ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เกษม · 10 พฤษภาคม 2015

พายุถล่มแพร่ซ้ำ ชาวบ้านโวยไร้การช่วยเหลือ

3 ตำบล อ.วังชิ้น ไฟดับสนิท โกลาหล ร่วม 100 หลัง โดนถล่ม เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ทั้งชาวบ้านผู้ใหญ่บ้าน เผยบ้านเรือนเสียหายเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกทางการก็ยังไม่ให้การช่วยเหลือใดๆ ชาวบ้านต้องซื้อสังกะสีกระเบื้องมามุงหลังคาเอง

จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 พ.ค. 58 ที่เกิดเหตุพายุฤดูร้อนในพื้นที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ โดย หมู่ 4 และหมู่ 6 มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 26 หลังคาเรือน ต.นาพูน มีบ้านเรือนเสียหาย 55 หลังคาเรือน ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตำบล ส่วน ต.แม่เกิ๋ง หมู่ 2, 3, 4, 8 บ้านเรือนเสียหาย 54 หลังคาเรือน เสาไฟหักโค่น ต้นไม้ใหญ่ล้มทับเสาไฟฟ้า ไฟดับทั้งตำบล ขณะทาง กองพันทหารม้าที่ 12 เด่นชัย ได้ส่งทหารจำนวน 20 นาย กระจายเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือดูแลชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็มีฝนตกหนักทั้งอำเภอ นายชาติ กาละดี อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 91/2 ม.4 ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น กำลังเก็บของบนบ้านที่ถูกพายุพัดหลังคาปลิว ก็เกิดฟ้าผ่าลงมาใส่ร่าง นายชาติ จนล้มลง ญาตินำตัวส่ง รพ.วังชิ้น อาการสาหัส

เมื่อเวลา 08.00 น. นายสุวรรณ ทาดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.นาพูน อ.วังชิ้น พานางกุลชา บัญสว่าง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (ส.จ.) เดินทางเข้าสำรวจในพื้นที่ หมู่ 1 อีกครั้ง นายสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเผยว่า บ้านหมู่ 1 ต.นาพูน เสียหาย 26 หลังคาเรือน เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกคือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ถูกพายุพัดเสียหายกว่า 50 หลัง และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการ ชาวบ้านต้องไปหาสังกะสี กระเบื้อง มามุงหลังคาเอง และครั้งนี้ก็ยังไม่ได้ทำการสำรวจ ซึ่งตนได้สำรวจความเสียหายส่งไปแล้ว โดยทาง อบต.บอกว่าฝ่ายจัดการไม่มีใครอยู่ ไปอบรม แทนที่จะเร่งจัดซื้อกระเบื้องและสังกะสีมาให้ชาวบ้าน ก็ไม่ทำ ที่สำคัญทาง ปภ.จังหวังแพร่ ไม่เคยลงมาสำรวจและให้การช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งตนได้แจ้งกับ นางกุลชา บัญสว่าง ส.จ.เขตวังชิ้น ให้ทราบและขอให้ทำการเร่งทางท้องถิ่นมาช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วน

นางณัฐฐา ท่วมอ้น อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 178 ม.1 ต.นาพูน เป็นบ้านที่ถูกพายุพัดเสียหายเกือบทั้งหลังเล่าว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในขณะที่ลมพายุพัดกระหน่ำ ตนรีบวิ่งออกจากบ้านไปอยู่บ้านเพื่อนบ้าน เพราะกลัวบ้านจะพังใส่และเมื่อพายุสงบลงพบว่าหลังคาบ้านทั้งสองข้างปลิวหาย ซึ่งกำลังซ่อมแซมใหม่ เนื่องจากวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา บ้านของตนก็ถูกลมพายุพัดเสียหายเกือบทั้งหลัง แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการ จึงต้องซื้อสังกะสีมามุงหลังคาเอง และมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือหรือไม่

