ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่กล้า! ปู่แซมหวั่นเยเมน ทำให้ทหารอินเดียต้องช่วยลูกเรือแทน
    .....นักเลงใหญ่ ยุยงให้ลูกเรือสินค้าของตน ฝ่าฝืนคำเตือนของกองทัพฮูตี เยเมน ทำให้โดนบั้งไฟหลายลูกเกิดเพลิงไหม้ เรือเอียงจมลงทะเลบางส่วน ลูกเรือสละเรือหนี แต่ลูกพี่ไม่กล้าไปช่วยเพราะเกรงบั้งไฟเยเมน ส่งผลให้กองทัพเรืออินเดีย ที่อยู่ใกล้เคียงต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยลูกเรือเหล่านั้น..แบบนี้ลูกพี่กล้ายุลูกน้อง แต่พอมีเรื่องจริงๆ ลูกพี่วิ่งไปหลบเงียบกริ๊บหรือไม่?
    #WorldUpdate #USA #China #Yemen #Houthis #Israel #Palestine_Genocide #Hezbollah #Russia #Iran #Gaza_War
    ⏩ ดูวิดีโอภาพประกอบ/กดที่ลิ้งแชร์ไปได้เลย

    https://www.blockdit.com/posts/65e9...-cmSeLpuvNZWn6PYNBxfRQXxsjR_bri5N34BJhZUWy47o

    https://www.facebook.com/share/p/118SFwSUqgoQMxG8/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 8 , 2024 ผงะ ! ก.พ.67 เป็นเดือนที่มีบริษัทเลิกจ้างงานมากสุด ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 15 ปี รวม 84,638 ราย เหตุวิกฤตทางการเงินโลกกดดัน หลายบริษัทในสหรัฐต้องลดต้นทุน

    แชลเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐ เปิดเผยว่า การเลิกจ้างในเดือนก.พ. 2567 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ของปีอื่น ๆ นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินโลก โดยในเดือนก.พ. 2567 มีการเลิกจ้างรวม 84,638 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 3% จากเดือนม.ค. 2567 และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ของปีที่แล้ว นำโดยบริษัทเทคโนโลยีและการเงิน

    สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากตัวเลขในอดีต จำนวนการเลิกจ้างดังกล่าวนับว่าย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ด้วยกันนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งขณะนั้นมีการประกาศปลดพนักงานรวมกัน 186,350 ตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่วิกฤตทางการเงินที่เลวร้ายที่สุดดูเหมือนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ก่อนที่ตลาดการเงินแตะระดับต่ำสุดในเดือนต่อมา จากนั้นเศรษฐกิจก็ขยายตัวต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2563 ส่วนปีนี้บริษัทต่าง ๆ มีการปรับลดตำแหน่งงานรวม 166,945 ตำแหน่งแล้ว ลดลง 7.6% เมื่อเทียบรายปี

    โดยท่ามกลางการเลิกจ้างจำนวนมากที่เกิดขึ้นหลายระลอก ภาคเทคโนโลยีเลิกจ้างมากที่สุดในปีนี้ ด้วยการปลดพนักงานลง 28,218 ตำแหน่ง แม้จำนวนดังกล่าวจะลดลง 55% เมื่อเทียบรายปีก็ตาม ขณะที่การเลิกจ้างในหมู่บริษัทการเงินปรับตัวขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566

    นอกจากนี้อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีแผนปรับลดตำแหน่งงานเป็นจำนวนมาก อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,754% เมื่อเทียบรายปี อุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,059% และอุตสาหกรรมการศึกษา ซึ่งเพิ่มขึ้น 944%

    อย่างไรก็ตาม จำนวนการเลิกจ้างดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการว่างงานเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และพนักงานสามารถหางานใหม่ได้

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #จ้างงาน #เลิกจ้าง #ปลดพนักงาน #วิกฤตการเงิน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/q6syphSWrWmQdzed/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 8 , 2024 พีคแล้วหนึ่งแมท ! พลังงานเผย ช่วงค่ำ 7 มี.ค. ค่าพีคไฟฟ้าพุ่ง 3.2 เมกะวัตต์ คาดคนใช้เครื่องปรับอากาศเยอะ ‘พีระพันธุ์’ สั่งเข้มห้ามไฟดับเด็ดขาด

    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ได้มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี 2567 เมื่อเวลา 19.47 น. ที่ 32,704 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากฤดูร้อนที่เริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และคาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยอาจจะสูงถึง 45 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้มีการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้เกิด Peak เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลา 21.41 น. ที่ 34,826 เมกะวัตต์

    นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตรวจสอบและดูแลระบบการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อมิให้กระทบต่อประชาชนและการดำเนินธุรกิจ

    นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้เตรียมออกนโยบาย 5 ป. ได้แก่ ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ปลูก ประกอบด้วย ปิด : การปิดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน, ปรับ : ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศา, ปลด : ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังการใช้งาน, เปลี่ยน : หากมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 และ ปลูก : ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน

    ทั้งนี้ ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เตรียมความพร้อมในการดูแลเรื่องการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในทุกภาคส่วน และจะต้องไม่มีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเกิดขึ้น

    สำหรับในปีนี้ คาดว่าอุณหภูมิจะร้อนมากกว่าปีที่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าผ่านนโยบาย 5 ป. เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าลง ซึ่งนอกจากจะสามารถลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมได้แล้ว ยังสามารถลดค่าไฟฟ้าของประชาชนได้อีกด้วยและในช่วงหน้าร้อนนี้ ขอเชิญชวนให้ทุกบ้านล้างแอร์ เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็จะสามารถลดค่าไฟไปได้อีกทาง

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #ค่าพีคไฟฟ้า #ค่าไฟฟ้า #พลังงาน #อากาศร้อน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/KCR9XLqKUDiUtWJv/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    vongreyerz.
    GOLD - WE HAVE LIFTOFF!

    Egon von Greyerz Mar 5,2024

    ทุก ๆ จักรวรรดิในประวัติศาสตร์ล้วนแล้วแต่ต้องล้มสลาย เหมือนกันกับเงินเฟียตทุกสกุล ...และทุกครั้ง ทองคำจะกลับมาเป็น money แบบที่เคยเป็นมาตลอด 5,000 ปี

    เมื่อปี 2006 วิกฤตการเงินครั้งใหญ๋เริ่มขึ้น พอถึงปี 2008 ระบบการเงินมาถึงจุดที่เกือบจะล่มสลาย แบ่งค์ยักษ์อย่าง JP Morgan ..Morgan Stanley ..กับอีกหลายแห่งใกล้จะถึงขั้นล้มละลาย

    ทันทีนั้นเอง ปริมาณเงินจำนวนมหาศาลก็ถูกพิมพ์ขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเลื่อนเวลาการล่มสลายของระบบการเงินทั้งระบบออกไป

    แต่เมื่อเริ่มแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ มันก็จะหยุดไม่ได้ ...และตั้งแต่ปี 2008 มาถึงตอนนี้ จำนวนเงินที่เพิ่มมาทั้งระบบเพิ่มมาเป็น $100 trillion แล้ว

    เมื่อตอนที่ดอลลาร์อิงค่ากับทองคำ ทำให้การสร้างหนี้ของรัฐบาลไม่ง่ายดังใจ โดยเฉพาะในช่วงต้องใช้เงินมากยุค '60s

    นั่นเป็นเหตุผลที่นิกสัน เมื่อเริ่มเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลังในช่วงปลาย 1960s ต่อต้น 1970s จากค่าใช้จ่ายสงครามเวียดนาม ....จึงปิดประตูเรื่องทองคำในปี 1971 โดยอ้างว่าเป็นการ "ชั่วคราว"

    นี่เป็นการเริ่มต้นยุคของการจัดงบประมาณของรัฐบาลแบบน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ต้องมีการเหนียมอายเรื่องความน่าเชื่อถือกันอีกต่อไป ..ไม่ต้องส่งทองคำให้ฝรั่งเศสแลกเปลี่ยนกับดอลลาร์อีกแล้ว ..มาทำอวดฉลาดดีนักที่จะเรียกร้องเป็นทองคำแทนที่จะเก็บเป็นกระดาษดอลลาร์ของเรา

    ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1971 จึงเริ่มศักราชการพิมพ์เงินของสหรัฐและการขยายเครดิต..แบบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์

    หนี้รวมของรัฐบาลสหรัฐที่เคยมีอยู่เมื่อปี 1971 $2 trillion กลายเป็น $200 trillion ในทุกวันนี้ แค่ 100 เท่าพอดี

    แล้วเงินทุกสกุลหลักของโลกต้องผูกอยู่กับดอลลาร์ ภายใต้สัญญาของระบบ Bretton Woods ...พอดอลลาร์ไม่ต้องอิงค่ากับทองคำ เงินทุกสกุลของโลกก็ต้องไปขึ้นอยู่กับแท่นพิมพ์เงินของสหรัฐด้วย (รวมทั้งระบบเครดิต) ....นี่เป็นการแทนที่ real money หรือทองคำ ด้วยดอลลาร์

    เดิมทีดอลลาร์เป็น currencies ..เป็นตัวแทนหรือเป็นเครดิตของทองคำ (money) ....แต่บัดนี้มันเป็น money เองแล้ว

    ผลจากเรื่อง "ชั่วคราว" ของนิกสันครั้งนั้น ทำให้เงินกระดาษเสื่อมมูลค่าไปถึง 97-99% ตั้งแต่ปี 1970 มา

    ทรัพย์สินทั้งหลายเมื่อคิดเป็นราคาแล้วจึงสูงลิ่วไปตาม ๆ กัน ในปี 1971 ทรัพย์สินการเงินทั้งหมดของสหรัฐมีค่า $2 trillion ทุกวันนี้มันขึ้นไป 65 เท่า เป็น $130 trillion

