ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาวะ ‘เงินฝืด’ ไม่น่าห่วง ดอกเบี้ยนโยบายไม่ลด | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
    .
    ความหวังของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปีเหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อ หลังจาก “เงินเฟ้อ” ติดลบติดต่อกันมาหลายเดือนเป็นอันต้องอับปางลง วานนี้ (7 ก.พ.) เมื่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปีต่อไป โดยมี 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี เหลือ 2.25% ต่อปี
    .
    เลขานุการ กนง. “ปิติ ดิษยทัต” ให้เหตุผลว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาวของประเทศไทยแล้ว โดย กนง. เห็นว่ายังมีความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้าจากปัจจัยวัฏจักรเศรษฐกิจและปัจจัยเชิงโครงสร้าง ดังนั้นการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
    .
    เพราะแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำในปัจจุบัน แต่ราคาสินค้าไม่ได้ปรับลดลงเป็นวงกว้าง หากหักผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงเป็นบวก ที่สำคัญยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วงของภาวะเงินฝืด กรรมการ กนง. ส่วนใหญ่จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปีตามเดิม
    .
    แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะออกมาระบุว่า “ถึงเวลาแล้วที่ต้องลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.5% เหลือ 2.25% เพราะวันนี้กรอบเงินเฟ้อยังติดลบอยู่ แต่ปัญหาจะเป็น deflation (เงินฝืด) แล้ว” แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการ กนง. 7 คน ที่มีตัวแทนแบงก์ชาติ 3 คน และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกอีก 4 คน เป็นกรรมการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิจะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี ติดต่อกันได้ไม่เกินสองวาระ
    .
    คณะกรรมการ กนง. มี “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เป็นประธานกรรมการและรองผู้ว่าฯแบงก์ชาติอีก 2 คน คือ อลิศรา มหาสันทนะ เป็นรองประธานกรรมการ และ รุ่ง มัลลิกะมาส เป็นกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ, ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน, รพี สุจริตกุล ซึ่ง รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส และสันติธาร เสถียรไทย ซึ่งเป็นกรรมการเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมี ปิติ ดิษยทัต เป็นเลขานุการ กนง. และหากย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าการประชุม กนง. ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 2565 มีการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 8 ครั้ง จาก 0.50% เป็น 2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
    .
    กนง. อธิบายว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วงของภาวะเงินฝืด ที่สำคัญเข้าใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แบงก์ชาติใช้เป็นปัจจัยกำหนดดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยไม่ว่าจะเป็น ด้านเศรษฐกิจ และ GDP ประเทศอีกด้วย
    .
    ดังนั้นภาคเอกชนจึงต้องเตรียมรับมือสิ่งที่จะตามมาหลังจากไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายลง โดยเฉพาะผลกระทบที่แบงก์ชาติมองว่า “อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับการขยายตัวเศรษฐกิจ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาวของประเทศไทยแล้ว”
    .
    .
    #เงินฝืด #ดอกเบี้ยนโยบาย #เศรษฐกิจ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
    tps://www.facebook.com/share/p/kXti5fjkHV6y1Cfr/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/p/kXti5fjkHV6y1Cfr/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กนง.คงดอกเบี้ย 2.50% ท่ามกลาง 2 เสียงเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย 0.25% รับเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอกว่าคาดและฟื้นตัวช้า ย้ำลดดอกเบี้ยไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่อาจกระทบเสถียรภาพการเงิน รอดูจีดีพี เงินเฟ้ออีก 2-3 เดือน แล้วมาทบทวนใหม่ "เศรษฐา” ค้านมติแต่ไม่แทรกแซง
    .
    สร้างความเซอร์ไพรส์ต่อตลาดเงินตลาดทุนพอสมควร หลังผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ออกมา “เสียงแตก” หรือมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% และอีก 2 เสียงเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%
    .
    จากเดิมที่ตลาดมองว่า ครั้งนี้กนง.อาจเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบาย หรืออาจลดดอกเบี้ยลงท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนัก เพื่อให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวอย่างหนัก
    .
    นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดยเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากภาคการส่งออกและการผลิต เพราะอุปสงค์โลกและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า รวมถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างกระทบการขยายตัวของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวมากกว่าประเมินไว้
    .
    ทั้งนี้อุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ระดับต่ำและมีแนวโน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมายช้ากว่าที่ประเมิน ซึ่ง กนง.มองเศรษฐกิจที่ขยายตัวชะลอลงส่วนใหญ่เกิดจากแรงส่งจากภาคต่างประเทศน้อยลง และผลกระทบปัจจัยเชิงโครงสร้าง แต่การบริโภคยังขยายตัวดี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับที่สอดคล้องการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งกรรมการ กนง.ส่วนใหญ่เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    .
    นอกจากนี้ หากดูภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเมื่อเทียบช่วงโควิด แต่การฟื้นตัวค่อนข้างช้าหากเทียบวิกฤติที่เศรษฐกิจไทยเผชิญ เช่น วิกฤติน้ำท่วม วิกฤติการเงินโลก วิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งถือว่าฟื้นตัวช้าใกล้เคียงปี 2540 สะท้อนว่าปัญหาเชิงโครงสร้างทำให้เมื่อมีแรงกระแทกจากวิกฤติ ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่ได้เร็วเหมือนประเทศอื่น
    ทั้งนี้ การขยายตัวเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าที่คาดสะท้อนจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและปัจจัยภายนอก ส่งผลให้ส่งออกต่ำกว่าที่คาดแม้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแต่ผลที่ทอดมาสู่เศรษฐกิจไทยไม่มาก
    .
    นอกจากนี้ หากดูด้านการท่องเที่ยวแม้จำนวนนักท่องเที่ยวใกล้ที่ประเมินไว้ แต่การใช้จ่ายน้อยกว่าที่คาดแม้เป็นช่วงไฮซีซั่น รวมถึงการเบิกจ่ายงบลงทุนล่าช้า ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยปรับประมาณการมาอยู่ที่ 2.5-3.0% จากเดิมที่ 3.2%
    .
    ดังนั้นนโยบายการเงินมีความสามารถจำกัด ในการดูแลการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มาจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยเชิงโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยคงแก้ปัญหาการส่งออกและการผลิตได้ไม่ตรงจุด
    .
    กนง.ทบทวนจุดยืนนโยบายการเงิน
    .
    ทั้งนี้ ปัจจัยเชิงโครงสร้างทำให้ศักยภาพเศรษฐกิจไทยด้อยลง และอาจฉุดรั้งไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร ดังนั้น กนง.ต้องชั่งน้ำหนัก 2 ประเด็น ทั้งปัจจัยเชิงวัฏจักรที่เป็นแรงส่งทำให้เศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น และปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีปัญหามานาน เพื่อนำไปสู่การทบทวนนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ว่าอัตราดอกเบี้ย ที่เป็นระดับที่เป็นกลางของเศรษฐกิจไทย (Neutral rate) ควรอยู่ที่ระดับใด หากศักยภาพเศรษฐกิจต่ำกว่าที่ประเมินไว้ระดับหนึ่ง และเชื่อว่าเป็นเหตุผลหนึ่งทำให้คณะกรรมการกนง.2ท่าน ลงมติให้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%
    .
    อย่างไรก็ตาม มองว่าแม้เงินเฟ้อปัจจุบันจะอยู่ระดับต่ำ แต่ภาพรวมถือว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ต่อเศรษฐกิจไทย เพราะอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้อยู่ในระดับสูงไม่ได้ซ้ำเติมภาระค่าครองชีพเป็นสิ่งที่ดี ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว
    .
    ทั้งนี้เงินเฟ้อที่ต่ำลงไม่สะท้อนภาวะเงินฝืด เพราะนิยามของเงินฝืดนั้น สินค้าเกือบทุกรายการต้องลดลงเป็นวงกว้าง และอำนาจซื้อประชาชนลดลงอย่างยั่งยืน แต่ปัจจุบันยังไม่เกิดขึ้นทั้ง 2 มิติ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้นระยะข้างหน้า
    .
    “เงินเฟ้อที่ติดลบ ม.ค.1.1% สะท้อนว่า สิ่งที่เกิดขึ้น จากมาตรการพลังงาน และอาหารที่ลดลง ดังนั้นมองว่า เงินเฟ้อที่ลดลงในระดับต่ำในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นการลดอย่างลงอย่างยั่งยืน ไม่ได้ บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง แต่มาจากปัจจัยเฉพาะ”
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1112248?anm=
    .
    #คงดอกเบี้ย #เศรษฐกิจไทย #วิกฤติการเงินโลก #จีดีพี #เงินเฟ้อ
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจFinance

    tps://www.facebook.com/share/p/ZTVTedtAHa3QNh38/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/p/ZTVTedtAHa3QNh38/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดัชนีเงินเฟ้อของจีนร่วงแรงสุดในรอบ 15 ปี นักวิเคราะห์เตือนยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
    .
    สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยสถานการณ์เงินเฟ้อเดือน ม.ค.ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวลง 0.8% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าอาจลดลง 0.5% โดยเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และยังเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา
    .
    ทั้งนี้หากเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเดือน ธ.ค. 2566 แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าควรจะโตได้ 0.4%
    .
    ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 16 แล้ว แม้ว่าจะลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 2.6% ก็ตาม
    .
    สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นการตอกย้ำว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ "ภาวะเงินฝืด" (Deflation) สวนทางกับประเทศส่วนใหญ่ที่เผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อในระดับสูง
    .
    ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่พึ่งพาเงินกู้จำนวนมากในการทำธุรกิจเมื่อปี 2563
    .
    เฮ่า ฮง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหุ้นส่วนของบริษัทโกรว์ อินเวสต์เมนท์ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดไม่ได้ประหลาดใจกับตัวเลขครั้งนี้ เพราะแรงกดดันเงินฝืดจากต้นน้ำเริ่มส่งสัญญาณมากว่า 1 ปีแล้ว และตอนนี้ก็กำลังส่งผลกระทบไปถึงปลายน้ำ
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/world/1112297?anm=
    .
    #เงินเฟ้อ #จีน #เศรษฐกิจ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    tps://www.facebook.com/share/p/vw6PZU1xvfMmMZ3S/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/p/vw6PZU1xvfMmMZ3S/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สะอื้น! เมืองผู้ดี ลากเรือรบเทพกลับไปซ่อม เหตุโดนบั้งไฟเยเมน
    ....เรือรบปู่แซม โดนอัดไปแล้ว 9 ลำ , ล่าสุดลุงผู้ดี ประกาศถอนเรือพิฆาต HMS Diamond ออกจากทะเลแดง เพราะ"ปกป้องตัวเองไม่ได้" โดนหลานเยเมน จอมซนยิงง่ามหนังสติ๊กอัดลูกหินใส่ไป 3 ลูก พังยับเยิน ต้องลากโซ่ไปซ่อม , เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้น เรือสินค้าของแก๊งค์ 3 ชัก "ธงจีนปลอม" หวังตบตาแต่หลานเยเมน ฉลาดกว่าตุยเรือพังไปตามระเบียบ , และยังใช้โมเดลกระดาษแข็งทาสีทำขีปนาวุธเทียม ราคาต้นทุน 350 บาท หลอกอาวุธนักเลงใหญ่ ราคา 60 ล้านบาท มาทิ้งเล่น มีกำไรกว่า 171,000 เท่า...แบบนี้ส่งทรานฟอร์เมอร์ฮอลีวู๊ดไปลุยเยเมน จะโดนตาข่ายดักปลาหรือไม่ อย่างไร?
    #WorldUpdate #USA #China #Yemen #Houthis #Israel #Palestine_Genocide #Hezbollah #Russia #Iran #Gaza_War
    รายละเอียดข่าวฉบับเต็ม/กดที่ภาพแชร์ลิ้งไปได้เลย

    https://www.blockdit.com/posts/65c3...5HCvMjWVleK7cuXS2d0PkOZA_OpzBGwKHYEk5D-1_j2Ss

    https://www.facebook.com/share/p/vadGLj2xFSQ4YDKd/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชมคลิป: ไบเดนหัวจะปวด! ร่างกม.พรมแดนสหรัฐฯ-แพกเก็จยูเครน/อิสราเอล ร่วม118 พันล้านดอลลาร์โดน “รีพับลิกัน” คว่ำ อ้างคำเดียวไม่ตอบโจทย์แก้อพยพเข้าเมืองผิดกม.
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – วุฒิสภาสหรัฐฯโหวตวันพุธ(7 ก.พ)มติ 49 ต่อ 50 ไม่รับร่างกฎหมายความมั่นคงพรมแดนสหรัฐฯที่รวมถึงแพกเก็จช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอลมูลค่ารวม 118 พันล้านดอลลาร์จาก 2 พรรคร่วม อ้างเนื้อหาไม่แก้ปัญหาผู้อพยพลักลอบเข้าเมืองผ่านพรมแดนเม็กซิโกหลังอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยุอย่ารับร่างที่เดโมแครตต้องการปล่อยผู้อพยพไหลเข้า 5,000 คน/วัน

    .
    เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้(7 ก.พ)ว่า ภายในแค่ 48 ช.มหลังการเผยแพร่ร่างกฎหมายเข้าเมืองสหรัฐฯและเงินช่วยเหลือต่างประเทศที่เฝ้ารอมานานจาก 2 พรรคร่วมสภาสูงสหรัฐฯ ที่ประชุมพรรครีพับลิกันของผู้นำเสียงข้างน้อยประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ มิตช์ แม็คคอนเนล (Mitch McConnell)ปฎิเสธการผลักดันของแม็คคอนเนลต่อร่างและฉีกข้อตกลงก่อนปล่อยให้ตายคาสภา NBC News ของสหรัฐฯ ชี้
    .
    การโหวตในวันพุธ(7)ที่สภาสูงสหรัฐฯจบลงที่มติ49 ต่อ 50 ไม่รับร่างกฎหมายความมั่นคงพรมแดนสหรัฐฯ (Bipartisan border-security bill)มูลค่ารวม 118 พันล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้รวมถึงแพกเก็จช่วยเหลือยูเครน60 พันล้านดอลลาร์ และอิสราเอลมูลค่ารวม 14 พันล้านดอลลาร์ และอีก 10 พันล้านดอลลาร์สำหรับการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยในยูเครน กาซาและเขตเวสต์แบงก์ในปาเลสไตน์ เดอะการ์เดียนรายงานว่าจำเป็นต้องใช้เสียงสนับสนุนสภาสูง 60 เสียงเพื่อให้ร่างกฎหมายความมั่นคงพรมแดนสหรัฐฯสามารถถูกนำขึ้นมาสู่การอภิปราย
    .
    ซึ่ง NBC News กล่าวว่าเสียงสนับสนุน 49 เสียงมาจากมาจากพรรคเดโมแครต 45 เสียงและมาจากพรรครีพับลิกันแค่ 4 เสียงและแม้กระทั่งตัวแม็คคอนเนลยังโหวตโน
    .
    NBC News รายงานว่า เขากล่าวในวันอังคาร(6)ว่า “สำหรับตัวผมและส่วนใหญ่ของสมาชิกพวกเราดูเหมือนว่า พวกเราไม่มีโอกาสอย่างแท้จริงที่นี่ในการทำให้เป็นกฎหมาย” ซึ่งเป็นการประกาศว่า ร่างกฎหมายนี้ตายทันทีหลังจากเขาประชุมร่วมกับฝ่ายรีพับลิกัน
    .
    และดูเหมือนว่าสภาสูงสหรัฐฯจะพยายามผ่านร่างกฎหมายแพกเก็จช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอลแต่ทว่ามันชัดเจนว่าห่างไกลจากความสำเร็จถึงแม้ผู้นำเสียงข้างน้อยจากพรรครีพับลิกันจะหนุนก็ตาม
    .
    เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในจุดหนึ่งของแถลงการณ์จากทำเนียบขาววันอังคาร(6) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้โจมตีโดยตรงไปยังคู่แข่ง อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นต้นเหตุของความล้มเหลวที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อร่างกฎหมายฉบับ 2 พรรคร่วมนี้ที่ทรัมป์ก่อนหน้าออกมาปลุกระดมให้สมาชิกพรรครีพับลิกันต่อต้าน
    .
    NBC News ระบุว่า ทรัมป์พยายามทำให้เนื้อหาร่างบิดเบือนด้วยการอ้างว่า ข้อตกลงนี้จะปล่อยให้ผู้อพยพจำนวนสูงสุด 5,000 คนเข้าประเทศทุกวัน แต่แท้จริงเป็นข้อตกลงที่ต้องการเปิดการเนรเทศแบบฟาสต์แทร็คและการมอบแพกเก็จความช่วยเหลือทางความมั่นคงให้ยูเครนและอิสราเอล แต่ทว่ามีหลายคนในพรรครีพับลิกันไม่ต้องการเห็นข้อตกลงพรมแดนสหรัฐฯต้องพ่วงแพกเก็จช่วยเหลือยูเครน และต้องการให้ฝ่ายเดโมแครตอ่อนข้อให้มากกว่านี้
    .
    และสะท้อนถึงความวิตกของทรัมป์เกี่ยวกับร่างกฎหมายที่จะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดอะการ์เดียนรานงานว่า มีสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนออกมาเปิดทางว่า ข้อตกลงความมั่นคงพรมแดนสหรัฐฯนั้นไม่ควรพิจารณาจนกว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายนจะผ่านพ้น
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000011774

