ติดตามสถานะการณ์

Setiawan
การปะทุที่งดงามจาก ภูเขาไฟ Etna ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2019
ภูเขาไฟ Etna ของอิตาลีสว่างไสวไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

NBC News

WATCH: บันทึกกระแสน้ำท่วมด้านบนเขื่อนในอาร์คันซอ ทำให้เกิดช่องโหว่ ในเช้าวันศุกร์ ทำให้ต้องอพยพประชาชนออกไป เพิ่มเติม: nbcnews.to/2HLGnbX

WATCH: Record floodwaters top an Arkansas levee, causing it to breach Friday morning, prompting evacuations. More: nbcnews.to/2HLGnbX

 

Setiawan

ฤดู #Hurricane แอตแลนติก เริ่มอย่างเป็นทางการในวันเสาร์นี้

ฤดูพายุเฮอริเคนในปี 2562 เริ่มขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคมสำหรับลุ่มน้ำแปซิฟิกและเริ่มวันที่ 1 มิถุนายนสำหรับมหาสมุทรแอตแลนติก

การคาดการณ์สำหรับแอ่งทั้งสองได้รับการเผยแพร่แล้ว รวมถึงจากการบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) และมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด

NOAA คาดว่าจะเข้าใกล้ฤดูกาลปกติสำหรับระบบโดยรวมในแอตแลนติค NOAA มอบช่วงเหล่านี้ด้วยความมั่นใจ 70% ฤดูพายุเฮอริเคนโดยเฉลี่ยก่อให้เกิดพายุ 12 ครั้ง โดยพายุเฮอริเคน 6 ครั้ง รวมถึงพายุเฮอริเคนที่สำคัญ 3 ครั้ง

แนวโน้มของ NOAA สำหรับฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติกปี 2019 บ่งชี้ว่าฤดูกาลใกล้ปกติมีโอกาสสูงสุดที่จะเกิดขึ้น (40%) ตามด้วยโอกาสที่เท่าเทียมกัน (30%) ของฤดูกาลเหนือปกติ และฤดูกาลต่ำกว่าปกติ ภูมิภาคเฮอริเคนแอตแลนติกรวมถึงมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโก

แนวโน้ม 2019 เรียกร้องความน่าจะเป็น 70% สำหรับแต่ละช่วงกิจกรรมต่อไปนี้:

9-15 Named Storms
4-8 พายุเฮอริเคน
2-4 พายุเฮอริเคนที่สำคัญ
สะสมพายุไซโคลนพลังงาน (ACE) ช่วง 65% -140% ของค่ามัธยฐาน

การคาดการณ์สำหรับแอ่งทั้งสองได้รับการเผยแพร่แล้วรวมถึงจากการบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) และมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด

Atlantic #Hurricane season officially begins THIS SATURDAY

2019 hurricane season already began on May 15 for the Pacific Basin, and begins June 1 for the Atlantic basin.

The forecasts for both basins have already been released, including those from National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) and Colorado State University.

NOAA expects a “near normal” season for overall number of systems in the Atlantic basin. NOAA provides these ranges with a 70% confidence. An average hurricane season produces 12 named storms, of which 6 become hurricanes, including 3 major hurricanes.

NOAA's outlook for the 2019 Atlantic Hurricane Season indicates that a near-normal season has the highest chance of occurring (40%), followed by equal chances (30%) of an above-normal season and a below-normal season. The Atlantic hurricane region includes the North Atlantic Ocean, Caribbean Sea, and Gulf of Mexico.

The 2019 outlook calls for a 70% probability for each of the following ranges of activity:

9-15 Named Storms
4-8 Hurricanes
2-4 Major Hurricanes
Accumulated Cyclone Energy (ACE) range of 65%-140% of the median

The forecasts for both basins have already been released, including those from National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) and Colorado State University.

 

Severe Weather Europe

รถไฟใต้น้ำใน Valea Călugărească, Prahova, โรมาเนียเมื่อวาน, 31 พฤษภาคม รายงาน: Calin Calin Fcrb / Severe Weather Alert - România

 

ญี่ปุ่น-รัสเซีย: ต่างกล่าวหากันและกันว่า สะสมกำลังทหารในพื้นที่ขัดแย้งบนเกาะที่อยู่ในความขัดแย้ง ระหว่างหารือของรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของ2ประเทศในวันพฤหัสบดีที่กรุงโตเกียว:

 

เรากำลังดีใจกับตัวเลขเงินสำรองสกุลดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นนะ ในขณะที่รัสเซียเทขายดอลลาร์ และหันไปเก็บทองคำเป็นเงินสำรอง ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรัสเซียรู้ว่าถ้าเอาเศรษฐกิจประเทศ ไปผูกกับดอลลาร์ มันก็เหมือนกับเอาปากท้อง ของคนในประเทศเป็นตัวประกัน

