!!! จับตาพายุลูกใหม่ ที่กำลังก่อตัว ณ ขณะนี้ !!!

ฮาวายรับมือพายุซัด โลกช่วยอุทกภัยโสม
[16 ส.ค. 50 - 04:44]


โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว และถนนบนเกาะฮาวาย สหรัฐฯ ต้องปิดตัวลงชั่วคราวหลังพายุเฮอริเคน “ฟรอสซี่” ที่ลดความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 2 มุ่งหน้าสู่ ทางทิศใต้พัดถล่มเกาะด้วยความเร็วลมสูงสุด 170 กม. ต่อ ชม. ซึ่งหน่วยงานด้านอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ จัดอยู่ในขั้น “อันตราย” และนับเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกในรอบ 15 ปี ที่พัดถล่มพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ พายุ บนเกาะฮาวายยังเกิดขึ้นพร้อมกับเกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 ริกเตอร์ เมื่อ 13 ส.ค.
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนเฝ้าระวังพายุโซนร้อนที่เตรียมเคลื่อนที่เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเข้าสู่ใจกลางอ่าวเม็กซิโก ส่งผลกระทบต่อบางส่วนในรัฐเท็กซัสและบางพื้นที่ในเม็กซิโก ขณะเดียวกัน พายุโซนร้อน “ดีน” ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทร แอตแลนติก ระหว่างทวีปแอฟริกากับทะเลแคริบเบียน อาจเพิ่มกำลังเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกของเขตแอต-แลนติกในปีนี้ ด้านนานาประเทศ ทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ประกาศช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุฝนตกน้ำท่วมรุนแรงในเกาหลีเหนือ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไม่ต่ำกว่า 200 ราย หลังจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติและสหพันธ์กาชาดสากลได้เข้าช่วยเหลือก่อนหน้า.

 

2007-08-17 06:44:02 - Extreme Weather - USA

<CODE>GLIDE CODE: ST-20070817-12967-USA
Date & Time: 2007-08-17 06:44:02 [UTC]
Area: USA, State of New Hampshire, Franklin, Ashland, Sanbornton, Meredith

Description:

<CODE>Severe storms moved through New Hampshire on Thursday night, bringing intense lightning, heavy rain and damaging winds. Downed trees were reported in Meredith, Franklin, Ashland and Sanbornton. There were no reports of injuries or extended power outages. Police and firefighters in Plainfield and Lebanon also reported downed trees and power lines throughout their communities. A severe thunderstorm watch was in effect for the entire state until 11 p.m.</CODE>

Damage level: Heavy</CODE>
<CODE></CODE>
<CODE>พายุหลายลูก โหมกระหน่ำอเมริกา ทำให้ฝนตกหนัก ฟ้าผ่า ฯลฯ</CODE>
<CODE></CODE>

 

สหรัฐเจอแจ๊คพอต ทั้งพายุโหมกระหน่ำ ทั้งคลื่นความร้อน ช่างเป็นความลงตัวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

Filipino students wade through floodwaters as they walk outside their school in Manila Wednesday. เด็กนักเรียนฟิลิปปินส์ ออกมาลุยฝนเล่นน้ำท่วม ตอนที่พวกเค้าเดินออกจากโรงเรียนในกรุงมะนิลา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (จากพายุ "ไซปัด")




Dean strengthens to Category 4 hurricane, heads to Gulf of Mexico ส่วนเฮริเคน "ดีน" เปลี่ยนเป็นระดับ 4 แล้ว กำลังมุ่งหน้าเข้าอ่าวเม็กซิโก ตอนนี้มีความแรงลม 135 ไมล์ต่อชั่วโมง อาจมีกำลังถึง 150 ไมล์ต่อชั่วโมงได้

Dean strengthened yet again Friday, becoming a Category 4 hurricane with dangerous 135-mph winds as it pounded Caribbean islands and headed toward the Gulf of Mexico.
It's on track to brush southern Hispaniola on Saturday and bear down on Jamaica on Sunday, forecasters said.
By Monday morning, as Dean nears the Yucatan, its maximum sustained winds are forecast to reach 150 mph, CNN Meteorologist Bonnie Schneider reported

