ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เริ่มสวดในเวลาประมาณ 15.00

 

นั่งสมาธิหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว

 

สนทนาธรรมแบบคู่และแบบกลุ่ม

 

จารย์โม่..ตาหม่ำแกบอกว่า..

ม่ายอาว..ม่ายพูด..งุงิ..

:z12:VO

 

ลงชื่อแจ้งความประสงค์ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ สถานปฏิบัติธรรม
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน วันอาทิตย์ที่ 17/5/52
พักค้างคืน วันเสาร์ที่ 16/5/52
(เพื่อจัดที่พักให้พอกับจำนวนคนที่จะไปร่วมงาน)

1. คุณไอย
2. คุณ ณ.
3. คุณSUTASSEE
4. Astro Neemo
5. คุณแพท
6 ตาเจี๊ยบ
7. อาจารย์จอนห์นี่ (เอารถไป)
8. คุณเฉิน ชุน จ่าง (อาเจ็กเฉิน)
9. คุณvijit_j+ ส้มตำไก่ย่าง
10. no.9 + โรตีสายไหม
11. อาจารย์วิโรจน์
12. คุณลุงธนันต์
13. คุณFleurdelis<!-- google_ad_section_end -->

 

บรรยากาศร่วมสวดมนต์ที่ อินเฮ้าส์ อีกมุมหนึ่ง

 

เวฟการสอบอารมณ์ครั้งนี้สนุกครับ เวฟลงคนนั้นทิ่มคนนี้แต่แทงอีกคน บางทีเวฟลงคนอื่นให้อีกคนทิ่มเพื่อที่จะแทงอีกคน....มาเหนือเมฆจริงๆ พวกเราต้องมีสติระลึกให้เป็นปัจจุบันรู้เท่าทันอย่างที่ อ.นีโม่กล่าวไว้... ต้องตามดูรู้ให้ทัน หากตามดูแต่รู้ไม่ทัน เวฟอาจทิ่มหรืออาจจะแทงคนดู คนทิ่มหรือคนแทงเสียเอง...

อ้าว...แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าใครสอบได้ ใครสอบตก

ก็ดูซิว่า....มีใครทุกข์ใจบ้าง ทุกข์ใจมากก็ทุกข์นาน ทุกข์ใจน้อยก็ทุกข์สั้น หรือบางคนอาจจะไม่ทุกข์ใจเลย

งานนี้ผมก็ไม่เกี่ยวเหมือนกัน อ.นีโม่เล่นบทคนทิ่ม ผมและจารท่านอื่นๆเล่นเป็นนักแสดงประกอบฉาก ส่วนจะทิ่มแทงใครบ้างนั้น ต้องใช้ปัญญาพิจารณา.....

 

..

 

...

 

ได้ไปพันทิพย์แล้ว..ซะทีครับ

ลงชื่อด้วยครับ พี่เม้าท์

 

รูปแบบการเรียนรู้ของสำนักเขากะลา
เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ต้องลงทุน คือ
ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายสตางค์เป็นค่าเล่าเรียน
เฉกเช่นเดียวกับวิชาของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ครั้งในอดีต
พระองค์ทรงเสียสละพระวรกาย ตั้งแต่ตรัสรู้
จนย่างเข้าปัจฉิมวัย 80 พระชันษา
พระองค์ก็ยังทรงพระดำเนินไปโปรดสรรพสัตว์ทั่วทุกทิศ
โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
หากเป็นคนธรรมดาอย่างเราท่านทั้งหลาย
คงทำอย่างเช่นพระองค์ไม่ได้แน่
เอาแค่อายุ 60,70 ปี พวกเราก็อยากพักผ่อนแล้ว
เพราะเป็นห่วงสังขารร่างกาย
ต้องทะนุถนอมไว้ ยังไม่อยากให้มันตาย
ยังอยากเสพสุขทางกายเนื้อนี้ตลอดไปตราบนานเท่านาน
แต่หารู้ไม่ว่า ความสุขนั้นมันไม่มีอยู่จริง

