ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไทยส่ง C-130 อีก 2 ลำ ช่วยเนปาล-ของพระราชทาน 'สมเด็จพระเทพฯ'

    [​IMG]

    พรุ่งนี้ไทยส่งเรือบิน C-130 อีก 2 ลำ ช่วยเนปาล คาดถึงเช้าตรู่ พร้อมเต็นท์ ผ้าพลาสติกปูนอนขนาดใหญ่ น้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของพระราชทานจาก "สมเด็จพระเทพฯ"...

    เมื่อวันที่ 3 พ.ค. กระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งข้อมูลและพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ฉบับที่ 10 โดยระบุว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการกว่า 6,250 คน บาดเจ็บ 14,357 คน จำนวนบ้านเรือนพังทลาย 160,786 หลัง จำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 143,673 หลัง ส่วนจำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากการรายงานเดิม คือ 8 คน เจ้าหน้าที่และครอบครัวของสถานเอกอัครราชทูตฯ อีก 11 คน โดยขณะนี้ไม่มีคนไทยแจ้งขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

    อย่างไรก็ดี ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกาฐมาณฑุต่อไป ซึ่งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติในเนปาล ได้มีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ (videoconference) กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นประจำวันทุกวัน เพื่อติดตามและประเมินการดำเนินการของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง

    สำหรับการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย โดยหน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทยได้ร่วมกับทีมเนปาล ญี่ปุ่น และเม็กซิโก ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ 10 กิโลเมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่พบผู้รอดชีวิต หรือบาดเจ็บเพิ่มเติม ขณะที่หน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งที่สินธุปาลโจกและสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 40 กิโลเมตร ได้ทำการรักษาพยาบาล จำนวน 181 คน นอกจากนี้ ยังจัดชุดแพทย์เผชิญเหตุบริการทางการแพทย์ให้กับผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพและพื้นที่ต่างๆ

    ทั้งนี้ ทีมแพทย์ไทยเป็นชาติแรกที่เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับ กว่า 9 ชั่วโมง และได้มอบยาและเวชภัณฑ์ให้กับผู้นำหมู่บ้าน ในส่วนหน่วยแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งเต็นท์หน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ทั้งหมด 2 หลัง อยู่บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำอินทรปตี ตำบลซิปปะกัต จังหวัดสินธุปาลโจก ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งมีบ้านเรือนกระจายเป็นหย่อมๆ และได้รับความเสียหายถึงร้อยละ 90 โดยมีแพทย์และล่ามอาสาสมัครจากประเทศเนปาลและศรีลังกามาร่วมปฏิบัติงาน มีผู้ป่วยมารับการรักษากว่า 170 ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ประมาณ 80 กว่าราย รองลงมาเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และโรคระบบทางเดินหายใจ

    พร้อมทั้งระบุ วานนี้ (2 พ.ค.) ทีมแพทยสภา ประกอบด้วย แพทย์ 4 คน คณะของมหาเถรสมาคม นำโดย พระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งทีมแพทยสภาจะตั้งฐานช่วยเหลือ โดยเน้นการช่วยในระยะปานกลาง

    นอกจากนี้ ทางกองทัพอากาศจะจัดส่งเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำ เดินทางมาประเทศเนปาล ในวันที่ 4 พฤษภาคม คาดว่าจะออกจากสนามบินกองทัพอากาศในช่วงเวลาเช้าตรู่ โดยจะนำสิ่งของช่วยเหลือเนปาลเพิ่มเติม อาทิ เต็นท์ ผ้าพลาสติกปูนอนขนาดใหญ่ น้ำดื่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย ส่วนเงินบริจาคเข้าบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ณ เวลา 16.00 น. (2 พฤษภาคม ) จำนวน 106,747,126.39 บาท

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

    หมู่บ้านรามโกศ อีกพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ยังคอยความช่วยเหลือ

    [​IMG]

    แม้เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาล จะผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ แต่หลายพื้นที่ยังคงรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่ยังเข้าไปไม่ถึง เช่น หมู่บ้านในหุบเขาหลายแห่ง ในเมืองดาห์ดิง โดยทีมข่าวไทยรัฐ ได้ส่งโดรนขึ้นบินสำรวจเหนือหมู่บ้านรามโกศ ในเมืองดาห์ดิง ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ราว 100 กิโลเมตร ซึ่งจะเห็นว่าบ้านของชาวบ้านหลายหลังพังถล่มลงมา แต่เคราะห์ดีที่คนในหมู่บ้านไม่มีใครเสียชีวิต เนื่องจากในช่วงที่เกิดเหตุชาวบ้านส่วนใหญ่ออกไปทำงาน

    อย่างไรก็ตาม พบว่ามีบ้านหลังหนึ่ง ถูกสร้างด้วยการนำหินมาเรียงต่อกัน และประสานด้วยดิน ทำให้ไม่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ จนเกิดการพังถล่มลงมาและมีผู้บาดเจ็บ 3 คน คนแรกเป็นชายชราเจ้าของบ้านที่ล้มป่วย ที่นอนอยู่ภายในบ้านขณะเกิดเหตุ ส่วนอีก 2 คน คือคนที่พยายามจะเข้ามาช่วยนำชายชราที่ล้มป่วยออกไป ซึ่งล่าสุดยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

    สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้ แม้จะไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ในสภาวะเช่นนี้ ทีมข่าวไทยรัฐ ต้องใช้เวลานั่งรถขึ้นเขานานไม่ต่ำกว่า 30 นาที และเดินเท้าเข้าหมู่บ้านอีกราว 30 นาที โดยเส้นทางนี้ใช้ได้เฉพาะในหน้าแล้ง เนื่องจากในช่วงฤดูฝนเส้นทางจะถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอ้อมเขาเพื่อความปลอดภัย

    ส่วนเรื่องของการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ทางรัฐบาลเนปาล ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในหมู่บ้านห่างไกลในเมืองดาห์ดิงแล้ว และใช้เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ทำหน้าที่ในการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ และผู้บาดเจ็บออกจากหมู่บ้านไปส่งยังโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครจากนานาชาติที่คอยส่งความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัย แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ และยังมีหมู่บ้านอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเช่นเดียวกับหมู่บ้านรามโกศ ตามที่ทีมข่าวไทยรัฐลงพื้นที่เข้าไปสำรวจ.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

    เหยื่อดินไหวทะลุ 7 พันศพ เนปาลหวังปาฏิหาริย์ พบผู้รอดชีวิต

    [​IMG]

    รมว.คลัง เนปาล คาดผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหวทะลุมากกว่า 7 พันศพ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนไร้ที่อยู่นับล้าน ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ยืนยันอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 7,056 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 15,000 คน…

    จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศเนปาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ (3 พ.ค.) คาดจะพบศพผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 คน จากการคาดการณ์ของทางการเนปาล โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่นายราม ชาราน มาฮัด รมว.คลังเนปาล กล่าวระหว่างประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน

    พร้อมยอมรับว่า หลายหมู่บ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ การช่วยเหลือยังเข้าไม่ทั่วถึง ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ยืนยันอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 7,056 ศพ และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 15,000 คน ถือเป็นความเจ็บปวดและเศร้าใจครั้งยิ่งใหญ่ กับเหตุที่เกิดขึ้นในเนปาล และยังทำให้คนนับล้านไร้ที่อยู่ โดยเบื้องต้นมีบ้านเรือนพังพินาศกว่า 3 แสนหลัง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยี และการช่วยเหลือด้านการเงิน

    ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยของเนปาล กล่าวว่า มีความหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ ได้การค้นพบผู้รอดชีวิต ซึ่งเราจะยังคงให้การช่วยเหลือและค้นหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางองค์การสหประชาชาติ คาดว่ามีคนมากกว่า 3 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือเรื่องอาหาร และมีคนอีกกว่าครึ่งต้องการอาหารเป็นการด่วน ซึ่งจะใช้กองทุนฉุกเฉินเข้าไปช่วยเหลือประมาณ 415 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 พ.ค. 2558

    อิสราเอล ส่งทีมแพทย์ช่วยผู้บาดเจ็บแผ่นดินไหวเนปาล รักษาทุกรูปแบบ

    [​IMG]

    จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาลเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายต่ออาคาร บ้านเรือนอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 7,250 ราย บาดเจ็บ 14,122 ราย โดยวันนี้ (4 พ.ค.) เข้าสู่วันที่ 9 ในการเก็บกู้ซากปรักหักพัง พร้อมความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป

    อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ภัยพิบัติใหญ่แบบนี้ สถานที่ที่สำคัญและจำเป็นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นโรงพยาบาล ที่ต้องคอยช่วยเหลือและดูแลผู้ที่สามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุแผ่นดินไหวมาได้ และประเทศอิสราเอล เป็นอีกหนึ่งจากหลายๆ ประเทศ ที่ส่งความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์มาช่วยเหลือเนปาลอย่างเต็มที่ โดยทีมข่าวไทยรัฐ ได้ลงพื้นที่บริเวณแคมป์ของประเทศอิสราเอล ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลทหารในกรุงกาฐมาณฑุมากนัก

    ที่นี่ คือโรงพยาบาลสนามขนาดย่อมของกองทัพอิสราเอล ที่ส่งมาเพื่อช่วยเหลือพลเรือนอิสราเอลในเนปาล และผู้ประสบภัยโดยเฉพาะ ซึ่งในแต่ละวัน จะมีคนไข้มารับการรักษาประมาณ 100-300 คน และด้วยพื้นที่ขนาดพอๆ กับสนามฟุตบอล กองทัพอิสราเอลได้จัดสรรพื้นที่ของโรงพยาบาลสนาม ออกเป็นสัดส่วนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร แพทย์ หน่วยประชาสัมพันธ์ และทีมกู้ภัยรวม 280 ชีวิต

    โรงพยาบาลสนามขนาดย่อมแห่งนี้ สามารถทำการรักษาได้เทียบเท่ากับโรงพยาบาลปกติ มีตั้งแต่การลงทะเบียนคนไข้เพื่อเก็บข้อมูล แผนกฉุกเฉินสำหรับรักษาเคสเร่งด่วน ห้องแล็บยา ห้องอายุรกรรมตรวจภายนอกเบื้องต้น ห้องเอ็กซเรย์ ห้องไอซียูสำหรับคนไข้ที่บาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงผู้ใหญ่ รวมไปถึงห้องผ่าตัดที่พร้อมสำหรับเคสทุกรูปแบบ โดยทั้งหมดมาในรูปแบบของเต็นท์เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

    นอกจากนี้ ยังมีเต็นท์สำหรับคนไข้ที่จำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด 9 หลังด้วยกัน นับว่าเป็นโรงพยาบาลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และพร้อมที่จะยื้อชีวิตและรักษาคนไข้ได้ในทุกๆ รูปแบบ.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    ประกาศแล้ว! เจ้าหญิงน้อยแห่งอังกฤษ ใช้พระนาม 'ชาร์ลอตต์'

    [​IMG]

    ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ตั้งพระนามพระธิดา ซึ่งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 4 แห่งราชวงศ์อังกฤษว่า ชาร์ลอตต์ เอลิซาเบธ ไดอานา ตามการเปิดเผยของสำนักพระราชวังอังกฤษ…

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของ สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ว่า เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ตั้งพระนามพระธิดาองค์แรกของพระองค์ว่า ชาร์ลอตต์ เอลิซาเบธ ไดอานา ดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์

    ทั้งนี้ เจ้าหญิงเคททรงมีพระประสูติกาลเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เมื่อ 2 พ.ค. เวลา 08.34 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณ 14.34 น.ตามเวลาในไทย ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีในกรุงลอนดอน โดยพระธิดาทรงมีน้ำหนักแรกคลอด 8 ปอนด์ 3 ออนซ์ หรือประมาณ 3.7 กิโลกรัม

    อนึ่ง ยังไม่มีการเปิดเผยถึงที่มาของพระนามของเจ้าหญิงน้อยอย่างเป็นทางการ แต่ชื่อชาร์ลอตต์ เป็นชื่อที่เป็นเพศหญิงในทางไวยากรณ์ของชื่อ ชาร์ลส์ เป็นชื่อที่ใช้ในราชวงศ์อังกฤษมายาวนาน ชาร์ลอตต์ยังเป็นชื่อที่ได้รับความนิยมอย่างมาได้ช่วงศตวรรษที่ 18 เนื่องจากเป็นพระนามของราชินีในพระเจ้าจอร์จที่ 3

    นอกจากนี้ ชื่อชาร์ลอตต์ยังมีส่วนเชื่อมโยงกับครอบครัวของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ โดยเป็นชื่อกลางของ ปิปปา มิดเดิลตัน น้องสาวของพระองค์

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สิ่งของพระราชทานฯ จาก 'สมเด็จพระเทพฯ' ช่วยผู้ประสบภัย ถึงเนปาลแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    โฆษก ทอ. เผย สิ่งของพระราชทานฯ จาก 'สมเด็จพระเทพฯ' และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล ถึงเนปาลเมื่อช่วงสายวันนี้แล้ว และได้ทำพิธีส่งมอบให้กับรัฐบาลเนปาลไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่อไป...

