ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

สถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

ยินดีต้อนรับ

คุณวิจิตร ( vijit_j )

ที่เดินทางมาเยือนเขากะลา
ด้วยความยินดียิ่ง​

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.627334/[/VDO]​

 

ขออนุโมทนากับพี่วิจิตร ด้วยครับ
เป็นมหาบุญ มหาบารมี ที่พี่วิจิตรได้มีจิต
เป็นกุศล ช่วยส่งเสริมสร้างสถานธรรมฯ
ให้สำเร็จสมบูรณ์ขึ้นมา และจะปรากฏให้
ชาวโลกได้เห็นในเร็ววันนี้แล้วหละครับ

ทุกครั้งที่เห็นไฟฟ้า หรือเสาไฟ ก็อดที่จะคิดถึงพี่วิจิตรไม่ได้....สาธุๆ...มนุษย์ไฟฟ้าตัวจริงเสียงจริง
(kiss)

 

ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้
เพียงเพื่อมาแสดงละครชีวิต บนเทวีโลกใบนี้ เท่านั้น
ต่างคนต่างสวมบทบาทแตกต่างกันไป

เมื่อการแสดงจบ
ต่างคนต่างลาลับกลับไป

บางคนแสดงบท ไม่รู้จักอวสาน
ต้องเกิดมาแสดงใหม่ ซ้ำๆซากๆ หลายหมื่นแสนฉาก

บางคน สามารถ แสดงบท ได้ครบจบ อวสาน
ไม่ต้องมาเกิด ไม่ต้องมาแสดง อีกต่อไป
เพราะมีความสมบูรณ์ และเข้าใจจบบทชีวิต
ไม่คิดหวนกลับมาเล่นฉากเดิมๆที่น่าเบื่อหน่ายอีกแล้ว

 

ถ้ามีโปรแกรม ขอเชิญคุณชยุตด้วย จะได้ถ่ายรูปซะที

 

ขออนุญาตแก้ไขตำแหน่งของคุณวิจิตร ที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่า

คุณวิจิตร ก็ทำงานเป็นหัวหน้าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในจังหวัดเพชรบูรณ์

ตำแหน่งของคุณวิจิตรในขณะนี้คือ
ผู้จัดการไฟฟ้า ตำบลบ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

หากเพื่อน ๆ สมาชิกท่านใดมีโอกาสเดินทางไปแถวจังหวัดเพชรบูรณ์ จะได้แวะเยี่ยมเยียน ทักทายทำความรู้จัก และสนทนาธรรมกับคุณวิจิตรได้ตลอดเวลา ที่การไฟฟ้าตำบลบ้านกลาง อ.หล่มสัก ค่ะ

 

วันนี้ 4 กรกฎาคม 2552

พี่สุดใจได้เดินทางไปต้อนรับ คุณแม่ของคุณพีท ทองเจือ คือคุณนิธิกานต์ หรือคุณแดง พร้อมกับคุณอ้อม อาจารย์อีก 1 ท่านที่มาบวชศีลจาริณีพร้อมคุณแดง

ในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันของโรงเรียนอนุบาลนิธิกานต์ คุณแดงจึงเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาปฏิบัติธรรม บำเพ็ญสมาธิภาวนา ในช่วงก่อนเข้าพรรษาในปีนี้

โดยท่านจะมาบวชศีลจาริณี (ชีพราหมณ์) ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดเกตุคีรี จังหวัดนครสวรรค์

พี่สุดใจ คุณสมจิตร จึงได้เดินทางไปรับท่านที่จุดนัดพบ แล้วพาท่านไปยังวัดเกตุคีรี โดยมีแม่ชีบุญช่วย ได้รอรับอยู่ที่วัดแล้ว

แม่ชีบุญช่วย ได้พาคุณแดง และคุณอ้อม ไปพบหลวงพ่อ เพื่อขอสมาทานศีลบวชชีพราหมณ์

และในวันนี้ ทั้งสองท่านได้บวชศีลจาริณี เป็นชีพราหมณ์เรียบร้อยแล้ว และจะปฏิบัติสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอยู่ ณ วัดเกตุคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นเวลา 3 วัน

