ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ขยะพลาสติก” เป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังกังวล เพราะมีจำนวนมาก ใกล้จะล้นโลกเต็มที แถมพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายนาน และแตกตัวกลายเป็นพลาสติกขนาดเล็ก หรือ “ไมโครพลาสติก” ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้โดยไม่รู้ตัว ทำให้หลายประเทศต่างเร่งหาวิธีแก้ปัญหาและลดปริมาณขยะให้ได้เร็วที่สุด
    .
    ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์พบว่ามีเอนไซม์และแมลงกินพลาสติกบางชนิด เช่น เห็ดราย่อยพลาสติกบริเวณริมฝั่งบึงน้ำกร่อย หรือดักแด้ของหนอนผีเสื้อกลางคืนที่สามารถอาศัยอยู่บนโพลีเอทิลีน (พลาสติก PE) เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตที่กินพลาสติกเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามหาวิธีขยายพันธุ์พวกมันให้ได้จำนวนมาก
    .
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ของสิงคโปร์ (NTU Singapore) ได้พัฒนา “ลำไส้หนอนเทียม” (artificial worm gut) ที่สามารถช่วยย่อยสลายพลาสติกได้ โดยไม่จำเป็นต้องการเพาะพันธุ์หนอนจำนวนมาก
    .
    ในปี 2020 นักวิจัยของ NTU พบว่าพบว่าหนอนนกยักษ์ (superworm) หรือ Zophobas atratus มีแบคทีเรียในลำไส้ที่สามารถย่อยสลายพลาสติกทั่วไปได้ แต่พวกมันจะใช้เวลากินและสลายพลาสติกเพียงแค่ 2-3 มิลลิกรัม ตลอดช่วงชีวิตของมัน ซึ่งไม่สมดุลกับปริมาณขยะพลาสติกที่มีบนโลก อีกทั้งจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่พวกมันอย่างมาก
    .
    “พวกเราจึงหาทางใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ของหนอนแทน และสร้างลำไส้หนอนแทนที่สามารถย่อยสลายพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้หนอนตัวเป็น ๆ” เฉา บิน รองศาสตราจารย์จากคณะวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมของ NTU
    .
    ทีมวิจัยค้นพบวิธีสร้างลำไส้ของหนอนที่ย่อยพลาสติกขึ้นมาใหม่ เริ่มจากการพัฒนากลุ่มจุลินทรีย์ในขวดวัดปริมาตร โดยได้แบ่งหนอนไว้เป็น 3 กลุ่ม โดยให้อาหารที่เป็นพลาสติกหลายชนิด ได้แก่ โพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) โพลีโพรพีลีน (PP) และโพลีสไตรีน (PS) กลุ่มควบคุมของหนอนถูกเลี้ยงด้วยข้าวโอ๊ต
    .
    หลังจากที่ได้ให้อาหารหนอนครบเป็นเวลา 30 วันแล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้แยกไมโครไบโอม ซึ่งเป็นยีนของจุลินทรีย์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของหนอนไว้ในขวดที่มีพลาสติกและสารอาหารสังเคราะห์ โดยทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและปล่อยให้พวกมันเติบโตในระยะเวลาหกสัปดาห์
    .
    การศึกษาพบว่าเหล่าไมโครไบโอมแยกตัวออกจากหนอนนั้นมีปริมาณแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้นและสามารถสลายพลาสติกได้เอง ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงถือว่าได้สร้าง “ลำไส้หนอนเทียม” ขึ้นมาได้สำเร็จ
    .
    “เราสามารถเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ย่อยสลายพลาสติกในลำไส้หนอนเทียมให้มากขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพและสามารถทำไปใช้ในวงกว้างได้ด้วยการทำตามเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง” หลิว ยี่นาน นักวิจัยจาก NTU คณะวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์ กล่าวในแถลงการณ์
    .
    นักวิจัยวางแผนที่จะศึกษาความสามารถของชุมชนจุลินทรีย์ในการย่อยสลายพลาสติกเพิ่มเติม พร้อมหวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยพัฒนาวิธีการสลายขยะพลาสติกที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริงมากขึ้น
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1116196?anm=
    .
    ที่มา:
    Eco Watch: https://bit.ly/3SZsISh
    Phys: https://bit.ly/3ImBB39
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจClimate #กรุงเทพธุรกิจ #KTClimateChange

    https://www.facebook.com/share/p/WMWjocPKhH65q9x9/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัยการฟ้อง "แก๊งบุกรุกบ้านอากู๋" 3 ข้อหา-คุมส่งศาล เรียกค่าเสียหาย 3 แสน พร้อมค่าเช่าย้อนหลังเดือนละ 2 หมื่น 6 ปี

    อัยการมีนบุรี สั่งฟ้อง "ศรีพรรณ" กับพวกรวม 4 คนคดีบุกรุกยึดบ้าน "อากู๋" แถมอ้างครอบครองปรปักษ์ รวม 3 ข้อหา บุกรุก-ลักทรัพย์-ทำให้เสียทรัพย์ คุมตัวส่งศาล ลุ้นประกัน ด้านทนายเจ้าของบ้านเผยลูกความเรียกค่าเสียหาย 3 แสน พร้อมค่าเช่าย้อนหลังเดือนละ 2 หมื่นบาท 6 ปี

    วันนี้ (6 มี.ค.67) นางสาวศรีพรรณ สามัคคี และกลุ่มผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้านครอบครองปรปักษ์ บ้านของอากู๋ รวม 4 คน พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความ เดินทางเข้าพบ นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ตามกำหนดนัดฟังคำสั่งในคดีบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์

    จากกรณี นายซัน หลานอากู๋ เข้าตรวจสอบบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 กทม. ซึ่งเกิดข้อพิพาทระหว่างอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง กับเพื่อนบ้านคู่กรณีที่ลักลอบเข้ามายึดบ้านและอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม

    และพนักงานสอบสวน สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และ พนักงานอัยการ นัดฟังคำสั่งในวันนี้

    นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองรับผิดชอบในคดีอาญาเรื่องการบุกรุกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าวันนี้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องทันที สำหรับ น.ส.ภาณุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะจำหน่ายคดีไป ขณะที่เรื่องการเจรจาก็ได้พูดคุยกับนายซัน และ น.ส.อาย คู่กรณีไปบ้างแล้ว ลูกความตนเองก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผิด พร้อมขอเวลาแก้ไข เพราะมีผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อยากให้เหตุบานปลายไปมากกว่านี้

    .
    ทางด้าน นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวว่า หลังรับตัวผู้ต้องหาแล้ว คณะพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานบุกรุก,ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไว้ เนื่องจากได้พิจารณาประกอบพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีมูล โดยสัปดาห์ก่อน พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องแจ้งเข้ามาว่ามี น.ส.ภาณุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตลง ก็สั่งยุติคดีไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 รายก็จะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรีในวันนี้ทันที

    นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน ขณะที่ชั้นอัยการ ผู้ต้องหาไม่ได้มีข้อร้องขอความเป็นธรรมใดๆ ทั้งยังมีความพยายามจะขอเจรจากับคู่กรณีด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม หากบ้านของคู่กรณีได้รับความเสียหายจากการบุกรุกก็สามารถร้องขอค่าชดเชยทางแพ่งได้

    ต่อมา น.ส.ศรีพรรณ ได้เดินทางขึ้นรถและเดินทางไปศาลต่อทันที พร้อมปฏิเสธไม่ตอบคำถามใดกับสื่อมวลชน

    ขณะที่ น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมา ได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล ซึ่งวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุก ส่วนขั้นตอนผู้ต้องหาหรือขณะนี้มีสถานะเป็นจำเลยแล้ว ต้องยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ในการประกันตัวต่อศาล ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่า เดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน

    ส่วนสำนวนคดีที่ 2 ที่มีการแจ้งความ น.ส.ศรีพรรณ ในคดีบุกรุก พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ยังคงสอบสวนอยู่

    และคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทราบว่า น.ส.ศรีพรรณ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อถอนการครอบครองแล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้อง จึงต้องรอนัดหมายอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.นี้

    น.ส.อำนวยพร กล่าวอีกว่า ยังคงยืนยันว่าหากเปลี่ยนตัวทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายฝั่งคู่กรณี ตามข้อตกลงของอากู๋ ก็จะเจรจากันได้ง่ายขึ้น แต่จนขณะนี้เจ้าตัวไม่เคยติดต่อเข้ามาพูดคุย