ทางด้านนางกุลชา บัญสว่าง ส.จ.เขตอำเภอวังชิ้น เผยว่า ตนได้แจ้งให้ทาง อบต.ได้เร่งเบิกจ่ายซื้อสังกะสีกระเบื้อง มาให้ชาวบ้านก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้ชาวบ้าน ในขณะที่ที่อื่นก็เร่งจัดซื้อให้ชาวบ้านมุงหลังคาได้ทันที หากปล่อยไว้เป็นเดือนแบบนี้ ชาวบ้านก็เดือดร้อน ตนจะลองไปสอบถามทาง อบต.ว่าติดขัดตรงไหนบ้าง ส่วนความเสียหายอื่นๆ หลังจากที่ได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ในทุกตำบล ที่ได้รับผลกระทบก็พบว่ามีบ้านเรือนที่เสียหายส่วนใหญ่มีหลังคาปลิว ซึ่งมีอยู่สองหลังที่หลังคาหายไปทั้งหมด ส่วนอื่นที่ยังไม่ได้แก้ไข มีถนนสายวังชิ้นนาพูน เส้นทางที่ 115 กม.ที่ 2-3 มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงมาปิดถนน รถไม่สามารถสัญจรได้ ทาง อบต.ก็ยังไม่ได้มาทำการใดๆ ตนประสานไปยังเกษตรอำเภอ เพื่อให้ออกมาสำรวจและคำนวณการช่วยเหลือ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ค. 2558

ตากอากาศร้อนจัด ถนนระเบิด ผวจ.เร่งตรวจสอบ

ถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้านขุนห้วยช่องแคบ หมู่ที่ 3 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ เกิดระเบิดขึ้น พื้นถนนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แตกร้าวกว่า 10 เมตร ด้านผู้ว่าฯ ตาก ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ พร้อมเร่งซ่อมแซมกลับสู่สภาพพร้อมใช้งาน

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านในตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อพิสูจน์ทราบกรณีมีถนนคอนกรีตทางเข้าหมู่บ้านขุนห้วยช่องแคบ หมู่ที่ 3 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ ระเบิดเสียหาย โดยไม่ทราบสาเหตุ

จากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นทางเข้าหมู่บ้านหมู่ที่ 3 อยู่ระหว่างขึ้นลงเนิน มีการทำทางเบี่ยงข้างๆ ถนนที่เกิดเหตุ เนื่องจากถนนเดิมเกิดระเบิดไปเมื่อบ่ายวานนี้ โดยพบว่าถนนช่วงดังกล่าว กว้างประมาณ 6 เมตร มีรอยพื้นถนนโก่งขึ้นมา บางส่วนแตกร้าวกินพื้นที่ยาวประมาณเกือบ 10 เมตร ซึ่งทาง อบต.ช่องแคบ ได้นำกรวยพลาสติกมาวางกันไม่ให้รถวิ่งผ่านเพราะถนนชำรุดอย่างหนัก

นายอิทธิพล เทพพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ขุนห้วยช่องแคบ เปิดเผยว่า เหตุเกิดช่วงบ่ายๆ เมื่อวานนี้ โดยชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุเล่าว่า เห็นมีรถบรรทุกปุ๋ยวิ่งผ่านไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นจึงวิ่งออกมาดูพบว่ามีฝุ่นฟุ้งบริเวณถนนพร้อมๆ กับเห็นถนนคอนกรีตโก่งขึ้นมา และแตกร้าวเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ในเวลาต่อมา นายสมพงษ์ ศรีบัว นายก อบต.ช่องแคบ ได้เดินทางมาดู โดยกล่าวว่าน่าจะเกิดจากความร้อน

อย่างไรก็ตาม นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หลังจากได้รับรายงาน ได้สั่งการให้นายช่างโยธาธิการเดินทางเข้าไปตรวจสอบ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร พร้อมสั่งให้มีการซ่อมแซมให้ใช้การได้โดยด่วน เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าหมู่บ้าน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ค. 2558

ไฟฟ้าลัดวงจร ไหม้วอดทั้งหลัง เสียหายร่วมแสน

เกิดเหตุไฟไหม้บ้านสองชั้น มีสภาพไม้ที่เก่า ชาวบ้านช่วยดับไม่ทัน ทำให้ไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลัง รวมถึงทรัพย์สินและข้าวของ เสียหายรวมประมาณ 200,000 บาท

