ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักปีนเขาเอเวอเรสต์กล่าวโทษถึงการบริหารจัดการ ที่จัดให้มีจำนวนนักปีนเขามากเกินไป จนเกิดความแออัด ซึ่งนำมาสู่การสูญเสียชีวิตนำมาสู่ความตายของนักปีนเขาที่รอการขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์
    Reuters
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    สหรัฐอเมริกา
    ปรากฏการณ์ที่หายาก พายุที่สกัดน้ำจากไอน้ำจากการควบแน่นของต้นไม้ในทะเลสาบในโอคลาโฮมา ก่อตัวเป็นเมฆที่นักอุตุนิยมวิทยาไม่เคยเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้ 28 พฤษภาคม
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    ชิลี
    ว้าว! พระอาทิตย์ตกดินที่น่าอัศจรรย์ในท้องฟ้าของซันติอาโกราวกับไฟไหม้บ่ายนี้วันที่ 1 มิถุนายน
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    สหรัฐอเมริกา
    บ่ายวันนี้มีพายุลูกเห็บเกิดขึ้นที่กรีนสโบโร, รัฐนอร์ทแคโรไลนาวันที่ 1 มิถุนายน
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    สหรัฐอเมริกา
    พายุลูกเห็บที่ตกหนักในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ บ่ายวันนี้วันที่ 1 มิถุนายน
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    อิตาลี
    พายุลูกเห็บที่รุนแรงใน Galatina, Le Marche ประมาณบ่ายวันที่ 1 มิถุนายน
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    อินเดีย
    ลมแรงที่พัดฝุ่นเข้าสู่เมืองไฮเดอราบัดวันที่ 1 มิถุนายน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    อินโดนีเซีย
    ภูเขาไฟอากุงยังคงดำเนินกิจกรรมต่อไป โดยมีควันอยู่ภายใต้ความกดดันประมาณ 100 ม. จากปากปล่องภูเขาไฟในบาหลี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    ชิลี
    ช่วงเวลาที่บันทึกที่หน้าต่างของศูนย์การค้าใน Clover ใน Talcahuano ความเสัยหายในช่วงต้น พวยน้ำ ซึ่งเข้าสู่แผ่นดินและกลายเป็นพายุทอร์นาโด เมื่อวานนี้วันที่ 31 พฤษภาคม
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    โคลอมเบีย
    ดินถล่มในส่วนของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Amagá ตามที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินบอกไม่ได้ทำให้มีคนบาดเจ็บ
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    โคลอมเบีย
    ดินถล่มที่น่ากลัวได้รับการจดทะเบียนในแคนยอนออฟเดอะบิวตี้ (Cañón de las Hermosas)ที่ทำลายส่วนหนึ่งของถนนในส่วน(เซกเตอร์)ของกองทัพเรือและปิดกั้นเส้นทางของแม่น้ำ Ambeima, Tolima, ในวันที่ 1 มิถุนายน
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    โคลอมเบีย
    ดินถล่มทำให้รถหลายคัน ติดอยู่ระหว่างโคลน ไม้และก้อนหิน โดยฝนตกหนักปิดเส้นทางสัญจรบน ถนน Caucasia ของMedellín ในวันที่ 1 มิถุนายน
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    ชิลี
    เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรงของเมื่อวานนี้ชายหาดของsoldado จึงถูกทำลาย
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    MEXICO
    โซนของความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นเป็น 60% ความน่าจะเป็นของการพัฒนาไซโคลนทางตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโก ตั้งอยู่ 155 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Coatzacoalcos, เวราครูซ
    กลุ่มเมฆของพวกเขาจะกระตุ้นความเป็นไปได้ของพายุที่รุนแรงใน Veracruz, Oaxaca, Chiapas และ Tabasco, พายุที่รุนแรงใน Campeche และพายุที่รุนแรงมากใน Puebla, Yucatan และ Quintana Roo
    ข้อควรระวังอย่างมากต่อประชากรโดยทั่วไปในพื้นที่ของรัฐที่กล่าว ถึงโดยฝน, ลมและคลื่น (รวมถึงการนำทางทะเล) และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ออกโดยหน่วยงานของระบบป้องกันพลเรือนแห่งชาติในแต่ละหน่วยงาน
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เพชรบูรณ์ เห็นคนไข้โรคเอดส์ดีขึ้น หลังพยาบาลสาวลองใช้น้ำมันกัญชารักษา สาธารณสุขลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อวิจัยข้อเท็จจริงต่อ
    #77ข่าวเด็ด #กัญชา #เอดส์ #สุขภาพ
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20190602_161230.jpg

