"คลังบุญ" ชมรมพุทธศาสตร์แห่งประเทศไทย

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

​

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓


















​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓

​

​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓

























​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓






​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑ ​

"ตามรอยพระพุทธบาทเมืองหนองหาน สักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญสร้างพระ"​

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓​

​

​

​

​

​

​

​

 

ประมวลภาพ

ประมวลภาพพิธีบวงสรวง
ณ สำนักสงฆ์โนนงิ้ว อำเภอบ้านฝาง
จังหวัดขอนแก่น
ในวันจันทร์ ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๓

















​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพพิธีบวงสรวง
ณ สำนักสงฆ์โนนงิ้ว อำเภอบ้านฝาง
จังหวัดขอนแก่น
ในวันจันทร์ ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๓











​

 

ผมว่าน่าจะเอาพระเครื่อง+พระบรมสารีริกธาตุไปบรรจุที่วัดป่าโนนจ่าหอมด้วยนะครับ
เห็นพระท่านสร้างสมเด็จองค์ปฐมอยู่นะครับ

อนุโมทนาบุญในทุกฉาก ทุกตอน ในทุกบุญกุศล ในบุญทุกๆประการด้วยครับ สาธุ สาธุ

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

​

ด่วน มหาทานบารมีครั้งยิ่งใหญ่
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกองบุญ​

๑) จัดสร้างผอบทองคำ ผอบเงิน ผอบนาค
และผอบหินอ่อน
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า ตลอดจนพระอรหันต์ธาตุ​

๒) จัดสร้างหัวใจพระเจ้าด้วยเงินแท้​

เพื่อประดิษฐานในสมเด็จองค์ปฐมทันใจ หน้าตัก ๔ ศอก
(หลวงพ่อรวยทันใจ)
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ในวันพ่อแห่งชาติ วันที่ ๕ ธันวาคม ๕๕๓​

เนื่องด้วยชมรมพุทธศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้จัดสร้างสมเด็จองค์ปฐมทันใจ ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก (หลวงพ่อรวยทันใจ) เพื่อเป็นแหล่งเคารพสักการะสูงสุดแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจแก่มหาชนทั้ง ๔ ทิศ ๘ ทาง​

โดยในการจัดสร้างสมเด็จองค์ปบมทันใจในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างตามประเพณีการสร้างพระทันใจในสมัยโบราณ คือจะทำการเทองค์พระให้สำเร็จทันใจภายในวันเดียว ซึ่งภายในองคืพระได้มีการบรรจุหัวใจพระเจ้า ซึ่งทำจากเงินแท้ ตลอดจนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ พระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆภายในองค์พระ มากกว่า ๘๔,๐๐๐ องค์​

ทางชมรมพุทธศาสตร์แห่งประเทศไทย จึงขอบอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาทุกๆท่าน ร่วมสร้างมหากุศลทานในครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าอานิสงค์ในการสร้างผอบเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ ตลอดจนหัวใจพระเจ้าเพื่อบรรจุในองค์พระครั้งนี้ อานิสงค์นั้นย่อมมากมายมหาศาล เกิดความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างทันอกทันใจ ยิ่งการสร้างผอบด้วยทองคำ เงิน นาค อานิสงค์ยิ่งทำให้เจ้าของบุญเจริญด้วยโภคทรัพย์อย่างไม่มีประมาณ ดังที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง "ท่านได้กล่าวถึงการบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยทองคำ ว่ามีอานิสงค์ทำให้กันอบายภูมิได้ เพราะเป็นผลแห่งกำลังของพุทธานุสติอันมีมากประมาณ"​