    https://www.facebook.com/share/p/k1sRZnmzobMmWWNQ/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โดนยกแผง! YouTube เจอขัดข้องทางเทคนิกตามเฟซบุ๊ก-ไอจีล่มทั่วโลกรับ "วันศึกซุปเปอร์ทิวส์เดย์" ทำ “ซักเคอร์เบิร์ก” เซ็งรายได้หายวับ 18 พันล้านดอลลาร์ “อีลอน มัสก์” เบี้ยวหนี้โดนอดีตผู้บริหารทวิตเตอร์ฟ้อง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ผู้ใช้ YouTube กว่า 5,000 คนรายงานปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเมื่อเวลาราว 22.35 น.ของวันอังคาร(5 มี.ค) ตามหลังเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเกิดล่มทั่วโลกที่บังเอิญตรงกับวันเลือกตั้งใหญ่รอบแรกของอเมริกาที่รู้จักในนามซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ทำ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก สุดเซ็งแค่ชั่วพริบตาทุบรายได้บริษัทเมตาทันที 18 พันล้านดอลลาร์ ส่วน อีลอน มัสก์งานเข้าไม่แพ้โดนอดีตผู้บริหารทวิตเตอร์ฟ้องฐานเบี้ยวจ่ายเงินค่าตอบแทน 128 ล้านดอลลาร์
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวานนี้(5 มี.ค)ว่า การล่มของ YouTube เมื่อวันอังคาร(5) เกิดขึ้นตามหลังตามหลังเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเกิดล่มทั่วโลกในอังกฤษ บางส่วนของยุโรป เม็กซิโก และจีนส่งผลทำให้หุ้นของบริษัทแม่เมตาตกทันที 1.5% หลังข่าวออกที่ชี้ว่าบางส่วนของผู้ใช้จากทั้งหมด 3.98 พันล้านไม่สามารถลอกอินได้
    .
    มีผู้ใช้เป็นจำนวนมากพยายามที่จะเข้าใช้เฟซบุ๊กและคิดว่าบัญชีของพวกเขาโดนแฮกหลังเข้าไม่ได้ ไม่ได้เฉลียวใจว่าเกิดปัญหาการล่มไปทั่วโลกในเวลานั้น บนเว็บไซต์ Down Detector ระบุว่าเมื่อเวลา 22.35 น.ของวันอังคาร(5 มี.ค) มีผู้ใช้ราว 5,602 คนได้รายงานเข้าไปที่เว็บไซต์แจ้งปัญหาการล่มของ YouTube
    .
    ฮินดูสถานของอินเดียรายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า บรรดาผู้อินเตอร์เนตต่างรายงานปัญหาต่างๆของการเข้า YouTube ที่มีบริษัทกูเกิลเป็นเจ้าของ
    .
    โดยเว็บไซต์ติดตามการจราจรทางอินเตอร์เนตชื่อดัง Down Detector ระบุมีผู้ใช้ YouTube หลายร้อยได้ร้องเรียนปัญหาเกี่ยวกับการชมวิดีโอคลิปและปัญหาการอัปโหลตคลิปบนแพลตฟอร์ม
    .
    ด้าน GB news ของอังกฤษรายงานว่า บริษัทเมตา(META)มีมูลค่าราว 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ หุ้นดิ่งไป 1.5% ระหว่างเกิดเหตุ คิดเป็น 18 พันล้านดอลลาร์
    .
    ทั้งนี้ปัญหาการพร้อมใจกันล่มของโซเชียลมีเดียค่ายดังของสหรัฐฯบังเอิญเกิดขึ้นในวันศึกซุปเปอร์ทิวส์เดย์รอบไพรมารีของการเลือกตั้งในอเมริกา
    .
    อินเวสโตพีเดียสื่อด้านการลงทุนชี้ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานความมั่นคงทางไซเบอร์และความมั่นคงทางโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐฯ (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) แถลงข่าวเกี่ยวข้องกับศึกเลือกตั้งซุปเปอร์ทิวซ์เดย์ว่า ทางสำนักงานรู้ถึงปัญหาการขัดข้องทางเทคนิก แต่ไม่รู้ถึงความเกี่ยวข้องใดๆต่อการเลือกตั้งหรือความเคลื่อนไหวทางไซเบอร์ที่เป็นภัยคุกคาม NBC News
    .
    ด้านบริษัทอัลฟาเบตของกูเกิลออกมายืนยันว่า ผู้ใช้บริการประสบปัญหาในการเข้าใช้ YouTube พร้อมเสริมว่า กำลังทำงานเพื่อแก้ปัญหา
    .
    ซึ่งถึงแม้ว่าแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์เดิมไม่ได้ประสบปัญหาตามไปด้วย อีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของ X หรือทวิตเตอร์เดิมได้ทีตามรายงานของรอยเตอร์ ออกมาล้อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวว่าคนทั้งคู่ประกาศจะลงสนามสู้เดือดเอาเป็นเอาตายตามแบบพวกโรมัน cage fight
    .
    อีลอนโพสต์ขึ้นล้ออย่างติดตลกวันอังคาร(5)ว่า “ถ้าคุณกำลังอ่านโพสต์นี้อยู่ นั่นเป็นเพราะเซิร์ฟเวอร์ของเราทำงานปกติ”
    .
    บีบีซีรายงานวานนี้(5)ว่า แต่ทว่าในเวลาเดียวกันเจ้าของแพลตฟอร์ม X ที่เพิ่งเสียตำแหน่งมหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลกให้กับอดีตเจ้าของแอมะซอน เจฟฟ์ เบโซสไปโดนอดีตผู้บริหารทวิตเตอร์ได้ฟ้องดำเนินคดีต่ออีลอน มัสก์ว่าเขาค้างจ่ายเงินค่าตอบแทน 128 ล้านดอลลาร์
    .
    อดีตผู้บริหารทวิตเตอร์ทั้ง 4 คนรวมอดีตซีอีโอทวิตเตอร์ ปาราก อักราวัล (Parag Agrawal) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวการเลี่ยงจ่ายค่าตอบแทนคงค้างนั้นทำอย่างเป็นระบบ โดยในครั้งแรกมัสก์ได้สั่งปลดอดีตซีอีโออักราวัล และอดีตผู้บริหารอีก 3 คนของทวิตเตอร์โดยไม่ให้เหตุผลและหลังจากนั้นได้ใช้ข้ออ้างจอมปลอมเพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าตอบแทน
    .
    สื่ออังกฤษรายงานว่า มัสก์ยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ในประเด็นเหล่านี้
    .
    อักราวัลและอดีตผู้บริหารทวิตเตอร์อีก 3 คนได้แก่ เนด ซีกัล (Ned Segal) อดีตเจ้าหน้าที่หัวหน้าทางการเงิน วิจายา เกดด์ Vijaya Gadde) อดีตหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และ ณอน เอ็ดเกตต์ (Sean Edgett) ที่ปรึกษาใหญ่ทวิตเตอร์ ร่วมกันยื่นฟ้องมัสก์ตามกฎหมาย
    .
    ในคำฟ้องพวกเขาระบุว่า ภายใต้แผนค่าตอบแทน 1 ปี มัสก์เป็นหนี้คนเหล่านี้สำหรับค่าตอบแทนประจำปีบวกกับหุ้น โดยในส่วนของอดีตซีอีโออักราวัลเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 57 ล้านดอลลาร์ ซีกัลเป็นจำนวนกว่า 44 ล้านดอลลาร์ แกดด์เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านดอลลาร์ และเอ็ดเกตต์เป็นจำนวนกว่า 6 ล้านดอลลาร์
    .
    บีบีซีรายงานว่า มัสก์อ้างว่าสั่งปลดบรรดาผู้บริหารทวิตเตอร์ออกเนื่องมาจากปัญหาการประมาทเลินเล่อขั้นร้ายแรงและมีการประพฤติผิดอย่างตั้งใจ
    .
    แต่ทว่าในคำฟ้องได้มีการเปิดเผยให้เห็นความจริงอีกด้านว่าอีลอน มัสก์โกรธอย่างหนักที่ต้องโดนบังคับทำให้กระบวนการซื้อบริษัททวิตเตอร์ที่เขาเอ่ยปากต้องเสร็จสมบูรณ์
    .
    และคำฟ้องยังเปิดเผยต่อว่า มัสก์ยังพยายามหลีกเลี่ยงที่ต้องจ่ายหลายล้านดอลลาร์ให้กับบรรดาผู้บริหาเหล่านั้น และยกเลิกแผนเงินค่าตอบแทนที่ได้วางไว้ก่อนหน้าสำหรับในกรณีที่หากผู้บริหารเกิดต้องถูกให้ออกจากงานโดยปราศจากเหตุผลที่ชอบธรรม
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000020208

    https://www.facebook.com/share/xNe1Z531nA4u5kWQ/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเทอร์เน็ตขัดข้องทั่วโลกเกิดขึ้นเนื่องจากการโจมตีของฮูติ ซึ่งตัดสายเคเบิลข้อมูลใต้น้ำในทะเลแดง บริษัทโทรคมนาคมกล่าวว่าสายเคเบิลข้อมูลทะเลแดงที่สำคัญถูกตัดขาด

    สำนักข่าวต่าวประเทศรายงานว่า เกิดโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชั่นบางแอปล่มทั่วโลกเมื่อช่วงบ่าย (ตามเวลาสหรัฐฯ) และช่วง 3 ทุ่ม (ตามเวลาประเทศไทย)

    สายเคเบิลโทรคมนาคมใต้ทะเลสี่ใน 15 เส้นได้รับความเสียหายร้ายแรงในน่านน้ำภายใต้เขตอำนาจศาลของเยเมน

    ในบทความวิกฤติดิจิทัลเป็นอัมพาต 3: จุดที่เปราะบางที่สุดบนอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ทะเลแดง เขียนไว้ 28 กุมภาพันธ์ 67

    สาระสำคัญที่ต้องการสื่อสาร:

    ➖ บริษัทที่ส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลมักจะไม่ใช้แค่สายเคเบิลเส้นเดียว การรับส่งข้อมูลจะถูกเปลี่ยนเส้นทางผ่านสายอื่น‼️

    แน่นอนว่านี่คืออินเทอร์เน็ต และผู้คลั่งไคล้ทั่วโลกต่างคุ้นเคยกับการสำรองข้อมูล การปิดส่วนสำคัญของอินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานไม่ใช่น่าอภิรมย์.. -#บริษัทที่ส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลมักจะใช้ไม่ใช้แค่สายเคเบิลเส้นเดียว แต่ใช้หลาย ๆ เส้นรวมกัน หากสายเคเบิลเส้นหนึ่งใช้งานไม่ได้ การรับส่งข้อมูลจะถูกเปลี่ยนเส้นทางสำรองผ่านสายอื่น

    นั่นเป็นสาเหตุที่ Google, Meta และ Microsoft ใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลของตนเอง แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับบริการอื่น ๆ ทั้งหมด เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาจะยังสามารถใช้งานได้สำหรับผู้ใช้

    ➖ ค่ะ วานที่ผ่านมา Google, Meta และ Microsoft.. - ล่มเรียบร้อย

    ➖ Google มีเคเบิ้ลสำรอง แต่ยังไม่พน้อมใช้งาน

    สายเคเบิลพิเศษสำหรับการจัดการสายเคเบิลของกูเกิ้ลมีความพยายามในการหลีกเลี่ยงอียิปต์ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 บริษัทได้ประกาศการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ Blue และ Raman ซึ่งจะเชื่อมต่ออินเดียกับฝรั่งเศส โดยผ่านประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศในระหว่างนั้น ระบบนี้ข้ามทะเลแดงด้วย... - #แต่แทนที่จะข้ามแผ่นดินในอียิปต์ #กลับไปถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนผ่านอิสราเอล

    ในเวลาเดียวกัน Google แบ่งสายเคเบิลออกเป็นสองโครงการแยกกัน โครงการ Blue จะเชื่อมต่อจากอิสราเอลไปยังยุโรป และ Raman จะเชื่อมต่อกับซาอุดีอาระเบีย จากนั้นไปยังโอมานและอินเดีย.. -#ความจำเป็นต้องมีการแบ่งแยกดังกล่าวเนื่องจากอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดสักเท่าไหร่นัก

    เส้นทางดังกล่าวสายใหม่นี้ จะพร้อมใช้งานภายในปี 2567(ตอนนี้ยังไม่แล้วเสร็จ) ถ้าแล้วเสร็จจะทำให้ Google มีอำนาจควบคุมและมีอิทธิพลเหนือภูมิภาคมากขึ้น ในเวลาเดียวกันจะมีเพียงไม่กี่คนที่มีฐานะการเงินและอิทธิพลที่สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้แบบกูเกิ้ล... - แต่วันนี้ ตอนนี้ สูตรความสำเร็จนี้จะไปไม่ถึงดวงดาว

    ➖ แผนขั้นต่อไปของฮูติ คือ การทำลายสายเคเบิลสำรองตามที่กล่าวข้างต้นหรือไม่‼️

    แน่นอนอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้การทำลายเส้นหลักไม่บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ ถ้าสำเร็จผู้คนหลายร้อยล้านคนประสบปัญหาการปิดอินเทอร์เน็ตกะทันหัน ระบบการเงิน.. - เงินดิจิทัล รวมถึงระบบสั่งการดิจิตัลทางทหารของตะวันตกจะหยุดชะงักทั้งหมดอีกด้วย

    ฮูติกำลังทำสงครามนี้อยู่ใต้ทะเลแดงอย่างขะมักเขม้น... - ยังไม่สามารถตอบได้ว่าช่วงเวลาไหนจะเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตโพสต์บทความสุดท้ายถึงกัน, หรือ #สุดสัปดาห์นี้สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสจะยุติลงก็อาจจะเกิดขึ้นได้