    ttps://www.facebook.com/share/p/KSsrZuCsQb3bVpYB/?mibextid=oFDknk
    https://www.facebook.com/share/p/KSsrZuCsQb3bVpYB/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    5 ลักษณะนิสัย คนขี้อิจฉา คุณมีเพื่อนแบบนี้อยู่หรือเปล่า ระวังให้ดีๆ
    .
    ลองมาเช็คลิสต์ ลักษณะนิสัยกัน ทั้งของเพื่อน คนรอบตัว หรือตัวของคุณเอง ว่ามีลักษณะนิสัยเป็นคนขี้อิจฉาอยู่หรือไม่ จะได้ระวังตัว หรือปรับปรุงนิสัยให้ดีขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมในสังคมและใช้ชีวิตให้มีความสุข
    .

    #1ไม่พอใจเวลาเห็นคนอื่นมีความสุข
    คนขี้อิจฉา จะไม่รู้สึกอยากยินดีกับคนอื่นๆ ที่เขามีความสุขหรือประสบความสำเร็จ ต้องหาทางทำลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไม่ว่าจะด้วยการกระทำ คำพูด
    .
    #2ซ้ำเติมเวลาคนอื่นล้ม
    เวลาที่คุณหรือใครก็ตามที่เขารู้สึกอิจฉาเกิดเรื่องผิดพลาด หรือเจอปัญหาต่างๆ เขาจะซ้ำเติม อาจจะไม่กล้าออกนอกหน้าแบบตรงๆ แต่ใช้วิธีพูดกดดันให้รู้สึกแย่
    .
    #3อยากเอาชนะให้ได้ทุกเรื่อง
    คนขี้อิจฉาจะรู้สึกไปเอง คิดไปเองว่าจะต้องทำตัวอยู่เหนือคุณ เห็นทำอะไรก็อยากจะเอาชนะ อยากทำให้ดีกว่า
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://mono29.com/life/475224.html
    .
    #ฟางเล่นไฟ #เพื่อนขี้อิจฉา
    ttps://www.facebook.com/share/p/m4z5vwxSeHUAKGES/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/p/m4z5vwxSeHUAKGES/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกฯ ไม่เห็นด้วย กนง. ดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% หวังนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน

    กรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตรา “ดอกเบี้ยนโยบาย“ ที่ 2.5% โดยกรรมการส่วนใหญ่ (5 เสียง) มองว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวนั้น

    ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ก็ต้องน้อมรับเพราะเป็นหน้าที่ของเขา เมื่อผลโหวตออกมาอย่างนั้น รัฐบาลคงไปก้าวก่ายไม่ได้ กนง. มีความเป็นอิสระในแง่ของการดำเนินนโยบายการเงิน แต่ถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ไม่เห็นด้วย และเราเองเราก็อยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน และขณะนี้เงินเฟ้อก็ติดลบ 4 เดือนแล้ว“

    ผู้สื่อข่าวถามถึงความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ จะทำให้มีอุปสรรคในการเดินหน้าบริหารนโยบายต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากมีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปทุก ๆ เรื่อง เราถูกเลือกมาแล้วเป็นตัวแทนของประชาชน ถูกเลือกมาให้ดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย แต่ละปัญหามีความยากง่ายต่างกันไป ก็พยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจ ไม่ได้ท้อถอย

    “เมื่อมายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เราต้องดูแล ดังนั้น เมื่อมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน” นายเศรษฐา กล่าว

    #ดอกเบี้ยนโยบาย #กนง #รัฐบาลเศรษฐา #เศรษฐาทวีสิน #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
    tps://www.facebook.com/share/p/WRLRgiaHD332NBNQ/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/p/WRLRgiaHD332NBNQ/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นี่ก็ด้วย!!! "ชินฮัน"สถาบันการเงินเกาหลี เสี่ยงปล่อยกู้อสังหาฯอเมริกา 1.4ล้านล้านวอน #ผวา #ระบาด #ถ้วนหน้า เสียวหนี้เสีย

    "เกาหนี้ที่เกาหลี"
    ปูดมาเรื่อยๆ แล้วนะครับ
    จากตั้งต้นที่ NYCB ที่อเมริกา ตอนนี้ลามไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งเยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ... แล้วเดี๋ยวมีที่ไหนอีกล่ะ???!!! ตั้งตารอเลย (ช่วงนี้สื่อก็ขยันขุดเจาะเหลือเกิน หามารายวัน)
    2.4 พันล้านวอนนะครับ ที่ Shinhan Financial Group มีปล่อยกู้ที่อเมริกาเหนือ (อเมริกาและแคนาดา) และถ้านับเฉพาะก้อนที่เสี่ยงๆ ก็ปาเข้าไป 1.4 ล้านล้านวอน
    รายละเอียดอะไรยังไงไม่ซ้ำแล้วนะครับ โพสต์เรื่อยๆ แล้วใน 2 วันนี้
    (ถ้าอยากดู ผมแปะลิงค์ไว้ใต้คอมเมนต์นี้อีกทีครับ)
    https://www.bloomberg.com/news/arti...llion-risky-us-property-bet?srnd=premium-asia

    tps://www.facebook.com/share/9KNyhZ3VYdqDVuRx/?mibextid=oFDknk

    https://www.facebook.com/share/9KNyhZ3VYdqDVuRx/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ยิ่งวิ่งยิ่งใช่
    วิกฤติอสังหาฯอาจหนักกว่าที่คิด! วูบ40%
    เผย มูลค่าตลาด"ตึกออฟฟิศ"ทั่วโลก หายวับไปแล้ว 1.2ล้านล้านดอลลาร์ ! ! !