ขอกราบอนุโมทนา สาธุ กับคุณแม่แดง และคุณอ้อมด้วยอย่างยิ่งค่ะ

 

หลังจากบวชศีลจาริณีเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ชีบุญช่วยก็ได้พาทั้งสองท่านไปพักยังห้องพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม โดยผู้ปฏิบัติพักห้องละ 1 ท่าน

ซึ่งในวันที่ 7 กรกฎาคม ท่านจะลาศีล เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

แต่ก่อนกลับกรุงเทพฯ ท่านจะเดินทางมาดูสถานที่ก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ที่เขากะลา

เพื่อท่านจะได้จัดเตรียมต้นไม้ในส่วนที่จะนำมาปลูก ณ สถานที่แห่งนี้ ในโอกาสต่อไป

ขอกราบอนุโมทนาค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณChayutt

เมื่อหลายวันก่อนคิดถึงคุณชยุต อยู่เหมือนกันว่า เมื่อไรคุณจะกลับเมืองไทย และยังคิดต่อไปอีกว่า ตอนนี้ระบบเรียกตัวพี่วรรณกลับเมืองไทย แล้วเพื่อนๆกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย จะมีใครกลับบ้าง ก็เพิ่งมาอ่านเจอว่าคุณชยุต จะกลับเมืองไทยเหมือนกัน พี่วรรณขอยินดีการกลับมาเมืองไทยกับคุณชยุตด้วยนะคะ คงต้องมีการเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของคุณชยุตด้วยค่ะ และมาถ่ายภาพร่วมกัน ก็มีคนชยุตท่านเดียวที่ยังไม่ได้ถ่ายภาพรับรองหมายเลข

พี่วรรณได้จองตั๋วแล้วเมื่อวานนี้ คุณชยุตจองหรือยังคะ
I am looking foward to see you soon.

 

เขียนที่USA
วันที่ อะไรก็ช่างเถอะ

เรื่อง การขอพบ
เรียน ผู้จัดการไฟฟ้า ตำบลบ้านกลาง
อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ดิฉันจะเดินทางกลับไปเมืองไทยสิ้นเดือนนี้ มีความประสงค์ขอพบท่านในวันอะไรก็แล้วแต่ ที่มาดามของท่านอนุญาต ส่วนเวลาที่ขอพบ ขอเป็นเวลาที่ดิฉันหิวข้าว และต้องการให้ท่านขับรถของดิฉันพาไปทานข้าว และไม่ต้องไปไกลแบบครั้งที่แล้วที่ริมแม่น้ำโขง หากวันที่มาดามท่านอนุญาต เป็นวันที่แดดจัดอากาศร้อน ขอให้ท่านเตรียร่มมากางให้ดิฉันด้วย เหมือนครั้งที่แล้ว จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านได้เตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมลาพักร้อนไว้ล่วงหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้การอนุเคราะห์จากมาดามของท่านในการขอพบท่านด้วยค่ะ


ด้วยความเป็นกันเอง
Digital

 

โอ้..จดหมายข้างบนนี่

ดูเหมือนจะเป็นจดหมายทางลาด-ชะ-กานต์ นะเนี่ย (กานต์ = อันเป็นที่รัก)

.............................
ถึง พี่วรรณ

ผมยังไม่ได้จองตั๋วเลยครับ แค่มีดำริว่าอยากกลับช่วงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นเองครับ
แต่มีแนวโน้วว่าจะได้กลับจริง..