    ➖ วันนั้นเขียนไว้เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุอินเตอร์เน็ตล่มทั่วโลกวันที่ 5 มีนาคม ในหลายแพลตฟอร์มของตะวันตกพร้อมกันนานเป็นชั่วโมง

    ความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้น #ส่งผลให้การจราจรของข้อมูลถูกเบี่ยงไปตามเส้นทางอื่น(สำรอง) ขณะนี้ทำให้เกิดภาระหนักและเริ่มมีการขัดข้องทางเทคนิคในหลายประเทศ ยังไม่ชัดเจนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เนื่องจากไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยของเรือซ่อมได้

    ในระหว่างที่อินเตอร์เน็ตตะวันตก"ล่ม" แพลตฟอร์มร่วง

    ก่อนหน้านี้ปลายเดือนมกราคม รัสเซียไม่เคยลืมว่า โครงสร้าง WWW (รวมถึงโปรโตคอล DNS ) นั้นเป็นการพัฒนาของอเมริกา สร้างขึ้นโดยโครงสร้างพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงกลาโหมเป็นหลัก ดังนั้นช่างไอทีของรัสเซียจึงต้องคาดการณ์และป้องกันการกระทำดังกล่าวอย่างแข็งขัน

    วานนี้หลายท่านคงได้มีโอกาสพิสูจน์ด้วยตนเองว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คของรัสเซียยังคงมีเสถียรภาพและเป็นความมั่นคงได้ดี เพราะเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พี่ๆน้องๆ ไปกองรวมกันอยู่ที่ vk.com พร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย

    มีท่านไหนใช้แพลตฟอร์มของจีนบ้าง เมื่อคืนเป็นอย่างไร อย่างไรเสียขอเชิญชวนทุกท่านเปิดบ้านอีกหลังไว้ที่แพลตฟอร์มของรัสเซียเพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อกันเมื่อยามเคเบิลใยแก้วใต้น้ำของตะวันตกจะอัศดงครบทั้งหมดทุกเส้น

    สิ่งนี้ยังเป็นเครื่องชี้วัดอีกว่า ถ้าตะวันออกจะมี เงินดิจิทัล.. - จะไม่สามารถไหลลื่นไปอยู่ในการควบคุมของท่านลอร์ดได้เลย #อีกทั้งมีปัญหาในการที่นาโต้จะก่อ "มหาสงคราม" เปิดการโจมตีทางอากาศทั่วโลก เดี๋ยวจะไปแอบส่องบนอวกาศว่าบนนั้นมีอะไรยังเหลือบ้าง

    ➖➖➖➖➖➖➖➖
    อ้างอิง: บริษัทโทรคมนาคมกล่าวว่าสายเคเบิลข้อมูลทะเลแดงที่สำคัญถูกตัด - ข่าวบีบีซี
    https://www.bbc.com/news/world-middle-east-68478828
    FB_IMG_1709717747833.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/HjZ8xoBJLwxYryVs/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 6, 2024 มองแบบนี้! ธนาคารโลกมองดอกเบี้ยนโยบายไทยเหมาะสมแล้ว เล็งหั่นคาดการณ์จีดีพีไทยปี 67 จากเดิมคาดจะโตได้ 3.2% gs96งบฯล่าช้า เศรษฐเศรษฐกิจโลก-จีนชะลอ

    นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก (World Bank) ประจำประเทศไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (6 มี.ค.) ว่า ในรายงานภาวะเศรษฐกิจ 2567 ฉบับทบทวนล่าสุดที่จะออกมาในเดือน เม.ย. อาจมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2% เนื่องจากปัจจัยเรื่องการออกงบประมาณที่ล่าช้า ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน

    ทั้งนี้เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้ออกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่า จะขยายตัวได้ 3.2% (ไม่รวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต) หรือเติบโตดีขึ้นจากปี 2565 ที่ขยายตัวได้เพียง 2.5% เนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยในปีนี้ลง แต่ทางธนาคารโลกมองว่าไทยยังมีพื้นที่การคลังเพียงพอที่จะลงทุนเพิ่มได้ ทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทุนมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพจากการลงทุน

    สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ไทยจะมุ่งไปเพื่อกระตุ้นหรือพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการดิจิทัล วอลเล็ต และแลนด์บริดจ์นั้น นายเกียรติพงศ์มองว่ายังไม่ทราบข้อมูลเรื่องแลนด์บริดจ์มากพอ แต่หากมองภาพใหญ่ในแง่การเชื่อมต่อก็ยังมีโอกาสที่การเชื่อมต่อในภูมิภาคนี้จะขยายตัวได้อีก

    ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้นมองว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงสั้นราว 1% ของจีดีพี แต่จะเป็นภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้นถึง 3% ของจีดีพี และเป็นโครงการกระตุ้นที่กว้างเกินไปคือการแจกเงินให้ทุกคน จึงอาจจะไม่สามารถกระตุ้นได้อย่างมีปราะสิทธิภาพมากพอ โดยมองว่า ”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย" ของไทยในขณะนี้ว่า อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันและถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง

    อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง (Disinflation) แต่เกิดขึ้นชั่วคราว และ "ไม่ใช่ภาวะเงินฝืด" (deflation) และยังมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมุมมองที่แตกต่างจากรัฐบาล

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #ธนาคารโลก #ดอกเบี้ยนโยบาย #เศรษฐกิจไทย #จีดีพี #BTimes

    https://www.facebook.com/share/oZkm9PhmQon7YTU2/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jerome Powell เตรียมขึ้นแถลงต่อสภาคองเกรส 4 ทุ่มคืนนี้ !
    แต่ในจดหมายเบื้องต้นได้เขียนออกมาว่า FED น่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่ยังไม่พร้อมจะบอกว่าได้ว่าเป็นเมื่อไหร่ ต้องรอให้มั่นใจได้ก่อนว่าเงินเฟ้อจะกลับไปสู่ 2% จริงๆ

    Jerome Powell reiterated the Fed is in no rush to cut rates. In prepared testimony to a House panel, he said it will probably be appropriate to begin lower borrowing costs “at some point this year,” but made clear they’re not ready yet.

    https://www.facebook.com/share/p/J5EHLfauvwYPrxsJ/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 7, 2024 ไม่จำเป็นตัดออก! โฆษกรัฐบาลแจงนายกฯ สั่งลดงบประมาณ เฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นของหน่วยงานราชการเช่นงบฝึกอบรม ดูงาน ไปต่างประเทศ เจียดไปลงทุน หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
    .
    นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศโดยรวม เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
    .
    ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน มีการบูรณาการอย่างจริงจัง โดยให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้ เพื่อนำงบประมาณในส่วนที่ปรับลด ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
    .
    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่านายกรัฐมนตรีย้ำว่าการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในด้านต่างๆ มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งทั้งด้านภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ภาคการผลิต ภาคเกษตร การพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ด้านพลังงานสะอาด พลังงานสีเขียว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สอดคล้องกับบริบทและการพัฒนาของโลก รวมถึงให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจและฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ ตลอดจนแนวทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
    .
    สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรมและดูงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ โดยให้ใช้การส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น รวมทั้งการลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อจะได้นำงบประมาณในส่วนที่ปรับลดนี้ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ (มีต่อ)

    https://www.facebook.com/share/p/HJLr8cqXieWmaNNa/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 7, 2024 นานแล้วนะ! อนันดา แจงคดี คอนโดแอชตันอโศก อยู่ระหว่างเร่งหาทางออกร่วมกับภาครัฐ ข่าวในสื่อโซเชียลฯมีความคลาดเคลื่อน วอนประชาชนอย่าสับสน มั่นใจแก้ไขได้

    วันนี้ (7 มี.ค.67) ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด บริษัทลูกบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ได้ชี้แจ้งถึงกรณีคดีแอชตัน อโศก โดยระบุว่า

    สืบเนื่องจากได้มีการเผยแพร่ข่าวในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2567 หัวข้อข่าว “คดีคอนโด แอชตัน อโศก หากไม่คืบใน 3 เดือน ศาลปกครองชี้ กทม.อาจต้องสั่งรื้อตึก”โดยได้มีการนำเสนอเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับ “กรณีปัญหาการบังคับคดีแอชตันอโศกที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างว่าคดีนี้ศาลสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างตึกแอชตันอโศกเนื่องจากเห็นว่าเป็นการออกใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลไม่ได้สั่งว่าจะต้องรื้อ หรือจะบังคับคดีเป็นอื่นใด ฉะนั้น อีก 3 เดือนต่อจากนี้ จะครบกำหนดตามคำพิพากษาที่ให้กทม. บริษัท อนันดา เอฟเอ็ม เอเชีย อโศก จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารภายใน 180 วัน ทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าว จะต้องหาข้อยุติให้ได้โดยเร็วหากหาทางออกไม่ได้ กทม.ก็ต้องมีหน้าที่บังคับให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ด้วยการรื้อถอนส่วนของอาคารที่สูงเกินกว่าความกว้างถนนให้เสร็จภายใน 90 วัน”

    ซึ่งเนื้อหาที่มีการเผยแพร่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อาจก่อให้เกิดความสับสน และอาจทำให้ท่านเจ้าของร่วม รวมทั้งประชาชนเข้าใจผิดในสาระสำคัญของคดีของศาลปกครองสูงสุด

    ทั้งนี้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด (“บริษัท”) จึงขอชี้แจงว่า รายละเอียดในข่าวดังกล่าวข้างต้น เป็นเนื้อหาคำพิพากษาคดีของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 450/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 2413/2565ระหว่าง สยามสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1), ผู้อำนวยการสำนักโยธา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ผู้อำนวยการเขตวัฒนา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) และ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก (ผู้ร้องสอดที่ 1)รฟม. (ผู้ร้องสอดที่ 2) นิติบุคคลอาคารชุด แอชตัน-อโศก(ผู้ร้องสอดที่ 3) ซึ่งศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้ “ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามร่วมกันปรึกษาหารือกับผู้ร้องสอดที่ 1,2 เพื่อหาแนวทางแก้ไขการก่อสร้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายภายใน 180 วัน นับแต่คดีถึงที่สุดหากไม่สามารถแก้ไขได้ให้ ผู้ถูกฟ้องคดีที่1 และที่3 ใช้อำนาจรื้อการก่อสร้างส่วนที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายภายใน 90 วัน”
    (มีต่อหน้า 2/2)

    https://www.facebook.com/share/p/HKgfNNseA7Ex5Nnq/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 7, 2024 ไม่รีบเลย! ประธานแบงก์ชาติสหรัฐยันไม่รีบลดดอกเบี้ยระยะสั้น ชี้ชัดเศรษฐกิจสหรัฐไม่มีถดถอยแรง
    .
    ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวแถงต่อคณะกรรมาธิการสภาล่าง รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ว่า กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐอเมริกายังคงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงหลายยังที่เกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อ และไม่ต้องการที่จะเร่งรีบผ่อนคลายดอกเบี้ยดังกล่าวเร็วเกินไป คณะกรรมการของเฟดไม่ได้ตั้งความคาดหวังว่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการปรับลดช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อจนกระทั่งจะมีความมั่นใจว่าภาวะเงินเฟ้อกำลังเข้าสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
    .
    จนถึงขณะนี้ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังจะตกต่ำจนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังจะตกอยู่ในปัจจัยความเสี่ยงระยะสั้นที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอย เฟดกลับมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังมีเส้นทางเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างนิ่มนวลอย่างที่ตั้งความหวังไว้ ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกายังคงลดต่ำลงเพื่อเข้าสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3Tev6oq
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #เฟด #แบงก์ชาติ #สหรัฐ #ไทย #ดอกเบี้ย #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/fQYs8kiHyB5zn72T/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 7, 2024 ค่าไฟต้องลด ! 'พีระพันธุ์' โยน 'กฟผ.' อุ้มค่า Ft ต่อให้ค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 67 ต่ำกว่า 4.18 บาท ไม่ให้ประชาชนมีภาระค่าไฟฟ้ามากเกินไป

