Magnet Generator .... พลังงาน Free ... ทางเลือกยุคน้ำมันแพง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Pew Pew, 10 กรกฎาคม 2008.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หลังภัยพิบัติเราชาวไทยได้ใช้พลังงานที่สะอาดเหล่านี้แน่นอนครับ

    ขอโมทนา และยินดีในความสำเร็จของผู้เสียสละ เพื่อมวลมนุษยชาติด้วยครับ
     
  2. JONGKON SIRISIN

    JONGKON SIRISIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2006
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +360
  3. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    ดีครับ น่าสนใจมาก

    เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีอีกแบบหนึ่ง ขอขอบคุณที่ช่วยกันค้นหามาให้ศึกษากัน

    เมื่อเดือนที่แล้ว ธันวาคม 2553 ได้ดูรายการกบนอกกะลา ก็มีการพาไปติดตามดูพลังงานสีเขียวในประเทศไทย หลายๆแห่ง และหลายๆวิธี

    ใครสนใจก็ลองไปหาดูจากรายการทีวี ย้อนหลังได้นะครับ

    เรื่องพลังงานทางเลือก พลังเขียว ใกล้ตัวมากเข้ามาทุกทีแล้วครับ

    ตอนนี้ มีหลายบริษัทฯ มาให้ช่วยจัดหาที่ดินในต่างจังหวัด ที่เป็นที่ดอน แปลงละ 100 - 300 ไร่ เพื่อทำโครงการ Solar Farm ในต่างจังหวัดมากขึ้นเรื่อยๆ

    รู้ไว้จะได้เร่งปรับตัวกันทัน Farm พลังงาน จะรุกล้ำ Farm พืชสวนไร่นามากขึ้นเรื่อยๆ อีกหน่อยคนเมืองอาจจะมีไฟฟ้าเยงพอ แต่ไม่มีอะไรจะกิน

    ที่คิดเป็นห่วงอยู่ก็คือ แหล่งเพาะปลูกอาหารจะน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะกลายเป็น Farm พลังงานมากขึ้นเรื่อย เช่น Solar Farm Farm สบู่ดำ Farm ปาล์มน้ำมัน Farm อ้อย เป็นต้น

    Farm อาหารจะลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่จำนวนประชากรโลก เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภัยพิบัติก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พืชผลเกษตรเสียหายจำนวนมาก

    อาหารจึงย่อมไม่พอเลี้ยงประชากรได้ภายใน ไม่กี่ปีข้างหน้า ตอนนี้ก็ค่อยๆเห็นผลกระทบบ้างแล้ว เตรียมตัว เตรียมใจกันไว้บ้างก็ดีนะครับ
     
  4. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เจอแล้ว..
    กระทู้นี้ได้สาระประโยชน์ดีค่ะ :cool:

    (ขอดัน เพราะเห็นมีกระทู้ในทำนองเดียวกันกำลังขึ้นหน้าหนึ่งอยู่ในห้องวิทย์ฯ จะได้อ้างอิงกัน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2011
  5. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ท่านสมาชิกที่ทดลองทำ Magnet Motor หรือ Magnet Generator กันอยู่
    มีผลการทดลองมาอัพเดทให้ฟังไม๊คะ?..อยากทราบผลความคืบหน้า

    ดิฉันไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรม คงทดลองทำลำบาก
     
  6. manus_k

    manus_k Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +42
    ลองทำดู ใช้หลักการการลอยตัวของแม่เหล็กเพื่อลดแรงเสียดทานและความร้อนระหว่างโรเตอร์และสเตเตอร์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.2 KB
      เปิดดู:
      376
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    หลักการทำงานเบื้องต้น

    [​IMG]

    ทำการอัดน้ำเย็นลงไปในหลุมเจาะที่ลึกกว่า2-3ไมล์ เพื่อให้น้ำรับความร้อนจากชั้นหินร้อนใต้พิภพ (Hot Dry Rock) และไหลเวียนไปตามรอยแยกของชั้นหินจนมีอุณหภูมิและความดันสูง จากนั้นจึงทำการสูบกลับขึ้นมายังผิวโลกเพื่อนำไอน้ำที่ได้ไปปั่นกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป

    <EMBED height=344 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/A_NBMSoLyvo&hl=en&fs=1& hasbox="2" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>
    สถานภาพปัจจุบัน
    [​IMG]
    ปัจจุบันโรงไฟฟ้าจากแหล่งหินร้อนใต้พิภพมีอยู่ทั่วโลก เช่นที่เกาะ Lihir ใกล้ปาปัวนิวกินีมีโรงไฟฟ้าขนาด 60MW และประเทศไอซ์แลนด์ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากชั้นหินร้อนใต้พิภพ และกำลังทดสอบระบบอยู่ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย,สหรัฐอเมริกา และ Oita Prefecture,ญี่ปุ่น เป็นต้น
    ข้อได้เปรียบและความเหมาะสมของเทคโนโลยี
    • พลังงานใต้พิภพใน 1ตารางกิโลเมตร จะเทียบเท่ากับพลังงานที่ได้จากน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลถึง 40 ล้านบาร์เรล
    • ไม่มีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิต
    • โรงไฟฟ้าขนาด300MW จะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เทียบเท่า 2,628,000 ตันคาร์บอนต่อปี
    ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และการลงทุน
    จากการศึกษาเกี่ยวกับความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของขนาดโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพที่เหมาะสมควรมีกำลังการผลิตขั้นต่ำ 300MW ขึ้นไป และมีค่าใช้จ่ายในการสร้างกว่า 1,850ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาประมาณ15ปี




    [​IMG]