เพราะสหรัฐจะใช้ เงินดอลลาร์นั่นแหละ เล่นงานและโจมตีค่าเงินของประเทศนั้นๆ เมื่อประเทศเหล่านั้น ไม่ยอมรับนโยบาย ต่างประเทศของสหรัฐ หรือขัดขืนคำสั่งนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นในหลายๆประเทศมาแล้ว ยกตัวอย่าง เช่น เวเนซุเอลา เป็นต้น

เมื่อรัสเซียมองเห็นตรงนี้ ก็เลยทยอยเทขายดอลลาร์ ไปเก็บเงินสกุลอื่นๆสำหรับค้าขายและทองคำแทน สหรัฐจึงไม่สามารถใช้เงินดอลลาร์ เป็นอาวุธในการทำสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซีย(Hybrid war)ได้อีกต่อไปนั่นเอง

ไม่รู้ว่าเรากับรัสเซีย ใครฉลาดกว่ากันนะ แต่ไม่แน่อาจจะรู้ก็ได้ แต่ก็ต้องยอมเพราะ ไม่กล้าปฏิเสธ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun1) เศรษฐกิจเวียดนาม จ่อแซงสิงคโปร์ใน10ปี :"ธนาคารดีบีเอส" คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มใหญ่กว่าสิงคโปร์ภายในปี 2572 อานิสงส์จากการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของ กระแสเงินทุนต่างชาติและการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการผลิตในอุตสาหกรรม

ธนาคารดีบีเอส คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ในอีก 10 ปีข้างหน้าคือภายในปี 2572 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตปีละระหว่าง 6-6.5% ในช่วง10 ปีข้างหน้า ถ้าเวียดนามสามารถรักษาอัตราการเติบโตนี้ไว้ได้ เศรษฐกิจของเวียดนามจะมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ในช่วงเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนาม คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะเติบโตที่อัตรา 6.8% ซึ่งรายงานวิเคราะห์ของธนาคารดีบีเอส ระบุว่า การเติบโตทาง เศรษฐกิจของเวียดนามจะได้แรงหนุนจากการเป็นประเทศที่มีแรงงานวัยทำงานเป็นฟันเฟืองหลักกระตุ้นผลิตผลของภาคอุตสาหกรรม มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และมีนโยบายที่ชัดเจน มีเสถียรภาพช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ

รายงานวิเคราะห์ของธนาคารบีดีเอสชิ้นนี้ ถูกเผยแพร่หลังจากเว็บไซต์สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สหรัฐได้สั่งนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่ม 40% หลังประกาศสงครามการค้ากับจีน และจีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีในอัตรา เท่าเทียมกัน หากสหรัฐยังคงสั่งสินค้านำเข้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวียดนามจะก้าวขึ้นมาเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของสหรัฐแซงหน้าสหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส

สำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐ ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ สหรัฐนำเข้า สินค้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้น 40.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าจากเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 18.4% แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน สหรัฐ สั่งนำเข้าสินค้าจากจีนลดลง 13.9% ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงร้อนระอุ

เมื่อปีที่แล้ว อีวาย บริษัทให้คำปรึกษาและตรวจสอบบัญชีชื่อดังของโลก รายงานว่า เวียดนาม ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศอันดับ 1 ด้านการระดมทุนไอพีโอ ที่มีมูลค่ามากที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมูลค่า ไอพีโอของเวียดนามในปี 2561 สูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ โดยบริษัทวินโฮมส์ ซึ่งเป็น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือวินกรุ๊ป ที่มีมูลค่า 1.35 พันล้านดอลลาร์

เมื่อเดือนต.ค.ปี2561 ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะ ขยายตัว 6.8 ในปีดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากระดับ คาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย ที่ 6.5% อีกทั้งธนาคารโลกยังปรับเพิ่มคาดการณ์การ ขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ปี 2562 สู่ระดับ 6.6% จากระดับ 6.5% และ คงคาดการณ์ปี 2563 ที่ระดับ 6.5%

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเวียดนาม ยังคงสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการเป็นหนึ่งในฐาน การผลิตแห่งใหม่ของจีนหากสงครามการค้า มีแนวโน้มยืดเยื้อ แต่ความท้าทายเชิงโครงสร้างสำคัญของเวียดนาม คือการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะในอุตสาหกรรมที่ ชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุน ในขณะที่การถ่ายโอน เทคโนโลยีอยู่ในระดับต่ำ จึงเป็นความท้าทายของการพัฒนาอุตสาหกรรมโดยรวมของเวียดนามในระยะต่อไป

บรรดานักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารชั้นนำของโลก ต่างคาดการณ์ไปในทางเดียวกันว่า เวียดนามจะยังคงเป็นชาติอาเซียน ที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในปีนี้ โดย ค่าเงินด่องยังคงมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อยังคงทรงตัว การขยายตัวด้านการส่งออก การผลิตสินค้า การลงทุนโดยตรงจาก ต่างประเทศและตัวชี้วัดอื่นๆ ยังคงแข็งแกร่ง ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจของเวียดนามเติบโต เร็วกว่าชาติคู่แข่งอื่นๆ อีก 9 ชาติ ที่เป็นสมาชิก ของสมาคมอาเซียน

"แม้เวียดนามเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ซึ่งไม่น่าจะดึงดูดใจนักลงทุน แต่ความมั่นคง ทางการเมืองของเวียดนามผ่านการปกครองแบบรัฐบาลพรรคการเมืองเดียว เป็นเหตุผล ที่พวกเขาตัดสินใจเข้าไปลงทุน และธุรกิจในเวียดนามเกือบทั้งหมดดำเนินการในตลาดเสรีที่มีการควบคุมของรัฐบาลในระดับหนึ่งเท่านั้น" รายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ เวียดนามจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ให้ความเห็น

Source: กรุงเทพธุรกิจ

- Vietnam a rising Asian powerhouse: DBS report
https://www.straitstimes.com/business/vietnam-a-rising-asian-powerhouse-dbs-report

 

BBC Thai

Getty Images
เอไอจับโกงสอบข้อเขียน – จ้างทำรายงาน – ปลอมเอกสาร แม่นยำถึง 90%
วันที่ 1 มิถุนายน 2562 - 13:29 น.
เอไอจับโกงสอบข้อเขียน – จ้างทำรายงาน-ปลอมเอกสาร แม่นยำถึง 90% – BBCไทย
แม้ทุกวันนี้สถานศึกษาต่าง ๆ จะมีโปรแกรมที่ช่วยตรวจสอบการลอกเลียนข้อเขียนทางวิชาการของนักเรียนนักศึกษาอยู่บ้างแล้ว แต่ล่าสุดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอยังก้าวล้ำไปอีกขั้น โดยสามารถจับผิดร่องรอยของการใช้ “นักเขียนผี” (Ghostwriter) หรือการแอบให้บุคคลอื่นเขียนงานแทนตัวเองได้อย่างแม่นยำถึง 90% แล้ว

ทีมนักวิจัยจากภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก เผยว่าได้พัฒนาเอไอที่สามารถชี้ถึงพิรุธในการโกงของบรรดานักเรียนนักศึกษา ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีผู้ใช้บริการรับจ้างเขียนเรียงความหรือรายงานตามเว็บไซต์กันมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การจ้างวานให้ผู้อื่นช่วยทำข้อสอบแบบอัตนัยที่อาจารย์มอบหมายให้นำไปทำที่บ้าน (Take-home exam)

เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาดังกล่าว ทีมผู้วิจัยได้ผสมผสานเทคนิคการใช้ข้อมูลปริมาณมากหรือบิ๊กดาต้า (Big Data) เข้ากับการสร้างอัลกอริทึมเพื่อให้เอไอเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเอไอได้วิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความและคำตอบในการสอบข้อเขียนของนักเรียนมัธยมปลาย 130,000 ชิ้น จากโรงเรียน 10,000 แห่ง จนสามารถเรียนรู้ถึงรูปแบบของพิรุธในการโกงต่าง ๆ และชี้ได้ว่างานเขียนแต่ละชิ้นทำโดยเจ้าของผลงานจริงหรือไม่

โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์นี้มีชื่อว่า “โกสต์ไรเตอร์” (Ghostwriter) ทำหน้าที่เปรียบเทียบผลงานล่าสุดที่นักเรียนนักศึกษาส่งผู้สอน กับผลงานที่พวกเขาเคยทำส่งไว้ในอดีตหลายชิ้น จนสามารถจะแยกแยะได้ว่ารูปแบบต่าง ๆ ในการเขียนเช่นความยาว โครงสร้างประโยค ลักษณะการเลือกใช้คำ รวมทั้งการใช้เครื่องหมายวรรคตอน มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด โดยจะมีการให้คะแนนเมื่อเปรียบเทียบผลงานแต่ละชิ้น ก่อนจะนำมารวมเพื่อคำนวณหาความเป็นไปได้ว่ามีการโกงเกิดขึ้นหรือไม่

จากการทดสอบครั้งล่าสุด เอไอดังกล่าวสามารถตรวจจับกลโกงทางวิชาการได้แม่นยำอย่างสูงในอัตราความถูกต้องถึง 90% เลยทีเดียว ทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านอื่น ๆ เช่นช่วยตำรวจตรวจสอบการปลอมแปลงเอกสารสำคัญอย่างหนังสือสัญญาหรือพินัยกรรมได้

