การปรับธาตุ สำหรับมนุษย์ผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากพลังงานใหม่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย phudit999, 23 มกราคม 2013.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ในสมองมีแต่ขออโหสิกรรม แต่ไม่คิดทำบุญ ทำคุณไถ่บาปไถ่โทษ
    มันเอาแต่ได้นี่นา มีที่ไหน ขอใช้หนี้ด้วยการ ขอปลดหนี้
     
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ผู้เป็นใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำ อธิษฐานใดๆ

    ผู้ที่สร้างพันธะ เองต่างหากที่ ยึดติดกับพันธะ

    สัญญาต่างๆ ที่ทำไว้ จึงเป็นเหตุที่ต้องมาปฏิบัติ

    ตามสัญญาของตนเอง

    ตนเองสร้างเอง ผูกเอง ยึดเอง .....

    และ เป็นอุปสรรคของตนเอง ....

    นี่ล่ะ สัญญา(พันธะขันธ์) ผูกติดกับมนุษย์

    ทำนองเดียวกัน สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ตนเองทำเป็นนิสัย

    เป็นอุปนิสัย ไม่ดี สิ่งเหล่านี้ ก่ จะผูกติดอยู่กับตน

    ตลอดเรื่อยไปเช่นกัน ... เรียกว่า สันดาน

    เมื่อเป็นสันดาน ก่ จะแก้ไขได้ยาก

    เพราะไม่ว่าจะเกิดกี่ชาติ ก่ จะไม่สงบระงับ

    จะฟุ้งซ่านรำคาญแบบนี้เรื่อยไป....
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ชำระกรรม โดย ขอให้เขาอโหสิกรรมให้
    ขอชำระหนี้ โดย ขอให้เขา ยกหนี้ให้
    ขอรับการลงโทษ โดยการให้เขา ยกโทษให้

    พึ่งเห็น ผู้เป็นใหญ่ นี่แหล่ะ กล้า เอามาสอนคนอื่น เห็นแล้ว ต้อแต๊
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผู้เป็นใหญ่ ไม่เกี่ยวอะไร กับ ผู้เล็กเลย
    ผู้ใหญ่ ไม่รับผิดชอบ กับ ผู้เด็กเลย
    คนเกิดก่อน พ่อแม่ ไม่รับผิดชอบ กับเรื่องของลูกเลย
    แล้วเกิดมาเป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ เป็นพ่อแม่ ทำไมครับ

    เกิดก่อนเขา มาทำไมครับ รู้ก่อนเขามาทำไมครับ
    มาเปิดกระทู้ สอนคนอื่นทำไมครับ
    เมื่อไม่คิดจะรับผิดชอบ ดูแล อะไรใครเลย เกิดมาทำไมครับ เกิดมาในวัฏะจักรทำไมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 เมษายน 2013
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การขออโหสิกรรม เป็น รหัสหรือ การกล่าวแทน ความเข้าใจ

    การขออโหสิกรรม คือ การเติมเต็มส่วนที่พร่องของตนเอง

    และคู่กรณีให้สมบูรณ์บริบูรณ์ กลับคืนดังเดิม

    เพราะการทำบาปในอดีต ผู้ที่มีผลกระทบคือ

    ผู้กระทำและ ผู้ถูกกระทำ

    ผู้กระทำ ผิดในศีล

    ผู้ถูกกระทำ เกิดอาการ คั่งแค้น อาฆาต (ตัวอย่าง)
    และอาจตกอยู่ใน อบายภูมิ ได้

    การแก้ไขคือ การกลับคืนให้ทั้ง สองฝ่าย

    ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ

    การจะพ้นมลทิน ก่ ต้องแก้ไขทั้งสองฝ่าย

    ให้กลับคืน ให้หมดพันธะ ต่อกัน

    เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น

    หาก คู่กรณีหรือผู้ถูกกระทำ ยังขัดข้องเรื่องอื่น

    ก่ จะมีพันธะผูก อบายเรื่องอื่น ก่ จะสุดแล้วแต่

    ความคิดของคู่กรณี .... แต่หากคู่กรณีที่แก้ไขกรรม

    หรือมีการพิจารณาดี ๆ ว่า การให้อโหสิกรรม

    ทำให้เจริญ ทำให้ปลอดโปร่ง พ้นจากอบายได้

    คู่กรณี ก่ จะพบปัญญาเองว่า การให้อโหสิกรรม

    คือ การให้ ที่ทำให้ตนเองพ้นออกจาก อบาย

    และ ทำไม จึงจะไม่ให้ อภัย ล่ะ ....
     