    คำเขาน่ากลัวเกินไปครับ
    อภิมหาเศรษฐี แบร์รี สเติร์นลิชท์ ชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็น one asset class that never recovered from the pandemic --- แปลตรงๆ ครับ เห็นคำว่า "never" ก็ตกใจแล้ว
    ไม่ฟื้นจากโควิด และอาจไม่มีวันฟื้น
    หลักๆ เขาโทษ WFH "เวิร์ก-ฟรอม-โฮม" รูปแบบการทำงานสมัยใหม่ซึ่งโควิดทำให้มันเกิดขึ้นแพร่หลายและถ้วนทั่ว กลายเป็น "นิว นอร์มอล" ของจริงที่ไม่หายไปตามโควิด
    จากเดิม มูลค่าตลาดของภาคอสังหาฯ 3 ล้านล้านดอลลลาร์ ทว่าวันนี้หายไป 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ เหลือ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์
    40% หายเยอะนะครับ เยอะมาก เกือบๆ จะครึ่งแล้ว
    คำที่น่ากลัวมาก คือ “There’s $1.2 trillion of losses spread somewhere, and nobody knows exactly where it all is.”
    ไม่รู้มันหายไปไหนน่ะสิ --- คือ ถ้าเรารู้ มันก็ยังพอเข้าใจ เข้าใจก็หาทางแก้ ทางรับมือ หรือปรับเปลี่ยนประยุกต์อะไรก็ว่าไป
    แต่พอไม่รู้ ก็จะเล่นท่าไหนยังไงล่ะครับ
    หรือทำได้แค่ปรับตัว รับสภาพ
    ทำใจ
    ???
    https://www.bloomberg.com/news/arti...rnlicht-sees-1-trillion-loss-in-office-values

    https://www.facebook.com/share/p/fg1ckVPiabhaWMfo/?mibextid=2JQ9oc
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความน่าสะพรึงค่อยๆ โผล่ขึ้นมาทีละนิด
    "สัญญาณ" มันเริ่มจาก NYCB ที่เผยให้เห็นความอันตรายจากวิกฤติอสังหาฯ อเมริกาที่ลากมาจากจีน และกระทบชิ่งมาถึงธนาคารเล็กในอเมริกา
    ... โดยที่แทบไม่มีใครสังเกตจับจ้องมาก่อน
    และแล้ว ข้อมูลต่างๆ ที่หมักหมามานาน ก็ค่อยๆ แพร่ออกมาเรื่อยๆ
    ที่จริง ไอ้คำว่า "ธนาคารเงา" มันไม่ใช่ไม่ดีนะครับ (เวลาเจอคำ "เงา" เหมือนไม่กล้ามีตัวตน ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น)
    ธนาคารเงา ต้องอยู่ควบคู่กับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เพื่อให้ระบบการเงินมันไปของมันได้
    ทำไมต้องมี? หลายสิ่งหลายอย่างแบงก์ปกติทำไม่ได้ เพราะการกำกับดูแลจากภาครัฐเข้มงวดมาก ฉะนั้น "ท่ายาก" ที่สลับซับซ้อน แต่ผลตอบแทนสูง แบงก์ปกติไม่อาจแตะต้อง
    แบงก์ปกติรับเงินฝาก และทำกำไร จากการเอาเงินนั้นไปปล่อยกู้
    แบงก์เงาไม่ถือว่ารับเงินฝากตรงๆ แต่เป็นลักษณะของการระดมเงิน แล้วเอาไปปล่อยกู้แบบอ้อมๆ (ย้ำว่าอ้อมๆ) เช่นการออกตราสารหนี้ --- ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ทรัสต์น่ะแหละ
    สำหรับให้คนที่กล้าเสี่ยงเพื่อได้ผลตอบแทนสูงๆ?
    ไม่ใช่ซะทีเดียว --- อย่างที่บอกไป มันเกื้อแบงก์ปกติด้วย บางทีเหมือนๆ คล้ายๆ ถ่ายโอนหนี้จากแบงก์พาณิชย์มาที่แบงก์เงา (แบงก์เงาซื้อลูกหนี้มาจากแบงก์ปกติได้)
    แน่นอน ไอ้ที่คนเราจะโอนไปให้คนอื่นย่อมเป็นอะไรเสี่ยงๆ ที่เราก็ไม่ได้อยากเก็บมันไว้เต็มร้อย ส่วนคนที่อยากผ่องถ่ายไปจากเรา เขาก็ต้องเดิมพันจะได้อะไรเด็ดๆ จากตรงนั้น ไม่งั้นจะเสี่ยงทำไม
    หากลูกหนี้พวกนี้ (ที่แบงก์เงารับมาจากแบงก์ปกติ) จ่ายหนี้ได้ดีมีวินัยก็จบสวยงาม สุขสันต์กันถ้วนหน้า (รวมทั้งคนทั่วไปที่มาลงทุนในกองพวกนี้) แต่ถ้าลูกหนี้เบี้ยวขึ้นมาเยอะๆ ก็จะพังกับไปเป็นแถบ
    วิกฤติจะมาจากตรงนี้
    เยอะเกินไปครับ หลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ ที่แบงก์พาณิชย์อเมริกาปล่อยกู้ให้แบงก์เงา เป็นความเสี่ยงของระบบ (ตัวเลขของ "เฟด" แบงก์ชาติสหรัฐอเมริกา ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2024)
    ด้านกระทรวงการคลังมีออกตัวไว้แล้ว ว่าเหล่าคณะกรรมการกำกับกิจการทั้งหลายแหล่จดๆ จ้องๆ ตาไม่กระพริบ โดยเฉพาะสินเชื่อภาคอสังหาฯ ที่แบงก์เงาปล่อย (อเมริกาเคยเจอวิกฤติมาแล้ว ก็จากไอ้นี่แหละครับ)
    และมีตักเตือนด้วยนะครับ มันล้มได้เหมือนกัน ถ้าไม่ดูดีๆ
    ไอ้พวกนี้เติบโตมากๆ เกินไปไม่ได้
    (อย่างที่บอกไว้นะครับ คือ มันต้องมี เพื่อเกื้อทั้งระบบ แต่มีมากๆ ขยายใหญ่โตเกินไปไม่ได้ เพราะ "ท่ายาก" ย่อมเสียวล้มอยู่แล้ว ถ้าพากันยากยั้วเยี้ยไปหมด และจะลากให้ล้มทั้งระบบเอา --- อย่าลืมว่าพวกนี้หลุดรอดจากกฎระเบียบของภาครัฐ ทำให้ความยากของท่า บางทีมันหวาดเสียวเกินงาม และถ้ามันมีขามาเกี่ยวมากๆ หลายๆ ขา ล้มทีนี่ยุ่ง ไปทั้งแผงได้)

    https://www.bloomberg.com/news/arti...pass-1-trillion-in-fed-data?srnd=premium-asia
    https://www.facebook.com/share/p/NAmxBcoQWcHBDJxz/?mibextid=2JQ9oc
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำลักช็อกโกแลต! ราคาวัตถุดิบ "โกโก้" ตลาดโลกพุ่งทะลัก ฉีกสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์! เทรดเดอร์แห่เก็ง ส่อทุบสถิติใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก!
    กำเดาแทบกระฉูดแตก --- คนกินตาถลน ราคาช็อกโกแลตโด่ขึ้น คนขายก็ถลึงตา เพราะต้นทุนดีดขึ้น (ขณะที่ ยอดขายเสียวหด เพราะแพงเกิน คนเหี่ยว ไม่ซื้อ)

    ราคาโกโก้ตลาดโลก (ฟิวเจอร์ส ตลาดนิวยอร์ก) เพิ่งซัดสถิติใหม่ ที่ 5,874 ดอลลาร์/ตัน
    ไม่ใช่ไม่เคยโพสต์นะครับท่าน แต่มันยังไม่ยั้งหยุดซักที ขึ้นแล้วขึ้นอีก --- นับจากเปิดปี 2024 ปรากฏว่าขึ้นมาแล้ว 40%! เอื๊อก
    (ฟิวเจอร์ส ตลอดลอนดอน ก็สูงสุดใหม่เช่นกัน ที่ 4,600 ปอนด์/ตัน)