    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจการผลิตก๊าซธราชาติกลางอ่าวไทย เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมาว่า เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีก๊าซมากพอซึ่งกำลังผลิตจะกลับมาที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนเม.ย. 2567 ดังนั้น การยันราคาค่าไฟฟ้าในรอบใหม่นี้ ตนได้หารือกับนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และปลัดกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้หารือกับผู้บริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อขอให้ช่วยกันดูแลประชาชนตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้เต็มที่เพื่อไม่ให้มีภาระค่าไฟฟ้ามากไปกว่าปัจจุบัน ซึ่งทุกท่านทุกฝ่ายพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะทาง กฟผ. พร้อมที่จะแบกรับภาระหลายอย่างเพื่อประชาชน

    นายพีระพันธุ์ มั่นใจว่าราคาค่าไฟฟ้าสำหรับงวดต่อไป (พ.ค.-ส.ค. 2567) จะไม่สูงไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย. 2567) ที่เรียกเก็บที่ 4.18 บาทต่อหน่วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #ค่าไฟ #ค่าไฟฟ้า #ค่าFt #พีระพันธุ์ #กฟผ. #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/1rtrE7JFTPM5oFbi/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ภาวะโลกร้อน” ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และพยายามควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้เรายังควบคุมได้ไม่ดีพอ เพราะอุณหภูมิโลกยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะรุนแรงจนเกินควบคุม โดยเฉพาะในทวีป “แอฟริกา”
    .
    การศึกษาใหม่โดยศูนย์เพื่อการพัฒนาโลก ที่จัดทำโดยฟิลิป โคฟี อดอม นักเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ทำงานวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเวลาหลายปี พบว่า ประเทศในแอฟริกาจะประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญหลังปี 2050 หากภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 องศาเซลเซียส
    .
    หากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงดำเนินต่อไปตามแนวโน้มปัจจุบัน การผลิตพืชผลทางการเกษตรในแอฟริกาจะลดลง 2.9% ในปี 2030 และจะกลายเป็น 18% ภายในปี 2050 ทำให้ผู้คนประมาณ 200 ล้านคนเสี่ยงต่อความอดอยากอย่างรุนแรง
    .
    ชาวแอฟริกัน 50 ล้านคนจะ “ขาดแคลนน้ำ”
    .
    การสูญเสียรายได้จากพืชผลประมาณ 30% จะทำให้เกิดความยากจนเพิ่มขึ้นราว 20-30% เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกและตะวันออกจะแย่ที่สุด
    .
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้การผลิตทางการเกษตรลดลง ทำให้เกิดปัญหาความมั่นคงทางอาหาร และทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นตามไปด้วย
    .
    จากข้อมูลตามรายงาน ชาวแอฟริกัน 50 ล้านคน จะขาดแคลน “น้ำสะอาด” อย่างรุนแรง ทั้งในการบริโภคและภาคอุตสาหกรรม ในทวีปแอฟริกาจะมีน้ำลดน้อยลงอย่างมาก ความต้องการน้ำจะยิ่งเพิ่มขึ้น และน้ำจะกลายเป็นของล้ำค่า มีราคาแพงมาก
    .
    จีดีพีทั่ว “แอฟริกา” ลดลง เพราะผลิตผลทางการเกษตรน้อยลง
    .
    42.5% ของชนชั้นแรงงานในแอฟริกาทำงานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ชนบทและมีฐานะยากจน หากพื้นที่เกษตรกรรมมีน้อยลง และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล จนไม่สามารถทำการเกษตรได้ ก็จะทำให้แรงงานจำนวนมากเผชิญกับความเสี่ยงที่จะตกงาน ยิ่งเกิดปัญหายากจนอย่างรุนแรง
    .
    หากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เช่นในปัจจุบัน ไม่มีการแก้ไขให้ดีขึ้น ภายในปี 2050 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีของประเทศในทวีปแอฟริกาจะลดลง 7.12% และระยะยาวอาจจะลดลงได้ถึง 11.2-26.6% ในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
    .
    เมื่อเศรษฐกิจหดตัวลง ธุรกิจต่าง ๆ อาจปิดตัวลง งานบางอย่างหายไป และไม่มีการสร้างงานใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของทวีปแอฟริกาที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีประชากรสูงถึง 2,000 ล้านคน และมีคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมากที่จะไม่มีงานทำ
    .
    “แอฟริกา” ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย แต่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

    จากข้อมูลของ Climate Watch แพลตฟอร์มออนไลน์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า 10 อันดับแรกของประเทศที่ปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” มากที่สุดในโลกในปี 2020 ได้แก่ จีน, สหรัฐ, อินเดีย, สหภาพยุโรป, รัสเซีย, อินโดนีเซีย, บราซิล, ญี่ปุ่น, อิหร่าน และแคนาดา ซึ่งไม่มีประเทศที่อยู่ในแอฟริกาอยู่เลย แต่ทวีปนี้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นประเทศยากจน กลับได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด
    .
    “แอฟริกาสร้างปัญหานี้น้อยที่สุด แต่กลับต้องมารับผลกระทบมากที่สุด” วันจิรา มาไทย กรรมการผู้จัดการประจำแอฟริกาและความร่วมมือระดับโลกของสถาบันทรัพยากรโลกกล่าว “ดังนั้นเราจึงต้องปรับตัวทั้งหมดอย่างรวดเร็วที่เท่าที่ทำได้ และต้องมั่นใจว่าเรารับมือกับความเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เป็นอย่างดี”
    .
    ประเทศต่าง ๆ ย่อมรู้ดีว่าจะต้องใช้เงินในการลดกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นในกลุ่มประเทศยากจนจึงไม่มีหนทางจะบรรเทาความเสียหาย ได้แต่รับผลกระทบจากโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกที โดยที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้นด้วยซ้ำ
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1116383?anm=
    .
    ที่มา:
    NPR: https://bit.ly/49UysEd
    The Conversation: https://bit.ly/438BHVY
    .
    #แอฟริกา #ภาวะโลกร้อน #อุณหภูมิโลกสูง #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจClimate

    https://www.facebook.com/share/p/RU2MRtS3ArBh2Xoi/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดเหตุระทึกขีปนาวุธลูกหนึ่งของรัสเซียพุ่งใส่เป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานของเมืองโอเดสซา ในวันพุธ(6มี.ค.) ระหว่างที่ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และ คีเรียคอส มิตโซตาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซ กำลังเดินทางเยือนเมืองท่าริมทะเลดำแห่งนี้ และทั้งคู่อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ดังกล่าวมากพอ จนสามารถเห็นเหตุโจมตีครั้งนี้ด้วยตาของตนเอง

    "มันดูเหมือนว่า เราไม่ได้ยินแค่เสียงเท่านั้น เราได้เห็นการโจมตีนี้ด้วยในวันนี้" เซเลนสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วม ในขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าการโจมตีเกิดขึ้นห่างจากคณะผู้แทนราวๆ 500 ถึง 800 เมตร "คุณได้เห็นแล้วว่าเรากำลังจัดการกับใคร พวกเขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าการโจมตีจะไปลงที่ไหน"

    ก่อนหน้านี้กองทัพอากาศยูเครนแถลงว่ามีขีปนาวุธลูกหนึ่งคุกคามภูมิภาคดังกล่าวในตอนเช้าวันนี้ แต่ไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งมีคำยืนยันผ่านการแถลงข่าว ตามหลังผู้นำทั้ง 2 เดินทางตรวจเยี่ยมเมืองท่าแห่งนี้เสร็จสิ้นแล้ว ในขณะที่โอเดสซา ยังเป็นแนวกันชนด้านมนุษยธรรมสำหรับการส่งออกทางทะเลด้วย

    โฆษกกองทัพเรือยูเครนเปิดเผยว่าการโจมตีดังกล่าว สังหารผู้คนไป 5 ราย

    มิตโซตาคิส ซึ่งเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 กล่าวระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยม ว่าคณะผู้แทนได้ยินเสียงไซเรนและระเบิดตูมสนั่น ตอนกำลังเดินไปขึ้นรถยนต์

    "ผมเชื่อว่านี่คือเครื่องเตือนความจำที่สว่างจ้าที่สุด เกี่ยวกับความเป็นจริงของสงครามที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่" มิตโซตาคิสกล่าว พร้อมเรียกร้องพวกผู้นำยุโรปคนอื่นๆ ให้เดินทางเยือนยูเครน เพื่อรับรู้โดยตรงเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามที่มีต่อพลเรือน

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่ากองกำลังของพวกเขาโจมตีโรงเก็บโดรนแห่งหนึ่งของกองทัพเรือยูเครน บริเวณท่าเรือดังกล่าว พร้อมระบุว่าการโจมตี "ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย"

    โครงสร้างพื้นฐานท่าเรือริมทะเลดำของยูเครน ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยกระดับการโจมตีมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฏาคมปีก่อน ครั้งที่มอสโกถอนตัวจากข้อตกลงที่มีสหประชาชาติเป็นคนกลาง โดยข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเปิดทางให้เรือขนส่งธัญพืชยูเครนสัญจรเข้าออกอย่างปลอดภัย และให้เคียฟจัดตั้งแนวกันชนการส่งออกของตนเอง

    ผู้บัญชาการรายหนึ่งแห่งกองทัพเรือยูเครน กล่าวระหว่างร่วมตรวจเยี่ยมเมืองแห่งนี้ว่า นับตั้งแต่นั้น รัสเซียได้ทำการโจมตีด้วยโดรนกว่า 880 ลำ และขีปนาวุธกว่า 170 ลูก เล่นงานโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคโอเดสซา

    อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตี ว่า "ไม่มีใครยอมจำนนต่อความพยายามก่อการร้ายรอบใหม่นี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ 2 ผู้นำที่อยู่ในพื้นที่ หรือประชาชนชาวยูเครนผู้กล้าหาญ"