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 58 พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหมได้สั่งการผ่านกองบัญชาการกองทัพไทยให้กองทัพอากาศจัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) จำนวน 2 เครื่อง นำสิ่งของพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาลส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 04.30 น. และ 05.00 น. ของวันนี้ ตามลำดับนั้น

    มีรายงานแจ้งว่าเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 ได้เดินทางถึงสนามบินกาฐมาณฑุเมื่อเวลา 09.00 น. และ 09.35 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นจึงได้ส่งมอบสิ่งของพระราชทานฯ และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาลให้กับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ และชุดช่วยเหลือของกองทัพไทย เพื่อทำพิธีส่งมอบให้กับรัฐบาลเนปาล และนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่อไป

    จากการสอบถามเรื่องปัญหาทางด้านการบินนั้น เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 เป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางและมีการติดต่อประสานเรื่องการส่งความช่วยเหลือทุกครั้งก่อนการเดินทาง จึงไม่มีปัญหาในเรื่องการส่งความช่วยเหลือทางอากาศและการลงจอดแต่อย่างใด

    สำหรับเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 ทั้ง 2 เครื่องกำหนดวิ่งขึ้นจากสนามบินกาฐมาณฑุในเวลาประมาณ 14.15 น. และ 14.16 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยมีเด็กซึ่งเป็นลูกครึ่งไทยเนปาลเดินทางกลับมาด้วย 3 คน และคาดว่าจะมาถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลาประมาณ 18.45 น. และ 18.46 น. ซึ่งจะมีญาติมารับต่อไป.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    ตื่น! งูเหลือม 3 เมตร เลื้อยซุกท่อชาวบ้านเมืองปทุมฯ

    [​IMG]

    ผวา!! งูเหลือมยาวเกือบ 3 เมตร เลื้อยเข้าไปในท่อภายในรั้วบ้านชาวบ้านเมืองปทุมธานี เจ้าของบ้านโร่แจ้งกู้ภัยจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 58 มีรายงานว่า ศูนย์วิทยุร่วมกตัญญูจังหวัดปทุมธานี รับแจ้งเหตุงูเหลือมเข้าบ้านเลขที่ 214 ซอยธรรมสุธีร์ 16 หมู่ 5 ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

    ที่เกิดเหตุ พบนางอุไร วงศ์ตลาดขวัญ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านยืนอยู่พร้อมสามีและลูกๆ โดยเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกชายตนเห็นงูเหลือมขนาดเท่าข้อมือ ยาวประมาณ 3 เมตร เลื้อยอยู่ที่รั้วข้างบ้าน ก่อนที่จะหล่นลงมาและเลื้อยเข้าไปในท่อน้ำที่อยู่ภายในรั้วบ้าน และไม่ยอมออก จึงนำกระสอบทรายมาปิดช่องหัวท้ายท่อไว้ จากนั้นในรุ่งเช้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยจับเพื่อคืนสู่ธรรมชาติ

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กตัญญูจังหวัดปทุมธานีได้พยายามช่วยกันใช้น้ำฉีดลงท่อ และนำไม้มาไล่กระทุ้งให้งูตัวดังกล่าวออกจากท่อ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถจับงูเหลือมออกมาได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กตัญญูจังหวัดปทุมธานี จะนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    หวิดโดนกัด!! สาววัย 29 ลมแทบจับ เจอลูกงูเห่าขดในรองเท้า

    [​IMG]

    สาววัย 29 จะใส่รองเท้าผ้าใบที่วางอยู่บนชั้นหน้าบ้านไปทำงาน โชคดีเหลือบไปเห็นลูกงูเห่านอนขดอยู่ในรองเท้า รีบแจ้งกู้ภัยมาจับ หวุดหวิดถูกกัดได้รับอันตราย...

    เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 4 พ.ค. 58 หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุ จาก น.ส.สุธิดา ดวงจอม อายุ 29 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 1/409 หมู่บ้านบูรพาซิตี้ ซอย 7/4 ม.14 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า พบลูกงูเห่าอยู่ภายในรองเท้าหน้าบ้าน จึงประสานอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย พร้อมอุปกรณ์ไปยังที่เกิดเหตุ พบบริเวณหน้าบ้าน มีชั้นวางรองเท้าขนาด 3 ชั้น ซึ่งมีรองเท้าวางอยู่บนชั้นทุกชั้น โดยได้ใช้ไม้ค่อยๆ เขี่ยรองเท้าจนพบลูกงูเห่า ยาวประมาณ 30 ซม. ได้เลื้อยออกมาจากรองเท้าผ้าใบมานอนอยู่ข้างรองเท้า ใช้เวลาประมาณ 2 นาที จนสามารถจับลูกงูเห่าตัวดังกล่าวนำใส่ขวดน้ำพลาสติก ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งธรรมชาติ

    ด้าน น.ส.สุธิดา เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังจะนำรองเท้าผ้าใบคู่ดังกล่าวใส่ไปทำงาน สายตาได้เหลือบไปเห็นว่ามีอะไรบางอย่างขยับอยู่ในรองเท้า จึงก้มลงไปดูจนเห็นว่าเป็นลูกงูเห่านอนขดตัวอยู่ในรองเท้า จึงรีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มาจับ ซึ่งโชคดีที่มองเห็นลูกงูเห่าก่อนใส่รองเท้า ทำให้ไม่ถูกกัดจนได้รับอันตราย.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    แม่ทิ้งลูก! ทารกแรกเกิด ได้ ‘แม่หมา’ ช่วยคาบหนีคมเขี้ยว จนรอดชีวิต

    [​IMG]

    สังคมนับวันยิ่งเสื่อม พ่อแม่ทิ้งลูกสาวแรกเกิดข้างถังขยะ ถูกสุนัขจรจัด 2 ตัวรุมฟัด ยังดีที่มีแม่หมาใจดี คาบวิ่งหนีออกมาแล้วขู่ไม่ให้เข้าใกล้ ก่อนที่จะมีคนมาเจอช่วยรอดชีวิตมาได้ ผกก.ซื้อปลอกคอสวมให้ กับไก่ย่างเป็นรางวัลหมาฮีโร่...

    เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 3 พ.ค. 58 พ.ต.ท.ประทีป ทองดี พงส.สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากนายน้อย พงศ์สาคร อายุ 63 ปี ว่าพบเด็กทารกกำลังถูกสุนัขจรจัดรุมกัดบริเวณข้างถังขยะหน้าบ้าน นางเรณู ตระกูล อายุ 65 ปี เลขที่ 115/52 หมู่ 2 หมู่บ้านพัฒนาวิว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกู้ภัยไตรคุณธรรม

    ที่เกิดเหตุ พบเด็กทารกเพศหญิงแรกเกิด น้ำหนักประมาณ 2,000 กรัม ผิวขาว เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดิน ตามลำตัวมีบาดแผลถูกสุนัขกัดเป็นรอยเขี้ยวทั้งตัว ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบทำความสะอาดให้ พร้อมกับปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.ชลบุรี

    จากการสอบถาม นายน้อย พงศ์สาคร อายุ 63 ปี เผยว่า กำลังจะเดินไปหาซื้อกับข้าว ได้ยินเสียงเด็กร้องพอมองไปตามเสียงก็เห็นถูกสุนัขสองตัวกำลังรุมกัดเด็กทารกและแย่งกันไปมาเหมือนของเล่น แต่มีสุนัขเพศเมียชื่อนังนมสด ได้คาบเด็กวิ่งออกมา

    "ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะเป็นเด็กทารกจริงๆ ทีแรกคิดว่าเป็นตุ๊กตา แต่เสียงร้องดังอย่างต่อเนื่องจึงเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ถึงเห็นเป็นทารกจริงๆ จึงได้รีบหาไม้มาไล่หมาออกไปแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วย" นายน้อย กล่าว

    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง คาดว่าคนที่นำเด็กมาทิ้งน่าจะเป็นแม่เด็ก อาจมีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ จึงได้นำมาทิ้งไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบหาตัวมาดำเนินคดีต่อไป

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 58 พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผกก.สภ.เสม็ด ได้ซื้อปลอกคอมาสวมให้สุนัขเพศเมียชื่อ ‘นมสด’ เชิดชูเป็นสุนัขฮีโร่ พร้อมกับไก่ย่างให้เป็นรางวัล ที่ช่วยคาบทารกออกจากการถูกสุนัขสองตัวรุมกัด โดยคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า หลังจากคาบทารกออกมาแล้ว ‘นมสด’ ได้คำรามขู่สุนัขสองตัวไม่ยอมให้เข้าใกล้ทารกอีก.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เปิดบ้านมดดำ ตอน พญานาค




    เผยแพร่เมื่อ 19 ต.ค. 2013​
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตำนานเพชรพญานาค






    เผยแพร่เมื่อ 4 เม.ย. 2013​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2015
  5. thummakaya

    thummakaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +634
    “ประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในโลก!!! เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นสยามเมืองยิ้ม มีดังต่อไปนี้
    1. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก ไม่ต้องกลัวอดตาย มีอาหารกินตลอดเวลา และส่งออกไปทั่วโลก
    2. ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าไม้ ภูเขา ทะเล ทองคำ จนได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ
    3. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตแผ่นดินไหวโดยตรง แนวแผ่นดินไหวอ้อมประเทศไทยทั้งประเทศ ในขณะที่เกือบทั้งโลกอยู่ในเขตแผ่นดินไหวรุนแรง
    4. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตพายุรุนแรง นานๆ จะเจอสักครั้ง เพราะพายุไต้ฝุ่นส่วนใหญ่เกิดในทะเลจีนใต้ บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มาถล่มหนักเวียดนาม ลาว เขมรและอ่อนตัวลง กลายเป็นพายุธรรมดาเมื่อเข้าประเทศไทย
    5. ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนตกเป็นอาณานิคม
    6. ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้พ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
    7. คนทุกชนชาติ และทุกศาสนาในประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
    8. ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงมีโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ โครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดาทรงก่อตั้งมูลนิธิต่างๆมากมาย เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น ทรงอุปถัมถ์พระศาสนา ภาษาไทย วัฒนธรรม ประเพณี พระราชพิธี งานช่างหลวง การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม การอนุรักษ์ดินและน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ ป่าชายเลน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ
    9. พระพุทธศาสนา เจริญที่สุดในโลกในประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะ”
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พิโรธอีก! แผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 เขย่าปาปัวนิวกินี

    [​IMG]

    ระทึกอีก..เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.4 ในทะเล นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ประกาศเตือนอาจเกิดคลื่นสูง 0.3-1 เมตร ซัดชายฝั่งปาปัวนิวกินี ในรัศมี 300 กม. จากจุดศูนย์กลางธรณีพิโรธ

    เมื่อ 5 พ.ค. 58 สำนักงานสำรวจภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ รายงานเกิดเหตุแผ่นดินไหว รุนแรงขนาด 7.4 ในทะเล นอกชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของปาปัวนิวกินี ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเวลา 13.44 น.ของวันอังคารที่ 5 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจุดศูนย์กลางธรณีพิโรธอยู่ห่างจากเมืองโกโกโป ของปาปัวนิวกินี ไปทางใต้ราว 140 กม. และมีความลึก 10 กม.

    ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ได้ประกาศเตือนภัยหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ขนาด 7.4 ทันที โดยแจ้งเตือนให้ชาวปาปัวนิวกินี ที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในรัศมี 300 กม. จากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่อาจสูง 0.3-1 เมตร ซัดชายฝั่งของประเทศปาปัวนิวกินี

    ต่อมาสำนักงานสำรวจภูมิศาตร์ของสหรัฐฯ ยังรายงานว่า ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวต่อเนื่องตามมา ขนาด 5.9 เมื่อเวลา 13.54 น. ของวันเดียวกัน ตามเวลาท้องถิ่น ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโกโกโป ระดับความลึก 65 กม.

    อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมทั้งไม่มีการเกิดคลื่นยักษ์ซัดชายฝั่งแต่อย่างใด ขณะที่ไม่มีรายงานเกิดสึนามิซัดชายฝั่งประเทศนิวซีแลนด์ เช่นกัน

    ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ของไทย มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 58 ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 7.0 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศปาปัวนิวกินี แต่ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย และหากมีข้อมูลเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ขอร้องต่างชาติ ช่วยแดนกันดาร เนปาลดูแลเมืองหลวงได้

    [​IMG]

    สถานการณ์เนปาล หลัง มหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว เริ่มกระเตื้อง แม้ยอดผู้เสียชีวิตยังพุ่งกว่า 7 พันศพ บาดเจ็บกว่า 1.4 หมื่น ราย ทางการยืนยันพร้อม รับมือต่อได้เองในพื้นที่เมืองหลวง ส่วนพื้นที่ทุรกันดารยังต้องพึ่งทีมกู้ภัยจากนานาประเทศ โดยระบุนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว มีทีมกู้ภัยถึง 34 ประเทศ รวมเจ้าหน้าที่ กว่า 4 พันคน ยื่นมือช่วยเหลือเต็มที่ ด้านองค์การอนามัยโลกชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ไทย ขณะที่ยอดเงินบริจาค “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” พุ่ง 111.88 ล้านบาท

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 4 พ.ค. ถึงความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลขนาด 7.8 แมกนิจูดตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเสาร์ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งอาคารบ้านเรือนราษฎร และโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง ทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่รอบนอก พังถล่มเสียหายจนยังไม่สามารถประเมินค่าได้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ทางการเนปาลยืนยันแล้วกว่า 7,300 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 14,300 คน ชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารราว 3 ล้านคน กลายเป็นผู้ไร้บ้านต้องออกมาอยู่ตามสถานที่พักพิงชั่วคราวกว่า 24,000 คน บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายกว่า 130,000 หลัง

    อย่างไรก็ตาม นายมิเนทรา ไรชาล รมว.กระทรวงสารนิเทศ ได้ออกมาระบุว่า ภารกิจกู้ภัยในเขตกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบเมืองหลวง ลุล่วงแล้ว ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเนปาลสามารถจัดการดูแลเองได้ หรือหากทีมงานกู้ภัยจากต่างชาติต้องการช่วยเหลือเนปาลต่อไป ก็ให้เดินทางออกไปยังพื้นที่ทุรกันดารอื่นๆ ที่ยังยากเข้าถึงและผู้คนยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปีเมื่อ 25 เม.ย. มีทีมงานกู้ภัยจากต่างชาติเดินทางเข้าเนปาลถึง 34 ประเทศ จำนวนเจ้าหน้าที่ 4,050 คน

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลจำต้องประกาศจำกัดการขึ้นลงของเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักบรรทุกมากกว่า 196 ตัน ห้ามลงจอดสนามบินนานาชาติในกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากรันเวย์ ซึ่งมีอยู่เพียงลานเดียวเกิดความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว และสนามบินถูกออกแบบมาสำหรับรองรับเครื่องบินพาณิชย์น้ำหนักบรรทุกระดับกลางเท่านั้น

    ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์และอากาศยานขึ้นลงแนวดิ่ง จำนวนรวม 6 ลำ ในภารกิจลำเลียงความช่วยเหลือเบื้องต้นไปสู่ผู้ประสบภัยตามพื้นที่ยากเข้าถึง โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. ส่วนปัญหาความล่าช้าด้านศุลกากร ทำให้สิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนมากที่ได้รับบริจาคจากนานาชาติ กลับติดค้างอยู่บริเวณสนามบินนานาชาติในกรุงกาฐมาณฑุนั้น ล่าสุดมีรายงานว่าทางการได้มีมาตรการผ่อนปรนพิธีการทางศุลกากรแล้ว

    วันเดียวกัน หน่วยงานดูแลด้านท่องเที่ยวปีนเขาแห่งชาติเนปาล ออกแถลงการณ์อ้างแหล่งข่าวชาวเชอร์ปา หรือผู้นำการเดินทางขึ้นท่องเที่ยวแถบเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือกรุงกาฐมาณฑุราว 60 กม. ว่าชาวเชอร์ปาจะยังไม่สำรวจเส้นทางใหม่เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ หลังจากเส้นทางเดิมถูกหิมะถล่มปิดทับทางระหว่างเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งท่าทีดังกล่าวส่งผลให้การท่องเที่ยวปีนเขาเอเวอเรสต์ในปีนี้ ที่จะสิ้นสุดในปลายเดือน พ.ค.ต้องยุติลงโดยปริยาย เนื่องจากนักท่องเที่ยวและนักปีนเขาจะไม่สามารถเดินขึ้นสู่เทือกเขาสูงแห่งนี้ได้เลยหากไม่มีชาวเชอร์ปาตระเตรียมเส้นทางและอุปกรณ์ในการเดินทางให้ ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 25 เม.ย. ส่งผลให้เกิดหิมะถล่มฝังกลบพื้นที่เบส แคมป์ หรือที่พักนักปีนเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอเรสต์ ทำให้หมู่บ้านที่พักนักเดินทางถูกหิมะฝังกลบถึง 55 แห่ง กองหิมะท่วมสูงถึง 6 ฟุต เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและตำรวจช่วยขุดค้นเจอร่างผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ราย เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 คน คาดว่ายังมีผู้สูญหายอีกกว่า 100 คน รวมถึงชาวรัสเซีย 12 คน ชาวอเมริกัน 9 คน

    ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือจากทางการไทย ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก ว่ากองบัญชาการกองทัพไทย หรือคณะของกระทรวงสาธารณสุข ที่ส่งไปในนามรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เน้นย้ำให้ทำงานอย่างเต็มที่ เพราะประเทศเนปาลต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้หน่วยทหารแพทย์ของเราที่ส่งไปช่วยเหลือ ได้รักษาชีวิตคนเนปาลไปกว่า 700 คนแล้ว อีกทั้งมีการส่งเครื่องทำน้ำดื่ม ผลิตน้ำแจกจ่ายคนในเนปาลไม่ต่ำกว่า 30,000 ลิตร

    ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ก็กล่าวถึงการช่วยเหลือเนปาล ว่าขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 7,056 คน บาดเจ็บ 14,123 คน บ้านเรือนพังทลาย 142,388 หลัง ได้รับความเสียหาย 155,884 หลัง จำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ 3 คน เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ และครอบครัว อีก 11 คน โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 2 ลำ นำสิ่งของช่วยเหลือเนปาล อาทิ ผ้ายาง แผ่นปูรองนอน ผ้าห่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำสะอาดและสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปประเทศเนปาล เมื่อเวลา 04.36 น. และ 04.54น.วันที่ 4 พ.ค. ขณะเดียวกัน มีคนไทยในเนปาลแจ้งว่าต้องการส่งบุตรกลับประเทศไทย 3 คน โดยจะมากับเครื่องบิน ซี-130 ขณะที่การให้ความช่วยเหลือในส่วนของไทย ประกอบด้วย หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทย ได้ให้การรักษาผู้ประสบภัยที่เมืองโตกา ซึ่งห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 5กม.จำนวน 173 คน และหน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งศูนย์ที่สินธุปาลโจกและสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 40 กม.ได้รักษาผู้ป่วย 420 ราย ร้อยละ 60 ของผู้รับการรักษามาด้วยอาการบาดเจ็บ ทั้งนี้ พบผู้ป่วยที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจมากขึ้นสำหรับทีมแพทย์เดินเท้าได้ออกปฏิบัติงานในหมู่บ้านชุมชนบนเขา 10 หมู่บ้าน ซึ่งมีประชากรราว 800 คน ได้ตรวจคัดกรองสุขภาพจิต ควบคุมป้องกันโรค และดูแลระบบสุขาภิบาลอาหารและน้ำ

    “นอกจากนี้ ทีมแพทย์ไทยได้ร่วมประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาลและศูนย์ส่วนหน้าขององค์การอนามัยโลก โดยองค์การอนามัยโลกแสดงความชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ไทยและขอบคุณรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการดำเนินงานด้านสาธารณสุข เช่น การคัดกรองสุขภาพจิตประชาชน ทำให้สามารถค้นหาผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพในระยะแรก และให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที” นายเสขกล่าว

    ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28เม.ย.-3 พ.ค. มียอดเงินบริจาคผ่านสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล รวม 111,887,641.25 บาท กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กำลังบริหารจัดการลำเลียงสิ่งของบริจาคทั้งหมดโดยเร็ว โดยนายกฯบัญชาให้กองทัพเรือศึกษาเส้นทางและท่าเรือ สำหรับลำเลียงสิ่งของเข้าสู่เขตพื้นที่ภัยพิบัติโดยเร่งด่วน ซึ่งในวันที่ 6 พ.ค.จะจัดประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมระหว่างศูนย์ประสานงานนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล และสถานทูตไทยในเนปาลเป็นครั้งที่ 2 เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    ส่วนความช่วยเหลือเนปาลผ่านคณะสงฆ์ไทย พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทธ วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระ ธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล กล่าวว่า จากการประชุมความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวอย่างเร่งด่วน ร่วมกับพระญาณปุณณิกมหาเถระ ประธานคณะสงฆ์เนปาล พระธรรมทูตไทยในอินเดีย-เนปาล พระนักศึกษาเนปาลที่ศึกษาในเมืองไทย ที่วัดวิศวะสันติวิหาร ประเทศเนปาล ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้คณะสงฆ์ไทยให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และมีบัญชาให้พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ในฐานะประธานสำนักงานกำกับดูแลพระสงฆ์ไปต่างประเทศ ให้จัดตั้งศูนย์พึ่งพิงชาวเนปาลขึ้นที่วัดศรีศากยะสิงหะวิหาร ประเทศเนปาล ภายใต้การดูแลของตนโดยความร่วมของคณะสงฆ์ไทยและคณะสงฆ์เนปาล เบื้องต้นได้จัดตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันสองฝ่าย และจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ 6 ศูนย์ ประกอบด้วย
    1.ศูนย์ส่วนราชการแบบจีทูจี สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ
    2.ศูนย์ประสานส่วนกลาง วัดไทยลุมพินี วัดไทยพุทธคยา
    3.ศูนย์การบริหารส่วนภาคพื้นที่ วัดวิศวะสันติวิหาร
    4.ศูนย์การบริหารส่วนภาคพื้นที่ วัดศรีศากยะสิงหะวิหาร
    5.ศูนย์แพทยสภา แพทย์อาสา และ
    6.ศูนย์ติดตามการให้ความช่วยเหลือของกลุ่มคนไทยจากหน่วยงานต่างๆ

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 5 พ.ค. 2558

    พระธรรมทูตสาย อินเดีย-เนปาล เยี่ยมเหยื่อแผ่นดินไหว เมืองกาฐมาณฑุ

    [​IMG]

    หัวหน้าพระธรรมทูตสาย อินเดีย-เนปาล พร้อมคณะสงฆ์ เยี่ยมเหยื่อแผ่นดินไหว หมู่บ้านธรรมวารี หมู่บ้านเก่าแก่ ในเมืองกาฐมาณฑุ พร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง นำแพทย์อาสา ตรวจรักษาชาวบ้าน ...

    เมื่อวันที่ 4 พ.ค. พระเดชพระคุณ พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล พระมหาสุพจน์ กิตฺติวณฺโณ พร้อมคณะพระธรรมทูต และคณะสงฆ์เนปาลประกอบด้วย พระครูพิศาลธรรมโสภณ พระครูปทุมธีรากร พระภิกษุนิโครธ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัย ที่หมู่บ้านธรรมวารี เมืองกาฐมาณฑุ เป็นหมู่บ้านเก่าที่เสียหายอย่างหนักอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้อาศัยประมาณ 400 ครัวเรือน บ้านเรือนพังเสียหายเกือบทั้งหมู่บ้าน บางหลังยังไม่สามารถกู้ผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้

    โดยมอบข้าวสาร 200 กระสอบ (6,000 กิโลกรัม) ถั่วดาน 2 กระสอบ(100 กิโลกรัม) จูละ(ข้าวเม่า) 20 ถุง เกลือ 400 ถุง น้ามันพืช 10 กล่อง(200 ถุง) พร้อมนำคณะแพทย์อาสา-แพทยสภา ออก หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาชาวบ้านที่ประสบภัยจำนวน 200 คน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พายุฤดูร้อนถล่ม 'อุตรดิตถ์' บ้านเรือนเสียหายยับ 785 หลัง

    [​IMG]

    พายุฤดูร้อนและลูกเห็บถล่ม ถล่มจังหวัดอุตรดิตถ์ นานกว่า 2 ชั่วโมง ช่วงกลางดึกวันที่ 4 พ.ค. ส่งผลให้บ้านเรือนเสียหายรวม 785 หลังคาเรือน ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย เป็นวาตภัยรุนแรงเป็นรอบที่ 3 ของปี...

    เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พ.ค. 58 นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอฟากท่า เปิดเผยว่า เกิดพายุฤดูร้อนและลูกเห็บถล่ม นานกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านประชาชนได้รับความเสียหาย เฉพาะหมู่ 5 บ้านห้วยลึก ต.บ้านเสี้ยว บ้านเรือนเสียหายว่า 90 หลังคาเรือน และบ้านนาหน่ำ หมู่ที่ 2 ต.ฟากท่า เสียหาย 80 หลังคาเรือน รวมทั้งหมด 4 ตำบล 24 หมู่บ้าน

    ขณะที่ ตำบลฟากท่า 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายรวม 409 หลัง ตำบลสองคอน 4 หมู่บ้าน รวม 89 หลังคาเรือน ตำบลบ้านเสี้ยว 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 223 หลัง ตำบลสองห้อง 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 64 หลัง รวมบ้านเรือนเสียหาย 785 ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย นับเป็นวาตภัยที่รุนแรงและเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ลูกเห็บตก-ฝนถล่มเมืองบึงกาฬ เสาไฟหักระเนระนาด ไฟดับพรึบ

    [​IMG]

    ฤทธิ์พายุฤดูร้อน เกิดฝนถล่ม-ลูกเห็บตกกลางเมืองบึงกาฬ สายเคเบิลขาดขวางสี่แยกไฟแดง รถติดวุ่น แถมเสาไฟหักโค่น 14 ต้น ไฟดับพรึบทั้งเมือง คาดจ่ายกระแสไฟได้เช้าวันพรุ่งนี้...

