เรื่องเด่น “รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ”ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 24 ธันวาคม 2017.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,732
    88.jpg
    “รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ” ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว

    —————————–
    ถาม : หลังจากนั้น ช่วงแรกจะเป็นความมืดสนิท ไม่มีอะไรเลย ต่อไปเป็นความสว่างในทุกมิติ สองอย่างนี้ต่างกัน ?
    ตอบ : จะว่าไปแล้วช่วงแรกคือเรากำลังเข้าถึง ถ้าเราเข้าถึงจนมีความชำนาญแล้ว พอเข้าไปปุ๊บจะมีความสว่างโพลงอยู่จุดใดจุดหนึ่ง อาจจะอยู่ตรงหน้า อาจจะอยู่บริเวณจมูก ปาก ในอก ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ เพียงแต่ว่าความสว่างนี้ไม่ใช่ความสว่างของแสงทั่วไป แต่เป็นความสว่างจากจิต ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าสว่างมาก
    บางคนก็ไปเพลิดเพลินติดอยู่กับแสงสว่างนั้น กลายเป็นเกิดโทษเพราะว่าปฏิบัติเมื่อไรก็อยากเห็น เมื่อมีความอยากเห็น สภาพจิตฟุ้งซ่านก็ไม่ได้เห็นอีก
    .
    ถาม : ความสว่างที่อธิบายข้างต้นยึดไม่ได้ ?
    ตอบ : ไม่มีอะไรให้ยึดได้ แม้แต่พระนิพพานก็ยึดไม่ได้ ตราบใดที่ยึดก็แปลว่าไปไหนไม่ได้
    ตอนแรกยึดไว้ก่อน หลังจากยึดจนเต็มที่แล้วก็จะปล่อยของเขาเอง ที่บอกเพื่อให้รู้ว่าไม่ใช่เจออะไรก็ยึดไปหมด ก็แปลว่าหากเรายึดในเรื่องของความดีก็ยึดไปเถอะ แต่พอดีถึงที่สุดแล้ว แม้แต่ดีก็ต้องปล่อย
    .
    ถาม : บางทีก็คิดว่าเราปล่อยความดี แปลว่า เราเลวใช่ไหม ?
    ตอบ : ปล่อยความดีไม่ได้แปลว่าไม่ทำความดี ทำความดีเป็นปกติแต่ไม่ได้ติดในดี เคยใช้คำพูดประมาณว่า “รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว”
    —————————–
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐, ข้อความที่ ๒๐๐ และ ๒๐๒
    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5597&page=10

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,633

แชร์หน้านี้

Loading...