ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มือสั่น รับวันจันทร์! น้ำมันดิบถึง$100 & ทองถึง$2500แน่ ถ้ายิวยิงกลับไปที่แผ่นดินอิหร่าน สัปดาห์หน้ารู้กัน (พรุ่งนี้ เปิดgapแน่!)

    ได้รู้เรื่องกันครับ!!! !!! !!!
    ยังไงซะ วันจันทร์ เราได้เห็น gap แน่ๆ นะครับ 100% ทั้งน้ำมันดิบและทองคำตลาดโลก (เว้นแต่ว่าอิหร่านกับอิสราเอลจะจบสวยภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้!)
    ส่วนราคาจะบินไปถึงไหนต่อไหน --- ไอ้ที่จั่วหัวโพสต์ไว้ ใครบอก? ไม่ต้องใครบอกหรอกครับ! ไม่ต้องมีวาณิชธนกิจที่ไหนมาบอก ผมนี่แหละ (เพจเดือดฯ บอกเอง!!!!!) และไม่ต้องผมบอกหรอก จะชาวบ้านที่ไหนก็บอกเหมือนกัน เพราะสถานการณ์มันขนาดนี้แล้ว จะคนขายหมูปิ้งหรือคนขายปลาหางนกยูงก็เห็นเหมือนกัน
    น้ำมันดิบ ICE Brent พุ่งแตะ 92 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันศุกร์ (ก็เพราะไอ้ข่าวนี่นี้แหละ ร่ำๆ ว่าอิหร่านจะซัดอิสราเอลภายในวันเสาร์) แต่จนแล้วจนรอด ก็ปิดตลาดที่เหนือ 90 นิดๆ
    ทองคำ (สปอต) ก็คล้ายคลึงกัน ดีดทะลุ 2,400 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (และแน่นอน มันคือสถิติสูงสุดใหม่) ทว่าก็หย่อนลงมา กระทั่งปิดตลาดราว 2,300 ... กลายเป็นปิดต่ำกว่าวันก่อนหน้าด้วยซ้ำ
    ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ขายทำกำไรทั้งคู่ น้ำมันดิบสูงสุดรอบครึ่งปี ทองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะระดับนี้ได้ก็ขายก่อนล่ะครับ เพราะอิหร่านจะรบไม่รบจริงก็ไม่รู้ (และคาดกันว่าคงไม่ซัดจริงหรอก)
    ที่ไหนได้!!!
    เอาแล้วไง รับรอง gap ฉีกแน่วันจันทร์ ใหญ่เลย
    แต่ถัดจากนั้นล่ะ ถ้ายังฮึดฮัดงึดงัด ไม่รู้จะยังไงต่อ ราคาก็ยังมีแรงหนุนจากความเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่ดีแหละครับ ความเสียวสันหลังวาบ อกสั่นขวัญแขวน ระทึกขวัญสั่นประสาท หนุนนำให้ราคาขึ้นได้แยะเชียว
    ขณะนี้ risk premium ของน้ำมันดิบ อย่างต่ำๆ มี 5 ดอลลาร์/บาร์เรล ฉะนั้น 95 ได้เห็นแน่
    แต่จะไปไกลกว่านี้ไหม ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่อิสราเอลเลย เอาไม่เอา ถ้าเกิดตู้มไปลงแผ่นดินอิหร่านเมื่อไหร่ (ดักสกัดได้หรือไม่ได้นั่นอีกเรื่อง แต่ถ้ามีสักตู้มที่ยิงไป) ราคา 100 ดอลลาร์นี่เอาไม่อยู่แน่ครับ เราได้เห็นหลัก 100 อีกครั้ง ... ซึ่งไม่ได้เห็นมานานเท่าไหร่แล้วนะ
    โน่นเลยครับ ตั้งแต่เรื่องรัสเซียซา ก็ตั้งแต่สิ้น ส.ค. 2022 โน่น ร่วมๆ 2 ปีมาแล้ว!
    อิหร่านจัดให้
    ส่วนทอง ไม่ต้องพูดเยอะเลยครับ คนละภาพกับน้ำมันอยู่แล้ว เพราะ sentiment มันไปของมันอยู่แล้วล่ะครับ คำว่า 2,500 นั้น คำถามคือ "เมื่อไหร่" เท่านั้น
    อิหร่านมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ก็อาจจะเร็วเหลือเชื่อ ถ้าอิสราเอลซัดคืนสักดอก มีเห็นครับ 2,500
    (แต่ต่อให้อิสราเอลไม่ซัด ก็ยังอาจจะเห็นด้วยซ้ำภายในสัปดาห์หน้า)
    (แต่ย้ำอีกครั้งว่าคนละภาพ ถ้าเรื่องอิหร่าน-อิสราเอลสมมติจบ น้ำมันจะวูบ แต่ทองน่ะไม่เท่าไหร่ ผ่านไปสักพัก ไม่ช้าเกินไป ไม่เกิน 3-6 เดือน ยังไงได้มีเห็น 2,500 อยู่ดี)
    FB_IMG_1713087694590.jpg FB_IMG_1713087699672.jpg
    https://www.facebook.com/share/CU3EFmnT5PePxzGL/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    vongreyerz
    GOLD AND SILVER ENTERING EXPONENTIAL PHASE

    ทองคำกับซิลเวอร์กำลังจะเข้าเฟสพลังสูง

    Ralph Waldo Emerson. Apr 7, 2024

    ราคาของโลหะทั้งสองในอีกหลายเดือนและในปีจากนี้ไป จะเป็นที่น่าตื่นตามาก แฟคเตอร์จากทั้งทางเทคนิคัลและ fundamental ชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำที่สูงกว่า $3,000 และซิลเวอร์ที่สูงกว่า $50 เป็นเรื่องที่ไปถึงได้สบาย ๆ

    ตลอดมาในประวัติศาสตร์ ค่าของทองคำไม่เคยสูญเสียความมั่นใจของผู้คน..หรือยอมแพ้ให้กับเงินเฟียตเลยสักครั้ง

    จนแม้ Voltaire เองก็ยังกล่าวสิ่งที่เป็นสูตรเฉพาะไว้เมื่อปี 1729 ว่า
    "ในท้ายที่สุด เงินกระดาษก็จะต้องกลับไปหาค่าตั้งต้นของมัน...ศูนย์"

    แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังมองไม่ออกว่า เงินเฟียตทุกสกุล ในที่สุดจะต้องมีค่าเป็นศูนย์ ....แม้กระทั่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ก็ยังไม่เข้าใจว่า จริง ๆ แล้วมูลค่าของทองคำไม่ได้เพิ่มหรือลดลงเลย