    (Jun 2) จีนทำบัญชีดำ บุคคล-บริษัทต่างชาติ ที่ไม่น่าเชื่อถือ แก้เผ็ดกรณีหัวเว่ย FedEx โดนรายแรก: กระทรวงพาณิชย์จีนได้ทำบัญชีดำรายชื่อบริษัทและองค์กรรวมไปถึงบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและไม่น่าเชื่อถือ และบริษัทแรกของสหรัฐที่โดนแล้วคือ FedEx บริษัทขนส่งรายใหญ่ของสหรัฐ

    รัฐบาลจีนทำบัญชีดำรายชื่อบริษัทและองค์กรรวมไปถึงบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและไม่น่าเชื่อถือ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้นำ Huawei เข้ารายชื่อบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์ ตามคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจากจีนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้รัฐบาลจีนต้องแก้เผ็ดด้วยการจัดทำรายชื่อบัญชีดำออกมาแบบเดียวกับสหรัฐ

    โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีนได้กล่าวว่า บริษัทและองค์กรหรือบุคคลต่างชาติ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือสัญญา และหยุดจัดหาสินค้าในวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการค้า รวมไปถึงการก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ประกอบการจีนและความมั่นคงของรัฐบาล จะโดนนำชื่อเข้าไปอยู่ในบัญชีดำนี้

    บัญชีที่ว่านี้กระทรวงพาณิชย์จีนจะรวบรวม บริษัท-บุคคล-องค์กรต่างชาติ ที่กระทรวงกระทรวงพาณิชย์มองว่า “ไม่น่าเชื่อถือ” และเป็นภัยต่อประเทศจีน คาดว่าในรายชื่อดังกล่าวมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีรายชื่อได้ถึงหลักพันชื่อ หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จีนจะเตรียมเปิดเผยมาตรการต่างๆ ที่จะปฏิบัติต่อรายชื่อบริษัทที่ติดบัญชีดำในเร็วๆ นี้

    ล่าสุดหลังจากที่จีนได้ประกาศที่จัดทำบัญชีดำนี้ขึ้นมา สำนักข่าว Xinhua ได้รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศที่จะสอบสวน FedEx บริษัทขนส่งสินค้าของสหรัฐหลังจากที่บริษัทได้ขนส่งเอกสารของ Huawei จากญี่ปุ่นไปจีน แต่พัสดุดังกล่าวกลับส่งไปยังสหรัฐก่อนที่จะกลับไปยังประเทศจีน และ FedEx ได้ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย

    อย่างไรก็ดีบริษัทขนส่งรายใหญ่จากสหรัฐได้ทำละเมิดกฎดังกล่าวที่พึ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ ทำให้รัฐบาลจีนเตรียมสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว และเป็นบริษัทสหรัฐรายแรกที่สังเวยในรายชื่อนี้ ซึ่งจะทำให้ความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเพิ่มมากขึ้นไปอีก

    นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลจีน ได้กล่าวในบทบรรณาธิการว่า การจัดทำบัญชีดำของรัฐบาลจีนครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมสู้สงครามการค้าในระยะยาว เนื่องจากสหรัฐพยายามที่จะควบคุมการเจริญเติบโตของจีน และพยายามที่จะแทรกแซงนโยบายจีน แม้ว่าชาวจีนจะเป็นผู้ที่รักสันติ แต่ก็พร้อมสู้และประชาชนชาวจีนพร้อมสนับสนุนในเรื่องนี้อีกด้วย

    โดย Wattanapong Jaiwat

    Source: Brandinside.asia
    https://brandinside.asia/china-goverment-make-foreign-blacklist-of-firms-after-huawei-ban-in-us/

    เพิ่มเติม
    - China to probe FedEx after Huawei says parcels diverted: https://www.reuters.com/article/us-...-harmed-client-interests-xinhua-idUSKCN1T2338

    - China’s entity list sends clear signal : http://www.globaltimes.cn/content/1152620.shtml

    - Beijing targets FedEx for ‘damaging rights of Chinese clients’ amid Huawei dispute
    https://www.cnbc.com/2019/06/01/bei...s-of-chinese-clients-amid-huawei-dispute.html

    - China Targets Fedex As Trade War Escalates: https://www.forbes.com/sites/charle...ts-fedex-as-trade-war-escalates/#725151093fd2

    - China targets FedEx over stray packages as new front opens in trade war with the United States: https://www.scmp.com/news/china/dip...dex-over-stray-packages-new-front-opens-trade

