การหล่อพระแก้วตันๆหน้าตัก 1 M ในเตาอบต้นทุนต่ำกว่าทองเหลืองกลวง หน้า 9 #171

ในวิชาหล่อแก้ว Pate de Verre แม้แต่ในฝรั่งเศสเอง ก็ยังแบ่งออกเป็นการหล่อแบบที่เรียกว่า Kiln Casting และแบบ Paste ซึ่งเป็นอีกวิธีหรือเทคนิคย่อยในเทคนิคใหญ่ คือการหล่อแก้วเหมือนกับการหล่อทองเหลืองนั้น ยังแบ่งวิชาย่อยไปอีกมากมาย

ผมจึงเคยใช้คำว่า Lost Wax Glass เป็นคำกลางๆไว้ก่อน หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆแบบไทยๆก็คือ การหล่อแก้วแบบการหล่อทองเหลือง

 

https://en.wikipedia.org/wiki/Glass_casting

 

เมื่อเปิดเวปหน้าหลักของ Wikipedia แล้ว ค้นหาข้อมูลด้วยการพิมพ์คำว่า Pate de Verre เมื่อกดค้นหา ก็จะปรากฏผลออกมาเป็น Glass Casting

ถ้าผมจะสรุปง่ายๆว่า วิชานี้เรียกว่าการหล่อแก้ว (โดยยังไม่ต้องสนใจเทคนิคย่อย) ก็คงพูดได้เลยว่า การหล่อ หรือ Casting นั่นเองครับ

ส่วนเทคนิคย่อยเช่น การหล่อตัน การหล่อกลวง การหล่อแม่พิมพ์เหวี่ยง หรืออะไรอื่นๆ เช่น การหล่อด้วยการวางผงแก้วในตำแหน่งที่ถูกต้องภายในแม่พิมพ์ก่อนการหล่อ หรืออื่นๆก็ว่ากันไป

 

พระแก้วหน้าตักประมาณ 8 นิ้วของ Daum หล่อด้วยเทคนิคการหล่อแก้วคริสตัลตันๆ ราคาจำหน่ายในประเทศไม่ต้องเสียภาษีประมาณ 3 แสนบาท หล่อตามสไตล์ของ Daum และใช้เทคนิคการทำผิวเฉพาะของ Daum

 

พรุ่งนี้ถ้าผมเลิกงานไม่ค่ำเกินไป ผมจะมาเขียนถึงการหล่อพระแก้วองค์ที่ผมกล่าวถึงคือ พระบูชาหลวงปู่ทิม อิสริโก ระยอง หน้าตัก 5 นิ้ว หล่อด้วยเทคนิค Lost Wax Glass แก้วคริสตัลจีนของบริษัทผู้ผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ remelting crystal glass ต้นทุนทั้งหมดไม่รวมค่าแรงช่าง (ปีเตอร์ไม่ยอมบอกค่าแรง) หน้าตัก 5 นิ้ว ต้นทุนองค์ละ 317 บาท

 

เนื้อแก้วคริสตัล 30%PbO นับเป็นแก้วคริสตัลที่สูงสุด ถึงแม้ผู้ผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจะเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ ถึงแม้ราคากิโลกรัมละ US$ 1.- หรือประมาณกิโลกรัมละ 25 บาท แต่ก็ประมาทไม่ได้ถึงคุณภาพ และนี่ก็อาจเป็นข้อได้เปรียบประเทศทางอเมริกาหรือยุโรปที่เขาก็สร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อขายทั่วโลกเช่นกัน แต่ราคาทางอเมริกาและยุโรปสูงกว่านับสิบเท่า

 

ปูนปลาสเตอร์ทนร้อนทำแม่พิมพ์ปูนถุงละ US$ 1.- เป็นปูนที่ใช้ทำแม่พิมพ์ปูนจากจีนในครั้งนั้น

 

การหล่อในเตาอบครั้งนั้น เป็นการเช่าเตาอบ งานครั้งนั้นมีพระแก้วยืนสูง 60 - 70 cm. 2 องค์ และหลวงปู่ทิมหน้าตัก 5 นิ้ว 10 องค์ หลวงปู่ทิมสำเร็จ 8 องค์

 