    ที่มาของโครงการ

    บริษัทEnviroMission เริ่มต้นเมกะโปรเจคนี้ในปี2001 และได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลออสเตรเลีย โดยเริ่มดำเนินการสำรวจหาสถานที่ก่อสร้างตึกยักษ์ สูง1 กิโลเมตร " Solar Tower " มูลค่ากว่า 25,000ล้านบาทเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แห่งแรกของโลก และได้พบสถานที่ ที่เหมาะสม นั้นคือ Buronga อันสุดแสนทุรกันดาร ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบกว้างใหญ่และแห้งแล้ง จึงเหมาะอย่างยิ่งในการตั้งสถานีรับพลังงานแสงอาทิตย์

    <EMBED height=344 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/cLIiGTZxH5s&hl=en&fs=1& allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>​
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-6085466361391296";/* 468x60, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 9/8/10 */google_ad_slot = "1407846549";google_ad_width = 468;google_ad_height = 60;//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 60px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 60px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_1_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_1 height=60 marginHeight=0 frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=aswift_1 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
    หลักเบื้องต้นของเทคโนโลยี Solar Tower



    [​IMG]

    ใช้หลักปรากฎการณ์เรือนกระจกเพื่อผลิตอากาศร้อนจากพื้นราบ และเหนี่ยวนำเอาอากาศร้อนผ่านกังหันปั่นไฟขึ้นสู่ปล่องด้านบน โดยในเวลากลางวันอุณหภูมิอากาศจะสูงถึง 65 องศาเซลเซียส และมีความเร็ว 35 ไมล์/ชม. สาเหตุที่ต้องสร้างให้มีตึกสูงคล้ายปล่องไฟเนื่องจากต้องการสร้างความแตกต่างของอุณหภูมิ ความหนานแน่น และความดันอากาศ จนก่อให้เกิดแรงเหนี่ยวนำมวลอากาศร้อนจำนวนมหาศาล จากพื้นราบผ่านกังหันปั่นไฟที่ติดตั้งไว้โดยรอบจำนวน32ตัว ตัวละ6.25MW ขึ้นสู่ปล่องที่สร้างเป็นตึกสูง1กิโลเมตร และแม้แต่ในเวลากลางคืนระบบยังสามารถปลดปล่อยความร้อนจากภายในเพื่อใช้ปั่นกังหันได้เช่นกัน ส่งผลให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องตลอด24ชม.

    ประโยชน์และข้อได้เปรียบ

    สถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 200MW เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยัง 200,000 ครัวเรือนเทียบเท่าเมืองหลวงของTasmania หรือเมืองGeelong ชานเมืองใหญ่ของนครหลวง Victoria, ออสเตรเลีย ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่า 900,000 ตัน คาร์บอน ไม่ใช้พลังงานฟอสซิลในกระบวนการผลิต

    สถานภาพของโครงการ Solar Tower

    เดิมที คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2549 (2006) แต่ติดปัญหาโรคเลื่อนและแหล่งงบประมาณมหาศาล มากกว่า25,000ล้านบาทที่ยังไม่มีข้อสรุป ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในระยะสุดท้าย และเตรียมดำเนินการออกแบบก่อสร้างในไม่ช้า
    Solar Tower ต้นแบบ


    [​IMG]

    เทคโนโลยีSolar Tower มีมานานหลาย10ปีแล้วนะครับ แต่เป็นเพียงระบบต้นแบบขนาดเล็กๆที่สามารถใช้งานได้จริง มีกำลังผลิต 50kW ถูกสร้างขึ้นและทดสอบที่ Manzanares สเปน.ในปี1982 -1989 โดยโครงการนำร่องนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสเปนและนักออกแบบชาวเยอรมัน



    [​IMG]

    บริษัท คลีนฟูเอล เอ็นเนอร์ยี เอ็นเตอร์ไพร้ส์ จำกัด (C -FEE) ค้นพบนวัตกรรมใหม่ ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน เชื่อมั่น หากนำไปพัฒนาเพิ่มคุณภาพ จะช่วยลดมลพิษในอากาศได้
    ร.ท.ภราดร แสงสุวรรณ์ หนึ่งในทีมผู้วิจัย การใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เป็นพลังงานขับเคลื่อน กล่าวว่าการผลิตพลังงานขับเคลื่อนด้วยการใช้เซลล์เชื้อเพลิงถือเป็นการใช้แหล่ง พลังงานไฟฟ้าชนิดกระแสตรง เป็นอุปกรณ์แปลงพลังงานชนิดหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่แปลงพลังงานเคมี ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยไม่มีการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วน ดังนั้น จึงทำให้เซลล์เชื้อเพลิงเป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงพลังงานทึ่มีความเงียบ มีผลผลิตที่ได้เป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในลักษณะต่างๆ ได้ การผลิตไฟฟ้าในเซลล์เชื้อเพลิงนี้ อาศัยพื้นฐานจากปฏิกิริยาระหว่างแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงกับแก๊สที่เป็นตัวออก ซิไดซ์

    " สำหรับหลักการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิง เมื่อแก๊สไฮโดรเจนผ่านเข้าทางช่องทางเข้าแก๊สไฮโดรเจนนี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน อาศัยตัวเร่งปฏิกิริยาขึ้นที่บริเวณชุดประกอบขั้วไฟฟ้าแบบแผ่นเยื่อ เกิดอิเลคตรอนอิสระ เคลื่อนผ่านตัวนำไฟฟ้า และเกิดส่วนของโปรตอน ซึ่งจะเคลื่อนตัวผ่านแผ่นเยื่อเพื่อแลกเปลี่ยนโปรตอน นี้ไปเกิดปฏิกิริยารีดักชัน โดยอาศัยตัวเร่งปฏิกิริยาช่วยในการรวมตัวกับออกซิเจนที่ผ่านเข้ามาทางช่อง ทางเข้าเกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำ "

    " ศักย์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นต่อหนึ่งชุด เซลล์เชื้อเพลิงนี้จะเป็นกระแสไฟฟ้าตรง มีค่าประมาณ 0.6 V โดยกระแสที่เกิดขึ้นตามการประดิษฐ์นี้จะมีค่าประมาณ 0.5 A ต่อตารางเซนติเมตร หากต้องการให้มีศักย์ไฟฟ้าเหมาะกับงานประยุกต์ต่างๆ ก็สามารถนำมาต่ออนุกรมกัน เพื่อให้ได้ศักย์ไฟฟ้าที่ต้องการ หรือ การต่อแบบซ้อนชั้นกัน โดยมีการออกแบบช่องทางเข้าของแก๊สไฮโดรเจนและออกซิเจนให้เหมาะสม อุณหภูมิการใช้งานของเซลล์เชื้อเพลิงชนิดนี้จะอยู่ในพิสัย 40 - 80 องศาเซลล์เซียส ซึ่งเหมาะกับสภาพอุณหภูมิทั่วไป และเชื่อว่าการใช้เซลล์เชื้อเพลิงจะช่วยให้ลดปริมาณการใช้พลังงานในประเทศได้ หากเมื่อการวิจัยชิ้นงานดังกล่าวถูกนำไปพัฒนา ต่อยอดเพิ่มศักยภาพการทำงานให้สมบูรณ์แบบได้ ในอนาคตจะมีพลังงานขับเคลื่อนที่ใช้แก๊สไฮโดรเจนขึ้นมาทดแทนพลังงานที่เป็น น้ำมัน และช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศได้ " ร.ท.ภราดร แสงสุวรรณ์ กล่าว
    ที่มา : ไทยรัฐ


    [​IMG]

    รายละเอียด
    ตู้ไมโครเวฟตามบ้านจะมีขนาดตั้งแต่ 750 - 1,100 วัตต์ ในบางครั้ง เราใช้อุ่นอาหาร ซุป ชงชา กาแฟ เพียงเล็กน้อยๆ แต่กลับใช้พลังงานมหาศาล (ขณะที่หลอดฟลูออเรสเซ็นท์ตามบ้านมีขนาดเพียง 36W) จึงเกิดนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Beanzawave มีความสูง 7.4 นิ้ว กว้าง 6.2 นิ้ว และลึก 5.9 นิ้ว เจ้าไมโครเวฟจิ๋วนี้ใช้ไฟเลี้ยงจากUSB Portทั่วไป ของโน๊ตบุ๊ค-คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สามารถอุ่นอาหาร ซุป เครื่องดื่มให้อุ่นได้ ภายในระยะเวลาไม่เกิน1นาที ดังนั้นมันจะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล และในอนาคตกำลังพัฒนาให้ใช้กับแหล่งพลังงานจาก แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งจะทำให้พกติดตัวไปใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลาต่อไป

    [​IMG]

    ราคาจำหน่าย ราคาขาย อยู่ที่ 160$ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 5 พันกว่าบาทเท่านั้นเองครับ

     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]

    คุณสมบัติของแอร์มือถือ

    • ใช้หลักการระเหยน้ำเพื่อลดอุณหภูมิอากาศ

    • ความชื้นของสภาวะแวดล้อม มีผลต่อประสิทธิภาพการลดอุณหภูมิของอากาศ

    • ขนาดเล็กพกพาสะดวก

    • แหล่งพลังงานถ่าน AA 4ก้อน สามารถใช้ไฟเลี้ยงจากUSB พอร์ต และปลั๊กไฟตามบ้านได้

    • ใช้งานจากแบ็ตเตอร์รี่ได้ราว 5ชั่วโมง

    • ขนาด 2.5 x 2 x 7 นิ้ว

    • น้ำหนัก 7 ounces หรือประมาณ 200กรัม


    [​IMG]

    จากการทดสอบในต่างประเทศที่มีสภาวะอากาศค่อนข้างแห้ง ความชื้นต่ำ จะลดอุณหภูมิได้ถึง 25 องศาเซลเซียส แต่หากนำมาใช้ในประเทศไทย อาจจะทำได้อย่างเก่งแค่ 27-28 องศาเซลเซียส เท่านั้น เนื่องจากบ้านเราเ็ป็้นเมืองร้อนชื้น ด้วยความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศค่อนข้างสูงเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่ออัตราการระเหยน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิของอากาศ
    [​IMG]
    วิธีการใช้งาน
    ก่อนใช้งาน ก็เติมน้ำลงบนสื่อที่มีลักษณะอุ้มน้ำ(คล้ายๆฟองน้ำ) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนความร้อนในกระบวนการระเหยน้ำเพื่อผลิตอากาศเย็น หลังจากประกอบเข้าด้วยกัน ก็พกติดตัวออกจากบ้านได้เลย
    ราคาจำหน่าย
    จำหน่ายอยู่ที่ราคา $39.99 หรือ คิดเป็นเงินไทยราวๆ 1,400 บาท เท่านั้นเอง
     
  9. ninja055

    ninja055 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    เรืองParendev motor
    นั้นลำพังแค่แม่เหล็กในระบบอย่างเดียวไม่สามารถทำได้แน่นอนครับผมฟันธงเลย

