จับตามอง สงคราม"นิวเคลียร์" โรงงานพลังงาน "นิวเคลียร์" การรั่วไหลของกัมมันตรังสี

ทูตมะกันคาดโสมแดงจะเริ่มสำแดงโครงการนุกอีก 2-3 สัปดาห์ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">2 พฤศจิกายน 2550 12:20 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="291"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="291"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของสหรัฐฯ</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเจนซี/เอเอฟพี – คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของสหรัฐฯ คาด เกาหลีเหนือจะสำแดงกิจกรรมในโครงการปรมาณูภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ระบุมาตรการลงโทษโสมแดง สำหรับการทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมาจะถูกยกเลิกก็ต่อเมื่อเปียงยางล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์แล้วเท่านั้น

ฮิลล์กล่าวว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่นำโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จะเดินทางถึงโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองยงบยอนในวันนี้ (2) หรือวันเสาร์ (3) เพื่อเริ่มดำเนินการปิดโรงงานนิวเคลียร์ของโสมแดง ภายใต้ข้อตกลงปลดอาวุธในโต๊ะเจรจา 6 ฝ่าย

“เราคาดว่าการสำแดงโครงร่างครั้งแรกอาจจะมีขึ้นใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และหัวหน้าทูตในโต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายกล่าว โดยเสริมว่า การชี้แจงจะทำให้ทุกฝ่ายทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการสำหรับการหารือกันต่อไป ซึ่งในสิ้นปีนี้โสมแดงต้องแจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ

ฮิลล์กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังการหารือกับชุน ยุง วู หัวหน้าเจรจานิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ ในกรุงโซล โดยระบุว่า สนธิสัญญาสันติภาพ และการยกเลิกมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือนั้น จะเป็นไปได้ก็เมื่อหลังจากเปียงยางสละโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสมบูรณ์แล้วเท่านั้น

“มาตรการลงโทษยังอยู่ต่อไปจนกว่าดีพีอาร์เค (เกาหลีเหนือ) เลิกยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์” เขากล่าว โดยอ้างถึงมาตรการของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น ที่ห้ามการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความช่วยเหลือแก่โสมแดง หลังจากเปียงยางท้ายทายคำเตือนของนานาประเทศทำการยิงทดลองนิวเคลียร์เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

ขณะที่ การเจรจาสนธิสัญญาดังกล่าวระหว่างโสมขาว และโสมแดงเมื่อเดือนที่ผ่านมา อาจจะเริ่มขึ้นหลังจากการหยุดดำเนินการในส่วนสำคัญๆ แต่ฮิลล์ก็เตือนว่า “เราไม่สามารถสรุปกระบวนการสันติภาพได้จนกว่าเวลาที่มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์แล้วจริงๆ เท่านั้น”

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้แสดงความประสงค์ของสหรัฐฯ ว่าอยากถอนชื่อโสมแดงออกจากรายชื่อผู้ก่อการร้าย แต่เปียงยางเองก็ต้องหยุดพฤติกรรมการก่อการร้ายทั้งปวง และลงนามในสัญญาต่อต้านการก่อการร้ายของยูเอ็นอย่างเต็มตัว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พลังงานแจงหมดทางเลือกแล้ว จำต้องซบ “นิวเคลียร์” แน่นอน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2550 12:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นตัวเลือกบังคับสำหรับสังคมไทยแล้วจริงๆ หรือ !!?</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร.คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร.มนูญ อร่ามรัตน์ อดีตเลขาธิการ ปส. </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>รองปลัดกระทรวงพลังงานย้ำ "แผนพีดีพี 2007" ต้องบรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แม้จะช่วยกันประหยัดและผลักดันพลังงานทดแทนอื่นๆ แล้วก็ยังไม่พอ ส่วน บก.อาวุโสผู้จัดการเชื่อมั่นโรงนิวเคลียร์ปลอดภัย “ควรสร้าง” แต่ต้องกวดขัน แม้หวั่นปัญหาคอรัปชั่นเก็บไปกินอีกโครงการ

กระแสโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กำลังมาแรง ทั้งฝ่ายสนับสนุนให้มี และฝ่ายต่อต้าน โดยสำนักงานคลังสมองวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เพื่อสังคม จัดเสวนา “ทัศนะของสื่อมวลชนต่อโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย” ขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมมีผู้แทนภาครัฐและสื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็นราว 30 คน

ดร.คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เผยถึงสาเหตุที่ต้องบรรจุการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 4,000 เมกะวัตต์ลงในแผนทั้ง 9 แผนของแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2550 -2564 (พีดีพี 2007) ซึ่งเป็นที่กังขาของหลายฝ่ายว่า เป็นการยัดเยียดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้กับคนไทย ในขณะที่ยังไม่พร้อมหรือไม่ ว่าเป็นเพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่ถูกบังคับให้เลือกโดยอัตราการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นของประเทศในปัจจุบันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตามที่มีการคาดการณ์จากอัตราการเจริญโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เฉลี่ย 5 -6% ต่อปี
ลดใช้พลังงาน-เพิ่มพลังงานทดแทน ยังไม่ใช่ทางออก

รองปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า ในการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าโดยการกระจายสัดส่วนปัจจัยผลิตกระแสไฟฟ้าให้สมดุลทั้งปัจจัยเรื่องปริมาณและราคานี้ กระทรวงพลังงานได้พยายามหาวิธีอื่นๆ มาก่อนแล้ว ได้แก่ การรณรงค์ประหยัดพลังงานตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ผ่านการออกฉลากผลิตภัณฑ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 การรณรงค์ใช้หลอดผอมและหลอดตะเกียบแทนหลอดไส้ การรณรงค์ลดการใช้ลิฟต์ การกรณรงค์ประหยัดไฟในบ้านเรือนและสถานที่ราชการ ฯลฯ จนกล่าวกันว่าช่วยให้ประเทศไทยลดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไปแล้วถึง 2 โรง

ขณะที่การพัฒนาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ของชุมชนและเอกชนต่างๆ อาทิ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ซึ่งเป็นการกระจายศูนย์การผลิตกระแสไฟฟ้าไม่ให้รวมศูนย์เพียงส่วนกลางเท่านั้น กระทรวงพลังงานก็ได้ผลักดันแล้วเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุดก็ว่าได้

กลไกที่ชัดเจนเช่น การออกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่รับซื้อกระแสไฟฟ้าในราคาแพงขึ้นกว่าปกติเพื่อจูงใจให้มีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจากหน่วยผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) และเล็กมาก (วีเอสพีพี) เพิ่มขึ้น อย่างการรับซื้อกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 บาท/หน่วยเป็นเวลา 10 ปี การเพิ่มแรงจูงใจสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากของเหลือทิ้งทางการเกษตรจูงใจอีก 30 สตางค์/หน่วยเป็นเวลา 7 ปี เพิ่มแรงจูงใจให้อีก 3.50 บาท/หน่วยเป็นเวลา 10 ปีสำหรับพลังงานลม และพลังงานไฟฟ้าจากขยะที่เพิ่มแรงจูงใจอีก 2.50 บาท/หน่วย

ส่วนสถานการณ์พลังงานทดแทนในปัจจุบัน ดร.คุรุจิต กล่าวว่า ประเทศไทยผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยไม่รวมพลังงานน้ำแล้ว 4-5% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8% ในปี 2554 ขณะที่ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดด้านพลังงานทดแทนของยุโรปยังสามารถทำได้ดีที่สุดเพียง 10% เท่านั้น จึงแสดงให้เห็นว่า การพึ่งพิงแหล่งพลังงานทางเลือกเพียงอย่างเดียวไม่อาจตอบโจทย์ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศได้