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ค. 58 เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ทำให้เกิดฝนและลูกเห็บโตขนาดเท่าหัวนิ้วก้อยตกในเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ กินเวลานานกว่า 40 นาที ทำให้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 12 และ 14 เมตร หักโค่น 14 ต้น เป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร ริมถนนสายบึงกาฬ-หนองคาย ตั้งแต่สี่แยกไฟแดง ผ่านบริษัทโตโยต้า บริษัท บิ๊ก เจียง ธนาคาร ธ.ก.ส. ร้านโชคบุญนำ จนถึงห้างสยามแม็คโคร ทำให้พนักงานและรถที่วิ่งเข้าออกตามจุดที่บริษัทต่างๆ ตั้งอยู่ ไม่สามารถนำรถเข้าออกจากบริษัทได้ เนื่องจากมีทั้งสายไฟและเสาไฟหักโค่นขวางทางเข้าออก ต้องรอให้พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดบึงกาฬ มาปักเสาเพื่อพาดสายใหม่ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

    นอกจากนี้ บริเวณสี่แยกไฟแดง พบว่ามีสายเคเบิลใยแก้วขาดร่วงตกขวางถนน ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและหน่วยกู้ภัย ต้องระดมกำลังออกมาอำนวยความสะดวก เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาตัดสายเคเบิลใยแก้วออกจากเส้นทาง ซึ่งได้สร้างความโกลาหลนานหลายนาที กระทั่งเข้าสู่สภาวะปกติ

    ด้านนายสมชาติ มูลศรี ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบึงกาฬ ได้ไปตรวจดูความเสียหาย พบว่า เสาไฟฟ้าหักโค่นถึง 14 ต้น จึงได้สั่งการเร่งระดมทีมงานออกมารื้อถอนเสาที่หัก เพื่อปักเสาต้นใหม่พาดสายไฟฟ้าให้เร็วที่สุด เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้ประชาชนและบริษัทห้างร้าน เนื่องจากยังมีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดเวลา คาดว่าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ประมาณไม่เกินเวลา 09.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    แฉเส้นทางค้า'โรฮิงญา' ขัง-ซ้อม-เรียกค่าไถ่ ตายวันละ 20 คน!

    [​IMG]

    เผยเส้นทางนรก ‘โรฮิงญา’ จากยะไข่ถึงสะเดา ชีวิตอยู่ในกำมือนายหน้า ทั้งเรียกค่าหัว ถ้ามีญาติก็จะถูกเรียกค่าไถ่ ถึงขนาดซ้อมให้ฟังเสียงร้องทางโทรศัพท์เพื่อให้รีบมาไถ่ตัว เชื่อรวมแล้วตายวันละไม่ต่ำกว่า 20 คน เคยเห็นหลุมเดียวฝัง 15 ศพ...

    เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยถึงเส้นทาง ‘ส่วยโรฮิงญา’ จากชาวโรฮิงญารายหนึ่งว่า เส้นทางเริ่มจากเมืองยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ ที่มีกลุ่มนายหน้าสั่งให้ชาวพม่าไปหาแรงงานชาวโรฮิงญาเข้ามาทำงานในประเทศไทย หรือมาเลเซีย โดยได้ค่าหัวรายละ 1,000-1,500 บาท เมื่อหาชาวโรฮิงญาได้แล้ว กลุ่มละ 20-50 คน ก็จะพาลงเรือลงไปรวมกันบนเรือใหญ่ที่จอดรออยู่กลางทะเล

    จากนั้น เมื่อเรือใหญ่รวบรวมแรงงานชาวโรฮิงญาได้มากประมาณ 300-500 คน ก็จะพามาส่งให้กับนายหน้าใหญ่ที่ จ.ระนอง ที่มีอยู่ 2-3 ราย คอยรับและเตรียมรถกระบะ รถบรรทุก 6 ล้อ นำแรงงานโรฮิงญาไปส่งให้กับนายหน้าระดับล่างอีกทอดหนึ่งที่แคมป์กักขัง อ.สะเดา จ.สงขลา ทั้งนี้ นายหน้าใหญ่ที่ จ.ระนอง จะเป็นคนเคลียร์เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานตลอดเส้นทางลงสู่ชายแดน ด้วยยอดเงินรายเดือน เดือนละหลายล้านบาท เฉพาะ จ.สงขลาจังหวัดเดียว มียอดเคลียร์สูงถึงเดือนละ 2 ล้านบาท

    “คนที่สบายที่สุดคือนายหน้าใหญ่ จะระบุค่าหัวแรงงานโรฮิงญามาเลยว่าหัวละ 3-4 หมื่นบาท ขณะที่นายหน้าระดับล่าง ที่ดูแลผลประโยชน์และมีผู้คุมเป็นลูกน้อง จะไปเรียกเงินจากญาติ เกินกว่าที่นายหน้าใหญ่สั่ง และทำเกินหน้าที่ โดยจะถามแรงงานชาวโรฮิงญาว่าใครมีญาติที่เมืองไทยหรือมาเลเซียบ้าง หากใครมีญาติก็จะขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเพื่อเรียกค่าไถ่ตัว จากเดิมที่นายหน้าใหญ่ตั้งไว้คนละ 3-4 หมื่นบาท นายหน้าระดับล่างและผู้คุมจะเรียกค่าไถ่ตัวจากญาติ ตั้งแต่ 5 หมื่นไปจนถึง 1 แสนบาท หากญาติมีเงิน ก็นำเงินมาไถ่ตัวแรงงานโรฮิงญาที่เป็นญาติของตัวเองออกมาจากแคมป์กักขังไปอยู่ด้วยกัน แต่หากใครไม่มีญาติ หรือญาติไม่มีเงินก็จะถูกกักขังรอส่งต่อไปประเทศที่ 3"

    นอกจากนี้ บางราย ผู้คุมจะมีการทุบตีชาวโรฮิงญาให้ญาติได้ยินเสียงร้องโหยหวนทางโทรศัพท์ เพื่อให้ญาติรีบหาเงินมาไถ่ตัว แต่หากไม่มีเงินมาไถ่ตัว แรงงานชาวโรฮิงญาที่ถูกทุบตีอย่างหนัก ไม่มียารักษาก็จะล้มป่วยและตายในที่สุด จากนั้นผู้คุมจะนำศพไปฝังในบริเวณแคมป์ เป็นอย่างนี้จนชินตาของชาวโรฮิงญาที่อยู่ในแคมป์เดียวกัน

    พยานยังกล่าวด้วยว่า ชาวโรฮิงญาบางกลุ่มต้องพักอยู่ในป่าเป็นเวลากว่า 1 เดือน กว่าจะได้เจอญาติ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวโรฮิงญาถึงตายกันง่ายๆ เพราะขาดอาหาร ขาดน้ำ เกิดการอ่อนเพลีย และเสียชีวิตในที่สุด ใครทนได้ก็มีชีวิตต่อไป ทนไม่ไหวก็ตายไป ตนไม่กลัวเพราะพูดความจริง แต่ละวันมีชาวโรฮิงญาตายไม่ต่ำกว่า 20 คน อย่างแน่นอน ลองคิดดูว่า เดือนหนึ่งจะตายกี่คน บางพื้นที่ฝังศพรวมกันหลุมเดียว 15 ศพ น่าสงสารมาก.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ครบ 1 ปี! แผ่นดินไหว 6.3 ชาวเชียงรายทำบุญสร้างพระองค์ใหม่

    [​IMG]

    [​IMG]

    ครบ 1 ปี ธรณีพิบัติภัยขนาด 6.3 ที่ จ.เชียงราย ชาว ต.ทรายขาว อ.พาน จุดศูน์กลางแผ่นดินไหว จัดทำบุญตักบาตรหน้าพระพุทธอุดมมงคลองค์ใหม่ สร้างแทนองค์เก่าที่เศียรหักพังมา แม่พาลูกสาววัย 1 ขวบ ที่คลอดในวันเกิดเหตุมาทำบุญด้วย...

    เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 พ.ค. 58 ที่วัดอุดมวารี ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย ได้มีประชาชนประมาณ 200 คน มาร่วมทำบุญตักบาตร บริเวณลานหน้าพระพุทธอุดมมงคล เพื่อระลึกในโอกาสครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ จนเศียรพระพุทธรูปอุมมงคลหักลงมา

    ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเย็นเวลา 18.08 น. วันที่ 5 พ.ค. 2557 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า จุดเหนือศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหวอยู่ใน ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย แห่งนี้ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดกับอาคาร ทั้งโบราณสถาน สถานที่ราชการ เส้นทางคมนาคมและบ้านเรือนของประชาชน แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง กำแพงเพชร

    พระครูอุดมวีรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดอุดมวารี กล่าวว่า การก่อสร้างพระพุทธอุดมมงคลที่เสียหายจากแผ่นดินไหว ตอนนี้แล้วเสร็จไปประมาณ 40% ในส่วนกระดูก หรือโครงสร้างเหล็ก ยังเหลือส่วนเนื้อ หนัง เอ็น หรือส่วนก่ออิฐถือปูน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 100 วัน รอช่างเข้ามาดำเนินการ โดยจะคงลักษณะรูปแบบการก่อสร้างตามแบบเดิมของพระอุดมมงคลองค์เก่า แต่จะแข็งแรงกว่าเดิมตามคำแนะนำของสภาวิศวกรแห่งชาติ

    ส่วนชิ้นส่วนบริเวณพระพักตร์ขององค์พระองค์เก่า ทางวัดได้ทำแท่นประดิษฐานเก็บรักษาไว้ด้านหน้าวัดเป็นอนุสรณ์ว่า สิ่งปลูกสร้างทางพระพุทธศาสนาของวัด ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57

    ด้านนางพรรณนิภา สุขใสบูลย์ อายุ 27 ปี เลขที่ 173 หมู่ 5 ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย อาชีพพยาบาล กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัวได้พา ด.ญ.วรรณรัตน์ สุขใสบูลย์ อายุ 1 ขวบ ลูกสาวมาทำบุญครบครบวันเกิดและระลึกครบรอบ 1 ปีเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งวันเกิดเหตุตนเองได้คลอดลูกสาว ที่รพ.ศูนย์เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยการผ่าตัดและอุ้มลูกสาวหนีลงมาจากตึกชั้น 5 ของโรงพยาบาลโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่เคยเจอมาก่อนเลยในชีวิต ทั้งที่เพิ่งคลอดลูกสาวในตอนเช้าวันนั้นเอง

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ที่มา วันฉัตรมงคล 2558 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. ยืนยัน123

    ยืนยัน123 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ใครที่ทำบาปทำกรรม เป็นกระบอกเสียงให้คนหลงเชื่อภัยพิบัติ ซื้อของต่างๆเช่นปีรามิด ลูกแก้ว ย้ายบ้าน ทำบาปแบบนี้มากๆเข้าก็จะกลายเป็นมีกรรมแบบนายเกษมนี่แหละ เมื่อมีชีวิตอยู่ก็มีแต่จิตจดจ่อแต่ภัยพิบัติ วันๆฝักใฝ่หาข่าวแต่เรื่องอัปมงคล ความวิบัติฉิบหายของมนุษย์ เมื่อตายไป บาปกรรมที่เคยทำให้คนต้องเสียเงินทองก็จะตามติดไปด้วย
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ.ณิชา ธาตุกายสิทธิ์
    (โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม)



    อัปโหลดเมื่อ 21 มิ.ย. 2011​

    อ.ณิชา ธาตุกายสิทธิ์ เผยเรื่องราว ธาตุกายสิทธิ์ อาทิ พระธาตุ,เหล็กไหล,เพชรพญานาค กับ ผู้รู้จริง อ.ณิชา ธาตุกายสิทธิ์ หรือในนาม แม่หลินพัทยา ที่ลูกศิษย์ลูกหาชาวชลบุรีรู้จักกันดี ผู้มีสายญาณบารมีแห่งแม่ศักติ และ เป็นทั้งผู้ค้าให้บูชาธาตุศักดิ์สิทธิ์ มากมายที่พัทยา
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว


    อัปโหลดเมื่อ 28 มี.ค. 2011​
     
  11. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    สาธุครับ
     
  12. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    มีปัญญาซื้อบ้านซื้อเลย หนีภัยพิบัติ มีปัญญาซื้อสารพัดกันภัยพิบัติซื้อเลย คนมันเงินเยอะ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เป็นเรื่อง! ฟิลิปปินส์ฉุนขาด เตรียมเนรเทศหนุ่มไทยโพสต์เหยียดในเฟซบุ๊ก