    ทองคำยังคงอำนาจการแลกเปลี่ยน หรือ purchasing power ของมันอยู่ที่เดิม ...ราคาของเครื่องแต่งกายเต็มชุดของยุคโรมันอยู่ที่ทองคำหนัก 1 ออนซ์ ทุกวันนี้ชุดสูทหรูหรา ..ราคาก็อยู่ที่ทองคำ 1 ออนซ์เหมือนเดิม

    เรากำลังพูดผิดที่บอกว่าทองคำกำลังเพิ่มมูลค่า ....ที่จริงแล้ว ตัวของเงินเฟียต..ที่ใช้วัดค่าของทองคำต่างหากที่กำลังลดมูลค่าน่ะ นี่หมายถึงเงินเฟียตทั้งโลกเลยนะ

    จากภาพประกอบ จะเห็นค่าของยูเอสดอลลาร์ทีวัดค่า real term ของทองคำ ว่าลดลงมาตั้งแต่ปี 1971 แล้ว

    ทองคำ 1 ออนซ์ถูกตีราคาที่ $35 ในปี 1971 ทุกวันนี้ 53 ปีผ่านไป ทองคำ 1 ออนซ์เท่าเดิม ราคา $2,300 ....นี่หมายความว่าทองคำมีค่าเพิ่มขึ้น 66 เท่าใน 53 ปีหรือ?

    หรือยูเอสดอลลาร์สูญค่าไป 98.% ภายใน 53 ปี

    แล้วอีก 5 ปีจากนี้ล่ะ ค่าจะเปลี่ยนไปอีกเท่าไหร่?

    ที่ผ่าน ๆ มาราคาทองคำและซิลเวอร์ไม่เคยตามทันค่าจริง ๆ ของดอลลาร์ (หรือเงินเฟ้อ) เลย ....มันจึง undervalued มาตลอด

    ต่อเมื่อปรับค่าตามเงินเฟ้อแล้ว เราจึงได้เห็นราคาที่ควรจะเป็นจริงของทองคำ

    ตัวอย่างเช่น ราคาทองคำเมื่อปี 1980 ที่ $850 เมื่อปรับค่าเงินเฟ้อ (ที่เป็นทางการ) ตามค่าเงินปัจจุบัน ..คือ $3,590

    แต่ถ้าปรับค่าเงินเฟ้อจริง ๆ ที่ ShadowStat คำนวณไว้ ราคาทองคำเมื่อปี 1980 ที่ $850 จะเท่ากับค่าเงินปัจจุบันที่ $29,200 ต่อออนซ์

    GOLD – LONG SIDEWAYS MOVES FOLLOWED BY EXPLOSIONS

    ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูง จากนั้นก็ sideways อยู่เป็นเวลานาน หลังจากที่ราคาสูงขึ้นจาก $35 ในปี 1971 เป็น $850 ในปี 1980 ....ทองคำใช้เวลา correction อีก 20 ปี จนถึงปี 2000

    ตอนนั้นคือเวลาที่บอกได้เลยว่าทองคำพร้อมสำหรับ next run ...ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้น ..หนี้ ..และอนุพันธ์ เริ่มที่จะเป็นอันตราย

    ดังนั้นในปี 2002 กองทุนของเราจึงเริ่มการลงทุนครั้งใหญ่ในทองคำที่ราคา $300 ต่อออนซ์ ตอนนั้นผมคิดว่าควรจะใช้เงิน 50% ลงทุนใน physical gold เพื่อการปกป้องค่า wealth ...อีกทั้งเป็นเวลาที่เหมาะมาก เพราะทองคำเป็นที่รังเกียจ และ oversold ซึ่งสำหรับเรา น่าจะเป็นโอกาสดีเรื่องมูลค่า

    WE HAVE LIFTOFF!

    เมื่อราคาทองคำผ่าน $2,100 เมื่อต้นเดือนมีนาคมไปแล้ว ก็บอกได้ว่า มันยกตัวลอยพ้นพื้นไปแล้ว ...กำลังจะบินขึ้น

    จากจุดนั้นมันก็ลอยตัวขึ้นไปอีก $200 เป็น $2,300 ...แต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้น

    หลังจากราคา $300 เมื่อปี 2002 พุ่งไปเป็น $1,920 ในปี 2011 ..ทองคำก็มีการทำ correction อีกครั้งระหว่างปี 2013 - 2016 (ชาร์ตที่2)

    HOLDING GOLD REQUIRES PATIENCE

    จากภาพจะเห็นว่าการลงทุนในทองคำต้องใช้ความอดทนมาก และการเข้าที่ถูกจังหวะ ในระยะยาวแล้ว นี่คือการถือกรมธรรม์ประกันภัยที่ดีที่สุดแล้ว

    ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2020 ตอนที่ราคาต่ำกว่า $2,000 ทองคำรวบรวมกำลังจน breakout จุดสำคัญมาได้ แต่นี่ก็ยังไม่หยุด นี่เป็นเพียงจุดเริ่มที่จะ unfathomable

    ถ้าเห็นว่ามี overbought ก็จะเป็นเรื่องปกติ เพราะในอีกหลายเดือนจากนี้ ทองคำและซิลเวอร์จะ overbought กันอีกนาน .....แต่ก็อาจเห็นการ correction อยู่บ้างโดยเฉพาะซิลเวอร์ (ซึ่งผันผวนกว่า)

    ขอย้ำว่านี่คือการลงทุนในระยะยาวจริง ๆ

    THE EVERYTHING COLLAPSE WILL COME

    เรากำลังรอให้ Everything Bubble เปลี่ยนไปเป็น Everything Collapse ....ทรัพย์สินฟองสบู่ทั้งหลายเช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาฯ จะพากันร่วงลงอย่างแรง เมื่อต้องวัดค่ากับ real terms อย่างทองคำ

    ที่ผ่านมาผมก็ประเมินพลาดไปว่าทรัพย์สินฟองสบู่ทุกอย่างจะต้องร่วงลง แต่นั่นเพราะ วัดค่ากันเองกับ nominal terms พวกเดียวกัน .....แต่ใน real terms จริง ๆ อย่างทองคำแล้ว จะเห็นได้ว่าราคาทรัพย์สินทุกชนิดกดทับให้ทองคำ underperformed มาตั้งแต่ปี 2000 โน่นแล้ว

    การเติบโตและความรุ่งเรือง..ก็เป็นแค่ภาพลวงตาจากการสร้างขึ้นของเงินที่ไร้ค่า..เหมือนการเล่นละคร แต่มันก็จะต้องหมดมุกจนได้ เมื่อถูกจับได้ว่าเป็นแค่ละคร

    ดูอย่างราคาหุ้นสิ ...ทองคำ outperform Dow และ S&P มาตั้งแต่ปี 2000 แล้ว

    การลงทุนที่เก็บเป็นความลับดีที่สุดในโลกคือ ทองคำ

    -- ราคาทองคำสูงขึ้น 7.5 เท่า ในศตวรรษนี้

    -- ผลตอบแทนทบต้นของทองคำตั้งแต่ปี 2000 ...9.2%

    -- ผลตอบแทนทบต้นของหุ้น Dow Jones ตั้งแต่ปี 2000 ...7.7% (รวมการลงทุนเพิ่มของเงินปันผลด้วยแล้ว)

    -- แล้วทำไมการลงทุนจากทั่วโลกถึงอยู่ในทองคำแค่ 06% ล่ะ?