น่าจะราวๆ..วันที่ 30/7/09 กระมังครับ แต่อยู่กี่วันยังไม่รู้ครับ

แต่ยังไงก็จะแอบดูกำหนดการของพี่ๆอยู่ว่าจะมีอะไรกัน วันไหน
จะได้กำหนดวันกลับให้สอดคล้องกับกำหนดการของพวกพี่ๆหนะครับ

คราวนี้กลับไป ก็กะว่าจะไปจับหมายเลขถ่ายรูปให้แล้วเสร็จไปซะที

และอาจจะพาน้องๆบางคนที่เวียดนามนี่ไปเยี่ยมด้วย
มีคนที่ผมกล่อมสำเร็จมาแล้วอย่างน้อย 1 คนครับ

คือประมาณว่า พวกนี้ปกติกินเหล้าเมายา ใช้ชีวิตแบบปุถุชนทั่วๆไป
แต่ด้วยความที่ผมเอง ก็เกิดเป็นพวกเดียวกันด้วย
เลยได้แอบแทรกธรรมะไปในวงเหล้าบ่อยๆ

เพราะปกติเวลาทำงาน ไม่ค่อยได้คุยกันหนะครับ
และจะมีเวลาคุยกันแบบสบายๆมากหน่อยก็ตอนนั่งกินเบียร์ด้วยกัน
แล้วก็ทุกครั้งที่กินเบียร์ด้วยกัน ก็จะมีการสนทนาธรรมกันสม่ำเสมอ

จนบ่อยครั้งเข้า พวกเลยเริ่มสงสัยในสิ่งที่ผมเคยพูดให้ฟัง ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ก็เลยเริ่มค้นหาข้อมูลเอง กันบ้างแล้ว..

ปรากฎว่า เหนือความคาดหมายครับ..

คือมีน้องคนหนึ่ง ตอนนี้เริ่มมานั่งสมาธิบ้างแล้ว
(แถมเริ่มมองเห็นออร่าของชาวบ้านแล้วด้วย..เออ..เป็นไปได้นะคนเรา)
มิหนำซ้ำ เด้ยินน้องเขาดำริว่า จะต้องหาเวลาไปบวชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต..ว่างั้นนะ

และในกลุ่มพวกขี้เหล้านี้แหละ ก็คุยกันว่า..เอาหละว๊ะ เข้าพรรษานี้
จะเป็นพรรษาแรกของชีวิตที่จะไม่กินเหล้าเมายาอีกต่อไปแล้ว..ว่างั้นนะครับ

สรุปว่า..คนไทยที่อยู่ที่นี่ ผมเกณฑ์ให้มารวมทีมกันอ่านพระไตรปิฎกเล่มที่ 11
รวมทั้งหมด 6 คน แบ่งกันอ่าน เอามาลงเวปพลังจิตนี่แหละครับ
ในโครงการ "พระไตรปิฏกเสียง" นั่นแหละ

ตอนนี้บางคนก็กำลังขมักขะเม้นอ่านใหญ่เลย จากเดิมที่มัวแต่นั่งดูหนังน้ำเน่าไปวันๆ

น่าจะพอคุ้มอยู่กระมัง..กับการต้องมานั่งกินเหล้า กินเบียร์ กับพวกนี้

..ก็ยังพอจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้างหนะนะครับ..

เอาเถอะครับ..ถึงแม้จะผิดศีล..หรือแม้ว่าใครจะว่ายังไงก็ตามแต่
แต่ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว..

ในส่วนตัวของผม ผมก็ยังตระหนักรู้อยู่ว่าทางที่ผมต้องไปหนะคือทางไหน
เข้มงวดกับตัวเองอย่างมากๆๆๆเลย ผมก็เคยทำมาแล้ว
นั่งสมาธิแบบเข้มจัดๆ ผมก็พอจะเคยมีประสบการณ์อยู่บ้าง
นอนในถ้ำคนเดียว 9 วัน 10 วัน ผมก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างอยู่พอสมควร

ดังนั้น ผมเข้าข้างตัวเองนะครับว่า..ถ้าผมต้องมา "ปลุกให้ใครตื่น"
บางทีทางนี้ อาจจะจำเป็นต้องทำ เนื่องจากว่า เคยคุยกับพวกเขาเหมือนกันว่า