    แล้วถ้าเราไปรวมเอาทรัพย์สินนอก balance sheet เช่นระบบ shadow banking และพวกสัญญาอนุพันธ์ทั้งหลายด้วย เราจะเห็นอะไรที่มีมูลค่าถึง $2 quadrillion (พันล้านล้าน)

    HEADS, GOLD WINS – TAILS, GOLD WINS
    ถ้าออกหัว ทองคำชนะ ...ถ้าออกก้อย ทองคำก็ชนะอีกน่ะแหละ

    เศรษฐกิจของโลกจะมี 2 อ้อปชั่น ..สรุปได้ดังนี้

    1. De-dollarization ยังคงเกิดต่อเนื่อง ..เปโตรดอลลาร์จบไปแล้ว ..ทองคำค่อย ๆ เข้าแทนที่ดอลลาร์ในการเป็นสื่อของการค้าสินค้าโภคภัณท์ในกลุ่ม BRICS

    อ้อปชั่นนี้ฟังดูดีเกินไปมั้ย งั้นไปดูอีกอ้อปชั่น

    2. ทั้งจีน ทั้งตลาดบอนด์ ตลอดถึงเศรษฐกิจโลกจะต้องพังลงในที่สุด ทำให้ทั้งโลกเกิด Great Depression อีกครั้ง จนถึงอาจเกิดสงครามโลกได้ แต่ยังไงก็ตาม ราคาทองคำก็อาจพุ่งสูงได้เลย ในขณะที่บอนด์และหุ้นก็อาจร่วงอย่างแรง

    ผลจากทั้งสองกรณีที่ว่ามานี้ .... ราคาทองคำก็จะขึ้นทั้งนั้น

    แล้วจะไปถือกระดาษหรือทรัพย์สินที่เป็นฟองสบู่อยู่ทำไม

    สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ (CBO) ทำ forecast การใช้งบประมาณในอีก 10 ปีข้างหน้า ...แต่ไม่ได้คาดว่าจะเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ หรือ recession ในสิบปีนี้เลย

    แต่ถึงแม้ CBO จะคาดว่าหนี้จะเพิ่มไปถึง $55 trillion ภายในปี 2034 แต่ก็ยังหวังว่าเงินเฟ้อจะอยู่แค่ 2% !

    ต้งแต่ยุคของ ปธน. รีแกน เมื่อปี 1981 เป็นต้นมา หนี้ของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มไปเท่าตัวทุก ๆ 8 ปี

    ถ้าเป็นไปตามนี้ หนี้รัฐบาลกลางจะสูงไปถึง $100 trillion ในปี 2036

    WHY IS EVERYONE WAITING FOR NEW GOLD HIGHS IN ORDER TO BUY???

    ทำไมพอราคาทองคำสูง new highs ถึงค่อยคิดเข้าซื้อกัน?

    ตั้ง 25 ปีมาแล้วที่ผมเริ่มชักชวนนักลงทุนให้เห็นความสำคัญของทองคำในการปกป้อง wealth

    แต่ตอนนี้มีมากกว่า 0.5% ของทรัพย์สินการเงินของทั้งโลกเท่านั้นที่ไหลเข้าหาทองคำ ...ปี 1960 มีอยู่ 5% ...ปี 1980 ตอนที่ราคาทองคำพีคที่ $850 มีอยู่ 2.7%

    ในช่วง 25 ปีมานี้ ราคาทองคำสูงขึ้น 7-8 เท่าในสกุลเงินของหลายประเทศตะวันตก ...แต่ก็ยังคงมีน้อยกว่า 1% ของทรัพย์สินที่ไหลเข้าทองคำ

    แม้กระทั่งตอนนี้ ที่ทองคำ breakout แล้ว นักลงทุนที่ลงทุนในทองคำก็ยังมีไม่มาก

    พวกที่เห็นในสัจธรรมก็มีแต่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ BRICS ...พวกนี้จะซื้อขายกันนอกตลาด มันจึงแทบไม่ส่งผลให้ราคาทองคำเปลี่ยนไป

    แต่ Alasdair Macleod อธิบายไว้ใน King World News ว่าตอนนี้ทองคำเกิดการ squeeze รุนแรง ...Comex น่ะไม่ได้มีการส่งมอบ physical ตามจำนวนมานานแล้ว ส่วนใหญ่มีแต่ cash settlements

    แต่ตอนนี้ผู้ซื้อในตลาด Comex ที่ไม่ใช่นักเทรด ต้องการ physical

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีการส่งมอบทองคำจากรัฐบาลสหรัฐออกจาก Comex แบบแท่งขนาด 400 oz ไปยังโรงหลอมที่สวิส เพื่อหลอมเป็นแท่ง 1 กิโลกรัม ส่งไปยังประเทศ BRICS ....ทองคำเหล่านี้จะไม่มีการส่งกลับคืนไปตะวันตกอีกแล้ว

    สักวันหนึ่งเรื่องนี้จะสร้าง panic ในตลาดทองคำ เพราะปริมาณทองคำที่จะมีส่งมอบน้อยลงทุกทีแล้ว

    ตอนนี้ผมขอแนะนำให้ผู้ที่ครอบครองทองคำในสหรัฐให้ย้ายทองคำออกไปยังคลังที่ปลอดภัยกว่า เช่นที่สวิสหรือสิงคโปร์

    เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเกิด gold squeeze คุณจะยังคงเป็นเจ้าของมันอยู่

    ตอนนี้ทองคำเพิ่งจะ breakout มันยังมีหนทางที่จะสูงขึ้น ...สูงขึ้น ....อีกไกล

    เราไม่อาจคาดเดาราคาทองคำได้หรอก ตราบใดที่เรายังใช้เงินกงเต็ก ไม่ว่าสกุลไหน ๆ (USD ..Euro ..GBP) มาวัดมูลค่าให้ทองคำ

    ดีมานด์ทองคำจะต้องมาแรงแน่ ๆ ในไม่ช้านี้ และมันจะไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะการผลิตทองคำในโลกต่อปีมีแค่ 3,000 ตัน

    ทางเดียวที่จะสนองตอบได้ ...ก็มีแต่ราคาที่สูงขึ้นแบบคาดเดาไม่ถูกเลยเท่านั้น


    About Egon von Greyerz

    Born with dual Swiss/Swedish citizenship, Egon's education was mainly in Sweden. Egon von Greyerz began his professional life in Geneva as a banker and thereafter spent 17 years as the Finance Director and Executive Vice-Chairman of Dixons Group Plc.

    https://vongreyerz.gold/gold-we-have-liftoff

    https://www.facebook.com/share/p/WwSjiptzKYowFW3h/?mibextid=oFDknk

    FB_IMG_1709882688489.jpg FB_IMG_1709882690465.jpg FB_IMG_1709882692529.jpg
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซัยยิด มีร์ มุฮัมมัด อลิม ข่าน เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของประเทศบูคารา (คืออุซเบกิสถานและทาจิกิสถานปัจจุบัน วัฒนธรรมผสมกันระหว่างมองโกลกับเปอร์เซีย) เขาครองราชย์ระหว่างปี 1911-1920 ต่อมาจึงถูกโซเวียตโค่นล้ม
    FB_IMG_1709882922831.jpg
    ในหน้าร้อนนั้น อลิมข่านจะให้สนมกำนัลซึ่งมีนับร้อยคนไปอาบน้ำในสระใหญ่ เขาจะประทับนั่งดูบนบัลลังค์ เมื่อถูกใจคนไหนเขาจะขว้างแอปเปิลเขียวให้ คนนั้นก็จะมีสิทธิโอโป๊ะจะมะกับเขาในคืนนั้น

    แม้อลิมข่านจะมีมเหสีมากมาย แค่มเหสีเอกจะต้องมีเชื้อสายเจงกีสข่านเท่านั้น

    นอกจากชอบผู้หญิงแล้วเขายังชอบสะสมมีด สะสมเครื่องถ้วยชามจีน และชอบขี่ม้ามาก (สงสารม้า)

    ดูรูปตอนถูกเนรเทศไปอัฟกานิสถานและผอมลงในคอมเม้นต์
    FB_IMG_1709882928783.jpg
    #twcuzbekistan #twctajikistan
    https://www.facebook.com/share/PgUebgQf66ZdbBWw/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเข้าพบในวันพฤหัสบดี(7มี.ค.) และขู่ตะเพิดเหล่าผู้แทนทูตอเมริกา ในการประท้วงต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการแทรกแซงของวอชิงตัน ในกิจการภายในของมอสโก

    มอสโกระบุว่าวอชิงตันให้เงินทุนสนับสนุนกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไร(เอ็นจีโอ) "ต่อต้านรัสเซีย" และ "แพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียในเดือนนี้ และปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

    "ความพยายามแทรกแซงในกิจการภายในของสหพันธรัฐรัสเซีย ในนั้นรวมถึงผ่านความเคลื่อนไหวล้มล้างต่างๆนานา และแพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนในบริบทเกี่ยวกับการเลือกตั้งและปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร จะถูกปราบปรามอย่างแน่วแน่และเด็ดขาด" กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

    ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุต่อว่า มาตรการแก้เผ็ดต่างๆนานา อาจรวมไปถึงการขับไล่พวกเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำต่างๆเหล่านั้น

    ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯต่างขับไล่เจ้าหน้าที่ทูตของแต่ละฝ่ายไปแล้วหลายสิบคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดำดิ่งระหว่างสองประเทศ แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ

    กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในวันพฤหัสบดี(7มี.ค.) ระบุว่าพวกเขาได้แจ้งกับ ลีนน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ให้หยุดมอบเงินทุนสนับสนุนองค์กรการศึกษาไม่แสวงหาผลกำไร 3 กลุ่ม ที่มีทัศนคติและค่านิยม แปลกแยกจากสังคมรัสเซีย ในนั้นปรกอบด้วยสภาอเมริกาเพื่อการศึกษาระหว่างประเทศ, กลุ่ม Cultural Vistas และสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ

    มอสโกมองกลุ่มประชาสังคมและเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในฐานะเป็นปรปักษ์และต่อต้านเครมลิน กล่าวหาพวกเขาฝึกฝนพวกที่อยากเป็นนักปฏิวัติ คำกล่าวอ้างที่ตะวันตกปฏิเสธ เช่นเดียวกับกลุ่มต่างๆเหลานี้

    รัสเซียตราหน้ากลุ่มเหล่านี้ในฐานะองค์กรไม่พึงปรารถนา สถานะที่กำหนดให้การที่พลเรือนรัสเซียทำงานกับองค์กรเหล่านี้ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

    ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวหาซ้ำๆว่าสหรัฐฯกำลังหาทางแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซีย คำกล่าวหานี้รุนแรงยิ่งขึ้น หลังจาก วอชิงตัน เปิดโปงความพยายามของรัสเซีย ในการแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016

    (ที่มา:เอเอฟพี)

    https://www.facebook.com/share/p/JGQGgw2rHffFyqSR/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “สภาฮ่องกง” เริ่มอภิปราย “กม.ป้องกันความมั่นคงใหม่” เพิ่มโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตคดีขายชาติ-กบฎ ส่วนอดีตนายกอังกฤษ “เทเรซา เมย์” ช็อกโลกประกาศตัวไม่ลงเลือกตั้งสมัยหน้า
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – สภานิติบัญญัติฮ่องกงวันศุกร์(8 มี.ค ) เริ่มอภิปรายกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่รู้จักในนามกฎหมายป้องกันความมั่นคงแห่งชาติ เพิ่มโทษจำคุกคดีขายชาติและกบฏด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต ผู้ว่าการเกาะโปรปักกิ่ง จอห์น ลี เรียกร้องให้ผ่านด่วน ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ประกาศตัวไม่ลงสมัครชิงต่อสมัยหน้าท่ามกลางการไหลออกของสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวตีฟไม่ต่ำกว่า 60 คนรวมอดีตรองนายกรัฐมนตรี โดมินิค ราบ อดีต และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ
    .
    อัลญะซีเราะฮ์ของกาตาร์รายงานวันศุกร์(8 มี.ค)ว่า การอภิปรายกฎหมายป้องกันความมั่งคงแห่งชาติ (Safeguarding National Security Bill ) เริ่มขึ้นในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์(8) แต่กลับถูกถอนออกไปไม่ถึง 15 นาทีหลังจากนั้นและต้องรอต่อไปจนถึงวันที่ 11 มี.คฃ
    .
    ร่างกฎหมายมีราว 212 หน้าถูกเผยแพร่ออนไลน์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการอภิปราย ซึ่งรวมถึงกฎหมายใหม่เกี่ยวข้องกับการทรยศ จารกรรมลับ การแทรกแซงจากภายนอก ความลับของรัฐ และการปบุกปั่น
    .
    ในแถลงการณ์ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง จอห์น ลีเรียกร้องให้ใช้ฟาส์ตแทร็คผ่านกฎหมายฉบับนี้ออกมาโดยเร็วที่สุดเพื่อทำให้ฮ่องกงสามารถเดินไปข้างหน้าได้
    .
    อ้างอิงจากเอเอฟพีพบว่า กฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกงนี้รวมไปถึงโษจำคุกตลอดชีวิตในความผิดคดีร้ายแรงต่างๆเป็นต้นว่า การขายชาติและการก่อกบฏ
    .
    หากว่ามีการผ่านจะทำให้ฮ่องกงมีกฎหมายความมั่นคงฉบับที่ 2 ที่ร่างขึ้นเองสามารถทำงานในฮ่องกงหลงจากก่อนหน้าปักกิ่งได้ออกกฎหมายความมั่นคงฉบับแรกใช้เมื่อปี 2020 หลังปี 2019 ฮ่องกงตกอยู่ภายใต้การประท้วงเรียกร้องตลอดทั้งปีและมีสมาชิกสภาเขตสายเรียกร้องประขาธิปไตยชนะเข้าไปนั่งสำเร็จแบบแลนด์สไลด์
    .
    หัวหน้าความมั่นคงฮ่องกง Chris Tang แถลงต่อสมาชิกสภานิติบัญญาติฮ่องกงว่า มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนและอย่างแท้จริงสำหรับกฎหมายใหม่
    .
    อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า ความผิดการขายชาติมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ส่วนความผิดละเมิดความลับของรัฐลัการจารกรรมอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและ 20 ปีตามลำดับ
    .
    สื่อกาตาร์รายงานว่า กฎหมายใหม่ให้อำนาจตำรวจฮ่องกงสามารถควบคุมตัวคนกระทำผิดได้นานถึง 2 สัปดาห์จากเดิมปัจจุบันที่ 48 ช.มก่อนตั้งข้อหา รวมไปถึงให้อำนาจตำรวจในการถอดถอนสิทธิ์การมีทนายความของผู้ต้องหาระหว่างควบคุมตัวก่อนตั้งข้อหา
    .
    และกฎหมายใหม่ยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้กระทำผิดที่หลบหนีคดี
    .
    ขณะเดียวกันในฟากฝั่งแดนผู้ดี อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ วัย 67 ปีประกาศวันศุกร์(8)ยุติเส้นทางการเมืองของตัวเองในฐานะสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ โดยเธอได้แถลงว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากหลังจากดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎรเขตเมเดนเฮด(Maidenhead)ในสภาสามัญชนอังกฤษมานานถึง 27 ปี สกายนิวส์ของอังกฤษรายงาน
    .
    แถลงการณ์ที่ตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เมย์กล่าวว่า ตัวเองจะไม่ลงเลือกตั้งต่อในสมัยหน้า เธอชี้ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะยังคงให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ต่อไปและเธอมั่นใจว่าพรรคคอนเซอร์เวตีฟจะชนะการเลือกตั้งในครั้งวหน้าอย่างแน่นอน
    .
    ทั้งนี้เทเรซา เมย์เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษระหว่างปี 2016 – ปี 2019 หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ต้องยอมลาออกหลังอังกฤษลงประชามติ BREXIT ให้อังกฤษลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
    .
    เป็นที่น่าแปลกใจสกายนิวส์ชี้ว่า นอกเหนือจากเมย์ที่ประกาศเลิกเล่นการเมืองแล้วพบว่า นักการเมืองคนสำคัญจากพรรคคอนเซอร์เวตีฟของเธออีกกว่า 60 คนจะไม่ลงเลือกตั้งในสมัยหน้าถือเป็นจำนวนนที่สูงนับตั้งแต่ปี 1997
    .
    รวมถึง อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ (Ben Wallace) รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและสังคมสงเคราะห์อังกฤษ ซาจิด จาวิด( Sajid Javid) อดีตรองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดมินิค ราบ( Dominic Raab) และอดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษผู้อื้อฉาวของนายกฯ ลิซ ทรัสส์ คือ กวาซี กวาเต็ง( Kwasi Kwarteng)
    ..
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่่...เอเจนซีส์ – สภานิติบัญญัติฮ่องกงวันศุกร์(8 มี.ค ) เริ่มอภิปรายกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่รู้จักในนามกฎหมายป้องกันความมั่นคงแห่งชาติ เพิ่มโทษจำคุกคดีขายชาติและกบฏด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต ผู้ว่าการเกาะโปรปักกิ่ง จอห์น ลี เรียกร้องให้ผ่านด่วน ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ประกาศตัวไม่ลงสมัครชิงต่อสมัยหน้าท่ามกลางการไหลออกของสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวตีฟไม่ต่ำกว่า 60 คนรวมอดีตรองนายกรัฐมนตรี โดมินิค ราบ อดีต และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ
    .
    อัลญะซีเราะฮ์ของกาตาร์รายงานวันศุกร์(8 มี.ค)ว่า การอภิปรายกฎหมายป้องกันความมั่งคงแห่งชาติ (Safeguarding National Security Bill ) เริ่มขึ้นในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์(8) แต่กลับถูกถอนออกไปไม่ถึง 15 นาทีหลังจากนั้นและต้องรอต่อไปจนถึงวันที่ 11 มี.คฃ
    .
    ร่างกฎหมายมีราว 212 หน้าถูกเผยแพร่ออนไลน์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการอภิปราย ซึ่งรวมถึงกฎหมายใหม่เกี่ยวข้องกับการทรยศ จารกรรมลับ การแทรกแซงจากภายนอก ความลับของรัฐ และการปบุกปั่น
    .
    ในแถลงการณ์ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง จอห์น ลีเรียกร้องให้ใช้ฟาส์ตแทร็คผ่านกฎหมายฉบับนี้ออกมาโดยเร็วที่สุดเพื่อทำให้ฮ่องกงสามารถเดินไปข้างหน้าได้
    .
    อ้างอิงจากเอเอฟพีพบว่า กฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกงนี้รวมไปถึงโษจำคุกตลอดชีวิตในความผิดคดีร้ายแรงต่างๆเป็นต้นว่า การขายชาติและการก่อกบฏ
    .
    หากว่ามีการผ่านจะทำให้ฮ่องกงมีกฎหมายความมั่นคงฉบับที่ 2 ที่ร่างขึ้นเองสามารถทำงานในฮ่องกงหลงจากก่อนหน้าปักกิ่งได้ออกกฎหมายความมั่นคงฉบับแรกใช้เมื่อปี 2020 หลังปี 2019 ฮ่องกงตกอยู่ภายใต้การประท้วงเรียกร้องตลอดทั้งปีและมีสมาชิกสภาเขตสายเรียกร้องประขาธิปไตยชนะเข้าไปนั่งสำเร็จแบบแลนด์สไลด์
    .
    หัวหน้าความมั่นคงฮ่องกง คริส ถัง (Chris Tang) แถลงต่อสมาชิกสภานิติบัญญาติฮ่องกงว่า มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนและอย่างแท้จริงสำหรับกฎหมายใหม่
    .
    อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า ความผิดการขายชาติมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ส่วนความผิดละเมิดความลับของรัฐลัการจารกรรมอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและ 20 ปีตามลำดับ
    .
    สื่อกาตาร์รายงานว่า กฎหมายใหม่ให้อำนาจตำรวจฮ่องกงสามารถควบคุมตัวคนกระทำผิดได้นานถึง 2 สัปดาห์จากเดิมปัจจุบันที่ 48 ช.มก่อนตั้งข้อหา รวมไปถึงให้อำนาจตำรวจในการถอดถอนสิทธิ์การมีทนายความของผู้ต้องหาระหว่างควบคุมตัวก่อนตั้งข้อหา
    .
    และกฎหมายใหม่ยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้กระทำผิดที่หลบหนีคดี
    .
    ขณะเดียวกันในฟากฝั่งแดนผู้ดี อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ วัย 67 ปีประกาศวันศุกร์(8)ยุติเส้นทางการเมืองของตัวเองในฐานะสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ โดยเธอได้แถลงว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากหลังจากดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎรเขตเมเดนเฮด(Maidenhead)ในสภาสามัญชนอังกฤษมานานถึง 27 ปี สกายนิวส์ของอังกฤษรายงาน
    .
    แถลงการณ์ที่ตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เมย์กล่าวว่า ตัวเองจะไม่ลงเลือกตั้งต่อในสมัยหน้า เธอชี้ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะยังคงให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ต่อไปและเธอมั่นใจว่าพรรคคอนเซอร์เวตีฟจะชนะการเลือกตั้งในครั้งวหน้าอย่างแน่นอน
    .
    ทั้งนี้เทเรซา เมย์เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษระหว่างปี 2016 – ปี 2019 หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ต้องยอมลาออกหลังอังกฤษลงประชามติ BREXIT ให้อังกฤษลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
    .
    เป็นที่น่าแปลกใจสกายนิวส์ชี้ว่า นอกเหนือจากเมย์ที่ประกาศเลิกเล่นการเมืองแล้วพบว่า นักการเมืองคนสำคัญจากพรรคคอนเซอร์เวตีฟของเธออีกกว่า 60 คนจะไม่ลงเลือกตั้งในสมัยหน้าถือเป็นจำนวนนที่สูงนับตั้งแต่ปี 1997
    .
    รวมถึง อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ (Ben Wallace) รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและสังคมสงเคราะห์อังกฤษ ซาจิด จาวิด( Sajid Javid) อดีตรองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดมินิค ราบ( Dominic Raab) และอดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษผู้อื้อฉาวของนายกฯ ลิซ ทรัสส์ คือ กวาซี กวาเต็ง( Kwasi Kwarteng)
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000021120