    เนื่องจาก มันขัดกับกฏหลายๆกฏ (law) ไม่ใช่ Theory (ทฤษฏี)
    1.ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหน ประดิษหรือค้นพบสิ่งใหม่ๆ โดยขัดกับกฏ(Law)
    2.ขัดกับหลักโมเมนตัม จังๆ และ แรงอนุรักษ์ (ถ้าไม่มีการใส่แรงเพิ่มเข้าไปในระบบ ทั้งตอนเริ่มต้น และ ตอนที่ระบบกำลังทำงาน)
    3.ขัดกับ กฏข้อ3 ของ นิวตัน Action = reaction (ถ้ามันหมุนตลอดไม่มีวันหยุดนะ)
    4.ถึงทำให้หมุนได้จริงๆ แบบไม่หยุด(หรือหยุดช้ามาก 3วัน3คืนก็ว่ากันไป)
    หากเราจะนำมาปั่นไฟ อย่าลืมว่า เมื่อท่านใส่ Generator หรือ ทำเป็นขดลวดสวนทางสนามแม่เหล็กเข้าไป ต้องเกิด F ที่กระทำในทิศทางตรงข้ามทำให้มันฝืดขึ้น ผลที่ได้ก็คือ มันหยุดเร็วขึ้น(จาก3วัน3คืน อาจจะเหลือ 1นาที2นาที)


    แต่.........
    ถึงจะมีปัญหาตามที่บอกไปมันไม่สามารถหมุนด้วยตัวของมันเองได้
    แต่สามารถ ทำให้ใส่แรงลงไปน้อยที่สุด เพิ่มเวลาการหมุนให้นานขึ้นได้
    เช่นออกแรงหมุนนิดหน่อย Parendev หมุนไป 7 วัน (ผมคิดว่าทำได้จริงๆ ถ้าก๊ะตำแหน่งได้เหมาะสม แต่ยังไงมันต้องหยุดอยู่แล้วไม่ว่าจะช้าหรือจะเร็วแค่นั้น)
    แต่มันก็มีข้อดีอยู่

    1.สามารถทำเป็นเครื่องทุ่นแรงได้ เมื่อใส่แรงเข้าไปในระบบ
    2.สามารถนำมาใช้กับพลังงานอื่น(ที่ฟรีเหมือนกัน) จะขอเรียกว่าFree1
    เอาเจ้า Free1 มาแปลเป็นพลังงาน กล หรือ ไฟฟ้า แล้ว Take Enegy ที่ได้มาจาก Free1 เข้าสุ่ระบบของ Parendev ทำให้ หมุนได้นานขึ้น หรือหมุนไม่มีวันหยุดจนกว่า พลังงานFree1 จะไม่สามารถ ผลิตพลังงานกล และ ไฟฟ้าได้ (พูดง่ายๆว่าจะทำงานเหมือนฟันเฟือง1:2 ที่ทดแรงไปเรื่อยๆ แต่ได้พลังงานออกมาเยอะกว่า ใช้เฟือง1:1 ตัวเดียว)
    3.ถ้าได้ระบบที่สมดุลมาแล้ว ออกแรงหมุน1ทีอยู่ได้ 3วัน เป็นต้น ใส่งานให้ระบบเข้าไป เช่น ใส่ล้อ พาขนของได้ ไปตามทางที่เราSet ได้ โดยใช้แค่แรงเริ่มต้นเท่านั้น (น้ำหนัก+เรื่องต้าน จะแปลผันตรงกัน อำนาจแม่เหล็กโดยตรง)
    พูดง่ายๆคือ ถ้าโหลดที่คุณนำมาต่อนั้น แทบไม่ทำให้เสียสมดุลหรือเสียสมดุลน้อย จากหมุนต่อเนื่อง3วัน เหลือ2วัน มันก็ ok...


    ยกตัวอย่างการจับคู่เช่น
    Turbine water และ Parendev
    Solar cell และ Parendev
    Turbine wind และ Parendev
    หรือ Turbine wind + Solar Light (not cell) + parendev


    และผมลองคิดเล่นๆนะครับ
    จะทำรถมอไซค์พลังงานแม่เหล็ก ผมว่าทำได้นะ
    แต่..... ปัญหาก็คือ ต้องใช้แม่เหล็กฐาวรที่มีแรงสูง เช่น นีโอไดเมียม Neodymium (NdfeB) ขนาดใหญ่ ตัวรถ3เท่า (ทั้งนี้ทั้งนั้นอยุ่ที่น้ำหนักรถ+คนด้วยนะครับ) 3เท่าของขนาดรถ แม่เจ้า ขนาดหนาไม่กี่นิ้ว พื้นที่หน้าตัดไม่กี่Cm ก็อันละ 200-2500 แล้ว ถ้า3เท่าของ มอไซค์1คัน ก็คง..... ไม่คิดต่อดีกว่า 555+ หรือต้องรอให้มีแม่เหล้กฐาวรแบบที่ดูดแรงกว่า Neodymuium 6-12เท่า รับรองทำได้ชัวร์ๆ
     
  10. มเหสักขา

    มเหสักขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +146
    **************************************
    1.ไม่สนใจในจริยาของผู้อื่น
    2.ทรงพรหมวิหาร4 ตลอดเวลา
    3.มีศีล5บริสุทธิ์
    4.ตัดนิวรณ์5ได้
    5.แผ่เมตตาไปทุกทิศทั่วจักรวาล เราจะไม่เป็นศัตรูกับผู้ใด
    **************************************

    ก่อนอื่นอยากจะให้คุณรู้ว่า สิ่งที่คุณกำลังจะฝึกนั้น "ไม่ใช่การฝึกกล้ามเนื้อ" แต่เป็น "การฝึกจิต"

    (ถ้าเป็นการฝึกกล้ามเนื้อ คุณสามารถจะใช้วิธีออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อเพิ่มความแข็งแร็งของกล้ามเนื้อได้)
    (แต่ถ้าจะฝึกจิตคุณจะต้องใช้ "การวางอารมณ์(หรือการทรงอารมณ์)" ให้ถูกต้อง)