    *******************
    จีนอ้างภัยความมั่นคงจ่อขึ้นบัญชีดำบ.สหรัฐ

    จีนเตรียมขึ้นบัญชีดำ บริษัทต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจ และเป็นภัย คาดเป็นมาตรการตอบโต้ที่ สหรัฐคว่ำบาตรหัวเว่ย พร้อมเริ่มเก็บภาษี สินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มในอัตรา 25% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ 1 มิ.ย. ขณะ สหรัฐเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ในอัตรา 25% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์วันที่ 1 มิ.ย.เช่นกัน

    นายกั๊ว เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน แถลงว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลัง จัดทำรายชื่อบริษัทและบุคคลต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่น่าเชื่อถือ หรือมีพฤติกรรมที่ส่อว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาล ปักกิ่งและผู้ประกอบการของจีน ซึ่งคุณสมบัติที่เข้าข่ายปรากฏในบัญชีดำครอบคลุมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายด้านการพาณิชย์ทั้งระดับทวิภาคีและระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเพียงฝ่ายเดียว ตามอำเภอใจ การตั้งกำแพงภาษีเพื่อกีดกันการค้า และการยุติสนับสนุนด้านวัตถุดิบแก่บริษัทของจีนด้วยเหตุผลที่ไม่เหมาะสม ตลอดจนการมีเจตนามุ่งทำลายสิทธิและ ผลประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ประกอบการ ในจีน

    โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนให้ข้อมูลเพียงว่า รัฐบาลปักกิ่งจะเปิดเผยชื่อบริษัทและบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายต้องถูกขึ้นบัญชีดำภายในเร็วๆ นี้ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่ารายชื่อทั้งหมดในบัญชีดำน่าจะเป็นผลจากการที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เมื่อกลางเดือนที่แล้ว และเป็นการส่งสัญญาณกดดันบริษัทของประเทศอื่นให้ค้าขายกับบริษัทของจีนต่อไป โดยเฉพาะหัวเว่ย ที่ปัจจุบัน เป็นผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์และระบบเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

    จีนเริ่มเก็บภาษีสินค้าสหรัฐเพิ่ม

    นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังออกมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มในอัตรา 25% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 10% โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยังส่งสัญญาณว่าจีนอาจระงับการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ หากสหรัฐตอบโต้จีนครั้งใหม่ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนนี้ ประสบความล้มเหลว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐ เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอัตรา 25% จากเดิมที่อัตรา 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.

    นอกจากนี้ สหรัฐ ยังขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาที่จะขึ้น บัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจร ปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัทฮิควิชัน ดิจิทัล เทคโนโลยี และบริษัทต้าหัว เทคโนโลยี ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    นอกจากนี้ สหรัฐ ยังขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาที่จะขึ้น บัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจร ปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัทฮิควิชัน ดิจิทัล เทคโนโลยี และบริษัทต้าหัว เทคโนโลยี ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนสหรัฐเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

    สหรัฐ เริ่มเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนที่ส่งมาถึง ท่าเรือต่างๆ ของสหรัฐในเช้าของวานนี้ (1 มิ.ย.) ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งการเก็บภาษีล็อตนี้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ให้เก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 25% สำหรับสินค้าจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ได้ผ่อนผันเวลาสำหรับสินค้า ที่ขนส่งทางเรือ ซึ่งเดินทางออกจากจีน ก่อนวันที่ 10 พ.ค. โดยจะถูกเก็บภาษี ที่อัตรา 10% จนถึงกำหนดเส้นตายใน วันที่ 1 มิ.ย.

    ทั้งนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าของ สหรัฐได้กำหนดในประกาศของรัฐบาลกลางสหรัฐลงวันที่ 15 พ.ค.ว่า สินค้าที่ขนส่ง มาถึงท่าเรือของสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. จะต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 25%

    "ทรัมป์"จ่อเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าอินเดีย

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยในวันศุกร์(31พ.ค.)ว่า สหรัฐจะยุติการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับอินเดียในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ หลังจากต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ประกาศความตั้งใจที่จะตัดอินเดียออกจากโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี)

    เจ้าหน้าที่อินเดียระบุว่า มีแนวโน้มที่อินเดียจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากกว่า 20 รายการ หากปธน.ทรัมป์ตัดอินเดียออกจากโครงการจีเอสพี โดยปัจจุบัน อินเดียเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโครงการจีเอสพี ของสหรัฐ โดยสหรัฐนำเข้าสินค้า ปลอดภาษีจากอินเดียเป็นมูลค่ามากถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์

