ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

"เหรียญขี่หมู กูให้มึงรวย"​

​

เหรียญขี่หมู เนื้อนวะโลหะ

ขนาดกว้าง 2.70 ซม. สูง 3.20 ซม.จำนวนสร้าง 9,999 เหรียญ บูชาเหรียญละ 999.-บาท

โครงการวัตถุมงคล วัดไผ่หมูขวิดศรัทธาธรรม หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เปิดเช่าบูชาได้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 58 - 25 พ.ค. 58 เช่าบูชาและรับเหรียญ ได้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือโทร 02-711-7600 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

"ทำไมต้องขี่หมู" จะว่าไปแล้วหลวงพ่อคูณเกิดในปีหมูนั่นเองครับ โดยหลวงพ่อคูณได้กล่าวไว้ว่า "เองทำอะไรจะได้หมูๆ" เหรียญขี่หมู่นี้ หลวงพ่อคูณให้สร้างขั้นในโอกาสที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่าน ได้เปิดบ้านกระท่อมหินที่วังน้ำเขียว ในปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยหลวงพ่อคูณได้นั่งเสกเองเลยทีเดียว

ทั้งนี้ด้วยความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อคูณ ท่าน พล.ต.ต. มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ จึงมอบเหรียญนี้ให้เป็นที่ระลึก สำหรับท่านที่ร่วมกันบูชาบริจาคปัจจัยสมทบ เพื่อร่วมจัดสร้าง รูปเหมือนหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัดบ้านไร่ 2 (วัดบุไผ่)

เผยแพร่เมื่อ 11 ก.พ. 2015​

วัดบุไผ่ สร้างรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ทองเหลืองใหญ่ที่สุดในโลก ขนาด 30 เมตร หน้าตัก 9 เมตร ริมถนน 304 ขึ้นลงอีสานใต้ ผ่านอำเภอวังน้ำเขียว ได้ขอพร ในการเดินทาง

 

ทอชทีวี - เศรษฐีกล้วยๆ​

เผยแพร่เมื่อ 21 ธ.ค. 2013​

 

ทอชทีวี - กระชายจากสวรรค์​

เผยแพร่เมื่อ 18 ธ.ค. 2012​

 

ทอชทีวี - อ้อมกอดแผ่นดินจากแม่​

เผยแพร่เมื่อ 5 ม.ค. 2015​

 

ทอชทีวี - มันสมบูรณ์ดี เพราะมีไส้เดือน​

เผยแพร่เมื่อ 11 ธ.ค. 2012​

 

ทอชทีวี - องุ่นเศรษฐี ​

เผยแพร่เมื่อ 12 ธ.ค. 2012​

 

ทอชทีวี - วิกฤตสวนส้มสู่ตะไคร้อินเตอร์​

เผยแพร่เมื่อ 13 ธ.ค. 2012​

 

อานิสงส์ ‘หลวงพ่อคูณ’ ขอนแก่นคึกคัก เที่ยวบินเต็ม-ของฝากขายดี​

​

งานบำเพ็ญกุศลฯ หลวงพ่อคูณ วันที่ 6 คนยิ่งมามาก ตร.จัดกำลัง 400 นาย ออกตรวจเข้ม พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธแบบบุคคลเดินผ่าน คาดสุดสัปดาห์นี้ทะลักแน่ สนามบิน-ร้านขายของฝากได้อานิสงส์ไปเต็มๆ คน ตจว.แห่ซื้อกลับไปฝากญาติมิตร...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศในหอประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถานที่บำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในวันที่หก มีนักเรียนเดินทางเข้ากราบสักการะฯ จำนวนมาก รวมทั้งประชาชนที่ยังทยอยเข้าสักการะไม่ขาดสาย โดยยอดเงินทำบุญในพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 รวมทั้งหมด 26,501,304.57 บาท