นอกจากนั้น อุปสรรคอีกข้อหนึ่งของพลังงานทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้าคือ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่มีราคาแพงและมีข้อจำกัดมาก ตัวอย่างเช่น การผลิตไฟฟ้าพลังงานลมซึ่งพื้นที่ภาคใต้เป็นภูมิภาคเดียวที่เหมาะสมที่สุด และยังต้องอาศัยทุนการผลิตถึง 5.7 ล้านบาท/เมกะวัตต์ หรือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับผลิตไฟฟ้าใช้ตามบ้านเรือนก็ยังจำกัดในกลุ่มผู้มีฐานะดีเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการลงทุนนับล้านบาททีเดียว จึงไม่ใช่แหล่งพลังงานที่ประชาชนทุกระดับจะเข้าถึงได้

"นิวเคลียร์" ไม่ใช่ระเบิดปรมาณู ถ้ามีทางออกดีกว่าก็ถอดออกได้

อีกทั้งจากตัวแปรหลักของการจัดทำแผนคือ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ต่ำที่สุดที่ประชาชนจะสามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ ตลอดจนความพยายามลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตกระแสไฟฟ้าตามกระแสด้านสิ่งแวดล้อมที่นานาชาติให้ความสำคัญ ดังนั้นหากจะผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยวิธีที่บรรลุผลได้ทั้งหมด จึงต้องมีการพิจารณาพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วย

“สำหรับแผนพีดีพีนี้จะมีการทบทวนกันทุกๆ 3 ปี หากมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหม่ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้มากพอถึง 8,000 ล้านลบ.ฟุต/วัน ขณะที่เราผลิตได้จริง 2,000 ล้านลบ.ฟุต/วัน ก็ถอดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกไปได้"

"เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อนในสมัยคุณเกษม จาติกวณิช (อดีต รมว.อุตสาหกรรม และผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยคนแรก) ที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อ่าวไผ่ แต่เมื่อมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติก็ถอดเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกไป ซึ่งเรื่องนี้เราต้องดูความจริงของโลกด้วย ทั้งเรื่องพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนดีพีดี 2007 นี้จึงไม่ใช่การยัดเยียดให้ประชาชนแต่อย่างใด” รองปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุ

อย่างไรก็ดี รองปลัดกระทรวงพลังงาน ย้ำด้วยว่า หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทยจริงตามแผนพีดีพี 2007 ประชาชนจะสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้แน่นอน เพราะทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเข้มงวด และมีการเตรียมการถึง 13 ปีก่อนการก่อสร้างโรงแรกในปี 2563 ซึ่งจะมีการพัฒนากำลังคน 2 ชุด คือ คนเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (โอเปอเรเตอร์) และผู้กำกับดูแลที่มีความอิสระจากผู้ใด (โมดูเลเตอร์)

ขณะเดียวกันยังมีการออกกฎหมายกำกับความปลอดภัยของโรงงานที่เทียบได้กับของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) และจะมีสำนักพัฒนาโครงสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (สพน.) เป็นหน่วยงานอิสระอีกแห่งหนึ่งที่จะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อทำงานร่วมกันกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)

“โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญและจำเป็นต่อเศรษฐกิจของประเทศที่จะต้องเติบโตไปข้างหน้าและเพื่อคนรุ่นหลัง พลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานที่มีราคาถูกที่เราต้องพิจารณา เป็นพลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในยุคของการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ใช้ระเบิดปรมาณู มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิมมาก รุ่นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลของสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว รุ่นใหม่ๆ จะมีความปลอดภัยสูง และเราก็มีการกระทำตามกฎกติกาจากไอเออีเออย่างเคร่งครัด”

“เรามีความจำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงของแหล่งเชื้อเพลิง เพราะเราพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากเกินไป และถ้าเราจริงใจต่อการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนก็ต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิงและใช้เชื้อเพลิงที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่กระทรวงพลังงานกระทรวงเดียว แต่ยังมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงศึกษาธิการร่วมศึกษาด้วย เพื่อหวังให้คนรุ่นหลังได้มีพลังงานใช้ได้อย่างมีความมั่นคง เพียงพอและในราคาที่เหมาะสมต่อไป” รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว

ตัวแทนสื่อเห็นด้วยกับ “นิวเคลียร์” แต่ต้องทำให้ปลอดภัย

ส่วนเสียงจากตัวแทนสื่อมวลชนที่มีโอกาสชมงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ณ ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และฟินแลนด์ตามคำเชิญของกระทรวงพลังงานเป็นเวลา 1 สัปดาห์เมื่อเร็วๆ นี้ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แสดงความคิดเห็น โดยเห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ว่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง เพื่อลดการพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติและต้นทุนพลังงานที่ถูกลง โดยเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ดังที่เห็นตัวอย่างมาจากต่างประเทศ

แต่มีข้อแม้บางประการคือ หากมีการก่อสร้างจริงจะต้องมีความเข้มงวดด้านการกำกับรักษาความปลอดภัยอย่างจริงจัง มีการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนจากปัจจุบันที่ยังมีอยู่น้อยเกินไป เช่น จะต้องมีการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังตัวอย่างของประเทศญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อการพัฒนาประเทศ มีแผนพัฒนาพลังงานที่ชัดเจน ไม่หวังผลระยะสั้นระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่ต้องมองไปถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่โหมทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมนอกประเทศของประเทศที่ผลักดันอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษออกนอกประเทศเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ควรอาศัยข้อดีที่มีอยู่ในประเทศมากำหนดยุทธศาสตร์ เช่น การชูเรื่องการท่องเที่ยวและการเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลกมากำหนดตำแหน่งของประเทศ

“เรื่องการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อแก้ปัญหาการผลิตไฟฟ้า เท่าที่อยู่ในวงการข่าว มันมีมานานแล้ว เทคโนโลยีก็ก้าวหน้าเรื่อยๆ และก็มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก แต่ชะงักลงเพราะมีอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ทำให้มีคนตาย 40 คน แต่จำนวนคนตาย 40 คนนี้ก็เป็นจำนวนที่ไม่มากอะไร อุบัติเหตุในโรงอย่างอื่นทั่วโลกยังมากกว่า” ตัวแทนสื่อกล่าว และย้ำว่า หากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ปลอดภัยจริง ประชาชนในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ย่อมไม่อยู่เฉย แต่จะโวยวายออกมาแล้ว

นอกจากนี้ นายตุลย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากต่อไปจะมีการเกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จริง ไม่ว่าประเทศไทยจะมีเป็นของตัวเองหรือไม่ก็ย่อมหนีไม่พ้นกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนในอากาศลอยข้ามประเทศมาแน่นอน เพราะประเทศเพื่อนบ้านไทยทุกประเทศจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นของตัวเองแล้ว เช่น จีน และเวียดนาม ทว่าก็ยอมรับว่ารู้สึกหวั่นๆ กับเรื่องของการคอรัปชั่นในแวดวงราชการที่อาจส่งผลกระทบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศไทยได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"

 

เผยอิหร่านสร้างขีปนาวุธพิสัยไกลลูกใหม่อีกครั้ง <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">27 พฤศจิกายน 2550 16:21 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ไฟล์ภาพการยิงขีปนาวุธของอิหร่าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี – กระทรวงกลาโหม เผย อิหร่านสร้างขีปนาวุธพิสัยไกลลูกใหม่นาม อาชูรา ด้วยวิถียิง 2,000 กิโลเมตร สำนักข่าวฟาร์สรายงาน

“การสร้างขีปนาวุธอาชูรา ซึ่งมีพิสัยยิง 2,000 กิโลเมตร เป็น 1 ในความสำเร็จของกระทรวงกลาโหม” มุสตาฟา โมฮัมหมัด นัญญาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศ

พิสัยของอาวุธดังกล่าวไกลพอที่จะโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง รวมถึงศัตรูตัวฉกาจของอิหร่าน อย่างอิสราเอล ได้ด้วย โดยชื่อของขีปนาวุธลูกนี้ตั้งขึ้นหลังจากพิธีไว้ทุกข์อาชูราอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของอิหม่ามฮอสเซน