ท่านสามารถร่วมบุญได้โดยเป็นเจ้าภาพกองบุญได้ดังต่อไปนี้​

กองบุญประธาน
ร่วมทำบุญตั้งแต่ ๙๙๙ บาทขึ้นไป
รับวัตถุมงคลดังรายการต่อไปนี้​

๑) พระพุทธชินราช บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ จำนวน ๑ องค์
๒)หลวงพ่อรวยทันใจ บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ จำนวน ๑ องค์
๓) สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ บรรจุพระธาตุแก้วจักรพรรดิ์
จำนวน ๑ องค์
๔) สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ บรรจุพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า
จำนวน ๑ องค์
๕) พระพุทธศิลาแดง เนื้อผงพุทธคุณขาว จำนวน ๑ องค์
๖) พระพุทธศิลาแดง เนื้อผงพุทธคุณขาว จำนวน ๑ องค์
๗) หลวงปู่ทวดเนื้อดินกากยายักษ์ จำนวน ๑องค์
๘) ผ้ายันต์พุทธมหาจักรพรรดิ์ จำนวน ๑ ผืน
๙) ผ้ายันต์หลวงปู่ทวดนิรันตราย จำนวน ๑ ผืน
๑๐) ผ้ายันต์พญาไก่เถื่อน จำนวน ๑ ผืน
๑๑) สมเด็จไม้พญางิ้วดำมหาบารมี จำยวน ๑ องค์
๑๒) โครตเหล็กไหลกายสิทธิ์ จำนวน ๓ องค์​

กองบุญรองประธาน
ร่วมทำบุญตั้งแต่ ๔๙๙ บาทขึ้นไป
รับวัตถุมงคลดังรายการต่อไปนี้​

๑) หลวงปู่ทวดนิรันตราย จำนวน ๑ องค์
๒)หลวงพ่อรวยทันใจ บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ จำนวน ๑ องค์
๓) สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ บรรจุพระธาตุแก้วจักรพรรดิ์
จำนวน ๑ องค์
๔) สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ บรรจุพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า
จำนวน ๑ องค์
๕) ผ้ายันต์พุทธมหาจักรพรรดิ์ จำนวน ๑ ผืน
๖) ผ้ายันต์พญาไก่เถื่อน จำนวน ๑ ผืน
๗) โครตเหล็กไหลกายสิทธิ์ จำนวน ๓ องค์​

กองบุญกรรมการ
ร่วมทำบุญทุกบาททุกสตางค์
รับวัตถุมงคลดังรายการต่อไปนี้​

๑)หลวงพ่อรวยทันใจ บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ จำนวน ๑ องค์
๒) ผ้ายันต์พญาไก่เถื่อน จำนวน ๑ ผืน
๓) โครตเหล็กไหลกายสิทธิ์ จำนวน ๓ องค์


สำหรับท่านใดที่มีความประสงค์ร่วทำบุญสามารถร่วมทำบุญได้ที่

ชื่อบัญชี ศรายุทธ เอกคณาสิงห์
เลขที่บัญชี 320-0-16340-2
ธนาคารกรุงไทย สาขาจอมพระ
ประเภทออมทรัพย์

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณศรายุทธ เอกคณาสิงห์
(ประธานชมรมพุทธศาสตร์แห่งประเทศไทย)
โทร 0821179975


หมายเหตุ ท่านใดที่ร่วมทำบุญแล้วกรุณาแจ้งการโอน พร้อมชื่อและที่อยู่ทางกระทู้หรือทางpmให้ทราบด้วยนะครับ​

 

ประมวลภาพ

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

สมทบทุนจัดสร้างหลวงพ่อรวยทันใจ
ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง
จังหวัดสุรินทร์
ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

​

​

​

​

​

​

​

​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

สมทบทุนจัดสร้างหลวงพ่อรวยทันใจ
ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง
จังหวัดสุรินทร์
ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

สมทบทุนจัดสร้างหลวงพ่อรวยทันใจ
ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง
จังหวัดสุรินทร์
ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

สมทบทุนจัดสร้างหลวงพ่อรวยทันใจ
ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง
จังหวัดสุรินทร์
ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

สมทบทุนจัดสร้างหลวงพ่อรวยทันใจ
ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก
ณ วัดแจ้งสง่างาม ตำบลไพล อำเภอเมือง
จังหวัดสุรินทร์
ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

ณ วัดทุ่งสว่าง บ้านตาเฮอ ตำบลไพรขลา
อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์

ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
















​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

ณ วัดทุ่งสว่าง บ้านตาเฮอ ตำบลไพรขลา
อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์​

ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓



















​

 

แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพ
พิธีทอดกฐินสามัคคี​

ณ วัดทุ่งสว่าง บ้านตาเฮอ ตำบลไพรขลา
อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์​

ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓













​

 