พระพุทธสมณโคดม ของเรา เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพระมหาเมตตา
พระองค์ไม่เคยเห็นแก่พระวรกายของพระองค์เองที่เสื่อมถอยลงทุกวัน
ขนาดพระชนมายุถึง 70-80 พระชันษา ท่านก็ยังไม่หยุดอยู่กับที่
ยังคงจาริกไปในทุกสถานที่ เพื่อใคร ก็เพื่อพวกเราเหล่าสัตว์โลกทั้งหลาย
ที่ยังวนเวียนอยู่ในวังวนของวัฏฏะสงสาร เวียนว่ายตายเกิด ต้องทุกข์สุดแสนสาหัส
หาทางออกไม่เจอนั่นเอง
และพระองค์ก็ไม่เคยทรงเรียกร้องปัจจัยเงินทอง สิ่งของใดๆ เป็นการตอบแทน
หวังเพียงให้มนุษย์ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์อันประเสริฐ
ได้มีดวงตาเห็นธรรม สามารถนำพาชีวิตให้ล่วงพ้นจากทุกข์ได้เท่านั้น


สำนักเขากะลา แม้จะไม่มีพระพุทธองค์มาคอยสั่งสอน เหมือนเช่นครั้งพุทธกาล
แต่ก็ได้อาศัยความรู้จากธรรม ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว
โดยมีผู้รู้ ผู้เข้าใจในแก่นแท้ของคำสอนของพระพุทธองค์
นำมาจากสากลจักรวาลอันไกลโพ้น จากต่างดวงดาว
ซึ่งเป็นคำสอนที่ไม่มีการบิดเบือน ไม่มีการล้าสมัย
และยังคงเป็นจริงตามนั้นตราบนานเท่านาน
นำมาถ่ายทอดอย่างเจาะตรงประเด็น อย่างแยบคาย แต่ไม่แยบยล

เพื่อให้เกิดความเข้าใจโดยง่าย
ไม่ใช่เข้าใจแบบท่องจำในตำรา
แต่เป็นการเข้าใจในขณะปฏิบัติ จากสิ่งที่เข้ามากระทบจริงๆ
ให้รู้กระทบ รู้กระทำ ให้รู้ถึงวิบากกรรม และทุกข์ทั้งหลายที่
มันเกิดมาแล้วซ้ำๆซากๆ จนเราเคยชินกับทุกข์
แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจ และออกจากทุกข์ได้จริง

ถึงเวลาแล้วที่เหล่าเวไนยสัตว์ จะต้องได้รับความคุ้มครอง
จากธรรมอันบริสุทธิ์ ที่แท้จริง ของพระพุทธองค์
โดยถ่ายทอดจากผู้มีภูมิธรรมชั้นสูง จากต่างดาว
ที่เป็นคลื่นส่งผ่านลำโพงชุดแรก คือ คุณพ่อเชิด ชื่นสำนวน
ลำโพงชุดที่สอง คือ อาจารย์สุดใจ ชื่นสำนวน
และลำโพงชุดที่สาม อาจารย์ณภัทร สมเย็น

เพื่อให้ผู้เข้ามาศึกษา หรือผู้ที่อาสามาทำกิจเป็นการเฉพาะ
ได้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และสามารถ
จรรโลงคงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบ 5,000 ปี
ตามพุทธพยากรณ์

ภัยทางด้านจิตใจ นั้น ร้ายแรงกว่าภัยธรรมชาติ มากนัก
มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะจิต
บางคน เจอจิตภัย ตายเสียก่อนที่จะเห็นภัยทางธรรมชาติ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะไปหวั่นไหว กลัวไปไยกับมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ต่อให้เป็นอภิมหาภัยพิบัติ เราก็ไม่หวั่นเกรง
เพราะจิต ของเรา ได้รับการฝึก ได้รับการเรียนรู้
ได้เข้าใจถึงสภาวะตามความเป็นจริงของ กายมนุษย์
ซึ่งประกอบไปด้วย ธาตุสี่ ขันธ์ห้า
และเข้าใจรู้แจ้งแทงตลอด ในเรื่องราวของขันธ์ห้า อย่างแท้จริง

เมื่อท่านได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ในสำนักเขากะลา
ในท้ายที่สุด ท่านจะได้รู้เรื่องราวของวิชาเมืองลับแล
สามารถเข้าใจในสภาวะกาย และสภาวะจิต ของผู้อื่น
เป็นวิชาที่ เราจะไม่เอาทุกข์ที่เกิดจากการปรุงแต่งภายนอก
มาเป็นทุกข์ภายในของเรา

และสุดท้ายของสุดท้าย
ก็จะไม่มีอะไรในตัวเรา
ในตัวเราก็จะไม่มีอะไรเลย

นิ่ง สงบ สว่าง ใส โปร่ง ว่าง เบา สบาย


สาธุ ธรรมของพระพุทธองค์ เป็นจริงในทุกสภาวะ.

