คุณกำลังใช้พลังกุณฑาริณี (จักระเพศ) ผิดวิธีหรือไม่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 4 ธันวาคม 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    จริงๆ มังกรขาวตัวนี้เขาไม่ถูกกับผมนะ
    ลองสื่อสารกับเขาดูสิ ว่าเรื่องอะไร ...
     
  2. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    สัญญาเยอะเกินไป ไม่รู้อันไหนกันแน่
    เราเคยรบกันหรือเปล่านะ
    เรื่องราวในอดีต ช่างมันเหอะ
     
  3. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    มังกรขาวนี่ผู้หญิงนี่หว่า !

    วันนี้น่าจะพอแค่นี้ก่อน
    ขอความกล้าหาญจงเป็นของทุกท่าน
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    บางครั้ง จิตวิญญาณจรแทรกมา
    เพื่ออาศัยสังขาร ชำระกรรมกัน
    ถ้าพร้อมชำระกรรม ก็ปล่อยตาม
    ธรรมชาติ จิตหลักมีสติรู้เท่าทัน
    อยู่แล้ว ไม่ต่างจาก คนขี่ม้าใน
    สนามรบ คนก็คือคน ม้าก็คือม้า
    แต่จำต้องเดินทางไปด้วยกัน ...
     
  5. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    พิจารณาดูแล้ว พี่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ เรื่องมังกรขาวนี่ จะว่าเห็นก็เห็น แต่จะไม่เห็นก็ได้ มันเป็นสัญญาที่วิญญาณวิ่งผ่าน จะเอาเสือดำ เต่า นก ฯลฯ ก็มีได้ คิดว่ามันน่าจะเรียกมาได้หมดเลยนะหากเราส่งวิญญาณไป พี่ไม่อยากจะโทษสัญญา พี่ควรจะยอมรับว่าตนเองเป็นคนพาล

    ที่มีโทสะน่าจะเป็นเพราะตนเองมีกิเลสต้องการควบคุมอะไรบางอย่างแต่มันควบคุมไม่ได้ หลักๆคงกลัวท่านที่อ่านเรื่องกุณฑาลินีจะปลิดตนเองลงจากต้นมะม่วงก่อนถึงเวลาบ่ม โมโหว่าทำไมต้องไปสนใจคำเฉลย ทำไมไม่สนใจทำโจทย์ทั้งๆที่ทุกท่านมีศักยภาพเพียงพอที่จะหาคำตอบกันได้เองอยู่แล้ว ทำไมไม่ใช้สิ่งที่ตนมีกันอยู่ตอนนี้ซึ่งเหมาะสมอยู่แล้วบำเพ็ญกันไปให้เต็มที่ โมโหว่าทำไมคนที่นำเรื่องนี้มาพูดจึงต้องเป็นเธอด้วย

    สิ่งนี้มันเป็นปัญหาของตัวพี่เอง ความจริงถึงเธอไม่พูดคนอื่นเขาก็นำไปสอนกันเต็มไปหมดอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นมีใครตาย แค่ไม่ตรงต่อนิพพานไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย โลกนี้จะมีสักกี่คนที่อยากนิพพานจริงๆ ไม่รู้พี่จะมาพาลอะไรนักหนากับตัวเธอ เธอควรดำรงอยู่อย่างเป็นอิสระ

    ขอโทษนะ

    สำหรับ มังกรขาว พี่ไม่คิดว่าสามารถมีอิทธิพลต่อตนเองได้เช่นนี้ เป็นกิเลสในตัวพี่เองนี่ละอานุภาพรุนแรงกว่ามังกรภายนอกหลายเท่านัก
     
  6. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    จุดจักระกับจุดเส้นลมปราณมันก็จุดเดียวกันนี่ครับ จุดจักระย่อยก็มีอีกมากมาย
     
  7. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    วิธีที่ดึงพลังงานได้ง่ายที่สุดคือ การช่วยตัวเอง หรือ masturbation