ขณะเดียวกัน ทางตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้จัดชุดอีโอดี เข้าตรวจเข้มภายในงาน โดย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ช่วงนี้ประชาชนเข้ามาที่หอประชุมเพิ่มมากขึ้นเป็นเรือนแสน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่หก คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องมีการป้องปรามและดูแลความปลอดภัยในหอประชุม จึงจัดชุดอีโอดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 400 นาย เดินตรวจตราตลอด 24 ชั่โมง

"ต้องยอมรับว่า คนเยอะ มิจฉาชีพก็มีมาก เพราะเป็นงานใหญ่ และมีประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมา ทำให้มิจฉาชีพเหล่านี้แฝงตัวมากับประชาชน ตามจับตัวได้ยาก ต้องเพิ่มกำลังมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก บก.ตชด. 23 นำเครื่องตรวจค้นอาวุธแบบบุคคลเดินผ่านมาตั้งที่บริเวณทางเข้า 2 เครื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยในทุกๆ ด้านร่วมกัน" ผู้การฯ ขอนแก่นกล่าว

ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กรมการบินพลเรือน เปิดเผยถึงยอดจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ในช่วงของการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณ ว่า มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะสายการบินพาณิชย์ที่เดินทางมาจากดอนเมือง เชียงใหม่ อู่ตะเภาและสุวรรณภูมิ มีจำนวนผู้โดยสารมากกว่าร้อยละ 95 ของแต่ละเที่ยวบิน

ทั้งนี้ สนามบินขอนแก่น มีเครื่องบินพาณิชย์ทำการรับ-ส่งผู้โดยสารรวม 14 เที่ยวบิน ไปกลับรวม 28 เที่ยวบิน แต่ในระยะนี้พบว่า มีการใช้เครื่องบินส่วนตัว ทำการบินจากจังหวัดต่างๆ มาร่วมในการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลฯ เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ต้องมีการจัดการจราจรทางอากาศ จัดการหลุมจอดเครื่องบิน ลานจอดรถ พร้อมประสานขอความร่วมมือไปยังสายการบินต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 23-24 พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาด้วยเครื่องบินโดยสารในแต่ละเที่ยวบินมากถึง 100%

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สำรวจร้านขายของฝากในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อกราบไหว้สรีระสังขารหลวงพ่อคูณ พากันไปซื้อของฝากโดยเฉพาะผ้าไหมขอนแก่น ขายดีเป็นพิเศษ ส่วนอาหารเป็นจำพวกแหนมเนือง หมูยอ ไส้กรอก ขนมถั่วกระจก และอื่นๆ

นางทองแก้ว สาริพันธ์ เจ้าของร้านขายของฝาก แหนมลับแล กล่าวว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับอานิสงส์จากหลวงพ่อคูณเป็นอย่างมาก เพราะมีประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดแวะซื้อสินค้า ทำให้มีผู้เข้าร้านมากกว่าปกติ สินค้าของร้านที่ขายดีก็จะเป็นพวกอาหารเช่น แหนมเนือง ไส้กรอก หมูยอ หมูทุบ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558

ชี้ 'กองทัพปูมดแดง' ไม่เกี่ยว 'สึนามิ' อย่าได้ตระหนกตกใจ​

​

ชาวกระบี่บอก การพบฝูง "ปูมดแดง" นับล้านตัวในช่วงเปลี่ยนฤดู ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่สัญญาณเตือนภัยธรมชาติ หรือสึนามิใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่มีปูมาหากินตามชายหาดมากขึ้น เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหารที่มากขึ้น...

วันที่ 22 พ.ค. 58 นายประเวช อวิรุธพานิชย์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการประมง สำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ ออกมาเปิดเผยกรณีของการพบฝูงปูมดแดง หรือ ปูทหาร ที่อ่าวคลองทรายดินแดงน้อย ม.6 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จำนวนมาก บริเวณชายหาดตลอดแนวระยะทางกว่า 1 กม.

โดยกรณีนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติ หรือสึนานั้น คงไม่เกี่ยวกัน เพราะฝูงปูชนิดนี้มีมานานหลายปี สาเหตุที่มีมากขึ้น เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์แหล่งอาหารที่มากขึ้น

ขณะที่ นายอุดร บุตรหลี ส.อบต.ม.6 ต.หนองทะเล กล่าวว่า หลังทราบว่ามีปูมดแดง หรือที่ชาวบ้านเรียก ปูเปี้ยวเล็ก ขึ้นมาที่อ่าวคลองทรายจำนวนนับล้านๆ ตัว ทำให้คนจากต่างถิ่นที่เข้ามาทำประมง หรือจับแมงกะพรุน ต่างก็เกิดความหวาดกลัว ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนภัยสึนามิ แต่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ มองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะปูมดแดงจะขึ้นมามากทุกปีในช่วงเปลี่ยนฤดู เพื่อมาหาอาหารตามชายหาด ไม่เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นแหล่งปูมดแดงที่มีมากที่สุดใน จ.กระบี่ ในอนาคตตจึงอาจพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558

เตือน! ไปดู 'ไอ้ไข่ดำ' กระทิงหลงป่า อย่าใส่เสื้อสีฉูดฉาด​

​

"ไอ้ไข่ดำ" กระทิงที่ออกมาอยู่ในสวนปาล์ม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ยังกินหญ้าอยู่ที่เดิม จนท.ลังเล ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี ระหว่างจับส่งคืนป่า กับปล่อยให้อยู่ในสวนของชาวบ้าน เตือนไปดูได้ แต่อย่าไปมาก และอย่าใส่เสื้อสีฉูดฉาดเพราะกระทิงไม่ชอบ...

จากกรณีกระทิงป่าขนาดใหญ่ หนักประมาณ 600-700 กก. อายุประมาณ 5 ปี เข้ามาอาศัยอยู่ในสวนยางและสวนปาล์มของชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งกระทิงตัวนี้ได้ทำลายต้นยางไป 5 ต้น และขวิดวัวเพศผู้ของชาวบ้านบาดเจ็บ ต่อมาทาง นายกิตติศักดิ์ ชูธนโชติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบางแดน เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าโตนปริวรรต จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบจนพบตัวกระทิง ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกว่า ไอ้ไข่ดำ นอนอยู่ริมลำห้วย โดยไม่ได้มีท่าทางดุร้ายใดๆ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้เตรียมหารือในการจัดการว่า จะทำอย่างไรกับเจ้าไข่ดำ ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในจุดที่พบเมื่อวานนี้ เนื่องจากสภาพเป็นสวนมีหญ้าขึ้นมาก และเป็นหญ้าที่กระทิงชอบ

ขณะที่ นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก กล่าวว่า กรณีของกระทิงป่าหลังทราบจุดที่อยู่แล้ว ได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยตนเสนอ 2 แนวทาง คือ 1.หากกระทิงไม่ทำลายพืชผลอาสินก็ให้อยู่ได้ และ 2.หากทำลาย หรือเป็นอันตรายต่อประชาชน ก็ขอให้ดำเนินการจับกลับไปปล่อยในป่าถิ่นที่อยู่ คือพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี หรือในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต จ.พังงา ขณะเดียวกัน ได้ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.นาเหนือ ช่วยประชาสัมพันธ์ว่าอย่าได้ไปรบกวนกระทิง

ด้านนายกิตติศักดิ์ ชูธนโชติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบางแดน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะดำเนินการกับเจ้าไข่ดำแบบใด ต้องรอหารือกับผู้เกี่ยวข้อง และรอดูว่ากระทิงอยู่ได้หรือไม่ เพราะจริงๆ แล้วกระทิงไม่ได้ดุร้าย และอยู่ในธรรมชาติร่วมกับผู้คนได้ แต่ขออย่าไปทำร้าย เพราะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์