อย่างไรก็ตาม ยังมีความสับสนที่สำคัญเกี่ยวกับความสามารถของขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็น 1 ในทรัพย์สินของหัวหน้ากองทัพอิหร่าน ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้

ก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายน พาเหรดกองทัพอิหร่านได้เผยโฉมขีปนาวุธ กาดร์-1 ซึ่งเป็นกล่าวกันว่ามีพิสัยไกลถึง 1,800 กิโลเมตร แต่อาวุธที่รู้จักกันดีที่สุด คือ ขีปนาวุธ ชาฮับ-3 ที่ทางการอ้างว่ามีพิสัยไกลถึง 2,000 กิโลเมตร

ด้าน ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารตะวันตก อ้างว่า กาดร์-1 ไม่น่ามีพิษสงร้ายแรงไปกว่า ชาฮับ-3 แต่อย่างใด ภายใต้ชื่อที่แตกต่างกัน และรูปทรงขวด เพื่ออานุภาพในการยิงร้ายแรงเป็นพิเศษก็เหมือนกับรุ่นของชาฮับ-3

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวฟาร์ส ซึ่งเป็นแหล่งข่าวกิจการทหาร ไม่ได้ตีพิมพ์ภาพของขีปนาวุธใหม่นี้แต่อย่างใด

 

อินเดียยิงทดลองขีปนาวุธสกัดกั้นรุ่นใหม่สำเร็จ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">6 ธันวาคม 2550 16:47 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="200"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="200"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขีปนาวุธนิวเคลียร์ ที่อินเดียยิงทดลองไปเมื่อเดือนเมษายนปีนี้</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี – อินเดียยิงทดลองขีปนาวุธอินเตอร์เซปเตอร์ในอ่าวเบงกอลประสบความสำเร็จวันนี้ (6) หลังจากต้องอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากบริเวณดังกล่าวก่อนการทดสอบ เจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันประเทศเผย

ขีปนาวุธ ดิ แอดวานซ์ แอร์ ดีเฟนส์ หรือเอเอดี สามารถสกัดขีปนาวุธที่ได้รับการพัฒนาใหม่รุ่นพื้นสู่พื้น พรีธวี-1 (เอิร์ธ-1) ได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันประเทศ ซึ่งมีเงื่อนไขว่าจะไม่เปิดเผยชื่อกล่าว

ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากสถานที่ทดลองขีปนาวุธบนจัณฑิภู และวีลเลอร์ ไอส์แลนด์ ในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานดังกล่าวอีกคนระบุว่า “การทดลองครั้งนี้ประสบความสำเร็จ”

พวกเขายังเสริมว่า ประชาชนกว่า 5,000 คนต้องถูกอพยพออกจากจุดยิงในพื้นที่จัณฑิภู ก่อนหน้าวันทดลองด้วย

ทั้งนี้ เอเอดีเป็นขีปนาวุธสกัดอาวุธรุ่นใหม่ ที่พัฒนาโดยองค์กรการพัฒนา และวิจัยเพื่อการป้องกันประเทศของอินเดีย หรือ ดีอาร์ดีโอ

อย่างไรก็ดี อินเดีย และปากีสถานมักจะทดลองยิงขีปนาวุธกันเป็นประจำ โดยแจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าเสมอ

อนึ่ง ทั้ง 2 ประเทศได้ทำสงครามระหว่างกันถึง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งเป็นความขัดแย้งเรื่องดินแดนแคชเมียร์ บนเทือกเขาหิมาลัย จนทำให้เกิดกระบวนการเพื่อสันติภาพ ที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้เป็นปกติ

</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>

 

<table id="table2" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="990"><tbody><tr><td valign="top" width="7">
</td> <td valign="top" width="983"> 'ไอเออีเอ'เผยทั่วโลกมีหัวรบนิวเคลียร์เกือบ 3 หมื่นลูก!