    -- เพราะนักลงทุนทั่วไปไม่รู้จักทองคำดีพอ จากการที่รัฐบาลด้อยค่าดิสเครดิตทองคำมาตลอด

    ตอนนี้ตลาดหุ้นอาจจะพังลงเมื่อไหร่ก็ได้แล้ว

    WOLVES IN SHEEP’S CLOTHING

    กลับมาที่เรื่องโรงละคร เหล่าผู้นำของฝ่ายตะวันตก ไม่ว่าสหรัฐ อังกฤษ แคนาดา เยอรมัน ฝรั่งเศส ก็เป็นแค่ตัวตลก ที่พยายามเอาหนังหมาป่ามาคลุมตัว สร้างเรื่องเรียกความสนใจ เช่น .....พิมพ์เงิน สร้างหนี้ วัคซีน สงคราม ยื้อเวลาการ collapse ออกไปให้นานที่สุด ในขณะที่กอบโกยให้ได้มากที่สุด

    แล้วทั้งหมดนี้จะจบยังไง? ผมคิดว่ามันจบได้แบบเดียว คือระบบการเงินทั้งระบบพังลงพร้อม ๆ กับระบบการเมือง

    นี่เราจะต้องเผชิญกับ hyperinflation ก่อน แล้วยุบตัวลงเป็นเงินฝืด ....หรือ เผชิญกับเงินฝืดไปเลยทีเดียว ....หรือ จะต้องเกิดสงครามโลกซะก่อนล่ะ .....

    ***ผมขอฝาก คหสต. ไว้ที่คุณตุ้กครับ..



    Egon von Greyerz
    Founder and Chairman

    VON GREYERZ AG
    Zurich, Switzerland
    Phone: +41 44 213 62 45

    https://vongreyerz.gold/gold-and-silver-entering-exponential-phase

    https://www.facebook.com/share/p/n9us8aURxeaZgEmd/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิ้นท่า! ฝนเหล็กระลอกแรกโจมตีลูกพี่ สหรัฐ ขอจีนช่วยห้ามหน่อย แต่จีนปฏิเสธ (ระลอก2 เพิ่งมาถึง พรุนหนักกว่านี้หลายสิบเท่า)
    #WorldUpdate



    https://www.facebook.com/share/p/4yvGvKozTLZDwQpK/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ สัญญามอบแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งแก่อิสราเอล หลังถูกอิหร่านยิงโดรนและขีปนาวุธหลายร้อยถล่มในวันเสาร์(13เม.ย.) ส่วนเตหะรานออกมาตอบกลับให้อเมริกาอยู่ห่างจากความขัดแย้ง โหมกระพือวิกฤตสถานการณ์ลุกลามบานปลายในตะวันออกกลาง ที่กระตุ้นให้ทั่วโลกร้องขอความอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงหายนะระดับภูมิภาค

    ไบเดน ลดช่วงเวลาวันหยุดสัปดาห์ที่มีกำหนดเดินทางไปยังชายฝั่งเดลาแวร์ จัดการประชุมฉุกเฉินที่ทำเนียบขาวกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากอิหร่านเปิดฉากการโจมตีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน "ผมเพิ่งพบกับคณะทำงานด้านความมั่นคงของผม เพื่ออัพเดทสถานการณ์การโจมตีอิสราเอลของอิหร่าน คำมั่นสัญญาของเราที่มีต่อความมั่นคงของอิสราเอล ต่อการรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่านและกลุ่มตัวแทนของเตหะราน นั้นแข็งแกร่ง" ไบเดนเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์

    ไบเดน โพสต์ภาพถ่ายการประชุมในห้องยุทธการ (Situation Room) ของทำเนียบขาว ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เข้าร่วมก็มี ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม, แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และ บิล เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ

    ขณะเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โพสต์ข้อความบนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์เช่นกัน โดยระบุว่า "ในช่วงไม่กี่ปีและโดยเฉพาะไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้เตรียมพร้อมรับมือการโจมตีโดยตรงจากอิหร่าน ระบบป้องกันตนเองของเขาถูกส่งเข้าประจำการ เราเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งป้องกันตนเองและเป็นฝ่ายบุก รัฐอิสราเอลมีความเข้มแข็ง กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลนั้นเข้มแข็ง และประชาชนชาวอิสราเอลนั้นเข้มแข็ง"

    เนทันยาฮู กล่าวต่อว่า "เราขอบคุณสหรัฐฯสำหรับการยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล เช่นเดียวกับแรงสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆอีกหลายชาติ เราสรุปหลักการอย่างชัดเจน ใครก็ตามที่ทำร้ายเรา เราจะทำร้ายพวกเขา เราะปกป้องตัวเราเองจากภัยคุกคามใดๆ และทำมันด้วยความหนักหน่วงและด้วยความมุ่งมั่น"

    ก่อนหน้านี้ เตหะรานประกาศแก้แค้นเหตุโจมตีสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่พวกเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ส่งผลให้สมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน เสียชีวิต 7 ราย ในนั้นรวมถึงระดับนายพล 2 นาย

    สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่าน รายงานว่าปฏิบัติการแก้แค้นด้วยโดรนของขีปนาวุธของอิหร่านในช่วงเช้าวันอาทิตย์(14เม.ย.) ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่ฐานทัพอาหกาศแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในทะเลทรายเนเกฟ

    ส่วนกองทัพอิสราเอล ให้ข้อมูลว่าอิหร่านยิงโดรนและขีปนาวุธรวมกันแล้วกว่า 200 (ลำ/ลูก) เข้าใส่อิสราเอลนับตั้งแต่วันเสาร์(13เม.ย.) เป็นต้นมา พร้อมบอกว่าภัยคุกคามที่พุ่งเข้ามา จำนวนมากถูกสกัดไม่ให้หลุดรอดเข้าสู่ชายแดนของอิสราเอล แต่ยอมรับว่าอิหร่านยังคงระดมโจมตีไม่หยุด

    พล.ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล ระบุในวันอาทิตย์(14เม.ย.) ว่าการโจมตีของอิหร่านก่อความเสียหายเล็กน้อยแก่ฐานทัพแห่งหนึ่งของอิสราเอล ตอบโต้รายงานข่าวของสื่อมวลชนอิหร่าน ที่อ้างว่าฐานทัพดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากขีปนาวุธของพวกเขา

    "มีขีปนาวุธไม่กี่ลูกที่ตกลงในดินแดนของอิสราเอล มีความเสียหายเพียงเล็กน้อยที่ฐานทัพทหารแห่งหนึ่งในทางภาคใต้ มีเพียงความเสียหายเล็กน้อยเกิดขึ้นกับโครงการพื้นฐานดังกล่าว" โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุ

    ตามหลังการโจมตี อิหร่านออกปากเตือนในวันอาทิตย์(14เม.ย.) ให้สหรัฐฯ "อยู่ห่างจาก" ความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับอิสราเอล หลังเตหะรานเปิดฉากโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธใส่อิสราเอล แก้แค้นเหตุโจมตีสถานกงสุลในกรุงดามัสกัส

    "ปฏิบัติการทางทหารเป็นการตอบโต้ความก้าวร้าวของรัฐบาลไซออนิสต์ ที่มีต่อสถานทำการทางการทูตของเราในดามัสกัส" คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "หากรัฐบาลอิสราเอลทำผิดพลาดอีกครั้ง การตอบโต้ของอิหร่านจะหนักหน่วงมากกว่านี้ ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและรัฐบาลอันธพาลอิสราเอล สหรัฐฯควรอยู่ห่างเอาไว้"

    อิหร่าน แสดงความหวังว่าปฏิบัติการลงโทษเหตุโจมตีสถานทูตของพวกเขาจะไม่โหมกระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลายเพิ่มเติม และถือว่าเรื่องนี้สามารถยุติลงได้ อย่างไรก็ตามความหวังใดๆของงอิหร่าน ที่หวังว่าอิสราเอลจะนิ่งเฉยและป้องกันตนเองเพียงอย่างเดียว นั้นถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของเพนตากอน ยืนยันว่ากองกำลังสหรัฐฯสอยร่วงโดรนลำหนึ่งที่มุ่งหน้าสู่อิสราเอล และทางสหราชอาณาจักรบอกว่าพวกเขาพร้อมดำเนินการด้วยเช่นกัน

    อาเดียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่าอเมริกา จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวอิสราเอลและสนับสนุนการป้องกันตนเองของอิสราเอลต่อภัยคุกคามทั้งหลายที่มาจากอิหร่าน

    สถานการณ์ที่ส่อแววลุกลามบานปลาย กระตุ้นให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ประณามอิหร่านที่ใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลในวันเสาร์(13เม.ย.) และเรียกร้องทุกฝ่ายแสดงความอดทนอดกลั้นให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ลุกลามไปทั่วภูมิภาคที่อาจนำพามาซึ่งหายนะ

    "ผมขอประณามอย่างหนักหน่วงต่อสถานการณ์ลุกลามบายปลายร้ายแรง จากการโจมตีขนานใหญ่ใส่อิสราเอลโดยสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน" เขากล่าวในถ้อยแถลง "ผมกังวลอย่างยิ่งต่ออันตรายร้ายแรงของสถานการณ์ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาค ผมของเรียกร้องทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุด หลีกเลี่ยงการกระทำใดที่อาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าทางทหารครั้งใหญ่ ในหลายแนวหน้าในตะวันออกกลาง"

    (ที่มา:เอเอฟพี/รอยเตอร์)

    https://www.facebook.com/share/p/VHtTwgmTftS3LNuX/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิหร่านเตือนอิสราเอลวันนี้ (14 เม.ย.) ให้ระวัง “จะถูกโจมตีหนักกว่าเก่า” หากคิดตอบโต้แก้แค้นที่เตหะรานส่งโดรนและขีปนาวุธเข้าไปโจมตีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมฝากถึงสหรัฐฯ ระวัง “ฐานทัพอเมริกัน” จะโดนล็อกเป้าถล่มด้วย หากให้การสนับสนุนอิสราเอลแก้แค้นอิหร่าน
    .
    กองทัพอิหร่านส่งโดรนติดอาวุธและขีปนาวุธรวมกันกว่า 300 ลูกเข้าไปโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงกลางดึกวันเสาร์ (13) ซึ่งถือเป็นการโจมตีดินแดนอิสราเอลโดยตรงครั้งแรก โดยอ้างว่าเป็นการแก้แค้นที่รัฐยิวทิ้งระเบิดใส่สถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อวันที่ 1 เม.ย. จนทำให้นายพลระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) เสียชีวิตไปถึง 7 นาย
    .
    “การตอบโต้ของเราจะหนักหน่วงยิ่งกว่าปฏิบัติการทางทหารเมื่อคืนนี้ หากอิสราเอลลงมือแก้แค้นอิหร่าน” พลตรี โมฮัมหมัด บาเกรี ประธานคณะเสนาธิการกองทัพอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ พร้อมระบุด้วยว่าเตหะรานได้เตือนวอชิงตันผ่านทางสวิตเซอร์แลนด์ไปแล้วว่า หากสนับสนุนปฏิบัติการแก้แค้นของอิสราเอลก็ให้ระวังว่าฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอาจตกเป็นเป้าหมายด้วย
    .
    บาเกรี ยังอ้างด้วยว่า อิหร่านยิงโจมตีฐานทัพอิสราเอลได้สำเร็จถึง 2 แห่ง และภารกิจแก้แค้นครั้งนี้จบลงแล้ว
    .
    “ปฏิบัติการของเรายุติลงแล้ว และเรายังไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไรต่อไป” เขากล่าว
    .
    ด้าน พลตรี ฮอสเซน ซาเลมี ผู้บัญชาการ IRGC ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า เตหะรานได้เริ่มต้น “สมการใหม่” (new equation) โดยจะใช้ปฏิบัติการตอบโต้ทางตรงทันทีหากผลประโยชน์ ทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ หรือพลเมืองอิหร่าน ถูกโจมตีโดยอิสราเอล
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

    https://www.facebook.com/share/p/1vgKV8ayx2yFuMqZ/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thailand: กระทรวงการต่างประเทศแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่าน และขอให้คนไทยเฝ้าระวังสถานการณ์

    กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ตามที่กระทรวงฯ ได้แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่าน และแจ้งเตือนคนไทยให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว นั้น

    กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจาก สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่ามีการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธจำนวนมากในหลายทิศทาง โดยทางการอิสราเอลได้ประกาศเตรียมความพร้อมในการตั้งรับและสกัดการโจมตีดังกล่าว และทางการอิสราเอลได้ออกแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันเสาร์ (13 เมษายน) เวลา 23.00 น. จนถึงวันจันทร์ (15 เมษายน) เวลา 23.00 น. โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนการชุมนุมในจุดต่าง ๆ ของประเทศตามสถานการณ์ของพื้นที่

