ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอกสาร 368_1.jpg เอกสาร 368_2.jpg เอกสาร 368_3.jpg เอกสาร 368_4.jpg เอกสาร 368_5.jpg เอกสาร 368_6.jpg เอกสาร 368_7.jpg เอกสาร 368_8.jpg
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 10, 2024 ถามสั้นแต่! เคเคพี รีเสิร์ช ตั้งคำถามว่าโรงงานในไทยที่กำลังปิดตัวบอกอะไร? ผงะเอกชนปิดโรงงานพุ่ง 3 ปีติดกันถึงไตรมาส 1 ปีนี้ รวมกว่า 1,700 แห่ง ตกงานแล้วกว่า 42,000 คน ยอดเปิดโรงงานใหม่สุทธิในไทยวูบหนักกว่า 66%
    สำนักวิจัย KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนจากทั้งดัชนีการผลิตที่หดตัวลงติดต่อกันเกินกว่า 1 ปี ยอดปิดโรงงานที่เพิ่มขึ้น และหนี้เสียในภาคการผลิตที่กำลังเร่งตัว แม้ว่ายอดเปิดโรงงานจะยังเยอะกว่ายอดปิดโรงงานในภาพรวม แต่สถานการณ์มีความแตกต่างกันในแต่ละภาคการผลิตโดยกลุ่มการผลิตเครื่องหนัง การผลิตยาง อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมไม้ และการผลิตเครื่องจักร เป็นกลุ่มที่มีการเพิ่มขึ้นของการปิดตัวโรงงานมากที่สุด
    สถานการณ์ในอนาคตยังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นโดยภาคอุตสาหกรรมยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญ คือ (1) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของสินค้าบางชนิด (2) การแข่งขันที่มากขึ้นจากสินค้าจีน (3) มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น
    .
    ดัชนีการผลิตติดลบติดต่อกันกว่า 1 ปี
    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนักของเศรษฐกิจไทย คือการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่วัดจากดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ได้มาจากการสำรวจผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทยเผยแพร่โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมมีการหดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 จนถึงเดือนมีนาคม 2024 หรือต่อเนื่องกันกว่า 1 ปี 3 เดือน ซึ่งนับเป็นการโตติดลบติดต่อกันที่ยาวนานมากที่สุดครั้งหนึ่ง แม้ว่าวัฏจักรการค้าโลกจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 2023 แล้วก็ตาม
    สัญญาณถัดมาที่น่ากังวลกว่านั้น คือ ข้อมูลการปิดโรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่เร่งตัวขึ้นชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023 โดยค่าเฉลี่ยการปิดโรงงานของไทยอยู่ที่ 57 โรงงานต่อเดือนในปี 2021 และ 83 โรงงานต่อเดือนในปี 2022 ในขณะที่พุ่งสูงขึ้นถึง 159 โรงงานต่อเดือนในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ส่งผลให้หากนับรวมตั้งแต่ต้นปี 2023 มาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2024 มีโรงงานปิดตัวลงไปแล้วกว่า 1,700 แห่ง กระทบการจ้างงานกว่า 42,000 ตำแหน่ง(มีต่อหน้า 2/2)

    (หน้า 2/2) สำนักวิจัย KKP Research เปิดเผยต่อไปว่า ไม่ใช่แค่โรงงานปิด แต่โรงงานเปิดใหม่ก็ลดลงเช่นกัน การปิดตัวของโรงงานเพียงอย่างเดียวอาจไม่สะท้อนภาพทั้งหมด แต่ตัวเลขการเปิดตัวโรงงานใหม่ที่ลดลงกว่าในอดีตยังย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมไทยที่ไม่ดีนัก เพราะการเปิดโรงงานใหม่มีทิศทางที่ชะลอตัวลงเช่นกัน จึงทำให้ยอดการเปิดโรงงานสุทธิ (จำนวนโรงงานเปิดหักลบด้วยโรงงานปิด) ในภาพรวมชะลอตัวลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยที่เป็นบวกสุทธิประมาณ 150 โรงงานต่อเดือน ลดลงเหลือเพียง 50 โรงงานต่อเดือน หรือกว่า -66%

    การผลิตอุตสาหกรรมหดตัว กดดันโรงงานปิดตัว สถานการณ์การเปิดและปิดตัวของโรงงานอุตสาหกรรมยังมีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละกลุ่ม สอดคล้องกับการเติบโตของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่างกัน โดยอุตสาหกรรมที่มีการปิดตัวโรงงานเร่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นกลุ่มเดียวกันกับอุตสาหกรรมที่ดัชนีการผลิตมีการหดตัวลง ซึ่งสะท้อนว่าการพิจารณาภาคการผลิตในภาพรวมอาจไม่สะท้อนสถานการณ์ของบางกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่กว่าค่าเฉลี่ย โดยอุตสาหกรรมที่มีทิศทางน่ากังวลเนื่องจากมีการหดตัวของการผลิตและโรงงานปิดตัวเพิ่มขึ้นมาก คือ กลุ่มการผลิตเครื่องหนัง การผลิตยาง อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมไม้ และการผลิตเครื่องจักร

    #ปิดโรงงาน #ตกงาน #ปลดพนักงาน #เศรษฐกิจ #ไทย #เอกชน #ลดผลิต #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/zP1ZF59UpJMsbNmz/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 10, 2024 หนี้โรงงาน! ผงะโรงงานใหญ่ในไทยปิดตัวสะท้อนปัญหารุนแรงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปไม่ไหว แบกหนี้เสียสูง เปิด 3 กลุ่มอุตสาหกรรมมีปัญหาตั้งแต่โครงสร้างถึงวัฒจักรเศรษฐกิจ
    สำนักวิจัย KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า สถานการณ์โรงงานขนาดใหญ่ในไทยปิดตัว แต่โรงงานขนาดเล็กเปิดแทนนั้น ในมิติของขนาดและพื้นที่ของโรงงานการปิดตัวของโรงงานอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา พบว่ากระจุกตัวอยู่ในกลุ่มโรงงานขนาดใหญ่เป็นหลัก ในขณะที่โรงงานเปิดใหม่ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก สะท้อนว่าปัญหาการผลิตที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากปัจจัยเฉพาะของกิจการเอง เนื่องจากโรงงานขนาดเล็กมีแนวโน้มที่จะเปราะบางกว่าโรงงานขนาดใหญ่ จากสถานะทางการเงินที่มีแนวโน้มอ่อนแอกว่าบริษัทใหญ่ การปิดตัวที่เกิดขึ้นจากโรงงานขนาดใหญ่เป็นหลักเป็นภาพสะท้อนว่าปัญหาการปิดตัวโรงงานเกิดจากปัจจัยเชิงโครงสร้างในภาพใหญ่ที่กระทบกับอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรม
    .
    หนี้เสียในภาคอุตสาหกรรมกำลังเพิ่มขึ้น
    กลายเป็นข้อมูลอีกหนึ่งชุดที่ตอกย้ำความน่ากังวลของสถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรม คือ การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในภาคการผลิตที่มีสัญญาณเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน และสะท้อนปัญหาที่รุนแรงในภาคอุตสาหกรรมไทยมากกว่าเป็นการชะลอตัวชั่วคราว ซึ่งนำไปสู่ความจำเป็นต้องปิดโรงงานและกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้
    KKP Research พบความสัมพันธ์ระหว่างอุตสาหกรรมที่มีการปิดตัวของโรงงานสูงกับอุตสาหกรรมที่หนี้เสียปรับตัวสูงขึ้น โดยโรงงานกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการปิดตัวมากกว่า มีแนวโน้มที่การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียสูงกว่าด้วยดัชนีเศรษฐกิจแบบเดิมอาจจับชีพจรภาคอุตสาหกรรมไทยไม่ได้ทั้งหมด
    .
    ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญอยู่ การติดตามแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมไทย จำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุและที่มาที่ไปที่ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลงไป โดยปัญหาการหดตัวของหลายหมวดการผลิตในสินค้าไทยไม่ได้เกิดจากเฉพาะปัจจัยชั่วคราวด้านอุปสงค์หรือตามวัฏจักรเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว (มีต่อหน้า 2/2)