"ถ้าอยู่ๆมีพระผู้ทรงศีล ทรงธรรม มานั่งเทศน์ให้พวกแกรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูกนี่ พวกแกจะฟังไหม๊ไ

จบข่าวเลยครับ ไม่ฟังอย่างแน่นอน

...พอดีกว่า...พูดมากไม่ดีครับ..เหมือนแก้ตัวยังไงก็ไม่รู้..
เพราะว่าจริงๆแล้ว..ก็กำลังแก้ตัวอยู่..5555

 

สาธุ ขออนุโมทนากับคุณแม่แดง และคุณอ้อม
ในคราวถือบวชศีลจาริณี ครั้งนี้ด้วยครับ

 

ขออนุโมทนากับคุณแม่แดง คุณอ้อม และทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือศีลบวชศีลจาริณีในครั้งนี้ด้วยคนครับ........

 

ขออนุโมทนากับคุณ Narinthon ด้วยเช่นกันค่ะ

เมื่อวานนี้ พี่สุดใจ ได้มีโอกาสต้อนรับ และสนทนากับบุคคล 3 ท่าน ที่ได้มาสนทนาที่บ้านสันคู นครสวรรค์

ท่านแรก มาด้วยความทุกข์ ในเรื่องการพบเจอกับสิ่งที่ไม่น่ายินดี เกิดความไม่สบายใจ ทุกข์ร้อนใจ เพราะความไม่เข้าใจของคนรอบ ๆ ข้าง คนใกล้ชิด และสถานการณ์อื่น ๆ ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น จึงมาด้วยความทุกข์กายทุกข์ใจ

ด้วยเพียรพยายามจะเปลี่ยนภายนอก ให้เป็นดังที่ต้องการนั่นเอง

แต่เมื่อได้รับทราบ ได้รับการขยายระบบ ได้ทำความเข้าใจที่ถูกตรงกับกฏของธรรมชาติ กับสิ่งที่เป็นธรรมะขั้นปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่น จนเห็นการทำงานของกลไกขันธ์ห้าได้ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ปาฏิหาริย์แห่งธรรมของพระพุทธองค์ ก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

และเกิดขึ้นกับบุคคลท่านนี้ คุณ Narinthon ที่สามารถมองเห็นแสงสว่างแห่งธรรมของพระพุทธองค์ ที่ไม่เคยเข้าใจอย่างลึกซึ้งมาก่อน

รอยยิ้มอย่างสดใส พร้อมความเข้าใจในธรรม เข้าใจในความเป็นเช่นนั้นเองของขันธ์ห้า เห็นถึงเหตุแห่งทุกข์ เพราะความหลงในอุปาทาน หลงไปยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน ที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์นั่นเอง

แม้ได้เคยศึกษาปฏิบัติธรรมะมาหลายปี แต่ไม่เคยเห็นจริงอย่างลึกซื้งเช่นนี้มาก่อน จึงไม่เคยดับทุกข์ ไม่เคยเบาบางจากทุกข์ได้จริงเลย

จนกล่าวออกมาว่า เหมือนเส้นผมบังภูเขาแท้ ๆ

ได้สนทนากันต่อหลายชั่วโมง อย่างสนุกสนานและรับทราบในหลายแง่มุมเพิ่มเติม พร้อมรอยยิ้มที่สดใจอย่างที่ไม่เคยเห็น ผิดจากตอนที่เดินทางมาอย่างลิบลับ

และได้ไปซื้อกับข้าว มาทานอาหารเย็นร่วมกันที่บ้านก่อนเดินทางกลับไป

ขออนุโมทนากับคุณ Narinthon ด้วยอย่างยิ่ง และขอให้เพียรที่จะปฏิบัติ เพื่อการปล่อยวางต่อไป หากมีข้อสงสัยใด ๆ โทรมาสนทนา หรือมาพบได้ตลอดเวลานะคะ

อนุโมทนาค่ะ

 