 

เจ้าภาพโครงการเดินสายไฟฟ้าเข้าสถานปฏิบัติธรรม มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เขากะลา นครสวรรค์


ร่วมบริจาคเข้าบัญชี
สุดใจ ชื่นสำนวน


เลขที่บัญชี 2430555496


ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยถนนรามคำแหง ซอย 28




1.คุณrescuelp...................................1,000.-โอนแล้ว
2. คุณณัฐสุริยา อิสระวงศ์ และครอบครัว ..... 10,000.-โอนแล้ว29/4
3. คุณบุญญสิกขา.....................................500.-โอนแล้ว
4. คุณpyramid.......................................200.-โอนแล้ว29/4
5. MOUNTAIN.......................................300.-โอนแล้ว 2/5
6. คุณไอยและครอบครัว จำนวนเงิน............... 500.-โอนแล้ว1/5
7. คุณมะลิวัลย์.........................................400.-โอนแล้ว29/4
8. คุณpkanlaya.................................. 2,360.-โอนแล้ว29/4<!-- google_ad_section_end -->
9. อ. กรณ์กาญจน์ (เดิมสุธาทิพ) และครอบครัว...400.-
10.คุณกมล จันทร์ขจรภพ...............................117.-โอนแล้ว29/4
11. คุณ ณ.......................................................180.-โอนแล้ว29/4
12. คุณพุทธันดร..............................................100.-โอนแล้ว29/4
13. คุณjuksawat.............................................240.-โอนแล้ว30/4
14. คุณwhitenaga กับ kanoononnuch.................. 340.- โอนแล้ว1/5
15. คุณ foggy3..........................................500.-โอนแล้ว1/5
16.คุณหมู.............................................1,000.-โอนแล้ว3/5




รวม 18,137.- บาท

เป้าหมาย 41,000.- บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

_________________________________________________________


เจ้าภาพระบบน้ำประปา

1. คุณพุทธันดร................................100.-โอนแล้ว 29/4
2. คุณไอย.....................................300.-โอนแล้ว1/5
3. คุณJoypor................................500.-โอนแล้ว30/4
4. MOUNTAIN..............................200.- โอนแล้ว 2/5
5. คุณwhitenaga กับ kanoononnuch.......340.-โอนแล้ว1/5
6. คุณfoggy3.........................................500.-โอนแล้ว1/5
7. คุณหมู.............................................1,000.-โอนแล้ว3/5






รวม 2,940.- บาท

เป้าหมาย 23,000.-บาท

_____________________________________________________________

เจ้าภาพที่กำลังรอโอนปัจจัยถมดิน

1.คุณwhitenaga กับ kanoononnuch..................๑ คันโอนแล้ว1/5
2. คุณจันทร์เพ็ญ เกาะเรียนไชย.................................... ๒ คันโอนแล้ว
3. คุณศักดา คุณสุภาพร เกาะเรียนไชย............... ๑๐๐๐ บาทโอนแล้ว2/5
4. คุณณัฏฐ์นนท์ เกาะเรียนไชย............ ........................๑ คันโอนแล้ว
5. คุณรัตนา และสามี สัตยวินิจ...................................... ๒ คันโอนแล้ว
6. คุณนพมาศ คุณรุ่งเพชร์ ไพรเถื่อน.............................๒ คันโอนแล้ว
7. หลานกวางกรรณิการ์ เกาะเรียนไชย..........................๒ คันโอนแล้ว
8.คุณนพรัตน์ วิชัยยุทธพงศ์และสามี....................๒ คันโอนแล้ว2/5
9.คุณDigital...........................................๑๑ คันโอนแล้ว2/5
.....................(ได้ยอดเต็มจำนวนแล้ว).........................
____________________________________