    วิธีที่ยากที่สุดแต่ได้ผลที่สุดคือ การถือพรหมจรรย์ แล้วอาศัยการไหลเวียน/เดินพลังงาน ไปตาม จักระต่างๆ ซึ่งบางครั้ง จะตามเข็มนาฬิกา หรือ ทวนเข็มนาฬิกา ย้ายไปทางกระดูกสันหลัง ตามแนวขึ้นไป หรือ ลงมา ก็ต้องดู สภาวะ ทิศทางการไหลเวียนของพลังงาน

    วิธีควบคุม พลังเซ็กซ์ หากเกิดกำหนัด ก็ใช้ท่า งูกินหาง

    หรือ จะนั่งขัดสมาธิ แล้วเอามือทั้งสองมาผสานกันที่หน้าตัก แล้วออกแรงดึงกันให้มือทั้งสอง แยกออกจากกัน

    วิธีนี้ จะช่วยให้ ความกำหนัด หายไป

    แต่ปกติ จะแนะนำให้ จับคุ่ หยิน/หยาง กัน นั่นคือ หาคู่ฝึกที่สามารถ ถ่ายโอนพลังงานให้กันและกันได้ ในกรณีที่เริ่มฝึก ใหม่ ใหม่
    เพราะ หาก พลังจักระ1 / พลังงูไฟ ไหลไปสะสมที่ตันเถียน บน/กลาง/ล่าง
    จะส่งผลให้
    เกิด ธาตุแตก / ความไม่สมดุล ในดินน้ำลมไฟ
    และอาจ อันตรายถึงชีวิต
    บ้าบอ สติแตก
    ถ่ายไม่หยุด

    ด้วยประการฉะนี้
     
  8. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ตอบคุณ Suriyanvajra

    ไอฝึก งูไฟ หรือ กุณฑาลิณี มาตั้งแต่ปี 2551
    เมื่อฝึกสำเร็จ ภพภูมิเปิดหมด
    ตาทิพย์ เจโตฯ ปุพเพฯ อนาคตังฯ และอื่นๆ ก็มาเองตามธรรมชาติ เป็นอัตโนมัติ
    จึงเคยเล่าให้คุณ Suriyanvajra ฟังในกระทู้ The story of my satan's posession
    นี่คือ อันตรายของการเปิดจักระ และฝึกกุณฑาลิณี
    หากควบคุม พลังงานไม่ได้ ก็จะสุขภาพอ่อนแอ เสื่อมโทรม ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน
    เซ็กซ์จัด อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ถ่ายไม่หยุด เป็นต้น

    การที่เห็น มังกรขาวกันนั้น เป็นเรื่องปกติ เพราะ แม้แต่ สเปริ์มเพศชาย ยังเป็น งูไฟ เลยค่ะ

    ฉะนั้น ใครที่อยากฝึก เพื่อเพิ่มอภิญญา แล้วหาครูเก่งๆ ไม่ได้ ก็จะโดน กองทัพ ที่มองไม่เห็น สอยเอา รุมเอา บ้างก็เตลิดไปเข้า รพ.จิตเวช

    ไอเคยรับสอน กุณฑาลิณี รับมา 4 ท่าน ไม่มีใครฝึกสำเร็จเลย
    เด็ก 1 คน ถ่ายไม่หยุด
    เด็ก 1 คน โดนกองทัพใต้ดิน จู่โจม
    ผู้ใหญ่ 1 ท่าน ไม่ได้ผล
    ผู้ใหญ่ 1 ท่าน ล้มเลิกการฝึก เพราะ ไม่สามารถ ทนสภาพ จิตมารเข้าแทรกได้

    บางครั้ง จิตมารเข้าแทรกในระดับที่ทำให้ ธาตุแตก เลือดออกที่จักระ 1 หรือ ออกทางจมูก

    จึงไม่อยากให้ฝึกโดยไม่มี คุรุ อาจารย์แนะนำ

    หากบุญบารมีในชาติปางก่อนที่สั่งสมมาด้าน กุณฑาลิณี ก็จะมี คุรุ อาจารย์ มาสอนเอง ทางจิต อย่างอัศจรรย์