ส่วนอีก 2 ท่าน มาพร้อมกันในตอนเย็น

ท่านหนึ่ง คือคุณ Mckaforce มาซ่อมคอมพิวเตอร์ให้พี่สุดใจ และรับฟังการขยายระบบด้วย

ส่วนอีกท่านหนึ่ง เป็นเพื่อนคุณ Mckaforce มาเพราะความกลัว ความไม่เข้าใจ ความสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง

คือเป็นคนที่บางครั้ง เวลาที่ตนเองนอนหลับ กายหยาบนอนหลับ แต่ภายในไม่หลับ จะออกมาอยู่ข้างนอก แต่เห็นร่างกายนอนหลับไปแล้ว แต่ตนเองกลับไม่ได้หลับไปด้วย เห็นตัวเอง ออกมานั่งมองตัวเองนอนหลับ

บางครั้งยืนดู แล้วพยายามจะกลับเข้าไป แล้วปลุกให้ตื่น ก็ไม่ตื่น เขาจะตื่นก็ตื่นเอง จึงเกิดความกลัว

เมื่อก่อนเป็นไม่นาน ไม่กี่นาที พอในระยะหลัง กลับเป็นบ่อยขึ้น นานขึ้น และเริ่มที่จะออกจากขันธ์ห้าตัวเองบ่อยขึ้น จึงเกิดความกลัวว่าจะกลับเข้าไปในขันธ์ห้าไม่ได้อีก

ความทุกข์เพราะความกลัวก็เลยเกิดขึ้น และไปบอกกับใครเขาก็หาว่าเพ้อเจ้อ อุปาทาน

จนมาเล่าให้คุณ Mckaforce ฟัง และคุณ Mckaforce ได้บอกให้อ่านในเว็บไซด์พลังจิต กระทู้ข้อความฯ จะได้รับทราบว่าคนอื่น ๆ เขาก็มีการพบเจอเหมือนเช่นนี้หลายท่าน และพบเจออีกหลายอย่างด้วย

บุคคลท่านนี้ได้มีโอกาสไปที่บึงบอระเพ็ดในวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 คืนก่อนวันวางศิลาฤกษ์ และได้ออกไปดู UFO ที่บึงบอระเพ็ดพร้อมคณะหลายคน และเห็นแสงประหลาด พร้อมเห็นวัตถุลึกลับกลางบึงบอระเพ็ด เป็นแสงสว่างกลมใหญ่มาก กว้างเป็นกิโล ๆ ปรากฏขึ้น เหมือนยานลำใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำเปิดไฟให้เห็นเป็นวงกว้างก่อนหายไป เห็นกันนับสิบคน จึงเริ่มสนใจและมาสอบถาม

ได้รับการบอกเล่าในหลายเรื่อง ในอุปกรณ์ของระบบ และบุคคลนี้ก็ได้เคยพบเจอหลายอย่างมาเช่นกัน รู้เรื่องล่วงหน้า เห็นภาพหรือเรื่องแปลก ๆ อื่น ๆ จนนึกว่าตนเองเพี้ยนไป

ได้รับทราบหลายตัวอย่าง และนำมาเทียบเคียงกับตนเอง จึงรู้ว่า ที่คนอื่นพบเจอ ตนเองก็พบเจอเช่นกัน

จึงเกิดความสบายใจมากขึ้น และก่อนกลับไปกล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นที่ได้รับรู้ นึกว่าเป็นอยู่คนเดียว

กลับไปด้วยความเข้าใจ หายจากความกลัวที่เกาะกินมานาน และคงได้มีการแวะมาสนทนาด้วยกันบ่อย ๆ

สงสัยงานจะเข้าแถวนครสวรรค์แล้วละค่ะ ระบบส่งสมาชิกใหม่ ๆ มารับการขยายระบบ เพื่อรับประโยชน์ตน และเตรียมรับงานกันเพียบเลย

ขออนุโมทนาด้วยกับทุกท่านค่ะ

 