แจ้งข่าว

ประมวลภาพ​

ทริปธรรมสัญจรครั้งที่ ๑​

"ทริปตามรอยพระบาทเมืองหนองหาน
บวงสรวงสักการะพระธาตุพนม
ร่วมกุศลสร้างพระพุทธปฎิมา"

ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๓​

​

​

​

​

ครับวันนี้ขอนำท่านผู้อ่านร่วมเดินทางแสวงบุญไปกับเรา สำหรับทริปธรรมสัญจรในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งทริปในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปสักการะบูชาสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาต่างๆ ทั้งพระธาตุพนม พระธาตุเชิงชุม ตลอดจนเป็นการเดินทางไปปฎิบัติธรรมที่วัดพุทธโมกข์ โดยมีพระอาจารย์หนุน สุวิชโย ท่านได้เมตตานำฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง ถือว่าทริปครั้งนี้อภิมหาคุ้มจริงๆ เอาละครับขอเชิญท่านผู้อ่านทุกๆท่านติดตามเนื้อหาสาระกันได้เลยนะครับ​

เราออกเดินทางกันในเช้าวันเสาร์ ตั้งแต่เก้าโมงเช้าโดยประมาณ ซึ่งสถานที่แรกที่เราไปถึงก็คือ วัดพุทธนิมิตร์ (ภูค่าว) อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สำหรับวันนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่พระมหาเจดีย์ ที่มองเห็นสูงเด่นแต่ไกล ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ ตลอดจนพระพุทธรูปต่างๆ มากมาย​

​

ภาพ พระพุทธนิมิตเหล็กไหล ซึ่งองค์พระทั้งองค์สร้างจากเหล็กไหล ทุกๆวัน มักมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบสักการะเป็นประจำ​

สำหรับบรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมมากมาย ดูแล้วช่างเงียบสงบเหมาะกับการนั่งสมาธิโดยแท้ สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด มีการออกแบบได้สวยงาม โดยส่วนใหญ่เป็นงานไม้ ศิลปะอีสาน สังเกตุได้จากหอพระที่ทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ภายในค่อนข้างร่มรื่นและเงียบสงบ​

​

​

ภาพ พระนอน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมาสักการะบูชากราบไหว้ขอพร อย่างไม่ขาดสาย ​

สำหรับพระนอน" ที่แปลกที่สุดน่าจะอยู่ที่ "วัดพุทธนิมิต" (ภูค่าว) ตั้งอยู่ บ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนภูเขาขนาดย่อม โดยเป็นปูชนียวัตถุโบราณแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ ที่กรมศิลปากรรับจดขึ้นทะเบียน หลังจากที่ "สมเด็จพระมหาวีรวงษ์" (อ้วน ติสฺสมหาเถร) อดีตปฐมสังฆนายกแห่งคณะสงฆ์ไทย วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ได้มากราบพระไสยาสน์องค์นี้ เมื่อ พ.ศ.2484 มีบัญชาให้อธิบดีกรมศิลปากร จดทะเบียนไว้ โดยองค์พระไสยาสน์ มีความยาว 2 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ตำแหน่งที่ประทับอยู่หน้าปากถ้ำกว้างประมาณ 5 เมตร สูงจากพื้นระดับเพดานถ้ำประมาณ 3 เมตร ลานด้านหน้าองค์พระกว้างประมาณ 10 เมตร และที่แปลกอย่างที่กล่าวไว้คือ พระไสยาสน์องค์นี้ตะแคงซ้าย ผู้รู้ได้สันนิษฐานว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า" พระอัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พรชัย ไชยคำมี" (นธ.เอก ปธ.) อดีตผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ พ.ศ.2523 ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือประวัติถ้ำพระภูค่าว ว่า นายสากับพรรคพวกชาวขอมเป็นผู้สร้าง โดยแกะสลักองค์พระไสยาสน์ในถ้ำนี้ เมื่อครั้งหลังการสมโภชองค์พระธาตุพนมและบรรจุพระอุรังคธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าราว พ.ศ.8 หากเมื่อนับมาถึง พ.ศ.2552 ก็จะมีอายุนานถึง 2,544 ปี นับว่าเก่าแก่มากที่สุดองค์หนึ่ง