ภาพล่างสุดเป็นเบ้าทดลองสีขนาดเล็กเบ้าละ 30 kg สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อเบ้าหลอมขนาดเล็กที่อาจต้องการหลอมสีแก้วเอง สามารถใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของเขาหลอมในอัตราส่วนที่ตนเองชอบ เมื่อหลอมได้สีที่ต้องการแล้ว จึงบอกสัดส่วนให้เขาหลอมให้ในราคาถูกก็ทำได้ครับ

หมายเหตุ
เฉพาะการทดลองเบ้าสีนี้ ต้องช่างหลอมแก้วที่เคยเป็นงานเท่านั้นที่จะทำได้ครับ ช่างแก้วเทคนิคอื่นๆทำไม่เป็นนะครับ

 

น้ำแก้วไหลออกจากก้นเตาหลอมขนาดวันละ 156 ตัน เมื่อน้ำแก้วไหลเป็นสายลงมา ตกลงสู่แม่พิมพ์เหล็กชนิดสายพานเหล็ก สายพานเหล็กเลื่อน พาน้ำแก้วร้อนเข้าสู่การบดของเหล็กลูกกลิ้ง เพียงเท่านี้ ก็จะได้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อที่เป็นแผ่นกลมแบน หรือสี่เหลี่ยมแบน หรือลูกทรงอื่นๆก็สามารถสั่งทำได้ แต่รูปทรงสี่เหลี่ยมกับกลมแบนมีการผลิตวันละ 156 ตัน จึงทำให้ได้ราคาขายส่งทั่วโลกในราคาถูกครับ

 

สายพานเหล็กเลื่อนนำก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อไปจนสุดสายพาน เมื่อสุดสายพาน สายพานจะม้วนกลับลงทางด้านใต้ ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อก็จะตกลงไปสู่สายพานอีกเส้นหนึ่งซึ่งจะนำก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อไปอบลดอุณหภูมิทันที ทำให้โรงงานหลอมแก้วขนาด 156 ตันต่อวัน แต่กลับไม่ต้องมีคนงานเลย หรือมีแค่ยามเฝ้าคนเดียวก็พอ

 

Zhibo Longtai จือปั๋วหลงไท้ แห่งเมืองจือปั๋ว เมืองที่ได้รับการสนับสนุนวิชาความรู้และสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างเต็มตัว ทั้งด้านวิชาการและอื่นๆ จุดมุ่งหมายของการผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ เพื่อป้อนวัตถุดิบให้แก่สตูดิโอแก้ว ช่างแก้ว หรือใครก็ตามที่ต้องการใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อสร้างชิ้นงานแก้วในต้นทุนต่ำมากๆ และเมื่อมีกำไรมาก ก็ย่อมที่จะคืนมาในรูปแบบของการเสียภาษี หรือ อย่างน้อยก็สามารถเลี้ยงประชากรของประเทศนั้นๆได้เป็นอย่างดี

 

อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สามารถนำเข้าก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามร้อนหรือสงครามเย็น หรือการกีดกันการค้า การยกภาษีนำเข้าให้สูงขึ้นมาก ผมจึงโพสต์สูตรการใช้ทรายและเคมีภัณฑ์ที่ผมเคยใช้สร้างพระแก้วที่ผมหล่อด้วยวิธีนี้มาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้ทุกอย่างไม่หยุดลงกลางครัน

ต้นทุนในใบนี้ยังไม่รวมค่าแรงคนงานและค่าเชื้อเพลิงนะครับ ราคาตกกิโลกรัมละ 55.92 บาท (ห้าสิบห้าบาทเก้าสิบสองสตางค์ในแก้วคริสตัล 30%PbO)

 

ต้นทุนในใบนี้ยังไม่รวมค่าแรงคนงานและค่าเชื้อเพลิงนะครับ ราคาตกกิโลกรัมละ 47.82 บาท (สี่สิบเจ็ดบาทแปดสิบสองสตางค์ในแก้วคริสตัล 24%PbO) ซึ่งความจริงแล้ว แก้วคริสตัลเกรด 24%PbO ก็เคยครองอันดับหนึ่งของแก้วคริสตัลบนโลกนี้มานานนับร้อยปี ต่อมาออสเตรียเป็นผู้นำผลิตคริสตัล 30%PbO และในที่สุดก็มีคนตาม ซึ่งถ้าพูดความจริง ไม่มีความจำเป็นถึง 30% ครับ