นอกจากนี้ ยังเคยมีการใช้โปรแกรมโกสต์ไรเตอร์ตรวจสอบข้อความออนไลน์ทางทวิตเตอร์ได้สำเร็จ โดยสามารถทราบได้ว่าข้อความดังกล่าวเขียนขึ้นโดยเจ้าของบัญชีจริง หรือเขียนโดยหุ่นยนต์สนทนาและแฮกเกอร์ที่ปลอมแปลงตัวเข้ามา

https://www.khaosod.co.th/bbc-thai/news_2567566

 

... "อเมริกา: คว่ำบาตรรัสเซีย จีน อิหร่าน, ยกเลิกความร่วมมือทางอวกาศ"

... หลังสงครามเย็นทั้ง "อเมริกา" และ "รัสเซีย" กลับมาร่วมมือกันทางอวกาศ เช่น เรื่องสถานีอวกาศนานาชาติ

... แต่จากวันที่ 22 ธันวาคม ปี 2022 เป็นต้นไป จะไม่มีความร่วมมือทางอวกาศของทั้งสองชาติใหญ่อีกต่อไป แล้วยังรวมทั้ง จีน อิหร่าน ซูดาน ซีเรีย เกาหลีเหนือ, ซึ่งรวมถึงการจำกัดการปล่อยยานอวกาศและดาวเทียมจากพื้นโลกจากประเทศเหล่านั้นด้วย

... "อเมริกา" บอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการที่จะเข้าถึงเป้าหมายในการเป็นเจ้าอวกาศของโลกแต่ผู้เดียว จึงต้องหยุดใช้อุปกรณ์ทางอวกาศและความร่วมมือกับ "รัสเซีย" และประเทศเหล่านั้น

... และอเมริกาจะเลิกใช้เครื่องยนตร์จรวดของรัสเซีย RC1 ด้วยในปี 2022

... ขณะที่ทาง "รัสเซีย" ก็ได้บอกว่าอเมริกาทำแบบนี้เป็นสิ่งที่่เป็นการกีดกันในอุตสาหกรรมตลาดทางอวกาศ และพยายามดึงรัสเซียออกจากอุตสาหกรรมนี้แบบไม่เป็นธรรม และอเมริกามีนโยบายนี้มานานแล้ว

... จากนี้ไป "สงครามเย็นใหม่" จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และความร่วมมือระหว่างกันทั้งสองค่ายก็จะน้อยลง และมีการเผชิญหน้ากันมากขึ้นทุกสมรภูมิ ที่จะกระทบกับทุกประเทศทั่วโลก

.

... The restrictions apply to launches carried out from Dec. 31, 2022, and cover services with satellite and launch vehicles, the document said. China, North Korea, Iran, Sudan and Syria are already subject to the same restrictions, it said.

“The United States has long conducted a policy of trying to squeeze Russia out of the market for launch services,” the head of space corporation Roscosmos, Dmitry Rogozin, was quoted by the TASS news agency as saying on Friday.

Roscosmos had also condemned the U.S. move in a statement a day earlier, calling it the “latest case of unfair competition by Washington on the international market for space services”.

“The Pentagon wants to destroy what has been created with such difficulty,”

.

.https://www.reuters.com/article/us-...peration-are-unfair-competition-idUSKCN1T12BD

 

Clima Extremo 24
จีน
ช่วงเวลาของการดิน และหินถล่มบนภูเขา Jinsha ในมณฑลกุ้ยโจวของจีนประชาชนถูกบังคับให้อพยพนับร้อยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน

 

Clima Extremo 24
แอลเบเนีย
แผ่นดินไหวขนาด 5.2 ถูกบันทึกในแอลเบเนีย โดยมีความลึก 4 กม. ในเขตชายแดนแอลเบเนียและกรีซ ในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2562 เวลา 04:26 น. (GMT)
วินาทีที่ 5.0 ของขนาด 5.0 ที่ความลึก 10 กิโลเมตรถูกบันทึกไว้ในเวลาน้อยกว่า 7 นาทีในครั้งแรก รู้สึกได้ในมาซิโดเนียและกรีซ

 

Clima Extremo 24

แอลเบเนีย
มีรายงานความเสียหายหลังจากแผ่นดินไหวที่รุนแรงขนาด M5.2 ในKorcë Albania มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ในวันที่ 1 มิถุนายน

 

Clima Extremo 24
แอลเบเนีย
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 หลายคนออกจากบ้านในวันที่ 1 มิถุนายน

 

Clima Extremo 24
แอลเบเนีย
รูปภาพความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว ขนาด M5.2 สั่นแอลเบเนียวันที่ 1 มิถุนายน
แผ่นดินไหวขนาด 5.2 รู้สึกรุนแรงขึ้นในKorçaกับ 40.470 ในภาคเหนือและ 20.710 ในภาคตะวันออก ที่ความลึก ถึง 14 กม. และมีศูนย์กลางของแผ่นดินไหว, ถึง 15 กม. ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Floq, เขตเทศบาลKorça แหล่งที่มาหลักของช่องรายงานว่ามี ประชาชนห้าคนได้รับบาดเจ็บจากการพังทลายของบ้าน