<table id="table110" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="608">รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายโมฮัมเหม็ด เอล บาราเด ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ - IAEA) แห่งสหประชาชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล โดยโรงงานดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2549 และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นการผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เพื่อป้อนโรงงานไฟฟ้า
นายเอล บาราเด ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับปัญหาที่นานาประเทศพยายามที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ว่า เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการละเมิดต่อสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายนิวเคลียร์ ทั้งนี้ ขอยอมรับว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากถึง 27,000 หัวรบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี
'การจำกัดความมีอิสระเสรีของชาติมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ ให้ควบคุมวงจรการใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการโจมตีประเทศอื่นด้วยนิวเคลียร์ลงได้' นายเอล บาราเด กล่าว
</td><td width="5">
</td></tr> <tr> <td colspan="2">
</td></tr> </tbody></table> http://www.matichon.co.th
</td></tr></tbody></table>

 

"โอลเมิร์ต" เชื่ออิหร่านจะมีระเบิดนิวเคลียร์ในอีก 3 ปี <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">10 ธันวาคม 2550 10:42 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> นายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต แห่งอิสราเอล กล่าวเชื่อมั่นว่า อิหร่านจะมีวัตถุดิบในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ภายในปี 2553 แม้ว่ารายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ จะระบุว่าอิหร่านไม่ได้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ก็ตาม
ผู้นำอิสราเอลกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีว่า อิหร่านจะยังคงเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมและพัฒนาขีปนาวุธต่อไป ซึ่งอิสราเอลจะกดดันให้ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เปิดโปงโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านให้ได้ แม้อิหร่านจะปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้ลักลอบผลิตอาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีโอลเมิร์ต กล่าวว่า อิสราเอลจะหามาตรการต่างๆ ตอบโต้อิหร่าน ซึ่งอิสราเอลมองว่า อาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของประเทศอิสราเอล

 

ปากีสถานยิงทดลองขีปนาวุธติดหัวรบ โต้ตอบอินเดียพัฒนาอาวุธสกัดกั้นชิ้นใหม่ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">11 ธันวาคม 2550 15:30 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">การยิงทดลองขีปนาวุธติดหัวรบของปากีสถานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี – ปากีสถานประสบความสำเร็จในการยิงทดลองเบเบอร์ (ฮัตฟ์ 7) ขีปนาวุธนิวเคลียร์แบบติดหัวรบ หรือจรวดร่อน พิสัย 700 กิโลเมตร ซึ่งพัฒนาขึ้นเองในประเทศ วันนี้ (11) หลังจากที่อินเดียยิงทดลองขีปนาวุธสกัดกั้นรุ่นใหม่สำเร็จ กระทรวงกลาโหม เผย

“การทดลองจะรวบรวมกำลังความสามารถทางยุทธศาสตร์ของปากีสถาน รวมถึงทำให้ความมั่นคงของชาติแข็งแกร่งขึ้น” กองทัพปากีสถาน เผย โดยเสริมว่า “ขีปนาวุธเบเบอร์ ซึ่งใกล้เคียงกับอาวุธล่องหน เป็นขีปนาวุธที่บินในระยะต่ำ มีความคล่องตัวสูง ชี้จุดแม่นยำ และคุณลักษณะพิเศษหลบเลี่ยงการจับทิศทางของเรดาร์ได้”

แถลงการณ์ของกองทัพ ยังระบุว่า ประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ และนายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ดเมียน ซูมโร ได้แสดงความยินดีกับทีมนักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรที่เกี่ยวข้องในโครงการผลิตขีปนาวุธนี้ ว่า เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญยิ่งทีเดียว

ก่อนหน้านี้ ปากีสถานเคยทดลองขีปนาวุธในเดือนมีนาคม และกรกฎาคม ปีนี้ และทดลองครั้งแรกในปี 2005 ซึ่งขณะนั้นยังผลิตขีปนาวุธ ซึ่งมีพิสัยเพียง 500 กิโลเมตรเท่านั้น