    ขณะนี้ เทรดเดอร์เก็งขาขึ้นสุดตัว --- แห่ซื้อ call option ล้นหลาม ซื้อเยอะสุดในประวัติศาสตร์
    * สำหรับ call option นี้ ถือเป็น "สิทธิ์ที่จะซื้อ" ณ ราคาที่ "ล็อก" ไว้
    เคยอธิบายบ่อยแล้ว อย่างย่นย่อ คือ เราจ่ายตังค์พิเศษเพื่อที่ว่าถ้าเวลาจริงๆ ในอนาคต ราคาโกโก้สูงมากๆ แต่เราสามารถซื้อได้ในราคาที่ตกลงกันไว้แล้ว
    เช่น ราคาโกโก้วันนี้ 100 บาท แล้วเราจะต้องซื้อโกโก้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทีนี้เรายอมจ่าย 5 บาทวันนี้ เพื่อว่าถ้าเวลานั้นมาถึงจริง ราคาในตลาดจะอะไรยังไงไม่รู้ แต่เรามีสิทธิ์จะซื้อที่ 110 บาทนะ
    ซึ่งหากถึงเวลานั้น แล้วราคาตลาดเป็น 150 บาท ก็ไม่เป็นไร เราใช้สิทธิ์ ซื้อที่ราคา 110 บาทได้
    แต่กลับกัน ถ้าราคาตลาดออกมาเป็น 90 บาท ก็เท่ากับเราเสีย 5 บาท (ค่าสิทธิ์) ไปเปล่าๆ

    ก็อยู่ที่เก็ง

    ตอนนี้ ตลาดเก็งว่าโกโก้จะขึ้นแหลกลาญ จึงซื้อ call option กันจ้าละหวั่น ระเบิดโลก

    ส่วนบริษัทช็อกโกแลตก็จ๋อยๆ เพราะแบกต้นทุนไม่ไหว ต้องยอมขึ้นราคาหน่อย (แต่ก็กัดฟัน แบกไว้ส่วนหนึ่งอยู่ดี)
    ขึ้นราคา ของก็ขายยากอีก (ยิ่งช็อกโกแลตเป็นของหวาน ไม่ใช่ของคาวด้วย --- ตอนนี้ คนกระเป๋าแฟบ ก็ต้องเน้นอาหารหลักก่อน)
    ยอดขายย่อมไม่สวย

    * พวกบริษัทช็อกโกแลต แน่นอนว่าต้องซื้อ call option เพื่อบริหารความเสี่ยง (hedging) บางส่วน แต่ก็ต้องระวังอีก เพราะมันก็อาจมีขาที่เสียค่าสิทธิ์ได้เหมือนกัน (ถ้าราคาดันไม่สูงเท่าที่เก็งไว้)

    สรุปว่า ...
    อดใจไม่ไหว ขอไปกลืนกินช็อกโกแลตก่อนจ้า

    https://www.bloomberg.com/news/arti...-futures-soaring-to-records?srnd=premium-asia
    https://www.cnbc.com/2024/02/08/coc...bad-weather-hurts-west-africa-crop-yield.html
    https://www.theguardian.com/food/20...rshey-issues-warning-over-record-cocoa-prices

    https://www.facebook.com/share/p/tDwA42DBuwPWvbmE/?mibextid=2JQ9oc
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤตกระเป๋าเงินรั่วคนกรุงเทพน้อยที่สุด สวนคนอีสานเงินในกระเป๋าวิกฤตที่สุด เฉียด 27 ล้านคนมีรายได้-หลังเกษียณในไทยเจอะวิกฤตเงินไม่มีในกระเป๋า BTimes

    Feb 11, 2024 เป๋าตังรั่ว! คนเมืองกรุงมีวิกฤตเงินในกระเป๋าน้อยที่สุดในไทย คนอีสานรับวิกฤตมากที่สุด เฉียดครึ่งราว 27 ล้านของคนมีรายได้ทั่วประเทศเจอะวิกฤตกาคเป๋าตังรั่ว

    ซูเปอร์โพล ซึ่งเป็นสำนักวิจัยในไทย เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง จำนวนคนไทยในวิกฤตการเงิน ทำการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 1,146 ราย ช่วงระหว่างวันที่ 7 – 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา มีดังนี้ กลุ่มประชากรคนไทยอายุ 16 – 85 ปีมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 53,417,480 คน ระบุว่าสถานะการเงินในกระเป๋าของตนเองอยู่ในขั้นวิกฤต โดยพบว่าเกือบ 27 ล้านคน คือ จำนวน 26,975,827 คน หรือ 50% ของจำนวนดังกล่าวยอมรับว่าเงินในกระเป๋าของตนเองอยู่ในขั้นวิกฤต อีก 49.5% ระบุไม่อยู่ในขั้นวิกฤต

    ในด้านรายภูมิคาค พบว่า ประชาชนในภาคอีสานส่วนใหญ่หรือ 77.9% ยอมรับว่าการเงินในกระเป๋าอยู่ในขั้นวิกฤตมากที่สุด อันดับ 2 มี 66.3% เป็นประชาชนภาคใต้ อันดับ 3 มี 47.2% เป็นชาวภาคกลาง อันดับ 4 มี 35.8% เป็นคนภาคเหนือ และอันดับ 5 มี 30.8% เป็นคนกรุงเทพมหานคร

    อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงข้อกังวล ถ้ามีการแจกเงินดิจิทัลจริง พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 32.7 กังวลต่อความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ พวกมิจฉาชีพ ออนไลน์ รองลงมาคือร้อยละ 32.7 เช่นกัน กังวลภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของราคาแพง ร้อยละ 30.7 กังวลการทุจริตเชิงนโยบาย ร้อยละ 24.2 กังวลการสวมสิทธิ์ ร้อยละ 22.6 กังวลความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย ร้อยละ 21.7 กังวล ประชาชนเสียวินัยการเงิน ขาดความรับผิดชอบ ร้อยละ 19.2 กังวล ประชาชนผู้ห่างไกล เทคโนโลยี เข้าไม่ถึงการแจกเงินนี้ และร้อยละ 14.9 กังวลประเทศสูญเสียโอกาส พัฒนาที่ยั่งยืน ตามลำดับ

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #วิกฤต #กระเป๋าเงิน #กระเป๋าตัง #ไทย #อีสาน #ใต้ #กลาง #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/PqrPvtWw7iEJFxRp/?mibextid=2JQ9oc
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 10, 2024 ครึ่งทศวรรษ! วิกฤตอสังหาฯจีนฟองสบู่แตกดันสต๊อกขายไม่ออก 150 ล้านหลังทั่วประเทศ ต้องรอ 5 ปีขึ้นไปถึงจะขายหมด กลุ่มคนจีนซื้อหลังแรกหดตัวยาวถึง 10 ปี เตือนวัสดุก่อสร้างบ้านราคาถูกจ่อส่งออกทะลักประเทศเพื่อนบ้าน

    นิกเคอิ เอเชีย สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกจากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ฟองสบู่แตกในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และส่งผลลุกลามเรื้อรังต่อเนื่องระยะยาว ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปีขึ้นไปที่จะขายสต็อกที่อยู่อาศัยทั่วทั้งประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ สาเหตุจากความต้องการซื้อบ้านที่อยู่อาศัยตกต่ำต่อเนื่อง จำนวนประชากรจีนลดลงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 2 ปีติดต่อกัน ค่าครองชีพของชาวจีนที่สูงขึ้น หนี้ครัวเรือนชาวจีนที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญ วงการอสังหาริมทรัพย์ในจีนประเมินว่า วัสดุก่อสร้างบ้านที่มีราคาถูกตกต่ำลงในขณะนี้จะถูกส่งออกไปต่างประเทศเพื่อระบายสต็อกวัสดุก่อสร้างบ้านที่ล้นตลาดในประเทศ

    ในขณะที่ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ทุกแห่งล้วนลดราคาขายที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จมีจำนวนเหลือขายมากมาย คันทรี การ์เด้น โฮลดิ้งส์ ยักษ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของจีนที่เผชิญวิกฤตขาดสภาพคล่องรุนแรง และผิดนัดชำระหนี้เจ้าหนี้ต่อเนื่อง ได้ประกาศลดราคาขายคอนโดมิเนียมในเมืองหนานจง มณฑลเสฉวน ลงมากถึง 22% สำหรับคอนโดมิเนียมพื้นที่ 110 ตารางเมตรมีราคาเหลือเพียง 620,000 หยวน หรือ 86,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.11 ล้านบาท แต่ยังขายออกไม่ได้