 

สลดอีก! ตาย 12 เหตุยิงกราดในตึกเทศบาล เวอร์จิเนีย บีช เมืองมะกัน

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย หลังมือปืนก่อเหตุยิงกราดในอาคารเทศบาล ของเวอร์จิเนีย บีช มลรัฐเวอร์จิเนีย โดยผู้ก่อเหตุเป็นอดีตคนงานทั่วไปของเทศบาล ก่อนที่มือปืนจะถูกสังหาร

คลิก >> https://mgronline.com/around/detail/9620000052257

#MGROnline #เวอร์จิเนียบีช #กราดยิง

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Jun 1) สหรัฐปรับเกณฑ์ 'ปั่นค่าเงิน' ไทยส่อเผชิญแรงกดดันหนัก : กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ออกรายงานนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมประมาณ 1 เดือน โดยรายงานทบทวนนโยบายฯ ของประเทศคู่ค้ารอบนี้ ยังคงไม่มีการระบุ อย่างเฉพาะเจาะจงว่า ประเทศใดมีพฤติกรรม เข้าข่ายบิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) เพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางด้านการค้ากับสหรัฐ

อย่างไรก็ดี สหรัฐได้ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ ในรายงานฉบับนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงใน 2 เรื่องสำคัญ คือ (1) มีประเทศคู่ค้าที่ติดเข้ามาอยู่ในการประเมินรอบนี้เพิ่มมากขึ้นเป็น 21 ประเทศ จากเดิม 12 ประเทศ และ (2) มีการปรับเกณฑ์ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดให้เข้มงวดขึ้น สำหรับประเทศไทยนั้น นับเป็นข่าวดี ที่ไทยไม่ติดอยู่ในรายชื่อประเทศที่สหรัฐติดตามอย่างใกล้ชิด (Monitoring List) ตามที่มีความกังวลในช่วงก่อนหน้านี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้จะยังไม่พบสัญญาณความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนภายหลังการ เปิดเผยรายงานทบทวนนโยบายฯ ของสหรัฐฉบับนี้ แต่คงต้องจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนที่อาจมีผลต่อทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาคในช่วงหลังจากนี้อย่างใกล้ชิด เพราะแม้สหรัฐยังคงไม่เลือกที่จะกดดันจีนด้วยประเด็นด้าน Currency Manipulator ในขณะนี้ (ซึ่งทำให้ความ ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น มากนักในช่วงรอการเจรจารอบใหม่) แต่ท่าที ที่แข็งกร้าวมากขึ้นของสหรัฐ ในรายงาน ทบทวนนโยบายฯ รอบครึ่งปีครั้งนี้ สะท้อนแรงกดดันต่อจีนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความไม่โปร่งใสในการเข้าแทรกแซงค่าเงินหยวน และการเกินดุลการค้าในระดับที่สูงเกินไปกับสหรัฐ

รายชื่อประเทศที่สหรัฐ ติดตามอย่างใกล้ชิด (Monitoring List) เพิ่มจำนวนขึ้นมาเป็น 9 ประเทศ จาก 6 ประเทศในรายงานทบทวนนโยบายฯ เดือนต.ค. 2561 อย่างไรก็ดี ประเทศไทยผ่าน 2 ใน 3 เกณฑ์ที่สหรัฐใช้พิจารณา ดังนั้น ไทยจึงไม่อยู่ใน Monitoring List รอบนี้ รายละเอียดเกณฑ์ที่สหรัฐใช้ในการจัดทำรายงานรอบนี้ มีดังนี้

1.ขยายความครอบคลุมมากขึ้น สหรัฐ ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในการคัดเลือกประเทศ โดยพิจารณาจากประเทศที่มีมูลค่าการค้า (ส่งออก+นำเข้า) กับสหรัฐมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งทำให้การพิจารณารอบนี้ ครอบคลุมประเทศคู่ค้าถึง 21 ประเทศ คิดเป็น 80% ของมูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐกับคู่ค้าทั้งหมด และเพิ่มขึ้นจากเดิม 12 ประเทศ