    ซึ่งจิตมันเป็นนามธรรม จิตมันไหวไปตามอารมณ์ ไหวไปตามกิเลส
    และเผอิญว่าเรามีกิเลสห่อหุ้มจิตของเราเอาไว้ทุกวันโดยไม่รู้ตัว จิตเราจึงไม่สะอาด จึงไม่สามารถใช้ความสามารถของจิตได้
    (เปรียบเสมือนน้ำในโอ่ง ที่มีตะกอนขุ่นมัวหมุนวนลอยฟุ้งอยู่ตลอด จึงมองไม่เห็นก้นโอ่ง)
    (เมื่อมีการฝึกจิตให้นิ่ง จึงเปรียบเสมือนทำให้น้ำในโอ่งนั้นนิ่ง ตะกอนจึงตกก้นโอ่ง ทำให้น้ำใส มองทะลุถึงก้นโอ่งได้)

    การจะเป็นผู้ทรงฌานหรือผู้มีทิพย์จักษุญาณ จึงต้องมีการจัดระเบียบวิธีการคิด เพื่อให้เหมาะต่อการทรงอารมณ์ฌาน
    (เพราะจิตมันไม่ใช่กล้ามเนื้อ จิตมันเป็นไปตามอารมณ์ เพราะฉนั้นจะต้องมีการจัดระเบียบการคิด เพื่อให้วางอารมณ์ได้ถูกต้อง)

    เมื่อคุณวางอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้ถูกต้องบ่อยๆ เวลาจะไปฝึกนั่งสมาธิ ก็จะสามารถเข้าฌานได้ง่าย
    (ที่คนทั่วๆไปอยู่ดีๆ พอนึกอยากจะไปวัดฝึกนั่งสมาธิขึ้นมา แล้วจะให้ได้ฌานเลยในครั้งแรก ส่วนมากมักจะไม่ได้ก็เพราะเหตุนี้)
    (เพราะว่าในชีวิตประจำวันของคนทั่วๆไปนั้น จิตมักจะ "ฟุ้ง" อยู่ตลอด)
    (อยู่ดีๆจะมาให้นั่งหลับตา แล้วสงบจิต-สงบใจ หยุดนิ่ง-หยุดคิดเลยทันที ก็เลยทำไม่ได้ เข้าฌานไม่ได้)

    เพราะฉนั้นนอกจากจะวางอารมณ์ก่อนจะนั่งสมาธิให้ถูกต้องแล้ว การวางอารมณ์ในชีวิตประจำวันของคุณก็ควรจะถูกต้องด้วย
    (วางอารมณ์ให้ถูกในชีวิตประจำวัน เกลากิเลสให้มันเบาขั้นต้นเสียก่อน เพื่อให้เวลามาฝึกนั่งสมาธิ จะทำให้จิตสงบระงับได้ง่าย)

    สำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการเข้าฌานนั้น เพียงแค่นึกถึงอารมณ์ฌานนั้น ก็เข้าฌานได้เลย เพราะเคยรู้จุด-รู้อารมณ์นั้นแล้ว
    แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าฌานครั้งแรกเลย อาจจะนึกอารมณ์นั้นไม่ออก จึงต้องฝึกวางอารมณ์นั้นให้ถูก จะต้องทำสะสมไปเรื่อยๆ



    ***********************************************
    (((((นิวรณ์5)))))

    1.กามฉันทะ (ความพอใจในรูป,รส,กลิ่น,เสียง,และสัมผัสระหว่างเพศ)
    2.ปฏิฆะ (ความโกรธ,ความขุ่นใจ)
    3.ถีนมิทธะ (ความง่วง)
    4.อุจธัจจะ (ความฟุ้งซ่านของจิต)
    5.วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ)

    ทั้ง5ตัวนี้ ถ้าตัดไม่ได้ในขณะที่นั่งสมาธิ จิตจะเข้าฌานไม่ได้
    ***********************************************

    ส่วนมากพวกเราจะรู้ว่า จะต้องตัดนิวรณ์5ให้ได้ก่อน จิตถึงจะเป็นฌาน
    แต่เรามักจะไม่ค่อยได้ยินว่า "ทำอย่างไรถึงจะตัดนิวรณ์5ได้?"

    การเจริญสติ และวิปัสสนาญาณ และการทรงอารมณ์ในชีวิตประจำวันให้สะอาด เมื่อทำบ่อยๆจิตจะเกิดอารมณ์ชิน
    เมื่อชินแล้ว นิวรณ์5ที่พอกอยู่ที่จิตก็จะเบา เมื่อมาฝึกนั่งสมาธิ ก็จะตัดนิวรณ์5ได้ง่าย

    อันดับแรกเลยก็คือ "ไม่สนใจในจริยาของผู้อื่น" ข้อนี้สำคัญมาก แต่บางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

    ปกติจิตของคนเราในชีวิตประจำวัน เวลาไปไหน ไปเจออะไร ไปมองเห็นอะไร หรือได้ยิน-ได้ฟังอะไร มากระทบใจ
    ก็จะนำเอาเรื่องๆนั้นมาโต้ตอบในจิตโดยอัตโนมัติ (แม้ว่าเราจะไม่พูดออกมาก็ตาม แต่ในใจมันคิดอยู่)

    เดินผ่านจอทีวีในห้าง เห็นนักร้องวัยรุ่นหน้าตาดี แต่ร้องเพลงไม่เก่ง (ใจก็นึก "ร้องเพลงห่วยแตกแบบนี้ มาเป็นนักร้องได้งัยวะ")
    (คิดแบบนี้ไม่ผิดทางโลก แต่ในแง่ของนักปฏิบัติควรจะละเว้นเสีย เพราะมันทำให้จิตฟุ้ง จึงควรจะลดการสนใจในจริยาของผู้อื่นลง)

