ใครเคยใช้เดอะซีเคร็ทกับความรักบ้างครับ

อยากลองใช้ดูอะครับ ให้ความสัมพันธ์กลับมาดีเหมือนเดิม ตอนนี้มันดูห่างเหินเย็นชายังไงชอบกล ใครมีประสบการณ์มาแชร์กันบ้างนะครับ

 

กำแพงแห่ง ทัศนคติ
ให้ก้าวผ่าน กำแพงแห่งจิตใจเหล่านั้น
จึงรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยความรักได้

 

ในการใช้หลักการเหล่านี้
ใน เดอะซีเคร็ท

โดยปกติต้องพึ่งความสอดคล้องกันของ ความคิด-คำพูด-และการกระทำ
เราต้องถอนรากอันฝังแน่นเชิงความคิดของเราก่อน แล้วคำพูดจะตามมา
ตามด้วยการกระทำำจากภายใน

คนส่วนใหญ่ที่ ไม่ประสบความสำเร็จ มี 2 ประการ คือ

1. ไม่ใช้ความรู้นั้น ไปยาวนาเพียงพอ และไม่สอดคล้องกันทุกมิติ คือ ความคิด-คำพูด-และการกระทำำ

2. ไม่ศรัทธาความรู้ เหล่านั้น มากพอ จึงทำให้ไม่ประสบผลสำเร้จในการปฏิบัติ ที่/อัน ต่อเนื่อง - และยาวนาน

 

ในกระบวนการเดอะซีเคร็ท
เราต้องการ ผลลัพธ์ ที่ต้องการ หรือพูดอีกอย่างก็คือ

เราต้องการ ผลลัพธ์ ที่จะได้รับ

และหากใช้ สำนวน ภายในจิตใต้สำนึก
เราต้องใช้ คำพูด เหล่านี้ กับใจของเราใหม่ คือ ตามนี้

ให้เรารู้สึกว่า ได้รับ สิ่งเหล่านั้น แล้ว

ในโลกแห่งความรัก ที่คุณพูดถึง

คุณต้องรู้สึกว่า คุณได้รับสภาวะการณ์เหล่านั้นแล้ว

1. คุณสนิทสนมกับคนรักมากขึ้น
2. คุณพูดกันด้วย ถ้อยคำอ่อนหวาน
3. คุณเป็นห่วงเป็ใยกันมากขึ้น และเข้าใจกันมากขึ้น

ความลึกซึ้งที่กล่าวมานั้น จะเป็นไม่ไม่ได้เลย หาก

1. คุณไม่ปฏิบัติยาวนาน เพียงพอ
2. คุณไม่รู้จักตนเองเพียงพอ
3. คุณไม่เข้าใจความรักเพียงพอ
4. คุณหยุดตนเองไม่ได้ ปล่อยไปตามความรู้สึก ที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไร (อย่างเก่า)

 

ในเรื่องของความรัก
และทัศนคติที่ดี ของ/ใน ชีวิต

เราต้องจดจ่อ-มุ่งมั่น-ต่อเนื่อง-ต่อเนื่อง-ยาวนาน-สมำำ่เสมอ
จนเกิดจุดเปลี่ยน ภาวะอารมณ์ จากภายในของ ตนเอง ก่อน
จากนั้นจุดเปลี่ยนเหล่านั้น

จะเปลี่ยน ทัศนภาพ ขอคุณเอง

 

มนุษย์จะเห็น ในสิ่งที่ตนอยากเห็นเท่านั้น

โลกจะปรากฎตามที่เค้าเชื่อ

การแปรค่า ของสมอง ต่อสิ่งแวดล้อม

จะอาศัย ข้อมูลในปัจจุบัน ตีค่า ผ่านข้อมูลในอดีต (ที่เก็บไว้ในจิตใต้สำนึก) แล้วจะแสดงภาพ ในสิ่งที่ จิตใต้สำนึกอยากเห็น