    ข้อมูลสิ้นสุดปี 2023 พบว่า ปัจจุบันพื้นที่รวมทั้งหมดของทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จแล้วทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5,000 ล้านตารางเมตร หากเฉลี่ยพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่ 100 ตารางเมตรต่อยูนิต และมีสมาชิก 3 คนในแต่ละยูนิต นั่นหมายถึงจีนมีพื้นที่ที่อยู่อาศัยเหลือมากมายสำหรับประชากรจีน 150 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงจำนวนบ้านราว 50 ล้านยูนิต ในปี 2023 ผ่านไป ปรากฏว่า จำนวนพื้นที่ที่อยู่อาศัยซึ่งสามารถขายได้ทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่นั้นมีจำนวน 940 ล้านตารางเมตร ดำดิ่งลงมากถึง -40% จากสถิติที่เคยขายได้รวมกันถึง 1,560 ล้านตารางเมตรในปี 2021

    วิกฤตอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่ยังต้องเผชิญกับตลาดผู้ซื้อบ้านหลังแรกหดตัวต่อเนื่อง โดยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ศาสตราจารย์เคนเนธ โรก็อฟฟ์ เปิดเผยว่า ในปี 2020 จีนมีประชากรอายุในช่วง 30 ปี จำนวนกว่า 220 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนนั้น จะลดลงเหลือต่ำกว่า 160 ล้านคนในปี 2035 นอกจากนี้ จำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มต้นก่อสร้างใหม่ตามเมืองสำคัญจะลดลงปีละกว่า 3% ไปจนถึงปี 2035

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook: https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    X: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/

    #จีน #อสังหาริมทรัพย์ #วิกฤตฟองสบู่ #เศรษฐกิจ #บ้าน #คอนโดมิเนียม #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/CbXbb8Yf4Agy4BZA/?mibextid=2JQ9oc
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 10, 2024 เทรนด์ที่เปล่า! ราคาที่ดินเปล่าอืดแถมส่อราคาลดลงท่ามกลางปัจจัยต้นทุนจากภาษีที่ดิน ดอกเบี้ยแบงก์ชาติสูงในรอบ 10 ปี ผู้ประกอบการไม่แบกต้นทุนดอกเบี้ยกินที่เปล่า

    นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรืออาร์อีไอซี (REIC) กล่าวว่า ภาวะราคาที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ในช่วงราคาที่ดินเปล่าขยับเพิ่มขึ้นก็จริงแต่มีแนวโน้มราคาชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวจากปัจจัยลบต่าง ๆ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือดอกเบี้ยแบงก์ชาติที่อยู่ในระดับ 2.50% ซึ่งปรับขึ้นครั้งที่ 5 ในปี 2566 และอาจมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงอีกระยะหนึ่ง

    ขณะที่รัฐบาลประกาศจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตราโดยไม่ได้รับส่วนลด 90% เหมือนในปี 2562-2563 ด้านกรมธนารักษ์ประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566-2569 ทำให้เจ้าของที่ดินได้ตัดสินใจขายที่ดินเปล่ามีจำนวนหนึ่งเข้าสู่ตลาดเพื่อลดภาระการจ่ายภาษีที่ดิน

    สอดรับกับความต้องการซื้อที่ดินสะสมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็ลดลง เพื่อลดภาระการจ่ายภาษีจากการซื้อที่ดินสะสมไว้ ส่งผลต่อต้นทุนจากการถือครองที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ด้านปัจจัยลบที่ส่งผลต่อกำลังซื้อโดยตรงนั้น ได้แก่ ภาวะหนี้สินครัวเรือนที่สูงเกินกว่า 90% ของจีดีพีประเทศ มาตรการผ่อนปรน LTV ของแบงก์ชาติที่ได้หมดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผ่านไป ทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวโดยชะลอแผนการเปิดขายโครงการใหม่ลง จึงอาจต้องชะลอการซื้อที่ดินเปล่าสะสมเพื่อการพัฒนาลงไปด้วย

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook: https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    Twitter: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/

    #ที่ดินเปล่า #ที่ดิน #ดอกเบี้ย #ภาษี #ภาษีที่ดิน #เศรษฐกิจ #อสังหาริมทรัพย์ #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/Gno8dihUbw57K8QD/?mibextid=2JQ9oc
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิด 5 เหตุผล ลุ้น กนง.นัดหน้าลดดอกเบี้ยช่วยเศรษฐกิจ หลังคงที่ 2.5% แบบไม่เป็นเอกฉันท์ ชี้รัฐบาลไม่สามารถออกมาตรการทางการคลังได้ เอกชนชี้ต้นทุนการเงินสูง ดอกเบี้ยนโยายยังเพียงพอรับวิกฤติ กำลังซื้อคนเริ่มขยายตัวต่ำลงจากเดิม
    .
    ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 7 ก.พ.2567 เป็นช่วงที่คนในฝากฝั่งรัฐบาลออกแรงเยอะเป็นพิเศษในการส่งสัญญาณไปยัง “แบงก์ชาติ” ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ให้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับปัจจุบัน 2.5%
    .
    เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ขอ "แบงก์ชาติ" อย่างไม่อ้อมค้อมว่าอยากให้ กนง.ลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% โดยกล่าวย้ำว่าขณะนี้ “เงินเฟ้อ” ไม่ใช่ปัญหา และหากลดดอกเบี้ยลงสัก 0.25% ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ก็ถือว่าเป็น “พื้นที่” ที่เพียงพอที่จะรองรับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้นได้
    .
    การตัดสินใจของ กนง.แบบไม่เป็นเอกฉันท์ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะแม่ว่ากรรมการ กนง. 5 คนที่เป็นเสียงข้างมากจะเห็นว่า การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสดียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว แต่ก็มีกรรมการ กนง. 2 คนที่มองว่าถึงเวลาที่ต้องลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง
    .
    ทั้งนี้เศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากจากปัจจัยวัฎจักรเศรษฐกิจและปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดย กนง. จะพิจารณาดำเนินนโยบายทางการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อต่อไป
    .
    5 ประเด็นลุ้นลดดอกเบี้ยครั้งหน้า
    .
    1.ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบ เหตุผลนี้เป็นมุมมองของนายกรัฐมนตรีที่อธิบายว่า ประเด็นเงินเฟ้อที่ติดลบอยู่ และอยู่ต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อที่รัฐบาล และ ธปท.หารือไว้ที่ 1 – 3% ดังนั้นหากปรับลดดอกเบี้ยลงมาเหลือ 2.25% ก็ยังมีพื้นที่อีกมาถ้าเกิดมีวิกฤติหรืออะไรเกิดขึ้นก็ยังสามารถลดดอกเบี้ยลงเพื่อบรรเทาวิกฤติลงได้อีกมาก
    .
    2.พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ยังไม่แล้วเสร็จ และล่าช้าไปกว่าปกติหลายเดือน รัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการทางการคลังได้ หากมีมาตรการทางภาคการเงิน โดยลดดอกเบี้ยก็จะช่วยภาคเศรษฐกิจได้บางส่วน
    .
    3.ช่องว่างดอกเบี้ยนโยบายระหว่างไทย กับ สหรัฐฯ ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 2.5% กับ 5.25 - 5.5% ถ้าหากอ้างอิงดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ย - เงินเฟ้อ) ก็จะเห็นว่า ทั้งไทยและสหรัฐฯจะอยู่ในระดับราว 3% ใกล้กัน ฉะนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก ทำให้มีช่องว่างที่จะสามารถลดดอกเบี้ยลงไปได้ในการประชุมรอบต่อไป ซึ่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางคนได้ชี้ให้เห็นประเด็นนี้แล้ว
    .
    4.การบริโภคแม้จะขยายตัวได้ แต่มีสัญญาณชะลอตัวลง เห็นได้จากข้อมูลการบริโภคภาคเอกชนในเดือน ธ.ค.ปีก่อนที่ขยายตัวได้ 5.9% ลดลงจากระดับ 2 เดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ที่ระดับ 7.3% ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคชะลอตัว สืบเนื่องมาจากระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง ประชาชนมีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยสูง
    .
    สอดคล้องกับข้อมูลของสภาหอการค้าฯ ที่ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน แม้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปรับลดเชิงเทคนิคตามนโยบายการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานของภาครัฐ แต่บ่งชี้ให้เห็นถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ
    .
    5.ต้นทุนเงินกู้ของภาคเอกชนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูง โดยเฉพาะต้นทุนการกู้ยืมเงินของเอสเอ็มอี แม้ว่า ธปท.จะพยายามใช้มาตรการแก้หนี้แบบเฉพาะเจาะจง แต่ต้องยอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงปีที่ผ่านมา และยังคงที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
    .
    ทำให้ผู้ประกอบการเอกชนมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยที่สูงเป็นความเสี่ยงต่อการทำธุรกิจ ซึ่งในประเด็นนี้ทำให้การคงดอกเบี้ยของ กนง.ในครั้งที่ผ่านมาทำให้ภาคเอกชนแสดงความผิดหวังต่อมติการคงดอกเบี้ยที่ไม่ได้ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของภาคเอกชนลดลง
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1112336?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    tps://www.facebook.com/share/p/yvsqYm128NVUGtax/?mibextid=2JQ9oc