    สงครามการค้าบานปลายฉุดดาวโจนส์ดิ่งหนัก

    ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (31พ.ค.)ปรับตัวลงกว่า 300 จุด ขณะที่ นักลงทุนวิตกต่อการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับจีน ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

    ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง354.84 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 24,815.04 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 36.8 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 2,752.06 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 114.57 จุดหรือ 1.51% ปิดที่ 7,453.15 จุด

    หุ้นบริษัทเจเนรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ร่วงลง 4% ขณะที่หุ้นบริษัทฟอร์ดดิ่งลง 3.3% โดยบริษัททั้งสองต่างก็มีโรงงานผลิตรถยนต์ในเม็กซิโก ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ

    ปธน.ทรัมป์ สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดด้วยการประกาศจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. โดยปธน.ทรัมป์มีเป้าหมายที่จะกดดันให้รัฐบาลเม็กซิโกสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ ขณะสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปรับตัวลง5.5% เพราะถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 5.5% ปิดตลาดที่ราคา 53.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 3.59% ปิดที่ราคา 64.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20190602_161656.jpg

    (Jun 1) 'จี20'ถกสมาชิกเสนอเก็บภาษี'กูเกิล-เฟซบุ๊ค' : กลุ่มประเทศจี 20 เล็งออกนโยบายภาษีใหม่ เก็บจากบริษัทดิจิทัลรายใหญ่ อย่างกูเกิล ตามประเทศที่ทำธุรกิจไม่ใช่ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในไทยระบุต้องเปิดโอกาสผู้ให้บริการโอทีทีร่วมหาแนวทางจัดเก็บไม่กระทบผู้ใช้งาน

    หนังสือพิมพ์ธุรกิจ "นิกเคอิ" ของญี่ปุ่น รายงานวานนี้ (30 พ.ค.) อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ระบุที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลุ่มประเทศ จี20 เตรียมลงนามนโยบายร่วม ในการประชุมรัฐมนตรีจี 20 ที่เมืองฟุกุโอกะ ของญี่ปุ่นในเดือนหน้า ก่อนการประชุมผู้นำจี 20 ที่จะมีขึ้นในนครโอซาการะหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.

    นโยบายดังกล่าว ซึ่งพุ่งเป้าไปที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างกูเกิล แอ๊ปเปิ้ล เฟซบุ๊ค และอเมซอน จะจัดสรรรายได้ให้กับ ประเทศที่มีฐานผู้ใช้ของบริษัทเหล่านั้น เป็นจำนวนมาก

    ประเทศจี 20 พยายามบรรลุข้อตกลงสุดท้ายกันในปี 2563 แต่จะนำนโยบายไปใช้ อย่างไรนั้นต้องหาข้อสรุปอีกที

    วิธีหนึ่งที่เป็นไปได้คือกระจายรายได้จากภาษีที่เก็บมาได้ไปให้ประเทศต่างๆ ตามจำนวนผู้ใช้ที่บริษัทใหญ่มีในประเทศนั้นๆ

    นั่นหมายความว่าเฟซบุ๊ค ที่รวมศูนย์กำไรและการจ่ายภาษีไว้ที่ไอร์แลนด์ เพื่อความได้เปรียบในการจ่ายภาษีอัตราต่ำ ต้องกระจายภาษีไปยังที่ที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ให้มากขึ้น แต่รายละเอียดเรื่องวิธีเก็บ และกระจายภาษี และบริษัทใดจะได้รับ ผลกระทบบ้างยังต้องหาข้อสรุปอีกครั้ง คาดว่าจะให้องค์การเพื่อความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) ช่วยกำหนดกติกา

    ประเด็นวิธีเก็บภาษีจากบริษัทดิจิทัล ชั้นนำขณะนี้มีปัญหามากขึ้นทุกที ยุโรปหลายประเทศดำเนินการเพียงลำพัง สร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐ ขณะที่โออีซีดีซึ่งมีฐานปฏิบัติการในกรุงปารีส พยายามเร่งทำข้อตกลงระดับโลกฉบับใหม่ ป้องกันไม่ให้บริษัทประกาศรายได้ ในประเทศที่เสียภาษีต่ำได้ง่ายๆ กีดกัน ไม่ให้ประเทศอื่นมีรายได้จากภาษีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