เจ้าภาพทุกรายการ


1. คุณกรึงไกร..............................999.99 บาทโอนแล้ว30/4
2. คุณ 9046...............................500.- บาทโอนแล้ว30/4
3. คุณ SUTASSEE....................3,340.- บาทโอนแล้ว 30/4
4. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->threeam.............................1,000.- บาทโอนแล้ว1/5
5. คุณแดนเดือนเดียว.............1,000.-บาทโอนแล้ว 4/5
6. ครอบครัวคุณจูน (อินเฮ้าส์)...1,000.-บาทโอนแล้ว4/5
7. คุณ apichan.........................1,000.01.-บาทโอนแล้ว 4/5
8. คุณดวงพร สุหร่ายพรหม..................... 100.-บาทโอนแล้ว5/5
9.คุณโชคอนันต์ พรายรัตน์ .......................100.- บาทโอนแล้ว5/5
10.คุณศิรินภา ปุยนุ่น / คุณสุรชาติ นุกิจ.....100.- บาทโอนแล้ว5/5

รวม 9,140.00 บาท

ขอบุญนี้จงเป็นพลวปัจจัย
นำพาชีวิตครอบครัวและการงานให้มีความสุขประสบความสำเร็จโดยทั่วกันเทอญ

 

ลงชื่อแจ้งความประสงค์ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ สถานปฏิบัติธรรม
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน วันอาทิตย์ที่ 17/5/52
พักค้างคืน วันเสาร์ที่ 16/5/52
(เพื่อจัดที่พักให้พอกับจำนวนคนที่จะไปร่วมงาน)

1. คุณไอย
2. คุณ ณ.
3. คุณSUTASSEE
4. Astro Neemo
5. คุณแพท
6 ตาเจี๊ยบ
7. อาจารย์จอนห์นี่ (เอารถไป)
8. คุณเฉิน ชุน จ่าง (อาเจ็กเฉิน)
9. คุณvijit_j+ ส้มตำไก่ย่าง
10. no.9 + โรตีสายไหม
11. อาจารย์วิโรจน์
12. คุณลุงธนันต์
13. คุณFleurdelis
14. คุณหนุ่ย
15. คุณอ้อย
16. คุณ<!-- google_ad_section_end -->Taksamun

 

ที่สำคัญ...

แม้แต่ผู้ที่ถูกมารแทรกเอง..
ก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกมารแทรกอยู่..

แล้วอย่างนี้ต้องไปโทษใครหละครับ..

ลองนึกถึงใจเขาดูบ้างเถิด..
สมมุติว่าเป็นตัวเราเอง..นั่นแหละที่ถูกมารแทรก
แล้วเราก็ไปเที่ยวสอนใครต่อใคร..
ตามอย่างที่เรารู้..ตามอย่างที่เขาแทรกเข้ามา
ด้วยเจตนาดี และบริสุทธิ์แท้ๆ 100%

ถามว่าปุถุชนคนธรรมดา..
ทั้งผู้ที่ถูกสอน..และผู้ที่สอนเอง
จะมีสติและปัญญามากน้อยแค่ไหน..ที่จะแยกแยะออก

เพราะมารย่อมจะต้องฉลาดพอที่จะไม่สอนอะไร หรือใส่อะไร
ที่มันจะไปขัดแย้งกับคำสอนจริง คำสอนแท้ อย่างเด่นชัดอยู่แล้ว
และด้วยวิธีการแยบยลใดๆก็ตาม จนเราหลงไปนานแล้ว เป็นระยะเวลาหนึ่ง
แล้วค่อยๆเผยออกมาทีหลัง หลังจากเราหลงศรัทธาไปแล้ว..เนิ่นนาน

แม้จะท่องหลักกาลามสูตรได้คล่องปาก..
แม้จะท่องได้คล่องอยู่..ว่า
หลักคำสอนใดที่เป็นไปเพื่อการละวางอัตตาตัวตน..คือคำสอนแท้..ก็ตาม

อะไรจะการันตีได้..ใครจะป้องกันได้

อย่าว่าแต่พญามารเลย..แค่สมุนมารปลายแถว หรือแค่สัมพเวสีกิ๊กๆก็อกๆ..
ก็แทรกคนทั่วไปได้แล้ว..(หรือเปล่า?)