"วันนี้ได้เห็น ก็ถือว่าเป็นบุญตาของชาวบ้าน เพราะแม้แต่ในป่าธรรมชาติกระทิงตัวเป็นๆ ยังพบเห็นได้ยาก นอกจากนั้น อยากฝากไปยังประชาชน หากจะเข้ามาดูก็ขอให้อยู่ห่างๆ มาครั้ง 2-3 คน อย่ามาหลายคน เพราะกระทิงจะตื่นและเครียด และไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาด กระทิงอาจเข้าไปทำอันตรายได้" นายกิตติศักดิ์ กล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558

แก๊งจำนำทองปลอมอาละวาดศรีสะเกษ เสียหาย 3 แสนกว่า​

​

แก๊งทองปลอมอาละวาดหนัก จำนำร้านทอง อ.กันทรารมย์ กว่าสิบเส้น เสียหาย 345,000 บาท สารภาพเคยนำทองไปจำนำที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ อีกด้วย

เวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 58 ที่ร้านทองเยาวราช เลขที่ 64/37 หมู่ 5 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ต.ภิรมย์ ยศอาลัย พงส.สภ.กันทรารมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดปราบปราม นำตัว นายอนุสรณ์ หรือ โอ้ด รังษีวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 3 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ไปชี้ที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองเยาวราช ซึ่งผู้ต้องหาพร้อมพวก ได้นำสร้อยคอทองคำปลอมไปจำนำ

พ.ต.ต.ภิรมย์ ยศอาลัย พงส.สภ.กันทรารมย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 21 พ.ค. 58 น.ส.วิลัยวัลย์ บุญพอ อายุ 33 ปี พนักงานทองของร้านทองเยาวราชได้เข้าแจ้งความกับ พงส.สภ.กันทรารมย์ ว่า มีคนร้ายนำทองปลอมมาจำนำ ตำรวจจึงวางแผนเพื่อจับกุม จนกระทั่งเวลา 15.30 น. วันที่ 21 พ.ค. นายอนุสรณ์ หรือ โอ้ด ผู้ต้องหารายนี้ ได้นำสร้อยคอทองคำลายกระดุกงูโปร่งน้ำหนัก 2 บาท ซึ่งเป็นลายเดียวกันกับที่ตรวจพบว่าเป็นทองปลอม น.ส.วิลัยวัลย์ จึงได้ให้พนักงานในร้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจ กระทั่งจับกุมได้ นำมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกรวม 3 คน นำทองปลอมมาจำนำตนเพิ่งมาครั้งแรก โดยมีพวกรออยู่ในรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงินไม่ทราบทะเบียน จอดรออยู่ที่ลานจอดรถหน้าตลาดกันทรารมย์ ห่างจากร้านประมาณ 20 เมตร ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมนายอนุสรณ์ พวกที่รออยู่ในรถไหวตัวทัน ได้พากันขับรถหลบหนีไป

น.ส.วิลัยวัลย์ บุญพอ ให้การว่า คนร้ายได้นำสร้อยคอทองคำปลอมลายกระดุกงูโปร่งและลายซีตรองโปร่งมาจำนำ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 58 มาจำนำสองครั้งสองเส้น วันที่ 11 พ.ค. จำนำ 1 เส้น วันที่ 12 พ.ค. จำนำ 1 เส้น วันที่ 20 พ.ค. จำนำ 2 ครั้ง 2 เส้น และวันที่ 21 พ.ค. เวลาประมาณ 09.30 น. คนร้ายได้นำสร้อยคอลายเดียวกันมาจำนำอีก โดยไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง ตนจึงเอะใจว่า ทำไมสร้อยคอทองคำที่นำมาจึงเป็นลายเดียวกันหมดและน้ำหนักเท่ากันทุกครั้ง