    เพราะ ปัจจุบันนี้ คุรุ อาจารย์ ด้านนี้ จำพรรษาในป่าเขา เวลาจะไปเติมวิชา ต้องเข้าป่าไป

    ที่รู้จริงปัจจุบันนั้น มีน้อยค่ะ ดีไม่ดี เอาผู้ฝึกเป็นแหล่งพลังงาน หยิน/หยาง เป็น คู่นอนทางจิตไปเลยก็มี

    จึงอันตรายมากค่ะ ขอเตือน
     
  9. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ท่าในการ ควบคุม พลังงานเซ็กซ์ สำหรับ ผู้ฝึกที่มีปัญหา

    อาการเซ็กซ์จัด อาการหงุดหงิดง่าย ใจร้อน

    ที่เกิดจากการฝึกกุณฑาลิณี

    ให้ใช้ท่านี้ ในการรักษา

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width=800 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="40%">[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="60%">
    [​IMG] ท่าที่ 6
    นั่งในท่าเดิม
    - ค่อยๆเคลื่อนแขนมาที่หน้าท้อง สองมือประสานใต้สะดือ
    - เริ่มเดินลมปราณจากจุดตันเถียนกลาง แล่นสู่อวัยวะเพศ

    หยุดนิ่งสักอึดใจ เริ่มเดินลมปราณกลับสู่จุดเดิม พร้อมกับออกแรงดึงมือที่ประสานกันอยู่ โดยมิให้หลุดออกจากกัน แล้วนิ่งสักอึดใจหนึ่ง ค่อยๆผ่นคลายอย่างช้าๆ
    ท่านี้ ทำ 12 ครั้ง หากเป็นชาย สามารถควบคุมอารมณ์เพศได้ อย่างฉับพลัน ป้องกันการกระทำทางเพศชั่ววูบได้ หากเป็นหญิง จะไม่มีโรคอันเกิดจากบริเวณช่องคลอด มดลูก รังไข่ และทางเดินปัสสาวะ รักษาครรภ์ด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เครดิต : ท่านปรมาจารย์ตั๊กม้อ / บ้านจอมยุทธ
     
  10. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +635
    ขอบคุณค่ะ เพิ่งเห็นที่คุณไอตอบ

    ไม่รู้ตัวเองไปเผลอฝึกเข้าหรือเปล่า ตอนแรกก็คิดแค่จะลองใช้พลังจักรวาล
    หรือพลังจากเบื้องบน รู้สึกเหมือนเป็นสายน้ำตกมากระทบตัว มันก็เริ่ม
    รู้สึกคล้ายจั๊กจี้ที่ศีรษะ ก็เลยลองดึงมาตามสันหลังบ้าง ลองไล่วนไปตาม
    จักระบ้าง ส่งลงแม่พระธรณีบ้าง แล้วก็ลองดึงกลับจากธรณีบ้าง

    แต่สองสามวันมานี้ มีกรุ่นๆ หงุดหงิดในใจ
    แล้วก็ปวดลูกกะตามากเลยค่ะ
     
  11. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600


    วิธีแก้ไข
    1.อาบน้ำร้อนจัด 5 นาที แล้ว ตามด้วย น้ำเย็นจัด 5 นาที

    วิธีอาบน้ำก็คือ ให้สายน้ำไหลผ่าน จักระ ต่างๆ หรือ บริเวรที่ปวด เช่น ปวดดวงตา ปวดกล้ามเนื้อ
    ฝรั่งเรียกว่า วิธี Hydro Therapy...การบำบัดด้วยน้ำ

    2. ล้างจักระ และล้าง ความคิดลบ หรือ Release Negativity

    ให้จินตนาการว่า ตัวของคุณ ถูกล้างสะอาดหมดจด และอยุ่ใน เปลือกไข่ ที่ทำด้วยหิน เปลือกไข่หินนี้ จะไม่มีคนมาทำร้ายคุณได้ และเป็นที่ พักใจของคุณ ทุกครั้ง ที่คุณ พบเจอปัญหาร้ายๆ ก็ขังตัวเอง ให้ปลอดภัย ในเปลือกไข่