ตำนานเล่าขานว่า ครั้งเมื่อพระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หรือพระยาขอม ประมาณปี พ.ศ.8 มีพระมหากัสสปเถรเจ้าเป็นองค์ประธาน พรั่งพร้อมด้วยพระอรหันต์ขีณาสพ 500 องค์ ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) ขององค์พระพุทธเจ้า เสด็จมาโดยทางญาณวิถีนภากาศ (เหาะมาทางอากาศ) ลงสู่ "ภูกำพร้า" วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้พร้อมใจกันสร้างอุโมงค์ โดยเอาดินดิบมาก่อเรียงกันขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม เสร็จแล้วเอาไฟเผาให้สุก มีประตูปิดเปิดได้ทั้ง 4 ด้าน สูงประมาณ 5 เมตร เมื่อเสร็จและกระทำพิธีฐาปนา (บรรจุ) พระอุรังคธาตุไว้ในอุโมงค์นั้น และให้ชื่อว่า "พระธาตุพนม" จากนั้นพระมหากัสสปเถรเจ้า พร้อมด้วยหมู่พระอรหันต์ขีณาสพ 500 องค์ ก็เสด็จกลับสู่กรุงราชคฤห์ในชมพูทวีป

พระเจ้าศรีโคตรบูรณ์จึงได้จัดให้มีการสมโภชองค์พระธาตุพนมอย่างยิ่งใหญ่ จึงได้มีสารบอกไปทางหัวเมืองขอมด้านเขมรต่ำที่เป็นเมืองขึ้น ว่าให้รวบรวมทรัพย์สมบัติอันมีค่า ขึ้นมาทำการสมโภชพระธาตุพนมด้วยกัน ซึ่งทางเขมรต่ำก็ได้รับคำทำตามสารบอกนั้น โดยได้แต่งตั้งผู้มีความสามารถคนหนึ่งชื่อ "นายสา" เป็นหัวหน้าคณะ ทำหน้าที่ควบคุมพรรคพวกและทรัพย์สมบัติ เดินทางขึ้นมาทางเมืองร้อยเอ็ด​

การเดินทางของคณะนายสา ได้รอนแรมมาตามระยะทางที่แสนลำบาก ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะมุ่งสู่องค์พระธาตุพนมให้จงได้ ครั้นเดินทางมาถึงบ่อน้ำซับคำม่วง (บ่อคำม่วง) ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูค่าวไม่ไกล ขณะที่พักแรมอยู่นี่เอง ก็ได้ทราบข่าวว่าการสมโภชองค์พระธาตุพนมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้นายสากับพรรคพวก จึงได้ปรึกษากันว่า บรรดาทรัพย์สมบัติที่ขนกันมานี้จะทำประการใด ถ้าจะขนกลับไปก็ดูจะไม่สมควร ทั้งการเดินทางก็สุดแสนลำบากยากยิ่งและแสนไกล ในที่สุดก็ได้ลงความเห็นกันว่า น่าจะฝังทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไว้ จึงได้ลงมือแกะสลักรูปองค์พระอรหันต์ขีณาสพพระมหาโมคคัลลานเถรเจ้า อัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยให้มีลักษณะในอิริยาบถไสยาสน์ตะแคงซ้าย หันเศียรไปทางด้านที่พระธาตุพนมตั้งอยู่ คือด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และถือเป็นนิมิตมงคลว่า พระธาตุพนมนั้น เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า ที่เสด็จประทับอยู่ด้านทิศที่เศียรพระไสยาสน์หันไป พร้อมได้ฝากคำปริศนา ให้ผู้คนรุ่นต่อมาเข้าใจว่าเป็นลายแทงแหล่งสมบัติที่ว่า "พระหลงหมู่อยู่ภูถ้ำบก แสงตาตกมีเงิน 7 แสน คำ 7 แสน ไผหาได้กินทานหาแหน่ เหลือจากนั้นกินเลี้ยงบ่หลอ"​

เพราะเชื่อว่าบริเวณที่พระไสยาสน์ประทับอยู่จะมีทรัพย์สมบัติมากมายฝังอยู่ คำบอกเล่าระบุว่ามีคนเข้าไปขุดค้นหาจำนวนมากแต่สุดท้ายกลุ่มคนผู้นั้นก็จะมีอันเป็นไปทุกราย จนทำชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ต่างมีความเลื่อมใสศรัทธามาสักการะอธิษฐาน ขอความเป็นสิริมงคลมิได้ขาด ​

