก.4 ป. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, มาตรา 149 และมาตรา 157

พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล ผิดฐานร่วมกันบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดครอบครองที่ดินของรัฐเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันปลูกสร้างฝาย ล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้น้ำ ของแม่น้ำ ลำคลองบึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ที่ ประชาชนใช้ร่วมกัน ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 55, 72 ตรี และพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 117

ส่วนสองนายดาบตำรวจซึ่งเป็นคนขับรถ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพล.ต.ต.โกวิทย์คือ ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงาและ ด.ต.ฉัตรินทร์หรือจักรินทร์ เหล่าทอง ถูกออกหมายจับและตั้งข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, มาตรา 149, มาตรา 157
นอกจากข้าราชการตำรวจแล้ว คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาเป็นพลเรือน 5 คน ประกอบด้วย 1.นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ภรรยาของ พ.ต.อ.โกวิท 2.นายสวงค์ มุ่งเที่ยง 3.นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช 4.นางปิยพรรณ ชินนะประภา และ 5.นายชอบ ชินนะประภา
นางสวงค์ มุ่งเที่ยง ผิดฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 และ 47 ขณะที่นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ฐาน ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 และ 47

นางสุดาทิพย์ผิดฐานร่วมกันบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดครอบครองที่ดินของรัฐเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันปลูกสร้างฝาย ล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้น้ำ ของแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 และพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 117

นายชอบ ชินนะประภา และนางปิยพรรณ ชินนะประภา มีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
แน่นอน เชื่อว่า สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ ผู้ต้องหาทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกันอย่างไร
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 พล.ต.อ.สมยศและคณะได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับแผนผังเครือข่ายแสดงเส้นสนกลในการทำมาหากินของ “เดอะกิ๊กแอนด์เดอะแก๊ง” เอาไว้โดยสรุปได้ดังนี้คือ

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์แสดงตัวเสมือนเป็นสัญลักษณ์สถาบันเพื่อหวังผลประโยชน์ร่วมกัน โดยวางแผนกับ พล.ต.ต.โกวิทย์ที่มีพฤติกรมเรียกร้องเงินหรือทรัพย์สิน เปิดบ่อน แอบอ้างเบื้องสูง โดยมี พล.ต.ต.บุญสืบ เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อน เก็บรวบรวมส่วยรายเดือนให้ พล.ต.ต.โกวิทย์ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.วุฒิชาติ ที่เรียกรับเงิน หรือทรัพย์สิน เก็บรวบรวมส่งส่วยรายเดือนที่พล.ต.ต.โกวิทย์

ขณะที่ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หรืออั้ม เรียกร้องเงินหรือทรัพย์สิน และรวบรวมเงินที่ได้จากการซื้อตำแหน่ง ส่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มี ด.ต.สุรศักดิ์ เรียกร้องเงินหรือทรัพย์สินส่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ส่วน ด.ต.จักรินทร์ เหล่าทอง ซึ่งทำหน้าที่พลขับให้พล.ต.ต.โกวิทย์ ก็เรียกร้องเงินหรือทรัพย์สิน เก็บรวบรวม ส่งส่วยรายเดือน ให้ พล.ต.ต.โกวิทย์ โดยมีนางปิยพรรณ และนายชอบ ชินนะประภา เป็นนอมินีถือทรัพย์สินแทนพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
หลายคนอาจสงสัยว่า นางปิยพรรณและนายชอบคือใคร ทำไมถึงได้ไปเป็นนอมินีถือทรัพย์สินแทน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์

โปรดฟังอีกครั้ง “นางปิยพรรณและนายชอบ” นั้น มิใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็น “น้องเขย” และ “น้องสาว” ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์

ฟ้าผ่าครั้งที่ 3 บุกยึดทรัพย์มูลค่าหลายพันล้าน

ที่น่าสนใจก็คือ ในวันเดียวกับการออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวก ตลอดรวมถึงในวันถัดๆ มา ข้อมูลเกี่ยวกับความร่ำรวยผิดปกติก็ถูก เผยแพร่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการกองปราบปราม รักษาราชการแทน ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าชุดในการนำค้นและตรวจยึดพยานหลักฐานทั้งหมด เปิดเผยรายละเอียดว่า จากการตรวจค้นทั้งหมดมี 15 จุด เป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ 11 จุด พล.ต.ต.โกวิทย์ 1 จุด พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ 1 จุด และที่เหลือเป็นของเครือข่าย โดยในส่วนของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ 11 จุดประกอบด้วย 1. บ้านเลขที่ 28/511 ถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 34 ถนนบางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (สถาบันกิจการตำรวจสมัยใหม่ 4 ชั้น) 2. บ้านเลขที่ 28/164 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 34 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 3. บ้านเลขที่ 26/1 และ26/2 ตำบลปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 4. บ้านเลขที่ 59/18 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 36 ตำบลคลองเกลือ อ.ปากเกร็ด 5. ร้านสวงค์ เลขที่ 16/5 และโกดังเลขที่ 16/21 หมู่2 ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด 6. บ้านเลขที่ 30/3หมู่14 ตำบลบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 7. บ้านเลขที่ 28/311 หมู่บ้านสวัสดิการทหารบก ซอย5/1 หมู่4 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด 8. บ้านเลขที่ 172 ถนนบอนด์สตรีท ต.บางพูด อ.บางเกร็ด 9. อาคารกำลังก่อสร้าง ตั้งอยู่ใกล้บ้านเลขที่ 28/511 ถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 34 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด 10. บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 6 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี และ 11. กรีนพอยท์ คอนโด ชั้นล่างห้อง 62 แขวงและเขตประชาชื่น กทม.