คุณจะเห็นผ่าน จิตใต้สำนึกของคุณเอง
คุณเข้าใจโลกนี้ผ่าน พื้นเพ ในอดีต ของคุณเอง

ประเด็นก็คือ หากคุณไม่เข้าไปเปลี่ยน พื้นเพ(เหล่านั้นในอดีตของคนเอง) แม้ว่า คุณอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่ง ความรัก

คุณก็จะไม่รับรู้ถึงมัน เพราะว่า กลไกธรรมชาติ ว่าไว้ คือ คุณจดจ่อสิ่งใด คุณได้รับสิ่งนั้น ไม่มีปรากฎการณ์อื่นมากไปกว่านี้

 

ในภาวะที่ คุณหลีกหนี ตัวตนอย่างเก่า ของคุณไม่ได้
โลกที่ปรากฎขึ้นมา

จะเป็น ฝ่ายความคิด ความเชื่อ เดิมๆ ของคุณ

 

โลก จะแสดงผ่าน ความเชื่อ ของผู้นั้น เสมอ

 

เราจะทดสอบกันดูก็ได้ : ตามนี้ ;

ตัวอย่างที่ 1 การฟังเสียง

ให้คุณหลับตาฟังเสียง ด้วยความมุ่งมั่น ไปสักอย่างหนึ่ง คุณจะพบว่า

เสียงที่คุณได้ยิน คือ เสียงที่คุณ มุ่งมั่นจะฟัง

คำถามก็คือ ในขณะที่คุณฟังเสียงเหล่านั้น มันเกิดปรากฎการณ์อะไรขึ้น ?

ลองใหม่ ?

ให้คุณผ่อนคลาย และฟังทุกเสียง ที่คุณได้ยิน และไม่ตัดสินคุณค่า ให้ฟังทุกเสียง และลองจดบันทึกว่า

มีเสียงอะไรบ้าง ที่คุณได้ยิน

แล้วมันต่างจากการฟัง ตอนแรกอย่างไร ?

 

อธิบายได้ว่า ;

ในทุกๆ ปรากฎการณ์ ธรรมชาติอันหลากหลาย มีหลายเหตุ หลายปัจจัยเกิดขึ้นมา มีเป็นล้านๆ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ภายใต้ เขตการรับรู้ของเรา

แต่เรา ก็เลือกที่ผ่านไป ในสิ่งที่เราตั้งใจฟัง ตั้งใจคิด ตั้งใจรับรู้ ตั้งใจรู้สึก ในสิ่งนั้นเท่านั้นเอง

ประเด็นก็คือ อะไรคือ ปัจจัยที่คุณ ปล่อยผ่านไปเหล่านั้น

รายละเอียด ความรู้สึกของ สิ่งนั้น-สิ่งเหล่านั้น คืออะไร?

คุณเข้าใจ ประเด็นที่ผมจะนำเสนอได้ไหม ?

หากคุณอยากจะเปลี่ยน อะไร ๆ ในชีวิตของคุณเอง คุณต้องเปลี่ยน ทัศนภาพ ใหม่

ทัศนภาพ ก็คือ ทัศนคติ+ภาพทางจิตใจ

กล่าวคือ คุณต้อง มีวิธีคิดใหม่ก่อน
จากนั้นศรัทธา วิธีคิดเหล่านั้น จนกลายเป็น ความเคยชิน

ความเคยชิน จะนำคุณไปสู่ มุมมองภาพใหม่ ต่อโลกนี้ ในกาลข้างหน้า

คำถามก็คือ คุณพร้อมเปลี่ยนตนเอง ในระยะเวลาที่นานพอ จะได้รับผลลัพธ์ นั้นแล้วหรือยัง ?