2.เกณฑ์การพิจารณา ยังอยู่ที่ 3 เรื่องหลัก แต่บางเกณฑ์ถูกปรับให้ เข้มงวดขึ้น คือ (1) ยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐไม่เกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามเดิม (2) ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ไม่เกิน 2% ต่อจีดีพี เข้มงวดขึ้นจากเดิม ที่ 3% ต่อจีดีพี (3) มียอดซื้อสุทธิ FX เพื่อการเข้าแทรกแซงค่าเงินให้อ่อนค่าเพียงด้านเดียว เกิน 2% ต่อจีดีพี ในช่วง 6 เดือนจาก 12 เดือนล่าสุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อาจนับเป็นความโชคดีที่สภาพแวดล้อมของตลาดการเงินโลกในช่วงที่กระทรวง การคลังของสหรัฐ จัดทำรายงานฉบับนี้ เป็นช่วงที่เงินดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้น สวนทางกับสกุลเงินในเอเชียที่เผชิญแรงกดดันในด้านอ่อนค่า ทั้งจากกระแสเงินทุนไหลออก และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในที่เริ่มอ่อนแอลงท่ามกลางสงครามทางการค้า ซึ่งทำให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเข้าดูแลเพื่อชะลอการอ่อนค่าของสกุลเงินตัวเองด้วยการขายเงิน ตราต่างประเทศออกมา (ไม่ใช่เป็นฝั่งซื้อสุทธิ ตามเกณฑ์/เงื่อนไขที่สหรัฐกำหนด) ดังนั้น ไทย และอีกหลายๆ ประเทศในเอเชีย แม้แต่ฮ่องกงซึ่งใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ผูกกับเงินดอลลาร์ ต่างก็รอดพ้นจากเกณฑ์หรือเงื่อนไขเรื่องการเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ค่าเงินอ่อนค่า เพียงด้านเดียวในรายงานฉบับนี้

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากการที่ไทยบันทึกยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ ในระดับที่ค่อนข้างสูงระหว่าง 1.90-2.03 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และไทยยังมีแนวโน้มเกินดุลการค้ากับสหรัฐ ในระดับสูงในระยะข้างหน้า ทำให้อาจยังมี ความเสี่ยงที่ไทยจะไม่ผ่านเกณฑ์ในด้าน ยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มเติมจากเกณฑ์ ด้านดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ไทยต้องเตรียมรับมือกับแรงกดดันในประเด็นทางด้านการค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกร ระบุด้วยว่า ต้องจับตาความเสี่ยงที่สหรัฐ จะพุ่งเป้ามากดดันไทย แต่คาดว่าทางการไทยจะสามารถชี้แจง ทุกข้อสงสัยต่อสหรัฐได้ โดยสงครามการค้า ที่คุกรุ่นระหว่างสหรัฐกับจีน ก่อให้เกิดอานิสงส์ ต่อสินค้าจากเวียดนามให้มีโอกาสเข้าไปทดแทนสินค้าจีนในสหรัฐได้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งทำให้เวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2561 ที่ผ่านมา และยังเกินดุลการค้ากับสหรัฐ ต่อเนื่องในช่วง ไตรมาส 1 ปี 2562 อีก 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ (เทียบกับยอดเกินดุลที่ 9.28 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 1 ปี 2561) และติดเป็นประเทศที่ถูกจับตาอยู่รายงานทบทวนฯ ตามกรอบเงื่อนไขใหม่ที่เข้มขึ้น ซึ่งรายงานนี้เป็นเสมือนเครื่องมือที่สหรัฐ นำมา พิจารณาเดินหน้ากดดันทางการค้ากับนานาชาติด้วยมาตรการต่างๆ รวมทั้งกดดันให้เปิดตลาดการค้าสินค้าและบริการดังเช่นที่เกิดกับหลายประเทศอย่างจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และญี่ปุ่น การที่เวียดนามติดอยู่ในประเทศ ที่ถูกจับตา (Monitoring List) สะท้อนความเสี่ยงที่ใกล้เข้ามาที่ไทย
ดังนั้น เหตุการณ์สำคัญในประเด็นทางการค้า ที่ต้องจับตาในระยะอันใกล้ คือ การทบทวนสิทธิ GSP ของสหรัฐ ที่ให้กับนานาประเทศ ซึ่ง GSP ของไทย ก็อาจถูกทบทวนในรอบนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากไทยใช้สิทธิการส่งออกภายใต้ GSP ของสหรัฐเป็นมูลค่า 4.3 พันล้าน ดอลลาร์ในปี 2561 (ฐานข้อมูลสหรัฐ) ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 โดยในกรณีที่ GSP ของไทยถูกทบทวนและมีผลกระทบ ต่อสินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐ หลายรายการ ก็อาจเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า ไทยต้องเตรียมรับมือ กับแรงกดดันทางการค้าของสหรัฐที่อาจจะเพิ่มขึ้น
Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

บีบีซีหน้าแตกยับ โวเจ้าแรกถ่ายสดผ่าน 5G แต่กลับล่มไม่เป็นท่า [ชมคลิป]

สำนักข่าวดังของอังกฤษเกือบต้องเอาปี๊บคลุมหัว เมื่อพยายามคุยว่าเป็นสื่อแรกในอังกฤษที่ถ่ายทอดสดผ่านระบบ 5จีจากใจกลางกรุงลอนดอนแต่สัญญาณกลับย่ำแย่จนการออกอากาศสดล่มไม่เป็นท่า จนต้องรีบตัดเข้าสถานี และขอโทษผู้ชม...