    ที่ผ่านมา กรีซ สมาชิกนาโต และพันธมิตรเก่าแก่ที่สนับสนุนการเสนอตัวเข้าร่วมนาโตและสหภาพยุโรปของยูเครน เคยเสนอมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟเช่นกัน และระหว่างการเดินทางเยือนในวันพุธ(6มี.ค.) มิติโซตาคิส ก็เน้นย้ำว่ากรีซจะเดินหน้าให้การสนับสนุนต่อไป

    "การมาอยู่ที่นี่ของผมในวันนี้ สะท้อนว่าทั่วโลกเสรีให้ความเคารพต่อประชาชนของคุณ และเน้นย้ำว่ากรีซยังคงมีพันธสัญญายืนหยัดอยู่เคียงข้างคุณ" เขาบอกกับเซเลนสกี

    เป็นอีกครั้งที่ผู้นำยูเครนเน้นย้ำถึงความสำคัญของศักยภาพการป้องกันภัยทางอากาศ และบอกว่าหลายประเทศเริ่มดำเนินการในข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคีแล้ว แบบเดียวกับที่เคียฟลงนามกับประเทศอื่นๆ

    "เราหารือกันเกี่ยวกับหนทางอื่นๆที่เราสามารถขยายขอบเขตด้านความมั่นคงในทะเลดำ แนวทางที่เราสามารถปกป้องประชาชนของเราเพิ่มเติม ทั้งทหารและพลเรือน เราต้องการการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม"

    (ที่มา:รอยเตอร์)

    https://www.facebook.com/share/p/UReiAzfKkrbVbSbs/?mibextid=oFDknk
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯในวันพุธ(6มี.ค.) ประกาศลงโทษกบฏฮูตีในเยเมน สำหรับเหตุโจมตีเรือสินค้าแบบเทกองลำหนึ่ง สังหารไป 2 ราย ถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่พวกนักรบกลุ่มนี้เริ่มปฏิบัติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

    "เราจะเดินหน้าลงโทษพวกเขา เราเรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆทั่วโลกดำเนินการแบบเดียวกัน" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกกับพวกผู้สื่อข่าว

    กบฏฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนและได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยังคงเดินหน้าท้าทายโจมตีเรือต่างๆในน่านน้ำที่มีความสำคัญยิ่งต่อการเดินเรือสินค้า เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ และตอบโต้อิสราเอล ซึ่งดาหน้าโจมตีถล่มฉนวนกาซา ที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาส แก้แค้นเหตุบุกจู่โจมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

    มิลเลอร์กล่าวว่า "การโจมตีของฮูตี ไม่ใช่แค่ก่อความปั่นป่วนแก่การค้าระหว่างประเทศ ไม่ใช่แค่สร้างความวุ่นวายแก่เสรีภาพในการล่องเรือในน่านน้ำระหว่างประเทศ และไม่ใช่แค่ก่ออันตรายแก่กะลาสีเรือ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าที่กะลาสีเรือจำนวนหนึ่งต้องมาเสียชีวิต"

    เมื่อถามว่าการโจมตีล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรในปฏิบัติการโจมตีใส่พวกฮูตี ใช่หรือไม่ มิลเลอร์ตอบว่า "เราชัดเจนมาตลอด ว่านี่จะเป็นกระบวนการระยะยาว ทั้งในแง่ป้องปรามการโจมตีของพวกฮูตีและลดระดับศักยภาพของพวกเขาในการลงมือโจมตี"

    เขาบอกต่อว่าสหรัฐฯยังสนับสนุนให้ประเทศอื่นๆ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเช่นกันว่า "การโจมตีนี้เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ"

    ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่ากะลาสี 2 คน เสียชีวิตในเหตุพวกฮูตียิงขีปนาวุธเข้าใส่เรือสินค้าลำหนึ่งในทะเลแดง ถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่กลุ่มนักรบเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เริ่มโจมตีเล่นงานเรือต่างๆ ในเส้นทางการเดินเรือที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    กบฏฮูตีออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับเหตุโจมตี ที่ทำให้เรือทรู คอนฟิเดนซ์ ประดับธงบาร์บาดอสและมีบริษัทกรีซเป็นเจ้าของ เกิดไฟลุกไหม้ ห่างจากชายฝั่งเอเดน เมืองท่าของเนเมน ราวๆ 50 ไมล์ทะเล(ประมาณ 92 กิโลเมตร)

    สถานทูตสหราชอาณาจักร โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ตอบโต้โดยตรงต่อคำกล่าวอ้างของฮูตี บอกว่า "มีลูกเรือผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 2 คนเสียชีวิต นี่เป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เป็นผลลัพธ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จากการยิงขีปนาวุธโดยขาดความยั้งคิดของพวกฮูตี ใส่การเดินเรือระหว่างประเทศ พวกเขาต้องหยุดเดี๋ยวนี้"

    กบฏฮูตีโจมตีเรือต่างๆในทะเลแดง มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ในสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างว่าเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ระหว่างที่พวกฮามาสทำสงครามกับอิสาเอลในฉนวนกาซา กระตุ้นทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีตอบโต้เล่นงานพวกฮูตี และคำยืนยันเกี่ยวกับการเสียชีวิตครั้งนี้ อาจนำมาซึ่งแรงกดดันให้ทั้ง 2 ชาติ ยกระดับปฏิบัติการทางทหารหนักหน่วงขึ้น

    ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวด้านการเดินเรือ ระบุว่ามีลูกเรือ 4 คนได้รับบาดเจ็บแผลไหม้รุนแรง และ 3 คนสูญหาย หลังจากขีปนาวุธพุ่งโดนเรือ

    ผู้ปฏิบัติการสัญชาติกรีซของเรือทรู คอนฟิเดนซ์ ยืนยันเช่นกันว่าเรือถูกโจมตีห่างจากเมืองท่าเอเดน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราวๆ 50 ไมล์ทะเล และเกิดไฟลุกท่วม แต่ยังคงลอยได้อยู่ อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของลูกเรือ 20 คนและการ์ดติดอาวุธ 3 คนบนเรือ ซึ่งในนั้นประกอบด้วยชาวฟิลิปปินส์ 15 คน เวียดนาม 4 คน ศรีลังกา 2 คน อินเดีย 1 คนและเนปาล 1 คน

    หน่วยปฏิบัติการด้านการค้าทางทะเลของสหราชอาณาจักร (United Kingdom Maritime Trade Operations – UKMTO) เปิดเผยว่าได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์หนึ่งห่างจากเมืองเอเดน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 54 ไมล์ทะเล พร้อมระบุลูกเรือได้ตัดสินใจทิ้งเรือลำดังกล่าวและมันไม่ได้อยู่ภายใต้การสั่งการใดๆแล้ว

    สตีเฟน คอตตอน เลขาธิการใหญ่สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ(ITF) สหภาพกะลาสีเรือชั้นนำ เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการหาทางปกป้องสมาชิกของสหพันธ์

    เมื่อ 4 วันก่อน เรือบรรทุกสินค้าแบบเทกอง รูบีมาร์ ที่มีสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของ กลายเป็นเรือลำแรกอัปปางจากฝีมือการโจมตีของพวกฮูตี หลังมันยังคงลอยอยู่ได้ราวๆ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความเสียหายอย่างหนัก จากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ อย่างไรก็ตามลูกเรือทั้งหมดได้รับการอพยพลงจากเรืออย่างปลอดภัย

    การโจมตีของพวกฮูตี ก่อความปั่นป่วนแก่การเดินเรือระหว่างประเทศ บีบให้บริษัทต่างๆต้องเปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางที่ไกลขึ้นและมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แถวๆทางใต้ของแอฟริกา

    ในขณะที่พวกนักรบกลุ่มนี้ อ้างว่าการโจมตีของพวกเขา เล็งเป้าเล่นงานเรือต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักร สหรัฐฯและอิสราเอล แต่แหล่งข่าวอุตสากรรมการเดินเรือ ระบุว่าเรือทุกลำตกอยู่ในความเสี่ยง

    (ที่มา:เอเอฟพี/รอยเตอร์)

    https://www.facebook.com/share/p/zzgAfsPykvuMQkGe/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของบริษัทเมตา ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและ(เธรดส์) ที่ประสบความปั่นป่วนทั่วโลกเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเมื่อวันอังคาร(5มี.ค.) มีข่าวลือว่าอาจมีต้นตอจากการที่พวกนักรบฮูตีเล่นงานสายเคเบิลในทะเลแดง ตามคำกล่าวอ้างของสื่อมวลชนหลายแห่ง

    ก่อนหน้านี้เหล่าผู้ปฏิบัติการด้านโทรคมนาคมหลายบริษัท ที่มีสำนักงานในเอเชีย ต่างส่งเสียงเตือนอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์ที่แล้ว ว่าสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตใต้น้ำในทะเลแดง ขาด 4 สาย ในขณะที่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พื้นที่แถบนี้มีเหตุโจมตีเล่นงานเรือสินค้าพลเรือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีต่างๆนานาของพวกเขานั้น ก็เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์และแก้แค้นปฏิบัติการทางของอิสราเอล ที่เล่นงานพวกนักรบฉามาส พันธมิตรของพวกเขาในกาซา

    อย่างไรก็ตาม พวกฮูตี ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าพวกเขาเป็นคนตัดสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตในภูมิภาคนี้

    ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เมื่อวันอังคาร(5มี.ค.) แอนดี สโตน โฆษกของเมตา กล่าวว่า "ทางบริษัทรับทราบว่าผู้คนมีปัญหาในการเข้าถึงการบริการของเรา" และในข้อความต่อมา พวกเขากล่าวโทษเหตุขัดข้องดังกล่าวว่าเป็นประเด็นทางเทคนิค โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม

    ขณะเดียวกัน ทีมยูทูบ ส่วนหนึ่งของกูเกิลกรุ๊ป เปิดเผยว่าพวกเขาได้รับรายงานเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆนานาในการโหลดแพลตฟอร์มและกำลังจัดการกับปัญหานี้

    เมื่อวันจันทร์(4มี.ค.) HGC Communications ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในฮ่องกง รายงานว่า สายเคเบิลในทะเลแดง ขาด 4 เส้น ได้แก่สาย SEACOM, TGN, Africa Asia Europe-One และสาย Europe India Gateway

    จากการประเมินของบริษัท คาดว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกับการไหลของข้อมูลอินเทอร์เน็ตของพวกเขาราวๆ 25% อย่างไรก็ตามทาง HGC Communications ให้คำรับประกันกับลูกค้าว่าพวกเขามีแผนฉุกเฉินสำรองไว้แล้ว โดยจะเลี่ยงเส้นทางการไหลของข้อมูลผ่านจีนแผ่นดินใหญ่และสหรัฐฯ

    ส่วนบริษัท Tata Communications ของอินเดีย ซึ่งบริหารจัดการสาย Seacom-TGN-Gulf line ยืนยันกับสำนักข่าว AP ว่า สายเคเบิลของพวกเขาได้รับความเสียหาย ทำให้บริการบางอย่างล่ม หรือต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางอินเทอร์เน็ต และได้ดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมอย่างเหมาะสมในทันที