แรงศรัทธาที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายนี้ นำมาซึ่งการพัฒนาวัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) จนมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ได้รับการยกย่องชื่นชมจากสาธุชนทั่วไปว่า เป็นวัดที่มีทัศนียภาพสวยงามยิ่ง วัตถุธรรมและเสนาสนะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ล้วนวิจิตรอลังการ ประหนึ่งเป็นพุทธสถานแห่งการท่องเที่ยวทั้งทางโลก-ทางธรรม และคงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในที
​

​

จากภาพ ตั้งจิตตั้งใจน้อมสักการะบูชาพระโมคคัลลานะเถระ ขอผลบุญในครั้งนี้จงสำเร็จ จงสำเร็จ จงสำเร็จ แก่ข้าพเจ้าสิ้นกาลนานเทอญ​

​

จากภาพ พระธาตุจำปาศรีมหารัตนาราม พุทธสถานที่หลวงปู่ต้นบุญ ติกขปัญโญ ท่านได้สร้างไว้ สถาปัตยกรรมแบบพระธาตุหลวงเวียงจันทร์ ว่ากันว่าท่านสร้างระลึกถึงเมื่อครั้งหนึ่งท่านเคยมีอดีตกาลเกี่ยวเนื่องกับ พระเจ้าชัยเชษฐาธิราช แห่งกรุงล้านช้าง​

เดินทางกว่าจะมาถึงวัดพระธาตุจำปาศรีมหารัตนาราม อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ก็ใช้เวลาเกือบบ่ายโมงพอดี สำหรับวัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่ต้นบุญ ท่านได้มาสร้างไว้ แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีพระจำพรรษาอยู่ คงมีแต่แม่ชีเป็นข้าโอกาสดูแลรักษาองค์พระธาตุไว้​

เมื่อไปถึงฝนก็ตกรินปลอยๆ เป็นระยะ สงสัยเหล่าเทพเทวดาท่านคงจะอนุโมทนาสาธุการ ที่เราได้เดินทางมาสักการะองค์พระธาตุในครั้งนี้ ​

​

​

ในโอกาสครั้งนี้ได้เย็บบายศรีซ้าย - ขวา มาสักการะองค์พระธาตุด้วย ​

​

ร่วมกันสวดมนต์ด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เพื่อน้อมระลึกถึงพระรัตนตรัย ตลอดจนเพื่อสักการะองค์พระบรมธาตุ ขอความสำเร็จจงพึงมีแก่ทุกท่าทุกดวงจิตเทอญ​

​

จากภาพ พระพุทธรูปไม้แกะสลักจากพม่า เป็นพระพุทธรูปที่หลวงปู่ต้นบุญ ท่านได้นำมาถวายพระอาจารย์สมบูรณ์ไว้ ส่วนด้านล่างเป็นหัวใจเจดีย์ ที่หลวงปู่ขาว ท่านได้สร้างแล้วนำมามอบให้พระอาจารย์สมบูรณ์เพื่อบรรจุในเจดีย์องค์ใหญ่สืบไป​

จากนั้นมุ่งหน้าเดินทางไปต่อที่อำเภอวานรนิวาส เพื่อไปวัดป่าธรรมาราม ซึ่งเป็นวัดของพระอาจารย์สมบูรณ์ท่าน เมื่อไปถึงท่านก็ออกเดินมารอพวกเราอยู่ที่หน้าศาลาวัดอยู่พอดี พวกเราจึงได้มีโอกาสไปนมัสการท่าน จากการสนทนากับท่านทราบว่าท่านกำลังสร้างพระมหาเจดีย์ภายในวัดทั้งสองแห่ง และบริเวณวัดท่านยังได้สร้างพระพุทธรูปเกือบๆ ร้อยองค์ พวกเราก็ได้แต่อนุโมทนาสาธุการกับท่าน​

​

ในครั้งนี้ได้มีโอกาส น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระกำลังจักรพรรดิ์ เพื่อฝากบรรจุในพระพุทธรูปและพระมหาเจดีย์ที่ท่านกำลังจัดสร้างอยู่ ขอเชิญอนุโมทนาบุญร่วมกันนะครับ