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 10 พ.ค. 58 พ.ต.ท.สุริยา โพธิ์ชาเนตร พงส.ผนพ.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนราษฎร บ้านพังงู หมู่ 5 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่รถดับเพลิง อบต.พังงู ไปที่เกิดเหตุ

ถึงที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและพนักงานดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไหม้ ที่บ้านเลขที่ 45 ม.5 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดเพลิงอยู่นานจนเพลิงสงบ หลังจากไฟได้ไหม้วอดบ้านทั้งหลัง

จากการสอบสวน นางรัดดา ละคร อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าว ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงดังขึ้นคล้ายเสียงประทัด ตรงสะพานไฟและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงรีบวิ่งออกจากบ้าน ให้เพื่อนบ้านช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถสกัดเพลิงไว้ได้ ไฟจึงไหม้เสียหายทั้งหลังพร้อมกับทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้ก็วอดไปกับกองเพลิง

ส่วนสาเหตุเบื้องต้น การเกิดไฟไหม้บ้านครั้งนี้ มาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับบ้านไม้สภาพเก่าซึ่งเป็นเชื้อไฟทำให้ไฟติดเร็ว ค่าเสียหายประมาณ 200,000 บาท จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ค. 2558

เลยอากาศแปรปรวน!! พายุฝน-ลูกเห็บกระหน่ำ 'ภูเรือ-ด่านซ้าย'

เลยร้อนระอุ อากาศแปรปรวนเกิดพายุฝนพร้อมลูกเห็บ กระหน่ำ อ.ภูเรือ-ด่านซ้าย น้ำในลำน้ำสานสีเข้มและเชี่ยวกราก จากน้ำภูเขาไหลลงมา เตือนนักท่องเที่ยวระวังอันตราย...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 พ.ค. จากสภาพอากาศในพื้นที่ จ.เลย ร้อนระอุมาตั้งแต่เช้า อุณภูมิอยู่ที่ 38-39 องศาฯ กระทั่งช่วงบ่ายอากาศแปรปรวน ทำให้เกิดพายุฝนและลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่หนีร้อนมาเล่นน้ำลำน้ำสาน แห่งเดียวของ อ.ภูเรือ ที่มีต้นกำเนิดมาจาก อ.ภูหลวง ไหลผ่าน 6 ตำบลของ อ.ภูเรือ ลงสู่แม่น้ำเหืองที่ชายแดนไทย-ลาว บ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย หลัง อบต.ลาดค่าง บ้านแก่งเกลี้ยง ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ ต้องขึ้นจากน้ำหลังพายุฝนตกหนัก ทำให้น้ำจากภูเขาไหลลงสู่ลำน้ำสานเป็นสีเข้มและเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวให้ระวังอันตรายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก

ส่วนที่บ้านห้วยตาด ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย เกิดพายุฝนตกหนักกว่า 30 นาที มีลูกเห็บตกลงมาพร้อมสายฝน ขณะที่กิ่งไม้หักโค่น ริมถนนถนนสาย 201 บ้านโคกงาม-ด่านซ้าย ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกิ่งไม้ให้พ้นจากถนน เพื่อป้องกันอันตรายจากผู้ที่ขับขี่รถสัญจรไปมา

อย่างไรก็ตาม จากพายุฝนตกหนักลงมาครั้งนี้ ได้ทำให้ชาวบ้านห้วยตาด ต่างดีใจ เพราะทำให้ข้าวโพดที่ปลูกไว้ได้รับน้ำฝนก่อนที่ข้าวโพดจะเหี่ยวเฉาตายด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และที่ อ.ด่านซ้าย พายุฝนตกได้กระหน่ำทั่วบริเวณเทศบาลตำบลด่านซ้าย ถนนแก้วอาสา ตั้งแต่บ้านเดิ่น จนถึงสะพานข้ามตลาดเทศบาล มีฝนตกอย่างหนักทำให้ท่อระบายน้ำ ระบายน้ำลงแม่น้ำหมันไม่ทัน น้ำได้ล้นทะลักท่อขึ้นมา ทำให้ถนนแก้วอาสา เจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ท่วมถนน โดยฝนได้ตกอยู่นานกว่า 40 นาที กระทั่งระดับน้ำลดลงเป็นปกติ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ค. 2558