คลิก >> https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9620000052390

#MGROnline #บีบีซี #5G

 

ฟิลิปปินส์ส่งเรือขนขยะ 69 ตู้คอนเทนเนอร์ คืนแคนาดา
31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21:33 น.


ขยะหลายตันที่บริษัทเอกชนแคนาดาส่งมาฟิลิปปินส์อย่างผิดกฎหมายเมื่อหลายปีก่อน จำนวน 69 ตู้คอนเทนเนอร์ ถูกขนลงเรือสินค้ากลับไปยังแคนาดาแล้วเมื่อวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศสงครามและขู่จะเอาขยะเหล่านี้ไปทิ้งในน่านน้ำแคนาดา





เรือสินค้า เอ็มวีบาวาเรีย ที่รัฐบาลแคนาดาว่าจ้างมาบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขยะกลับแคนาดา มาถึงท่าเรืออ่าวซูบิกเมื่อวันพฤหัสบดี / AFP

ศาลฟิลิปปินส์เคยตัดสินไว้เมื่อปี 2559 ว่าการนำเข้าขยะจากแคนาดา 2,400 ตันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ขยะเหล่านี้ถูกระบุประเภทไว้อย่างผิดๆ ว่าเป็นขยะพลาสติกสำหรับการรีไซเคิล ขณะที่รัฐบาลแคนาดาอ้างว่าขยะเหล่านี้ซึ่งส่งออกมาฟิลิปปินส์ระหว่างปี 2556-2557 นั้นดำเนินการกันระหว่างเอกชนซึ่งรัฐบาลไม่ได้อนุมัติ

ปัญหานี้กระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมานานหลายปี และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีดูเตร์เตทำให้ปัญหานี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง โดยบอกว่า เขาจะประกาศสงครามกับแคนาดา รัฐบาลฟิลิปปินส์ขีดเส้นตายวันที่ 15 พฤษภาคม เมื่อแคนาดาไม่ดำเนินการ ฟิลิปปินส์จึงเรียกทูตของตนประจำ

กรุงออตตาวากลับประเทศ

สัปดาห์ที่แล้ว ดูเตร์เตหมดความอดทนกับการประวิงเวลาของแคนาดาที่ไม่ยอมรับขยะเหล่านี้กลับคืนและสั่งการให้ส่งขยะคืนแคนาดาทันที

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม กล่าวว่า ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะ 69 ตู้ถูกขนถ่ายลงเรือสินค้าลำหนึ่งที่ท่าเรืออ่าวซูบิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลาเมื่อคืนวันพฤหัสบดี และวันศุกร์เรือลำนี้เริ่มการเดินทางนาน 1 เดือน ไปยังเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา

ทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ทวีตภาพเรือออกจากท่าพร้อมกับคำว่า บ๊ายบาย เขายังทวีตเกี่ยวกับทูตฟิลิปปินส์ที่โดนเรียกกลับประเทศด้วยว่า ให้เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินกลับแคนาดาได้

ที่อ่าวซูบิก นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายคนมารวมตัวกันระหว่างการเตรียมขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ขยะเหล่านี้ พร้อมกับชูป้ายว่า "ไม่เอาอีกแล้ว" และ "เราไม่ใช่ที่ทิ้งขยะของโลก" ลีอา เกร์เรโร ผู้อำนวยการกรีนพีซฟิลิปปินส์กล่าวว่า การค้าขยะเป็นการปฏิบัติที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่งและน่าตำหนิ

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ มาเลเซียเพิ่งประกาศว่า มาเลเซียกำลังส่งขยะพลาสติก 450 ตันที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย กลับคืนไปยังประเทศต้นทาง ซึ่งมีทั้งแคนาดา, ออสเตรเลีย, บังกลาเทศ, จีน, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐ

มาเลเซียและอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นแหล่งรองรับขยะพลาสติกแหล่งใหญ่ต่อจากจีน ซึ่งยกเลิกการนำเข้าขยะจากต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ

วอน เฮอร์นันเดซ ผู้ประสานงานระดับโลกของกลุ่ม เบรกฟรีฟรอมพลาสติก กล่าวว่า เราได้เห็นชุมชนดั้งเดิมที่มีความบริสุทธิ์กลับกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะ ก็เพราะสึนามิตู้สินค้าขยะจากสหรัฐ, สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย อันเป็นผลจากการสั่งห้ามของจีน.

https://www.thaipost.net/main/detail/37339

 