    ด้านบริษัท SEACOM ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในแอฟริกา ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศมอริเชียส ยืนยันกับสำนักข่าว วอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่า สายเคเบิลของพวกเขาในทะเลแดงได้รับความเสียหาย และการซ่อมแซมต้องรอจนถึงอย่างน้อยไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาค

    กระทรวงโทรคมนาคมของเยเมน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮูตี เผยแพร่ถ้อยแถลงปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยบอกว่าบรรดาสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องกับพวกไซออนิสต์ พยายามโยงทางกลุ่มให้เป็นผู้รับผิดชอบเหตุความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสายเคเบิล "ฮูตีมุ่งมั่นป้องกันสายเคเบิลโทรคมนาคมใต้น้ำทั้งหมด ให้อยู่ห่างจากความเป็นไปได้ของความเสี่ยงใดๆ" ถ้อยแถลงของฮูตีระบุ

    (ที่มา:อาร์ทีนิวส์)

    https://www.facebook.com/share/p/Fx3vJNr7ZyKrVCwJ/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‍คุณกำลังเริ่มรู้สึกแบบนี้อยู่บ้างไหม? ต้องแสดงออกให้คนอื่นเห็นแต่ด้านที่ดีของตัวเองเท่านั้น กลัวว่าคนรอบข้างจะมองว่าตัวเองอ่อนแอหรือเป็นภาระ ข้างนอกสดใสร่าเริงแสดงออกว่ายิ้มแต่ในใจจริงๆ คือเป็นทุกข์อยู่ ถ้าเริ่มมีอาการดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายอยู่ในภาวะ Smiling depression
    .
    #Smilingdepressionคืออะไร?
    Smiling depression คือคนที่ซึมเศร้า แต่จะแสดงออกภายนอกว่าร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ภายในจิตใจกลับรู้สึกเศร้าโศก หดหู่ ไร้ความสุข สิ้นหวัง คล้ายกับโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ได้อย่างแนบเนียน
    .
    #9สัญญาณภาวะSmiling depression
    1.ยิ้ม แต่สายตาดูไม่สดใส
    2.ดำเนินชีวิตได้ปกติแต่ข้างในรู้สึกเศร้า
    3.เป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ทุกคนคอยเข้าหาแต่ไม่ค่อยพูดเรื่องของตัวเอง
    4.ไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระ
    5.ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบ หรือรู้สึกอ่อนแอ
    6.คาดหวังให้คนอื่นมีความสุขส่วนตัวเองเก็บความรู้สึกไว้
    7.นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป
    8.รู้สึกตัวเองไร้ค่า สิ้นหวัง รู้สึกผิด หรือแม้กระทั่งมีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่
    9.ไม่อยากทำอะไร อ่อนเพลีย หรือรู้สึกไม่สนใจ เพลินเพลิดกับกิจกรรมที่เคยชอบทำ
    .
    #สาเหตุของภาวะSmilingdepression

    - ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ หรือ Perfectionist เมื่อประสบปัญหา คนกลุ่มนี้จึงเลือกที่จะแสดงออกว่ามีความเข้มแข็งมากกว่า
    - ไม่ต้องการรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น ไม่ต้องการให้ผู้อื่นต้องเป็นห่วงตัวเอง และบางครั้งยังต้องรับฟังปัญหาของผู้อื่นอีกด้วย
    - มีความรับผิดชอบสูง ทั้งในหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือกับสังคมรอบตัว จึงเลือกที่จะไม่แสดงออกความรู้สึกของตนเอง ที่จะกระทบผู้คนรอบข้าง
    .
    อ่านเพิ่มเติม : แนวทางการรักษาภาวะ Smiling depression
    >> https://mono29.com/life/health/477111.html

    แนวทางการรักษาภาวะ Smiling depression
    ประกอบไปด้วยการใช้ยาต้านซึมเศร้าและการบำบัดทางจิต

    การใช้ยาต้านเศร้า จะออกฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมกลับของสารสื่อประสาทบางชนิดในสมอง เช่น สารเซโรโทนิน และสารนอร์เอพิเนฟริน ยาต้านซึมเศร้ามักใช้ร่วมกับการให้คำปรึกษาและบำบัดทางจิต ระยะเวลาในการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

    การบำบัดอาการทางจิตเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์จะเป็นผู้ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุของอาการซึมเศร้า และเรียนรู้วิธีรับมือกับความรู้สึกของตัวเอง เช่น การบำบัดแบบจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) ช่วยผู้ป่วยสำรวจความคิดและความรู้สึกที่ซ่อนเร้น, การบำบัดแบบพฤติกรรมทางปัญญา (Cognitive Behavioral Therapy, CBT) ช่วยผู้ป่วยเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ส่งผลต่ออารมณ์และการบำบัดกลุ่ม (Group therapy) ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง


    %E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B22.jpg
    การดูแลตัวเองเมื่อเป็น Smiling Depression
    • ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มตลอดเวลา อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเศร้า โกรธ หรือรู้สึกอะไรก็ได้,
    • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ ระบายความรู้สึกของตัวเอง
    • ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    ขอบคุณข้อมูลจาก : แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH- Bangkok Mental Health Hospital

    https://www.facebook.com/share/p/y9YekHab6RXfEoeh/?mibextid=oFDknk
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2024
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพจเดือดโพสต์ตามเรื่องนี้ไม่ขาด --- เป็นปีแล้วล่ะครับท่าน ที่โพสต์เกือบๆ จะทุกเดือน
    ฉะนั้น ครั้งนี้ไม่เขียนซ้ำ แต่ขอตัดจากโพสต์ของต้นปีมาละกัน ดังต่อไปนี้
    ---
    ไปให้สุด ไม่หยุดละเจ๊!
    สรุป ปี 2023 แบงก์ชาติจีน ซื้อทองคำ ตุนเข้าท้องพระคลัง ทุกเดือน --- ย้ำว่า "ทุกเดือน" ไม่มีเว้น
    เบ็ดเสร็จ สะสมเพิ่ม 225 ตัน
    ... อันที่จริง ซื้อต่อเนื่อง "ข้ามปี" ด้วยซ้ำ! --- 14 เดือนรวด (นับตั้งแต่ พ.ย. 2022) ล่อไปรวม 287 ตัน
    ก่อนหน้านี้ ไม่ซื้อเลย 3 ปี!!!
    * หมายเหตุ เคยโพสต์สังเกตไปแล้วนะครับท่าน ว่าคล้ายๆ "เป็นรอบ" : systematic
    { หยุด 3 ปี แล้วซื้อที 10 เดือน }
    เดิม ที่แล้วมา เข้าอีหรอบนี้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่! --- ก็ล่อไป 14 เดือนแล้วไง และดูทรง ก็ท่าจะต่อไป ต่อไป ต่อไป
    ปัจจุบัน "ทุนสำรองระหว่างประเทศ" ของจีน ที่เก็บในรูปของทองคำ อยู่ที่ 2,235.41 ตัน --- คิดเป็น 4.3% ของทุนสำรองฯ ทั้งหมดครับท่าน
    จีนคิดอะไร
    จะหยุดเมื่อไหร่ หรือไม่หยุดแล้ว
    ?
    คำถามที่สำคัญกว่า จีนกำลังทำอะไรกันแน่
    ---
    (จบโพสต์ของวันนั้น ด้วยตัวเลขเดือน ธ.ค. 2023)
    *** เพิ่มเติมล่าสุด คือ ของเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2024 ล่าสุด เบ็ดเสร็จซื้อเพิ่มอีก 10 ตัน และ 12 ตัน ทำให้รวมอยู่ที่ 2,257 ตันแล้วล่ะครับท่านชาวโลกทั้งหลาย
    ส่วนราคาทองตอนที่พิมพ์อยู่นี้ มือไม่สั่นแล้วครับ เพราะชินแล้วกับ record high --- อยู่ที่ 2,155 ครับ แน่นอนว่าถ้าวันนี้ปิดตลาดที่ตัวเลขนี้ จะเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
    (intraday trade วันนี้ fresh high ที่ 2,161 ครับ)
    ประเด็นที่น่าสนใจคือ { แพงก็ซื้อ } แล้วนะครับ --- เท่ากับว่าจีนมิใช่ทั้งซื้อตาม systematic และมิใช่ทั้งช้อนซื้อตอนถูก แต่ซื้อเพราะซื้อ แพงก็ยังซื้อ
    ซื้อเพราะอะไรครับ
    น่าคิดมากๆ

    ประเด็นที่น่าสนใจคือ { แพงก็ซื้อ } แล้วนะครับ --- เท่ากับว่าจีนมิใช่ทั้งซื้อตาม systematic และมิใช่ทั้งช้อนซื้อตอนถูก แต่ซื้อเพราะซื้อ แพงก็ยังซื้อ
    ซื้อเพราะอะไรครับ
    น่าคิดมากๆ
    จีนจะทำอะไร?

    https://www.facebook.com/share/p/ChFyieQuyEuS9m67/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    TheEconomicCollapseBlog
    Never Go Full Weimar: America’s Monetary Base Has Grown 6 Times Larger Since 2008

    เงินสดหมุนเวียนในประเทศเพิ่มไป 6 เท่าในชั่ว 15 ปี

    Michael Snyder Mar 3, 2024

    หลายคนกำลังรอให้ระบบการเงินของอเมริกาพังลง แต่ที่จริงมันก็กำลังพังอยู่แล้ว ปริมาณเงินในส่วนที่เรียกว่า Monetary Base (เงินสด) ที่หมุนเวียนในสหรัฐเพิ่มมากขึ้นถึง 6 เท่านับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ถ้ามันยังคงเพิ่มปริมาณอยู่อย่างนี้ ก็คงไม่นานหรอก ที่เราจะได้เห็นอเมริกาเป็นอย่างเยอรมัน ช่วงที่มันยังเป็น Weima Republic ...แต่ถ้าจะหยุดเพิ่มปริมาณเงินในอัตราบ้าเลือดอย่างนี้ แล้วรัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายดอกเบี้ยล่ะ แล้วเศรษฐกิจอเมริกาก็คงจะพังยับเยินเป็น depression ไปเลย

    พวกที่ต้องรับผิดชอบก็จนตรอกสิ้นหวัง เลยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ...เอาง่าย ๆ พิมพ์เงินต่อไปก่อน ....ทีนี้การแก้ปัญหาง่าย ๆ แบบนี้ ทำมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว มีแต่จะทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นวนไปนะ

    บทความนี้ เราจะไม่พูดถึงปริมาณ Money Supply M1 หรือ M2 ในแบบที่บทความอื่น ๆ กล่าวถึง แต่เราจะมองไปที่ Monetary Base ซึ่งในคำอธิบายของ Investopedia ให้คำนิยามไว้ว่า

    "Monetary Base คือ จำนวนปริมาณเฉพาะเงินสดที่หมุนเวียนในตลาดและในรีเสิร์ฟของธนาคาร ....เงินสดหมุนเวียนคือเงินสดในมือประชาชน ส่วนในรีเสิร์ฟของธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลาง คือส่วนที่เป็นเงินสดเท่านั้น"

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ การเพิ่มของปริมาณเงินส่วนนี้ค่อนข้างเสถียรมาตลอด

    แต่พอเกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008 มันมีการเพิ่มขึ้นในอัตราทวีคูณ

    จากในชาร์ต จะเห็นว่าขนาดของ Monetary Base เพิ่มจากจำนวนที่น้อยกว่า $1 trillion ในปี 2008 มาเป็นเกือบ $6 trillion ในทุกวันนี้

    ราคาสินค้าก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นทันทีที่ Monetary Base เพิ่มขึ้นหรอกนะ มันใช้เวลาเป็นปี

    เห็นได้จากการที่ปริมาณที่เพิ่มขึ้นแรงมากในปี 2020 ไม่ได้ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นทันทีเลย

    แต่มันมาเกิดขึ้นในปี 2021 และ ปี 2022

    ตลอดปี 2022 ขนาดของ Monetary Base ลดลงเพราะ Federal Reserve พยายามที่จะกดอัตราเงินเฟ้อลง และนั่นก็มีส่วนทำให้ราคาสินค้าลดลงในระดับหนึ่งในปี 2023

    แต่แล้วขนาดของ Monetary Base ก็เริ่มกลับสูงขึ้นอีกในต้นปี 2023 ....และตอนนี้ก็สูงลิ่วอีกแล้ว

    นั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย สำหรับคนอเมริกันในปี 2024 และปีต่อ ๆ ไป

    แล้วทำไมพวกเขาไม่หยุดพิมพ์เงินเพิ่มซะที?