    เมื่อเดือน เม.ย. ส.ส.ฝรั่งเศสผ่านกฎหมายร่างแรก เตรียมเก็บภาษีจากโฆษณาดิจิทัล การขายข้อมูลส่วนตัว และรายได้อื่น จากบริษัทเทคโนโลยีที่มีรายได้ทั่วโลก ปีละกว่า 750 ล้านยูโร ออสเตรียก็เสนอกฎหมายภายใน แบบเดียวกัน แต่ความพยายามเห็นชอบกฎหมายระดับสหภาพยุโรป ถูกประเทศที่เก็บภาษีต่ำอย่างไอร์แลนด์สกัดไว้ เพราะอยากดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เข้าประเทศ

    ขณะที่ในประเทศไทยนั้น มีความเคลื่อนไหวเก็บภาษียักษ์โซเชียล โดยเฉพาะการเก็บภาษีธุรกิจอีบิซิเนส ซึ่งบริษัท ที่เข้าข่าย เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ โดยไทยมีแนวคิดผลักดันกฎหมายอีบิซิเนส ที่กรมสรรพากรเป็นเจ้าภาพ เพื่อเก็บภาษีจากผู้ประกอบการออนไลน์ต่างประเทศที่มีธุรกิจในไทย ซึ่งขณะนี้กฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว และอยู่ระหว่างนำเสนอกฎหมายไปยังรัฐบาลชุดใหม่ ล่าสุดได้ปรับแก้กฎหมาย โดยใช้วิธีหักภาษี ณ ที่จ่ายโดยอ้างอิงจากข้อมูลหลายประเทศทั่วโลก ที่เริ่มเก็บภาษี ผู้ประกอบการออนไลน์ ซึ่งไทยนำ ต้นแบบมาจาก ออสเตรเลีย เกาหลี และอินโดนีเซีย

    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เคยมีการประเมิน มูลค่าโฆษณาออนไลน์ในประเทศไทยที่มีราว 2 หมื่นล้านบาท โดยกว่าครึ่งของเม็ดเงิน จำนวนนี้คือเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ที่ใช้ ผ่านช่องทางยักษ์โซเชียลระดับโลกเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของผู้ประกอบการดังกล่าว

    นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการผู้ให้บริการ โอทีที (Over the top) หรือผู้ให้บริการคอนเทนท์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน แนวคิดนี้ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

    โดยแหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ตในไทยชี้ว่า แนวคิดการเก็บรายได้จากบริการโอทีที ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ แต่คงต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจ และหา จุดลงตัวร่วมกัน ควรเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการ โอทีทีได้หารือร่วม เพื่อหาแนวทางจัดเก็บที่เหมาะสม โดยต้องไม่กระทบกับผู้ใช้งาน (End User)

    "คือต้องดูว่า เกณฑ์ที่จะจัดเก็บ จะใช้เกณฑ์อะไรมาวัด ก็ต้องดูให้เหมาะสม ไม่งั้นเขาอาจย้ายการลงทุน หรือการให้บริการใหม่ๆ ไปประเทศอื่นที่ไม่ต้องโดนจัดเก็บรายได้ก็เป็นได้" แหล่งข่าวระบุ

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    - G20 countries eye tax policy for internet giants: Nikkei- https://www.france24.com/en/20190530-g20-countries-eye-tax-policy-internet-giants-nikkei
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20190602_162121.jpg

    (Jun 1) หัวเว่ยทบทวนสัมพันธ์เฟดเอ็กซ์ เรื่องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้า : นายโจ เคลลีย์ โฆษกของบริษัทหัวเว่ยประจำภาคพื้นอเมริกา กล่าวเมื่อวันจันทร์ ว่าคณะผู้บริหารของหัวเว่ยมีมติ "ทบทวน" ความร่วมมือทางธุรกิจและความสัมพันธ์กับบริษัทเฟดเอ็กซ์ ผู้ให้บริการขนส่งและจัดส่งสินค้าด่วนระหว่างประเทศรายใหญ่ของสหรัฐ เนื่องจากได้รับรายงานว่าเฟดเอ็กซ์ "เปลี่ยนเส้นทางจัดส่ง" พัสดุ 2 ห่อซึ่งจ่าหน้าถึงสำนักงานของหัวเว่ยในเอเชีย หนึ่งในนั้นคือสำนักงานที่เวียดนาม ให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในสหรัฐ และยัง "พยายาม" เปลี่ยนเส้นทางส่งพัสดุที่จ่าหน้าถึงหัวเว่ยในเอเชียอีก 2 ห่อด้วย