    [​IMG]

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฟิลิปปินส์ "ไม่เอาไว้" ดำเนินการเตรียมเนรเทศ หนุ่มไทยทำงานอยู่ในฟิลิปปินส์แล้ว แจ้งข้อหาเป็น‘บุคคลไม่พึงประสงค์’ หลังไปโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมในเฟซบุ๊ก ดูถูกเหยียดหยามชาวฟิลิปปินส์หลายอย่าง

    เมื่อ 6 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวครึกโครม นายโกสินทร์ ประเสริฐศรี หนุ่มไทยที่ไปทำงานอยู่ในฟิลิปปินส์ มานาน 3 ปี กำลังเผชิญหน้ากับการโดนเนรเทศออกจากฟิลิปปินส์แล้ว หลังได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ด้วยการใช้ถ้อยคำในเชิงดูถูก เหยียดหยามชาวฟิลิปปินส์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกว่า พวก ‘Pignoys’, ‘สัตว์ประหลาดที่โง่เง่า’, ‘พวกทาสในสลัมชั้นต่ำ’ และ ‘พวกชนชาติที่ไร้ค่าบนโลกใบนี้’

    ข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 58 เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ (Bureau of Immigration) หรือ BI ได้ดำเนินการแจ้งข้อหาแก่ นายโกสินทร์ ประเสริฐศรี ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ว่า "โกโก้ น่ารัก" เป็นบุคคลผู้ไม่พึงประสงค์ อันเป็นขั้นตอนในกระบวนการเนรเทศนายโกสินทร์ออกจากฟิลิปปินส์แล้ว

    โดยนายอีเลน ตัน โฆษกประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ ชี้แจงว่า ตามข้อมูลของทางการฟิลิปปินส์ นายโกสินทร์ทำงานอยู่ในฟิลิปปินส์ ด้วยการถือวีซ่า ประเภท "คนอยู่ชั่วคราว" (non-immigrant Visa) ตามมาตรา 47(a)(2) ของกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ ซึ่งวีซ่าประเภทนี้สามารถถูกยกเลิกได้ หากมีการระบุว่าเป็นบุคคลอันไม่พึงประสงค์

    โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ กล่าวต่อไปว่า นายโกสินทร์จะได้รับอนุญาตให้แก้ต่างข้อกล่าวหาได้ และหากนายโกสินทร์ตัดสินใจจะสู้คดีนี้ เขาจะต้องให้การชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนพิเศษ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฟิลิปปินส์ ซึ่งตนก็ไม่อาจจะบอกได้ว่า ต้องใช้เวลาในกระบวนการนี้ยาวนานเท่าใด และบางทีอาจเป็น 2-6 เดือน ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับหลักฐานที่นายโกสินทร์จะนำมาชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนของ BI

    ข่าวแจ้งว่า นายโกสินทร์ ซึ่งใช้ชื่อในบัญชีเฟซบุ๊กว่า "โกโก้ น่ารัก" (Koko Narak) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของประชาคมอาเซียน หรือ อาเซียน คอมมูนิตี้ (ASEAN Community) ซึ่งบางความเห็นของเขา ได้วิจารณ์รสชาติอาหารของร้าน Jollibee ซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดอันดับต้นๆในฟิลิปปินส์ ว่า มี "รสชาติงี่เง่า"

    ด้านบริษัท คอกนิแซนต์ ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่นายโกสินทร์ทำงานมานาน 3 ปี ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เมื่อ 3 พ.ค.ว่า ทางบริษัทจะไม่ยอมให้พนักงานของบริษัท แสดงความไม่รับผิดชอบ รวมทั้งแสดงความดูถูกเหยียดหยามเชื้อชาติ พร้อมระบุว่าทางบริษัทจะดำเนินการกับนายโกสินทร์ ที่ได้แสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว

    อย่างไรก็ตาม นายโกสินทร์ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับการโดนเนรเทศออกจากฟิลิปปินส์ ได้กล่าวขอโทษต่อชาวฟิลิปปินส์ ที่เขาได้โพสต์ข้อความเหล่านี้ พร้อมชี้แจงว่า เป็นเพียงแค่การ "หยอกล้อ" พร้อมกับบอกว่า บริษัท คอกนิแซนต์ ได้ดำเนินการลงโทษเขาแล้ว

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    ค้น 'เอเวอเรสต์' กลืน 200 นักปีนเขา ยอดศพพุ่งไม่หยุด

    [​IMG]

    เผยเนปาลซาบซึ้งหลังรับมอบสิ่ง ของพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เนปาลระบุพุ่งสูงถึง 7,557 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 14,536 คน เชื่อผู้เสียชีวิตยังจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก ส่วนนักนิยมปีนเขาเอเวอเรสต์อาจฝันสลาย ฤดูกาลปีนเขาปีนี้อาจสิ้นสุดเพราะแผ่นดินไหวเป็นต้นเหตุ ด้านการกู้ศพนักปีนเขาที่ถูกหิมะถล่มทับตายยังทำได้อย่างยากเย็น เพราะขาดอุปกรณ์สำคัญในการค้นหาศพ ที่ยังหาไม่พบกว่า 200 ศพ

    หลังผ่านพ้นภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด ที่กลืนกินชีวิตชาวเนปาลไปกว่า 7,500 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 15,000 คน ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจชาวโลก เมื่อ 10 วันที่ผ่านมา ขณะนี้เนปาลกำลังเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการฟื้นฟูชาติ เพื่อให้มวลประชาชนในแผ่นดินเนปาลกลับสู่สภาวะการใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง

    ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคารที่ 5 พ.ค. อ้างถ้อยแถลงจากคณะกรรมการฉุกเฉินด้านภัยพิบัติแห่งอังกฤษ หรือดีอีซี เตือนภัยความเสี่ยงเกิดโรคระบาด ในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาลตั้งแต่ 25 เม.ย. เนื่องจากผู้ประสบภัยที่ รอดชีวิตจำนวนมากยังขาดแคลนที่พักอาศัยถูกสุขลักษณะ ต้องขับถ่ายของเสียจากร่างกายตามสถานที่โล่งแจ้ง อีกทั้งอาจบริโภคอุปโภคแหล่งน้ำปนเปื้อนเชื้อโรคที่จะนำไปสู่การเกิดโรคระบาด อาทิ ท้องร่วง โรคบิดหรือโรคอื่นๆ ขณะที่หน่วยงานภายใต้การดูแลของดีอีซีจาก 12 องค์กรการกุศลอยู่ระหว่างช่วยดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเร่งจัดหาดูแลสถานที่พักพิงชั่วคราวของชาวบ้านผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงจัดหาน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค ทั้งแนะนำผู้ประสบภัยให้หมั่นล้างมือ ทุกฝ่ายจำเป็นต้องเร่งดำเนินการในช่วงนี้เนื่องจากสถานการณ์อาจเลวร้ายลงอีกเมื่อถึงช่วงฤดูมรสุมที่จะมาถึงในช่วงต้นเดือน มิ.ย.

    ขณะเดียวกัน ทางการเนปาลได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด เขย่าพื้นที่ภาคกลางของประเทศอย่างเป็นทางการเพิ่มเป็นกว่า 7,557 ราย ผู้บาดเจ็บมากกว่า 14,536 คน คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตยังจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก เพราะอีกหลายพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเนปาลได้ใช้กำลังทหารและตำรวจทั่วประเทศมากกว่า 131,500 นาย ร่วมภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเปลี่ยนภารกิจจากการกู้ภัยเป็นเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูสภาพความเสียหาย ร่วมมือกับหน่วยงานความช่วยเหลือจากต่างชาติมากกว่า 100 คณะ

    ส่วนความคืบหน้าภารกิจเร่งค้นหาผู้สูญหายบริเวณหุบเขาลางตาง อยู่ห่างกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศเหนือราว 60 กม. เป็นสถานที่พักยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวปีนเขาและชมทิวทัศน์เทือกเขาหิมาลัย รวมถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งถูกหิมะถล่มระหว่างเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ทำให้บ้านเรือนที่พักบริเวณนั้นราว 60 หลัง ถูกหิมะถล่มกวาดหายไปเกือบทั้งหมด ได้รับการเปิดเผยจาก นายกัวตัม ไรมาล เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นเผยว่า ทีมงานอยู่ระหว่างขุดค้นหาผู้สูญหาย พบศพแล้วกว่า 100 ราย รวมถึงชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 ราย คาดว่ายังมีผู้สูญหายบริเวณนั้นมากราว 200 คน แต่พื้นที่ดังกล่าวยังยากที่จะเข้าถึง เพราะต้องเดินเท้านานถึง 2 วันเข้าไปจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด ทำให้ยากยิ่งที่จะค้นหากู้ศพได้ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ การเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้เร็วที่สุดคือต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ แต่รัฐบาลเนปาลไม่มีเฮลิคอปเตอร์มากเพียงพอที่จะดำเนินการดังกล่าว นอกจากนั้น เหตุหิมะถล่มเพราะแผ่นดินไหวบริเวณพื้นที่เบสแคมป์ ทางขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ ส่งผลให้เส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกหิมะถล่มทับเสียหาย ทำให้ฤดูกาลปีนเขาเอเวอเรสต์ในปีนี้อาจต้องสิ้นสุดลงอย่างไม่เป็นทางการ

    ขณะเดียวกัน รัฐบาลบังกลาเทศแถลงระบุแผ่นดินไหวในเนปาลเมื่อ 25 เม.ย. ส่งผลให้โรงงาน สิ่งทอในบังกลาเทศอย่างน้อย 3 แห่ง โครงสร้างอาคารเสียหายแตกร้าวต้องถูกสั่งปิดดำเนินการเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวคร่าชีวิตชาวบังกลาเทศด้วย 2 ราย ส่วนที่ปาปัวนิวกินี ชาติหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีรายงานเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูด เมื่อช่วงวันอังคารที่ 5 พ.ค. ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดความสูง 1 เมตร พัดเข้าหาชายฝั่ง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยมีเพียงรายงานว่าเสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนหนึ่ง

    วันเดียวกัน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาลว่า ขณะนี้จำนวนยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเท่าที่ได้รับรายงานมาคือ 6,276 คน บาดเจ็บ 14,362 คน บ้านเรือนพังทลาย 200,552 หลัง ได้รับความเสียหาย 186,285 หลัง ขณะนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวไทยมาขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุแล้ว ส่วนเด็กไทย 3คน ที่พ่อแม่ขอให้เดินทางกลับไทยด้วยเครื่องบิน ซี-130 เดินทางถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ทั้งนี้กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน ซี-130 อีก 2 ลำ นำสิ่งของจำเป็นไปยังเนปาล โดยจะออกเดินทางจากท่าอากาศ– ยานกองทัพอากาศช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ค. พร้อมกันนี้สถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย จะฝากส่งผ้าพลาสติกขนาดใหญ่ และสิ่งของจำเป็นอื่น จำนวน 2 ตัน ไปพร้อมกันด้วย

    นายเสขกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค. นายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ ได้ส่งมอบของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 7 ตัน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาล ประกอบด้วย เต็นท์ ผ้าห่ม ยา ข้าวสาร เตาแก๊ส ที่นอน อาหารกระป๋อง แก่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเนปาล และอธิบดีกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศเนปาล ในฐานะผู้แทนรัฐบาลเนปาลในการรับมอบ ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดยฝ่ายเนปาลได้กล่าวซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือให้แก่เนปาล ซึ่งประสบความเสียหายเป็นอย่างมากจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

    นอกจากนี้ คณะแพทย์จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้นำวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 110 เข็ม มาฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และลูกจ้าง พนักงานการบินไทยและคนไทยที่พักอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตฯ สำหรับการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย มีหน่วยแพทย์ทหารลงพื้นที่ที่หมู่บ้าน Chapadi Bhatrakali โดยได้รักษาด้านทันตกรรมแก่เด็กในหมู่บ้าน 100 คน ส่วนทีมแพทย์ไทยที่โรงพยาบาลสนามตำบลซิปปะกัต ก็รักษาพยาบาลคนไข้ 135 คน อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขจะส่งทีมแพทย์ชุดที่ 2 ไปเนปาลในวันที่ 7 พ.ค. เพื่อผลัดเปลี่ยนกับทีมแพทย์ชุดแรกที่โรงพยาบาลสนาม ตำบลซิปปะกัต สำหรับเงินบริจาคเข้าบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ณ เวลา 16.00น. ในวันที่ 4 พ.ค. มีจำนวน 116,069,186.82 บาท

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 พ.ค. 2558

    ทีมกู้ภัยนานาชาติในเนปาล เริ่มทยอยเก็บของกลับประเทศ

    [​IMG]

    ทีมกู้ภัยนานาชาติ ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ค้นหาผู้รอดชีวิต และช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล เริ่มทยอยเก็บของกลับ แม้ล่าสุด รมต.กระทรวงสารสนเทศของเนปาล จะออกมาประกาศ จะไม่มีการส่งกลับกู้ภัยนานาชาติ และสามารถอยู่ต่อได้ตามต้องการ ...

    เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายจอมพล ดาวสุโข ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี รายงานสดผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม จากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล หลังเดินทางไปตรวจสอบค่ายเจ้าหน้าที่กู้ภัยขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สนามบินตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ พบว่า ทีมกู้ภัยจากนานาชาติทยอยเก็บของเพื่อกลับประเทศแล้ว หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลเนปาลประกาศส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากนานาชาติกลับประเทศทั้งหมด แม้ว่าล่าสุดนั้น รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของเนปาล จะออกมาประกาศว่า กระแสข่าวดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง และไม่มีการส่งกลับเจ้าหน้าที่กู้ภัยนานาชาติ และยังอยู่ได้ตามต้องการ

    ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากชาติยุโรปคนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลมีปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะการประสานงาน และการสื่อสารที่ไม่ดีพอ ทำให้ภารกิจกู้ภัยเผชิญกับอุปสรรค การถอดภารกิจกู้ภัยจากนานาชาติ ออกจากค่ายเจ้าหน้าที่กู้ภัย องค์การสหประชาชาติในวันนี้ รวมถึงทีมกู้ภัยของไทยด้วย ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางกลับด้วยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.)

    สำหรับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากชาติต่างๆ กว่า 37 ประเทศ ที่เดินทางมาช่วยผู้ประสบภัย รวมถึงการค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังนั้น มีทั้งสิ้นกว่า 4,000 คน สุนัขดมกลิ่น 129 ตัว นอกจากนี้ยังมี แพทย์และเจ้าหน้าที่แพทย์ประมาณ 700 คน โดยชาติที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามามากที่สุด คือ อินเดีย 962 คน จีน 370 คน อิสราเอล 286 คน สิงคโปร์ 106 คน ญี่ปุ่น 98 คน สหรัฐฯ 94 คน นอกจากนี้ยังมีทีมจาก ฝรั่งเศส สเปน เยอรมนี อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมถึงทีมกู้ภัยจากไทย

    ขณะที่เนปาล มีเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกสำหรับกู้ภัยโดยเฉพาะราว 1,140 คน แบ่งเป็น ตำรวจติดอาวุธ 700 นาย ตำรวจ 240 นาย ทหาร 200 นาย นอกจากนี้ ทีมไทยรัฐ ยังได้ลงพื้นที่ เมืองซาคูว์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองกาฐมาณฑุ ไปประมาณ 14 กม. ซึ่งเป็นเมืองการค้าเก่า พบว่าได้รับความเสียหายอย่างมาก จากเหตุแผ่นดินไหว โดยในอดีต เมืองซาคูว์ ถือเป็นทางผ่านของพ่อค้าแม่ค้า ที่จะไปทำการค้าในทิเบต ซึ่งแม้จะผ่านไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์แต่ชาวบ้านที่นี่ยังรอคอยความช่วยเหลือ

    ทั้งนี้ ชาวบ้านบางส่วนลงมือรื้อค้นซากปรักหักพัง เพื่อหาสิ่งของที่พอนำมาประทังชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็มีความช่วยเหลือจากองค์กรด้านการแพทย์ อาทิ องค์กรเมอร์ซี (MERCY) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแล ผู้ที่ประสบภัยพิบัติทั้งร่างกาย และจิตใจ ซึ่งในแต่ละวัน ก็จะมีชาวบ้าน เดินทางมาเข้ารับการรักษามากถึงวันละ 200 คน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 พ.ค. 2558

    ที่มา www.thairath.co.th
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2015
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหว 4.6 ริกเตอร์ ใกล้ภูเก็ต ชาวเล อพยพ!

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวในทะเล ใกล้เกาะยาว จ.พังงา ขนาด 4.6 ช่วงเช้ามืดวันที่ 6 พ.ค. คนภูเก็ตนอนหลับอยู่ในบ้าน บอกรู้สึกเหมือนมีรถบรรทุกวิ่งผ่าน นานราว 5-6 วินาที ส่วนชาวเลแหลมตุ๊กแกตกใจ พาลูกหลาน คนชรา อพยพไปอยูในศูนย์หลบภัยสึนามิ...

    ภายหลังจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้แจ้งว่า เมื่อเวลา 04.18 น. วันที่ 6 พ.ค. 58 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.6 ลึก 4 กิโลเมตร บริเวณตอนใต้เกาะยาว ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต (ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 18 กม.) รู้สึกสั่นไหวหลายพื้นที่ใน จ.พังงา ภูเก็ต และกระบี่ เบื้องต้นไม่มีรายงานการเตือนภัยสึนามิ

    ขณะที่ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.ภูเก็ต เผยว่า ได้รับรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวศูนย์กลางอยู่บริเวณเกาะยาว จ.พังงา รับรู้ถึงแรงสั่นไหว ได้นานประมาณ 2-3 วินาที ระดับน้ำทะเลยังอยู่ในระดับปกติ ซึ่งอยู่ในขั้นของการเฝ้าระวัง โดยยังไม่มีการเตือนภัยใดๆ จากศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านและอาคารต่างๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้เหมือนกับมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านอาคาร ราวๆ 5-6 วินาที โดยเฉพาะประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยด้านทิศตะวันออกของ จ.ภูเก็ต หรือใกล้กับศูนย์กลางจะสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้มาก เช่น พื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง ต.ป่าคลอก ต.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่สูง หรืออยู่บนอาคาร ที่มีความสูงเกิน 2 ชั้นขึ้นไป จะรับรู้การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

    ขณะเดียวกัน ที่หมู่บ้านชาวไทยใหม่ หรือชาวเล บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นหนึ่งจุดที่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนชาวบ้านหลายครอบครัวต้องหอบหิ้วลูกเด็กเล็กแดง คนชรา และสิ่งของเครี่องใช้ที่จำเป็น ออกจากบ้านไปยังโรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา ซึ่งเป็นจุดใช้ในการอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติสึนามิ ห่างจากหมู่บ้านราว 2 กม. ก่อนที่จะได้รับการยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบ และกลับเข้าบ้านของตนเองเมื่อเกือบรุ่งเช้า ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการตกใจ

    ชาวบ้านคนหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ครั้งนี้ถือว่ามีการสั่นไหวรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องรีบออกจากหมู่บ้านไปยังจุดปลอดภัย แต่เมื่อได้รับการยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ และไม่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงกลับที่บ้านตามเดิม แต่ยังคงมีการเก็บสัมภาระและกระเป๋า ของมีค่าไว้ก่อน เผื่อเกิดแผ่นดินไหวอีก โดยชาวไทยใหม่บางคนได้ไปเฝ้าอยู่ที่ชายหาดเพื่อคอยสังเกตระดับน้ำทะเลบริเวณชายหาดแหลมตุ๊กแก หลายรายยังกังวล เนื่องจากในบ้านมีทั้งเด็ก และคนชราที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

    ส่วนที่ จ.กระบี่ นายกีรติ เนื้อน้อย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนคอนโดฯ กลางเมืองกระบี่ เล่าว่า นอนพักอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน โดยรับรู้ว่ามีแรงสั่น และสิ่งของเครื่องใช้บางอย่างโยกไปมา ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น เกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ เบื้องต้นยังไม่มีการแตกตื่น หรืออพยพแต่อย่างใด.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    เสียวอีก! แผ่นดินไหว 3.2 ใกล้เกาะยาว ชี้เป็น 'อาฟเตอร์ช็อก'

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวในทะเลใกล้เกาะยาว ของ จ.พังงา อีก วัดความแรงได้ 3.2 ลึกลงไปแค่ 1 กม. เป็นอาฟเตอร์ช็อกจากเหตุ ‘เมนช็อก’ขนาด 4.6 ที่เกิดในช่วงเช้ามืด...

    เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 6 พ.ค. 58 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้รายงานเหตุแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 3.2 ความลึก 1 กม. บริเวณ อ.เกาะยาว จ.พังงา เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความรู้สึกสั่นไหว และไม่มีการเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 04.18 น. วันเดียวกัน ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.6 ความลึก 4 กม. บริเวณตอนใต้เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันนี้ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในหลายพื้นที่ทั้งใน จ.ภูเก็ต จ.พังงา และ จ.กระบี่

    อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวขนาด 3.2 ล่าสุดนี้ มีรายงานยืนยันแล้วว่า เป็นอาฟเตอร์ช็อกจากเหตุเมนช็อกในครั้งแรก.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    เศร้า! ฝนถล่มนครพนม ฟ้าผ่าอดีต ผช.ผู้ใหญ่ ดับพร้อมเมีย

    [​IMG]

    เกิดพายุฤดูร้อนถล่มนครพนม บ้านเรือนเสียหายยับ ฝนถล่มหนัก ฟ้าผ่าอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตพร้อมเมีย กลางทุ่งนา ด้าน ปภ.ประกาศเตือนห้ามชาวบ้านอยู่กลางทุ่งนาช่วงฝนฟ้าคะนอง...

    วันที่ 6 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงแปรปรวน เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง มีลมพายุพัดแรง ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหายกว่า 100 หลัง นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุฟ้าผ่าควายและวัวแม่ลูกอ่อนของชาวบ้าน ตายรวม 4 ตัว

    ขณะเดียวกัน นายวีรวัฒน์ ยี่สารพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย หลังพายุฝนสงบลง พบว่า มีชาวบ้านสองสามีภรรยาถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตบริเวณกระท่อมนา ในเขตบ้านขอนกอง หมู่ 10 ต.หนาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสมพงษ์ ศรีสร้อย อายุ 49 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และภรรยา คือ นางสมพร ศรีสร้อย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 10 บ้านของกอง ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และชันสูตรศพหาสาเหตุ

    นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่า สองสามีภรรยาถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุ ทราบว่า สองสามีภรรยา ได้ไปหว่านข้าว เตรียมกล้าทำนาปี แต่หลังเกิดฝนตกหนัก จึงพากันเข้าไปนั่งหลบฝนในกระท่องนา ซึ่งตั้งอยู่ในทุ่งนาโล่งกว้าง จากนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าสองผัวเมียจะถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต จนกระทั่งผิดสังเกต เพราะถึงค่ำยังไม่กลับบ้าน ญาติจึงไปติดตามหา ก็พบเสียชีวิตในกระท่องนาทั้งสองคน

    สร้างความเศร้าสลดให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในหมู่บ้าน ที่สำคัญทั้งสองยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำไร่ ทำนา รับจ้างเลี้ยงครอบครัว ต้องดูแลพ่อที่แก่ชรา มีลูกชายเพียง 1 คน แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่ฐานะยากจน ส่งผลกระทบความเป็นอยู่ของครอบครัวซ้ำเติมไปอีก โดยทางเทศบาลจะได้หารือส่วนเกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือต่อไป เพราะตามระเบียบทางราชการ กรณีเหตุฟ้าผ่าจะไม่ได้รับเงินดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐเลย

    ทั้งนี้ ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเตือนไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังการเกิดพายุ เนื่องจากปีนี้อากาศแปรปรวน เสี่ยงต่อการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองบ่อย โดยเฉพาะเกษตรกร รวมถึงสัตว์เลี้ยงการเกษตร หากมีฝนตกไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง และควรหลบเข้าที่พักอาศัยที่ไม่อยู่ในที่โล่งแจ้ง ที่จะเสียงต่อการเกิดฟ้าผ่าได้

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน! สาวโผล่ขอโทษ โพสต์เฟซแจกกล้วย ตร.

    [​IMG]

    สาวรุ่นอารมณ์ร้อนที่โพสต์เฟซบุ๊กแจกกล้วยตำรวจ พร้อมข้อความทำนองดูหมิ่น หลังตั้งด่านจับแฟนหนุ่มข้อหาเมาขับ ล่าสุด โผล่ขอโทษสายตรวจคู่กรณีแล้ว แม้จะยกโทษให้ แต่ข้อหา "ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน" เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ต้องส่งฟ้องศาล..