จากนั้นจึงนำไปให้เจ้าของร้านดู ตรวจสอบครั้งแรกก็พบว่าเป็นทองจริง น้ำหนักตรง เจ้าของร้านบอกให้คนจำนำหาบัตรประชาชนมาให้ได้จึงจะรับเข้า จึงกลับไปโดยบอกว่าจะไปเอาบัตรมา จากนั้นก็หายไป เมื่อนำสร้อยคอที่รับจำนำไว้ไปตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง ปรากฏว่าเป็นทองปลอม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งคนร้ายรายนี้นำทองปลอมมาจำนำอีก จึงแจ้งตำรวจมาจับกุม รวมที่ร้านทองเยาวราช รับจำนำไว้ 7 เส้น และยังมีร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดอำเภอกันทรารมย์ ได้รับจำนำไว้อีก 4 เส้น รวมยอดเงินที่เสียหาย 345,000 บาท

ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ รับสารภาพว่า นอกจากที่ อ.กันทรารมย์ แล้ว พวกตนยังได้นำทองปลอมไปจำนำที่ร้านทอง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ด้วย ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายอนุสรณ์ว่า ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม และจะได้สืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สุดโหด ไอซิสเริ่มตัดคอนักรบฝ่ายรัฐบาลในเมือง 'พัลไมรา'​

​

กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม เริ่มประหารชีวิตนักรบฝ่ายรัฐบาลซีเรียในเมืองพัลไมรา ในภาคกลางของประเทศแล้ว หลังจากพวกเขายึดเมืองซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งนี้ได้โดยสมบูรณ์เมื่อวันพุธ...

สำนักข่าว เทเลกราฟ รายงานว่า กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) เริ่มดำเนินการประหารทหารของรัฐบาลซีเรียที่ถูกพวกเขาจับตัวได้ขณะบุกยึดเมืองโบราณ พัลไมรา แล้ว โดยนักเคลื่อนไหวหลายคนได้ส่งรูปภาพให้แก่ผู้สื่อข่าวชาวตะวันตก แสดงให้เห็น แถวของทหารจำนวนมากนอนจมกองเลือด และอย่างน้อย 4 คนในนี้ถูกตัดศีรษะ

ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ในเมืองพัลไมรา ระบุว่าผู้เสียชีวิตในรูปเป็นนักรบของชนเผ่าไชตัต จากภาคตะวันออกของซีเรีย ซึ่งเข้าร่วมกับกองทัพรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต่อต้านกลุ่มไอซิส

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่ากลุ่มไอซิสทำลายซากโบราณล้ำค่ายุคกรีกโรมันอายุกว่า 2000 ปี ภายในเมืองพัลไมรา หลังจากพวกเขาบุกโจมตีเมืองโบราณแห่งนี้อย่างรุนแรงและทำให้ทหารฝ่ายรัฐบาลล่าถอยออกจากเมืองจนหมดเมื่อเย็นวันพุธ และนักรบไอซิสก็เคลื่อนกำลังเข้ายึดเมืองในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกัน

รัฐบาลซีเรียระบุว่า ได้อพยพผู้อยู่อาศัยภายในเมืองพัลไมราออกไปก่อนที่เมืองจะถูกยึด แต่นักเคลื่อนไหวกลุ่มเดิมอ้างว่า ยังมีประชาชนเกือบ 70,000 คน และทหารจำนวนหนึ่งถูกทอดทิ้งอยู่ภายในเมืองโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่า

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากลุ่มไอซิสปล่อยตัวนักโทษภายในเรือนจำ ทัดมูร์ ในเมืองพัลเมรา และมีภาพนักโทษกำลังเฉลิมฉลองถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ แต่คณะกรรมการร่วมการประสานงานปฏิวัติ (อาร์ซีซี) แห่งเมืองพัลไมรา ยืนยันว่า กลุ่มคนในภาพเป็นผู้ที่ถูกจับกุมเมื่อไม่นานมานี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ฐานทัพในเมืองแห่งนี้ ส่วนนักโทษของเรือนจำทัดมูร์ถูกเคลื่อนย้ายไปที่อื่นตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว

อนึ่ง การเสียเมืองพัลไมรา หมายความว่าทหารของรัฐบาลซีเรียซึ่งกำลังต่อสู้อยู่ในจังหวัด เดร์ อัส-ซอร์ ถูกตัดเส้นทางไปยังเมืองทางตะวันออก และเป็นการเปิดเส้นทางให้กลุ่มไอซิสเดินทางไปยังเมืองในภาคกลางของซีเรียเช่นเมืองฮอม หรือแม้แต่เมืองหลวงอย่างกรุงดามัสกัสด้วย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 พ.ค. 2558