​

ในครั้งนี้เราได้มีโอกาส นำพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุบนยอดพระเกศมาลา ของสมเด็จองค์ปฐมต้นด้วย ขณะทำพิธีบรรจุคณะของเราและเหล่าญาติโยมที่มาร่วมพิธี ได้พร้อมใจกันสวดบทพุทธคุณสมโภชน์​

​

พระมหาเจดีย์ที่สร้าง ภานในบรรจุพระเขี้ยวแก้ว ของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ที่เสด็จมากับหลวงปู่ต้นบุญ ติกขปัญโญ ซึ่งเจดีย์นี้ในอนาคตเราจะได้นำพระกำลังจักรพรรดิ์มาบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ จำนวน ๘๔๐๐๐ องค์​

​

คณะของเราที่ร่วมเดินทางมาร่วมสร้งกุศลบารมี ด้วยกันในครั้งนี้​

​

หลังจากเสร็จภารกิจที่ วัดของพระอาจารย์สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว เราได้มุ่งหน้าเข้าสู่วัดพุทธโมกข์ อำเภอโพนนาแก้ว ซึ่งเป็นวัดของพระอาจารย์หนุน สุวิชโย เพื่อมาขอพักค้างคืนปฏิบัติธรรมกับท่าน​

โดยในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ท่านได้เมตตานำฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง ซึ่งสมาชิกหลายท่านสามารถขึ้นไปสวรรค์ นรก ได้ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ​

​

ร่วมสนทนาธรรมกับท่าน ท่านได้เมตตาสอนธรรมะให้แก่พวกเรา เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ท่านยังได้มอบเหล็กไหลพยานาคแก่ทุกๆ คนด้วย​

​

บายศรีและพวงมาลัย พร้อมด้วยสิบนิ้วอันเรียวงามขอน้อมกราบสักการะรอยพระพุทธบาทสำหรับรอยพระพุทธบาทรอยนี้อยู่บริเวณหลังวัดพุทธโมกข์ เป็นรอยประทับบนหินแลง ซึ่งพึ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้​

​

​

พระธาตุพนมประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานานไม่น้อยกว่า ๒,๓๐๐ ปี ผู้ที่สร้าง คือ พระ มหากัสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอก ของสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ ผู้ที่ร่วมช่วยในการสร้างพระธาตุนี้คือ ท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ อันได้แก่ พระยานันทเสน เมืองศรีโคตรบูรณ์ (เมืองนครพนม เดิม) พระยาจุลนีพรหมทัด พระยาอินทรปัตนคร และพญาดำแดง เมืองหนองหารน้อย ต่างพากันยกพลโยธามาร่วมช่วยกันสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จและบรรจุอุรังคธาตุพร้อมของมีค่าไว้ภายในเป็นจำนวนมาก พระธาตุพนมนี้เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประชาชนชาวลาวด้วย ในฤดูเทศกาล เพ็ญเดือน ๓ ของทุกปี พุทธศาสนิกชนจะหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ เพื่อร่วมสมโภชน์และนมัสการพระธาตุพนม ​

​

ในช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์เราได้ออกเดินทางมาที่อำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อมาทำพิธีบวงสรวงสักการะองค์พระธาตุพนม ขณะเดินทางมาฝนตกหนักพอสมควร แต่พอมาถึงพระธาตุพนมฝนหยุดตกอย่างน่าอัศจรรย์ ​

เมื่อมาถึงในองค์พระธาตุพนม คนค่อนข้างเยอะพอสมควรวันนี้ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเรา​

​

จากนั้นเราก็ได้ทำพิธีบวงสรวงสักการะองค์พระธาตุพนม ด้วยบายศรี ดอกไม้ ธูปเทียน พร้อมได้ร่วมใจกันสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และเดินเวียนรอบองค์พระธาตุ จำนวน ๓ รอบ​

หลังจากประกอบพิธีเสร็จสายฝนได้โปรยปรายลงมา อุปมาดั้งปวงเทพทั้งหลายที่รักษาองค์พระธาตุได้อนุโมทนายินดีกับพวกเราในครั้งนี้​