ไฟป่าโก-ลก ลุกลามกว่า 880 ไร่ เจ้าของสวนปาล์มโอดเสียหาย 8 ล้าน

ไฟป่าโก-ลก ลุกไหม้ลามต่อเนื่อง กินพื้นที่ยาวกว่า 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล ล่าสุด พื้นที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายในระลอกที่ 2 นี้ ประมาณกว่า 880 ไร่ เจ้าของสวนปาล์มร้อง รายได้หลักของครอบครัวสูญแล้วกว่า 8 ล้าน...

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 58 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าและพื้นที่ทางเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ไฟไหม้ป่าและพื้นที่ทางเกษตรของชาวบ้าน ได้ลุกลามขยายวงกว้างกิน พื้นที่ 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล มีบ้านโคกกูโน ม.3 บ้านกูแบอีแก ม.4 ต.ปูโยะ บ้านซรายอใน ม.1 และบ้านตือระ ม.2 ต.ปาเสมัส โดยที่เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยที่เกี่ยวข้อง ยังไม่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้

จากการสำรวจโดยเครื่องพารามอเตอร์บิน สำรวจในช่วงเช้าตรู่ พบเห็นต้นเพลิง เป็นเปลวไฟชัดเจน และเกิดขึ้นหลายจุดกำลังลุกลามอยู่ในชั้นผิวดิน ที่บริเวณบ้านซรายอใน ม.1 ต.ปาเสมัส เป็นจุดใกล้กับบริเวณเกิดไฟไหม้ในละลอกแรก ช่วงกลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปสกัดกั้นต้นเกิดที่เกิดขึ้นอย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องเดินเท้าฝ่าต้นไม้ที่ล้มทับกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งแหล่งน้ำก็มีไม่เพียงพอเนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าแล้ง

ทั้งนี้ นายวรเชษฐ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 50 คน มาเร่งดับเพลิงไหม้พร้อมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาออกเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จากการสำรวจความเสียหายของพื้นที่ป่า และพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล ในเบื้องต้นพบว่า พื้นที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายในระลอกที่ 2 นี้ ประมาณกว่า 880 ไร่ โดยแยกเป็นพื้นที่ บ้านโคกกูโนกับบ้านกูแบอีแก 330 ไร่ บ้านตือระ 50 ไร่ และบ้านซรายอใน 500 ไร่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยที่เกี่ยวข้อง ก็ยังคงกระจายกำลังฉีดน้ำดับไฟจุดต้นเพลิงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน 2 ตำบลอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายมะหะมะยูรกิฟลี กาเดร์ อายุ 51 ปี เจ้าของสวนปาล์มแปลงสาธิตที่ได้รับเงินทุนสนับสนุน จากสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 จ.สงขลา ในโครงการฟื้นฟูพื้นที่นาร้าง กล่าวว่า ไฟไหม้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายสวนต้นปาล์มที่ตนปลูกไปแล้วกว่า 50 ไร่ ขณะนี้เหลือเพียง 10 ไร่ ที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง โดยต้นปาล์มที่ปลูกมีอายุ 7 ปีแล้ว ปัจจุบันสามารถเก็บเกี่ยวผลปาล์ม ไปจำหน่ายในแต่ละเดือน 2 ครั้ง ครั้งละ 12 ตัน หลังจากไฟไหม้ 3 วัน ตนเองต้องสูญเสียเงินทุนที่รวมกับส่วนของทางการออกให้กว่า 8 ล้านบาท

นอกจากนี้ การทำสวนปาล์มถือว่าเป็นอาชีพหลักที่ใช้เลี้ยงครอบครัวเสมอมา เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ ก็ต้องรอความหวังที่ทางเจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือ และถือว่าเป็นความเจ็บปวดสำหรับครอบครัวด้วยเช่นกัน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ค. 2558