 

บทตกค้าง

เมื่อยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธสมณมหาโคดม แล้ว ใยต้องไปขวนขวายใฝ่หา สิ่งอื่นที่นอกเหนือ จากพระธรรมคำสั่งสอน อีกเล่า

พระพุธองค์ ทรงชนะหมู่มารทั้งหลาย หมู่มารต่างยอมสิโรราบ มาแล้ว
เพียงเอ่ยพระนาม แห่งพระพุทธชินสีห์ และปฏิบัติให้ถึงพร้อม
ในธรรม ของพระพุทธองค์ ความสุข สงบ และปลอดภัย ก็จะอยู่ในตัวเราผู้ปฏิบัติ

อย่าลืม คำพังเพยที่ว่า
มีความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด

อย่าประมาท คิดใคร่ควรกันหลายๆตลบ นะครับ สาธุๆ

 

การขยายระบบ คือการรับฟังข้อมูลเพื่อการดับทุกข์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุกข์ที่เกิดจากเรื่องในชีวิตประจำวัน หรือทุกข์ที่เกิดจากการทำงานกับระบบ ข้อมูลจากการขยายระบบมักจะประกอบด้วยเรื่องสำคัญใหญ่ๆ อยู่ 2 เรื่องเป็นอย่างน้อย ได้แก่

- ธรรมมะ ซึ่งจะค่อนข้างฟังง่าย ดูเหมือนพื้นๆ แต่กินใจ ให้มุมมองที่เปิดกว้างไม่จำกัดรูปแบบ ใช้ดับทุกข์หรือปล่อยวางเรื่องที่ได้รับฟังนั้นๆ ได้ในทันที ไม่มีศัพท์แสงที่ต้องมาแปล หรือตีความ และกอปรด้วยเมตตาปราศจากเพ่งโทษ ซึ่งโดยปกติแล้วคนระบบโดยเฉพาะแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต มักจะรู้ธรรมมะของพระพุทธองค์ในขั้นลึกกันอยู่มากพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังEvery Day คือทุกข์ทุกวัน

- กลไกของระบบ เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยมีไม่เคยเป็นมาก่อน เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และอย่าตีกรอบ 3 คำจำให้แม่น นี่คือคนระบบที่เป็นขันธ์เชิงซ้อนหล่อมาตั้งแต่ศูนย์เซลล์ยันสูญเสียเซลล์ จะต้องพบต้องเจอกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การนำความคิดที่เป็นแบบ 0 - 99 (ความคิดของมนุษย์โลกในปัจจุบัน)มาเทียบเคียงด้วยเหตุด้วยผลนั้น จะไม่สามารถกระทำได้โดยสิ้นเชิงเพราะจะไม่เข้าใจ เกิดความลังเลสงสัย และผลสุดท้ายก็คือได้รับเช็คความทุกข์กันไปแบบเต็มๆ การจะคิดให้ได้แบบ 100 - 300 (คิดแบบเอากรอบออก) ก็คงจะต้องมีวิธีเดียว คือรับฟังการขยายระบบ ซึ่งพี่สุดใจก็ได้เคยโพสต์ไว้ในกระทู้นี้มากเพียงพอต่อการนำมาใช้งานแล้วในส่วนหนึ่ง

ครับงานใหญ่ยิ่งกว่าใหญ่แต่ยังไม่มีใครสามารถมองเห็น เหมือนเป็นเมืองลับแล แต่การเห็นด้วยปัญญาก็ย่อมชนะการเห็นทั้งปวง และจากคำกล่าวของระบบที่ว่า "จะกินยาก็ต้องกินตอนป่วย" ดังนั้นนักดับทุกข์ตัวจริงเมื่อมีทุกข์มาเยือนถึงหน้าบ้านจะปล่อยให้ผ่านเลยไปเฉยๆ ไม่ตั้งสติ ใช้ปัญญาคิดหายาอะไรที่มันถูกกับโรคทุกข์ชนิดนั้นๆ มากำจัดมันซะในขณะนั้น ก็จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะเราก็จะเป็นแต่เพียงคนขายยา ไม่ได้เป็นแพทย์ผู้สั่งยากันได้ซะที จริงมั้ยล่ะตรับ

ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านด้วยนะครับ ขอให้ทุกข์ทุกท่านเลยนะครับ

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ no.9 ด้วยครับ
มีคำคม คำคิด สะกิดใจ เยอะเลย

 

ระยะนี้ พี่สุดใจมีภารกิจหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ จึงไม่มีเวลาเข้ามาในอินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง เหมือนเช่นเคย