    https://www.facebook.com/share/p/yvsqYm128NVUGtax/?mibextid=2JQ9oc
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! “ภาวะโลกร้อน” ทำอุณหภูมิเฉลี่ยโลกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส แตะลิมิตอุณหภูมิสูงขึ้นตามข้อตกลงปารีส ตามข้อมูลล่าสุดของอียู นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็น “คำเตือนสำคัญสำหรับมวลมนุษยชาติ”
    .
    โลกร้อนไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
    .
    องค์กรติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป หรือ C3S เผยข้อมูลสุดตะลึง เมื่อพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 จนถึงมกราคม 2024 อยู่ที่ 15.02 องศาเซลเซียส สูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยสูงกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรม (1850-1900) ถึง 1.52 องศาเซลเซียส
    .
    ระดับอุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส ถือเป็นเกณฑ์สำคัญในข้อตกลงปารีสปี 2015 ในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ หรือ COP ครั้งที่ 21 เพื่อควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม และพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
    .
    เป็นเวลา 9 เดือนแล้วที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเดือนมกราคม 2024 ถือเป็นเดือนที่ 8 ที่มีอุณหภูมิร้อนที่สุดติดต่อกันเป็นประวัติการณ์ โดยเซอร์ ไบรอัน ฮอสกินส์ ประธานสถาบันแกรนแธม สถาบันวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน กล่าวว่าข้อมูลนี้ถือเป็น “คำเตือน” ให้พวกเราต้องเร่งแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน
    .
    เดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์
    .
    ริชาร์ด เบตส์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยผลกระทบสภาพภูมิอากาศที่ศูนย์แฮดลีย์ ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร กล่าวว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจนทำลายสถิติในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงว่า ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอย่างมาก
    .
    อุณหภูมิอากาศบนพื้นผิวเฉลี่ยของเดือนมกราคม 2024 อยู่ที่ 13.14 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้ง อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลทั่วโลกก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 20.97 องศาเซลเซียสในเดือนมกราคม 2024 ถือเป็นอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่เคยบันทึกไว้ในรอบเดือน
    .
    ยังไม่สายที่จะลดอุณหภูมิโลก
    .

    แม้ว่าอุณหภูมิที่ทำลายสถิติในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจะสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ไม่ได้หมายความว่าข้อตกลงปารีสล้มเหลวแล้ว นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าโลกจะไปอยู่ในจุดที่ “กู่ไม่กลับ” เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปีขึ้นไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
    .
    ถ้าหากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกครึ่งองศา กลายเป็น 2 องศาเซลเซียส จะสร้าง “หายนะ” ทางสิ่งแวดล้อมได้ทันที แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกตะวันตกจะพังทลายลงอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดภัยพิบัติระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นตลอดหลายศตวรรษหลังจากนั้น
    .
    ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ยังยืนว่าเรายังสามารถยังพอแก้ไขได้ทัน ซาแมนธา เบอร์เกรส รองผู้อำนวยการ C3S เรียกร้องให้แต่ละประเทศดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน เพราะวิธีเดียวที่จะหยุดอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นได้
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1112550?anm=
    .
    ที่มา:
    BBC: https://bit.ly/3OyfNoH
    Financial Times: https://bit.ly/3UBulrM
    .
    #โลกร้อน #อุณหภูมโลก #สภาพอากาศสุดขั้ว #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจGreen #กรุงเทพธุรกิจClimate

    ttps://www.facebook.com/share/p/Qi3no6SAiMbE46Y4/?mibextid=2JQ9oc

    https://www.facebook.com/share/p/Qi3no6SAiMbE46Y4/?mibextid=2JQ9oc
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลเฟดเผย แบงก์ปล่อยกู้กลุ่ม 'ธนาคารเงา' ในสหรัฐทะลุหลัก '1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ' รัฐมนตรีคลังสหรัฐแถลงจับตาความเสี่ยงใกล้ชิด
    .
    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดว่า ปริมาณสินเชื่อที่ธนาคารในสหรัฐปล่อยกู้ให้กับ "ธนาคารเงา" หรือสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่คล้ายธนาคารแต่มีกฎระเบียบกำกับดูแลน้อยกว่า ได้พุ่งทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 36 ล้านล้านบาท) ไปแล้ว ท่ามกลางความกังวลเรื่อง "ความเสี่ยง" ต่อระบบการเงินในสหรัฐ
    .
    ข้อมูลของเฟดระบุว่า ยอดสินเชื่อคงค้างที่ธนาคารในสหรัฐปล่อยกู้ให้บรรดาธนาคารเงา หรือบริษัทด้านการเงินที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจรับฝากเงิน เช่น บริษัทฟินเทค และบริษัทปล่อยกู้นอกตลาด (Private credit) ได้ทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว ณ สิ้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จากตัวเลข 8.94 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2566
    .
    เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐและอดีตผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐกำลังจับตาความเสี่ยงจากกลุ่มธนาคารเงาอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งสัญญาณเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจจะเกิดการล้มหากตลาดเกิดภาวะตึงตัว
    .
    ทั้งนี้ ธนาคารเงาคือบริษัทการเงินที่ทำหน้าที่คล้ายธนาคาร แต่ถูกกำกับดูแลน้อยกว่า จุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของธนาคารเงาก็คือ การทำหน้าที่ "ปล่อยกู้" ให้ผู้ที่ไม่สามารถขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ในระบบปกติได้ โดยแลกกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จึงถูกจับตาว่าเป็นสัญญาณเสี่ยงอย่างหนึ่งในระบบการเงินไปด้วย
    .
    บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลเคยส่งสัญญาณเตือนมาตลอดว่า การกำกับดูแลธุรกิจธนาคารเงายังตามไม่ทันเมื่อเทียบกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจนี้ และความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดอาจซ่อนตัวอยู่ เนื่องจากธนาคารเงาเหล่านี้ได้แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากธนาคารปกติมากขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารปกติกับธนาคารเงาก็มีความซับซ้อนมากขึ้น
    .
    .
    #ธนาคารเงา #ธนาคารกลาง #เฟด #ปล่อยกู้ #สหรัฐ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBanking
    tps://www.facebook.com/share/p/9ddssbkZccLtubuQ/?mibextid=2JQ9oc