    ตัวอย่าง คลิป ล้างความคิดลบ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=WY2sBPi0FZ0]release negativity - YouTube[/ame]

    3. รับประทาน อาหาร มังสวิรัติ ในช่วงที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมพลังงานความโกรธ/ความโมโห

    แค่นี้ ก็สามารถ รักษาตัวเองได้ค่ะ

    ส่วนใครสนใจวิธีล้างจักระ ตามมาเลยค่ะ http://palungjit.org/threads/เทคนิคการ-ล้างจักระ-ด้วยตนเอง.314989/

    ท้ายสุด ขอขอบคุณ ท่าน จขกท. ที่ post กระทุ้ที่เป็นประโยชน์นะคะ

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  12. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    DevaIsis เพื่อนรัก
    ขอบพระคุณในคำเตือน ดีใจมากๆที่เห็นเธอสบายดี เราไม่ได้ฝึกอะไรหรอก มันเป็นไปเอง เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่เหนื่อยบ่อยๆและซูบผอมเป็นเพราะมันแก่แล้วมั้ง frozen flower เขากลัวเราตายก่อนงานเสร็จเลยออกมาเตือน...อีกแบบนึง(ตามชื่อกระทู้)
    ขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
    รักษาคุ้มครองทุกท่านไว้ด้วย นะ โม พุท ธา ยะ
     
  13. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    คุณ Suriyanvajra ที่รัก

    คุณ Frozen flower เป็น กัลยาณมิตรธรรมที่ห่วงใย ต้องขอขอบคุณที่ดูแลคุณ Suriyanvajra เป็นอย่างดี

    กุณฑาลิณี จะไม่สำเร็จได้ หากมีการคาดหวัง ผลของการฝึก รวมทั้ง ลุ่มหลง ใน อภิญญา อิทธิฤทธิ์ เหนือ มนุษย์

    กลุ่มคนพิเศษ ที่สำเร็จ วิชานี้ มักจะเพราะ 1.บารมีสั่งสมเยอะ 2.มีหน้าที่/mission ที่ต้องใช้ พลังกุณฑาลิณี ทำงาน 3. โดยบังเอิญ

    ไอเป็น กลุ่มคนในข้อ 3 คือ บังเอิญ

    เช่นเดียวกับคุณ Suriyanvajra

    หากแต่ ความบังเอิญ ไม่มีในโลกนี้

    ค่ะ

    เทคแคร์นะคะ มีอะไรให้ช่วยเหลือ/รับใช้ ยินดีนะคะ สำหรับเพื่อน ที่ระลึกได้ว่า เคยเป็นเพื่อนกันมาค่ะ:cool:
     
  14. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    เช่นกันค่ะ มีไรให้เราช่วยบอกได้เลยนะ ยินดีเสมอจ้า
    dencee
     
  15. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    ความจริงท่านที่ชอบและตั้งใจจริงที่จะฝึกพลังกุณฑาลิณีท่านก็มีสิทธิและเสรีภาพที่จะดำเนินตามนั้น suriyanvajra มาให้ข้อมูลอีกด้านเพื่อประกอบการพิจารณาของท่านทั้งหลาย ตามหลักสติ(คำถาม)ปัญญา(คำตอบ)ใช้คู่กัน

    ตนคิดว่าจักระต่างๆตลอดจนเส้นลมปราณย่อยๆมากมายในตัวพวกเรามันก็ทำงานของมันตามปกติอยู่แล้วด้วยความมหัศจรรย์ไม่ว่าเราจะตระหนักรู้หรือไม่ก็ตาม เฉกเช่นเดียวกับการหายใจ พวกเราก็หายใจได้กันตามปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะรู้ถึงโครงสร้างการทำงานของปอดหรือไม่ก็ตาม ผู้ที่จำเป็นต้องรู้โครงสร้างของปอดคือผู้ที่มีหน้าที่รักษาคน เช่น แพทย์ และผู้ที่ปรารถนานำระบบหายใจไปใช้งานอย่างอื่นที่นอกเหนือไปจากการหายใจตามปกติ ซึ่งอันนี้ก็สุดแท้แต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณา

    คุรุแห่งโยคะท่านก็เป็นบรรพบุรุษของพวกเราทุกคน เป็นพระโพธิสัตว์ผู้ทรงไว้ด้วยความเมตตากรุณา ปรารถนาช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์เช่นเดียวกับพระศรีศากยมุนีและพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ บริวารที่มีกรรมสัมพันธ์ร่วมกันกับท่านย่อมมีจริตไปในทางนั้นเป็นธรรมดา ถือเป็นธรรมชาติของผู้ที่มีวิบากกรรมร่วมกัน หากผู้ใดจะไปทางนั้นก็ไม่เสียหายอะไร ขอเพียงท่านตรงต่อคุรุแห่งโยคะผู้รู้วิชาจริงๆท่านย่อมสำเร็จวิชาได้ในที่สุด

    ตนเพียงแต่เห็นว่ากลุ่มผู้ที่ปรารถนามรรคผลนิพพานในยุคพระศรีศากยมุนีนั้นอาจมีแนวทางบำเพ็ญอีกแบบ เป็นแบบที่ไม่ต้องใช้เทคนิคจักระจัดการกับกิเลสแต่ใช้บารมีตามปกติที่ตนมีจัดการกับมันจนแจ้งในอริยสัจ 4 ตนเดาว่าที่พวกเขามาเกิดในภูมิมนุษย์ก็เพื่อบำเพ็ญบารมีในภูมิมนุษย์ให้ครบถ้วนเพราะบารมีในภูมิอื่นนั้นพวกเขาล้วนบำเพ็ญมามากพอแล้ว (หากยังไม่พอเดี๋ยวตายไปก็ได้บำเพ็ญต่ออยู่ดี ที่ยังมีชีวิตเป็นมนุษย์อยู่ก็เพื่อให้ใช้สัมผัสของมนุษย์ปกติในการเข้าถึงอริยสัจ 4) หากบำเพ็ญในภูมิเทพพรหมพวกเขาย่อมได้กลับไปเป็นเทพพรหม แต่ไม่แน่ใจว่าบารมีจะเต็มถึงมรรคผลนิพพานในยุคนี้หรือเปล่าค่ะ
     
  16. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36
    ว่าจะพิมพ์ต่อวันนี้พอดีมาเจอกระทู้นี้ก่อน ขอบคุณสำหรับความรู้คะ แต่เราว่าจะฝึกเป็นเพื่อนญาติ เค้าจะฝึกเพราะเป็นโรคปวดหัวเลยต้องไปฝึกเป็นเพื่อน
    แต่พอ่านในกระทู้นี้แล้วฝึกสมาธิธรรมดาสายพระดีกว่า catt26
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2011
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ในกระบวนการมะม่วงสุก
    ก็มี "สายลมและแสงแดด"
    อยู่ด้วย มะม่วงไม่ใช่เอกเทศ


    เพียงแต่เราจะเป็นสายลมหรือพายุ
    แสงแดดหรือเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ


    สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยงทั้งนั้น
    แต่ถ้าไม่มีปัญญาที่จะใช้ "รูปสมมุติ-นามสมมุติ"
    ก็คงสื่อสารกันไม่ได้ นึกภาพกันไม่ออก ใช่ไหมครับ?


    จะสื่อสารเชิงอรูปก็ได้ เช่น กระแสจิต, กระแสพลัง
    กระแสกรรม, กระแสกิเลส ขับดันไปเช่นนั้นเช่นนี้
    แต่ผู้ฟังคงควรมีพื้นฐานจิตที่ละเอียดกว่าระดับรูป


    พิจารณาแล้ว เห็นว่าระดับรูปก่อนดีกว่า
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สายลมแสงแดด อาจไม่ใช่ครู
    แต่มันอาจเป็นองค์ประกอบ
    ในขณะที่ครูบรรยายอยู่ ...
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ความไม่ดุลยภาพระหว่างพลังกุณฑาริณีงูร้อนและงูเย็น