แต่เข้ามาอ่านในช่วงนี้ มีหลากหลายเรื่องราวที่ได้รับรู้ รับทราบ ผ่านตัวอักษรจากหลาย ๆ ท่าน ซึ่งได้นำมาโพสไว้ในมุมมองที่อาจแตกต่างกันไป

แม้พี่สุดใจจะไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้มีส่วนร่วมในงานนั้น ๆ ก็ตาม

แต่ได้รับรู้ถึงความห่วงใย ถึงความปราถนาดี ที่มีให้กับเพื่อนสมาชิกด้วยกัน

ขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องก็คือ ทุกคนมีความเข้าใจไม่เท่าเทียมกัน มีความรู้ลึก ในแก่นแท้ของธรรม ในหลักของกฏสัจจะธรรมไม่เท่ากัน

แม้แต่บัว ยังแบ่งถึง 4 เหล่า พระพุทธองค์ท่านก็ได้แต่ชี้ทาง อธิบาย ขยายความ ตามปัญญาของบัวแต่ละเหล่าจะทำความเข้าใจได้เท่านั้น

มิอาจที่จะชี้นำให้ทุกคนเห็นตามท่านได้เหมือนกันหมด

นั่นเพราะความแตกต่างในปัญญาของบัวแต่ละเหล่า ที่จะไตร่ตรองในธรรมนั่นเอง

ดังนั้น เพราะความเข้าใจที่ไม่เท่ากัน จึงมีรูปแบบของการปฏิบัติในแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน ตามแต่ความเข้าใจเท่าที่ปัญญาจะไตร่ตรองได้เท่านั้น

แต่ไม่ได้หมายความว่า มีกลุ่มใดผิด กลุ่มใดถูก กลุ่มนี้ควรทำอย่างนั้น กลุ่มนั้นควรทำอย่างนี้

ผู้ที่จะเข้าไปร่วมยังจุดต่าง ๆ ยังกลุ่มต่าง ๆ นั่นต่างหาก ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ ที่จะเป็นผู้ยินยอมพร้อมใจ เป็นผู้ต้องรับผิดชอบในดวงจิตของตัวเองในการที่จะเข้าไป อยู่ในวังวนกลไกเหล่านั้น

อยู่ที่ว่า บุคคลเหล่านั้น จะมีความรู้ มีความเข้าใจในพระสัทธรรม มากน้อยแค่ไหน มีความเห็นในสิ่งที่เป็น....แก่น....ของพุทธศาสตร์....หรือไม่ ? เท่านั้น

แม้แต่เราเอง เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราปฏิบัติอยู่เอง ว่าเป็นทางที่จะนำพาออกจากวัฏฏะสงสารได้จริง นั่นก็เพราะเราเทียบเคียงกับแก่นแท้ของพระสัทธรรม ในกฏของธรรมชาติ ในกฏของจักรวาล มุ่งเน้นเพื่อการออกจากอุปปาทานขันธ์ห้า ละการยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนเป็นหลัก และพบว่า มีความเบาบางจางคลายจากความทุกข์ได้จริง

เมื่อปฏิบัติ เห็นผล แล้วจึงเชื่อว่า ทางนี้คือทางที่จะออกจากทุกข์ได้จริง

แต่มิได้หมายความว่า การปฏิบัติเช่นนี้ จะมีหลายกลุ่ม หลายบุคคล เห็นดีด้วย หรือเห็นว่าถูกต้อง เห็นว่าดีแล้ว ซึ่งก็มิใช่เช่นนั้น

แต่ว่า แม้จะมีใคร แม้จะมีกลุ่มใด มีความเห็นที่แตกต่างอย่างไร ผู้ปฺฏิบัติที่มีความเข้าใจในสิ่งที่ตนกระทำ สิ่งที่ตนมุ่งมั่นเพื่อการละวาง ก็จะไม่ทิ้งแนวทางที่ปฏิบัติเพื่อออกจากวัฏฏะสงสารนั้นอยู่ดี

การปฏิบัติธรรมของเขากะลา จึงดูเหมือนบ้า ๆ บอ ๆ เพี้ยน ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่น้อยคนนักจะเข้าใจ หากมิได้ใช้การไตร่ตรองอย่างยิ่งยวด

แต่เราก็ยังเชื่อมั่น ยังมีความมั่นคง มุ่งตรงต่อสิ่งที่เราไตร่ตรองแล้วว่าเป็น แก่นของพระรัตนตรัยนั่นเอง