    https://www.facebook.com/share/p/9ddssbkZccLtubuQ/?mibextid=2JQ9oc
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมียนมาประกาศบังคับเกณฑ์ทหารครั้งแรกในรอบ 14 ปี ทั้งชาย-หญิง เป็นเวลา 2 ปี หลังเพลี่ยงพล้ำการสู้รบในหลายพื้นที่ และมีทหารหนีทัพ จนเหลือกำลังรบไม่เพียงพอ
    .
    สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศบังคับเกณฑ์ทหารครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังจากที่กฎหมายการเกณฑ์ทหารผ่านออกมาตั้งแต่ปี 2010 แต่ไม่เคยบังคับใช้จริงมาก่อน และเพิ่งถูกนำมาใช้ในวันนี้เป็นครั้งแรก ท่ามกลางเหตุสู้รบภายในประเทศที่ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
    .
    กระทรวงสารนิเทศของเมียนมาแถลงว่า จะบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารเป็นเวลานานอย่างน้อย 2 ปี ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยสำหรับชายสัญชาติเมียนมา ใช้เกณฑ์อายุระหว่าง 18-35 ปี และหญิงสัญชาติเมียนมา อายุระหว่าง 18-27 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เป็นต้นไป
    .
    แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่ระบุเพียงว่า กระทรวงกลาโหมจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อบังคับ ขั้นตอน คำสั่งประกาศ และรายละเอียดต่างๆ ที่จำเป็นต่อไป
    .
    ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาทำรัฐบาลประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซูจี มาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 และเผชิญการต่อต้านของกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในหลายพื้นที่ตั้งแต่นั้นมา
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/world/1112643?anm=
    .
    #เมียนมา #ทหารเมียนมา #เกณฑ์หาร #เกณฑ์หารเมียนมา #รัฐบาลทหารเมียนมา #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจGeopolitics

    https://www.facebook.com/share/p/pQapEwDq8rHNaZC6/?mibextid=2JQ9oc
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจาะวิกฤติเงินรพ. “ไม่ได้ค่ารักษาพยาบาล” เจอถ้วนหน้า ร.ร.แพทย์-คลินิก
    .
    เจาะวิกฤติเงิน ค่ารักษาพยาบาล ระบบสาธารณสุข เผชิญถ้วนหน้า รพ.ร.ร.แพทย์ถูกค้างเงินกว่า 1,000 ล้านบาท รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไปถูกเรียกเงินคืนกว่า 2,000 ล้านบาท จนถึงคลินิกชุมชนอบอุ่นขาดทุน มุ่งเป้าเกิดจากบริหารงบฯบัตรทอง 30 บาทพลาด
    .
    รูปแบบการจัดสรรบริหารจัดการงบประมาณบัตรทอง 30 บาทของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ถูกชี้เป้าว่าสร้างปัญหาวิกฤติเงินให้กับโรงพยาบาลและหน่วยบริการแบบถ้วนหน้า
    .
    แนวทางแก้วิกฤติเงิน 13 ก.พ. 2567 นี้ 4 องค์กรรพ.เตรียมยื่นหนังสือให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ดสปสช. ชงตั้ง “ บอร์ด
    .
    ในระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในกทม. สปสช.เขต13 และ อปสข เขต13 มีการปรับระบบบริการที่ผิดพลาด ในปีงบประมาณ 2564 ส่งผลกระทบให้มูลค่าการบริการเกินกว่าการบริการเกือบ 300 ล้านบาท ตัวอย่างเช่น สปสช.จ่ายบริการชดเชยค่าบริการผู้ป่วยนอกแก่คลินิกชุมชนอบอุ่น เพียง 57 % ของค่าบริการจริง
    .
    ระบบบริการสุขภาพในภูมิภาค ซึ่งดำเนินการโดยรพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เกือบ 100% นั้น ปรากฏปัญหาค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวที่ สปสช. จ่ายให้ต่ำกว่าต้นทุนอย่างมาก
    .
    เงินที่สปสช.ค้างจ่ายรพ.ร.ร.แพทย์ หรือUHosNe ปีงบประมาณ 2566 ที่ยังไม่เบิกจ่ายอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เช่น
    .
    รพ. ศิริราช 460 ล้านบาท
    รพ. รามาธิบดี 200 ล้านบาท
    รพ. สงขลานครินทร์ 220 ล้านบาท
    รพ. สวนดอก เชียงใหม่ 90 ล้านบาท เป็นต้น
    .
    จนกระทั่งมีผลต่อกระแสเงินสดของโรงพยาบาลในขณะนี้
    .
    การที่ 4 องค์กรรพ.มุ่งเป้าเรื่องวิกฤติเงิน ไปที่การบริหารจัดการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ที่ดูแลบัตรทอง 30บาท เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่เรียกได้ว่า “จ่ายค่ารักษาพยาบาล”ให้กับรพ.รัฐทั่วประเทศทุกสังกัดและคลินิเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของบัตรทอง 30 บาท
    .
    .
    อ่านต่อ : https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1112604?anm=
    .
    #วิกฤติการเงิน #ค่ารักษาพยาบาล #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจUpdate

    tps://www.facebook.com/share/p/gWyRGcy8c3PTUw2r/?mibextid=2JQ9oc

    https://www.facebook.com/share/p/gWyRGcy8c3PTUw2r/?mibextid=2JQ9oc
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 13, 2024 ขาขึ้นชัด! น้ำมันดิบตลาดโลกปิดขึ้นอีกเหนือ 82 ดอลลาร์ ดันราคาปิดขึ้น 6 วันติดกันเกือบ 5 ดอลลาร์ คาดหวังเงินเฟ้อกลับไม่ลดเจ้าเป้าหมาย กระทบเฟดลดดอกเบี้ย

    ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ส่งผลราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 30 มกราคมผ่านมา และยังส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 6 วันติดกันรวม +4.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +6.19% ทำสถิติราคาปรับขึ้นยาวนานในรอบ 4 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่กันยายน 2023

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

    ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.2% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 5 วันติดกันรวม +4.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +6.16% ย้อนไปในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

    ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่งปิดขึ้น +6% หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีราคารายสัปดาห์ลดลงถึง -7%

    สาเหตุจากนักลงทุนกังวลแนวโน้มของดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐมีความไม่แน่นอนสูง หลังจากเฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจความคาดหวังเงินเฟ้อสหรัฐใน 1 ปี และ 5 ปีข้างหน้าของผู้บริโภคในสหรัฐ พบว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน ที่น่าสนใจ คือผู้บริโภคยังคงคาดหวังว่าเงินเฟ้อสูงกว่าระดับ 2% ทั้ง 2 กรอบเวลา (มีต่อหน้า 2/2)

    (หน้า 2/2) เมื่อสิ้นสุดปี 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า -10% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดรายปีลดลงในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สำหรับในปี 2022 นั้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิด +7% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิด +10%

    ปัจจุบันวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ราคาน้ำมันขายปลีกในไทยโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 ที่ลิตรละ 37.95 บาท มีราคาสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นอกจากนี้ วันที่ 1 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทยประกาศปรับราคาขายปลีกรวม 9 ครั้ง ประกอบด้วยการขึ้นราคา 8 ครั้ง และการลดราคาเพียงครั้งเดียว สำหรับการปรับขึ้นราคาขาย 8 ครั้ง ประกอบด้วย วันที่ 16 ขึ้น +0.50 บาท วันที่ 18 ขึ้น +0.30 บาท วันที่ 20 ขึ้น +0.30 บาท วันที่ 23 ขึ้น +0.50 บาท วันที่ 25 ขึ้น +0.50 บาท วันที่ 28 ขึ้น +0.40 บาท วันที่ 31 ขึ้น +0.30 บาท และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ขึ้น 0.40 บาท รวมราคาขายปลีกปรับขึ้น 3.20 บาท/ลิตร ในขณะที่ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ลดราคาขายปลีกลง -0.50 บาท/ลิตร เป็นเพียงครั้งเดียว ส่งผลราคาน้ำมันขายปลีกเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ปรับขึ้นสุทธิ 2.70 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกปรับขึ้น 6.52% เฉพาะภายในเดือนมกราคม 2567 เพียงเดือนเดียว

    ทั้งนี้ การประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกอีกลิตรละ 40 สตางค์มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น นับเป็นการปรับราคาขายปลีกรวม 9 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเป็นการปรับขึ้นราคาขายกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ครั้งที่ 8 ติดต่อกันรวม +2.70 บาทต่อลิตร หรือ +7.75% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมมาถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #น้ำมันดิบ #ราคาน้ำมันดิบ #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #เศรษฐกิจ #โอเปกพลัส #ดอลลาร์สหรัฐ #ดอลลาร์ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/pHCghLXARH3tmoRz/?mibextid=2JQ9oc
     

แชร์หน้านี้

Loading...