    ใครจะทำดี-ใครจะทำเลวอะไร จิตก็เข้าไปจับ ไปวิเคราะห์เสียหมดทุกเรื่อง จริยาของผู้อื่นเป็นที่น่าสนใจสำหรับเรา
    ชอบการเม้าส์มอย ชอบการนินทา ชอบการวิจารณ์ ก็เลยติดนิสัยการเพ่งโทษผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว (โดยเฉพาะในโลกอินเตอร์เนต)
    (ไม่ผิดทางโลก แต่ผิดทางธรรมสำหรับนักปฏิบัติ เพราะจิตที่สนใจในจริยาของผู้อื่นเป็นนิจ เป็นจิตที่ฟุ้งซ่าน)

    จริยาความผิดของคนไหนที่ไม่ถูกใจเรา เราก็โกรธ เราก็ขุ่นใจ ขังความโกรธไว้ในใจ ฟุ้งไปตลอด
    ยิ่งอยู่ในโลกสังคมออนไลน์ ที่มีการโต้กันไป-โต้กันมา พูดเอามันส์ไม่มีลิมิต ยิ่งทำให้จิตขุ่นมัวได้ง่าย (ความขุ่นใจขังอยู่ในจิต)


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    การติดนิสัยชอบเพ่งโทษผู้อื่น จะทำให้คุณเผลอปรามาสผู้อื่นได้ง่าย (การปรามาสพระรัตนตรัยเป็นสิ่งต้องห้ามของนักปฏิบัติ)
    จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร ก็ให้วางไว้ก่อน จะพิสูจน์ได้หรือพิสูจน์ไม่ได้อย่างไร ก็ให้วางไว้ก่อน
    เพราะการเข้าสมาธิ-เข้าฌาน จำเป็นจะต้องวางความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติลงเสียก่อน(วิจิกิจฉา) จิตถึงจะเข้าฌานได้

    ถ้าในชีวิตปกติประจำวันของคุณ ติดนิสัยการเพ่งโทษผู้อื่น จิตของคุณจะฟุ้ง เพราะติดนิสัย ขี้สงสัย-ขี้ตำหนิ-ขี้วิจารณ์ สิ่งรอบๆตัว
    พอเวลามาฝึกนั่งสมาธิ ความขี้สงสัย-ขี้ตำหนิ-ขี้วิจารณ์ มันก็เกาะติดแฝงมากับใจของคุณด้วย จึงทำให้ตัดนิวรณ์5ไม่ได้(ข้อวิจิกิจฉา)


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    และการสนใจในเรื่องกามรมณ์มากจนติดเป็นนิสัย ก็จะทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน จิตสงบระงับได้ยาก
    (ควรจะลบรูป-ลบสื่อ และช่องทางต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องตัณหาราคะ ให้พ้นไปจากตัว ถ้าอยากจะได้ดีทางสมาธิ)
    การพยายามจะสรรหาสื่อ หรือการพยายามจะสรรหาช่องทางที่จะเสพราคะนี่เอง ที่เป็นอารมณ์ปรารถนาในกามที่ขังอยู่ในจิต
    (มันติดไปในใจคุณ เวลานั่งสมาธิมันขังอยู่-มันแฝงอยู่ในจิต มันจึงสงบยาก เพราะใจเดิมๆมันไม่สะอาด มันฟุ้งกว่าปกติ)

    โดยเฉพาะบางคนชอบติดนิสัยพูดทะลึ่ง-พูดทะเล้นกับเพื่อนๆอยู่เป็นนิจ ("เมื่อวานปล่อยมุขนั้นไปแล้ว วันนี้จะปล่อยมุขอะไรดีวะ")

    ถ้าจะพูดมุขตลกเก่าๆ ซ้ำๆ เดิมๆ มันก็ไม่ขำ-มันก็ไม่ฮา (จึงต้องพยายามสรรหานึกเรื่องอะไรที่มันทะลึ่งๆใหม่ๆ ให้มันทะลึ่งๆยิ่งๆขึ้นไป)
    (การพยายามจะนึกเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องอกุศลให้มันยิ่งๆขึ้นไปอยู่เรื่อยๆจนติดเป็นนิสัยนี่เอง ที่มันทำให้จิตไม่สะอาด-จิตฟุ้ง)

    การติดในเรื่องเหล่านี้ เป็นการ "คุ้ยจิตให้ฟุ้ง" เปรียบเสมือนคุ้ยตะกอนก้นโอ่งให้ฟุ้งอยู่ตลอดเวลา น้ำในโอ่งจึงไม่นิ่ง น้ำจึงไม่ใส
    จึงมองทะลุไปยังก้นโอ่งไม่ได้ (จึงทำจิตให้สงบระงับไม่ได้ จึงเข้าฌานไม่ได้ )

    (สถานปฏิบัติธรรมบางแห่ง จึงห้ามการพูดจาคุยกัน (ปิดวาจา) )
    (เพื่อเป็นการบังคับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม แบบอ้อมๆ เพื่อที่จะให้ลด-ละ การสนใจในจริยาของผู้อื่นลง)
    (เพื่อให้ชั่วระยะเวลาที่มาปฏิบัติธรรมนั้น จิตของนักปฏิบัติธรรมมีความสงบนิ่งมากกว่าการใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดาๆทั่วไป)
    (โอกาสที่จะทำสมาธิ-เข้าฌานจึงเกิดขึ้นได้ง่าย)


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    การเป็นผู้ทรงฌาน ก็คือการวางอารมณ์ หรือก็คือ "การทรงอารมณ์ให้ถูกต้อง เพื่อให้จิตสะอาด"