  6. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    รู้ได้อย่างไรว่า ผู้ใหญ่ ผู้เป็นใหญ่ไม่รับผิดชอบ
     
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    รู้แต่ว่า การขอ ไม่ไช่ วิสัยของ บัณฑิต
    การให้ ต่างหาก คือวิสัย ของ พุทธะ
     
  8. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ภิกษุ หรือ พระภิกษุ (บาลี: ภิกขุ; สันสกฤต: ภิกษุ) เป็นคำใช้เรียก "นักบวชชาย" ในพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ คู่กับภิกษุณี (นักบวชหญิง) คำว่า ภิกษุ เป็นศัพท์เฉพาะในพระพุทธศาสนา เป็นศัพท์บัญญัติที่ใช้เรียกนักบวชชายในพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ ไม่สาธารณะทั่วไปสำหรับทุกศาสนา มีความหมายว่า ผู้ขอ (ขออาหาร เป็นต้น) และสามารถแปลว่า ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร ก็ได้ ดังรูปวิเคราะห์ว่า "วฏฺฏสํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ"

    อ้างอิงข้อมูลจาก ลิงค์ ภิกษุ - วิกิพีเดีย
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เมื่อมีผู้ขอ

    จึงมีผู้ให้

    เมื่อมีผู้ให้

    ผู้ให้ย่อมได้เอง

    หากไม่ขอ

    ก่ ไม่มีให้

    เพราะไม่รู้จะให้ใคร

    เพื่อปลดเปลื้องตนให้สูงขึ้น

    เพื่อเป็นอภัยทานให้ตนเองสูงขึ้น

    เพื่อปลดพันธะตนเองที่ผูกไว้

    คู่กรณี จะได้ปลดตนเองออกจากพันธะ

    เมื่อมีผู้ขอ มา......
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ภิกษุ แปลว่า ผู้ขอ องค์พุทธะ
    ให้คำแปลได้ถูกต้องดีแล้ว

    ทั่วไปมักคิดว่า การขอ คือ การจะเอา
    มักถือว่าไม่เจริญ แต่ทำไม ภิกษุจึงแปลว่า ผู้ขอ

    เพราะว่า เมื่อขอแล้วจะมีผู้ให้
    หากเมื่อภิกษุ ไม่ได้ปฏิบัติตามเจตนาของ
    องค์พุทธะแล้ว จะเป็นอย่างไร

    ก่ จะไม่มีผู้ให้ เกิดขึ้น ....
    ผลจะเป็นอย่างไร

    ภิกษุ จะเป็นอย่างไร
    และเดิมผู้ที่ให้ จะกลายเป็นอย่างไร
    และศาสนา จะเป็นอย่างไร เมื่อไม่ดำรงมั่นตามเจตนาของผู้นำ
     
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ศาสนาพุทธจะเป็นอย่างไร เมื่อ 'ภิกษุ' ไม่ได้ดำรงตนเป็น 'ผู้ขอ'

    เมื่อภิกษุ ไม่ได้ทำวัตร ออกบิณฑบาต เป็นผู้ขอ ตามเจตนาของผู้นำ

    ศาสนา
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เมื่อไม่มี ไม่มา ไม่ขอ ก่ ย่อมไม่มีผู้ให้

    ผู้ให้ ก่ น้อยลง เมื่อผู้ให้ น้อยลง

    สังคมย่อมเสื่อมทราม ....

    เพราะไม่รู้จักการให้

    การ ขอ จึงเหมาะสำหรับคำแปลว่า ภิกษุ ในพุทธศาสนา

    ภิกษุ ไม่ขอ ก่ ย่อมจะเห็นอนาคตของ ศาสนา

    เพราะ ภิกษุ ดำรงอยู่ได้ เพราะมีผู้ให้

    เมื่อผู้จะให้ ไม่รู้จัก ผู้ขอ ไม่รู้จัก การให้

    สังคมปุถุชน สังคมสงฆ์ ย่อมจืดจางต่อกัน

    ฉันจักไม่ขอ เพราะคิดว่า การยืนขอ คือ การลดศักดิ์ ตนเอง

    ฉันจักนั่งรอ ให้คนมากราบ มาไหว้ ฉันจึงจะรับสิ่งของเหล่านั้น

    เพราะว่าฉัน เป็นผู้มีศีลมากกว่า ประเสริฐมากกว่า คนปุถุชนทั่วไป

    หากคิดอย่างนี้ พังพินาศแน่นอน ....

    หากตระหนักว่า ตนเองเป็นผู้ขอ แล้ว......

    มีหน้าที่ขอ อย่างไรก่ต้องทำ ทำเพื่อลดละวางจางคลาย

    ความอหังการที่มีในตน ไม่คิดอวดตนว่าเป็นผู้มีศีลงาม....