ดังนั้น แต่ละจุด แต่ละกลุ่ม แต่ละสถานที่ ต่างก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่พบนั้นเป็นอะไร เป็นแก่น เป็นเปลือก เป็นกระพี้ เป็นก้าน หรือเป็นใบ เพราะความเข้าใจที่ไม่เท่ากันนั่นเอง ต่างก็ยึดในสิ่งที่เห็น ในสิ่งที่จับไว้ได้เท่านั้น

จึงมิได้มีสิ่งใดผิด มิได้มีสิ่งใดถูก อย่างแท้จริง

ดังนั้น ขอให้ทุกท่านที่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมานั้น ที่จะมีทั้งความเห็นที่แตกต่างกัน ที่จะมีทั้งความเห็นที่ไปแนวทางเดียวกัน มีทั้งความเห็นที่หลากหลาย มีทั้งความไม่เข้าใจในกลไกของระบบก็ตาม

มีทั้งการกระทบกระทั่งจิตใจ มีทั้งความห่วงใย มีทั้งความไม่เข้าใจในรูปแบบต่าง ๆ ก็ตาม

ขอให้ปล่อยวาง ในทุกอย่างที่มากระทบกระทั่งจิตใจ ให้ดูแต่สภาวะจิต อารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน ณ ขณะนี้ ว่ากำลังเป็นอย่างไร กำลังคิดอะไร กำลังทุกข์หรือไม่ ?

ดูแต่ภายใน อย่าส่งออกไปตัดสินภายนอก

นั่นคือ เห็นการเกิดดับ เห็นความคิด เห็นความรู้สึก เห็นสภาวะอารมณ์ที่กำลังปรุงแต่งในขันธ์ห้า ณ ปัจจุบัน

นี่คืองานของท่าน ที่ต้องเร่งทำทันที ทำเดี๋ยวนี้

ที่เหลือนอกนั้นปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของกฏแห่งกรรม กฏของธรรมชาติ ที่จะต้องดำเนินการต่อไปเอง

ไม่ต้องไปเปลี่ยนใคร เปลี่ยนมุมมองภายในของแต่ละท่านก็พอ

ขอให้มองให้เป็น มองให้เห็นว่ามันเป็นอย่างที่มันต้องเป็นของมันอย่างนั้นแหละ

หากที่ใดเป็นทุกข์ ร้อนรนก็อย่าเข้าไป ห่างจากกองไฟปลอดภัยที่สุดนั่นเอง


ขอให้ทุกอย่าง ที่แตกต่างในความคิด...จบลงเพียงนี้

ทุกอย่างย่อมถูกต้องเสมอ ตามกลไกของระบบ

แม้จะไม่ถูกต้องในมุมมองของแต่ละท่านก็ตาม

 

สาธุการ ทุก ๆท่าน ทุก ๆ ประการค่ะ

วันนี้ (๕ พ.ค) ได้นำเงินรับฝากจากสาธุชน ร่วมกิจกรรมโครงการสุดใจเขากะลา บ/ ช ธนาคารกรุงเทพ สาขารามคำแหง ๒๘ จำนวน ๓๐๐.- บาท ดังนี้ค่ะ

๑. คุณดวงพร สุหร่ายพรหม จำนวน ๑๐๐.- บาท
๒. คุณโชคอนันต์ พรายรัตน์ จำนวน ๑๐๐.- บาท
๓. คุณศิรินภา ปุยนุ่น / คุณสุรชาติ นุกิจ จำนวน ๑๐๐.- บาท


ขอให้ปล่อยวาง ในทุกอย่างที่มากระทบกระทั่งจิตใจ ให้ดูแต่สภาวะจิต อารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน ณ ขณะนี้ ว่ากำลังเป็นอย่างไร กำลังคิดอะไร กำลังทุกข์หรือไม่ ?

ดูแต่ภายใน อย่าส่งออกไปตัดสินภายนอก

นั่นคือ เห็นการเกิดดับ เห็นความคิด เห็นความรู้สึก เห็นสภาวะอารมณ์ที่กำลังปรุงแต่งในขันธ์ห้า ณ ปัจจุบัน

นี่คืองานของท่าน ที่ต้องเร่งทำทันที ทำเดี๋ยวนี้