    (หน้า 2/2) แต่ยังมีประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย ทำให้แม้ว่าในอดีตการผลิตของไทยและโลกจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่สอดคล้องกันมาโดยตลอด แต่ในช่วงที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นว่าการผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทยเริ่มมีทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับการผลิตของประเทศอุตสาหกรรมหลักในภูมิภาคและการผลิตของโลก
    ภาวะการค้าโลกที่ฟื้นตัวในระยะต่อไปจึงไม่ได้หมายความว่าภาคการผลิตไทยจะฟื้นตัวได้ดีเสมอไป โดย KKP Research แบ่งหมวดสินค้าในภาคการผลิตไทยเป็น 3 กลุ่ม คือ
    1. การผลิตที่ยังเคลื่อนไหวตามวัฏจักรปกติ เป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้หากอุปสงค์กลับมาเติบโตขึ้นซึ่งคิดเป็นประมาณ 47% ของมูลค่าการผลิตทั้งหมด
    2. การผลิตที่ปรับตัวลดลงตามสินค้าคงคลังที่สูง กลุ่มอุตสาหกรรมที่ในช่วงที่ผ่านมามีระดับสินค้าคงคลังที่สูงกว่าปกติมาก และอาจกลับมาปรับตัวดีขึ้นได้บ้างเมื่อสินค้าคงคลังเริ่มปรับตัวลดลง
    3. การผลิตที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น การผลิต Hard Disk Drive ที่ถูกทดแทนด้วย Solid State Drive ซึ่งส่งผลกระทบให้การผลิต HDD หดตัวต่อเนื่องมานาน หรือการผลิตเหล็กที่ถูกทดแทนด้วยการแข่งขันจากสินค้าจีน KKP ประเมินว่าสินค้ากลุ่มนี้คิดเป็นกว่า 35% ของมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตทั้งหมด
    #ปิดโรงงาน #ตกงาน #ปลดพนักงาน #เศรษฐกิจ #ไทย #เอกชน #ลดผลิต #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/bHzJziy37P7UQUBL/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Red Sea: พบโรคระบาดคร่าชีวิตเม่นทะเลจนทำให้ประชากรของเม่นทะเลในทะเลแดงลดลง และโรคนี้กำลังระบาดไปยังส่วนอื่น ๆ มหาสมุทรอินเดีย และอาจลุกลามทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง

    โรคระบาดที่ทำให้ประชากรเม่นทะเลในทะเลแดงลดลง กำลังแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของมหาสมุทรอินเดีย และนักวิทยาศาสตร์ในอิสราเอล ระบุว่า โรคระบาดนี้อาจแพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยเม่นทะเลที่ได้รับผลกระทบถือเป็นผู้ปกป้องแนวปะการังเป็นอย่างดี และการตายของเม่นทะเลยังทำให้ระบบนิเวศแนวปะการังที่เปราะบางอยู่แล้ว ตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น

    นักวิทยาศาสตร์ บอกว่า เม่นทะเลเปรียบเสมือนเครื่องตัดหญ้าของแนวปะการัง เนื่องจากพวกมันลดจำนวนสาหร่ายและทำให้ปะการังเจริญเติบโตและสังเคราะห์แสงกับแสงแดดได้ การระบาดใหญ่ทางทะเลเกิดขึ้นครั้งแรกในอ่าวอะคาบาเมื่อปีที่แล้ว

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ตอนนี้พวกเขาสามารถระบุประเภทเชื้อโรคที่อยู่เบื้องหลังโรคระบาดนี้ได้แล้วผ่านการวิเคราะห์ทางโมเลกุล

    นักสัตววิทยา ออมรี บรอนสไตน์ กล่าวว่า เชื้อโรคสามารถฆ่าได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยอาจสูญเสียประชากรเม่นทะเลได้ภายในเวลาเพียงสองวัน “เราได้เห็นสัญญาณการตายเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่เฉพาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่เกิดขึ้นในทะเลแดงทางตอนเหนือ ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วภูมิภาค และในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เรารู้ในปัจจุบัน คือเกิดขึ้นแม้กระทั่งนอกทะเลแดง”

    ดูเหมือนว่า เชื้อโรคจะกำลังมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก ไปยังน่านน้ำเขตร้อนนอกชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ของออสเตรเลีย

    บรอนสไตน์ กลัวว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้น แนวโน้มนี้กำลังจะเกิดขึ้น เขาจะไม่แปลกใจเลยหากจะได้รับรายงานจากส่วนอื่น ๆ ของโลกในเร็ว ๆ นี้

    สายพันธุ์เม่นทะเลที่ได้รับผลกระทบนั้น ถูกเรียกว่า "เครื่องตัดหญ้า" ของแนวปะการัง เนื่องจากพวกมันกำจัดสาหร่ายที่ปิดกั้นแสงแดดออกไป ทำให้ปะการังสามารถเจริญเติบโตได้

    ในอ่าวอะคาบา ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดเข้ามาทำหน้าที่แทน และทีมงานของบรอนสไตน์ ก็เริ่มเห็นการเติบโตของสาหร่ายปกคลุมแนวปะการังอย่างกว้างขวางแล้ว และบรอนสไตน์ กล่าวว่า ยังไม่รู้วิธีการในการหยุดการระบาดของโรคนี้ด้วย แต่เขาบอกว่า ยังคงมีโอกาสที่จะสร้างประชากรเม่นทะเลที่ถูกแยกตัวออกมา ซึ่งหวังว่าจะได้รับการปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในภายหลัง

    ขณะนี้ ทีมของบรอนสไตน์ กำลังร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วภูมิภาคเพื่อเพื่อทำแผนที่การระบาดใหญ่และรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
    _____
    ภาพ: Getty Images

    #TNNWorldNews #เม่นทะเล #อูนิ #โรคระบาด #ทะเลแดง #ปะการัง
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNN
    ได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originals
    ที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals

    https://www.facebook.com/share/p/iAS83SpGh8cs8e8x/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤติ ‘ประมงพื้นบ้านไทย’ โลกร้อน โรงงานอุตสาหกรรมทำพิษ ทะเลมีแต่ขยะ จับสัตว์ได้น้อยลง
    .
    กรุงเทพธุรกิจได้พูดคุยกับ วิภาวดี แอมสูงเนิน Oceans campaigner นักรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร ของกรีนพีซประเทศไทย ถึงการต่อสู้เพื่ออนุรักษ์ทะเลของชุมชนและสถานการณ์ทะเลไทย โดยวิภาวดีเล่าว่ากรีนพีซ ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวกันทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูล ในการประเมินสิ่งแวดล้อม หรือ SCA จนได้ออกมาเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาจะนะ 15 ข้อ เช่น ความมั่นคงทางอาหาร พลังงานหมุนเวียน
    .
    วิภาวดีย้ำอีกครั้งว่า ในการรวบรวมข้อมูลทุกขั้นตอนชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมเสมอ เพราะการพัฒนาที่ดีควรจะต้องคำนึงถึงความต้องการของคนในพื้นที่ ข้อมูลที่ได้มาจะสามารถมออกแบบเป็นนโยบายพัฒนาที่มันยั่งยืนมากขึ้น และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เพิ่มเติม
    .
    ขณะเดียวกัน ชาวบ้านรวมตัวกันสร้าง “พื้นที่คุ้มครองทางทะเล” ตามพื้นที่ชายฝั่งกันมากขึ้น ซึ่งชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบการอนุรักษ์ และสามารถใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน หลายชุมชนทำเรื่องขอจดทะเบียนกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะชุมชนเข้มแข็ง
    .
    อีกมุมหนึ่ง นโยบายต่าง ๆ ของรัฐไม่ได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการอนุรักษ์ที่ชาวบ้านทำมา “หลายครั้งที่นโยบายรัฐบาลมันเบี้ยหัวแตกมาก ๆ อย่างเมื่อก่อนบอกชุมพรว่าให้อนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติ พอชาวบ้านทำกันมา 30 ปี ก็จะเอาแลนด์บริดจ์มาลง กลายเป็นว่าความพยายามที่ผ่านมา เราทำไปเพื่ออะไร ถ้าเกิดขึ้นทุกอย่างมันจะพังไปหมดเลยที่เราทำมาทั้งหมด” วิภาวดีกล่าว
    .
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอีกปัจจัยที่สร้างผลกระทบร้ายต่อประมงพื้นบ้านและท้องทะเลไทยเช่นกัน โลกเดือดทำให้เมตาบอลิซึมภายในตัวปลาพัง เหมือนปลาเป็นฮีทสโตรก และลอยตายขึ้นมา โดยเฉพาะพวกปลามูลค่าสูง เช่น ปลากะพง
    .
    ส่วนสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ยังพอปรับตัวได้ ก็จะย้ายไปอยู่ในพื้นที่เย็นกว่า หากมีการก่อสร้างอุตสาหกรรมจะทำให้สัตว์น้ำหนีไปไกลกว่าเดิม กลุ่มประมงพื้นบ้านจับสัตว์น้ำได้ยากกว่าเดิม
    .
    ขณะนี้คราบน้ำมันทั้งจากเรือขนส่ง เรือประมงต่าง ๆ รวมไปถึงจากโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำก็จะทำให้ปลามีกลิ่น สีเปลี่ยนไป มีก้อนน้ำมันอยู่ในตัว และตายลงในที่สุด
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1130591?anm=
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจClimate

    https://www.facebook.com/share/p/jE9QsovBZ5KKzE6B/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาหร่ายญี่ปุ่นขาดแคลนหนัก ราคาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากอากาศแปรปรวน
    .
    อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วัตถุดิบสำคัญอย่างสาหร่ายกลับประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำอย่างหนัก ทั้งสาหร่ายวากาเมะ (Wakame), โนริ (Nori), และคอมบุ (Kombu) ต่างได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและอุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสาหร่ายพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก
    .
    อ่านเพิ่มเติม : https://www.amarintv.com/spotlight/sustainability/detail/65638
    .
    #สาหร่ายญี่ปุ่นลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ #สาหร่าย #วิกฤตอาหาร #วากาเมะ #โนริ #คอมบุ #ผลผลิตตกต่ำ #ราคาพุ่ง #ญี่ปุ่น #สภาพอากาศ

    https://www.facebook.com/share/Wqj9ZSaGjM1MbHY8/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บทสวดมนต์

    ดาวน์โหลดไปสวดมนต์กันครับ ขออนุโมทนา ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทิพมนต์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1618.pdf
      ขนาดไฟล์:
      11.7 MB
      เปิดดู:
      69
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fed เปลี่ยนใจ !!!