 

<table border="0" cellpadding="2" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top">จีนอพยพคนเกือบล้านหนีไต้ฝุ่นเซอปั๊ต
</td> </tr> <tr> <td valign="top">19 สิงหาคม พ.ศ. 2550 10:33:00
</td> </tr> <tr> <td valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td valign="top"> จีนอพยพประชาชนเกือบล้านตามชายฝั่งหนีพายุไต้ฝุ่นเซอปั๊ต มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คนกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จีนอพยพประชาชนมากกว่า 900,000 คนตามแนวชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่พายุไต้ฝุ่น"เซอปั๊ต" ซึ่งตั้งชื่อตามปลาชนิดหนึ่งของมาเลเซีย มุ่งหน้าเข้าจีนในวันนี้ หลังเข้าถล่มไต้หวันเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ ทำให้ไฟฟ้าดับ ถนนขาดหลายสาย และรถหลายคันพลิกคว่ำ กับมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกภูเขา สำหรับในจีนนั้น มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน บาดเจ็บอีกกว่า 60 คน หลังจากเกิดพายุหมุน ซึ่งได้อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นเซอปั๊ต สร้างความเสียหายให้บ้าน 156 หลังในมณฑลเจ้อเจียงในเช้ามืดวันนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนสั่งระงับเที่ยวบินและบริการเรือข้ามฟากตลอดแนวชายฝั่ง ตั้งแต่มณฑลเจ้อเจียง ผ่านฟู้เจี้ยน ไปจนถึงกวางตุ้ง ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนพายุในระดับสูงสุด คาดว่าพายุจะเข้าถล่มจีนด้วยความเร็วลม 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะเข้าช่วงระหว่างเมืองเหลียนเจียงกับเมือง เซี่ยเหมิน ในมณฑลฟูเจี้ยน และคาดว่าจะทำให้มีฝนตกหนักไปจนถึงภาคเหนือที่นครเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ มีการอพยพผู้คนเกือบ 540,000 คนในมณฑลฟูเจี้ยน ,300,000 คนในเจ้อเจียง และ700,000 คนในกวางตุ้ง ขณะที่นครฟู่โจว,เซี่ยเหมิน และจินเจียงในมณฑลฟูเจี้ยน ระงับเที่ยวบินทั้งภายในและภายนอกประเทศรวม 109 เที่ยว กับปิดทางด่วนในนครฟู่โจว มีรายงานฝนตกในนครชายฝั่งหลายเมือง ขณะที่เขื่อนเก็บน้ำพากันระบายน้ำออกหลายล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเปิดที่ว่างสำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาใหม่


http://www.bangkokbiznews.com/2007/08/19/WW10_WW10_news.php?newsid=90106

</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

In pictures: Dean hits Mexican coast

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอริเคนดีนเพิ่มสูงขึ้นแม้อ่อนกำลังลงแล้วก็ตาม


</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เม็กซิโก ซิตี้, 24 ส.ค.- พายุเฮอริเคนดีน ซึ่งขณะนี้อ่อนกำลังลงมากแล้ว ทำให้เกิดโคลนถล่ม ขณะพัดเข้ากระหน่ำประเทศเม็กซิโก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 26 คนแล้ว หลังจากพัดผ่านเม็กซิโก เฮติ จาเมกา และส่วนอื่น ๆ ของดินแดนแถบทะเลแคริบเบียน
เจ้าหน้าที่ของทางการเม็กซิโก เตือนว่า วิกฤตการณ์จากพายุครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด แม้พายุเฮอริเคนดีนได้อ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อนแล้วก็ตาม เนื่องจากอิทธิพลจากพายุทำให้เกิดฝนตกหนักในบริเวณเชิงเขาที่มีสภาพดินไม่แข็งแรง ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ได้ และทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดเหตุอุทกภัยในหลายรัฐ โดยในส่วนของเม็กซิโกเอง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน ในขณะเดียวกัน ที่รัฐอีดัลโก ทางการต้องส่งตำรวจราว 1,100 นาย เข้าดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากมีรายงานการปล้นทรัพย์ ภายหลังจากที่ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนและร้านค้าเพื่อหนีภัยน้ำท่วม ส่วนบริษัทเปเม็กซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายเดียวของรัฐบาลเม็กซิโก ประกาศว่า จะเริ่มการผลิตน้ำมันตามปกติอีกครั้งในวันนี้ หลังจากต้องลดกำลังการผลิตลงร้อยละ 80 เนื่องจากพายุ.-สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คาดว่าจากนี้ไปสหรัฐจะโดนพายุเฮอริเคนถล่มหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ส่วนหนึ่งอาจมาจากกระแสน้ำที่ไหลผ่านมหาสมุทรแอตแลนติคเปลี่ยนทิศทาง
และอุณหภูมิของน้ำสูงขึ้นครับ