    เพราะว่าจิตของคนเรามีสภาพจำ
    ถ้าเราทำสิ่งใดบ่อยๆ นึกถึงสิ่งๆนั้นบ่อยๆ สิ่งๆนั้นก็จะกลายมาเป็นความเคยชินของจิตเรา และก็จะกลายมาเป็นสภาวะอารมณ์จิตของเรา

    ถ้าคนๆนั้น กระทำ-พูด-คิด ถึงสิ่งที่เป็นอกุศลบ่อยๆ จิตก็จะทรงอารมณ์ในด้านอกุศลบ่อยๆ และก็จะกลายมาเป็นสภาวะอารมณ์จิตของคนๆนั้นไป
    "จิตของคนๆนั้น จึงมีสภาพที่ฟุ้ง และซ่านไปตามความเคยชินนั้นอยู่เสมอ" (พอมาฝึกสมาธินั่งหลับตา จิตจึงฟุ้งและซ่าน แส่ส่ายออกไปไม่หยุดนิ่ง)

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สรุปก็คือ.......

    - การชอบสรรหาช่องทางเพื่อตอบสนองความพอใจในกามของตนเองอยู่เสมอ (จะทำให้คุณติดนิวรณ์ข้อกามฉันทะ)
    - การชอบโต้วาที ชอบโต้คารมกับผู้อื่น จะทำให้คุณขังโกรธอยู่ในจิตโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ (จะทำให้คุณติดนิวรณ์ข้อปฏิฆะ)
    - การชอบสนใจในจริยาของผู้อื่นเป็นนิจ จะทำให้จิตของคุณฟุ้งซ่านอยู่เสมอ (จะทำให้คุณติดนิวรณ์ข้ออุจธัจจะ)
    - การติดนิสัยเพ่งโทษผู้อื่น จึงเป็นคนที่ขี้สงสัย-ขี้ตำหนิ-ขี้วิจารณ์ สิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ (จะทำให้คุณติดนิวรณ์ข้อวิจิกิจฉา)

    การกระทำเหล่านี้ ในทางโลกนั้นถือว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆ แต่ถ้าคุณจะเอาดีทางด้านสมาธิ คุณควรจะละเว้นให้ห่างจากเรื่องเหล่านี้

    พอคุณไปฝึกนั่งสมาธิ คุณนึกว่าคุณไม่ได้เอาอารมณ์เรื่องพวกนี้มา แต่ความจริงอารมณ์พวกนี้มันฝังอยู่ในจิตของคุณอยู่แล้ว มันพอกอยู่

    โอกาสที่คุณจะตัดอารมณ์ที่เป็นโทษเหล่านี้ลงได้ฉับพลัน แล้วเข้าฌานสมาธิได้เลยทันที จึงเป็นเรื่องยาก
    ถ้าคุณไม่จัดระเบียบการวางอารมณ์ในชีวิตประจำวันของคุณ ให้สะอาดเบาบางลงเสียก่อน
    คุณจึงควรจะต้องละเว้นให้ห่างจากเรื่องที่เป็นโทษทางจิตเหล่านี้ สำหรับนักปฏิบัติ-สำหรับผู้ทรงฌาน


    โดยการไม่สนใจในจริยาของผู้อื่น และ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนท่ามกลางผู้คนมากมายเพียงไร ก็ควรจะคิดว่าเราอยู่แต่เพียงผู้เดียวไว้เสมอ
    เพราะว่าจริงๆแล้ว ตายเราก็ตายผู้เดียว ความเจ็บปวดทรมานใดๆที่เกิดขึ้นกับเรา ก็อยู่แต่ในกายของเราผู้เดียว เรารู้สึกได้แต่เพียงผู้เดียว
    (เพื่อดึงจิตให้อยู่กับตัว ไม่ลืมความตายไว้เสมอ มีความสันโดษของจิตแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ตาม เพื่อให้จิตสะอาดอยู่เสมอ)

    เพื่อรักษาและประคองอารมณ์ของผู้ทรงฌานนี้ไว้ไม่ให้เสื่อม และให้มีความก้าวหน้าทางสมาธิมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อันนี้เป็นการเขียนบรรยาย แบบอิงตำรา+นอกตำรา ของผมเอง จะผิดจะถูกอย่างไร ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2015
  11. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    การค้นพบอะไรบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้ทฤษฎีเดิม

    มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีความรู้ใหม่

    หลายอย่าง มีการค้นพบโดยบังเอิน

    คนเก็ง บางทีก็ต้องอาศัยความเฮง จึงทำให้มีขึ้นได้

    ตอนนี้ ยังไม่ใช่ช่วงของพลังงานสะอาด และ พลังงานอิสระ
     
  12. somvi

    somvi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    เป็นเรื่องที่คิดได้ ครับแต่ขัดกับกฎของพลังงาน
    พลังงานไม่สามารถทำให้สูญหายไปหรือเกิดขึ้นใหม่ได้ แต่ทำให้เปลี่ยนรูปได้
    จากข้อนี้ พลังงานจล และพลังงานศักดิ์ (ฟิสิกส์สมัย มศ.ต้น)
    ท่านจะทำเครื่องจักรที่ผลิตพลังงานออกมาโดยไม่นำพลังงานอื่นๆมาใส่ในเครื่องจักรของท่าน ไม่ได้
    ท่านอาจทำเครื่องจักรที่สามารถเปลี่ยนพลังงานรูปอื่นๆมาเป็นพลังงานที่ท่านอยากได้ได้
    พลังงานทุกส่วนจะไม่หายไปใหน เพียงเปลี่ยนรูปไปเท่านั้น
    เพราะฉะนั้น เรื่องที่นำแม่เหล็กมาจ่อ ทำให้จานแม่เหล็กหมุนเองแล้วได้ไฟฟ้ามาจนหลอด LED ติดนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง ครับ ไม่ต้องทำตามในคลิปนั้น
     