    ทั้งนี้ โฆษกของหัวเว่ยประจำสหรัฐยืนยันว่าสิ่งที่อยู่ภายในพัสดุทั้ง 4 ห่อไม่ใช่ "ความลับทางเทคโนโลยี" แต่เป็นเพียง "เอกสารทั่วไป" อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยปฏิเสธให้ความเห็นว่าทราบและเชื่อมั่นได้อย่างไรว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับพัสดุทั้ง 4 ห่อ ขณะที่สำนักงานใหญ่ของเฟดเอ็กซ์ ที่เมืองเมมฟิส ในรัฐเทนเนสซี แสดงท่าทีเพียงว่าบริษัทมีนโยบายที่เคร่งครัดในการไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้า และยืนยันว่าบริษัทไม่มีอำนาจในการประวิงเวลาการส่งสินค้า หรือเปลี่ยนเส้นทางการส่งสินค้าไปยังปลายทาง พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียง "เรื่องเล็กน้อย" หมายถึงจำนวนพัสดุ "ที่มีเพียง 4 ห่อ"

    สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบ 2 สัปดาห์หลังกระทรวงพาณิชย์ในกรุงวอชิงตันขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำสั่ง "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านเทคโนโลยี" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังให้ช่วงเวลาผ่อนผัน 90 วันแก่ทั้งหัวเว่ยและบริษัทคู่ค้าในสหรัฐ ในการจัดการธุรกรรมและข้อตกลงที่ยังค้างคาให้เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลวอชิงตันอาจขยายระยะเวลาผ่อนผันในอนาคต

    Source: เดลินิวส์

    ****************
    เฟดเอ็กซ์ยอมขอโทษหัวเว่ยสื่อจีนเปรยเรื่องสินแร่หายาก

    บริษัทเฟดเอ็กซ์ ผู้ให้บริการขนส่งและจัดส่งสินค้าด่วนระหว่างประเทศรายใหญ่ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร โดยเป็นภาษาจีนและเผยแพร่บนบัญชีเว่ยป๋อ มีสาระสำคัญว่า เฟดเอ็กซ์ขออภัยอย่างสูงไปยังบริษัทหัวเว่ย ต่อ "ความผิดพลาด" ในการจัดส่งพัสดุทั้ง 4 ห่อของบริษัท "ที่ผิดเส้นทางขนส่ง" และยืนยันว่าเฟดเอ็กซ์กำลังเร่งดำเนินการจัดส่งพัสดุทั้ง 4 ห่อไปยังปลายทางที่ถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มี "บุคคลภายนอก" เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟดเอ็กซ์เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังบริษัทหัวเว่ยประจำภาคพื้นอเมริกาออกแถลงการณ์ "ทบทวน" ความร่วมมือทางธุรกิจและความสัมพันธ์กับเฟดเอ็กซ์ หลังได้รับรายงานเกี่ยวกับการที่เฟดเอ็กซ์ "เปลี่ยนเส้นทางจัดส่ง" พัสดุ 2 ห่อซึ่งจ่าหน้าถึงสำนักงานของหัวเว่ยในเอเชีย หนึ่งในนั้นคือสำนักงานที่เวียดนาม ให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในสหรัฐ และยัง "พยายาม" เปลี่ยนเส้นทางส่งพัสดุที่จ่าหน้าถึงหัวเว่ยในเอเชียอีก 2 ห่อด้วย ขณะที่สำนักงานของหัวเว่ยทั้งที่อเมริกาและสำนักงานใหญ่ที่เมืองเซินเจิ้นยังสงวนท่าทีต่อคำขอโทษจากเฟดเอ็กซ์

    ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมาธิการด้านการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติของรัฐบาลปักกิ่ง "กำลังพิจารณาอย่างจริงจัง" ในการจำกัดการส่งออกสินแร่หายากทางอุตสาหกรรมให้แก่สหรัฐ เนื่องจากเห็นควรให้เพิ่มความสำคัญในการจัดสรรสินแร่หายากที่ปัจจุบันมี 17 ชนิด ให้แก่ผู้ประกอบการภายในประเทศก่อน

    ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินแร่หายากหรือ แรร์-เอิร์ธ (Rare-earth elements) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยครองสัดส่วนตลาดมากถึง 80% ระหว่างปี 2557 ถึง 2560

    Source: เดลินิวส์

    เพิ่มเติม
    - China Targets FedEx in ‘Warning’ to U.S. : https://www.bloomberg.com/news/arti...stigation-into-fedex-xinhua?srnd=premium-asia

    - China to probe FedEx after Huawei says parcels diverted: https://www.reuters.com/article/us-...-harmed-client-interests-xinhua-idUSKCN1T2338