 

จาก”แคทรีน่า” ถึง”ดอมเรย” เมื่อพระเจ้าส่งสาส์นถึงมนุษย์

เรื่อง: กฤษกร วงค์กรวุฒิ
แคทรีน่า คือ ”คำเตือน” ของพระเป็นเจ้า.....
Ta Kung Pao , ฮ่องกง
เมืองนิวออร์ลีนส์ ได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นเมืองใหญ่เมืองแรก ที่ประสบหายนะจากสภาวะโลกร้อน
Taiwan News, ไต้หวัน
แม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตจะน้อยกว่าคลื่นยักษ์สึนามิ แต่แคทรีน่า สร้างความตื่นตระหนกได้ยิ่งกว่า เมื่อได้ตระหนักว่า
มนุษย์เอง เป็นผู้เพิ่มอำนาจทำลายล้างให้กับพายุเฮอริเคน......ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพียงน้อยนิด ได้ก่อให้เกิดสภาพลมฟ้าอากาศที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
The Sydney Morning Herald , ออสเตรเลีย
กรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐ มีความก้าวหน้ามาก สามารถแจ้งข้อมูลที่แม่นยำวินาทีต่อวินาที แต่ภาวะผู้นำกลับล้มเหลว ในการเตรียมการรับมือความพิโรธของลมฟ้าอากาศ
Ma'ariv, อิสราเอล
มันยากยิ่งที่จะยอมรับความจริงว่า นี่คือผลจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุของปรากฎการณ์ธรรมชาติที่นับวันจะ
ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที แคทรีน่า เป็นเพียงแค่คำเตือน
El Diario de Hoy, เอล ซัลวาดอร์