ทั้งนี้ ในการตรวจค้นมีการตรวจยึดทรัพย์สิ่งของจำนวนมาก พบลักษณะตู้เซฟมีการซุกซ่อนไว้อย่างดี ตู้เซฟมีการฝังดิน ปิดบังอำพรางตู้เซฟไว้ที่บ้านซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จ มีการพรางให้เห็นว่าจุดนั้นไม่น่าสนใจ ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์เปิดเพื่อให้เห็นทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล มีการฝังใต้พื้นบ้าน พื้นซีเมนต์ ติดตั้งเซฟ โบกปูนทับ มีตู้นิรภัย ห้องนิรภัยติดตั้งลูกกรงเหล็กไว้อย่างดีเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น ที่อาคารสถาบันตำรวจสมัยใหม่ มีการทำห้องนิรภัยประตูเหล็กแน่นหนา บางจุดต้องใช้รถแบ็กโฮขุดทำลายเพื่อเปิดเซฟ ตู้นิรภัยที่เก็บไว้ในบ้านบางหลัง อำพรางในตู้ไม้ธรรมดา
สำหรับทรัพย์สินที่ตรวจพบมีวัตถุโบราณหายากล้ำค่าจำนวนมาก เช่น



พระเครื่อง พระพุทธรูปบูชา ภาพเขียนหายาก พบทั้งเงินสดธนบัตรไทยและต่างประเทศ แสตมป์ทองคำหายากมูลค่าราคาสูงมาก มีเพียงไม่กี่ชิ้นในประเทศไทย งาช้าง ฯลฯ ไม่นับรวมเครื่องเพชร พลอย เครื่องประดับ รวมทั้งเครื่องเงิน เครื่องลายคราม เฟอร์นิเจอร์มุก และยานพาหนะราคาแพง



“พล.ต.ต.โกวิทย์ เปรียบเสมือนขุนพลคู่ใจของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้ตรวจค้น 1 จุด ที่เพนต์เฮาส์แห่งหนึ่งย่านถนนมหาดเล็กหลวง เปิดตู้เซฟพบพระเครื่องมูลค่ามหาศาล นอกจากนี้ยังมีรถหรูอีกหลายคัน ส่วนการค้นบ้าน พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ ที่เปรียบเสมือนมือขวา เป็นกุนซือของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การวางตำแหน่งต่างๆ หรือการออกความเห็นในเรื่องของแผนการต่างๆ เป็นเหมือนเสนาธิการคู่กาย ได้ค้นพบทรัพย์สินจำนวนมากทั้งทองรูปพรรณ พระเครื่อง เครื่องเพชร โฉนดที่ดิน รถยนต์ และจักรยานยนต์ราคาสูง เช่น ยี่ห้อฮาร์เลย์, ดูคาติ รวมมูลค่าจำนวนมาก” รรท.ผบก.ป.เปิดเผยรายละเอียด
ย้ำกันอีกครั้งว่า นี่คือความร่ำรวยของ “เดอะกิ๊กแอนด์เดอะแก๊ง” ที่แอบอ้างเบื้องสูงไปแสวงหาผลประโยชน์ในทุกรูปแบบ
ฟ้าผ่าครั้งที่ 4 จับ 3 อัครพงศ์ปรีชา
แต่ที่น่าสะท้านสะเทือนเสียยิ่งกว่าคือการออกหมายจับ “พลเรือน” รอบ 2 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีทั้งหมด 5 คนด้วยกันคือ 1. นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา 2. นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา 3. นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา 4. นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ 5.นายชากานต์ ภาคภูมิ
ทั้งนี้ ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และร่วมกันลักทรัพย์ เหตุเกิดในเขตรับผิดชอบของ สน.พระโขนง
“กลุ่มคนพวกนี้มีการแอบอ้างสถาบันฯ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทุกๆ ด้าน ซึ่งคดีนี้ตำรวจคงจะมีการขอออกหมายจับเรื่อยๆ ไม่สามารถเร่งได้ หากพยานหลักฐานเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงไปถึงใครก็ต้องดำเนินการ ทุกอย่างว่ากันตามพยานหลักฐาน เป็นไปตามข้อเท็จจริง และยังตอบไม่ได้ว่ามีจำนวนกี่คน เพราะในการสอบสวน การจะออกหมายจับใครต้องมีพยานหลักฐานรองรับ”พล.ต.อ.สมยศให้ข้อมูล
ทันทีที่รายชื่อปรากฏ ความสนใจก็พุ่งไปที่ “นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา” ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะคนๆ นี้เป็นคนเดียวกับ “ว่าที่ พ.ต.ณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา” ที่ราชกิจจานุเบกษาเพิ่งลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องในโอกาส พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 ให้แก่นายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวน หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ จำนวน 14 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นว่าที่พ.ต.ณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ตริตาภรณ์มงกุฎไทย
ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศเรื่องนี้ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 หรือก่อนหน้าที่จะถูกออกหมายจับและเป็นผู้ต้องหาร่วมแก๊ง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น
และภายหลังจากถูกออกหมายจับ ก็ได้รับการยืนยันในเวลาต่อมาว่า ได้ถอดยศว่าที่ พ.ต.ณัฐพลและให้พ้นจากราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนายณัฐพงศ์แล้ว ที่ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้คือ งานนี้มี “พี่น้องอัครพงศ์ปรีชา” ถูกออกหมายจับรวม 3 คนด้วยกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ในวันเดียวกันนั้นเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.ท.สมยศได้มีคำสั่งที่ 643/2557 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ โดยโยก พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการกองปราบปรามที่เคยถูกย้ายไปประจำที่ ศปก.ตร.เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 ให้ไปปฏิบัติราชการที่ “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ”
งานนี้มิอาจมองเป็นอย่างอื่นได้ว่า พล.ต.ต.ชัยทัตถูกกันไว้เป็นพยาน
อย่างไรก็ตาม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงที่มีความใหญ่โตแก๊งนี้ไม่ได้มีผู้ร่วมขบวนการเพียงแค่ที่ปรากฏเท่านั้น หากแต่จะต้องมีผู้ร่วมขบวนการอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนับแต่ปี 2553-ปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นคดีค้าน้ำมันเถื่อน และคดีบ่อนพระราม 9
ดังนั้น พล.ต.อ.สมยศในฐานะหัวเรือใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องลากคอแก๊งชั่วเหล่านี้ออกมารับโทษทัณฑ์ให้หมด
ใครคือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ใครคือผู้บังคับการตำรวจน้ำใน ขณะที่เดอะกิ๊กแอนด์เดอะแก๊งทำความผิดในคดีค้าน้ำมันเถื่อน
ในคดีบ่อนพระราม 9 ใครคือผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะเจ้าของพื้นที่ขณะเกิดเรื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในช่วงที่มีการเปิดบ่อนปรากฏชื่อ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
…ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า คดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์นับเป็นอุทธาหรณ์ ซึ่งบรรดาผู้มีอำนาจในทุกวงการที่มัก “แอบอ้างเบื้องสูง” ต้องพึงตระหนักไว้ เพราะไม่ว่าผู้มีอำนาจคนนั้นจะเป็นใคร ใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่อาจปกปิดและหนีพ้นความผิดที่ได้กระทำไว้
ไม่เช่นนั้นสุดท้ายปลายทางชีวิตก็จะจบลงเฉกเช่นเดียวกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวก

 

รัสเซียสำเร็จทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์
วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 02.17 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า กองทัพเรือรัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นปรับปรุงใหม่ "บูลาวา" ที่ออกแบบให้ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ โดยแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ขีปนาวุธบูลาวาขนาดความยาว 12 เมตร ซึ่งยิงออกจากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี ใต้ทะเลแบเรนต์ส พุ่งทะยานสู่จุดหมายและกระทบเป้าที่กำหนดไว้ ในเขตทดสอบทางทหารบนคาบสมุทรคัมชัตกา ทางภาคตะวันออกไกลของประเทศ นับเป็นความสำเร็จในการทดสอบบูลาวาเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกในเดือน ก.ย.

การทดสอบบูลาวาประสบความล้มเหลวหลายครั้งในช่วงแรกๆ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวหลังความสำเร็จในการทดสอบครั้งที่แล้วว่า รัสเซียต้องรักษาความเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ไว้ เพื่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากโลกตะวันตกที่กำลังเพิ่มขึ้น ปัจจุบันกองทัพเรือรัสเซียมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 3 ลำ ที่ติดตั้งขีปนาวุธ

รัสเซียสำเร็จทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ | เดลินิวส์

 

จีนพบผู้ป่วยไข้หวัดนก "เอช7เอ็น9" รายใหม่วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13.01 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่าสำนักงานสาธารณสุขแห่งมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน รายงานการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ "เอช7เอ็น9" รายใหม่ โดยเปิดเผยเพียงเป็นหญิงอายุ 31 ปี ชื่อสกุล "เติ้ง" จากเมืองตงก่วน ทางตอนกลางของมณฑล ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองกวางโจว เมืองเอกของมณฑล และอาการล่าสุดยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ จีนพบผู้ติดป่วยจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว จำนวน 3 คน แต่หลังจากนั้นอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อทวีความรุนแรงขึ้น และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 175 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 450

จีนพบผู้ป่วยไข้หวัดนก ”เอช7เอ็น9” รายใหม่ | เดลินิวส์

 

Sukit Chongchokdie
'เสียชีวิตอย่างน้อย 6003 แล้ว'
ผู้นำฝรั่งเศสเยือนกินีสร้างความเชื่อมั่นเรื่องอีโบลา. วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09.55 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโกนากรี ประเทศกินี เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่าประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส แถลงหลังเดินทางถึงกินีเมื่อวันศุกร์ ยืนยันการให้ความสนับสนุนประเทศที่เคยเป็นหนึ่งในดินแดนภายใต้อาณานิคมอย่างเต็มที่ ในการต่อสู้และเอาชนะเชื้อไวรัสอีโบลา

ออลลองด์ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำประเทศจากตะวันตกคนแรก ซึ่งเดินทางเยือน 1 ใน 3 ประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาสูงที่สุด โดยนอกเหนือจากนี้คือไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน ให้คำมั่นกับชาวกินีว่า จะนำประเด็นเรื่องการเพิ่มมมาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสมรณะ เข้าสู่ที่ประชุมขององค์การกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ( โอไอเอฟ ) ครั้งที่ 15 ที่กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย

ขณะที่ประธานาธิบดีอัลฟา กองเด ผู้นำกินี กล่าวว่าการเยือนกรุงโกนากรีของออลลองด์ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากประชาชน ถือเป็นนิมิตรหมายสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กับประชาคมโลก ว่าทุกคนสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ ทั้งนี้ นับตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดทวีความรุนแรงเมื่อเดือนมี.ค. ฝรั่งเศสบริจาคเงินช่วยเหลือให้กับกินีแล้ว 100 ล้านยูโร ( ราว 4,125 ล้านบาท )

ทั้งนี้ สถิติขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ณ วันที่ 23 พ.ย. ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาอยู่ที่อย่างน้อย 6,003 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 15,963

ผู้นำฝรั่งเศสเยือนกินีสร้างความเชื่อมั่นเรื่องอีโบลา | เดลินิวส์

 

อิตาลีงดวัคซีนหวัดใหญ่หลังมีผู้เสียชีวิต
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 29 พ.ย. 2557 05:15



องค์การเภสัชกรรมแห่งอิตาลี (AIFA) ออกแถลงการณ์เมื่อ 28 พ.ย.สั่งระงับใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ “ฟลูอัด” เป็นการชั่วคราว หลังตรวจพบผู้ได้รับวัคซีน 3 ราย ได้แก่ หญิงอายุ 79 ปี และ 87 ปี รวมถึงชายอายุ 68 ปี ซึ่งข่าวไม่ระบุชื่อ เสียชีวิตระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ฉีดวัคซีนรายที่ 4 เป็นชายอายุ 92 ปี มีอาการป่วยหนัก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในอิตาลีเรียกคืนวัคซีนฟลูอัดทั้งหมดที่ผลิตในลอตเดียวกันเพื่อนำกลับมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ขณะที่บริษัทโนวาร์ติสของสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ผลิตวัคซีนฟลูอัด แถลงยืนยันว่ามีผู้รับวัคซีนฟลูอัดราว 65 ล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา และไม่เคยมีปัญหาใดเกิดขึ้นเลย

วันเดียวกัน รัฐบาลแคนาดาส่งเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ทหาร 40 นาย ไปยังประเทศเซียร์ราลีโอน เพื่อช่วยเหลือด้านการรับมือและควบคุมผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะที่นาโอมิ แคมพ์เบล นางแบบชื่อดังชาวอังกฤษ แถลงเปิดตัวร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและสินค้าอื่นๆ โดยใช้ชื่อว่า “แฟชั่น ฟอร์ รีลีฟ” ในย่านเวสต์ลอนดอนของอังกฤษ เพื่อระดมทุนไปช่วยเหลือองค์กรระหว่างประเทศด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแถบแอฟริกาตะวันตก โดยแคมพ์เบลระบุว่า ร้านดังกล่าวจะเปิดให้บริการ 1 สัปดาห์ เพื่อร่วมเผยแพร่ข้อมูลรณรงค์ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับเชื้ออีโบลา และผู้ซื้อสินค้าในร้านจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่องค์กรต่อสู้อีโบลาด้วย.

อิตาลีงดวัคซีนหวัดใหญ่หลังมีผู้เสียชีวิต - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ข่าวดี!อังกฤษทดสอบตรวจอีโบลารู้ผลแค่15นาที ช่วยลดความเสี่ยงแพร่ระบาด
เหล่านักวิจัยที่ได้ทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษกำลังดำเนินการทดสอบการตรวจอีโบลาที่รู้ผลภายในเวลาแค่ 15 นาที เร็วกว่าปัจจุบันถึง 6 เท่า โดยมีเป้าหมายคือเพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัยโรค เพิ่มโอกาสอยู่รอดของผู้ติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของไวรัสมรณะ(ต่างประเทศ. 28 พ.ย. 2557 22:03:00)



เอเอฟพี/บีบีซี - เหล่านักวิจัยที่ได้ทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษกำลังดำเนินการทดสอบการตรวจอีโบลาที่รู้ผลภายในเวลาแค่ 15 นาที เร็วกว่าปัจจุบันถึง 6 เท่า โดยมีเป้าหมายคือเพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัยโรค เพิ่มโอกาสอยู่รอดของผู้ติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของไวรัสมรณะ

ถ้อยแถลงร่วมของเวลล์คัม ทรัสต์ กองทุนการกุศลทางแพทย์ที่มีฐานอยู่ในกรุงลอนดอนและกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษ ระบุว่า การทดสอบที่สามารถยืนยันผู้ติดเชื้ออีโบลาภายในเวลาแค่ 15 นาที จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับจัดการกับการแพร่ระบาดของอีโบลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถระบุตัวผู้ป่วย กักกันโรคและดูแลพวกเขาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วาล สเนวิน จากเวลล์คัม ทรัสต์เผย

เธอบอกว่าการตรวจดังกล่าวถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับโรงพยาบาลสนามที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไฟฟ้าขาดแคลนและบ่อยครั้งที่ห้องเย็นไม่เพียงพอ

การสืบพบผู้ป่วยอีโบลาเร็วขึ้นก็จะช่วยให้การควบคุมโรคทำได้ดีขึ้น เนื่องจากเหล่าแพทย์สามารถระบุตัวและกักกันโรคผู้ติดเชื้อได้เร็วกว่าเดิมและสามารถเริ่มต้นให้การรักษาเร็วขึ้นเช่นกัน

คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันปาสเตอร์ จะเป็นแกนนำสำหรับการทดสอบครั้งนี้ ซึ่งจะมีขึ้นที่ศูนย์รักษาอีโบลาในกรุงโกนากรี เมืองหลวงของกินี ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ด้วยสิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถเพิ่่มจำนวนการตรวจอีโบลาถึง 4 เท่าในแต่ละวัน และช่วยจำกัดการแพร่ระบาดของอีโบลา จัสติน กรีนนิง รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศกล่าว

ทางกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศสนับสนุนเงินทุนแก่การทดลองนี้ 6.5 ล้านปอนด์(ราว10.2ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ335ล้านบาท) ขณะที่กองทุนเวลล์คัม ทรัสต์ก็จะออกทุนช่วยด้วยอีกส่วนหนึ่ง

การแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก คร่าชีวิตผู้คนแล้วกว่า 5,700 คนในแอฟริกาตะวันตก โดยส่วนใหญ่เป็นเหยื่อในประเทศกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน

เมื่อเดือนตุลาคม คณะกรรมาธิการปรมาณูของฝรั่งเศส แถลงว่า ทีมนักวิจัยจากบริษัทเวดาแลบ (Vedalab) ได้คิดค้นอุปกรณ์ตรวจหาเชื้ออีโบลา ‘อีโบลา อีซีสกรีน’ (Ebola EZYSCREEN) ที่สามารถรู้ผลได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที ซึ่งในการทดสอบในห้องวิจัยที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นพิสูจน์ว่าได้ผลเป็นอย่างดี แต่มันยังไม่ผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลกฎระเบียบ

อุปกรณ์นี้สะดวกต่อการใช้ มีลักษณะคล้ายชุดอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ ทำงานโดยใช้คุณสมบัติของโมโนโคลนแอนติบอดี (monoclonal antibody) ในการตรวจหาการปรากฏของเชื้อ ซึ่งสามารถตรวจได้โดยใช้ตัวอย่างเลือด น้ำเลือด หรือปัสสาวะ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์เสริม

แนวทางดังกล่าวแตกต่างกับวิธีการตรวจหาเชื้อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่ตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่มีประสิทธิภาพ แต่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะและใช้เวลาในการตรวจนานและต้องดำเนินการในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

ASTVManager on Mobile

 

การค้นพบของ"ฟิเล" กับสิ่งมีชีวิตต่างดวงดาว
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 21:33:57 น.



การค้นพบของ"ฟิเล" กับสิ่งมีชีวิตต่างดวงดาว

ถึงจะเรียกว่า "หมดเรี่ยวแรง" เอาในขั้นตอนสุดท้ายจากสาเหตุอุปกรณ์หลายชิ้นไม่ทำงานตามปกติ แต่ภารกิจ "โรเซตตา-ฟิเล" ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ และค้นพบสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นจนได้ในที่สุด

ฟิเลลงจอดบนพื้นผิวของดาวหาง 67พีได้สำเร็จเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถรับแสงแดดได้มากพอที่จะเติมประจุแบตเตอรี่ได้ แต่ก่อนหน้าที่แบตเตอรี่ที่มีอายุ 60 ชั่วโมงจะหมดลง ก็สามารถใช้อุปกรณ์เจาะพื้นผิวเพื่อการสำรวจองค์ประกอบได้สำเร็จ

จนถึงบัดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าฟิเลเจาะแล้วเก็บตัวอย่างดินของดาวหางขึ้นมาสู่เตาอบเพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบ หรือว่าวิเคราะห์องค์ประกอบขณะที่อยู่นอกยาน กระนั้นสิ่งที่ฟิเลพบและสามารถส่งข้อมูลผ่านยานแม่กลับมายังโลกได้ ก็ถือว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญยิ่งของแวดวงวิทยาศาสตร์ของโลก

ที่ฟิเลพบก็คือ พื้นผิวของดาวหาง 67พี ที่มันไล่ล่าไปพร้อมกับโรเซตตานานถึง 10 ปีนั้น มีอินทรีย์โมเลกุลหรือออร์แกนิกโมเลกุลที่เป็นปัจจัยตั้งต้นของสิ่งมีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก

สเตฟานอุลลาเมค หัวหน้าทีมภารกิจโรเซตตาขององค์การอวกาศแห่งยุโรป (อีเอสเอ) ยอมรับว่า ยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อศึกษาข้อมูลที่ฟิเลส่งกลับมา เพื่อให้แน่ชัดว่าอินทรีย์โมเลกุลที่ฟิเลพบนั้นเป็นโมเลกุลชนิดไหน เป็นโมเลกุลง่ายๆ อย่างเช่น มีเทน (CH4) หรือเมทานอล (CH4O) หรือว่าเป็นโมเลกุลเชิงซ้อนอื่นๆ แม้ค่อนข้างจะเห็นว่าโมเลกุลออร์แกนิกที่พบนั้นมีขนาดใหญ่กว่าและมีความซับซ้อนกว่าโมเลกุลเชิงเดี่ยวเหล่านั้นก็ตามแต่ต้องการให้แน่ใจว่าเป็นแบบใดและมีกี่ชนิด จึงจะเผยแพร่ออกไป

สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เป็นปัจจัยตั้งต้นของสิ่งมีชีวิตเคยมีการค้นพบมาแล้วบนดาวเคราะห์น้อย,ดาวอังคาร และดาวหางอื่นๆ ดังนั้น การพบครั้งนี้จึงไม่ได้ทำให้ประหลาดใจเท่าใดนัก ก่อนหน้านี้โรเซตตาเองก็เคยตรวจสอบพบฟอร์มาลดีไฮด์, มีเทน, เมทานอล และแอมโมเนีย ปลิวหลุดออกมาจากดาวหางจากบริเวณฝุ่นละอองที่ประกอบขึ้นเป็นส่วนหางของ 67พี ซึ่งมาร์ค ไซคส์ นักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า เป็นเหมือนการค้นพบส่วนใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้

แต่การค้นพบของฟิเลมีความหมายสำคัญในทางวิทยาศาสตร์กว่ามาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พบว่ามีอินทรีย์สารอยู่บนดาวหางจริงๆ แตกต่างจากการตรวจสอบจากฝุ่นละอองที่เป็นส่วนหาง ซึ่งทำให้มีโอกาสที่โมเลกุลจะแตกตัวและเปลี่ยนแปลงเนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์

สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ในภารกิจโรเซตตาตั้งความหวังว่าจะเจอะเจอมากที่สุดก็คือคาดว่าฟิเลจะเจอ "กรดอะมิโน" บนพื้นผิวของ 67พี เช่นเดียวกับองค์ประกอบที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตอย่าง คาร์บอน, ไฮโดรเจน, ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ยืนยันชัดเจนว่า หนึ่งในความเป็นไปได้ของกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นมาจากห้วงอวกาศนั่นเอง

แต่แม้ว่าสิ่งที่ฟิเลเจอจะเป็นโมเลกุลง่ายๆก็เท่ากับเป็นการยืนยันด้วยเช่นเดียวกันว่า องค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตนั้นมีอยู่ทั่วไปในระบบสุริยะและในกาแล็กซีนี้

นั่นคือ มีโอกาสมากขึ้นต่อการมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ วิวัฒนาการขึ้นในที่อื่นใดในกาแล็กซีนี้

ขอปิดท้ายด้วยข้อมูลที่ว่า โรเซตตาและฟิเลยังไม่ "ตายสนิท" เสียทีเดียว แต่ยังจะโคจรอยู่รอบ 67พีและรอบดวงอาทิตย์ต่อไป ซึ่งหมายความว่าอาจมีช่วงใดช่วงหนึ่งซึ่งฟิเลได้รับแสงอาทิตย์มากขึ้น

และ "ฟื้นคืนชีพ" มาปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบวิเคราะห์ของมันอีกครั้ง

การค้นพบของ"ฟิเล" กับสิ่งมีชีวิตต่างดวงดาว : มติชนออนไลน์

 

'โอเปก' ตัดสินใจ 'ไม่' ลดกำลังผลิต ฉุดราคาน้ำมันดิ่งเหว (ชมคลิป)
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 พ.ย. 2557 03:30



โอเปก กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ตัดสินใจคงอัตราการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ตามเดิม แม้ราคาน้ำมันจะลดลงอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) ที่ประชุมของ 'องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน' หรือ 'โอเปก' (OPEC) ณ กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ตัดสินใจคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันตามเดิม ไม่ปรับลดกำลังผลิตเพื่อเพิ่มราคาน้ำมัน ซึ่งกำลังร่วงอย่างหนักตั้งแต่ช่วงกลางปี

การตัดสินใจของโอเปกทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงจากราว 76 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เหลือ 71.58 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นค่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2010 ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 72.82 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 18:30น. GMT (ราว 1:30น. ตามเวลาไทย)


---
@อับดุลเลาะห์ ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการใหญ่ของโอเปก
---
นายอับดุลเลาะห์ ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการใหญ่ของโอเปก กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือของชาติสมาชิก 12 ประเทศนานกว่า 5 ชั่วโมงว่า พวกเขาจะไม่พยายามเพิ่มราคาน้ำมันด้วยการลดกำลังผลิต "มีการลดลงของราคา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราควรจะรีบร้อนและทำอะไรบางอย่าง เราไม่อยากแตกตื่น เราต้องการดูตลาด ว่าตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะการลดลงของราคาไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรากฐาน"

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันลดลงกว่า 30% จากเมื่อเดือนมิ.ย. เพราะอุปสงค์ที่อ่อนลง รวมถึงผลผลิตหินน้ำมันของสหรัฐฯที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น การลดลงของราคาน้ำมันทำให้เกิดความกังวลในชาติสมาชิกโอเปกหลายชาติ ที่ส่วนใหญ่ต้องการราคาน้ำมันสูงกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพื่อรักษาสมดุลของงบประมาณประเทศ บางประเทศต้องการราคาน้ำมันเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลทีเดียว

'โอเปก' ตัดสินใจ 'ไม่' ลดกำลังผลิต ฉุดราคาน้ำมันดิ่งเหว (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อนดล แซ่เล้า



Swarm เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กของโลก
จากรูป : การเปลี่ยนแปลงในสนามแม่เหล็กของโลกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2014 ที่วัดจากกลุ่มดาว Swarm ของดาวเทียม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับสัญญาณแม่เหล็กที่เกิดจากแกนโลก เฉดสีแทนพื้นที่ของการเสริมสร้างสีแดงในขณะที่บลูส์แสดงพื้นที่ของการอ่อนตัวลงในช่วงระยะเวลา 6 เดือน

Swarm เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กของโลก
Swarm reveals Earth’s changing magnetism

การเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กของโลกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2014 ที่วัดจาก Swarm constellation ของดาวเทียม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับสัญญาณแม่เหล็กที่เกิดจากแกนโลก เฉดสีแดงแทนพื้นที่ที่มีสนามแม่เหล็กที่แรง และสีน้ำเงินแสดงพื้นที่ที่มีการอ่อนตัวลงของสนามแม่เหล็ก ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน Changes in Earth’s magnetic field from January to June 2014 as measured by the Swarm constellation of satellites. These changes are based on the magnetic signals that stem from Earth’s core. Shades of red represent areas of strengthening, while blues show areas of weakening over the 6-month period.