  13. somvi

    somvi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมเคยจำได้ว่ามีคนไทยคนหนึ่งใช้วิธีการแบบนี้เช่นกันแต่แกทำเป็นตุ้มเหมื่อนตุ้มนาฬิกาแกว่งไปมาที่ค้านล่างเป็นแม่เหล้ก ตุมนี้ใหญ่มากทุกครั้งที่มีการแกว่งแม่เหล้กที่ติดกับตุมก็จะเคลื่อนที่ตัดกับขดลวด และจะเกิดไฟฟ้า นำไฟฟ้าดังกล่าว ไปทำให้เกิดสนามแม่เหล็กตรงข้ามกันผลักดันให้ลุกตุ้มแกว่งต่อไป ไฟฟ้าที่เหลื่อบางส่วนนำมาใช้ประโยชน์ได้ การทำให้ได้ไฟฟ้ามากๆ ก็โดยทำให้ตุ้มแก่วงนี้ใหญ่ขึ้น เห็นว่า จดสิทธิบัตรไว้ด้วย สมัยตอนที่ผมจดสิทธิบัตรของผม ผมตรวจสอบแล้วไปพบเข้า มีการนำมาออกทางทีวี ด้วย แต่ลุกตุ้มนี้แก่วงได้ไม่นานก็หยุดแก่วง ต้องใช้คนมาผลักลุกตุ้มนี้กันใหม่ร่ำไป ผมไม่แน่ใจว่า ทางกรมทรัพย์สินจะออกสิทธิบัตรให้หรือไม่ แต่หลังออกทีวีแล้วก็ไม่มีข่าวนี้อีกเลย
     
  14. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    ได้ข่าวว่า นิสสัน ทำรถเก๋งไฟฟ้าขึ้นมาใช้งานจริง คุณสมัติที่คุยไว้ ใช้ได้ แต่ราคาแพงมาก มีคุณภาพเท่ารถ ๑๕๐๐ ซีซี แต่ราคา ๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท สองล้านแปดแสนบาท ซื้อแจส ได้ ๓คน หรือ โฟร์วิล ๑คัน เติมน้ำมัน อีก ๑๐ ปี ยังใช้เงินไม่ถึง สองล้านแปดเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2012
  15. somvi

    somvi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    เมื่องนอกขายอยู่ 8 แสนกว่า ถึงล้าน มีขายในญี่ปุนอเมริกาและยุโรปครับเท่าที่อ่านมาแล้วจำได้ส่วนของจีนถูกกว่านั้น อีกส่วนราคาขายในไทยที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะได้รับการดูแลจากรัฐบาลนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขายน้ำมันทั้งหลาย อิออิ เมื่องไทยลองเอามาใช้และลองเอามาขายแล้ว แต่ไม่ใช่บริษัทนิสสันนะครับ เพราะเหตุใดลองคิดกันดูครับ
    น่าสงสารที่คนไทยถูกเอาเปรียบเสมอมา ถูกเอาเปรียบจน ชินนะครับ
     
  16. Nat2009

    Nat2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +38
    ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบการประดิษฐ์คิดค้น โดยเฉพาะการประดิษฐ์กังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า ผมลงทุนไปกับเรื่องนี้ไม่น้อยครับ ทั้งเวลาและทุนทรัพย์ ผมใช้เวลาตั้งแต่ปี 2009 เก็บข้อมูลถึงปัจจัยความสำเร็จและล้มเหลวของการประดิษฐ์สิ่งนี้ ปัจจุบันยังไม่ได้ทำความฝันให้เป็นจริง เนื่องจากปัจจัยสำคัญก็คือลม ซึ่งในพิื้นที่ที่ผมอยู่มีความเร็วต่ำและมีลมพัดประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ผมจึงเลือกไปศึกษาแนวทางอื่นๆ เช่น พลังแม่เหล็ก แรงโน้มถ่วง และพลังน้ำ ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ผมชอบกระทู้นี้มากได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่องานประดิษฐ์ของผมเป็นอย่างดี
     
  17. jitakorn

    jitakorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +16
    2ลิงค์นี้น่าสนใจมากครับ
    俿
     
  18. jitakorn

    jitakorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +16
  19. Pilot73

    Pilot73 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    สนใจเรื่องพลังงานทดแทนเช่นกันครับ

    ผมเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ครับ เจอโดยบังเอิญ ส่วนใหญ่แล้วหาข้อมูลจาก Google และ Youtube ครับ
    จริงๆ แล้วผมมีแผนว่าจะลองสร้าง Magnet Motor เหมือนกัน เพราะคิดว่าเราน่าจะมีพลังงานเป็นของตัวเอง
    แนวทางที่มองก็มี
    Kapanadze Generator
    http://peswiki.com/index.php/Directory:Kapanadze_Free_Energy_Generator

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8CSkzA9oPSE&feature=related"]http://www.youtube.com/watch?v=8CSkzA9oPSE&feature=related[/ame]

    Nikola Tesla Technology
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tmOH6mDFwnc"]http://www.youtube.com/watch?v=tmOH6mDFwnc[/ame]

    เอาไว้ถ้ามีโอกาสได้ทดลองแล้วจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ ตอนนี้กำลังฝากเพื่อนที่จีนช่วยดู Neodymium แบบทรงกระบอกให้อยู่ครับ เห็นว่าถูกกว่าบ้านเราเยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2012
  20. leng-xx

    leng-xx สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +9
    ไม่ทราบทำไปถึงไหนกันบ้างครับ ได้ความรู้ดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...