เรื่องเด่น “วิชาทางโลกไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ”...บทเรียนชีวิต จากอดีตนักโทษประหาร ผู้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

ในห้อง 'บันเทิงและศิลปวัฒนธรรม' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 3 พฤษภาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    “วิชาทางโลกไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ”...บทเรียนชีวิต จากอดีตนักโทษประหาร ผู้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

    3376_4244.jpg

    "ความผิดพลาดในอดีตของผม มันเป็นเพราะห่างไกลการอบรมจิตใจตัวเองปล่อยกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลงครอบงำตัวเอง จนไม่สามารถควบคุมดูแลตัวเองได้ ถ้าเมื่อก่อนผมให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาจิตใจ ชีวิตผมคงไม่ต้องมีชะตากรรมแบบนี้"

    คำกล่าวของ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตนักโทษผู้เคยต้องโทษประหารในคดีสะเทือนขวัญฆ่าหั่นศพภรรยา

    014(1).jpg

    01aad3-300x202.jpg

    ซึ่งวันนี้ขอนำบทความจาก พระอาจารย์ไพศาลวิสาโล ซึ่งกล่าวถึงกรณีหมอวิสุทธิ์ ไว้ดังนี้




    12508709_486062121595898_5118050106344072063_n.jpg

    ......พวกเราอาจจะเคยได้ยินชื่อ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ซึ่งเคยถูกพิพากษาประหารชีวิตเพราะโดนข้อหาฆ่าภรรยา

    หมอวิสุทธิ์เป็นศาสตราจารย์ ทางการแพทย์ที่จุฬาฯ เก่งมากในเรื่องของการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย มีฐานะดี แต่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ ต้องพลิกผันตกต่ำ กลายเป็นนักโทษประหารเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาด

    มีปัญหาความรัก และแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการฆ่าภรรยา ภายหลังได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ ตอนนี้จึงออกมาจากคุกได้ เพราะโทษเบาบาง

    เมื่อไม่นานมานี้ท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อไว้อย่างน่าสนใจมาก โดยเผยชีวิตเบื้องหลังกำแพงเรือนจำ กับชีวิตใหม่หลังก้าวผ่านคำว่านักโทษประหาร สู่การเรียนรู้ชีวิต จากโรงเรียนแห่งใหม่ที่ถูกเรียกว่า"เรือนจำ "

    เมื่อได้ลองทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง ก็ทำให้เขาได้รู้ว่าชีวิตก่อนหน้านี้ ตัวของเขาเป็นคนที่ประมาท ปล่อยให้ความโลภและ ความโกรธเข้าครอบงำจนไร้อิสระ ปล่อยให้อิทธิพลของลาภยศ คำสรรเสริญ เข้ามามีอำนาจเหนือตนเอง

    แต่ในตอนนี้หลังจากที่ได้ทบทวนตัวเอง แม้ว่าจะต้องเสียสิ่งต่าง ๆ ไปมากมาย แต่เขากลับรู้สึกว่าตอนนี้เขา ได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น ได้มองโลกในอีกมุมมองหนึ่ง มีการเจริญเติบโตของจิตวิญญาณ และมีความสุขจากการให้ เข้าใจคำว่าจิตอาสามากขึ้น จากรูปภาพที่เขาได้วาดในเรือนจำว่า ตัวของเขานั้นก็เปรียบเหมือนธุลีเล็ก ๆ ในโลกใบใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือสลักสำคัญอะไร หากเราหาความสุขได้จากการที่ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผง ความสุขนั้นก็จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน เมื่อก่อนเป็นคนมีอัตตา คิดว่าควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้โกรธง่าย แต่ตอนนี้ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นเล็ก ๆก็ไม่จำเป็นต้องโกรธใครแล้ว

    เมื่อมองย้อนกลับไป เขาไม่ได้ตำหนิตัวเอง และกลับรู้สึกว่าเข้าใจความคิดอ่าน ของภรรยามากขึ้น ตัวเองไม่ติดใจอะไรแล้ว ไม่โกรธแค้นขุ่นเคือง รู้สึกให้อภัยภรรยา ให้อภัยแก่ตัวเอง และก็อยากให้ภรรยาอภัยให้เช่นกัน

    อุทาหรณ์ที่ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เรียนรู้จากโรงเรียนชีวิตแห่งนี้ก็คือมนุษย์เราควรจะต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิต ไม่ประมาท ต้องรู้สึกฝึกจิตตั้งแต่อายุน้อย ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุมากแล้วจึงเข้าวัด ควรฝึกจิตอย่างประมาทให้กิเลส ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่เราถูกครอบงำเราก็ทำผิดพลาดได้หากมองย้อนชีวิตที่ผ่านมาแล้ว เสียดายที่ทุ่มเทกับงานการจนละเลยเรื่องการปฏิบัติธรรม


    แต่ก่อนในหัวมีแต่งาน ตำรา งานวิชาการ จึงไม่สนใจเรื่องของการฝึกจิตใจไม่ใส่ใจเรื่องการครองสติแต่ตอนนี้พบว่าการเจริญสติ การฝึกจิตใจ สำคัญกว่าวิชาความรู้เสียอีก ถ้าท่านรู้ความจริงข้อนี้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มก็คงจะรีบปฏิบัติธรรมเสียตั้งแต่ตอนนั้น ไม่รอให้แก่ก่อน นี่เป็นข้อคิดที่น่าสนใจ ว่าสุดท้ายคนที่ประสบความสำเร็จวิชาทางโลกแล้ว กลับพบว่าวิชาทางโลกไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากที่มารู้ว่าวิชาชีวิตหรือการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องสำคัญก็ต่อเมื่อพลั้งเผลอพลั้งพลาดไปแล้ว

    หมอวิสุทธิ์ยังโชคดีที่มีโอกาสแก้ตัว รอดชีวิตกลับมาปฏิบัติธรรม บางคนอาจจะไม่มีโอกาสแก้ตัว เพราะถูกประหารชีวิตไป หรือบางคนอาจจะทำบาปกรรมยิ่งกว่านั้น

    ส่วนเราโชคดี ที่มีโอกาสให้เวลาใส่ใจกับเรื่องนี้ พวกเราส่วนใหญ่ยังไม่แก่ ยังหนุ่มยังสาว มีกำลังวังชาที่จะทำ ที่จะศึกษาเรื่องนี้ ก็ขอให้ทุ่มเทกับวิชาชีวิต แต่ก็อย่าไปละเลยวิชาทางโลก เพราะยังมีประโยชน์ในการช่วยเสริมงานของเรา หรือการปฏิบัติธรรมของเราได้ด้วย

    -------------------------

    พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

    โดยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา หมอวิสุทธิ์ ได้บวช ณ วัดปทุมวนาราม เป็น “พระถิระปุญโญ”

    12552584_1020314544673957_5848825991433040311_n.jpg





    ----------------------------------

    ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : Kanlayanatam


    เรียบเรียงโดย

    จินต์จุฑา เจนสระคู : สำนักข่าวทีนิวส์


    ----------
    http://www.tnews.co.th/contents/315593
     

แชร์หน้านี้

Loading...