เครดิต: อีเอสเอ / DTU อวกาศ
Credit: ESA/DTU Space

ชุดแรกของผลความละเอียดสูงจากอีเอสเอสามดาวเทียม 3 ดวง ของ ESA จาก Swarm constellation เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในสนามแม่เหล็กที่ช่วยปกป้องโลกของเรา
The first set of high-resolution results from ESA's three-satellite Swarm constellation reveals the most recent changes in the magnetic field that protects our planet.


เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2013 Swarm กำลังให้ข้อมูลเชิงลึกในการทำงานที่ซับซ้อนของสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งป้องกันเราจากรังสีคอสมิกแสงและอนุภาคที่มีประจุ
Launched in November 2013, Swarm is providing unprecedented insights into the complex workings of Earth's magnetic field, which safeguards us from the bombarding cosmic radiation and charged particles.


การวัดค่าที่ทำมามากกว่า หก เดือนที่ผ่านมาได้ยืนยันแนวโน้มการอ่อนตัวลงของสนามแม่เหล็กโลกที่มีการลดลงอย่างมากที่สุดตลอดซีกโลกตะวันตก
Measurements made over the past six months confirm the general trend of the field's weakening, with the most dramatic declines over the Western Hemisphere.

 
แต่ในพื้นที่อื่น ๆ เช่นมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ สนามแม่เหล็กมีความเข้มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม
But in other areas, such as the southern Indian Ocean, the magnetic field has strengthened since January.

การวัดครั้งล่าสุดยังยืนยันการเคลื่อนไหวของแม่เหล็กเหนือตรงไปยังไซบีเรีย
The latest measurements also confirm the movement of magnetic North towards Siberia.

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการกั้นสัญญาณแม่เหล็กจากแกนโลก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์จะวิเคราะห์ข้อมูลในการคลี่คลายความมีส่วนร่วมของแม่เหล็กจากแหล่งอื่น ๆ คือเสื้อคลุมเปลือกโลกมหาสมุทร และชั้นบรรยากาศแม่เหล็ก
These changes are based on the magnetic signals stemming from Earth's core. Over the coming months, scientists will analyse the data to unravel the magnetic contributions from other sources, namely the mantle, crust, oceans, ionosphere and magnetosphere.

สิ่งนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เข้าสู่กระบวนการทางธรรมชาติจำนวนมาก จากสิ่งที่เกิดขึ้นลึกลงไปภายในโลกของเรา กับสภาพอากาศพื้นที่ที่เกิดจากกิจกรรมของดวงอาทิตย์ ในทางกลับกันข้อมูลนี้จะให้ความรู้ความเข้าใจว่าทำไมสนามแม่เหล็กกำลังอ่อนลง
This will provide new insight into many natural processes, from those occurring deep inside our planet to space weather triggered by solar activity. In turn, this information will yield a better understanding of why the magnetic field is weakening.

"ผลการศึกษาเบื้องต้นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของ Swarm" Rune Floberghagen, ผู้จัดการภารกิจ Swarm ของ ESA ได้กล่าวไว้
"These initial results demonstrate the excellent performance of Swarm," said Rune Floberghagen, ESA's Swarm Mission Manager.

"ด้วยความละเอียดที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลยังแสดงความสามารถของ Swarm เพื่อทำแผนที่คุณสมบัติในสเกลที่ละเอียดของสนามแม่เหล็ก".
"With unprecedented resolution, the data also exhibit Swarm's capability to map fine-scale features of the magnetic field."

ผลลักพธ์แรกได้มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2014 ในการประชุม Swarm Science ครั้งที่สาม ในโคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
The first results were presented June 19, 2014 at the 'Third Swarm Science Meeting' in Copenhagen, Denmark.

Sofie Carsten Nielsen, Danish Minister of Higher Education and Science, highlighted the Danish contribution to the mission. Swarm continues the legacy of the Danish Ørsted satellite, which is still operational, as well as the German Champ mission. Swarm's core instrument -- the Vector Field Magnetometer -- was provided by the Technical University of Denmark.

Denmark's National Space Institute, DTU Space, has a leading role -- together with 10 European and Canadian research institutes -- in the Swarm Satellite Constellation Application and Research Facility, which produces advanced models based on Swarm data describing each of the various sources of the measured field.

"I'm extremely happy to see that Swarm has materialised," said Kristian Pedersen, Director of DTU Space.

Note : The above story is based on materials provided by European Space Agency.