    ล่าสุด ส่งสัญญาณว่า

    จะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ปีนี้

    ในเดือนธันวาคม

    เดี๋ยวมาฟังท่านประธานเฟดอธิบาย

    แล้วมาลุ้นว่าตลาดจะปรับตัวอย่างไร

    #Fed
    4oYkFo6zkGxtJbPQhxXUG04LXTb07RAkLkP48s3&_nc_ohc=2YZ-ktlxHTQQ7kNvgEWiob3&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    upload_2024-6-13_8-50-59.png
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 13, 2024 ปลดแรงอีก! เฟดเอ็กซ์ สั่งปลดพนักงานครั้งใหญ่มากถึง 2,000 คน ตลาดส่งพัสดุภัณท์ในยุโรปซบเซาหนัก ประหยัดค่าใช้จ่ายปีละกว่า 6,400 ล้านบาท
    เฟดเอ็กซ์ (FedEx) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานจำนวนมากระหว่าง 1700 ถึง 2000 คนในตลาดยุโรป โดยพนักงานที่เข้าข่ายจะถูกปลดออกในครั้งนี้ จะเป็นพนักงานด้านสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือพนักงานที่อยู่ในสำนักงาน เนื่องจากธุรกิจการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ในภูมิภาคยุโรปซบเซาอย่างต่อเนื่อง และกำไรจากการบริการส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งถือเป็นตลาดขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเฟดเอ็กซ์นั้น มีการเติบโตขึ้นอย่างเบาบาง
    สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจการจำนวนมากในครั้งนี้จะทยอยภายในระยะเวลา 18 เดือนนับจากนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้เฟดเอ็กซ์มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการปลดพนักงานในครั้งระหว่าง 250-375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 9,250-13,875 ล้านบาท ในขณะที่เฟดเอ็กซ์สามารถที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึงปีละระหว่าง 125-175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 4,625-6,475 ล้านบาท
    เฟดเอ็กซ์ตั้งเป้าหมายในการตัดลดค่าใช้จ่ายว่า ภายในสิ้นปีงบประมาณปี 2025 จะต้องลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 148,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้รวมถึงการตัดลดค่าใช้จ่ายในปี 2024 นี้ที่ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 66,600 ล้านบาท การตัดลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเครือข่ายการขนส่งสินค้า และควบคุมความสามารถในการให้บริการที่เข้มข้นมากขึ้น
    ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์ ให้บริการกระจายอยู่ในมากกว่า 45 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจใน ทวีปยุโรปมีการจ้างงานพนักงานในปัจจุบัน มากกว่า 52,000 คน
    #เฟดเอ็กซ์ #ปลดพนักงาน #ตกงาน #ส่งสินค้า #พัสดุภัณท์ #ยุโรป #เศรษฐกิจ #BTimes


    upload_2024-6-13_8-52-23.png
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 12, 2024 โต้ยันกลับ! แบงก์ชาติยันยอดปิดโรงงานไม่น่าห่วงอะไร ไม่เป็นปัญหา ยอดปิดโรงงานลดลง จ้างคนงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่าถูกเลิกจ้าง สวนข้อมูล KKP Research เปิดตัวเลขปิดโรงงานสุทธิร่วงชัดเจน
    นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า เกี่ยวกับยอดปิดโรงงานในประเทศไทยนั้น ควรมองให้ครบรอบด้าน ทั้งการเปิดและปิดกิจการ ช่วงที่ผ่านมาก็สะท้อนการเปิดมากกว่าปิดโรงงาน ซึ่งเป็นกลไกเศรษฐกิจ การย้ายโรงงานก็อาจจะเพื่อไปหาที่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเทิร์นโอเวอร์มีขึ้น อย่างไรก็ดี มองว่าตอนนี้ยังไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาในภาพใหญ่ของการปิดโรงงาน
    หากดูตัวเลขปิดกิจการ พบว่าลดลงกว่าในช่วงที่ผ่านมา อัตราการเปิดธุรกิจสูงกว่า หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การเปิดกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 8% และยังมีจำนวนพนักงานจ้างใหม่มากกว่าพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง เม็ดเงินการลงทุนยังคงเป็นบวกอยู่
    ขณะที่เมื่อวานนี้ สำนักวิจัย KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนจากทั้งดัชนีการผลิตที่หดตัวลงติดต่อกันเกินกว่า 1 ปี ยอดปิดโรงงานที่เพิ่มขึ้น และหนี้เสียในภาคการผลิตที่กำลังเร่งตัว แม้ว่ายอดเปิดโรงงานจะยังเยอะกว่ายอดปิดโรงงานในภาพรวม แต่สถานการณ์มีความแตกต่างกันในแต่ละภาคการผลิต
    สำนักวิจัย KKP Research เปิดเผยต่อสัญญาณไปว่า สัญญาณถัดมาที่น่ากังวลกว่านั้น คือ ข้อมูลการปิดโรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่เร่งตัวขึ้นชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023 โดยค่าเฉลี่ยการปิดโรงงานของไทยอยู่ที่ 57 โรงงานต่อเดือนในปี 2021 และ 83 โรงงานต่อเดือนในปี 2022 ในขณะที่พุ่งสูงขึ้นถึง 159 โรงงานต่อเดือนในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ส่งผลให้หากนับรวมตั้งแต่ต้นปี 2023 มาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2024 มีโรงงานปิดตัวลงไปแล้วกว่า 1,700 แห่ง กระทบการจ้างงานกว่า 42,000 ตำแหน่ง
    ไม่ใช่แค่โรงงานปิด แต่โรงงานเปิดใหม่ก็ลดลงเช่นกัน การปิดตัวของโรงงานเพียงอย่างเดียวอาจไม่สะท้อนภาพทั้งหมด แต่ตัวเลขการเปิดตัวโรงงานใหม่ที่ลดลงกว่าในอดีตยังย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมไทยที่ไม่ดีนัก เพราะการเปิดโรงงานใหม่มีทิศทางที่ชะลอตัวลงเช่นกัน จึงทำให้ยอดการเปิดโรงงานสุทธิ (จำนวนโรงงานเปิดหักลบด้วยโรงงานปิด) ในภาพรวมชะลอตัวลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยที่เป็นบวกสุทธิประมาณ 150 โรงงานต่อเดือน ลดลงเหลือเพียง 50 โรงงานต่อเดือน หรือกว่า -66%