'มุนษย์ต่าวดาวไม่ได้เป็นความลับเพียงแต่บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ มันก็ยังเป็นความลับต่อไป'
มุนษย์ต่างดาวกล่าวไว้ปี41

จะมีข้อมูลใหญ่หลักอยู่2ข้อมูล ในเรื่องของการปฏิบัติของกลุ่มประสานงานฯ<เขากะลา> ที่มีการพูดคุยกันอยุ่ตลอดเวลาคือ การไม่หลงไปกับตัวอุปทานว่า
ขันธ์ห้าเป้นตัวเรา ของเรา ละซึ่งการยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวตน ของตน

มุนษย์ต่างดาวอธิบายว่า 'การปฎิบัติธรรมะ มุนษย์ต่างดาวจะเรียกว่า
'ประโยชน์ตน' คือการฝึกให้ผู้ทํางานกับมุนษย์ต่าวดาว ฝึกจิต ให้รู้จริงในกฎของธรรมชาติ ฝึกการเห็นทุกข์ ฝึกการดับทุกข์ ในขั้นปล่อยวางตัวตน
เพราะต้องเจอแน่นอนเมื่อต้องออกมาเผยแพร่เรื่องของความลับในจักรวาล
ซึ่งมุนษย์ต่างดาวเรียกการปฏิบัตินี้ว่า 'ประโยชน์ตน'

ข้อมูลที่2 คือการสื่อสารและรับข้อมูลจากมุนษย์ต่างดาว
เค้าจะอธิบายว่า สิ่งนี้คือ 'ประโยชน์ท่าน'
การปฏิบัตินี้ไม่จําเป็นต้องไปจัดทําอะไร เพราะระบบเค้าจะจัดทุกอย่างไว้ให้
หมดทุกรายละเอียด
เช่น เค้าจะนําจานบินไปปรากฎที่ไหน จะต้องไปประสานงานกับใคร ขั้นตอนในการดําเนินการอย่างไร เค้าจะจัดส่งคลื่นความคิดไปยังบุคคลเหล่านั้น
จะมีการการประสานงานกันตามรูปแบบที่เค้าต้องการ
ผู้ประสานงานแค่ต้องนําร่างกายที่เป็นมุนษย์นี้ ไปประสานในจุดต่างๆ้
ข้อมูลและบทสนทนาจะflowออกมาเองจากข้อมูลข้างบน
เรียกว่า 'ประโยชน์ท่าน'

 

เขียนแซวพี่วิจิตรเล่นๆ ค่ะ ความจริงเป็นเพื่อนซี้กันมาก ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อปี ๕๑ และยังติดต่อกันเรื่อยมา อาจารย์สุดใจบอกว่า ลงมาคู่กัน เห็นไม๊ล่ะคะ พี่วิจิตรก็บริจาคคล้ายๆกับพี่วรรณ

ตอนที่ไปพบพี่วิจิตรครั้งแรก พี่ท่านบริการแบบประทับใจมากค่ะ ลาพักร้อนทั้งสัปดาห์ เพื่อขับรถบริการหลายแห่ง เลี้ยงข้าวพี่วรรณกับคุณแม่หลายมื้อ มีน้ำใจมากเลยค่ะ เช้ามารับเย็นมาส่งที่โรงแรม แถมขากลับซื้อผลิตภัณฑ์มะขาม ให้พี่วรรณและคุณแม่ และให้แบกกลับมาUS ให้แจกเพื่อนพี่วรรณด้วยค่ะ

 

เมื่อวานนี้ คุณ Mckaforce คุณ Narinthon และคุณเอ้ ได้เดินทางมาสนทนาธรรมกับพี่สุดใจที่บ้านสันคู นครสวรรค์นั้น

ในวันนี้ ทั้ง 3 ท่าน ได้เดินทางมาที่บ้านสันคูอีกครั้ง พร้อมทั้งตั้งใจจะขึ้นไปไหว้พระประธานบนเขากะลา และไปเยี่ยมชมการก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ที่เขากะลาด้วย