    ปัจจุบัน มีคนไทยพำนักอยู่ในอิสราเอลประมาณ 28,000 คน และในอิหร่านประมาณ 300 คน โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ติดต่อกับชุมชนไทยเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพัฒนาการของสถานการณ์เป็นระยะเสมอมา โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายงานคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    ประเทศไทยมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจเพื่อมิให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่กรณีจำเป็น

    กระทรวงการต่างประเทศขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนปลอดภัย โดยขอให้คนไทยทั้งในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่น และจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

    ในกรณีฉุกเฉินพี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ ดังนี้

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ:
    หมายเลขฉุกเฉิน : +972 546 368 150 และ +972 503 673 195
    อีเมล์ : thaiembassy.tav@mfa.go.th
    เฟสบุ๊ก: www.facebook.com/thaiembassytelaviv (ทุกเรื่องเมืองยิว)

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน:
    หมายเลขฉุกเฉิน : +98 912 500 7933 และ +98 912 159 8699
    อีเมล์ : thaiembassy.thr@mfa.go.th
    เฟสบุ๊ก: www.facebook.com/ThailandinIran

    หรือ Call Center กรมการกงสุล 02 572 8442
    —————
    ภาพ: Xinhua

    #TNNWorldNews #ไทย #อิสราเอล #อิหร่าน #โดรน #ขีปนาวุธ #ตะวันออกกลาง
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bitly.ws/3gBLX และ https://bitly.ws/3gBMb
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok
    Instagram: https://www.instagram.com/tnn_worldtoday/

    https://www.facebook.com/share/p/cWuVxmWRXZf3iBWA/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิเคราะห์คาด หุ้นโลกวันจันทร์ 15 เม.ย. ถูกเทขายหนัก หลังอิหร่านเปิดฉากตอบโต้โจมตีอิสราเอล นักลงทุนหันถือสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำ พันธบัตรสหรัฐฯ หวั่นรุนแรงเป็นสงครามระดับภูมิภาค เชื่อไม่บานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง คาดหุ้นไทยกระทบจำกัด
    .
    อ่านเพิ่มเติม : https://moneyandbanking.co.th/2024/102104/

    https://www.facebook.com/share/Zk1Wy63Sw2kpqGih/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัตราเงินเฟ้อ คือ การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไม่สามารถวัดได้จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือบริการหนึ่งรายการ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลายรายการ
    .
    อ่านต่อ : https://moneyandbanking.co.th/2024/101926/
    FB_IMG_1713089678863.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/MY5MMgpdNU9zcueB/?mibextid=oFDknk

    อัตราเงินเฟ้อ คือ การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไม่สามารถวัดได้จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือบริการหนึ่งรายการ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลายรายการ
    .
    อ่านต่อ : https://moneyandbanking.co.th/2024/101926/

    ทุกครั้งเมื่อมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา มักจะเห็นความเคลื่อนไหวจากฟากฝั่งของบรรดานักวิเคราะห์ ขณะที่อีกฝั่งมาจากบรรดาคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจจากตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการรายงานออกมาโดย อัตราเงินเฟ้อ ก็คือ การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไม่สามารถวัดได้จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือบริการหนึ่งรายการ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลายรายการ แต่อัตราเงินเฟ้อเป็นการเพิ่มขึ้นโดยทั่วไปในระดับราคาโดยรวมของสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจ

    โดยผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะประเมินการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อโดยการติดตามดัชนีราคาต่างๆ ซึ่งดัชนีเหล่านี้จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาของกลุ่มสินค้าและบริการ

    ซึ่งเฟดจะพิจารณาดัชนีราคาหลายรายการ เนื่องจากดัชนีที่ต่างกันติดตามผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างกัน ดังนั้นดัชนีต่างๆ จึงสามารถส่งสัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อได้

    คณะกรรมการ FOMC จะตัดสินว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 2% ต่อปีในดัชนีราคาสำหรับค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีความสอดคล้องมากที่สุดในระยะยาวกับนโยบายของเฟดสำหรับการจ้างงานสูงสุดและความมั่นคงด้านราคา

    ทั้งนี้ FOMC ใช้ดัชนีราคา PCE เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากครอบคลุมการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในวงกว้าง แต่ก็ติดตามมาตรการเงินเฟ้ออื่นๆ อย่างใกล้ชิดเช่นกัน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ออกโดยกระทรวงแรงงาน

    สำหรับขั้นตอนของเฟดในการประเมิน อัตราเงินเฟ้อ มีดังนี้

    1. เนื่องจาก ตัวเลข เงินเฟ้อ แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน ผู้กำหนดนโยบายจะพิจารณาอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วงเวลาที่นานขึ้น ตั้งแต่ 2-3 เดือนถึงหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น

    2. ผู้กำหนดนโยบายจะตรวจสอบหมวดหมู่ย่อยที่ประกอบเป็นดัชนีราคาแบบกว้างๆ เป็นประจำ เพื่อช่วยพิจารณาว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่น่าจะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เนื่องจากนโยบายของเฟดดำเนินไปด้วยความล่าช้า จึงต้องกำหนดนโยบายโดยยึดตามการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ดีที่สุด

    3. ผู้กำหนดนโยบายจะตรวจสอบมาตรการเงินเฟ้อหลักต่างๆ เพื่อช่วยระบุแนวโน้มเงินเฟ้อ มาตรการเงินเฟ้อพื้นฐานที่พบบ่อยที่สุด คืออัตราเงินเฟ้อไม่รวมสินค้าที่มีแนวโน้มขึ้นหรือลงของราคาอย่างมาก เช่น รายการอาหารและพลังงาน

    4. ผู้กำหนดนโยบายพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของราคาผู้บริโภคโดยรวม แต่มาตรการเงินเฟ้อหลักที่ยกเว้นสินค้าที่มีราคาผันผวนจะมีประโยชน์ในการประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อ

    ขณะเดียวกันนั้นธนาคารกลางสหรัฐ ในฐานะผู้ดำเนินนโยบายทางการเงิน ก็มีอิทธิพลต่อการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ผ่านการใช้เครื่องมือทางนโยบายเพื่อมีอิทธิพลต่อความพร้อมและต้นทุนสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจ โดยเครื่องมือหลักคืออัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลาง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางนั้น ก็จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมสำหรับครัวเรือนและธุรกิจตลอดจนเงื่อนไขทางการเงินที่กว้างขึ้น

    แล้วทำไม “ธนาคารกลางสหรัฐ” หรือเฟด ถึงตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อระยะยาวที่ 2% ซึ่งเป็นประเด็นที่เฟดเน้นย้ำมาตลอด