<table align="right"> <tbody><tr> <td height="149">
</td> <td valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td></td> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="149" width="15">
</td> <td valign="top" width="158"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td></td> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> <td bgcolor="#cccccc"></td> <td bgcolor="#cccccc" width="1"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="28" valign="top">
</td> </tr> </tbody> </table> นี่คือ ทัศนะของหนังสือพิมพ์บางส่วนจากทั่วโลกต่อพายุ
เฮอริเคนแคทรีน่า ที่พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ ได้แก่เมืองนิวออร์ลีนส์ หลุยส์เซียน่า และมิสซิสซิปปี้ สร้างความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุด นอกจากแคทรีน่า ยังมีเฮอริเคนอีกหลายลูกก่อตัวตามมา เดชะบุญ ที่สลายตัวไปก่อนที่จะขึ้นฝั่ง แต่ก็สร้างความระส่ำระสายไปทั่ว ในบ้านเราเอง ก็เป็นช่วงที่ต้องเผชิญกับพายุดีเปรสชั่นหลายต่อหลายลูก เมืองเชียงใหม่ถูกน้ำท่วมหลายต่อหลายครั้งในรอบปี ล่าสุดก็เผชิญกับพิษสงของดอมเรย
แม้ว่าเฮอริเคน จะเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นตามฤดู โดยเกิดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน – ตุลาคม แต่หากพิจารณาถึงอัตราเร่งของการทวีความรุนแรงที่ผิดปกติ ทำให้นัก
วิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก แน่ใจว่า ภาวะโลกร้อน มีส่วนอย่างยิ่ง ในการ ”เพิ่มอำนาจ” ทำลายล้างให้กับแคทรีน่า
นับจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งมนุษย์เริ่มนำเชื้อเพลิงจากฟอสซิลมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จนถึงปัจจุบัน มนุษย๋ได้ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่บรรยากาศ โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มมากขึ้นจากวัฏจักรตามธรรมชาติ
ก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ จะกักความร้อนไว้ที่ผิวโลก เป็นเหตุให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยพบว่า ในรอบสองร้อยปีที่ผ่านมา โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าในยุคก่อนปฏฺวัติอุตสาหกรรม 0.7 องศาเซลเซียส
โลกที่ร้อนขึ้น 0.7 องศา เพิ่มพลังทำลายล้างให้กับพายุได้อย่างไร ต้องมาทำความเข้าใจกับการก่อตัวของเฮอริเคน และพายุอื่น
เฮอริเคน คือ พายุหมุนกำลังแรงมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางมากกว่า 118.4 กม.ต่อชม. ขนาดของพายุอาจสูงถึง 16 ก.ม. กว้างถึง 800 ก.ม. พายุชนิดนี้ หากเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก และแถบบ้านเรา เรียกว่า ไต้ฝุ่น ถ้าเกิดในมหาสมุทรอินเดีย เรียกว่า ไซโคลน
ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดเฮอริเคน ก็คือ อุณหภูมิอากาศเหนือผิวน้ำ น้ำทะเลในเขตร้อน มีอุณหภูมิสูง ก็จะคายความร้อนให้กับอากาศเหนือผิวน้ำ ทำให้อากาศอุ่นขึ้น และลอยตัวสูงขึ้นในลักษณะหมุนเป็นเกลียว เกิดเป็นศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ทำให้ลมประจำฤดูพัดเข้ามาแทนที่ การหมุนของโลกทำให้ อากาศอุ่นชื้นที่ยกตัวขึ้นหมุนเป็นเกลียว เมื่อลอยสูงขึ้นไปก็เย็นตัวลง เกิดเป็นหอคอยเมฆฝนขนาดมหึมา ที่หมุนด้วยความเร็วสูงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 32 ก.ม.ต่อชั่วโมง หรือ 500 – 600 ก.ม.ต่อวัน ไปได้ไกลร่วม 5,000 ก.ม. ถ้าเฮอร์ริเคน อ่อนกำลังลงอย่างช้าๆ ก่อนขึ้นฝั่ง ก็จะเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดน้ำท่วม
แต่ถ้ามีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ โดยเฉพาะอุณหภูมิอากาศเหนือผิวน้ำเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้อากาศอุ่นลอยตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อากาศที่ไหลมาแทนที่จะเคลื่อนมาด้วยความเร็วสูง ทำให้มันทวีกำลังแรงขึ้นหลายเท่า และนั่นหมายถึง หายนะความเร็วสูง ที่เคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกับความชื้นสะสมมากกว่า 2 , 000 ล้านตันต่อวันเข้าปะทะทุกสิ่งที่ขวางหน้า ดังที่เกิดขึ้นกับเมืองนิวออร์ลีนส์ และอีกหลายเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ
ภูมิอากาศโลก มีกลไกสำคัญที่ควบคุมไม่ให้เกิดความปรวนแปรของอากาศ นั่นคือ กระแสน้ำในมหาสมุทร ที่พาน้ำอุณหภูมิสูงไปยังซีกโลกตอนเหนือ จนมีอุณหภูมิลดลง แล้ววนกลับมา กระแสน้ำนี้เองที่ช่วยไม่ให้อุณหภูมิผิวน้ำมีความแตกต่างมากเกินไป