    ก็เพราะถ้าทำงั้น ก็จะไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยของหนี้ที่มีอยู่น่ะซี

    ทุกวันนี้ ผู้บริโภคชาวอเมริกันเป็นหนี้กันอยู่ราว ๆ $17 trillion ...หนี้ของพวกบริษัทเอกชนก็สูงที่สุดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ...หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นอีกล่ะ ...ส่วนหนี้ของรัฐบาลกลางก็ $34 trillion เข้าไปแล้ว

    ทุกเสียงก็ออกมาบอกเตือนกันเป็นเสียงเดียว ว่าถ้าไม่มีเงินมาต่อดอกแล้วล่ะก็ ...ชิ_หายนาโว้ย

    เสียงมันดังขึ้นทุกทีตั้งแต่ต้น ๆ ปีแล้ว ..Jamie Dimon แห่ง JPMorgan Chase บอกว่า ตลาดคงจะวุ่นวายแน่ ๆ ....แล้วก็ไม่ใช่แค่ในวอลล์สตรีทนะ ที่ออกมาโวยวาย ....Jerome Powell ประธาน Fed ก็บอกว่า คงไม่ต้องพูดกันเรื่องความรับผิดชอบการใช้งบประมาณแล้วแหละ ...ชั่งมันเหอะ

    ทั่นพูดถูกแล้ว

    อเมริกาเหมือนกำลังนั่งอยู่ในรถที่ไม่มีเบรค แล้วข้างหน้าคือเหว

    นักการเมืองน่ะไม่หยุดสร้างหนี้ใช้เงินหรอก พวกนี้เสพติดแล้ว พวกเขาคิดกันว่าเศรษฐกิจพังแน่ถ้าไม่ปั้มพ์เงินออกมาให้พวกเขาใช้จ่าย

    Jim Quinn นักจัดรายกรวิทยุแห่งนิวยอร์ค พูดว่า "ทุกวันนี้สหรัฐสร้างหนี้ $1 trillion ทุก ๆ 100 วัน เพียงเพื่อให้เศรษฐกิจยังคงเดินต่อไปได้...แค่นั้นเอง"

    แต่พวกนักการเมืองและพวกวอลล์สตรีท กลับบอกว่า เศรษฐกิจกำลังไปได้สวย ไม่มี recession ...คนทั่วไปก็พากันเชื่อสนิท ว่าสหรัฐยังคงใช้เงินทำสงครามในยูเครนกับในตะวันออกกลางได้สบาย แต่ไม่รู้ว่าเงินน่ะไหลไปในกลุ่มบริษัท Military Industrial Complex corporations ...พยายามต่อลมหายใจให้กับจักรวรรดิที่กำลังจะตาย

    เพิ่มหนี้ $1 trillion ในทุก ๆ 100 วันเนี่ย ใครก็คิดได้ว่านี่มันมีแต่เจ๊งอย่างเดียว

    ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ..หนี้ $1 trillion แรกน่ะ ใช้เวลาก่อถึง 200 ปีเลยนะ .....แต่ตอนนี้ แค่ 100 วัน

    Thomas Jefferson ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐเคยเตือนไว้ว่า การสร้างหนี้ของรับาลคือการขโมยเงินของคนรุ่นลูกรุ่นหลานแบบเป็นวงกว้างเลย

    นักการเมืองยุคปัจจุบันขโมยเงินของลูกหลานชาวอเมริกันยาวนานไปหลาย ๆ รุ่นมาก

    คงต้องรอจนถึง EndGame

    Michael’s new book entitled “Chaos” is available in paperback and for the Kindle on Amazon and you can check out his new Substack newsletter right here.

    http://theeconomiccollapseblog.com/...wn-6-times-larger-since-2008/#google_vignette
    FB_IMG_1709807378064.jpg FB_IMG_1709807380290.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/YfeFvqiWGdDFocrV/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Liberty & Finance Dunagun Kaiser
    Will China Revalue Gold?

    จีนจะปรับค่าทองคำหรือเปล่า?

    Andy Schectman Feb 14, 2024

    15:55....Andy
    เหตุผลที่จีนซื้อเข้าทองคำมาก ซึ่ง Alasdair Macleod ก็เคยบอกไว้แล้วว่าจีนอาจมีทองคำมากถึง 40,000 ตัน หรืออาจจะเป็นหลาย ๆ เท่าจากที่พวกจีนพยายามให้ข่าว เพราะเราก็ประเมินเองได้จากการผลิตและการนำเข้าของพวกเขามานานนับสิบ ๆ ปีแล้วด้วย ....ยังไงก็มากกว่าที่สหรัฐบอกว่ามีประมาณ 8 พันกว่าตันละกันน่ะแหละ แถมสหรัฐก็ยังไม่เคยมีการ audit มานานแล้วด้วย

    แล้วสักวันหนึ่ง จีนก็จะต้องกำหนดราคาทองคำใหม่ (revalue) แน่นอน เหมือนที่ครั้งหนึ่ง รูสเวลท์ได้ทำมาแล้วเมื่อปี 1933 จาก $20.67 ต่อออนซ์ เป็น $35 ต่อออนซ์ ...แล้วเมื่อถึงตอนนั้น จีนก็จะมีสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดที่อิงค่ากับทองคำ แบบที่รัฐมนตรีคลังของเนเธอร์แลนด์บอกไว้ว่า เนเธอร์แลนด์ก็จะกำหนดค่าทองคำใหม่เช่นกัน เป็นการกำหนดราคาในบัญชีที่ชื่อ Gold Revaluation Account ใน balance sheet ของธนาคารกลาง

    และถ้าไปดูใน balance sheet ของธนาคารกลางเกือบทั้งโลกตอนนี้ มีบัญชี Gold Revaluation Account เตรียมรออยู่แล้ว

    นี่เท่ากับเป็นการเตรียมปรับมูลค่าทรัพย์สินของ ให้สอดคล้องกับฝั่ง liabilities ใน balance sheet ถ้าประเทศมีปริมาณทองคำมากพอและปรับมูลค่าให้เป็นตามจริง ก็พร้อมที่จะทำให้เกิดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจได้เลย

    ที่ผ่านมา จีนค่อย ๆ เพิ่มความร้อนต้มกบแบบไม่รีบ จนพรีเมื่ยมราคาทองคำในตลาดเซี่ยงไฮ้ขณะนี้สูงไปถึง $70-$80 ต่อออนซ์แล้ว มันก็เหมือนกับการเกิดเงินเฟ้อที่เรา ๆ เคยพบกันมาตลอดหลาย ๆ ปีตอนเป็นเด็กนั่นแหละ นี่จะเป็นการถ่ายโอนทองคำจากตะวันตกให้ไหลมาสู่ตะวันออกอย่างช้า ๆ

    และการประชุมกลุ่ม BRICS ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้ ...เรื่องที่เราพูดกันนี้จะเป็นเรื่องที่เพิ่มความร้อนแรงในที่ประชุมก็ได้ เมื่ออาจมีการประกาศสกุลเงินที่อิงค่ากับทองคำ .....และยังมีเรื่องที่กลุ่มประเทศ Shanghai Cooperation Organisation (SCO) เข้ามาร่วมใน BRICS ผมมองว่านี่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ
    FB_IMG_1709807492347.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/y6pSPd1KytUm5KWG/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    SilverBullionTV - Patrick Vierra
    A Sign of Hyperinflation.

    Lynette Zang. Feb 26, 2024

    7:36.....Patrick.....
    ดูเหมือนตอนนี้ Fed กลับมากังวลเรื่องของเงินเฟ้ออีกแล้ว คุณคิดว่าเงินเฟ้อจะกลับมาอีกหรือเปล่า?

    Lynette.....
    แน่นอนเลย เราต้องรู้ไว้ก่อนว่าเงินของเราไม่มีอำนาจซื้อเหลืออยู่อีกแล้ว และเครื่องมือเดียวที่เหลือคืออัตราดอกเบี้ย ก็ใช้แก้ไขไม่ได้อีกแล้ว

    ทุกครั้งที่ขึ้นดอกเบี้ย ก็มีแต่จะทำให้เกิดวิกฤตใหม่เพิ่มเข้ามา จึงต้องพิมพ์เงินเพื่อแก้วิกฤต พอเงินมากขึ้น..ค่าเงินก็ตกไปอีก เพิ่มเงินเฟ้ออีก วนอยู่อย่างนี้

    ที่จริงเงินเฟ้อต่ำ ๆ เป็นภาษีที่มองไม่เห็นที่รัฐบาลต้องการให้เกิดขึ้น เอกชนก็ชอบเพราะทำให้ทรัพย์สินของพวกเขาเพิ่มค่า ...มันเป็นการสูบความมั่งคั่งจากประชาชนมานับร้อยปี

    เงินเฟ้อต่ำเป็นสิ่งที่รัฐบาลแอบใส่ไว้ในระบบการเงินมาแล้วตั้งแต่เริ่มระบบ แต่มาถึงตอนจบเมื่อปี 2008 ที่มันถึงเวลาจะต้องตายแล้ว มันก็เลือกที่จะยืดเวลาตายโดยพิมพ์เงินเพิ่มไปเรื่อย ๆ แบบที่หลายประเทศเคยเกิดและพังมาแล้ว (แต่เพราะดอลลาร์เป็นเงินที่ชาวโลกยังต้องการอยู่ เงินเฟ้อจึงไปเกิดที่ประเทศอื่น)