แร่ธาตุหายากของจีน"แร่แรร์เอิร์ธ"ทำไมถึงสำคัญ: แร่แรร์เอิร์ธหรือโลหะแรร์คือธาตุ17ชนิดที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยแร่เหล่านี้ไม่ได้หายาก แต่หาในลักษณะที่เหมาะสมไม่ได้ง่ายๆและยังนำมาแปรรูปได้ยากเนื่องจากแร่แรร์เอิร์ธที่พบในธรรมชาติมักจะมาพร้อมกับแร่ที่มีกัมมันตภาพรังสี เช่นยูเรเนียนหรือตรอเรียม:แร่เหล่านี้ประกอบด้วยอิทเทรียมและธาตุแลนเธนไนด์ทั้ง15ชนิด(แลนเธนเนียม,เซรีเลียม,พราซอดีเมียม,นีโอดีเมียม,โพรเมเธียม,ซารามาเรียม,ยูเรเนียม,กาโดลีเนียม,ดิสโพรเรียม,โฮลิเมียม,เออร์เนียม,ธูเลียม,อิทเทอร์เนียม,เลเทอเนียม)โดยอีกธาตุหนึ่งคือสแกนเดียมเป็นแร่ที่หายากที่สุดในบรรดาแร่แรร์เอิร์ธ: แร่เหล่านี้จะมีการนำมาใช้ในการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น เมเมอรี่ของคอมพิวเตอร์,DVD,แบตตาร์แบบชาร์จ,โทรศัพท์มือถือ,เครื่องฟอกไอเสีย,แม่เหล็ก,และหลอดไฟแบบฟลออเรเซนท์,และอื่นๆ โดยในช่วง20ปีที่ผ่านมานี้มีอุปสงค์(ปริมาณ)ของสินค้าที่ต้องใช้แร่แรร์เอิร์ธในการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการใช้แร่แรร์เอิร์ธในการทหารเช่นอุปกรณ์GPS,แบตเตอร์รี่,และอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าการไม่มีแร่แรร์เอิร์ธที่เพียงพอ จะส่งผลต่อความสามารถในการผลิตอาวุธ: มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองออกมากล่าวว่าแร่แรร์เอิร์ธจะเป็นอาวุธที่จีนใช้ในการต่อรองทางการค้ากับทรัมป์ได้อย่างแน่นอน สิ่งที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญของแร่แรร์เอิร์ธก็คือ การที่แร่เหล่านี้เป็นหนึ่งในสินค้าจีนไม่กี่อย่างที่สหรัฐฯไม่ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของสงครามภาษี และจีนรู้ถึงความสำคัญของแร่เหล่านี้ ซึ่งสหรัฐฯต้องพึ่งพาจีนซึ่งผลิตร้อยละ80ของแร่เเรร์เอิร์ธในโลก:
------------------------------------
https://www.rt.com/business/460528-rare-earth-metals-..

 

สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ:"บทวิเคราะห์"คำกล่าวอันกร้าวร้าวและหยิ่งยโสของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯมีแต่จะทำให้สหรัฐเสื่อมถอยลงเร็วขึ้น วันที่29พ.ค.นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวขณะให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์FOXว่า บริษัทหัวเหว่ยเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐฯในสายตารมว.ต่างประเทศผู้นี้ ความมั่นคงของรัฐคือสหรัฐจำเป็นต้องสร้างความเหนือกว่าในด้านการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมด้วยเทคโนโลยี5Gโดยสิ้นเชิง และครอบครองความเป็นเจ้าโดยหาใครแทนที่มิได้ในด้านนี้ เนื่องจากสหรัฐฯเป็นประเทศเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเป็นผู้นำร่องด้านเทคโนโลยีของโลกโดยไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจุบันบริษัทหัวเหว่ยถือครอง"สิทธิบัตร"ด้านเทคโนโลยี5Gมากที่สุดในโลกรวมกว่า16,000รายการคิดเป็น20%ของสิทธิบัตรสำคัญที่สุด ขณะที่ทั่วทั้งสหรัฐฯมีการถือครอง"สิทธิบัตร"ด้านดังกล่าวเพียง15%ของทั่วโลกเท่านั้น ธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯเช่นบริษัทMicrosoftและGMต่างกังวลว่า คำสั่งห้ามของรัฐบาลอาจขัดขวางการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของพวกเขา ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของสหรัฐฯซึ่งยิ่งทำให้สหรัฐฯโดดเดี่ยวยิ่งขึ้น พร้อมกับสูญเสียความเชื่อมั่นบนเวทีโลกในที่สุด ผลประโยชน์ของสหรัฐต้องได้รับผลกระทบด้านผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยประณามรัฐบาลทรัมป์ว่าทำให้คนทั่วไปต้องแบกรับภาระนอกเหนือจากที่ควรอย่างไม่เป็นธรรม:
Cr: China Face