แต่ผลจากภาวะโลกร้อน ได้ทำให้อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรทุกแห่งของโลกเพิ่มสูงขึ้น เพราะดูดซับความร้อนได้ดี เช่นเดียวกัน น้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก แถบอ่าวเม็กซิโก ก็มีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศเนือผิวน้ำบริเวณนี้จึงอุ่นกว่า จากการติดตามการก่อตัวของพายุพบว่า แคทรีน่า เป็นเฮอริเคน ที่ไม่มีพลังมากนัก เพื่อพัดผ่านฟลอริด้า แต่ทันใดนั้น เมื่อข้ามมาถึงอ่าวเม็กซิโก ความรุนแรงก็เพิ่มอย่างไม่คาดฝัน จากเฮอริเคนระดับ 1 ไปเป็นระดับ 4 ภายในไม่กี่ชั่วโมง
แบบจำลองที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ คาดการณ์ผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนออกมาในภาพรวม ดังที่ทราบกันทั่วไป คือ ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ในอนาคตอันใกล้ อาจทำให้หมู่เกาะปะการังหลายแห่งจมหายไป ที่ราบลุ่มชายฝั่ง ถูกน้ำทะเลท่วมถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือผลกระทบในระยะยาว นอกจากนี้ การที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจากภาวะเรือนกระจก ยังส่งผลกระทบต่อ การหมุนเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร เพราะน้ำที่เข้มข้นต่ำ จะไม่จมตัวลง ทำให้น้ำทะเลอุณหภูมิสูงกว่าจากเขตร้อน เคลื่อนมาแทนที่ได้น้อยกว่า ด้วยเหตุนี้ ซีกโลกเหนือ ที่ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่น ช่วยบรรเทาความหนาวเย็น ก็จะต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัดกว่าปกติ ส่วนในเขตร้อน น้ำทะเล จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นไปอีก เพราะมีการสะสมความร้อนเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้พายุที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงกว่าเดิม
สภาพการณ์ที่ดังกล่าวนี้ ทำให้มีแนวโน้มว่า จะเกิดพิบัติภัยทางธรรมชาติที่รุนแรงอย่างฉับพลันทันที และมีจำนวนครั้งมากขึ้น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะนำการเปลี่ยนแปลงมาอย่างช้าๆ อีกต่อไป
สหรัฐอเมริกา ปฏิเสธลงนามในพิธีสารโตเกียว และเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคอุตสาหกรรม และขนส่ง สูงที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนถึงหนึ่งในสี่ ของคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปล่อยออกมาจากทั่วโลก พิบัติภัยจากแคทรีน่า ทำให้บางคนมองด้วยความสะใจว่า เป็นความรุนแรงที่สาสมแล้ว หากแต่วิกฤติโลกร้อนนั้นส่งผลกระทบถึงมนุษยชาติทั้งมวล ไม่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่แบ่งความรับผิดชอบตามส่วน ทำนองใครปล่อยมากรับผลมาก ประเทศยากจน ก็ต้องเผชิญกับทุกขภิกภัยเช่นเดียวกันกับประเทศมีอันจะกิน แต่น่าเศร้าก็คือ ประเทศร่ำรวย มีศักยภาพในการป้องกัน และบรรเทาหายนะจากภัยธรรมชาติได้ดีกว่า ในขณะที่ประเทศยากจน จะเป็นความเลวร้ายอย่างที่สุด
สำหรับประเทศไทยนั้น มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เชื่อมโยงเป็นลูกโซ่ กล่าวคือ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น จะทำให้อัตราการระเหยของน้ำสูงขึ้น เกิดภาวะแห้งแล้ง น้ำในเขื่อนลดลง ส่งผลต่อภาคเกษตรกรม ขณะเดียวกันในเขตที่มีฝนตกชุก จะมีปริมาณฝนหนาแน่นกว่าปกติ เพราะความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินถล่ม เกิดน้ำท่วมฉับพลันบ่อยขึ้น เนื่องจากเราตัดไม้ทำลายป่าในระดับต่ำไปมากจนเหลือป่าที่ช่วยจัดการน้ำน้อยลง ดังที่ภาคเหนือของเรากำลังเผชิญอยู่จากพิษสงของ ”ดอมเรย” ส่วนพายุที่รุนแรงระดับเกิดแบบฉับพลัน ระดับเดียวกับแคทรีน่า แม้จะยังไม่เคยเกิด แต่ไม่มีใครยืนยันจะไม่มีสถานการณ์เช่นนั้น
หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังดำเนินไปในระดับที่เป็นอยู่ เป็นที่คาดการณ์กันว่า อุณหภูมิโลก จะเพิ่มขึ้นอีก จาก 0.7 องศาไปถึง 1.5 – 4.5 องศาเซลเซียส ภายใน 50 – 100 ปีข้างหน้า แนวโน้วที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มนุษย์ยังคงใช้พลังงานจากฟอสซิล โดยเฉพาะถ่านหินในอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นไปได้ว่า อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ห้วงเวลานับจากนี้ อาจกล่าวได้ว่า มนุษย์ ได้นำสิ่งมีชีวิตทั้งมวลก้าวมาสู่ยุคแห่งความเสี่ยงอย่างยิ่ง สภาพดินฟ้าอากาศ จะรุนแรง และทวีอำนาจการทำลายล้าง ชนิดที่ไม่อาจใช้ประสบการณ์เดิมตลอดยุคสมัยของมนุษยชาติมาเป็นบรรทัดฐานเพื่อสร้างเครื่องป้องกันใดๆ
อนาคตที่น่าพรั่นพรึงนี้ ป้องกันได้ด้วยการไม่ทำให้โลกร้อนไปกว่านี้ นั่นคือ ลด และ เลิกการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 2 องศา ที่โลกกำลังร้อนขึ้น อาจหมายถึงโลกอีกใบ ที่แคทรีน่า คือ เฮอริเคนธรรมดาๆ ลูกหนึ่ง แน่นอน มันย่อมไม่ใช่โลกสีน้ำเงินอันแสนงดงาม ที่เราเคยรู้จักอีกต่อไป