Read more : Swarm reveals Earth’s changing magnetism | Geology Page
Follow us: @geologypage on Twitter | geology.page on Facebook

เครดิต: อีเอสเอ / DTU Spacehttp://www.geologypage.com/…/swarm-reveals-earths-changing-…

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



ภูเขาไฟ Aso ที่ญี่ปุ่นและภูเขาไฟ Fogo บนเกาะเคปเวิร์ด ระเบิดรุนแรงหนัก

- เมื่อวันที่ 26 พ.ย.57 กิจกรรมของภูเขาไฟอะโซะ(Aso volcano) ซึ่งอยู่ใจกลางเกาะคิวชูในจังหวัดคุมาโมโต้ ยังคงปะทุอย่างรุนแรง โดยได้ปล่อยลาวาพุุ่งสู่อากาศ และปล่อยควันก๊าซลอยสูงถึง 8,000 ฟุต (2.4 กิโลเมตร)

- ภูเขาไฟ Fogo บนเกาะเคปเวิร์ด ทางด้านตะวันตกของทวีปแอฟริกา หลังจากที่ผ่านมานานเกือบ 20 ปี ในระยะเวลาที่เงียบสงบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พ.ย.57 ภูเขาไฟ Fogo ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง การระเบิดของภูเขาไฟดังกล่าว ได้รับแจ้งเตือนให้เป็นระดับสีแดง ประกาศโดยนายกรัฐมนตรีของประเทศกาบูเวร์ดี ซึ่งเครื่องบินจะไม่สามารถผ่านบริเวณ ภูเขาไฟ Fogo ได้ ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้เคยเกิดระเบิดขึ้นในครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1995

ภูเขาไฟ Aso ที่ญี่ปุ่นและภูเขาไฟ Fogo บนเกาะเคปเวิร์ด ระเบิดรุนแรงหนัก | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

สัตว์ทะเลเกยตื้นตายตามสถานที่ต่างๆของโลกตั้งแต่ วันที่ 7-26 พ.ย.57



- วันที่ 26 พ.ย.57 นักวิจัยในสหรัฐฯ บันทึกคลิปวิดีโอปลาปิศาจดำ ปลาดึกดำบรรพ์จากท้องทะเลลึก 600 เมตร ได้เป็นครั้งแรก ระบุในรอบ 25 ปี พบเพียง 3 ตัวเท่านั้น สำหรับปลาปิศาจดำ เป็นปลาดึกดำบรรพ์ในตระกูล แองเกลอร์ ฟิช (Angler fish) หรือปลาตกเบ็ด ซึ่งอาศัยอยู่ในทะลน้ำลึกมากกว่า 1,600 เมตร มีใบหน้าดุร้าย ฟันแหลมคม และล่าเหยื่อด้วยอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายเบ็ดตกปลา ซึ่งปลายอวัยวะนั้นจะมีแบคทีเรียที่สามารถเรืองแสง เพื่อดึงดูดเหยื่อให้มาติดกับ คลิป https://www.youtube.com/watch?v=VqPMP9X-89o

- วันที่ 25 พ.ย.57 วาฬหลังค่อมยาว 25 ฟุต เกยตื้นตายบนชายหาด Nantucket รัฐแมสซาชูเซตส์ ของประเทศสหรัฐฯ Mooney-Seus กล่าว : มันไม่มีบาดแผล ซึ่งเธอสันนิษฐานว่า มันอาจจะตายเพราะโรค

- วันที่ 24 พ.ย.57 วาฬปากจงอยความยาว 20 ฟุต เกยตื้นตายบนชายฝั่ง Pensacola ของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ นักชีววิทยาทางทะเลได้ทำการตรวจสอบร่างกาย แต่กลับไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ ทั้งนี้จึงชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุต่อไป

- วันที่ 24 พ.ย.57 เปรู พบสิงโตทะเลกว่า 500 ตัว เกยตื้นและตายหมู่บนหาดในแคว้นอังกัช คาคว่าเกิดจากเป็นโรคระบาดและการกลืนถุงพลาสติก ทั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานการพบซากของโลมา เต่า และนกกระทุง จำนวนเกือบ 200 ตัว ถูกซัดมาเกยตื้นตายบริเวณชายฝั่งของแคว้นปิวรา

- วันที่ 15 พ.ย.57 วาฬหลังค่อมขนาดใหญ่ความยาว 18 เมตร เกยตื้นบนหาดทรายขาวทางตอนใต้ของนิการากัว ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านนักท่องเที่ยวและชาวบ้านกว่า 50 คน ต่างพยายามช่วยกันให้วาฬกลับสู่ทะเลแต่ไม่เป็นผล ด้านเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ช่วงเวลานี้ของปีมักพบเห็นวาฬหลังค่อมและโลมา นอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของนิการากัว เป็นจำนวนมาก

- วันที่ 14 พ.ย.57 นักวิทย์สงสัย?? กับปริศนาการตายของวาฬ 2 ตัว และโลมา 2 ตัว เพียงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในบริเวณชายฝั่ง Almería ของประเทศสเปน

- วันที่ 10 พ.ย.57 แมลงเต่าทองนับล้านตัวบุกเมือง Lipova ของประเทศโรมาเนีย ซึ่งมีจำนวนเกลื่อนเกาะเต็มตามพื้นตามผนัง

- วันที่ 7 พ.ย.57 ปลาพระอาทิตย์ พบเกยตื้นอย่างปริศานาบนชายหาด North Queensferry ของประเทศสกอตแลนด์ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าได้พยายามนำตัวมันไปตรวจสอบในศูนย์วิจัย แต่หลังจากนำตัวปลาเคลื่อนย้ายออกไป 1 ชม. ไม่นานมันก็ตายลง

สัตว์ทะเลเกยตื้นตายตามสถานที่ต่างๆของโลกตั้งแต่ วันที่ 7-26 พ.ย.57 | สถานการณ์ภัยพิบัติ