    จริงๆ แล้ว เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% นั้นเริ่มต้นจากนิวซีแลนด์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เพราะไม่มีการศึกษาเชิงวิชาการมาก่อน แต่เป็นความคิดเห็นของโรเจอร์ ดักลาส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์ในขณะนั้น ที่ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ท่ามกลางสถานการณ์ช่วงปลายทศวรรษ 1980 ที่เผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูง

    โดยเมื่อถูกถามว่ารัฐบาลพอใจกับระดับเงินเฟ้อที่ต่ำลงในขณะนี้หรือไม่ แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม โรเจอร์ ดักลาส ตอบว่าไม่ใช่ โดยต้องการอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 0-1% ซึ่งเป็นคำพูดที่ยังไม่เคยมีเป้าหมายมาก่อน

    หลังจากนั้นธนาคารกลางนิวซีแลนด์รู้สึกว่าจะต้องดำเนินการตามเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง และประมาณการว่านิวซีแลนด์อยู่ที่ประมาณ 0.75% และได้ปัดเศษเป็น 1% ซึ่งให้ขอบเขตเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มดำเนินการตาม เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ จนกระทั่งเดือนมกราคม 2555 เป้าหมายที่ 2% ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ภายใต้การนำของเบน เบอร์นันเก้ในขณะนั้น

    แม้เป้าหมายที่ 2% จะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มีเหตุผลว่าทำไม 2% แทนที่จะเป็นศูนย์ จึงเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อที่สมเหตุสมผล เนื่องจากการวัดอัตราเงินเฟ้ออย่างแม่นยำเป็นเรื่องยากและมี “อคติขาขึ้น” ในตัวในการวัดอัตราเงินเฟ้อ

    โดยเฉพาะ CPI ซึ่งหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงน่าจะต่ำกว่าที่วัดโดย CPI แม้ว่า BLS จะทำการวัดได้หลายครั้งก็ตาม การปรับเปลี่ยนเพื่อลด “อคติขาขึ้น” ต่อ CPI เป้าหมายเงินเฟ้อที่เป็นบวกเล็กน้อยยังออกจากธนาคารกลางสหรัฐในการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย การมีอัตราบวกเล็กน้อยยังเป็นกันชนต่อภาวะเงินฝืด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่เป็นบวกแต่ยังคงค่อนข้างต่ำ

    ขณะที่ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ ได้อธิบายถึงประเด็นนี้ว่า คณะกรรมการ FOMC ตัดสินว่าอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ในระยะยาวนั้น เป็นการวัดจากการเปลี่ยนแปลงรายปีในดัชนีราคาสำหรับการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ที่สอดคล้องกับมติของธนาคารกลางสหรัฐมากที่สุดในด้านการจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคา

    ขณะที่ครัวเรือนและธุรกิจคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผลว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ ที่จะทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับการออม การกู้ยืม และการลงทุน ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจทำงานได้ดี

    โดยหลายปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ เป็นที่เข้าใจได้ว่าราคาที่สูงขึ้นสำหรับสิ่งของที่จำเป็น เช่น อาหาร น้ำมัน และที่พักพิง จะเพิ่มภาระให้กับหลายครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องดิ้นรนกับการสูญเสียงานและรายได้ ในขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงได้

    อ้างอิง : moneyandbanking.co.th, federalreserve.gov, federalreserve.gov

    https://www.facebook.com/share/p/MY5MMgpdNU9zcueB/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิเคราะห์คาด หุ้นโลกวันจันทร์ 15 เม.ย. ถูกเทขายหนัก หลังอิหร่านเปิดฉากตอบโต้โจมตีอิสราเอล นักลงทุนหันถือสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำ พันธบัตรสหรัฐฯ หวั่นรุนแรงเป็นสงครามระดับภูมิภาค เชื่อไม่บานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง คาดหุ้นไทยกระทบจำกัด
    .
    อ่านเพิ่มเติม : https://moneyandbanking.co.th/2024/102104/

    https://www.facebook.com/share/Zk1Wy63Sw2kpqGih/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิจัยญี่ปุ่นเผย! ใส่เสื้อสีไหน “ร้อนน้อยที่สุด”!?

    เรื่องนี้คุณ Ichinose Toshiaki นักวิจัยสถาบันศึกษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น บอกว่าสีเสื้อและเนื้อผ้า
    ก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกไม่ร้อนเกินไป
    เสื้อสีไหนที่ใส่แล้วจะรู้สึกร้อนน้อยที่สุด!!?
    .
    การทดลองจะเป็นการนำหุ่นใส่เสื้อโปโลสีต่างๆ
    ไปไว้กลางแดดที่ไม่ค่อยมีลมพัด
    และมีอุณหภูมิประมาณ 30 องศา
    ทดลองกับเสื้อทั้งหมด 9 สี ได้แก่
    -สีแดง
    -สีขาว
    -สีน้ำเงิน
    -สีเขียวเข้ม
    -สีเทา
    -สีดำ
    -สีม่วง
    -สีเหลือง
    -สีเขียวอ่อน
    หลังจากตั้งหุ่นทิ้งไว้กลางแดดประมาณ 5 นาที
    แล้วก็เอามาวัดอุณหภูมิผลปรากฎว่า
    สีที่ร้อนน้อยที่สุดคือ “สีขาว” ครับ
    *วัดอุณหภูมิเสื้อหลังผ่านไป 5 นาที ได้ 30 องศาเท่ากับอากาศภายนอกเลย
    อันดับต่อๆ มาคือ…
    อันดับ 2 เหลือง
    อันดับ 3 เทา
    อันดับ 4 แดง
    (ซึ่งน่าประหลาดใจครับเพราะในแง่จิตวิทยาหลายคงคงคิดว่าเป็นสีที่รู้สึกร้อนแรง)
    อันดับ 5 ม่วง
    อันดับ 6 น้ำเงิน
    (สีนี้ก็ผิดคาดเพราะในแง่จิตวิทยาหลายคนคงเข้าใจว่าเป็นสีที่ใส่แล้วรู้สึกเย็นสบาย)
    อันดับ 7 เขียวอ่อน
    อันดับ 8 เขียวเข้ม
    และสีที่ร้อนมากที่สุดคือ “สีดำ” ครับ
    *วัดอุณหภูมิของเสื้อหลังจากที่ผ่านไป 5 นาที
    มีอุณภูมิสูงขึ้นถึง 50 C!! เพราะสีดำมีคุณสมบัติการดูดความร้อนมากกว่าสีอื่นๆ นั่นเอง
    FB_IMG_1713090255795.jpg
    https://www.facebook.com/share/g2XxEKZhMjDid9nX/?mibextid=oFDknk
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [BREAKING]
    นายพลระดับสูงอิหร่านประกาศว่า
    "ไม่มีแผนโจมตีทางอากาศต่ออิสราเอลอีกแล้ว เพราะถือว่าได้ทำการตอบโต้สำเร็จแล้ว"
    ถ้าเป็นจริงและสถานการณ์ไม่ยกระดับความรุนแรง #ทองคำ อาจร่วง #ตลาดหุ้น อาจมีโอกาสดีดกลับไปได้