 

เฮอริเคน "เฟลิกซ์" ทวีความรุนแรงเป็นระดับ 5 แล้ว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">3 กันยายน 2550 09:55 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> พายุเฮอริเคนเฟลิกซ์มีความรุนแรงของลมในระดับ 5 เมื่อวานนี้ ขณะที่เคลื่อนตัวผ่านทะเลแคริบเบียนไปยังเบลีซและคาบสมุทรยูคาตันของเม็กซิโก หลังจากที่ก่อนหน้าที่พายุดังกล่าวได้พัดกระหน่ำหมู่เกาเนเธอร์แลนด์อันติลเลส
ขณะที่มีรายงานจากเวเนซุเอล่าว่า มีผู้หายสาบสูญ 1 คน ที่หาดของเมืองเปอร์โตกาเบลโลที่อยู่ห่างจากกรุงคารากัสเมืองหลวงของเมืองเวเนซุเอลา ไปทางตะวันตก 120 กิโลเมตร หลังจากที่ถูกพายุดังกล่าวพัดกระหน่ำ

 

Central America braced for Felix

<!-- S BO --> <!-- S IBOX --> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="208"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td class="sibtbg">
Thousands of people on Aruba took shelter from the storm
<!-- S IMED --> Trail of destruction
<!-- E IMED -->


<!-- S ILIN --> Animated guide: Hurricanes
<!-- E ILIN -->
</td> </tr> </tbody></table> <!-- E IBOX --> <!-- S SF --> Central America is preparing for a battering by Hurricane Felix, which has grown to a category five storm as it churns through the Caribbean. Honduras expects to be hit on Tuesday and has issued a hurricane warning for some coastal areas.
With wind speeds now up to 270km/h (165mph), correspondents say Felix is well above the minimum force for a category five storm.
It comes just two weeks after Hurricane Dean killed 18 people in the region. <!-- E SF -->
Meanwhile there are concerns over Tropical Storm Henriette, which caused landslides in the Mexican city of Acapulco that killed six people.
Forecasters fear the storm could become a hurricane and threaten Mexico's Baja California peninsula on Tuesday.
The Atlantic hurricane season is expected to peak on 10 September.
Belize prepares
By 1200 GMT on Monday, Felix was about 425km (260 miles) south of Kingston, Jamaica, moving in a westerly direction at 33km/h (21mph), the US National Hurricane Center (NHC) in Miami said.
But despite the hurricane being extremely powerful, winds are confined relatively close to the eye, says BBC broadcast meteorologist John Hammond.
<!-- S IINC --><table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="203"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td class="sibtbg">
View path of Hurricane Felix in more detail