    ตอนนี้ถึงเวลาที่จะไปต่อไม่ได้แล้ว จะต้องมีวิกฤตครั้งใหญ่เกิดขึ้นเพื่อที่จะให้มีข้ออ้างในการรีเซ็ทระบบ โดยให้มี CBDCs เข้ามาแทนที่ นี่เป็นเรื่องที่กำลังจะทำให้เกิดในทุกประเทศเป็นระดับโลกเลย

    ตอนนี้อยากให้มาดูเรื่องของการหมุนเวียนของเงิน (velocity of money) ...หลายปีที่ผ่าน ๆ มาการหมุนเวียนมีน้อยมากทั้ง ๆ ที่มีปริมาณเงินเกิดขึ้นมากมายมหาศาล แต่มาวันนี้ velocity เริ่มเกิดขึ้นไปทั่ว และนั่นคือจุดเริ่มของ hyperinflation (ชาร์ต)

    ตอนนี้ราคาน้ำมันและราคาอาหารสูงขึ้นถึง 40% คนทั่วไปจึงรับใช้เงิน เพราะไม่งั้นต้องซื้อแพงขึ้นอีกในวันถัด ๆ ไป นั่นเป็นการเพิ่มอัตราหมุนเวียน นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระดับโลกไม่ใช่แค่ในสหรัฐเท่านั้น

    ไม่ใช่ว่า Fed จะไม่รู้ พวกเขารู้มากกว่าเรา แต่เรื่องจริงที่จะเปิดเผยจะต่างกันกับที่เราเปิดเผย พวกเขาจะทำให้ประชาชนยังหลงอยู่ในที่มืดเพื่อที่จะให้ทุกคนยังคงอยู่ในระบบต่อไป

    ทีนี้ Fed ก็ต้องเพิ่มเงินในระบบไปอีก และลดดอกเบี้ยลง เพราะนี่เป็นเครื่องมือที่เหลืออยู่ และนั่นก็จะทำให้อัตราเร่งของเงินเฟ้อเพิ่มไปอีก

    Janet Yellen ก็อาจจะบอกว่าสาธารณชนไม่เข้าใจการตีความในตัวเลขเงินเฟ้อเอง แต่ที่จริง Fed ก็กังวลกับความเร็วของเงินเฟ้อที่กำลังเกิด แต่พวกเขาก็แก้ไขโดยการเปลี่ยนวิธีคำนวณอัตรา CPI กันซะใหม่ ถ้าสเต๊กแพงก็เปลี่ยนไปคำนวณจากเนื้อไก่ แฮมเบอเก้อร์แพงก็เปลี่ยนเป็นฮ้อทด้อก

    12:41....Patrick....
    เรื่องการหมุนเวียนของเงินที่คุณพูดถึงนั้นน่าสนใจมาก แล้วถ้าคนตกงานกันเยอะ การใช้จ่ายเงินจะลดน้อยลงหรือเปล่าล่ะ?

    Lynette......
    เราก็ได้เห็นคนตกงานกันมากอยู่แล้ว แต่จากกร้าฟที่ออกมาเป็นรูป parabolic ...การใช้จ่ายก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย นี่หมายความว่าผู้คนสูญเสียความเชื่อถือในดอลลาร์ และพร้อมที่จะจ่ายออกไปให้เร็วที่สุด แบบที่เราเห็นกันตอนที่เกิด hyperinflation นั่นแหละ ...ถ้าไม่ซื้อตอนเช้าที่ราคา $2 ถึงตอนบ่ายสินค้าชิ้นเดียวกันอาจมีราคาพุ่งไปถึง $3 หรือ $4 ได้เลย รีบ ๆ ซื้อเถอะ

    เงินดอลลาร์ที่มีการเปลี่ยนมือกันรวดเร็วมากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อปี 1997 หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ช้าลงจนถึงปี 2013 ซึ่งช้ากว่าช่วง Great Depression ในปี 1933 ....และเลวร้ายลงมาตลอด

    พอถึงตอนนี้มันก็กลับขึ้นมาแล้ว (ชาร์ต) และมันเกิดขึ้นแบบไปทั่วถึงกันหมด (pervasive) และนี่หมายถึงเราอยู่ในขั้นต้น ๆ ของ hyperinflation ...Fed กำลังยืนอยู่กลางระหว่างเสือกับจระเข้ (a rock and a hard place)

    ทั่วโลกตอนนี้กำลังสูญเสียความเชื่อมั่น ...52% ของประเทศในโลกตอนนี้กำลังมีปัญหาการลุกฮือภายใน ดูการเคลื่อนไหวของพวก populist ในหลายประเทศทั่วโลกสิ

    ปัญหาทั้งหมดมันลากยาวมาตั้งแต่ Great Recession เมื่อปี 2008 โน่นแล้ว มีการลดดอกเบี้ยและเพิ่มเงินในระบบมาตลอด จนหนี้เพิ่มไปมหาศาล ....แต่ถ้าหยุดพร้อมกับขึ้นดอกเบี้ย ก็จะเกิดวิกฤตการเงินอีกรอบ ...เรียกว่า Fed จะไปทางซ้ายก็ตาย ทางขวาก็ตาย
    FB_IMG_1709807574713.jpg FB_IMG_1709807576954.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/nBoGXUskwR4GZXhX/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "เวียตนาม คอมมิวนิสต์ : โกงหนักสุดในประวัติศาสตร์ หนักกว่า 1MDBในมาเลเซีย"

    ... ‘เวียดนาม’ ไม่มี....แต่มี 'คดีมหาโกง ครั้งใหญ่ที่สุด’ ในประวัติศาสตร์ประเทศ

    ... เศรษฐินีเวียดนาม “เจือง มาย หลั่น” (Truong My Lan) ได้ยักยอกเงินจาก “ธนาคาร Saigon Commercial Bank” (SCB) เป็นมูลค่ากว่า 12,530 ล้านดอลลาร์หรือราว 4.4 แสนล้านบาท

    ... "หลั่น" ใช้เงินราว 5.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 185 ล้านบาท เพื่อติดสินบนเจ้าหน้าที่ในธนาคารกลางและภาครัฐกว่า 24 คน ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนาม
    แม้เวียดนามเนื้อหอมสำหรับต่างชาติ ในการเข้าลงทุน แต่ก็เผชิญ "การทุจริต"( ระบอบไหนก็เลว ถ้าคนมันจะคิดโกงชาติ )

    ... หลายครั้ง เช่น กรณีปี 2566 ศาลตัดสินจำคุกอดีตรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงรวม 54 คน ในความผิด “ติดสินบน” และ “ทุจริต” งบประมาณโควิด19

    ... ไม่นึกว่าประเทศที่โตเร็วอย่าง “เวียดนาม” และอาจแซงไทย กลับมีเรื่อง "โกงกินยักยอก" สุดอื้อฉาวที่ “หนักยิ่งกว่า” 1MDB ใน "มาเลเซีย" ( ... ที่ก็ไม่เกี่บวกับสุลต่าน ... นักการเมืองชั่วช้าล้วนๆ ) ที่เคยเกิดกรณี อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ได้ยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (1MDB) กว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ โดยการชี้นำเขียนบทโดยเด็กเมื่อวานซืนอย่าง โจ โลห์ ( คล้าย พิธาคิโอ้เลย )

    (... จากจุดนั้นทำให้ความน่าเชื่อถือ มาเลเซียเสียหาย ค่าเงินริงกิตตกต่ำยาวมาจนถึงตอนนี้ สิบกว่าปีแล้ว ... )

    ***... "เวียตนามโกงหนักกว่าอีก"

    ... แต่ตัวเลขนี้อาจต้องชิดซ้าย เมื่อเศรษฐินี “เจือง มาย หลั่น” (Truong My Lan) ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของเวียดนามที่ชื่อว่า Van Thinh Phat Group ได้ยักยอกเงินจาก “ธนาคาร Saigon Commercial Bank” (SCB) เป็นมูลค่ากว่า 12,530 ล้านดอลลาร์หรือราว 4.4 แสนล้านบาท อีกทั้ง "เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเวียดนาม" หลายคน ยังรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริตนี้ด้วย

    ... กรณียักยอกดังกล่าวกลายเป็นเรื่องแดงขึ้น เมื่อรัฐบาลบุกจับ เจือง มาย หลั่น แต่นั่นเท่ากับเปิดแผลคอร์รัปชันที่สะเทือนทั้งประเทศ สั่นคลอนความเชื่อมั่นนักลงทุน และที่สำคัญ เธอไม่ใช่เพิ่งยักยอก แต่ทำเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2561 ( 2018 ) แล้ว

    ................................................

    ... "เจือง มาย หลั่น ยักยอกธนาคารอย่างไร?"

    ... ในช่วงปี 2554 ( 2011 ) ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก 3 แห่งของเวียดนามอันได้แก่ Sai Gon J.S. Commercial Bank, First J.S. Commercial Bank และ Vietnam Tin Nghia J.S. Commercial Bank เผชิญภาวะเสี่ยงล้มละลาย ซึ่งก่อนจะไปต่อไม่ไหว เจือง มาย หลั่นได้แอบเก็บหุ้น 3 ธนาคารนี้เป็นจำนวนมากไว้ก่อนแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นธนาคารที่ไม่เคร่งครัดในระเบียบสินเชื่อ โดยสะท้อนผ่านตัวเลขหนี้เสียจำนวนมาก ซึ่งเธอจะสามารถแทรกแซงกิจการได้ง่ายขึ้น

    ... ต่อมา "ธนาคารกลางเวียดนาม" ตัดสินใจสั่งควบรวม 3 ธนาคารที่จะล้มนี้ จนกลายเป็นธนาคารขนาดใหญ่ขึ้นมาในชื่อว่า “Saigon Commercial Bank” หรือ “SCB” สำหรับตัวหลั่นแล้ว ไม่ได้เก็บหุ้นธนาคารด้วยชื่อเธอคนเดียว แต่ยังเก็บผ่านบริษัทนอมินี 27 รายด้วย จนครองสัดส่วนหุ้นธนาคาร SCB มากถึง 91%

    ... ด้วยเหตุนี้ บริษัท Van Thinh Phat Group ของเธอจึงสามารถออกตราสารหนี้มากถึง 25 ชุด ซึ่งขายผ่านธนาคาร SCB เพื่อระดมเงิน 30 ล้านล้านดองในการขยายกิจการอสังหาริมทรัพย์

    ... เท่านั้นยังไม่พอ บริษัทเปลือกหอย หรือบริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกิจจริงของหลั่นยังกู้เงินออกจาก SCB เป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ได้มีการประเมินสินทรัพย์ที่เหมาะสมก่อน ซึ่งคล้ายกับการยักยอก ไซฟ่อนเงินธนาคารก็ว่าได้

    ***... ระบอบไหนก็ไม่สำคัญเท่า "ธรรมาธิปไตย" ถ้าคนเลว คนชั่วเป็นใหญ่ ชาติก็ล่มจม
    .
    ... https://www.bangkokbiznews.com/business/1116115

    https://www.facebook.com/share/p/oQunBLhQt6U2oJ1t/?mibextid=oFDknk
     

แชร์หน้านี้

Loading...