นั้นคือ ประเด็นคำถาม ในเรื่อง เหล่านี้ เท่านั้นเอง

 

the secret คล้ายๆกับการฝึกสมาธินั่นแหละ ต้องไม่มีนิวรณ์ถึงจะได้ผล

 

สรรพสิ่ง เกิดขึ้นเพราะ มีเหตุปัจจัย

ต้นไม้ ไม่งอกขึ้นมา จากความว่างเปล่า ฉันใด

สิ่งที่ คุณต้องการ ไม่งอก สำเร็จมาจากความว่างเปล่า ได้ฉันนั้น

หลักการ ของ เดอะซีเคร็ท ก็คือ

การพยายาม สร้างเหตุ

การพยายาม สร้างปัจจัยที่แวดล้อม

ให้สิ่งนั้น เกิดขึ้น
ให้สิ่งที่ต้องการเกิด ขึ้นมา

ดังนั้น เรื่องความสอดคล้องแห่งเหตุและปัจจัย หรือ ความคิด-คำพูด-การกระทำ ที่สอดคล้องกับ เป้าหมาย - สิ่งที่ต้องการได้รับ จึงเป็นความสำคัญ

ความสำเร็จก็คือ คุณได้สร้าง เหตุ

ที่หล่อเลี้ยง เป้าหมาย ของคุณให้เกิดขึ้น

ได้หรือยัง ?

 

แง่มุม ของเดอะซีเคร็ท ตัวอย่างหนึ่ง คือ หลอกตัวเอง จนประสบผลสำเร็จ

นิทานคุณธรรมเรื่อง “ยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด”


มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อน้อย ครั้น เมื่อเธอแต่งงานจึงได้ย้ายมาอยู่กับสามีและแม่สามีซึ่งเป็นคนจีน น้อยก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถเข้ากับแม่สามีได้เลย เพราะนิสัยของทั้งคู่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง น้อยทนนิสัยหลายอย่างของแม่ผัวไม่ได้ ฝ่ายแม่สามีก็ได้แต่วิพากษ์วิจารณ์น้อยเสมอมา


กาลเวลาผ่านไป น้อยและแม่ผัวทะเลาะกันอยู่เป็นประจำไม่หยุดหย่อน แต่สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ ตามธรรมเนียมจีน ลูกสะใภ้จะต้องเคารพ และเชื่อฟังแม่สามีในทุกเรื่องราว เรื่องเหล่านี้ได้นำความทุกข์แก่ผู้เป็นสามีเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี นั่นก็แม่ นี่ก็เมียรัก ทั้งครอบครัวจึงอยู่กันแบบไม่มีความสุข

และแล้วในที่สุดวันที่ น้อยหมดสิ้นความอดทนได้มาถึง เธอจึงตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง โดยตรงไปหาลุงคำเพื่อนรักของพ่อที่ขายยาสมุนไพร หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลุงคำฟังจนหมดแล้ว น้อยจึงถามว่า พอจะมียาพิษที่ร้ายแรงที่สุด สำหรับกำจัดแม่ผัว จอมจู้จี้ไหม?

ลุงคำ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวกับน้อยว่า "ลุงจะช่วยหนูเอง...แต่หนูต้องฟังคำของลุงและเชื่อฟังสิ่งที่ลุงบอกนะ"น้อยรีบตอบตกลงทันทีว่า "ค่ะ หนูจะทำตามที่คุณลุงแนะนำทุกอย่าง" ลุงคำหายไปหลังร้าน และกลับมาภายในเวลาชั่วครู่พร้อมกับห่อสมุนไพรในมือ และกล่าวกับน้อยว่า

ลุงจะจ่ายยาสมุนไพรให้หนูจำนวนหนึ่ง แต่หนูต้องไม่ใช้ยาพิษนี้ทั้งหมดในคราวเดียวกันนะ เพราะนั่นจะทำให้ทุกคน สงสัย หนูจงเติมสมุนไพรนี้ลงไปในหมูเห็ดเป็ดไก่ที่ปรุงวันเว้นวัน สารพิษนี้จะได้ค่อย ๆ สะสมอยู่ในตัวแม่ผัวเธอขณะเดียวกัน หนูก็ต้องพูดจากับเธอดีๆ และเชื่อฟังเธอด้วย วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อแม่ผัวตายลง จะได้ไม่มีใครสงสัยในตัวหนูไงล่ะ อย่าลืมนะ...ห้ามเถียงแม่ผัว แต่จงเชื่อฟังทุกอย่างที่เธอบอกและทำดีต่อแม่ผัวเธอให้ดีที่สุด