เบ้าหลอมแก้วคริสตัลที่นิยมใช้ในไทยเป็นเบ้าขนาดจุ 600 kg แต่เวลาหลอม เรามักหลอมไม่เกิน 500 kg หรือน้อยกว่านั้นครับ

 

แก้วคริสตัลที่ต้องมีสูตรถึง 30%PbO นั้น เหมาะกับ Lighting Part มากที่สุด เพราะจะมีการเจียรนัยมุมแก้วต่อเม็ดหลายมุม ต้องการความเงางามสูง

ขออนุญาตยกตัวอย่างพระแก้วคริสตัลหน้าตัก 5 นิ้วอีกองค์ที่ผมสร้าง องค์พระแก้วพร้อมฐานเล็กเป็นแก้วคริสตัล 24%PbO สีใส transparent แต่บัวเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นฟุตนั้น ผมซื้อที่จีนทำสำเร็จโดยจีนใช้แก้วคริสตัล 30%PbO จะสังเกตุเห็นได้ว่า แก้วคริสตัล 30%PbO นั้น มีจุดเด่นตรงที่ถ้าเจียรนัยมุม จะมีรุ้งเงาๆที่ผิวที่เจียรนัยเห็นได้ชัด

 

ถ้าพระแก้วที่เป็นผิวเรียบ ไม่เจียรนัยมุมหักเหของแสงแบบที่เรียกว่ามุมกระจก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แก้วคริสตัลเกรดสูงเกิน 24%PbO ภาพล่างทั้ง 2 องค์นี้หน้าตัก 9 นิ้ว องค์ใสผมทำให้ผิวฝ้าขาว แต่องค์เหลืองผมทำผิวให้เป็นสีใสเหลือง หรือ เหลืองใส transparent

 

อย่างไรก็ดี การเลือกว่าจะใช้แก้วคริสตัลเกรดไหน จะต้องอยู่ในสมองของผู้ดีไซน์ว่า เราจะโชว์อะไร ขอยกตัวอย่างกรณีของลาลีคฝรั่งเศส เขาสร้างองค์แถวบนจากซ้ายองค์ที่ 2 และ 3 แถวล่างอยู่ซ้ายสุด ลาลีคบอกว่าเขาเลือกใช้แก้วคริสตัล 28%PbO และใช้เวลาในการหลอมแก้วนานกว่า 48 ชั่วโมงก่อนการนำมาขึ้นรูป ซึ่งเวลาในการขึ้นรูปแค่ไม่กี่นาที เขาเลือกใช้เทคนิค Glass Injection ที่ยากมาก ราคาองค์หน้าตัก 8 นิ้วเศษองค์ละ 4 แสนกว่าบาทในประเทศภาษีฟรี ซึ่งเราจะไปคิดว่า เราจะไปใช้ราคาของลาลีคมาจำหน่ายนั้น คงไม่ได้ครับ เพราะเขาทำได้เพียงไม่กี่คนในโลกนี้เท่านั้นที่จะครบทุกแง่ทุกมุมตั้งแต่หลอมทรายกันเลยทีเดียว

 

ในสมองของดีไซน์เน่อร์จะต้องมีข้อมูลค่อนข้างครบ เช่น ถ้าเราจะสร้างพระพุทธชินราชแก้ว แล้วหล่อแก้วคริสตัลทับอีกทีดังในภาพนี้ องค์ที่อยู่ภายในควรเป็นแก้วเกรดใด และภายนอกควรเป็นเกรดใด เมื่อผิวภายนอกต้องการเจียรนัยมุมแบบที่เรียกว่า มุมกระจก ก็ต้องใช้เกรดสูงสุดทั้งสอง

ดังนั้น ตามที่ผมให้เกียรติแก่ช่างแก้วทุกสาขาวิชา เพราะไม่มีทางที่คนคนเดียวจะเป็นครบทุกวิชา แต่เมื่อใดที่บุคคลเหล่านี้มารวมหัวกัน และใช้การระดมสมอง ผลงานก็จะออกมาดีที่สุด