พร้อมทั้งจะนำขนมหวานใส่น้ำแข็ง ไปเลี้ยงช่างก่อสร้างอาคารด้วย ซึ่งขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่ง







ดังนั้น จึงได้เดินทางไปเขากะลาในช่วงสายวันนี้

โดยเดินขึ้นไปบนเขากะลา เพื่อไปไหว้พระประธาน

และแม่ชีบุญช่วยท่านได้ร่วมเดินทางไปไหว้พระประธานด้วย เพื่ออธิฐานจิตปฏิบัติธรรมตลอดพรรษานี้

และเมื่อลงจากเขากะลาแล้ว ก็ได้แวะชมสถานที่ก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งนำขนมหวานไปเลี้ยงช่างก่อสร้างอาคารได้รับประทานกัน

ขอกราบอนุโมทนากับแม่ชีบุญช่วย ที่ตั้งจิตอธิฐานปฏิบัติธรรมตลอดพรรษานี้

และขออนุโมทนากับสมาชิกใหม่ทั้ง 3 ท่านด้วยค่ะ

 

หลังจากกลับมาจากเขากะลา ได้รับโทรศัพท์จาก ดร.กัลยา ซึ่งท่านกำลังจะขับรถผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อไปจังหวัดพิษณุโลกพอดี

และอยากแวะเยี่ยมเยียน ทักทายพี่สุดใจด้วย

ดังนั้น พี่สุดใจ จึงได้นำคณะสมาชิกใหม่ เดินทางออกมาพบกับอาจารย์กัลยา ซึ่งท่านมาพร้อมกับอาจารย์ชูศรี เพื่อแนะนำให้น้อง ๆ ได้รู้จักกับอาจารย์ทั้งสองท่านด้วย

พอดีกับที่อาจารย์กัลยา ท่านซื้อเทียนพรรษา และถังสังฆทานมาด้วย จึงอยากจะถวายสังฆทานพร้อมถวายเทียนพรรษาให้กับวัดก่อนเข้าพรรษานี้

และท่านทราบว่าแม่ชีบุญช่วยปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดเกตุคีรี พร้อมทั้งคุณแม่แดงก็ได้มาบวชศีลจาริณีที่วัดนี้ด้วย ดังนั้น จึงตั้งใจมาถวายเทียนพรรษา และถวายสังฆทานที่วัดนี้เลย

จึงได้พาอาจารย์กัลยา และอาจารย์ชูศรี เดินทางมาที่วัดเกตุคีรี และไปพบกับแม่ชีบุญช่วย และพบกับคุณแม่แดง ที่มาบวชชีพราหมณ์ที่นี่ด้วย

ได้สนทนาทักทายกันอย่างสนิทสนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่สุดใจ ยิ่งสนิทสนมเป็นพิเศษ สังเกตุได้จากภาพนี้ค่ะ





ร่วมอนุโมทนากับคุณแม่แดง ที่ท่านได้มาปฏิบัติธรรมบวชศีลจาริณีในครั้งนี้

 

อาจารย์กัลยา และอาจารย์ชูศรี ได้นำหลอดไฟฟ้าแสงสว่าง มามอบให้กับสถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน จำนวน 2 ชุด เพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้ที่เดินทางมาเยือน

ซึ่งพี่สุดใจ และคุณแม่แดง เป็นตัวแทนรับมอบหลอดไฟฟ้าแสงสว่างในครั้งนี้



ขออานิสงค์ที่ให้แสงสว่างในครั้งนี้ จงบังเกิดปัญญาสว่างไสว เห็นแสงแห่งธรรมที่ส่องนำทาง พาให้ท่านทั้งสองก้าวล่วงพ้นจากสังสารวัฏอันยาวนานนี้ด้วยเทอญ.

 

อาจารย์กัลยา และอาจารย์ชูศรี เรียนเชิญแม่ชีบุญช่วย คุณแดง พี่สุดใจ และทุกท่านร่วมกันถวายเทียนพรรษากับท่านเจ้าอาวาสวัดเกตุคีรี