มะกันถอนกำลังช่วยเนปาลแล้ว​

​

เมื่อ 21 พ.ค.กองทัพสหรัฐฯ เริ่มถอนกำลังทหารทั้งทหารเรือ ทหารอากาศและทหารบกราว 300 นาย จากภารกิจช่วยเหลือกู้ภัยแผ่นดินไหวในเนปาลแล้ว ระบุภารกิจลุล่วงแล้วด้วยดี ส่วนภารกิจความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังดำเนินการต่อไปอีกระยะหนึ่งและสามารถเพิ่มความช่วยเหลืออีกได้ถ้าจำเป็น

ทั้งนี้ การถอนกำลังของสหรัฐฯ จากเนปาลมีขึ้นไม่กี่วันภายหลังจากกองทัพสหรัฐฯเก็บกู้ร่างทหารนาวิกโยธิน 6 นาย และทหารเนปาลอีก 2 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ระหว่างภารกิจช่วยเหลือเนปาลเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ไม่ชัดเจนว่าการถอนกำลังเร็วกว่าปกตินี้เกี่ยวข้องกับเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯได้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เนปาลแล้วมูลค่าเกือบ 49 ล้านดอลลาร์ โดยช่วยขนส่งลำเลียงสิ่งจำเป็นน้ำหนักรวม 110 ตัน เช่นเดียวกับประเทศอื่นรวม 22 ประเทศ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด เขย่าเนปาลเมื่อ 25 เม.ย.และแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งที่ 2 เมื่อ 12 พ.ค. อยู่ที่กว่า 8,624 ราย

วันเดียวกัน เกิดเหตุแผ่นดินไหว 6.9 แมกนิจูด บริเวณหมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงโฮนีอารา 487 กม. ลึกลง ไป 19 กม. จากนั้นก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.9 แมกนิจูด แต่ไม่มีรายงานความเสียหายรวมถึงแจ้งเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 พ.ค. 2558

มาเลย์จ่อเริ่มภารกิจค้นหา-กู้ภัย เรืออพยพโรฮีนจาในทะเลอันดามัน​

​

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศในวันพฤหัสบดี ว่ามาเลเซียจะเริ่มปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจาในทะเลอันดามัน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งประเทศมาเลเซีย กล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ค. ว่า มาเลเซียจะเริ่มภารกิจค้นหาและกู้ภัย เรืออพยพชาวมุสลิมโรฮีนจา ในทะเลอันดามัน และจะมีการขนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พวกเขาทั้งทางบกและทางทะเลด้วย

คำประกาศของนายนาจิบ ราซัค เกิดขึ้นหลังจากมาเลเซียปฏิเสธไม่รับเรืออพยพเข้าฝั่ง ก่อนที่เมืองวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลของมาเลเซียและอินโดนีเซีย อีกหนึ่งประเทศที่กำลังรับมือปัญหาผู้อพยพทางทะเล ประกาศให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้อพยพที่ขึ้นฝั่งในประเทศของพวกเขา แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากประชาคมนานาชาติด้วย

ในวันพฤหัสบดี นายกฯ ราซัค ระบุในบัญชีผู้ใช้เว็บไซต์ทวิตเตอร์ของเขาว่า การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่หิวโหยและป่วยไข้ เป็นพื้นฐานความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ และภารกิจค้นหาและกู้ภัยโดยกองทัพเรือและหน่วยงานทางน้ำของประเทศ มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิต

วันเดียวกัน นายอานิฟาห์ อามาน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย และนาง เรตโน มาร์ซูดี รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย จัดการประชุมร่วมกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รมว.ต่างประเทศเมียนมา ที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา ในเรื่องผู้อพยพโรฮีนจา ซึ่งถือเป็นการฝ่าทางตันได้ 1 ชั้น หลังเมียนมาปฏิเสธความรับผิดชอบในวิกฤติผู้อพยพ และไม่ส่งตัวแทนร่วมประชุม รมว.ต่างประเทศ ในภูมิภาคเมื่อวันพุธ

ทั้งนี้ เชื่อกันว่าปัจจุบันมีผู้อพยพชาวโรฮีนจาจากเมียนมา และชาวบังกลาเทศ หลายพันคนติดค้างอยู่บนเรือซึ่งลอยลำอยู่ในทะเลอันดามัน และอ่าวเบงกอล จำนวนกว่า 7,000 คน โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีผู้อพยพกว่า 3,000 คน ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านหรือเดินทางถึงชายฝั่งประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558

มะกันเร่งกำจัดคราบน้ำมัน 21,000 แกลลอน รั่วเต็มหาดแคลิฟอร์เนีย​

​

เกิดน้ำมันรั่วจากท่อส่งน้ำมันบริเวณชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้น้ำมันกว่า 21,000 แกลลอนรั่วไหลลงทะเล และบางส่วนถูกน้ำซัดเปรอะเปื้อนเต็มชายหาด...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯเริ่มปฏิบัติการกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งของซานตา บาร์บารา เคาน์ตี ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 20 พ.ค. หลังจากเกิดเหตุน้ำมันจำนวนถึง 21,000 แกลลอน (ราว 80,000 ลิตร) รั่วไหลออกจากท่อส่งน้ำมันใต้ดินความยาว 11 ไมล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเคิร์น เคาน์ตี

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งถึงความเป็นไปได้ ที่จะเกิดน้ำมันรั่วไหลครั้งแรกเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันอังคาร หลังจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชายหาด 'รีฟูจิโอ สเตท' ในเมืองโกเลตา ได้กลิ่นเหม็นน้ำมันอย่างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งสามารถหยุดการรั่วไหลของน้ำมันได้ในเวลาประมาณ 15:00 น. แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหล และกำลังพยายามประเมินความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันใต้ดินความยาว 11 ไมล์ดังกล่าว เป็นของบริษัท 'แพลนส์ ออล อเมริกัน ไพพ์ไลน์' ถูกสร้างขึ้นในปี 1991 และถูกออกแบบให้รองรับการส่งน้ำมันได้วันละ 150,000 บาร์เรล

ในวันพุธ บริษัท แพลนส์ ออล อเมริกัน ไพพ์ไลน์ ส่งเจ้าหน้าที่ 60-70 คนไปช่วยเหลือหน่วยยามฝั่งกำจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งน้ำมันบางส่วนลอยมาเปรอะเปื้อนเต็มชายหาดแล้ว ขณะที่ สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่าอิทธิพลจากกระแสลม ทำให้น้ำมันในทะเลลอยเข้าใกล้ชายหาดของเมือง อิสลา วิสตา มากขึ้น

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 พ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ผักปลอดภัยส่งนอก​

เผยแพร่เมื่อ 18 พ.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน เห็ดฟางโรงเรือน​

เผยแพร่เมื่อ 14 เม.ย. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน การบริหารจัดการน้ำ​

เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ผักตะกร้า ​

เผยแพร่เมื่อ 9 มี.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ควายนม​

เผยแพร่เมื่อ 1 เม.ย. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ผักกูด​

เผยแพร่เมื่อ 28 ม.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน สวนอุ้ม​

เผยแพร่เมื่อ 19 ม.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน หม้อข้าวหม้อแกงลิง​

เผยแพร่เมื่อ 16 ม.ค. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ปฏิทินนา​

เผยแพร่เมื่อ 23 ก.พ. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ฟักข้าว​

เผยแพร่เมื่อ 27 เม.ย. 2015​

 

เกษตรไทยไอดอล ตอน ปลูกถั่วเขียวหลังทำนา​

เผยแพร่เมื่อ 20 เม.ย. 2015​