    https://www.facebook.com/share/GY1GvMXPiVnNeFr4/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “อิหร่าน” ประกาศยุติการโจมตีอิสราเอล แต่พร้อมยิงอีก 7,000 ลูกหากอิสราเอลโต้ตอบ วิเคราะห์สดใน comment
    #TAMEIG



    https://www.facebook.com/share/wJM1sg1sdbGhhmZV/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #รัสเซีย น้ำท่วมรุนแรงในเขต Orenburg หลังจากแม่น้ำที่ยาวที่สุดอันดับสามของยุโรปคือแม่น้ำอูราล ล้นเนื่องจากน้ำแข็งที่ละลายในฤดูใบไม้ผลิ ต้องอพยพผู้คนมากกว่า 100,000 คน นอกจากนี้ Meltwater ยังท่วมพื้นที่ตั้งถิ่นฐานอื่นๆ ในเทือกเขาอูราลอีกด้วย

    : @WeatherSarov1

    #Rusia Severas inundaciones en el óblast de Oremburgo después de que el tercer río más largo de Europa, el río Ural, se desbordó debido al agua del deshielo primaveral. Más de 100.000 personas tuvieron que ser evacuadas. Las aguas del deshielo también inundaron otros asentamientos en los Montes Urales.

    : @WeatherSarov1

    https://www.facebook.com/share/v/8xqxDuU7croxLzar/?mibextid=oFDknk
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'พีระพันธุ์'จับตาสถานการณ์'อิหร่าน-อิสราเอล'อย่างใกล้ชิด สั่งรายงานตรง-เตรียมแนวทางรับมือ

    อ่านเพิ่ม : www.naewna.com/politic/799175
    PSX_20240414_211017.jpg
    #พีระพันธุ์ #รวมไทยสร้างชาติ #อิหร่าน #อิสราเอล #กระทรวงหลังงาน

    https://www.facebook.com/share/p/FLT13QWMjxUCvQ2R/?mibextid=oFDknk
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2024
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สรุปม้วนเดียวจบ จะเกิดอะไรขึ้นกับสินทรัพย์ในวันจันทร์ ?
    - ถึงตอนนี้ เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการโจมตีอิสราเอลของอิหร่าน ?

    ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง..

    1. โดรน และมิสไซล์ ของอิหร่าน อย่างน้อย 300 ชิ้น ถูกยิงจากอิหร่าน อิรัก เยเมน ซึ่งถูกระบบป้องกันของอิสราเอลดักได้เกือบทั้งหมด บางวัตถุถูกเอาลงโดยกองทัพพันธมิตร สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จอร์แดน ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่บางแหล่งข่าวบอกว่ามีระเบิดที่ภาคพื้นดินในอิสราเอลหลายจุด และมีความเสียหายที่ฐานทัพอิสราเอล

    2. อิหร่านหยุดการโจมตีแล้ว และการโจมตีครั้งนี้อิหร่านบอกว่าเป็นการโต้ตอบ กับสิ่งที่อิสราเอลทำ คือสังหารผู้นำกองทัพของอิหร่าน ในประเทศซีเรีย

    3. ทั้งโลกกำลังจับตาว่า อิสราเอลจะโต้กลับอย่างไร โดยจะมี 2 ทางคือ

    3.1 อิสราเอลไม่โต้กลับ ซึ่งสหรัฐอเมริกากำลังโน้มน้าวให้อิสราเอลเลือกทางนี้ โจ ไบเดน เพิ่งบอกว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ช่วยอิสราเอลโต้กลับ เพราะไม่คิดว่ามีความจำเป็นต้องยกระดับความขัดแย้ง

    3.2 อิสราเอลโต้กลับ ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์ขยายความรุนแรงมากขึ้น

    4. เช้าตรู่พรุ่งนี้วันจันทร์ ตลาดจะเปิดที่ญี่ปุ่นก่อน (ตลาดหุ้นไทยยังหยุดสงกรานต์) สินทรัพย์ที่น่าจับตาคือ ดอลลาร์สหรัฐ ทองคำ น้ำมัน พันธบัตร และ หุ้น

    -ถ้าตลาดกลัวสงคราม ตลาดจะวิ่งออกจากสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น บิตคอยน์ เข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยในมุมของนักลงทุน (ซึ่งอาจจะค้านความรู้สึกของหลายคน) นั่นก็คือดอลลาร์สหรัฐ

    ดังนั้นเราอาจจะเห็นค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ถ้าตลาดกลัวมาก

    แต่ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ดังนั้นถ้าตลาดคิดว่าจบแล้ว ค่าเงินดอลลาร์อาจจะไม่แข็งก็ได้

    -ทองคำเหมือนจะมีราคาตอบรับเรื่องนี้ล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งเดาได้ยากว่าทองคำจะไปทางไหน และราคาทองคำในไทย จะขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับบาทด้วย

    -ถ้ามีสงคราม น้ำมันจะขึ้นเสมอ ซึ่งจะนำไปสู่การคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะสูง และทำให้ส่งผลกับสิ่งต่อไปก็คือ

    -ตลาดอาจคาดว่าการลดดอกเบี้ยจะไม่เร็วอย่างที่คาดก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นแบบนั้น yield อาจขึ้น และราคาพันธบัตรอาจลดลง และส่งผลต่อตลาดหุ้นในทางลบ

    ไม่ว่าจะอย่างไร ตลาดมีความซับซ้อน หลายครั้งที่คิดว่าเรื่องรุนแรง แต่สิ่งนั้นตลาดอาจคิดว่าพีกแล้ว จบแล้ว และตลาดตอบรับในทางตรงกันข้ามก็เป็นได้

    สำหรับคนลงทุน ต้องไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ชั่วคราว และจะเป็นความคิดที่ดีกว่า ถ้าจะโฟกัสในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว อย่างเช่นศักยภาพการทำกำไรของบริษัทที่เราลงทุนในอนาคต..