    #ปิดโรงงาน #ตกงาน #ปลดพนักงาน #เศรษฐกิจ #ไทย #เอกชน #ลดผลิต #BTimes

    upload_2024-6-13_8-53-32.png
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 12, 2024 หาเงินไม่ทัน! รัฐเสี่ยงหาเงินไม่ทันค่าใช้จ่ายดูแลผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพอย่างเดียวจ่อพุ่งกว่า 1 เท่า เกิน 160,000 ล้านใน 5 ปีหน้า เตือนรีบปรับเงื่อนไขก่อนเงินกองทุนประกันสังคมหมดเกลี้ยง หลังรายจ่ายพุ่ง 10% แซงรายรับมีแค่ 3%
    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สังคมสูงวัยจะเพิ่มภาระทางการคลังทั้งด้านรายรับและรายจ่ายของรัฐ จากโครงสร้างสังคมสูงวัยของไทยอาจทำให้สถานภาพทางการคลังของรัฐเผชิญความเสี่ยงทั้งด้านรายรับจากการเก็บภาษีได้น้อยลงตามประชากรวัยแรงงานที่ลดลงในระยะข้างหน้า สวนทางกับรายจ่ายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ทั้งเงินที่ต้องจ่ายให้หลังเกษียณ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ สะท้อนจากงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐด้านสวัสดิการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นโตยเฉลี่ย 6% ต่อปี (CAGR 2014-2024)
    สังคมสูงวัยจะกระทบต่อภาระทางการคลังของภาครัฐในระยะข้างหน้า ดังนี้ รายจ่ายสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรสูงวัยและอัตราการจ่ายเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ภาครัฐมีการปรับรูปแบบการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อให้มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีพมากขึ้น โดยการยกเลิกการจ่ายแบบขั้นบันไดมาเป็นจ่าย 1,000 บาทเท่ากันทุกช่วงวัย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ และอยู่ระหว่างรอเสนอครม.เพื่อพิจารณา ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคาดว่าจะยังคงเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากในปี 2024 ภาครัฐได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้ราว 9.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2029 ที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด รายจ่ายส่วนนี้อาจไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนล้านบาท
    รายจ่ายสวัสดิการด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% (CAGR 2014-2024) ซึ่งปี 2014 งบประมาณส่วนนี้ของรัฐอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท ในปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) อยู่ที่ราว 2.2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 62% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกตามการดูแลรักษาพยาบาลที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย อีกทั้ง ปัจจุบันประชาชนยังสามารถยื่นใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาพยาบาลได้ทุกที่ทั่วประเทศ ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งปัญหาฝุ่น PM 2.5 และโรคอุบัติใหม่ ก็อาจทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
    กองทุนประกันสังคมที่เป็นสวัสดิการหลักของแรงงานไทยราว 25 ล้านคน อาจไม่เพียงพอ และหมดลงในระยะข้างหน้าหากไม่มีการปรับเงื่อนไข เนื่องจากรายได้ที่เก็บจากกลุ่มคนวัยทำงานในระบบประกันสังคมไม่ได้เพิ่มขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับรายจ่ายรวมของกองทุนประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเงินที่จ่ายหลังเกษียณและสวัสดิการด้านสุขภาพต่างๆ สะท้อนจากในช่วงปี 2014-2023 รายจ่ายรวมขยายตัวเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่ รายรับรวมขยายตัวเฉลี่ยเพียงแค่ 3% ต่อปีเท่านั้น

    #สูงอายุ #คนแก่ #วัยเกษียณ #กองทุนประกันสังคม #รายจ่าย #งบประมาณ #รัฐบาล #ไทย #เศรษฐกิจ #BTimes

    upload_2024-6-13_8-54-40.png
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กนง. 6:1 ขอให้เป็นสัญญาณบวก | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
    .
    เป็นไปตามคาดสำหรับผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้ (12 มิ.ย.) ที่มีมติให้ “คง” ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% เช่นเดิม ด้วยมติ 6 ต่อ 1 เสียง เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 นับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2566
    .
    ขณะที่มี 1 เสียงเห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง
    .
    เพราะที่ผ่านมา การที่ดอกเบี้ยสูงเกินกว่าศักยภาพของภาคธุรกิจจะรับได้ ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินต่อทุน หนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง รวมทั้งปัญหาหนี้เสีย ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และลามไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่กันแล้ว
    .
    การปิดตัวของโรงงาน 1,700 แห่ง เป็นสิ่งที่ภาครัฐไม่ควรมองข้าม รวมทั้งตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่สภาพัฒน์ ประกาศออกมาล่าสุดขยายตัวได้ 1.5% ที่ต่ำเกือบอันดับท้ายๆ ในอาเซียน ยิ่งเห็นภาพการลงทุนของ 4 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ‘Nvidia, Microsoft, Google, ByteDance’ ใน “มาเลเซีย” เม็ดเงินมากกว่า 10,600 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน รัฐบาลไทยยิ่งต้องหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ต่างชาติ ยังไม่ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับกับอุตสาหกรรมนั้นๆ ส่วนหนึ่งมาจากภาคการผลิตการลงทุนส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิม
    .
    เห็นได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมติดลบ 18 เดือน สะท้อนถึงขีดความสามารถในการแข่งขัน และบ่งบอกว่าอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
    .
    การที่ กนง. คงดอกเบี้ยติดต่อกัน 4 ครั้ง น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีสัดส่วน 80-90% ของจีดีพีไทย ที่ตอนนี้มีปัญหาสภาพคล่อง หนี้สินต่อทุน หรือหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ไม่ต้องกังวลดอกเบี้ยจะสูง มีความเป็นไปได้ในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา และมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs ที่มีศักยภาพ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อและสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้
    .
    ขณะเดียวกันเราจะทำอย่างไรให้ปรับโครงสร้างภาคการผลิตไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้ จากการที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตฮาร์ดดิสก์โลก ให้สามารถต่อยอดถึงการลงทุนยุคใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ดึงการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์
    .
    รัฐบาลจะมียุทธศาสตร์อย่างไรถึงจะทำให้มีศูนย์กลางผลิตชิประดับโลกเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือมีแผนในการส่งเสริมภาคธุรกิจด้านการออกแบบ และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงสำหรับชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เป็นทางรอดของประเทศ ที่สำคัญต้องปรับโครงสร้างการผลิตครั้งใหญ่อย่างจริงจัง เพราะการผลิตแบบเดิมและซ้ำๆ แบบเก่าไม่สามารถแข่งขันและดึงการลงทุนได้