ขณะที่ ปากีสถาน และอินเดีย มักจะทำการยิงทดลองขีปนาวุธเป็นประจำ นับตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียใต้ ซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งสองสามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์สำเร็จในเดือนพฤษภาคมปี 1998

อย่างไรก็ตาม ในปี 2004 ทั้ง ปากีสถาน และอินเดีย ก็วางกระบวนการสันติภาพที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกันมานานถึง 6 ทศวรรษ และแก้ปัญหาความขัดแย้งในดินแดนแคชเมียร์ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ประเทศทั้งสองทำสงครามกันถึง 3 ครั้ง

นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปากีสถาน และอินเดีย ได้ลงนามในข้อตกลงลดความเสี่ยงอุบัติเหตุจากอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ปากีสถานไม่ได้แจ้งรัฐบาลนิวเดลีเกี่ยวกับการทดลองยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้แต่อย่างใด แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีข้อตกลงกันว่าต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเกี่ยวกับยิงทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล แต่ไม่ได้ระบุถึงขีปนาวุธแบบติดหัวรบ หรือจรวดร่อนเช่นนี้

อย่างไรก็ดี อินเดียได้ยิงทดลองขีปนาวุธ ดิ แอดวานซ์ แอร์ ดีเฟนส์ หรือ เอเอดี สามารถสกัดขีปนาวุธที่ได้รับการพัฒนาใหม่รุ่นพื้นสู่พื้น พรีธวี-1 (เอิร์ธ-1) ได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แผนตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คืบ กพช.อนุมัติแผน 3 ปีปูทางด้าน <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">ภาพประกอบเนื้อหาข่าวจากอินเตอร์เน็ต</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> กพช.เห็นชอบแผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ระยะ 3 ปี

ก่อนเดินหน้าจัดตั้งโรงไฟฟ้าในอีก 13 ปีข้างหน้า ขณะที่ กฟผ.ถอดใจเลื่อนโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินออกไป 1 ปี เหตุจัดหาพื้นที่ไม่ได้หลังม็อบต้านจนทำให้โครงการสะดุด
นายวีรพล จิระประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วยแนวทางการดำเนินการในช่วงปี 2551-2553 ได้แก่ ด้านกฎหมายและข้อผูกพันระหว่างประเทศ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนากำลังคนและเทคโนโลยี ด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ด้านการสื่อสารสาธารณะ และด้านการเตรียมการจัดตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
นอกจากนี้

ที่ประชุมได้เห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาโครงสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงานและรับผิดชอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับการรองรับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีก 13 ปีข้างหน้า โดยได้มอบหมายให้ นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกตำแหน่ง และแต่งตั้งกรรมการประสานงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานและโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ด้วย
ขณะที่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แจ้งขอเลื่อนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังผลิตรวม 2,800 เมกะวัตต์ ออกไป 1 ปี จากเดิมจะเริ่มก่อสร้างในปี 2557 ได้ขอเลื่อนไปเริ่มปี 2558 และจะจ่ายไฟฟ้าครบทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2558-2560 เนื่องจากต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างและการทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน
อย่างไรก็ตาม

มั่นใจว่าเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินโดยไม่สร้างมลพิษ และถือเป็นโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ ที่สำคัญถ่านหินมีสำรองยาวนานกว่าก๊าซและราคาถูกกว่า แต่หาก กฟผ.ไม่สารถสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศได้ ก็จะหันไปรับซื้อถ่านหินจากกัมพูชา และโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ส.ป.ป.ลาว ทดแทน
ด้านแหล่งข่าวจาก กฟผ. ระบุว่า

พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นพื้นที่ชายทะเลในภาคใต้ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ เป็นต้น แต่ที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งมาก และไม่ยอมรับฟังคำชี้แจง <table align="center" border="0"><tbody></tbody></table>