    https://www.facebook.com/share/p/oLpkmivqvgLe5SzB/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทต่างชาติเตือนอาจระงับลงทุนในเวียดนาม หากรัฐไร้แผนอุดหนุนชดเชยอัตราภาษีใหม่
    .
    .
    รอยเตอร์ - บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ระบุว่าพวกเขาอาจระงับแผนการลงทุนใหม่ในเวียดนาม หากไม่มีการอุดหนุนเพื่อช่วยชดเชยต้นทุนการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มเติมใหม่ บุคคลที่เกี่ยวข้องในการเจรจาเรื่องนี้ระหว่างนักลงทุนและรัฐบาลระบุ
    .
    เวียดนาม ประเทศศูนย์กลางการผลิตที่พึ่งพาการลงทุนแห่งนี้ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักของบริษัทต่างๆ ที่ย้ายกิจกรรมจากจีนเพื่อลดผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ แต่การปรับขึ้นภาษี ที่ควบคู่ไปกับปัญหาด้านพลังงาน อุปสรรคด้านกฎระเบียบ และการเพิ่มค่าจ้าง อาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามลดลง นักวิเคราะห์ระบุ
    .
    ในปีนี้ เวียดนามได้ประกาศใช้ภาษีขั้นต่ำทั่วโลกที่ 15% สำหรับบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ โครงการริเริ่มที่ดำเนินการโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ขณะที่มาตรการจูงใจลดอัตราภาษีเหลือ 5% จะไม่มีอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าบริษัทข้ามชาติบางแห่งจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมเพื่อให้ตรงกับอัตรา 15%
    .
    บริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ บางแห่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อผูกพันอัตราภาษีต่ำที่เวียดนามใช้ดึงดูดการลงทุนเดิม และกล่าวเสริมว่าการลงทุนใหม่อาจเป็นเรื่องยาก หากไม่มีมาตรการชดเชยภาษีเพิ่มเติมดังกล่าว
    .
    รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะให้เงินอุดหนุนใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังล่าช้าในการดำเนินการขั้นตอนใดๆ
    .
    ในเดือน ธ.ค. เวียดนามได้ออกร่างกฎหมายการอุดหนุนใหม่และเงื่อนไขสำหรับผู้มีสิทธิได้รับ เช่น การถูกจัดอยู่ในประเภทของบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ประเด็นสำคัญหลายประการยังคงไม่ได้กำหนดไว้ เช่น ขนาดของทุนจูงใจใหม่ และไม่มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจนในการอนุมัติมาตรการดังกล่าว
    .
    ตัวแทนของบริษัทข้ามชาติได้ยกข้อกังวลกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเกี่ยวกับขนาด ขอบเขต และการเข้าถึงสิ่งจูงใจที่วางแผนไว้ บุคคลที่เข้าร่วมการประชุมกล่าวกับรอยเตอร์โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากการประชุมดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
    .
    ตัวแทนของบริษัท Lego Group ที่ลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สร้างโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม ถามว่าบริษัทที่ไม่จัดว่าเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเช่น Lego จะมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนใดๆ ตามที่ระบุในร่างกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงตอบว่าพวกเขาจะไม่มีสิทธิ
    .
    ผู้ผลิตของเล่นจากเดนมาร์กได้ยืนยันกับรอยเตอร์ว่าหนึ่งในตัวแทนของบริษัทได้ถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุม
    .
    ด้านตัวแทนของบริษัท Amkor Technology ของสหรัฐฯ ที่กำลังสร้างโรงงานมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ในเวียดนามเพื่อประกอบ ทดสอบ และบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ กล่าวว่าบริษัทพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับการจัดประเภทเป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง
    .
    ตัวแทนของบริษัท Samsung Electronics ที่เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุด ไม่ได้แทรกแซงในการประชุม แหล่งข่าวระบุ และเสริมว่าบริษัทจากเกาหลีใต้รายนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้แสดงความเห็นมากที่สุดเกี่ยวกับมาตรการชดเชยภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น
    .
    บริษัท Amkor Technology และกระทรวงการวางแผนและการลงทุนไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์ ขณะที่ Samsung ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น
    .
    จากอัตราภาษีเพิ่มเติมใหม่ รัฐบาลได้ประมาณการรายได้ภาษีประจำปีเพิ่มเติมที่ 14.6 ล้านล้านด่ง (ราว 591 ล้านดอลลาร์) จากบริษัทต่างชาติ 122 แห่ง และรัฐบาลกล่าวว่าตั้งใจที่จะใช้รายได้ส่วนนี้แจกเงินสดให้บริษัทที่ลงทุน
    .
    อย่างไรก็ตาม เงินอุดหนุนใหม่จะไม่เสนอการชดเชยโดยตรงสำหรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับโครงการริเริ่มการจัดเก็บภาษีเงินได้ขั้นต่ำทั่วโลก (GMT) เจ้าหน้าที่รัฐกล่าวกับตัวแทนขององค์กรต่างๆ เมื่อวันอังคาร (5) ตามการระบุของแหล่งข่าว
    .
    การเชื่อมโยงโดยตรงจะถือเป็นการฝ่าฝีนข้อตกลงระหว่างประเทศที่อยู่เบื้องหลังโครงการริเริ่มนี้ และอาจนำไปสู่การถ่ายโอนรายได้เพิ่มเติมไปยังประเทศบ้านเกิดของบริษัทข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ของ OECD ระบุ แม้ว่ามาตรการบังคับใช้จะยังไม่ชัดเจนก็ตาม
    .
    อย่างไรก็ตาม สำหรับบางบริษัท เงินอุดหนุนใหม่อาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายภาษีส่วนเพิ่มเติมเป็นส่วนใหญ่ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญที่คุ้นเคยกับการหารือเกี่ยวกับสิ่งจูงใจกล่าว.