    - Beijing to investigate FedEx for ‘damaging rights of Chinese clients’ amid Huawei dispute: https://www.cnbc.com/2019/06/01/bei...s-of-chinese-clients-amid-huawei-dispute.html
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20190602_162449.jpg

    (Jun 2) สหรัฐออกนโยบายให้ผู้ขอวีซ่าต้องแสดงข้อมูลโซเชียลมีเดียในขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย: กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐได้กำหนดให้ผู้ขอวีซ่าเกือบทุกคนต้องยืนยันข้อมูลโซเชียลมีเดียของตนเองในขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้อพยพ

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลเพิ่มเติมที่ใช้สำหรับการตรวจสอบประวัติโดยละเอียด เช่น ชื่อบัญชีโซเชียลมีเดีย อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้ขอวีซ่ายังต้องรายงานสถานะการเดินทางระหว่างประเทศและสถานะการถูกเนรเทศระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวด้วย รวมถึงข้อมูลว่าสมาชิกครอบครัวเคยเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายหรือไม่

    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า "ความปลอดภัยของประเทศคือความสำคัญใหญ่สุดของเรา เมื่อพิจารณาคำร้องขอวีซ่า และนักท่องเที่ยวและผู้อพยพทุกคนที่ต้องการเข้าสู่สหรัฐต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อหากลไกที่จะพัฒนาขั้นตอนการตรวจสอบของเราเพื่อปกป้องพลเมืองสหรัฐ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างถูกกฎหมายมายังสหรัฐ"

    นโยบายวีซ่าใหม่ ได้ถูกเสนอครั้งแรกในเดือนมี.ค. 2561 และเพิ่งมีผลบังคับใช้หลังการอนุมัติแบบฟอร์มขอวีซ่าที่ปรับปรุงแล้ว ข้อยกเว้นเดียวคือการขอวีซ่าด้านการทูตและจากทางการ

    นโยบายดังกล่าวจะบังคับใช้กับผู้ขอวีซ่าทุกประเภท ทั้งวีซ่าผู้อพยพและไม่ใช่ผู้อพยพ รวมถึงการเดินทางมาเพื่อทำธุรกิจหรือเพื่อศึกษา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประเมินว่าจะส่งผลต่อผู้ขอวีซ่าผู้อพยพ 710,000 ราย และผู้ขอวีซ่าประเภทไม่ใช่ผู้อพยพ 14 ล้านรายในแต่ละปี

    ในอดีตมีมาตรการที่คล้ายคลึงกัน โดยส่งผลต่อกลุ่มหมายประมาณ 65,000 รายในแต่ละปี ที่ถูกจัดในประเภทต้องถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มที่มีประวัติการเดินทางไปในบริเวณที่ถูกครอบครองโดยผู้ก่อการร้าย

    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รายการโซเชียลมีเดียที่ต้องแสดง ประกอบด้วยโซเชียลมีเดีย 20 แพลตฟอร์ม ได้แก่ ASKfm, Douban, Facebook, Flickr, Google+, Instagram, LinkedIn, MySpace, Pinterest, QZone, Reddit, Sina Weibo, Tencent Weibo, Tumblr, Twitter, Twoo, Vine, Vkontakte, YouKu และ YouTube และรายการดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สาริน โรจนวงศ์สกุล โทร.

    - U.S. State Department begins social media screening for nearly all visa applicants: https://techcrunch.com/2019/06/01/u...dia-screening-for-nearly-all-visa-applicants/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    FB_IMG_1559467628420.jpg

    (Jun 2) คลังชะลอเก็บVATนำเข้าผ่านไปรษณีย์ - คลังส่อพับแผนเก็บ VAT สินค้า นำเข้าผ่านไปรษณีย์ราคาไม่เกิน 1,500 บาท เหตุปฏิบัติยุ่งยาก-แยกแยะลำบากนำเข้าเพื่อใช้ส่วนตัว/เพื่อ การค้าอีคอมเมิร์ซ แถมอาจไม่คุ้มค่าจัดเก็บ เหตุได้เม็ดเงินภาษีแค่หลักร้อยล้านบาท

    แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะจัดเก็บภาษี มูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้าผ่านไปรษณีย์ที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท จากเดิมที่ยกเว้นภาษี VAT ให้ เนื่องจากถือว่าเป็นการนำเข้าเพื่อใช้ส่วนตัว แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้ช่องทางดังกล่าว นำเข้าสินค้าเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ (อีคอมเมิร์ซ) มากขึ้น