    กรณีมีหญิงสาว ใช้ชื่อ Fb'Bee Beizz โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เป็นข้อความดูหมิ่น ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ ศรีทับทิม เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ขณะตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ เมื่อคืน 3 พ.ค. 2558 ระหว่างเวลา 02.00-04.00 น. บริเวณหน้าสวนบวกหาด ถนนบำรุงบุรี ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    ทั้งนี้ ในคืนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายวิศิษฐ์ (แฟนหนุ่ม) ซึ่งขับรถเก๋งผ่านด่าน ข้อหาเมาแล้วขับ โดย ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ ศรีทับทิม เป็นผู้ใช้เครื่องทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ ทำการตรวจสอบ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 71 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิศิษฐ์ เป็นเหตุให้หญิงสาวที่นั่งมากับนายวิศิษฐ์ไม่พอใจ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ก่อนโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วยถ้อยคำหยาบคาย ให้ของลับ รวมทั้งข้อความในเชิงดูหมิ่น

    ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 58 ที่ สภ.เมืองเชียงใหม ได้มี น.ส.ฉาย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ราษฎร ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มาพบ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ รับว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อ Fb'Bee Beizz พ.ต.อ.วีระยุทธ จึงได้เรียก ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ ผู้เสียหาย ให้มาพบกับ น.ส.ฉาย ซึ่งได้ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวคำขอโทษ

    น.ส.ฉาย กล่าวว่า เข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีแล้ว ซึ่ง ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ ได้ยกโทษให้ แต่บังเอิญว่าคดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความกันได้ น.ส.ฉาย ก็เข้าใจดี ทางพนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงนัดให้มาพบเพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการ ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 7 พ.ค. 58 เวลา 09.00 น.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    ฮือฮา! พญาควายให้โชคหลายงวดติด คนขอซื้อหลักแสนไม่ขาย

    [​IMG]

    “เจ้าดอกแก้ว” พญาควาย อายุ 32 ปี ลักษณะรูปร่างตรงตำรา ให้โชคเจ้าของมาแล้วหลายงวดติด ถึงขั้นมีคนมาถามซื้อหลักแสนบาท แต่ไม่ยอมขาย เนื่องจากรักเหมือนลูก จะเลี้ยงไว้จนสิ้นจากกัน...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผือ หมู่ 6 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หลังทราบว่ามีพญาควายอายุ 32 ปี ให้โชคเจ้าของประจำ เมื่อไปถึงพบควายตัวผู้กำลังเดินเล็มหญ้าอยู่กลางทุ่งนาท้ายบ้านผือ มีลักษณะสูงใหญ่ ชาวบ้านที่ผ่านไปมาได้แวะมาถ่ายรูป เนื่องจากหาดูได้ยาก และจะพบเห็นอยู่ในฟาร์มที่เลี้ยงเท่านั้น

    นางแก้ว หลงสมบัติ อายุ 70 ปี เจ้าของควายตัวนี้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมีควายเลี้ยงเป็นฝูงกว่า 10 ตัว แต่ได้ทยอยขายไป เพราะต้องหาหญ้ามาให้กินและปล่อยให้ไปกินบ้างเป็นบางครั้ง ตนเลี้ยงไม่ไหวลูกหลานจึงบอกให้ขายเหลือเพียงแค่พญาควายตัวนี้โดยได้ตั้งชื่อมันว่า “ดอกแก้ว” ซึ่งมีเขาทั้งสองข้างยาวโค้งลงมาข้างละ 1.50 เมตร ลักษณะตัวใหญ่สูง หน้าดอก หางดอก กรีบเท้าด่าง หางแบน ตรงกับตำราของโบราณว่าเป็นพญาควาย ใครมีควายลักษณะดังกล่าว จะมีความสุขความเจริญจะให้โชคลาภ ตนเคยถูกเลขท้าย 3 ตัว มาแล้วหลายครั้ง มีคนมาถามซื้อเจ้าดอกแก้วหลายครั้งให้ราคาถึงหลักแสนบาท ตนก็ไม่ยอมขายเพราะรักเหมือนลูก

    นางแก้ว เปิดเผยต่อว่า ปู่ ย่า ตา ยาย เคยบอกไว้ว่า ถ้าเราขายพญาควายไปนั้น คนเลี้ยงที่ขายก็จะล่มจม ฉิบหาย ผู้ซื้อไปก็จะทุกข์ยากด้วย ตนจะเลี้ยงเจ้า “ดอกแก้ว” จนกว่าจะตายจากกัน หากตนตายก่อน ก็จะสั่งให้ลูกหลานเลี้ยงไว้ ซึ่งถ้ามันตายไปตนก็จะจัดพิธีฌาปนกิจทำศพเหมือนกันกับคน จะนิมนต์พระมาสวดด้วย เพราะตนถือว่าเจ้าดอกแก้วเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยทุกวันตนจะจูงเจ้าดอกแก้วมากินหญ้า ที่ทุ่งนาบริเวณแห่งนี้ทุกวัน พอมีคนผ่านไปมาเห็นเจ้าดอกแก้วก็จะลงมาถ่ายรูปทุกวันที่มาพบเห็น

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558

    ที่มา www.thairath.co.th
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วันชำระโลก

    [​IMG]

    พระบิดาแห่งจักรวาล ได้เลือกวันใดวันหนึ่งเอาไว้แล้ว สำหรับให้เป็นวันที่อพยพการกลับมาของชาวโลก (หลังจากอพยพออกไปในระหว่างการชำระโลก) และดาวเคราะห์โลกจะย้ายไปอยู่ในมิติที่สูงขึ้น ในชั่วโมงนี้ เรา แอชต้า ผู้บัญชาการกองทัพใหญ่แห่งจักรวาล ต้องการแจ้งข่าวนี้ให้แก่ท่าน

    เราอยากจะแสดงความขอบคุณประชาชนชาวสาธารณรัฐเช็กผู้ที่ติดต่อกับเรา และช่วยเผยแพร่ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แก่คนอื่นๆได้ทราบด้วย ซึ่งนั่นจึงทำให้คลื่นความสั่นสะเทือนของผู้คนเหล่านี้สูงขึ้น มีชาวโลกจำนวนมากที่จะถูกช่วยชีวิตก่อนที่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้น โอกาสสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้ว เครื่องวัดของพวกเราวัดค่าของคลื่นความสั่นสะเทือนด้านลบที่อยู่ในบรรยากาศ ของจักรวาลได้ค่าที่เลวร้ายที่สุด ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ที่เกิดจากคลื่นความสั่นสะเทือนด้านลบ

    พวกเราพร้อมแล้วที่จะให้การต้อนรับชาวโลก ผู้ที่จะได้รับการช่วยชีวิต ตัวเราเองมีความเชื่อมั่นว่า กระบวนการทั้งหมดจะประสบความสำเร็จด้วยดี และเราก็เชื่อว่าจะได้ช่วยชีวิตชาวโลก ผู้ที่สามารถพบทางสว่างสู่พระบิดาได้ในวินาทีสุดท้ายด้วย เราหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น ชาวโลกทุกคนที่ถูกเลือกไว้ จะตามเสียงจากข้างในตนเอง (ไม่ว่าจะด้วยทางโทรจิตหรือทางอื่นใดก็ตาม) ออกมาข้างนอก หากผู้ใดยังลังเลอยู่ ก็อาจจะต้องเป็นผู้โชคร้ายไป เพราะเวลามีไม่มากนัก คำเตือนจะถูกส่งไปถึงผู้ที่สมควร จะได้ไปอยู่ในมิติที่สูงขึ้นทุกๆคน

    จะมีอยู่หลายสถานที่ที่ชาวโลกจะถูกพาไปอยู่รวมกัน และก็เป็นไปได้ว่าบางคนอาจจะไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ ดังนั้น ท่านที่รู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว กรุณาบอกต่อๆ กันไปให้ผู้อื่นได้รับทราบด้วย เพื่อให้พวกเขาสบายใจได้และเชื่อมั่นในพลังแห่งความรัก อย่ากลัว เพราะพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา และพวกท่านทุกๆคนก็เป็นประชาชนของพระองค์ ซึ่งแม้แต่ตัวเราเอง ยังต้องขอประทานความเมตตา และความช่วยเหลือจากพระองค์ ชาวจักรวาลได้มีการเตรียมการอพยพชาวโลกมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่อาจจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนในการชำระโลกเกิดขึ้น การอพยพสัตว์ต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปบ้างแล้ว เพื่อให้เสร็จสิ้นในเวลาไม่กี่ปี

    ท่านได้ถามเราใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ท่านรู้แล้วนี่ที่มีผู้เขียนไว้ว่า “ลูกไฟจะตกจากฟากฟ้า” นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนนั้น ชั้นบรรยากาศของโลกจะถูกเผาไหม้ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยเมฆสีดำของความคิดด้านลบที่พวกท่านสร้างขึ้นมา แกนของโลกจะถูกกลับด้าน และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง จะทำให้แผ่นทวีปต่างๆ เคลื่อนตัว ไฟจะเผาไหม้กระแสพลังความคิดด้านลบทั้งหลายให้หมดไป และเมื่อนั้นโลกก็จะสามารถเข้าสู่ยุกต์ของมิติที่สูงขึ้นได้

    ชาวโลกที่ถูกช่วยชีวิต จะถูกย้ายให้ไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่น ที่ถูกเตรียมไว้ แล้วเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่นั่นชาวโลกจะถูกสอน จากนั้นพวกเขาก็จะถูกพากลับลงมาอยู่บนโลกอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของพระคริสต์จะนำพาพวกเขาลงมาสู่โลกยุกต์ใหม่แห่งดาว Aquarius

    เราขออวยพรให้แก่ท่านทุกคน
    Ashtar Sheran

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตร...-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-4
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วันสิ้นโลก Judgment Day



    supako สมาชิก

    นิทานเรื่องปลา กับ 56 วัน 8 ราตรี
    ................................................

    1.จำนวน 56 วัน 8 ราตรี หมายถึง
    วันเวลาที่ดาวเคราะห์โลก
    จะตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
    เพราะดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
    และดวงดาวทั้งหลายบนฟากฟ้า
    พากันมืดดับพร้อมๆกันนาน
    56 วัน หรือ เท่ากับ 8 ราตรีของจักรวาล

    โดย 1 ราตรีของจักรวาลสากล
    จะนานเท่ากับ 7 วัน 7 คืน
    บนดาวเคราะห์โลกเสรีนี้

    2.ตลอดช่วงวันเวลาอันมืดมิดที่ยาวนานนั้น
    มันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
    โดยไม่มีผู้ใดสามารถที่จะ
    หยั่งรู้ล่วงหน้าได้ว่าเมื่อใดแน่
    เพราะมันเป็นความลับของฟ้าที่ฝูงปลามิอาจรู้

    3.ตลอดคาบเวลาแห่งความมืดมิดทั้ง 8 ราตรีนั้น
    ดาวเคราะห์โลกทั้งระบบ
    จะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
    ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    นับตั้งแต่มีฝูงปลาเข้ามาดำรงอยู่บนดาวดวงนี้

    แกนหมุนของโลกจะแกว่ง
    แรงเหวี่ยงหมุนของโลกจะอ่อนล้า
    เมื่อแขกไม่ได้รับเชิญจากฟากฟ้า
    หลุดลอดเข้ามาในระบบได้
    ครานั้น....โลกถึงกับต้องกลับขั้ว
    นานสามสิบวันกว่าจะปรับตัวคืนสู่พิกัดเดิม

    4.ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยลูกไฟและสายฟ้า
    พสุธาจะปริแยกแตกยุบเพราะแผ่นดินไหว
    และภูเขาไฟจะระเบิดพร้อมกันทั่วหล้า
    ภูเขามากมายจะพังถล่มทลายลงมา

    5.ทะเลนอกทะเลในจะคลุ้มคลั่ง
    แม่น้ำสายใหม่จะบังเกิด
    แผ่นดินบางทวีปจะกลายเป็นหมู่เกาะ
    พายุใหญ่จะพัดโหมโถมกระหน่ำ
    จนแผ่นดินโลกส่วนใหญ่
    และเกาะแก่งทั้งหลายจักจมหายอยู่ใต้น้ำ

    6.วัตถุเท็คโนโลยีขยะจะจมอยู่ในทะเลเพลิง
    ป่าคอนกรีตของเมืองใหญ่ๆจะถูกหักโค่นทำลาย
    ให้หล่นลงมาทาบทับกับปฐพี

    7.อากาศออกซิเจนที่ปลาเคยใช้หายใจ
    มันจะเกิดภาวะขาดแคลนกระทันหัน
    ปลาตัวใดที่ตื่นตกใจเพราะไร้มหาสติ
    ก็จะใช้ออกซิเจนเปลืองกว่าปลาตัวอื่นๆ

    8.ปริมาณออกซิเจนทั้งโลก
    จะมีไม่มากพอแม้แต่เพียงแค่ใช้จุดเทียนก็จุดไม่ติด
    เพราะเหตุที่ปลารักกันไม่ได้ รักกันไม่เป็น
    ได้แต่จับอาวุธเข่นฆ่ากันด้วยใจทมิฬ
    เป็นปลาที่เห็นแก่ตัวและพวกตัว
    เป็นปลาที่ไม่รักน้ำ
    เป็นปลาที่งมงาย
    ปลาเหล่านี้จะถูก "คัดทิ้ง"

    9.หมู่ปลามากมายจะสำลักน้ำ
    หมู่ปลาบางเหล่าก็จะถูกนำขึ้นปิ้งย่างบนกองเพลิง
    ขณะที่หมู่ปลาอีกมากมายจะถูกฝังอยู่ใต้กองขยะ
    ปลาบางตัวที่แม้จะแคล้วคลาดไปได้
    ก็จะตื่นตกใจจนเสียสติ

    10..ทุกสิ่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมันก็จะเกิด
    ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก็จะเกิดซ้ำอีก
    ไม่มีสถานที่ใดบนโลกใบนี้ที่จะไม่รับรู้แรงสั่นสะเทือน