    https://www.facebook.com/share/p/w8TZwHG7ZZd78uz2/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศวานนี้ (8 มี.ค.) ว่าตนเตรียมจะลงนามกฎหมายบังคับให้บริษัท ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีนขายหุ้นในแอปฯ สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม TikTok ทิ้งภายใน 6 เดือน ขณะที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นคู่แข่งชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าการแบน TikTok ซึ่งมีผู้ใช้งานในอเมริกามากถึง 170 ล้านคนจะเป็นการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้กับ “เฟซบุ๊ก”
    .
    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมที่จะโหวตร่างกฎหมายเล่นงาน TikTok ในวันอังคาร (12) หรือพุธ (13) ที่จะถึงนี้ หลังจากที่คณะกรรมการสภาชุดหนึ่งได้อนุมัติมาตรการดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพฤหัสบดี (7) โดยการโหวตร่างกฎหมายนั้นจะต้องได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของสภาจึงจะถือว่าผ่าน
    .
    “ถ้าสภาฯ อนุมัติ ผมก็จะลงนาม” ไบเดน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
    .
    อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ยังต้องลุ้นผลโหวตในชั้นวุฒิสภา ซึ่งมี ส.ว.บางคนระบุว่าต้องการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน
    .
    ทรัมป์ ซึ่งหวังจะกลับมาคว้าชัยในศึกชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ปลายปีนี้ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแบนแอปฯ TikTok โดยโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า “ถ้าคุณกำจัด TikTok ออกไป ธุรกิจของเฟซบุ๊กก็จะเติบโตเป็น 2 เท่า”
    .
    ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า เขาไม่อยากเห็นเฟซบุ๊ก “เจริญรุ่งเรืองมากไปกว่านี้”
    .
    อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้มีเรื่องไม่กินเส้นกับ Meta Platforms ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก หลังจากที่ทางเฟซบุ๊กได้ลบโพสต์ 2 อันของเขาในช่วงที่เกิดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 และต่อมายังปิดกั้นไม่ให้ ทรัมป์ เข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของเขาแบบไม่มีกำหนด ก่อนจะมาปลดแบนให้เมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว
    .
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แจ้งต่อคณะกรรมการว่าด้วยพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรว่า กฎหมายบังคับให้ขายหุ้นหรือ divestiture bill นั้นจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เผชิญความสุ่มเสี่ยงทางกฎหมายน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการออกกฎหมายแบน TikTok โดยตรง
    .
    ร่างกฎหมายฉบับนี้จะให้เวลาไบต์แดนซ์ 165 วันในการขายหุ้น TikTok ทิ้ง ซึ่งหากบริษัทไม่ทำตาม บรรดาแอปสโตร์ต่างๆ ทั้งของ Apple, Google และรายอื่นๆ ก็จะไม่สามารถเปิดให้ผู้คนดาวน์โหลด TikTok หรือให้บริการ web hosting services แก่แอปพลิเคชันต่างๆ ที่อยู่ในเครือของไบต์แดนซ์ได้อีก
    .
    TikTok ซึ่งยืนยันเสียงแข็งว่าไม่เคยแชร์และไม่คิดจะแชร์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ให้กับรัฐบาลจีน ออกมาแย้งว่าร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่ต่างอะไรกับการแบน TikTok และจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจีนจะยอมอนุมัติให้มีการขายหุ้น หรือว่าไบต์แดนซ์จะสามารถถอนการลงทุนใน TikTok ได้ภายใน 6 เดือนจริงหรือไม่
    .
    “กฎหมายฉบับนี้ถูกกำหนดผลลัพธ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว นั่นคือการทำให้ TikTok ถูกแบนในสหรัฐอเมริกาอย่างสมบูรณ์” ไบต์แดนซ์ แถลงหลังจากที่ทราบผลโหวตของคณะกรรมการพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
    .
    “รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามลิดรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกัน 170 ล้านคนที่จะแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี”
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
    https://www.facebook.com/share/p/9fMEE5CqAKFC3Bw/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "พลังงาน" มั่นใจ "ไฟไม่ดับ" วอนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดช่วงฤดูร้อน

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://mono29.com/news/478117.html

    #กระทรวงพลังงาน #การใช้ไฟฟ้า #ประหยัดไฟ #ฤดูร้อน #ข่าวโมโน #MONONEWS #MONO29 #สังคมอยากรู้ดูข่าวโมโน

    https://www.facebook.com/share/p/SQnn9fQ11v4afXnu/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การจ้องหน้าจอมือถือก่อนเข้านอน ทำให้การนอนหลับไม่มีประสิทธิภาพและส่งผลให้ผิวแก่เร็วขึ้น
    .
    เมื่อร่างกายได้พักผ่อนจะฟื้นฟูตัวเองใหม่ ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และช่วยให้ผิวได้หยุดพักจากสิ่งรบกวนภายนอก (รังสียูวี มลภาวะ) จากผลการศึกษาในหัวข้อ “คุณภาพการนอนมีผลต่อความแก่ชราที่ผิวหรือไม่” ของภาควิชาโรคผิวหนัง ศูนย์การแพทย์ UH Cleveland** พบว่า
    .
    การนอนหลับที่ไม่ดีอย่างเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความแก่ชราที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายใน ส่งผลให้ปราการผิวทำงานลดลง และความมั่นใจด้านรูปลักษณ์ภายนอกลดลง ดังนั้นคนเราควรนอนหลับให้พอ 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน และพยายามรักษาสุขอนามัยในการนอนหลับที่ดี เช่น

    - ตื่นและเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกวัน

    - ดูให้แน่ใจว่าห้องนอนของเราเงียบและมืดสนิทก่อนเข้านอน

    - หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอก่อนเข้านอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม : เคล็ดลับหน้าเด็ก ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย แนะนำ 7 ข้อควรทำและไม่ควรทำ
    »https://mono29.com/life/health/477909.html

    เมื่ออายุมากขึ้น การสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ ทำยังไงให้ผิวหน้าดูเด็กไม่แก่ก่อนวัย ขอนำคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาให้ลองไปปรับใช้กัน



    สาเหตุของผิวแก่ก่อนวัย 2 ประการ คือ



    1.ปัจจัยภายในร่างกาย หมายถึงปัจจัยทางพันธุกรรมและด้านร่างกาย รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตามช่วงวัย



    2.ปัจจัยภายนอก คือสิ่งที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น มลภาวะหรือรังสียูวี นิสัยการใช้ชีวิต และการสูบบุหรี่หรือกินน้ำตาลมากเกินไป



    ดังนั้นเพื่อให้ผิวพรรณของเรายังคงดูดี แม้อายุจะมากขึ้น ควรมุ่งเน้นจัดการไปที่ปัจจัยภายนอกที่เราสามารถควบคุมได้ โดยทำตามข้อที่ควรทำและไม่ควรทำ 7 ประการ ดังต่อไปนี้



    ไม่ควรทำ: พึ่งค่าการป้องกันแสงแดดจากเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว



    แม้ปัจจุบันเครื่องสำอางจำนวนมากจะที่มีค่าการป้องกันแสงแดด หรือ SPF มากขึ้น แต่เครื่องสำอางเหล่านี้มักไม่อาจให้การปกป้องผิวที่ครอบคลุมเสมอไป เช่น กันรังสี UVB ที่ทำให้ผิวหนังแดงและไหม้จากแสงแดดได้ แต่ไม่สามารถป้องกันรังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างอายุ



    ควรทำ: ทาครีมกันแดดที่มี ค่า SPF ครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB ก่อนแต่งหน้า



    2.ไม่ควรทำ: ใช้สบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง



    สบู่ก้อนทั่วไปอาจมีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารทำความสะอาดซัลเฟต ที่จะดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิว ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงจนผิวแห้งขาดน้ำ และไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการระคายเคืองได้ เช่น มลภาวะ ไวรัส และแบคทีเรีย ถึงแม้ว่าผิวแห้งจะไม่ทำให้เกิดริ้วรอย แต่ก็ทำให้ริ้วรอยเห็นเด่นชัดขึ้น



    ควรทำ: ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้น ปราศจากสารซัลเฟต และตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน A, C และ E



    3.ไม่ควรทำ: ละเลยการนอนหลับ



    เมื่อร่างกายของเราได้พักผ่อน ร่างกายจะฟื้นฟูตัวเองใหม่ ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และช่วยให้ผิวได้หยุดพักจากสิ่งรบกวนภายนอก (รังสียูวี มลภาวะ) จากผลการศึกษาในหัวข้อ “คุณภาพการนอนมีผลต่อความแก่ชราที่ผิวหรือไม่” ของภาควิชาโรคผิวหนัง ศูนย์การแพทย์ UH Cleveland** พบว่า การนอนหลับที่ไม่ดีอย่างเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความแก่ชราที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายใน ส่งผลให้ปราการผิวทำงานลดลง และความมั่นใจด้านรูปลักษณ์ภายนอกลดลง



    ควรทำ: นอนหลับให้พอ 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน และพยายามรักษาสุขอนามัยในการนอนหลับที่ดี เช่น



    · ตื่นและเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกวัน



    · ดูให้แน่ใจว่าห้องนอนของเราเงียบและมืดสนิทก่อนเข้านอน



    · หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอก่อนเข้านอน



    4.ไม่ควรทำ: ขยี้ตาเป็นประจำ



    ผิวหนังรอบดวงตาบอบบางเป็นพิเศษ ดังนั้นการขยี้บ่อยๆ อาจทำให้เกิดริ้วรอย และรอยคล้ำได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอย่าง โรคผิวหนังอักเสบ โรคผื่นผิวหนัง หรือภูมิแพ้ ทำให้ขยี้ตาบ่อย



    ควรทำ: ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้หรือแพทย์ผิวหนัง เพื่อตรวจหาสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองและต้องขยี้ตา รวมไปถึงการรักษาที่เหมาะสม



    5.ไม่ควรทำ: ปล่อยให้ตัวเองเครียดบ่อย ๆ



    จากบทความของ Harvard Health ในหัวข้อว่า “ความเครียดมีผลต่อผิว และร่างกายด้านอื่น ๆ”*** ได้ระบุไว้ว่า ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวโดยรวม และทำให้ปัญหาผิวหลายอย่างรุนแรงขึ้น ทั้งโรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ สิว และผมร่วง เนื่องจากความเครียดเรื้อรังเชื่อมโยงกับการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มากเกินไป ทั้งยังมีส่วนทำให้แก่เร็ว เพราะร่างกายเกิดการอักเสบที่เพิ่มขึ้นและมีการผลิตเซลล์อนุมูลอิสระมากเกินไป



    ควรทำ: ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และวิธีคิดใหม่เพื่อลดความเครียด ตัวอย่างเช่น



    · รับประทานอาหารที่สมดุล



    · ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ



    · นอนหลับให้เพียงพอ



    · ลองทำสมาธิ



    6.ไม่ควรทำ: ใช้หลอด



    การห่อริมฝีปากซ้ำๆ ทำให้เกิดริ้วรอยรอบปาก เนื่องจากเวลาที่เราจิบน้ำจากหลอดทำให้กล้ามเนื้อบริเวณริมฝีปากจะถูกกระตุ้น ยิ่งเรากระตุ้นกล้ามเนื้อมากเท่าไรก็ยิ่งสร้างรอยย่นในผิวหนังมากขึ้น โดยเฉพาะอายุที่มากขึ้น เนื่องจากผิวหนังสูญเสียอีลาสติน