    ภิกษุ จึงต้องแปลว่า ผู้ขอ
     
  13. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผมอุลต้ราแมนเซกะองค์ปฐมจักรวาล ข้าขอให้ทุกคนทุกสรรพสัตว์ ทุกสรรพธาตุ ทุกสรรพนาม ทุกสรรพรูป ทุกสรรพจิต ทุกสรรพสิ่ง จงเชื่อฟังข้า ผู้เดียวเท่านั้น นับแต่ บัดนี้เป็นต้นไป ข้าได้ขอ ไปแล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่ให้ พรนี้แก่ข้า นับแต่นี้ พวกเจ้าก็จะขออะไร แล้ว จะไม่มีใครให้ อะไร กับพวกเจ้าเหมือนกัน

    ผมได้ขอแล้ว พวกท่านล่ะ ให้ ผมได้หรือยัง
     
  14. Jexxy

    Jexxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +437

    ขอ ฮา ประโยคนี้ ค่ะ 555
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    จุดที่กำหนด เป็นการเปลี่ยนโหมด ไปสู่กายทิพย์
    จะรู้สึกว่า ลมหายใจจะหายไปอย่างรวดเร็ว
    นิ่งเงียบ ปรารถนาจะมีคิด ก่ คิดได้ แต่ก่ เงียบไว้ดีกว่า

    คือ นำไปสู่ โหมดของใจ เป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
    ที่ฝึกกันส่วนใหญ่ กว่าจะไปสู่ โหมด กายทิพย์ ก่ นาน
    และไปสู่โหมด ใจ ก่ เป็นแบบไม่รู้สึกตัว
    คือ เอ๊ะ ไม่รู้ว่าลมหายใจ มันหายไปตอน ไหน

    แต่ ปุ่มที่ผมให้ กำหนดให้เลย หากจะเปลี่ยนไปยังโหมด
    ใจ หรือ กายทิพย์ ก่ ต้องอยู่ ตรงนั้น ท่านก่ จะเห็น ว่า ลมหายใจ
    จะค่อยๆ หาย ไป หาย ไป เรียกว่า กายระงับ

    ใจ จะมองเห็นกาย ระงับ เข้าสู่ความสมบูรณ์ ของกายทิพย์
    ความรู้สึก จะ เบา มี ผู้ที่ฝึก ผู้ที่ผมให้กรรมฐาน
    บอกว่า เหมือนอยู่ในอวกาศ ก่ ลองจินตนาการหรือคิดดูว่า
    เมื่ออยู่ในอวกาศ สภาวะ จะเป็นแบบใด

    หมายเหตุ ผู้ที่ฝึกแล้วพบแล้ว เป็นไปตามนี้ กายทิพย์ ไม่มีปัญหาอะไร
    หากผิดไปจากนี้ ไม่สามารถฝึกและพบเป็นดังนี้

    กายทิพย์ มีปัญหา ต้องแก้ไข ....
    มีบางสิ่งแอบแฝง
    หรือ กายทิพย์พร่อง เพราะ ผิดในศีล
    หรือ มีคลื่นรบกวน หรือตัวตนอื่นมาเกาะ

    มนุษย์ หรือ กายทิพย์ มนุษย์ ที่สมบูรณ์ เท่านั้นที่จะฝึกได้
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ใครปรารถนาต่อยอด กรรมฐาน หรือ พัฒนาตนเอง
    บอกผ่านมาทาง PM

    ใครปรารถนาแบ่งปันประสบการณ์ ก่ เชิญได้ครับ ...
     
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ใครที่มีอดีต หรือ มีตัวตนอดีต หรือ พลังจากอดีต

    ก่ จะเห็นหรือสัมผัสรู้ ถึงพลังที่มาได้

    ก่ ไม่ต้องตกใจ ปอดแหก นั่นคือ ญาติของตนเอง
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ญาติของตนเอง มีทั้ง ดี และ ไม่ดี

    ไม่ดี ก่ ต้องแก้ไขให้ ญาติ

    เพราะ ญาติ ไม่ดี ก่ จะมาอยู่เรื่อย ๆ

    อยากเห็น ญาติดี ก่ ต้องแก้ไข ด้วยตนเอง

    ญาติ จึงจะ ญาติดี ด้วย (มาเห็นด้วยสภาพที่ดี)
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ญาติไม่ดี มาหา

    ก่ ไม่ต้องตกใจ กับสภาวะที่ได้รับกระทบ

    มันเป็นเรื่องปกติ เพราะ ญาติ มีคลื่นไม่ดี

    เป็นคลื่นปกติของญาติ เราจะได้รับผลกระทบไปด้วย

    จึงเป็นเรื่องปกติ เพราะ ญาติควบคุมหรือบังคับคลื่น

    ผิดปกติ ไม่ได้ เพราะไม่มีพลังเพียงพอ

    ก่ ต้องมีความ รัก เป็นพื้น ก่ แก้ไข ให้ญาติเสีย

    กลัวญาติ ก่ เหมือนกลัวตนเอง

    ใจ ตนเอง ก่ จะไม่พัฒนา

    ไปสู่สิ่งที่ดีงาม

    ของใกล้ตัว ญาติใกล้ตัว

    ยังไม่ดูแล นับประสาอะไร

    คิดที่จะพัฒนาฝึกกรรมฐาน

    อบรมตน ไปทำไม เพราะเป็นผู้ที่ขาดความ รัก แท้
     

แชร์หน้านี้

Loading...