    อย่างไรก็ดี หลังจากมีการประชุมร่วมกัน ระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมสรรพากร กรมศุลกากร รวมถึงกรมสรรพสามิต แล้วพบว่า การปฏิบัติค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากหากจะจัดเก็บในทุกกรณีก็จะกระทบกับผู้ที่นำเข้ามาเพื่อใช้ส่วนตัวจริง ๆ หรือหากจะเก็บเฉพาะกรณีนำเข้ามาเพื่อการค้าก็มีความยุ่งยากในการจำแนก และอาจจะไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินภาษีที่จะได้เพิ่มแค่หลักร้อยล้านบาทเท่านั้น

    "ที่ผ่านมามีแนวคิดว่าต้องเก็บ VAT ตั้งแต่ราคาสินค้าบาทแรก เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ แต่หลังหารือร่วมกันยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก ซึ่งก็คงไม่ทันเสนอในช่วงรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยมูลค่า VAT หากมีการจัดเก็บ มีแค่หลักร้อยล้านบาท อาจจะไม่คุ้มค่า ทั้งนี้ อาจต้องรอให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าในลักษณะอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ก่อน ถึงค่อยว่ากันอีกที" แหล่งข่าวกล่าว

    ขณะที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เรื่อง ดังกล่าวทาง สศค. และกรมสรรพากร อยู่ระหว่างการศึกษา ส่วนกรมศุลกากรเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ คือ หากได้ข้อสรุปว่าจะเก็บ VAT กรมก็จะทำหน้าที่จัดเก็บ VAT ให้แทนกรมสรรพากรเท่านั้น ซึ่งในส่วนของอากรขาเข้านั้นมีการยกเว้นให้กับสินค้าที่นำเข้าผ่านไปรษณีย์ ราคาไม่เกิน 1,500 บาทอยู่แล้ว

    "สินค้าที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท กรมศุลฯยกเว้นอากรให้อยู่แล้ว แต่เรื่อง VAT ต้องขึ้นกับผลศึกษาของ สศค. กับกรมสรรพากร เราจะเป็น ผู้ปฏิบัติ คือถ้าเขาเก็บ เราก็จะจัดเก็บให้" นายกฤษฎากล่าว

    นายกฤษฎากล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมได้ร่วมกับทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี และป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีจากการซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์มาจาก ต่างประเทศ โดยที่ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จะลงทุนซื้อเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดซื้อ เพื่อติดตั้งที่ไปรษณีย์หลักสี่ 1 เครื่อง ไปรษณีย์หัวลำโพง 1 เครื่อง และอีก 1 เครื่อง ติดตั้งที่ศูนย์ไปรษณีย์ EMS รวมถึงจะเพิ่มพื้นที่ปฏิบัติพิธีการศุลกากรให้มากขึ้นด้วย เพื่อรองรับการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

    ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการนำเข้าสินค้าผ่านไปรษณีย์ราว 5-6 ล้านชิ้นต่อปี และผ่านช่องทาง Express อีกปีละกว่า 10 ล้านชิ้น

    "ในกรณีสินค้านำเข้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท ผ่านไปรษณีย์ ทางกรมศุลกากรจะมีการเอกซเรย์ 100% ไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนสินค้าที่ราคาเกิน 1,500 บาท ที่ต้องเสียภาษี เราจะเปิดตรวจอยู่แล้ว" นายกฤษฎากล่าว

    นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ในการประชุมองค์การศุลกากรโลก (WCO) ได้มีการหารือถึงปัญหาเกี่ยวกับการเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซผ่านไปรษณีย์ ซึ่งทุกประเทศต้องเจอกับการสำแดงราคาต่ำเหมือนกัน รวมถึงปัญหาที่ไม่สามารถจำแนกได้ว่า ผู้ที่ส่งออกสินค้ามาจากต่างประเทศเป็นผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงมากหรือน้อย นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บภาษี เพราะแต่ละประเทศจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซไม่เหมือนกัน

    "หลายประเทศเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซจากผู้รับปลายทาง แต่ลองคิดดูว่าปีหนึ่งมีมากกว่า 10 ล้านชิ้น กรมศุลกากรจะไปไล่เก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน ก็มีแนวคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่จะเก็บจากคนกลาง หรือผู้ที่ทำหน้าที่กระจายสินค้า รวมถึงยังดูความเป็นไป ได้ในกรณีเก็บจากต้นทาง และมีแนวคิดว่า WCO น่าจะต้องร่วมมือกับองค์การไปรษณีย์ สากลระหว่างประเทศ เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาร่วมกัน" นายชัยยุทธกล่าว
    Source: ประชาชาติธุรกิจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...