    ควรทำ: พยายามหลีกเลี่ยงการใช้หลอดทุกครั้งที่ทำได้ รวมทั้งยังช่วยสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง



    7.ไม่ควรทำ: ละเลยการใช้แว่นกันแดด



    คนส่วนใหญ่มักสวมแว่นกันแดดเพียงเพื่อลดแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์เท่านั้น แต่ความจริงแล้วแว่นกันแดดเป็นหนึ่งในไอเท็มสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะสามารถช่วยปกป้องดวงตาจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อเปลือกตา เลนส์ จอประสาทตา และกระจกตาได้ ไม่ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆมากหรืออากาศหนาวก็ตาม รวมทั้งรังสียูวียังสร้างความเสียหายต่อผิว ทำให้เกิดความแห้งกร้าน ริ้วรอย ความเหี่ยวย่นของผิวหนังที่เด่นชัด ตลอดจนสูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดรอยด่างดำ



    ควรทำ: สวมแว่นกันแดดมีคุณภาพที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100%



    ที่มา : ลอร่า ชาคอน-การ์บาโต ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและการฝึกอบรมด้านโภชนาการทั่วโลกของเฮอร์บาไลฟ์



    https://www.facebook.com/share/p/J17XCkjxwrzWLXZ3/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หักล้างข้อมูลเดิม! เมื่อทีมนักวิจัยสหรัฐพบว่า การกินอาหารเสริม “วิตามินดี” ไม่มีผลต่อการป้องกันโรคกระดูกพรุน หรือลดความเสี่ยงต่อกระดูกเปราะหักใดๆ ทั้งในประชากรทั่วไป คนแก่ หรือคนที่ขาดวิตามินดีเองก็ตาม
    .
    งานวิจัยชิ้นนี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ “The New England Journal of Medicine” เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานศึกษาวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยทีมวิจัยรายงานว่า การบริโภคอาหารเสริม “วิตามินดี” แบบเม็ด ไม่ว่าจะมีส่วนผสมของแคลเซียมหรือไม่มีแคลเซียมก็ตาม ล้วนไม่มีส่วนช่วยป้องกันกระดูกเปราะ, กระดูกพรุน ไม่มีผลต่อการลดอัตราการแตกหักของกระดูกใดๆ แก่ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ผู้ที่ตรวจพบว่าขาดวิตามินดีในร่างกาย
    .
    อีกทั้งนักวิจัยได้สรุปผลและให้ความเห็นว่า พวกเขาไม่สนับสนุนรายการอาหารเสริมวิตามินดีหลายยี่ห้อที่อ้างว่ามีประโยชน์มากมายต่อผู้บริโภค เช่น ช่วยลดการเกิดกระดูกหักในผู้สูงวัย ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง-โรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยให้มีอายุยืนยาว เป็นต้น
    .
    “ตัวแทนขายอาหารเสริมต่างๆ ควรหยุดการแสดงระดับค่าวิตามินดีในกระแสเลือด (25-hydroxy-vitamin D) และหยุดแนะนำประชาชนให้บริโภคอาหารเสริมวิตามินดีได้แล้ว ส่วนประชาชนเองก็ควรหยุดบริโภควิตามินดีด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงหรือยืดอายุขัย” Dr.Steven R. Cummings นักวิทยาศาสตร์จาก California Pacific Medical Center Research Institute และ Dr.Clifford Rosen นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจาก MaineHealth Institute for Research และเป็นบรรณาธิการของวารสารการแพทย์ The New England Journal of Medicine กล่าวสรุปและให้คำแนะนำ
    .
    การวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาผลของวิตามินดีต่อสุขภาพแบบครอบคลุมที่เรียกว่า VITAL (VITamin D และ OmegA-3 TriaL) ได้รับทุนการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ มีผู้เข้าร่วมทดลอง 25,871 คน เป็นชายอายุ 50 ปีขึ้นไปและหญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่ได้รับวิตามินดีในปริมาณมาตรฐานสากล 2,000 หน่วยต่อวัน และกลุ่มทดลองที่ได้รับยาหลอก
    .
    ที่มาของการวิจัยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมร่วมกันของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ เภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นสมาชิกใน National Academy of Medicine ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยพวกเขามีข้อสงสัยตรงกันว่าการบริโภคอาหารเสริม “วิตามินดี” ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีขึ้นจริงหรือไม่?
    .
    แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อมูลในทำนองว่าการกินวิตามินดีปริมาณมาก มีแนวโน้มที่จะป้องกันกระดูกเปราะหักได้ แต่กลับไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ดังนั้น พวกเขาจึงเริ่มทำการศึกษาวิจัยครั้งนี้ขึ้น โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการทดลอง VITAL ดังกล่าว เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินดีต่อสุขภาพของประชาชน
    .
    แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อผลการวิจัยพบว่า “วิตามินดี” ไม่มีผลในการป้องกันมะเร็งหรือโรคหลอดเลือดหัวใจในกลุ่มผู้เข้าร่วมทดลอง และไม่ได้ป้องกันกระดูกเปราะหัก อีกทั้งไม่ได้ผลในการป้องกันการล้มในผู้สูงอายุ, ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, ไม่ลดความถี่ของไมเกรน, ไม่ช่วยบรรเทาโรคหลอดเลือดสมอง, ไม่ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม หรือลดอาการปวดเข่า
    .
    นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาขนาดใหญ่อีกชิ้นหนึ่งในออสเตรเลีย พบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเสริมวิตามินดีเป็นประจำไม่ได้ส่งผลให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น โดย Dr.JoAnn Manson หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ป้องกันจาก Brigham and Women's Hospital ใน Harvard Medical School และเป็นผู้นำหลักของการทดลอง VITAL กล่าวว่า
    .
    การศึกษาครั้งนี้มีขนาดใหญ่มาก ผู้เข้าร่วมทดลองบางส่วนเป็นผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน บางส่วนเป็นผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำ ซึ่งพวกเขาให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจนว่า พวกเขาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากอาหารเสริมวิตามินดีในแง่ของการช่วยลดความเสี่ยงกระดูกเปราะหักเลย
    .
    “ผลวิจัยครั้งนี้ทำให้หลายคนประหลาดใจ” ดร.แมนสันกล่าว และเสริมด้วยว่า “แต่ดูเหมือนว่าคนเราต้องการวิตามินเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเพื่อส่งเสริมสุขภาพกระดูก การกินวิตามินปริมาณที่มากขึ้นไม่ได้ให้ประโยชน์มากกว่า”
    .
    ผลวิจัยดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงในวงการแพทย์ วงการโภชนาการ และเวชศาสตร์สุขภาพอย่างกว้างขวาง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคกระดูกหลายคนมีความเห็นต่างออกไป โดยมองว่าจะยังคงแนะนำผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน หรือผู้ที่มีมวลกระดูกต่ำให้ทานวิตามินดีและแคลเซียมต่อไป
    .
    อ้างอิง :
    https://nyti.ms/3Q5bZKc
    https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2202106
    https://clinicaltrials.gov/ct2/show/NCT01169259
    .
    เผยแพร่ครั้งแรก วันที่ 29 ก.ค. 2022
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/health/1018110?anm=
    .
    .
    #อาหารเสริม #วิตามิน #วิตามินดี #กระดูกเปราะ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจHealth

    https://www.facebook.com/share/p/F3DCPZNuBXHdi6w3/?mibextid=oFDknk
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความร่ำรวยที่เกิดขึ้นอย่างทันด่วนจากการถูกหวย หรือได้รับมรดก เป็นเรื่องของโชคที่น่ายินดี แต่อีกมุมหนึ่งก็สร้างปัญหาให้แก่ผู้รับและครอบครัวอย่างมาก
    .
    [เรื่อง: ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ | อาหารสมอง]
    .
    งานวิจัยของสหรัฐ พบว่า 70% ของผู้ที่ร่ำรวยอย่างทันด่วนนั้นเป็น “เศรษฐีฟ้าแลบ” เพราะภายใน 2-3 ปี ก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม ทำอย่างไรให้ “เศรษฐีใหม่” อย่างน้อย 2,400 คนต่อปีของสังคมไทย เป็น “เศรษฐีฟ้าแลบ” น้อยคนที่สุด ข้อแนะนำมีดังนี้
    .
    อย่าบอกใครเมื่อเป็น “เศรษฐีใหม่” เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวายในชีวิตอย่างตั้งตัวไม่ติด โชคครั้งนี้ต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ เพื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
    .
    ใช้หนี้เก่าให้หมด ถ้าหากจะเป็น “เศรษฐีฟ้าแลบ” กันในที่สุดอย่างน้อยก็ใช้หนี้เก่าให้หมด เมื่อกลับมาเหมือนเดิมก็จะมีภาระน้อยลง
    .
    ลงทุนในตนเองอย่างรวดเร็วด้วยการเรียนรู้เรื่องเงินทอง การลงทุน การใช้จ่ายเงิน การทำมาหากิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้จักหลักการสำคัญคืออย่าลงทุนกับเพื่อนที่มาชวน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน (ให้ไปเลยเท่าที่ให้ได้อาจได้ความรักกลับมาแทนสัมพันธภาพที่จะหายไปเพราะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นลูกหนี้)
    .
    มีเป้าหมายของการใช้เงิน ข้อคิดสำคัญก็คือโชคครั้งนี้เปรียบเสมือนได้ต้นไม้ใหญ่มาครอบครอง วัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็นก็คือการดูแลต้นไม้นี้ให้เติบโตแข็งแรง ให้ความร่มเย็น มีผลไม้ให้เก็บกิน และตัดเวียนเอาไม้ไปขาย โดยดูแลให้มันอยู่ยั่งยืนไปตลอด
    .
    ศึกษาประวัติศาสตร์ดูกรณีศึกษาของนักกีฬาและดาราดัง ผู้เคยโชคดีมีเงินมากแบบเดียวกันว่าจบลงแบบใดด้วยสาเหตุใด
    .
    หาประโยชน์จากโชคให้มากที่สุด ต้องใช้เงินจากโชคนี้ให้เป็นการลงทุนที่สร้างความยั่งยืน เช่น ให้ลูกเรียนหนังสือ ลงทุนในตัวเองและครอบครัวในการเรียนรู้ทักษะและความรู้ใหม่ๆ ลงทุนโดยใช้บริการธนาคารที่ฝากเงินไว้ที่มีหน่วยให้คำแนะนำในการลงทุนเพื่อได้รับดอกผลที่มั่นคง
    .
    จงให้เท่าที่สามารถจะให้ได้ โดยไม่ทำลายวัตถุประสงค์หลักของการใช้เงินก้อนนี้การให้ที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านบวกต่อไปไกลควรใคร่ครวญ
    .
    เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมพบว่ามนุษย์จะใช้เงินที่ได้มาง่ายๆ เช่นนี้อย่างไม่ระมัดระวัง เสมือนเก็บเงินไว้ในลิ้นชักของซีกสมองด้านหนึ่ง ส่วนเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อนั้นจะอยู่ในลิ้นชักอีกด้านที่จะคิดอย่างรอบคอบในการใช้ ดังนั้น แท้จริงแล้วคนเหล่านี้จึงต้องต่อสู้กับความเป็นจริงตามธรรมชาติของการใช้เงินของมนุษย์ ผู้ชนะจึงมีจำนวนน้อย
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1116306?anm=
    .
    #เศรษฐี #หวย #มรดก #เศรษฐีใหม่ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจWallet #กรุงเทพธุรกิจFinance #กรุงเทพธุรกิจWealth #กรุงเทพธุรกิจColumnist