เพลิงไหม้ฟาร์มหมู พ่อ-แม่พันธุ์-ลูกหมู ไฟคลอกตายหมู่กว่า 2 พันตัว

ไฟไหม้ฟาร์มหมูกบินทร์ พ่อ-แม่พันธุ์ พร้อมลูกหมู ถูกไฟคลอก บางส่วนไหม้เกรียม เสียชีวิตยกโรงเรือนกว่า 2 พันตัว เสียหายประมาณ 10 ล้าน…

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ร.ต.ท.เสน่ห์ เดชสุภา ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้ ฟาร์มหมูของเอกชนไม่มีชื่อ พื้นที่หมู่ที่ 8 ต.กบินทร์ จึงประสานรถดับเพลิง จำนวน 3 คัน เข้าไประงับเหตุ ซึ่งเป็นฟาร์มหมูมีทั้งหมด 12 โรงเรือน โดยไฟกำลังลุกไหม้โรงเรือนที่ 6 พร้อมเสียงหมูร้องดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันฉีดน้ำเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังโรงเรือนอื่นๆ ใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า พ่อ-แม่พันธุ์หมู ซึ่งมีน้ำหนักตัวละกว่า 200 กิโลกรัม รวมทั้งลูกหมู อายุประมาณ 1 เดือน น้ำหนักราว 10 กิโลกรัม ถูกไฟคลอกตายประมาณ 2,000 ตัว บางตัวหนีตายในสภาพยืนเกาะกรงไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก บางตัวยังไม่ตาย แต่มีบาดแผลถูกไหม้ตามตัวดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าเวทนา

ด้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุคนงานอยู่ที่ห้องพักด้านนอก และเห็นไฟกำลังลุกไหม้ จึงประสานขอรถดับเพลิง แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในโรงเรือนมีฉนวนที่กั้นความร้อนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แม้คนงานและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามช่วยกันดับไฟ แต่ไม่ทัน ทำให้โรงเรือนรวมทั้งหมูถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ประเมินค่าเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ค. 2558

เตือน เหนือ อีสาน ภาคกลาง มีพายุฝน-ลมกระโชกแรง

เตือนภาคเหนือ อีสาน และ ภาคกลาง มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. Weather Company รายงานสภาวะอากาศ ว่า วันนี้ ภาพรวมสภาวะอากาศ ลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนเพิ่มขึ้น

ส่วนวันที่ 11-14 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่

ทั้งนี้ ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงถึง วันที่ 10 พฤษภาคม 2558 เวลา 04.00 น. มีฝนตกกระจายทั่วประเทศ และมีจังหวัดที่มีปริมาณฝนตกสะสม 24 ชม. มากกว่า 50 มม. คือ จ.นครศรีธรรมราช อ.นบพิตำ 94.5 มม. จ.ตราด อ.เกาะช้าง 63.0 มม. กรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร 60.0 มม. จ.ปัตตานี อ.สายบุรี 58.6 มม. จ.ระยอง อ.เมือง 55.4 มม. และ จ.สกลนคร อ.ภูพาน 55.4 มม.

ส่วนสถานการณ์ ไต้ฝุ่น "NOUL" ซึ่งมีศูนย์กลางที่ทะเลฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 2,118 กม.โดยอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ขณะนี้มีความเร็วลมศูนย์กลาง 241 กม./ชม. กำลังเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งสู่เกาะลูซอนทางเหนือของฟิลิปปินส์ ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่าไต้ฝุ่น "NOUL" จะเพิ่มความเร็วลมศูนย์กลางจนกลายเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 ในเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ แล้วจะลดความเร็วลงก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนที่กลับไปตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกโดยจะเคลื่อนที่เฉียดทางใต้ของไต้หวันและญี่ปุ่น เบื้องต้น ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย

สภาพอากาศแต่ละภูมิภาค

ภาคเหนือ มีฟ้าหลัว มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิ 24-40 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน มีฟ้าหลัว มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิ 23-38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีฟ้าหลัว มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิ 26-41 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิ 25-37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิ 24-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิ 25-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน มีฟ้าหลัว มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิ 27-38 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์