​

"หากพระธาตุพนมยังอยู่ยั้ง บ่แปรเปลี่ยนทำลาย​

พวกหมู่เฮาทั้งหลาย ก็อยู่ยืน ยาวมั่น​

บ่มีวันสูญเศร้า ศาสนาเฮา ก็เฮืองฮุ่ง​

ชาติที่ฮักยิ่งก้าว เจริญเรื่อยบ่เสื่อมโทรมเจ้าเอย ​

ตราบใด ธาตุพนมถือลึบม้าง อธรรมครอบ ครองเมือง​

ศาสนาโคดมบ่ห่อนเฮือง ส่งแสง ใสเหลื้อม​

ชาวเมืองบ้าน โกลาหล หมองม่น ไปแล้ว​

มีแต่ความถ่อยฮ้าย กวนกุ้ม ก่อแต่เวรแท้แล้ว"​

​

​

ในช่วงบ่ายก่อนเดินทางกลับจังหวัดสกลนคร คณะของเราได้มีโอกาสแวะสักการะบูชารอยพระพุทธบาท ที่ภูกำพร้า อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร


​

รอยพระพุทธบาทภูกำพร้า เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ มีนิ้วเท้าทั้งห้าค่อนข้างชัดเจน เชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับไว้ ณ บนยอดดอยภูกำพร้าคีรี เมื่อครั้งพระพุทธองค์ได้เสด็จมาบริเวณนี้

​

​

​

สำหรับพระธาตุเชิงชุนั้นประดิษฐานอยู่บนเนินสูง ในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอานนท์ ได้เสด็จจากพระวิหารเชตวันวิหาร มาทางดินแดนทางทิศตะวันออก เพื่อโปรดสัตว์ เมื่อเสด็จตามลำแม่น้ำโขง ก็ได้ประทับรอยพระพุทธบาทมาตามลำดับ มีพระพุทธบาทบัวบก พระพุทธบาทโพนเพล พระพุทธบาทเวินปลา แล้วมาพักฉันภัตตาหารที่ภูกำพร้า อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนม จากนั้นได้เสด็จไปโปรดพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ และได้ประทับพระพุทธบาทที่ภูเขาน้ำลอดเชิงชุม รวมกับพระพุทธบาทของ อดีตพระพุทธเจ้าองค์ก่อนอีก 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าพระนามกกุสันธะ พระพุทธเจ้าพระนามโกนาคมะ และพระพุทธเจ้าพระนามกัสสปะ เมื่อพระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงทราบข่าว จึงได้เสด็จออกต้อนรับ พร้อมทั้งพระนางนารายณ์เจงเวงราชเทวี พระพุทธเจ้ามีพุทธประสงค์ให้พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น จึงทรงแสดงปาฏิหารย์บันดาลให้มีดวงมณีรัตน์มีรัศมี พวยพุ่งออกจากพระโอษฐ์พร้อมกันสามดวง พระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงเห็นเป็นอัศจรรย์ก็บังเกิดศรัทธา เปล่งวาจาสาธุการด้วยความปิติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ณ ที่นี้เป็นสถานที่อันอุดมประเสริฐ ที่พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ จะได้มาประชุมรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อเป็นที่สักการะแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ บังเกิดความปิติโสมนัส จึงได้ถอดมงกุฎทองคำของพระองค์ สวมลงบูชารอยพระพุทธบาท แล้วทรงสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงได้ชื่อว่าพระธาตุเชิงชุมแต่นั้นมา เนื่องจากเป็นที่ชุมนุมของพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

​

ร่วมบวงสรวงสักการะองค์พระธาตุเชิงชุม​

​

เดินทางมา ณ สำนักสงฆ์ภาวนาธรรมเมตตาธุดงค์สถาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร บริเวณที่ขุดพบปราสาทขอมและเมืองสกลรัตนวาปี​

พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานส่วนขั้วหัวใจ ที่ถูกอัญเชิญขึ้นมาได้

​

พระเขี้ยวแก้วของพระพุทธกัสปะสัมสัมพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาได้
​

พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธกัสปะที่เสด็จมา

​

 

แจ้งข่าว

ประมวลภาพ
........................................​