    https://www.facebook.com/share/p/vUgfqqHWzKrn6mYg/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ฐานะผู้ออกหุ้นกู้ยังไม่ได้ทำการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายในวันที่กำหนด เผยยังอยู่ในยู่ในขบวนการยื่นขอฟื้นฟูกิจการและสภาวะการพักชำระหนี้
    .
    จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ว่า ตามที่หุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (หุ้นกู้รุ่น JKN239A) ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ครั้งที่ 1/2566 ประชุมเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ได้อนุมัติเลื่อนกำหนดการชำระคืนเงินต้นจำนวนเงิน 19.50 ล้านบาท, ไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคม 2566
    .
    ส่วนที่เหลือจำนวนเงิน 432.45 ล้านบาท ให้ชำระคืนในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 และปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจากเดิมร้อยละ 6.60 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 7 ต่อปี และผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 กันยายน 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดและไม่เรียกชำระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลันนั้น
    .
    ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 บริษัทได้รับหนังสือจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A แจ้งการผิดนัดหุ้นกู้และเรียกให้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามหุ้นกู้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากบริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ยังไม่ได้ทำการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายในวันที่กำหนดตามข้อกำหนดสิทธิ กรณีดังกล่าวจึงถือเป็นการผิดนัดตามข้อ 12.1 (ก) แห่งข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ (ข้อกำหนดสิทธิ) เพื่อเรียกให้บริษัทชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างชำระตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิคำนวณจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 467.12 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 9 นับแต่วันที่ผิดนัดชำระเป็นต้นไปจนกว่าบริษัทจะชำระจนเสร็จสิ้น โดยขอให้ชำระภายใน 7 วันนับจากวันที่ที่ระบุในหนังสือดังกล่าว
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1116900?anm=
    .
    .
    #JKN #หุ้นJKN #หุ้นกู้ #หุ้นกู้JKN #JKN239A #ฟื้นฟูกิจการ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจFinance

    https://www.facebook.com/share/p/4noEv4rvCL6AG5j9/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ญี่ปุ่นทบทวนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปรับขึ้นเป็นโต 0.4% ดันเศรษฐกิจรวมปี 2566 รอดพ้นภาวะถดถอย เตรียมรับมือประชุมธนาคารกลางที่คาดว่าจะยุตินโยบาย 'ดอกเบี้ยติดลบ' ไม่เดือนนี้ก็เดือนหน้า
    .
    คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ฉบับทบทวนใหม่ โดยจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวได้ 0.4% จากคาดการณ์เดิมว่าจะติดลบ 0.4% ซึ่งการปรับขึ้นจีดีพีครั้งนี้ส่งผลให้ญี่ปุ่นสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่จีดีพีติดลบ 2 ไตรมาสติดกันมาได้ และคาดว่าจะสนับสนุนการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่น ในเร็วๆ นี้
    .
    การทบทวนจีดีพีดังกล่าวมีขึ้นเพียงแค่ 1 สัปดาห์ ก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะประชุมนโยบายการเงินซึ่งบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บีโอเจะยุติมาตรการ "ดอกเบี้ยติดลบ" ที่มีมาอย่างยาวนานด้วยการ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา โดยอาจประกาศภายในเดือน มี.ค.นี้ หรือในการประชุมเดือนหน้า
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/finance/1117053?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจFinance #กรุงเทพธุรกิจStock
    https://www.facebook.com/share/p/hRhitLhnE8rmBYdY/?mibextid=oFDknk
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนส่งสัญญาณชัด “ไม่อุ้ม” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สินท่วม ชี้หากแก้ปัญหาไม่ได้ “ต้องยื่นล้มละลาย” หรือปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมคาดโทษหากปัญหาหนี้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ส่วนรวม
    .
    “สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สิ้นเนื้อประดาตัวและไร้ความสามารถในการดำเนินงาน จะต้องยื่นล้มละลาย หรือปรับโครงสร้างหนี้ ตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ของตลาด” นายหนี่ ห่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองและชนบทจีน แถลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    .
    อ่านเพิ่มเติม: https://www.bangkokbiznews.com/world/1117151?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจRealEstate
    https://www.facebook.com/share/p/nKMufSbqu5Ag3NSj/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “กาสิโน” แห่งแรก จะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจนว่า หากทยอยเปิดแห่งที่ 2 แห่งที่ 3 ตามมา จะมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะตามแผน ได้ตั้งเป้าจะเปิดให้ครบทั่วทุกภาคของประเทศ ประมาณ 5-8 แห่ง
    .
    ใกล้ความเป็นจริงไปทุกขณะ สำหรับการผลักดัน “กาสิโน” ถูกกฎหมายแห่งแรกในประเทศ ภายหลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมปิดจ็อบสรุปรายงานให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ ก่อนส่งเรื่องต่อให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนเมษายน 2567 นี้
    .
    จากนั้นจะนำเข้าสภาฯ ในสมัยประชุมหน้า โดยท่าทีของ สส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ต่างเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน สนับสนุนให้มีกาสิโนถูกกฎหมายเกิดขึ้น โดยจะมีมาตรการกำกับดูแล และแนวทางแก้ปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมา
    .
    การเกิดขึ้นของ Entertainment Complex ที่จะมีกาสิโน เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งความบันเทิง น่าจะตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดึงดูดเม็ดเงินการลงทุน และการท่องเที่ยวจากต่างชาติ โดยในช่วงก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ส่งสัญญาณถึง กมธ.ชุดดังกล่าวว่า รัฐบาลเอาจริง ให้รีบเร่งเครื่องเดินหน้า
    .
    สศค.แนะ 5 ดี 4 เสริม
    .
    ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กระทรวงการคลัง ให้รายละเอียดในส่วนของ Ecosystem ของ Entertainment Complex หรือกาสิโนเอาไว้ ถึงสิ่งที่ดีใน 5 เรื่อง ประกอบด้วย
    .
    1. เลือกพื้นที่ที่ดี
    2. กฎหมายกำกับดูแลดี
    3. บริหารจัดการนักท่องเที่ยวที่ดี
    4. เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ในระบบที่ดี
    5. เกิดการเก็บภาษีเข้าเป็นรายได้รัฐบาล (CIT VAT สรรพสามิต รายได้ท้องถิ่น)
    .
    เสริมด้วย 4 นโยบายรัฐบาล ได้แก่
    1. มาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย โดยมาตรการที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น ลดภาษีไวน์ ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง เป็นต้น
    2. ทูตที่ประจำต่างประเทศ ต้องโปรโมตสินค้าและการลงทุน และโปรโมตการท่องเที่ยวเข้าไปด้วย 3. ใส่ Soft Power เข้าไปอยู่ใน Entertainment Complex
    4. เสริมด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
    .
    กระตุ้นเศรษฐกิจ เก็บภาษี จ้างงาน
    .
    1. การเกิดขึ้นของกาสิโนจะรวมอยู่ใน GDP และเก็บภาษีได้ 2.แรงงานท้องถิ่นนอกระบบจะเข้าเป็นแรงงานในระบบทันที 3.Earmarked ไว้ทำโครงการพัฒนาท้องถิ่นนั้นๆ หรือสวัสดิการคนจน เป็นต้น เกิดการเชื่อมโยงในห่วงโซ่เศรษฐกิจ
    .
    เทียบสิงคโปร์ นักท่องเท่ียวใช้จ่ายเพิ่ม
    .
    มีการหยิบยกตัวอย่างการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ตามรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยอ้างอิงกรณีการเปิดกาสิโนในสิงคโปร์ ระบุว่า ก่อนเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย จากการคำนวณเบื้องต้นพบว่าก่อนปี 2009 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการใช้จ่ายในการเยี่ยมชมสถานที่และความบันเทิงต่อคนประมาณ 51 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1,340 บาท)
    .
    แต่เมื่อมีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายในหมวดนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 ปีแรก 841 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 22,300บาท) หรืออาจอนุมานได้จากนักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 22,300 บาทต่อคน
    .
    เมื่อนำมาประยุกต์กับกรณีประเทศไทย ค่าใช้จ่ายปกติ และการเข้า Entertainment Complex เมื่อคำนวณรวมกับค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวปี 2566 อยู่ที่ 42,750บาท/คน/ทริป ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะมีการใช้จ่ายประมาณ 65,050 บาท/คน/ทริป
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/politics/1117091?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/p/ieWgri5GefgRmfaJ/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวลึกปมลับ

    บทเรียน ‘แอชตัน อโศก’
    ประชาชนต้องรับกรรม
    ด้วยน้ำมือหน่วยงานรัฐ
    ////////

    แม้จะเป็นคดีที่ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนคำพิพากษาของศาลจะยังไม่ค่อยมีความหมายเท่าใดนัก สำหรับกรณีปัญหาการก่อสร้างคอนโดแอชตัน อโศก ภายหลังกระบวนการบังคับคดียังไม่มีความคืบหน้า

    ในเรื่องนี้ นายประวิตร บุญเทียม ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในชั้นปกครองสูงสุด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลปกครองสูงสุด แสดงความคิดเห็นว่า การบังคับคดี เป็นเรื่องที่ กทม. จะต้องไปดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ดังนั้น อีก 3 เดือนต่อจากนี้ จะครบกำหนดตามคำพิพากษา ที่ให้ กทม. อนันดา เอฟเอ็ม เอเชีย อโศก จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หากหาทางออกไม่ได้ กทม.มีหน้าที่บังคับให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยการรื้อถอนส่วนของอาคารที่สูงเกินกว่าความกว้างถนนให้เสร็จภายใน 90 วัน

    ถือได้ว่าเวลาอีก 3 เดือนจากนี้ไปจะเป็นการวัดใจผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสามฝ่ายว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งต่างฝ่ายก็ลำบากใจด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนที่เปิดขายโครงการและมีคนเข้าไปอยู่อาศัยแล้ว ครั้นพร้อมยอมควักเนื้อเพื่อซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใกล้คอนโดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่หากเจ้าของที่ดินไม่อยากขาย ก็จนปัญญา หรือ ฝ่ายกทม.แม้จะมีอำนาจตามกฎหมาย แต่การที่มีคนเข้ามาอาศัยอยู่ในโครงการแล้ว ย่อมไม่อาจบังคับใช้กฎหมายได้โดยง่าย กลับกันถ้าปล่อยให้คาราคาซังต่อไป ก็คงถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

    ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นและผู้ซื้อคอนโดไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเช่นนี้ หากทุกฝ่ายทำตามกติกาของบ้านเมือง

    ที่ดินผืนนี้่ไม่ควรถูกโครงการดังกล่าวนำไปใช้ประโยชน์ตั้งแต่แรก เพราะเป็นพื้นที่่ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเวนคืนมาจากประชาชนเพื่อใช้สร้างรถไฟฟ้า ดังนั้น การอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรฟม. ย่อมเป็นการใช้พื้นที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์และขัดต่อกฎหมายว่าการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ที่สำคัญคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยมีความเห็นแล้วว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว จะต้องเป็นไปเพื่อการจัดสร้าง ขยาย บูรณะ ปรับปรุง ช่อมแซม และบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้า การเดินรถไฟฟ้า การจัดให้มีสถานที่จอดรถ การให้บริการ การอำนวยความสะดวก และการดำเนินกิจการอื่น ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการตามโครงการรถไฟฟ้ามหานครเท่านั้น แต่ปัญหาก็ยิ่งซ้ำเติมเข้าไปอีกเมื่อสำนักการโยธาของกรุงเทพมหานคร ออกใบรับหนังสือแจ้งการก่อสร้างคอนโดดังกล่าว ซึ่งหมายถึงการอนุญาตให้ก่อสร้าง ทำให้เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ จนต้องมีการนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครองก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะได้ตัดสินเด็ดขาดในเวลาต่อมา

    ทุกอย่างดูเหมือนจะพัวพันอีรุงตุงนังไปหมด ซึ่งถ้าไม่หลอกตัวเองและไม่มองโลกในแง่ดีมากเกินไป แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้ง 3 ฝ่ายจะหาทางออกเรื่องนี้ในแบบที่วินวินกันทุกฝ่าย เพราะถึงอย่างไรเสียการบังคับให้เป็นไปคำพิพากษามีเพียงอย่างเดียว คือ การรื้ออาคาร เว้นเสียแต่บริษัทเจ้าของโครงการจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ โดยเฉพาะการหาช่องทางที่ทำให้ที่ดินที่มาจากการเวนคืนตามกฎหมาย กลายเป็นที่ดินที่สามารถแสวงหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก

    สุดท้ายคนที่ต้องมารับเคราะห์กรรมที่สุด คือ คนซื้อคอนโดโครงการนี้ และกฎหมายของประเทศก็ไม่อาจให้ความคุ้มครองหรือเยียวยาอะไรได้เลย ขณะที่ หน่วยงานภาครัฐกำลังลอยตัวปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็ทราบกันว่าคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้ามีเป็นจำนวนมาก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่กรณีของแอชตันจะเป็นกรณีสุดท้าย ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ควรมีมาตรการควบคุมการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และไม่ให้ประชาชนต้องมารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อไว้
    //////////

    บทเรียน ‘แอชตัน อโศก’ ประชาชนต้องรับกรรม ด้วยน้ำมือหน่วยงานรัฐ : ข่าวลึกปมลับ 11-03-67


    บทเรียน ‘แอชตัน อโศก’ ประชาชนต้องรับกรรม ด้วยน้ำมือหน่วยงานรัฐ : ข่าวลึกปมลับ 11-03-67

    https://www.facebook.com/share/p/HVLpQ55Jr8ZiEPH4/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เริ่มแล้ววันนี้! ผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องสแกนหน้า-ใส่รหัส 6 หลัก เพื่อป้องกันสวมสิทธิ

    นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย เริ่มวันนี้วันแรก 11 มีนาคม ผู้ใช้บัตรสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อไปซื้อสินค้าต้องสแกนใบหน้า และใส่รหัส 6 หลักทุกครั้ง เพื่อความโปร่งใส และป้องกันคนสวมสิทธิ

    (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในคอมเมนต์)

    #บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #สแกนใบหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #ป้องกันการสวมสิทธิ #ข่าวโมโน #MONONEWS #MONO29 #สังคมอยากรู้ดูข่าวโมโน

    https://www.facebook.com/share/p/BipWf3aojNCBsezp/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1710286252379.jpg

    จากกากน้ำตาล (Molasse) อาหารหวานที่สร้างความสุข สู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1919

    จุดเริ่มต้นของภัยพิบัติกากน้ำตาล (The Great Molasses Flood) เริ่มมาจากโรงงาน Purity Distilling Company ของบริษัท United States Industrial Alcohol Company (USIA) ซึ่งบริษัทแห่งนี้เป็นผู้ผลิตกากน้ำตาล สำหรับทำแอลกอฮอล์และอาวุธยุทโธปกรณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงสงครามแอลกอฮอล์เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับเหล่าทหาร โดยเฉพาะเหล้ารัมที่ใช้กากน้ำตาลในการผลิต รวมไปถึงการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ต้องใช้กากน้ำตาลเพื่อผลิตเอทานอลสำหรับทำเชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน
    .

    ด้วยเหตุนี้ในปี 1915 บริษัทจึงสร้างถังเก็บกากน้ำตาลขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร บรรจุกากน้ำตาลปริมาณมหาศาลกว่า 8,700,000 ลิตร โดยสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบและขาดการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อให้ทันต่อความต้องการในช่วงสงคราม โดยรับเอากากน้ำตาลจากทางฝั่งแคริบเบียนมาเก็บไว้และส่งไปผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องมาตลอดเป็นเวลา 4 ปี
    .

    จนกระทั่งตอนเที่ยงของวันที่ 15 มกราคมในปี 1919 อุณหภูมิในวันนี้ถือว่าสูงกว่าปกติ แต่ก็ไม่ถึงกับร้อนมาก เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวของบอสตัน ถนน Commercial Street ยังคงคึกคักเหมือนเช่นทุกวัน พนักงานที่ทำงานกะดึกอยู่ในบาร์ก็กำลังนอนหลับพักผ่อน…ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติสุข
    .

    แต่แล้วเวลา 12.40 น. ความสงบของวันนั้นถูกกลบด้วยเสียงแผดดังกึกก้องของถังโลหะที่ถูกแรงดันจากกากน้ำตาลปริมาณมหาศาล ตัวถังนั้นแตก โลหะที่ห่อหุ้มของเหลวหนืดข้นถูกฉีกและเปิดออกเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ กากน้ำตาลทะลักออกมา ไหลไปตามถนนแคบ ๆ ทั่วทั้งเมือง ราวกับคลื่นสึนามิ รายงานจาก Boston Post กล่าวว่ากากน้ำตาลที่ทะลักออกมานั้นมีความสูงประมาณ 4- 12 เมตร เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า อาคาร บ้านเรือน รถยนต์ และกวาดล้างผู้คนจำนวนมากให้จมหายไป
    .

    ในปี 1925 USIA ถูกตัดสินให้มีความผิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 300,000 ดอลลาร์ (หากเป็นปัจจุบันจะอยู่ราวๆ 30 ล้านดอลลาร์) ให้แก่ผู้ประสบเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด นับเป็นการพิจารณาคดีแพ่งที่ยาวนานและมีค่าเสียหายที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแมสซาชูเซตส์ นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทางอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันภัยพิบัติที่คล้ายกันในอนาคตอีกด้วย

    #RimpingSupermarket #Rimping #Molasse
    ข้อมูล https://www.instagram.com/
    ภาพจากวิกิพีเดีย

    https://www.facebook.com/share/p/5WnccQDei9eutCqz/?mibextid=oFDknk
     

แชร์หน้านี้

Loading...