เมื่อได้ยินเช่นนั้นน้อย รู้สึกสุขใจยิ่งนัก จึงกล่าวขอบคุณและอำลาลุงคำเพื่อกลับไปเตรียมอุบายสังหารแม่ผัว วันและคืนผ่านไป...น้อยจะต้องปรุงอาหารจานพิเศษให้แม่ผัวทุกวันเว้นวัน เธอจดจำคำ ของลุงคำได้เป็นอย่างดี...พยายามควบคุมอารมณ์ตนเอง เชื่อฟังและดูแลเธอเหมือนดั่งเป็นแม่ของตนเอง

กาลเวลาผ่านไปหกเดือน ทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้หลังคาบ้านนั้นกลับแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง น้อยได้ฝึกตนให้ควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยตลอดหกเดือนนี้ แม่สามีเริ่มจะมีเมตตาต่อเธอและเข้ากันได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่ทัศนคติของแม่สามีที่มีต่อน้อยได้เปลี่ยนไปเช่นกัน เธอเริ่มรักลูกสะใภ้เหมือนกับลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง... เธอพร่ำบอกเพื่อนฝูงและคณาญาติว่า น้อยเป็นลูกสะใภ้ที่ดีที่สุดและกล่าวคำชื่นชมอีกมากมาย บัดนี้ น้อย และแม่สามีรักกันดุจแม่-ลูกจริงๆ แล้ว... ฝ่ายสามีน้อยก็รู้สึกสุขใจเป็นที่สุดที่ได้เห็นภาพเหล่านั้น

และแล้วต่อมาวันหนึ่ง...น้อยได้กลับไปหาลุงคำเพื่อขอความช่วยเหลืออีกครั้ง เธอละล่ำละลัก “คุณลุงคะ กรุณาช่วยหนูด้วยค่ะ หนูไม่อยากให้แม่ผัวตายแล้วค่ะ... คุณลุงรู้มั้ยคะว่า ตอนนี้แม่ผัวหนูเปลี่ยนไปมาก ท่านดีกับหนูมากและหนูก็รักท่านเหมือนแม่จริงๆของหนู หนูไม่อยากให้ท่านตายด้วยยาพิษของหนูเลย”

ลุงคำอมยิ้ม ผงกศีรษะและกล่าวว่า น้อยเอ๋ย..เธอ.ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ลุงไม่เคยให้ยาพิษอะไรแก่หนูเลย สมุนไพรที่ให้ไปเมื่อคราวก่อนนั้นคือยาที่บำรุงร่างกาย... ยาพิษอย่างเดียวนั้นอยู่ที่จิตใจและทัศนคติของหนูที่มีต่อแม่ผัวหนูต่างหาก และนั่นก็ได้รับการชำระล้างหมดแล้วด้วยความรักทั้งหมดทั้งมวลที่หนูมอบให้ท่าน

นิทานเรื่องนี้ มีแง่คิด คนเราทุกคน เมื่อให้แต่สิ่งที่ดีแก่ผู้อื่น ความดีนั้นย่อมจะกลับคืนมาสู่ตนเอง แบ่งความสุขย่อมได้ความสุขเช่นกัน

เขียนเล่าเรื่องพระสุรินทร์ ก่อนการคิด

 

ขอบคุณมากๆครับ ผมจะพยายามเปลี่ยนความเชื่อและลองทำดูนะครับ

 

อ่อ นึกว่าเดอะซีเคร็ดเป็นพวกชื่อยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศเสียอีก 555