    ในจักระที่หนึ่ง ประกอบด้วยพลังงูร้อนและงูเย็น พลังของงูร้อน
    เกิดจากทัศนคติเชิงบวก (พลังกระแสบวก) ที่มีต่อ "กาม" และ
    พลังของงูเย็นเกิดจากทัศนคติเชิงลบที่มีต่อกาม เพื่อปกป้อง
    ตนเองให้ออกจากกาม และระมัดระวังกาม มักพบในนักบวชที่
    เคร่งครัดมากๆ แต่จะมีกำลังอ่อนในปุถุชนปกติ คนทั่วไปอาจ
    ไม่พบพลังงูเย็นเลย เพราะมีทัศนคติเชิงบวกกับกาม เวลาปลุก
    พลังกุณฑาริณีจะมีแต่พลังงูร้อน ในขณะที่บางคนอาจฝึกแล้ว
    ไม่พบพลังงูร้อนเลย ถ้ามีทัศนคติเชิงลบต่อกามตลอด


    เมื่อบุคคลสำรวจและฝึกพลังทั้งสองแบบ จะพบว่าพลังทั้งสอง
    ล้วนมีหน้าที่ของตนเองทั้งสิ้น (บางครั้งจำเป็นต้องมีกาม บาง
    ครั้งก็ควรระเว้นกาม) เมื่อตรวจดูดุลยภาพของพลังสองส่วน ก็
    จะพบว่าพลังสองส่วนอาจไม่ดุลยภาพกันก็ได้คือ บางคนมีพลัง
    งูร้อนกำลังมาก งูเย็นมีกำลังอ่อน ทำให้เปิดรับการมีกามง่ายแต่
    ในคนที่มีกำลังงูเย็นมากกว่างูร้อนจะปกป้องตนเองจากกามมาก
    จนถึงขั้นปิดใจที่จะมีกามกับผู้อื่นเลยก็มี การฝึกปรับพลังพื้นฐาน
    เพื่อให้เกิด "ดุลยภาพ" ไม่ใช่เพื่อให้มีกามมากขึ้นหรือน้อยลง แต่
    เพื่อปรับพื้นฐานพลังขับเคลื่อนด้านกามให้สมดุล ส่วนการมีกาม
    นั้น จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆ ด้วยเช่น กรรมเก่าที่สั่งสมกันมา
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    การประสานพลังระหว่างผู้ปฏิบัติธรรมแบบหยิน-หยาง


    กรณีนี้นับเป็นการเสพกามอย่างหนึ่งในระดับละเอียด ไม่ผ่าน
    สังขาร ซึ่งส่งผลต่อผู้ปฏิบัติที่มีพลังตรงกันข้าม ให้เพิ่มมาก
    ขึ้น เช่น ในคนที่ฝึกพลังร้อนเข้าคู่กับคนที่ฝึกพลังเย็น ใช้หยิน
    กระตุ้นหยาง และหยางกระตุ้นหยิน ทำให้เกิดพลวัตรของการ
    ไหลเวียนของพลังงานผ่านสองสังขาร บางครั้ง จะได้ผลดีต่อ
    ทั้งคู่ ถ้าสามารถเข้าคู่หยิน-หยางกันได้ แต่ในบางครั้ง บางคู่
    คนหนึ่งเสียพลัง หรือทำให้การฝึกเป๋ไปก็มี เช่น คนที่ฝึกร้อน
    เข้าคู่กับคนที่ฝึกเย็น คนที่เป๋ไป อาจกลายเป็นพลังดำ อย่างนี้
    ก็มี ดังนั้น การฝึกประสานพลังหยิน-หยางนี้ เป็นกามละเอียด
    ในระดับของผู้ฝึกจิต (คือ ยังไม่พ้นกาม) แต่ช่วยเสริมในการ
    ปฏิบัติหรือลดทอนการปฏิบัติของคนหนึ่งคนใดลงก็ได้ เช่นกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...