    แผ่นดินเก่ามากมายจะหายไป
    แผ่นดินใหม่จะปรากฏขึ้นมาแทน
    แผ่นน้ำจะเพิ่มมากขึ้น

    11.ฝูงปลาจำนวนมากมายจักสูญหายตายเป็นแพ
    เฉพาะปลาผู้ฝักใฝ่การหลุดพ้น
    มุ่งบำเพ็ญตนอยู่ในกฎสากลจักรวาลเท่านั้น
    ที่จะเป็นฝูงปลาซึ่งถูก "คัดไว้" ให้อยู่รอดปลอดภัย
    ไม่ว่าจะไปติดเกาะแก่งอยู่แห่งใดก็ตาม

    หมายเหตุ:

    นิทานเรื่องนี้ เอาไว้ให้นักเรียนเล่าให้ลูกหลานฟัง

    ป.วิสุทธิปัญญา
    19-02-2015

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข่าวสารอีกด้านที่หลายๆท่าน-อาจจะยังไม่รู้.537708/page-8
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนประจวบฯ ตื่นภูเขาไฟใต้ทะเล

    [​IMG]

    จากกรณีมีกระแสเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ระบุว่าดาวเทียม ได้สำรวจพบขี้เถ้าภูเขาไฟปะทุขึ้นมาจากใต้ทะเลในอ่าวไทย ช่วงระหว่างหลัก ก.ม.ที่ 340-344 ถนนเพชรเกษม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือบริเวณอุทยานแห่งชาติ (อช.) หาดวนกร กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทำให้ประชาชนเกิดความแตกตื่น

    ความคืบหน้า วันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวข่าวสดลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหลักก.ม.ที่ 340 ถนนเพชรเกษม ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก และหลักก.ม.ที่ 344 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก ซึ่งทั้งสองจุดห่างจากบริเวณที่สังคมออนไลน์ระบุไว้ 10 ก.ม. จากนั้นเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหาดวนกร สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ประจวบฯ ซึ่งถูกระบุเช่นกันเคยเป็นปล่องภูเขาไฟและจะปะทุขึ้นอีก พบจนถึงขณะนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเดินทางมาเที่ยวอยู่เช่นเดิม ขณะที่ร้านอาหารครัวสวัสดิการของอุทยานฯ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวแตกตื่นแต่อย่างใด

    เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เปิดเผยว่า ส่วนตัวทราบข่าวดังกล่าวแล้ว แต่เชื่อว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากหากเกิดการปะทุจริงจะต้องมีควันไฟหรือลูกอากาศลอยขึ้นมาจากทะเลบ้าง ซึ่งจากการสังเกตที่ผ่านมายังไม่เคยพบเห็น สำหรับสภาพคลื่นทะเลหรือสัตว์น้ำทะเลก็ยังเป็นปกติ สรุปแล้วจึงยังไม่พบสิ่งไม่ปกติตามข่าวลือแต่อย่างใด

    ด้านนายสมบูญ โฆษิตานนท์ ผอ.สำนักธรณีวิทยา สิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า เพิ่งทราบข่าวดังกล่าว โดยพื้นที่หาดวนกรนี้น่าจะเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกเมื่อ 2 พันปีที่ผ่านมา แต่จากข้อมูลทางธรณีวิทยาที่มีในขณะนี้ถือว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหว หรือมีพลังที่จะปะทุขึ้นมาได้อีก

    ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:00 น.
    จำนวนคนอ่านล่าสุด 8,224,017 คน

    ที่มา คนประจวบฯ ตื่นภูเขาไฟใต้ทะเล : ข่าวสดออนไลน์

    ทีมนักวิจัยไทยตะลึงพบโคลนภูเขาไฟใต้ท้องทะเลไทย

    ทีมนักวิจัยไทยตะลึงพบโคลนภูเขาไฟใต้ท้องทะเลไทย ห่างจากฝั่งภูเก็ตเพียง 200 กิโลเมตร ลักษณะเหมือนภูเขาไฟใต้ทะเลอ่าวเม็กซิโก ย้ำไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดสึนามิ ลงศึกษารายละเอียดอีกครั้งเดือนเมษายนปีหน้า

    นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยการเปลี่ยนแปลงและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการศึกษาเสถียรภาพของชั้นตะกอนการเกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลบริเวณขอบทวีปในทะเลอันดามัน

    เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข่าวดีในวงการวิทยาศาสตร์ว่า ในการลงไปสำรวจทะเลลึกของทีมนักวิจัยไทยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนี โดยได้รับงบจำนวน 1.5 ล้านบาท จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อเก็บตะกอนไหล่ทวีปมาศึกษาหาความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่มใต้น้ำ หลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 26 ธันวาคม 2547

    โดยใช้เวลาสำรวจ 16 วันห่างจากภูเก็ต 300 กม. ที่ระดับความลึกประมาณ 1,000-2,800 เมตร ทีมนักสำรวจพบว่ามีโคลนภูเขาไฟใต้ทะเล (Mud Volcano) กระจายอยู่ในจุดที่ทำการสำรวจรวม 4 ลูกด้วยกัน

    นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ภูเขาไฟใต้น้ำลูกแรก มีฐานความกว้างถึง 1 กม. สูง 100 เมตร มีลักษณะเหมือนรูปเจดีย์คว่ำเจอที่ความลึก 650 เมตร ห่างจากภูเก็ต 200 กม.

    ลูกที่ 2 ห่างจากจุดแรกไปทางด้านตะวันตก ที่ระดับความลึก 1,000 เมตร

    ลูกที่ 3 และลูกที่ 4 ห่างจากมีฐานกว้างประมาณ 500 เมตร สูง 60-70 เมตร ที่ระดับความลึก 700-800 เมตร

    ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่สำหรับเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ทีมสำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นภูเขาไฟใต้น้ำ เพราะว่าใช้วิธีตรวจสอบด้วยเครื่องมือหยั่งน้ำแบบหลายความถี่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะสร้างความสั่นสะเทือนและสะท้อนคลื่นว่า ลักษณะพื้นท้องน้ำได้สะท้อนคลื่นกลับมาได้ไม่ดี เนื่องจากเป็นตะกอนโคลนที่มีความนิ่ม และคลื่นจะสะท้อนไม่แรงมากนัก จึงไม่ใช่แค่กองโขดหินธรรมดา

    ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า พบภูเขาไฟใต้ทะเลในแถบทะเลอันดามันของประเทศอื่น ๆ รวมทั้งหลักฐานว่าหลังเหตุการณ์สึนามิ มีรายงานชัดเจนว่าโคลนภูเขาไฟที่อยู่บนเกาะอันดามันของอินเดียมีการแอคทีฟมากขึ้น

    "จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า Mud Volcano ที่เจอใต้ทะเลอันดามันของไทยน่าจะมีลักษณะใกล้เคียงกับโคลนภูเขาไฟใต้ทะเลของอ่าวเม็กซิโก ซึ่งแหล่งความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดจากตะกอนถูกบีบอัดโดยการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก

    แต่ไม่ได้หมายความมีรอยแยกของเปลือกโลกในบริเวณนั้น ที่สำคัญไม่ควรตื่นตระหนกกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พบมา โดยเฉพาะข้อกังวลที่ว่าอาจเป็นภูเขาไฟที่จะปะทุในอนาคต และเป็นสาเหตุของคลื่นสึนามิ เพราะยังมองไม่เห็นความสัมพันธ์ในลักษณะดังกล่าว แต่ถ้ามองในแง่ดีค่อนข้างมั่นใจว่า บริเวณนั้นเป็นแหล่งที่มีศักยภาพของแอ่งน้ำมันเหมือนกับอ่าวเม็กซิโกก็ได้" นายอานนท์ กล่าว

    นายอานนท์ กล่าวอีกว่า หลังจากได้วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เสร็จ จะต้องสำรวจข้อมูลเชิงลึกของ Mud Volcano โดยจะต้องใช้ยานไร้คนขับหรืออาร์โอวี ลงไปเก็บข้อมูล เพื่อนำตะกอนโคลนมาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน รวมทั้งดูแหล่งความร้อน หรือศักยภาพของการเป็นแหล่งน้ำมัน และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในบริเวณดังกล่าว โดยคาดว่าน่าจะเริ่มสำรวจในช่วงเดือน เม.ย.2550

    ข่าวจากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ระเบิดเวลาชื่อ-เยลโล่สโตน.290472/?langid=34
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อันตรายจากก๊าซพิษที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ญี่ปุ่นเศร้า! พบนักปีนเขาดับอีก 5 เหยื่อภูเขาไฟออนตาเกะ ระเบิด

    สะเทือนใจ...ทีมกู้ภัยญี่ปุ่นพบร่างนักปีนเขา สังเวยชีวิตภูเขาไฟออนตาเกะระเบิดครั้งใหญ่ เพิ่มอีก 5 ราย ทำให้ยอดเหยื่อเคราะห์ร้ายสิ้นชีพเพิ่มเป็นอย่างน้อย 36 รายแล้ว มีบางรายถูกฝังทั้งเป็นใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟที่ถมทับสูงถึงครึ่งเมตร

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยภูเขาไฟ ออนตาเกะ ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ระเบิดครั้งใหญ่ พ่นเถ้าถ่านดำทะมึนมหาศาลขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.ย.โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆล่วงหน้า ว่า ทีมกู้ภัยได้ลงมือค้นหาผู้ประสบภัยอีกครั้ง และได้พบร่างนักปีนเขา เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เพิ่มอีก 5 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. ทำให้ยอดเหยื่อเคราะห์ร้ายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 36 รายแล้ว และมีผู้บาดเจ็บ 63 ราย

    ขณะเดียวกัน ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มใช้เฮลิคอปเตอร์นำศพผู้เสียชีวิตลงมาจากยอดเขาอีกกว่า 20 ราย รวมทั้งยังลำเลียงศพนักปีนเขา ที่เสียชีวิต ด้วยการให้ทีมกู้ภัยเดินเท้า ช่วยกันหามลงมาจากบริเวณใกล้ยอดเขา 8 ราย เป็นชาย 5 ราย และหญิง 3 ราย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้นักปีนเขาดับอนาถ ไม่ว่าจะเป็นเพราะสูดดมก๊าซพิษที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟ, ขาดอากาศหายใจจากการที่มีเถ้าถ่านมหาศาลปกคลุมหนามาก, โดนก้อนหินตกใส่ หรือด้วยสาเหตุปัจจัยอื่นๆ

    สำหรับปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือนักปีนเขาที่ประสบภัยภูเขาไฟออนตาเกะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกราว 200 กม .ระเบิดครั้งใหญ่ โดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ล่วงหน้านั้น ทางการญี่ปุ่นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ และทหารกองกำลังป้องกันตนเอง ถึงมากกว่า 1,100 ราย ทว่า ปฏิบัติการค้นหาต้องหยุดลงชั่วคราวเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ เนื่องจากมีก๊าซพิษออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ

    สำนักข่าวในญี่ปุ่นรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบศพ นักปีนเขา ส้ินชีพบางรายในกระท่อมพักใกล้บริเวณยอดภูเขาไฟ ขณะที่อีกหลายคนถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟ ในระดับความลึกถึง 50 ซม. และมีนักปีนเขาคนหนึ่งถูกก้อนหินตกใส่จนเสียชีวิต

    ด้าน สำนักงานจังหวัดนากาโน แถลงว่า ขณะภูเขาไฟออนตาเกะ ความสูง 3,067 เมตร ระหว่างเขตจังหวัดนากาโน และกิฟู ระเบิดครั้งใหญ่ ได้มีนักปีนเขากว่า 230 คน ต้องรีบหาที่กำบัง เข้าไปหลบในกระท่อมพักกลางทางตลอดทั้งคืนวันอาทิตย์ เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่มาก กว่าที่จะค่อยๆ ทยอยเดินลงมาจากภูเขาไฟได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งขณะนี้ทางการยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดของนักปีนเขาที่ขึ้นภูเขาไฟออนตาเกะ ในช่วงเกิดเหตุ เนื่องจากมีบางคนไม่ได้แจ้งต่อทางการ

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ ข่าวต่างประเทศ 29 ก.ย. 2557

    ที่มา ญี่ปุ่นเศร้า! พบนักปีนเขาดับอีก 5 เหยื่อภูเขาไฟออนตาเกะ ระเบิด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Dante's Peak ธรณีไฟนรกถล่มโลก

    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=joAodEzeK34[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=9JQRMnxE6No[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=zWkNT5A3wIk[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=jn2weAEOp4Q[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=8bQQIy5TKZE[/ame]
    อัปโหลดเมื่อ 1 มิ.ย. 2011​
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Dante's Peak ธรณีไฟนรกถล่มโลก

    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=D7P4FYWHVYQ[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=n_c7JtDNNUo[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=S1EsCWrUY84[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=r421zjv-hoE[/ame]
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=vfIUYDjo8WM[/ame]
    อัปโหลดเมื่อ 1 มิ.ย. 2011​
     

แชร์หน้านี้

Loading...