</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</center></td></tr></tbody></table>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD vAlign=top width=629><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=629 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=629>Last Updated: Monday, 17 December 2007, 08:33 GMT
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=416 border=0><TBODY><TR><TD width=213> E-mail this to a friend </TD><TD width=203> Printable version </TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=629 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>Russia ships nuclear fuel to Iran

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=416><!-- S BO --><!-- S IIMA --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=203 align=right border=0><TBODY><TR><TD> Iran insists its nuclear programme is purely for civilian purposes

</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- E IIMA --><!-- S SF -->Russia has delivered its first shipment of nuclear fuel to a reactor it is helping to build at Bushehr in Iran, Russia's foreign ministry has said.
The two sides reached agreement last week on a schedule to finish building the plant after years of delays.
Some Western countries fear Iran is trying to build nuclear weapons but Tehran says its programme is peaceful.
The UN Security Council has already imposed two sets of sanctions on Iran for refusing to stop enriching uranium. <!-- E SF -->
Iranian assurances
Enriched uranium is used as fuel in nuclear power stations. When it is more highly enriched, it can be used to make nuclear weapons.
There are two pressurised water reactors at the Bushehr site, one of which is reportedly near completion and likely to be the first major Iranian reactor to go on stream.
<!-- S IBOX --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=208 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD class=sibtbg>


<!-- S ILIN -->Iran's key nuclear sites
<!-- E ILIN -->
</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- E IBOX -->
Russian officials have previously said the plant could be operational within six months of fuel being made available.
Iran first planned a reactor near the south-western port of Bushehr with German assistance in 1974.
Those plans were abandoned after the Islamist revolution in 1979 but the Russians picked up the project in 1992.
The Russian company building the plant, Atomstroiexport, said the containers of fuel had been inspected and sealed before delivery by the UN's nuclear watchdog, the International Atomic Energy Agency.
Russia's foreign ministry said it had received assurances from Tehran that the fuel would not be used anywhere but at Bushehr. The foreign ministry statement urged Iran to stop enriching uranium, saying there was no longer any need. But a senior Iranian official said his country would not halt uranium enrichment under any circumstances, Reuters news agency said.<!-- E BO -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://news.bbc.co.uk/2/hi/middle_east/7147463.stm

 

อิหร่านจะสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีก 19 แห่ง <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่าน รายงานวานนี้

โดยอ้างถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์ของนายคาเซม จาลาลี หนึ่งในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่านที่ว่า อิหร่านมีแผนจะสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาด 1,000 เมกกะวัตต์ เพิ่มอีก 19 แห่งในอนาคต

เขาไม่ได้ระบุกรอบเวลาแต่บอกว่า

จะเปิดประมูลการก่อสร้างในระดับนานาชาติในเร็วๆนี้ และว่าความเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัฐสภาอิหร่าน ที่ต้องให้ประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าโดยใช้นิวเคลียร์ได้ 20,000 เมกะวัตต์ในอนาคต แต่เขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐบาล และไม่ถือว่าถ้อยแถลงของเขาเป็นท่าทีของรัฐบาลอิหร่าน
ปัจจุบัน อิหร่านยังไม่มีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์

ที่เปิดดำเนินการแล้วแม้แต่แห่งเดียวโดยรัสเซียเพิ่งสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 1,000 เมกกะวัตต์แห่งแรกที่เมืองบุชเฌอร์ ทางใต้ของอิหร่านแล้วเสร็จ และอิหร่านได้รับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์งวดแรกจากรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปิดทางสำหรับการเริ่มเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในปีหน้า
ก่อนหน้านี้

ทางการอิหร่านได้เคยประกาศแผนจะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มอีก 7 แห่ง เพื่อให้ผลิตไฟฟ้าด้วยนิวเคลียร์ได้รวม 7,000 เมกกะวัตต์ภายในปี ค.ศ.2021 หรือในอีก 14 ปีข้างหน้า แต่สมาชิกสภาบางคนเรียกร้องว่าเมื่อถึงปีดังกล่าว อิหร่านน่าจะมีขีดความสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ได้ถึง 20,000 เมกกะวัตต์

</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</center></td></tr></tbody></table>