Enlarge Map

</td> </tr> </tbody></table><!-- E IINC -->
Jamaica was under tropical storm watch as it held parliamentary elections, already postponed after a near miss with Hurricane Dean.
But though there had already been some heavy rain, widespread damage was thought to be unlikely.
Felix is expected to hit Honduras before moving on to Belize and Mexico's Yucatan peninsula by Wednesday.
As yet Honduras has made no effort to evacuate residents, but in Belize people are already said to be stocking up on emergency supplies and boarding up windows.
On Sunday, thousands of tourists and residents on Aruba and two of the Netherlands Antilles islands near Venezuela - Bonaire and Curacao - were forced to take shelter as Felix struck, but damage appeared slight.
The sixth named storm of the Atlantic hurricane season, Felix ruined orchards and demolished a concert venue when it hit Grenada on Saturday.
There have been no casualties, but there are reports that one person is missing in Venezuela.


http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/6976114.stm-----------------------------------------------------------------------
ประเทศในแถบอเมริกากลางเตรียมตัวรับมือพายุเฮอริเคนเฟลิกที่จะเข้าถล่ม
ซึ่งมีระดับความแรงระดับ 5 แล้ว

 

ปชช.หลายหมื่นพากันหลบหนีพายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">
</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> ประชาชนหลายหมื่นคน ได้เตรียมรับมือกับการพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ ( 4 ก.ย.) ว่า ประชาชนหลายหมื่นคน รวมถึงนักท่องเที่ยวในฮอนดูรัสและนิการากัว ได้เตรียมรับมือกับการพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งให้คนเหล่านี้หาที่หลบภัยจากการพัดผ่านของพายุนี้ด้วยความเร็วลม 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเกรงว่าพายุดังกล่าวจะมีความรุนแรงในลักษณะเดียวกันกับพายุเฮอร์ริเคนมิตช์ ซึ่งได้ทำให้ประชาชนราว 10,000 คน เสียชีวิตในอเมริกากลางเมื่อปี 2541
ด้านประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่น ได้รับแจ้งให้เตรียมตัวรับมือกับ น้ำท่วมหรือแผ่นดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นได้

พายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ นับเป็นพายุ เฮอร์ริเคนลูกที่ 2 ที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกในปีนี้ เป็นพายุที่มีความรุนแรงในระดับ 5 และมีลักษณ์เหมือนพายุเฮอร์ริเคนดีนที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้มีประชาชน 27 คน เสียชีวิตในประเทศแถบทะเลแคริบเบียนและเม็กซิโก

</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">
</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</center></td></tr></tbody></table>

 

เฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ถล่มนิการากัว ตายอย่างน้อย 21 ราย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">6 กันยายน 2550 05:12 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> ยอดผู้เสียชีวิตจากพิษของเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ พุ่งขึ้นไปเป็น 21 ราย และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มไปมากกว่านี้ ขณะที่ทีมช่วยเหลือกระจายกำลังในวันพุธ(5) ตามแถบตะวันออกเฉียงเหนือของนิการากัว ซึ่งถูกเฮอร์ริเคนคลุ้มคลั่งเล่นงานจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก

หลังจากพัดเข้าเล่นงานฝั่งทะเลแคริบเบียน ทำลายบ้านเรือนหลายพันหลัง เฟลิกซ์ ได้อ่อนกำลังลง แต่อิทธิพลของมันยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในประเทศเพื่อนบ้านอย่างฮอนดูรัส เพิ่มความกังวลว่าจะเกิดอุทกภัยและโคลนถล่ม

ทีมกู้ภัยเข้าประจำการตามชายฝั่งนิการากัว หลังมีความกังวลว่าอาจเจอศพผู้เสียชีวิตมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเขตชุมชน ซึ่งอาศัยอยู่ในกระท่อมที่ไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของเฮอร์ริเคนที่พัดด้วยความเร็ว 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้

"เราพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 21 รายและมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้น เราต้องเร่งมือเข้าค้นหา" เรย์นัลโด ฟรานซิส ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองแอตแลนติกเหนือกล่าว "เราได้รับข้อมูลว่าศพจำนวนมากลอยไปตามน้ำ"