    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    upload_2024-6-13_8-57-47.png
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด รอเงินเฟ้อสหรัฐลงสู่เป้า 2% Dot Plot ชี้ปีนี้ลดครั้งเดียว
    .
    สรุปผลประชุม Fed คงดอกเบี้ยตามคาด Dot Plot ชี้ปีนี้ลดดอกเบี้ยครั้งเดียว 'พาเวล'ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อสหรัฐลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%
    .
    สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ซึ่งตรงกับเวลา 01.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย ผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ตามคาด สัญญาณดูเหมือนจะอ่อนลงโดยระบุ “มีความคืบหน้าเล็กน้อย” ในการลดเงินเฟ้อ
    .
    เฟดคาดการณ์ว่า"อัตราดอกเบี้ยสูงสุด" สำหรับปีนี้จะอยู่ที่ 5.1% ซึ่งเทียบเท่ากับช่วงเป้าหมายที่ 5.00% - 5.25% นั่นหมายความว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งปรับลดลงจากการคาดการณ์ในเดือนมีนาคมที่คาดว่าจะมีการลดลง 3 ครั้ง ถือเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกัน 7 ครั้ง และเป็นระดับอัตราสูงสุดในรอบ 23 ปี
    .
    ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ "dot plot" ซึ่งแสดงมุมมองของกรรมการเฟดทั้ง 19 คน ทั้งผู้มีสิทธิ์ออกเสียงและไม่มีสิทธิ์ออกเสียง โดย
    .
    กรรมการ 4 คน เห็นด้วยที่จะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
    กรรมการอีก 7 คน คาดการณ์ว่าจะมีการลดลง 1 ครั้ง
    กรรมการที่เหลืออีก 8 คน คาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2567
    .
    แม้ว่ารายงานของรัฐบาลสหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อในเดือน พ.ค. ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาสินค้าต่าง ๆ เมื่อช่วงต้นปีนี้ได้เริ่มลดลงแล้ว
    .
    1f4cc.png ภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างดี
    .
    แถลงการณ์ล่าสุดของเฟด เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งจากอัตราการว่างงานต่ำ โดยเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลงแต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย คือบรรลุการจ้างงานสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อที่ 2%
    .
    “โดยทั่วไปตัวชี้วัดหลายด้านบ่งชี้ว่า สภาพการณ์ในตลาดแรงงานฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ค่อนข้างตึงตัวแต่ไม่ร้อนแรงเกินไป” พาวเวลกล่าว
    .
    จากอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 218,000 คนต่อเดือนในเดือนเมษายนและพฤษภาคม อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ การสร้างงานมาจากแรงงานวัยกลางคนที่มีคุณภาพมากขึ้น
    .
    เฟดให้ความสำคัญกับตลาดแรงงาน ไม่เพียงแค่ผลกระทบต่อเงินเฟ้อเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะธนาคารกลางได้รับมอบหมายจากรัฐสภาให้มุ่งสู่การมีการจ้างงานสูงสุดอย่างชัดเจน หากตลาดแรงงานอ่อนแอลงโดยไม่คาดคิด สิ่งนี้อาจบังคับให้เฟดต้องพิจารณาการลดอัตราดอกเบี้ย แต่พาเวลล์ดูไม่กังวลเลย
    .
    สำหรับปี 2568 เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งเท่ากับเป้าหมายการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ 1%
    .
    1f4cc.png นักวิเคราะห์คาดคงดอกเบี้ยระดับสูง
    .
    แอนนา หว่อง นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐจากบลูมเบิร์กอีโคโนมิกส์ ให้ความเห็นต่อ Dot Plot ฉบับล่าสุดของเฟดว่า สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่เข้มงวดขึ้นของสมาชิก FOMC เกี่ยวกับนโยบายการเงินจำนวนมาก
    .
    Dot Plot ที่แสดงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวที่สูงกว่าคาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่าสมาชิก FOMC หลายคนมีความเชื่อมั่นว่า จำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 2%
    .
    หว่อง อธิบายเพิ่มเติมว่า การปรับแก้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะยาว นำเสนอมุมมองใหม่ต่อคณะกรรมการ กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามว่า นโยบายการเงินปัจจุบันนั้นเข้มงวดเพียงพอหรือไม่
    .

    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1131182?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจWealth #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    upload_2024-6-13_8-58-50.png
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Indonesia: กระทรวงรัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซียเริ่มทดลองทำงาน 4 วัน ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพนักงาน

    การทดลองทำงาน 4 วันจะเริ่มในสัปดาห์นี้ ยาวนานต่อเนื่องไป 2 เดือน ระหว่างการทดลอง พนักงานในกระทรวงจะได้รับสิทธิ์สมัครใจทำงาน 4 วันในทุก ๆ 2 สัปดาห์ แต่ต้องทำงานให้ได้อย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เหมือนเดิม นั่นหมายความว่าต้องทำงานวันละอย่างน้อย 10 ชั่วโมง แทนที่ 8 ชั่วโมงแต่ทำงาน 5 วัน และจะต้องมีผลการประเมินจากหัวหน้างานด้วย

    ราบิน อินดราจาด ฮัตตารี เลขาธิการกระทรวงกล่าวว่า การทดลองนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาว่า การทำงานสัปดาห์ละ 4 วันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานหรือไม่ และจะทดลองว่าระดับหัวหน้าหรือผู้จัดการจะสามารถจัดการทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน ภายใต้การทำงาน 4 วัน ซึ่งเลขาธิการกระทรวงก็เตือนว่า การทำงาน 4 วัน วันละ 10 ชั่วโมงนี้คือการทำงานหนัก ซึ่งพนักงานก็สมควรต้องได้สิทธิ work-life balance ด้วย

    โครงการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นี้ถูกเสนอโดยรัฐมนตรีกระทรวงรัฐวิสาหกิจเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้สุขภาพจิตของพนักงานดีขึ้น เนื่องจาก 70% ของคนอายุน้อยในประเทศมีปัญหาสุขภาพจิต จนทำให้ส่งผลกระทบกับการทำงาน

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่าการทำงาน 4 วันจะถูกขยายไปยังกระทรวงอื่นอีกหรือไม่ แต่หน่วยงานส่วนมากที่ใช้การทำงานแบบนี้คือ บริษัทสตาร์ทอัป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และแฟลตฟอร์มการระดมทุนต่าง ๆ
    —————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #อินโดนีเซีย #ทำงาน4วัน #ทำงาน #worklifebalance
    #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    1f4f2.png ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNN
    ได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originals
    ที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals

    upload_2024-6-13_9-1-14.png
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูหน้าคนนี้ไว้
    นาทีนี้ สถานะยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่า "กุส ฮิดดิงค์" สำหรับคนเกาหลีใต้!!!!!
    บุรุษผู้นี้ คือ นักธรณีวิทยาผู้ค้นพบขุมทรัพย์ {น้ำมันดิบ และ ก๊าซธรรมชาติ} ที่แดนกิมจิ --- มหัศจรรย์สวรรค์ประทาน!
    "วิเตอร์ อาเบรอ" Vitor Abreu นามนี้ จักพลิกชะตาความมั่งคั่งของเกาหลีใต้
    รู้หรือไม่ เกาหลีใต้ ปัจจุบัน นำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก
    (3 ล้านบาร์เรล/วัน --- เยอะกว่าไทย 3 เท่า)
    และนำเข้าก๊าซทางเรือ LNG มากที่สุดอันดับ 3 ของโลก
    (44 ล้านตัน/ปี ; ตัวเลขปี 2023)
    การค้นพบนี้จะเปลี่ยนแปรอะไร?
    เกาหลีแทบผลิตน้ำมันและก๊าซไม่ได้เลยนะครับท่าน แค่เศษ
    แต่บ่อน้ำมันและก๊าซที่ "วิเตอร์ อาเบรอ" นำบริษัท ACT-Geo สำรวจพบนั้น มีปริมาณมหึมาถึง 1.4 หมื่นล้านบาร์เรล
    น้ำมันดิบ พอเลี้ยงทั้งประเทศได้ 4 ปี ... ก็งั้นๆ
    ก๊าซ พอเลี้ยงได้ 29 ปี ... ไม่ธรรมดา
    คงไม่ต้องบอกนะครับท่าน ว่าปกติต้องใช้เงินมหาศาลเท่าใดในแต่ละปี เพื่อนำเข้าน้ำมันและก๊าซ
    แล้วการเจอบ่อน้ำมันและก๊าซในน่านน้ำของตัวเองแบบนี้ จะช่วยประหยัดงบได้แค่ไหน
    เหลือเชื่อ
    บริษัทน้ำมันแห่งชาติเกาหลีใต้ KNOC จับมือกับ "วู้ดไซด์ เอเนอร์จี" ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย สำรวจมาตั้ง 15 ปี แต่คว้าน้ำเหลว จนกระทั่งต้องขอถอนตัวออกไปเมื่อปีที่แล้ว โดยทิ้งท้ายว่า "ไม่มีหวัง"
    แล้วก็เป็นบริษัท ACT-Geo ของ "วิเตอร์ อาเบรอ" จากอเมริกาเข้ามาเสียบ
    บริษัทนี้ มีพนักงานแค่ 14 คน! และแทบไม่มีใครรู้จักเลยในวงการ
    แต่แล้วก็สร้าง "วาระระดับชาติ"
    ประธานาธิบดีแถลงข่าวใหญ่โตออกทีวี
    ประชาชีแซ่ซ้องกันทั่วหล้า
    สู่อนาคตที่เจิดจ้า
    ขุดเอง ใช้เอง จ่ายให้ตัวเอง
    สบายแฮ