    #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    https://www.facebook.com/share/p/nwmzFEb2ViQGEK8U/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [BREAKING]
    "เนทันยาฮู" ตัดสินใจยกเลิกการโจมตีตอบโต้อิหร่าน !
    หลังได้คุยสายตรงกับไบเดนและอเมริกาไม่สนับสนุนการตอบโต้
    (New York Times รายงาน)

    Netanyahu called off retaliatory strike on Iran after call with Biden – New York Times

    https://www.timesofisrael.com/liveb...on-iran-after-call-with-biden-new-york-times/

    https://www.facebook.com/share/v45MBCvfkHBZYqX3/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [BREAKING]
    นายพลระดับสูงอิหร่านประกาศว่า
    "ไม่มีแผนโจมตีทางอากาศต่ออิสราเอลอีกแล้ว เพราะถือว่าได้ทำการตอบโต้สำเร็จแล้ว"
    ถ้าเป็นจริงและสถานการณ์ไม่ยกระดับความรุนแรง #ทองคำ อาจร่วง #ตลาดหุ้น อาจมีโอกาสดีดกลับไปได้

    https://www.facebook.com/share/p/jgiz2pzXmona7xBr/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อ “เปอร์เซีย (Persia)” กลายเป็น “อิหร่าน (Iran)”

    ดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศ “อิหร่าน (Iran)” เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่รู้จักในนามต่างๆ

    นาม “อิหร่าน (Iran)” มาจากภาษาอเวสตะ ซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ของชาวอิหร่านโบราณ นั่นคือคำว่า “Airyānąm” ซึ่งปรากฎครั้งแรกในสมัยของ “พระเจ้าไซรัสมหาราช (Cyrus the Great)” ในยุค 400 ปีก่อนคริสตกาล

    สำหรับคำว่า “เปอร์เซีย (Persia)” มีการใช้ครั้งแรกโดยชาวกรีก โดยเป็นการเรียกดินแดนของพระเจ้าไซรัสมหาราช โดยคำว่าเปอร์เซียนั้นมาจากคำว่า “ปาร์ซา (Parsa)” ซึ่งเป็นนามของกลุ่มชนที่พระเจ้าไซรัสมหาราชปกครอง และตามตำนานกรีกนั้น คำว่าเปอร์เซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “เพอร์ซิอุส (Perseus)” บุตรของเทพเจ้า “ซูส (Zeus)”

    ตามตำนาน เพอร์ซิอุสมีบุตรชายชื่อว่า “เพอร์เซส (Perses)” และเหล่าชาวเปอร์เซียก็มีจุดกำเนิดมาจากเพอร์เซส

    สำหรับคำว่าอิหร่านนั้น เป็นคำที่มีใช้มายาวนาน สามารถย้อนกลับไปได้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าไซรัสมหาราช และเมื่อถึงสมัยศตวรรษที่ 4 คำว่าอิหร่านก็ได้ถูกนำไปใช้ในงานเขียนและวรรณกรรมต่างๆ เรื่อยมา

    ในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) “พระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี (Reza Shah)” ผู้ปกครองจักรวรรดิเปอร์เซีย ได้ดำเนินการเปลี่ยนนามจาก “เปอร์เซีย” เป็น “อิหร่าน”

    แต่อังกฤษยังคงต้องการจะเรียกว่าเปอร์เซียต่อไป เนื่องจากคิดว่าคำว่า “อิหร่าน” ดูคล้ายกับ “อิรัก” เกินไป และทั้งสองชาติก็อยู่ใต้อำนาจของอังกฤษ และอังกฤษก็เกรงว่าชื่อที่คล้ายกันเกินไปจะทำให้เกิดความสับสน

    ในปีค.ศ.1959 (พ.ศ.2502) พระราชโอรสในพระเจ้าชาห์ เรซา ทรงประกาศว่าสามารถใช้ทั้งคำว่าอิหร่านและเปอร์เซียได้ในการติดต่อกับต่างประเทศ แต่ถึงอย่างนั้น อิหร่านก็คือชื่ออย่างเป็นทางการ โดยนามอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปีค.ศ.1979 (พ.ศ.2522) ก็คือ “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน (Islamic Republic of Iran)”

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการค้นพบน้ำมันในเปอร์เซีย และถึงแม้พื้นที่ของเปอร์เซียจะมีปัญหากับเพื่อนบ้านมายาวนาน แต่การค้นพบน้ำมันก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง

    ทั่วทั้งโลกต่างจับตามองเปอร์เซียอย่างไม่ละสายตา และอังกฤษก็คือชาติแรกที่หาประโยชน์จากเรื่องนี้ โดยได้มีการตั้งบริษัท “Anglo-Persian Oil Company” ในปีค.ศ.1909 (พ.ศ.2452) และบริษัทนี้ก็ได้เข้าควบคุมกิจการน้ำมันในอิหร่านอย่างเบ็ดเสร็จ

    และตั้งแต่นั้น กิจการน้ำมันและปิโตรเลียมก็ได้กลายเป็นข้อขัดแย้งทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งการเข้ามามีอิทธิพลของตะวันตกยังมีส่วนต่อการพัฒนาทางวัฒนธรรมและฝ่ายอนุรักษ์นิยมอีกด้วย

    ที่ผ่านมานั้น เปอร์เซียมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน มีความรุ่งเรืองด้านต่างๆ และเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

    ส่วนอิหร่านนั้น กลับถูกผูกไว้กับความขัดแย้งต่างๆ ในประวัติศาสตร์ศตวรรษที่ 20 โดยการรัฐประหารของพระเจ้าชาร์ เรซา ก็เป็นการรัฐประหารที่มีอังกฤษคอยกำกับ และมีการก่อตั้ง “ราชวงศ์ปาห์ลาวี (Pahlavi Dynasty)” ในปีค.ศ.1925 (พ.ศ.2468) ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนในการเข้าแทรกแซงของต่างชาติที่กระทำต่อรัฐบาลเปอร์เซีย

    ดังนั้นหากพิจารณาจริงๆ อิหร่านและเปอร์เซียก็อาจจะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว มีความแตกต่างที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนอยู่พอสมควร

    ในทุกวันนี้ เมื่อพูดถึง “อิหร่าน” ก็มักจะเป็นคำที่สื่อถึงชาติ สื่อถึงประเทศ แต่เมื่อพูดถึงวัฒนธรรม เช่น อาหาร ศิลปะ หรืองานวรรณกรรมต่างๆ ก็มักจะใช้คำว่า “เปอร์เซีย”

    -----

    References: https://www.historyhit.com/when-did-persia-become-iran-and-why/
    https://www.cbc.ca/news/world/history-of-iran-from-persia-to-present-1.791319
    https://www.getty.edu/art/exhibitions/persia/explore.html
    https://www.iranchamber.com/geography/articles/persia_became_iran.php

    ต้นฉบับ: https://www.blockdit.com/posts/6618d226a27adeb9678ab394

    https://www.facebook.com/share/XxPAcUE8QNHJdXou/?mibextid=oFDknk

    PSX_20240414_213525.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...