    https://www.eia.gov/international/analysis/country/KOR
    https://lngprime.com/.../south-koreas-kogas.../112203/

    ttps://www.facebook.com/photo?fbid=841821941143517&set=a.108937161098669
    upload_2024-6-13_9-2-13.png
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เกิดเพลิงอาเพศ ไหม้ฉิบหาย”
    โพสต์บอกล่วงหน้าเป็นเดือนแล้ว ซื่อสัตย์และมั่นคง อย่าจ้องแต่สร้างภาพหรือขายของ ดวงดาวดีร้ายทำนายตามนั้น ยังไงก็แม่น!!
    ช่วงนี้วิญญาณเยอะเลย ทั้งคนทั้งสัตว์ถูกฆ่าเผาตายรายวัน.. อีกเดือนกว่า “ประตูนรก” จะเปิด เข้าสู่เทศกาลเดือนผีหิวโหย..
    1. ผู้ที่เกิดปีอาถรรพ์เบญจเพส (พ.ศ.เกิด ลงท้ายด้วย ๒ หรือ ๘ )
    2. ผู้ที่เกิดปีชง (ปีจอ)
    3. ลัคนาพฤษภ ตุลย์ พิจิก กุมภ์ มีน”
    สะสมแต้มบุญเก็บไว้ล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย!!
    วันนี้ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง
    อย่าลืมฉัน “วันโกน” #โหรรัตนโกสินทร์
    ttps://www.facebook.com/photo/?fbid=884456823699079&set=a.421206786690754

    sR0lZzCitmBvNzqjtBlSN_8-sj7vW1UCPLpxVvD&_nc_ohc=KAvwKZYMCm0Q7kNvgGHFot6&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg


    upload_2024-6-13_9-8-16.png
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 14, 2024 ขานรับ! แบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐ รับลูกแบงก์ชาติ มาตรการยกระดับจัดการภัยการเงิน สกัดบัญชีม้า มิจฉาชีพ

    นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงปัญหาภัยคุกคามทางการเงินที่ทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนยกระดับมาตรการจัดการภัยคุกคามทางการเงิน และการจัดการบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง มีแนวทางปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น สอดรับกับรูปแบบภัยการเงินที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อดูแลลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินของประเทศ
    โดยสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก พร้อมสนับสนุนการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินของ ธปท. โดยจัดทำแนวทางปฎิบัติภาคธนาคารร่วมกัน ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการป้องกันบัญชีม้าที่จะเปิดใหม่ และการขยายผลตรวจจับบัญชีม้าที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะยกระดับการป้องกันบัญชีม้า 2 ส่วน ดังนี้
    1. มาตรการป้องกันบัญชีม้าเปิดใหม่ โดยจะมีการประเมินความเสี่ยงของบุคคลที่มาเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ว่ามีแนวโน้มจะนำบัญชีไปใช้ทุจริตหรือไม่ เช่น การเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ สำหรับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในรายชื่อ "บุคคลมีความเสี่ยงสูง" หรือกลุ่มบุคคลที่มีข้อสงสัยว่า "อาจ" เป็นบัญชีม้า หรือ "เคย" เป็นบัญชีม้ามาก่อน

    2. มาตรการขยายผลการตรวจจับ และการจัดการบัญชีม้าให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีที่อาจเป็นบัญชีม้าข้ามธนาคาร การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีบัญชีกับธนาคาร (กระบวนการ CDD) และการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากหน่วยงานราชการกับธนาคาร เป็นต้น เพื่อให้แต่ละธนาคาร นำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการตรวจจับบัญชีต้องสงสัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    เมื่อธนาคารตรวจพบบัญชีต้องสงสัย จะดำเนินการตามมาตรการขั้นต่ำ โดยระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ทันที เพื่อให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตน และแสดงหลักฐานว่าเป็นผู้ใช้บัญชีจริง และไม่ได้นำบัญชีไปใช้ทำทุจริต พร้อมนำส่งข้อมูลบัญชีต้องสงสัยไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและออกคำสั่งทางปกครอง เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยต่อไป โดยปัจจุบัน ธนาคารได้ปิดช่องทางออนไลน์ของบัญชีต้องสงสัยไปแล้วกว่า 300,000 บัญชี

    นายผยง กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการเปิดบัญชีม้า หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้าว่า มีโทษตามกฎหมาย อีกทั้งภาคธนาคาร มีมาตรการจัดการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดทันที และพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ตลอดจนมาตรการอื่นที่จะมีการกำหนดเพิ่มเติม รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ หรือพัฒนากำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานของโมบายแบงกิ้งเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับลูกค้าในอนาคต

    โดยภาคธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้บริการ หรือการทำธุรกรรมของลูกค้าทั่วไป โดยปริมาณธุรกรรมที่ต้องสงสัย นับเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับธุรกรรมทั้งหมดในระบบของธนาคาร โดยสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก เชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าว จะทำให้สามารถตรวจจับบัญชีม้าในระบบ และลดบัญชีม้าเกิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน ประกอบด้วย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Telco) เพื่อพัฒนาแนวทางในการจัดการภัยคุกคามทางการเงินในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
    ด้าน นายวิทัย รัตนากร ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) กล่าวว่า ตามที่ ธปท. ได้กำหนดให้ทุกธนาคารดำเนินนโยบายมาตรการบริหารจัดการภัยทุจริตทางการเงินนั้น สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ได้ปรับปรุงการให้บริการทางการเงิน ด้วยแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องตามมาตรการ และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสมาคมธนาคารไทย ทั้งด้านธรรมาภิบาล และด้านการบริหารจัดการภัยทุจริต เพื่อให้มีมาตรการป้องกัน ตรวจจับภัยทุจริตทางการเงิน ตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งได้มีการร่วมหารือ การให้คำปรึกษา ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ระหว่างธนาคารสมาชิกตลอดที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินของรัฐ ยังมีกลุ่มลูกค้าบางส่วนที่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องให้การดูแล และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มลูกค้าฐานราก และภาคเกษตรที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร หรือการประชาสัมพันธ์การแจ้งภัยทุจริตทางการเงิน

    สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จึงมีแผนในการพัฒนา และยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของ Mobile Banking หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ให้สอดคล้องกับมาตรการบริหารจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ด้วยการจำกัดการโอนเงินเฉพาะระหว่างบัญชีของตนเอง บุคคลในครอบครัว และการสแกนจ่ายภายในวงเงินที่จำกัด เป็นต้น

    ทั้งนี้ จะเหมาะสำหรับผู้ที่กังวลภัยจากมิจฉาชีพที่หลอกให้โหลดแอปดูดเงิน การข่มขู่หรือหลอกลวงให้โอนเงิน การหลอกให้ลงทุน หรือผู้ที่ไม่กล้าใช้ Mobile Banking โดยมีแผนจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 3 ถึง 6 เดือน ตัวอย่างเช่น ธนาคารออมสิน จะออก Function ใหม่ ที่เรียกว่า "MyMo Secure Plus" ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #แบงก์พาณิชย์ #แบงก์รัฐ #สมาคมธนาคารไทย #แบงก์ชาติ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/GAqmUGrUrHujFBa4/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 14, 2024 ไม่ได้ชี้นำ! ‘พีระพันธุ์’แจงสนพ.ขอบางจาก ปตท.รับซื้อ B100 33-35 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อดันราคาปาล์ม ไม่มีเจตนาใช้กำหนดราคาตลาด แนะค้าภายในออกประกาศราคารับซื้อลานเท ช่วยเกษตรกรได้จริง

    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรที่มีราคาตกต่ำ ก่อนการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุม ครม. เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอให้ทางกระทรวงพลังงานช่วยดำเนินการให้ผู้ค้าน้ำมัน เช่น บมจ. ปตท. และ บมจ. บางจาก รับซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ B100 ที่นำมาใช้ผสมน้ำมันดีเซล ในราคาประมาณ 33-35 บาทต่อกิโลกรัม ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ประกาศไว้ โดยทางกระทรวงเกษตรฯ เล็งเห็นว่า หากผู้ประกอบการผลิตน้ำมันปาล์ม B100 สามารถขายได้ในราคาสูงขึ้น ก็จะสามารถไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO จากโรงหีบหรือโรงสกัดในราคาสูงขึ้นได้ แล้วโรงหีบหรือโรงสกัดก็จะไปซื้อผลปาล์มจากลานเทในราคาสูงขึ้น ทำให้ลานเทสามารถขยับราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรสูงขึ้นได้ตามลำดับ

    นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้รับเรื่องที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากการตรวจสอบพบว่ากระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะบังคับให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อน้ำมันปาล์ม B100 ในราคาที่ สนพ. ประกาศ และประกาศของ สนพ. มีเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของ สนพ. เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใช้เป็นราคาซื้อขายแบบประกาศของกระทรวงพาณิชย์

    ทั้งนี้ได้เสนอแนะว่า หากต้องการจะช่วยเหลือเกษตรกรจริง ๆ แล้ว ควรให้กระทรวงพาณิชย์กำกับให้ลานเทรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตามกฎหมายมากกว่า เพราะปัญหาในปัจจุบันก็คือ ลานเทส่วนมากไม่รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ในขณะที่โรงหีบหรือโรงสกัดส่วนใหญ่กลับเป็นผู้รับซื้อผลปาล์มจากลานเทตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ

    (มีต่อหน้า 2/2)

    (ต่อหน้า 2/2)
    นายพีระพันธุ์ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาการรับซื้อผลปาล์มที่ลานเทว่า ปัจจุบันยังไม่มีการขึ้นทะเบียนลานเทว่า มีจำนวนเท่าใด ขนาดใด ในขณะที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำราคามาตรฐานของราคาปาล์มในแต่ละขั้นตอนไว้ว่า หากราคาขาย CPO อยู่ที่ 32-33 บาท ราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ลานเทจะต้องอยู่ที่ประมาณ 5.50 - 5.75 บาท ซึ่งปัจจุบันราคา CPO อยู่ที่ 32-33 บาท ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ควรต้องประกาศราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ลานเทในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท จึงจะเป็นการช่วยเกษตรกรได้อย่างแท้จริงมากกว่าการขึ้นราคาซื้อ B100 แต่ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ประกาศราคารับซื้อผลปาล์มที่ลานเทที่ประมาณ 4.10 - 4.50 บาทเท่านั้น ขณะที่ลานเทรับซื้อจริงที่ประมาณ 3.90 บาทเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เกิดปัญหา

    อย่างไรก็ดี นายพีระพันธุ์ได้นำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวในการหารือระหว่างรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ก่อนการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมหารือด้วย ซึ่งรัฐมนตรีทุกท่านเห็นด้วยกับแนวทางที่นายพีระพันธุ์เสนอ โดยตกลงกันว่าจะให้เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด รวมทั้งเกษตรจังหวัด ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มที่ลานเทในทุกจังหวัด และกระทรวงพาณิชย์จะไปพิจารณาปรับปรุงประกาศกำหนดราคารับซื้อผลปาล์มตามตารางของกรมการค้าภายในต่อไป

    ขณะเดียวกันจะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานหารือขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้รับซื้อ B100 ในราคาที่สูงขึ้น โดยจะกำหนดให้ผู้ประกอบการผลิต B100 ต้องจัดการให้โรงหีบหรือโรงสกัดและลานเทที่เป็นคู่ค้าในแต่ละช่วงมาทำข้อตกลงว่าจะปรับราคารับซื้อผลปาล์มในแต่ละช่วงขึ้นเป็นสัดส่วนเดียวกัน เพื่อให้ประโยชน์ตกแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง โดยที่ประชุมตกลงกันให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ไปกำกับดูแลในพื้นที่และทำการสำรวจและขึ้นทะเบียนลานเทให้ถูกต้องต่อไป

    #B100 #ไบโอดีเซล #ราคาปาล์มน้ำมัน #พลังงาน #พาณิชย์ #เกษตร #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/v3UsDmaRz1y2fMgk/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150

แชร์หน้านี้

Loading...