ใครมีประสบการณ์จากการ "สวดมนต์" ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ

ใครมีประสบการณ์จากการ "สวดมนต์" ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ
เช่น ดวงไม่ค่อยดี ดวงตกมากๆ ประสบปัญหาในชีวิตอย่างหนัก
สวดมนต์แล้วปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปได้ เคราะห์กรรมเบาบาง
ดวงชะตาดีขึ้นกลับร้ายกลายเป็นดี และพบทางออกของชีวิต

 

ผมเคยสวดคาถาชินบัญชรครับ สวดวันละเก้าจบ แล้วในแต่ละวันมักจะเจอแต่คนดีๆ การทำงานสะดวกขึ้น การเดินทางสะดวกมาก แต่มาระยะหลังนี้ผมสวดคาถาเงินล้านครับ แต่ผมว่าสุดท้ายตัวบทคาถาก็เป็นเพียงแนวทางให้จิตมีสมาธิที่ตั้งมั่นและมีความศรัธาน่าจะใช่มากกว่านะ

 

เคยมีประสพการณ์ คือ สวดไปเรื่อยๆ ในหัวสมอง ตา อก จะเย็น ซ่าบซ่าน และความรู้สึกตรงรอยต่อแต่และคำมีการเปลี่ยนแปลง จะเย็นว๊าบๆ

เมื่อก่อนผมไม่ค่อยสวดมนต์ อยากนั่งกรรมฐานเลย แต่พออ่านกระทู้นึง ของท่านปราบเทวดา
สวดมนต์ ภาค 2 ก็สนใจ ชอบสวดมากขึ้น

 

บทอาราธนาศีล 5 ถ้าสวดแล้วจะไม่มีใครด่าเราได้เลย เป็นประสบการณ์ตรง บท นะ โม พุธ ธา ยะ ใช้ระงับความเจ็บปวดได้เร็วมาก

 

หนังสือของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม มีกล่าวไว้เยอะมาก .. น่าจะช่วยไขข้อสงสัยท่านได้
(หรือจะหาอ่านในเว็บก็ได้ครับจะได้สะดวกขึ้น)

 

ผมใช้ แอพ สวดมนต์ ของ naritasoft รู้สึกทำได้ดีม๊ากมากๆๆๆๆ ปรับแต่งรูปแบบการสวดได้ มีจะเอาแปล หรือไม่แปล มีเครื่องมือมาให้ปรับแต่ง เป็นแอพที่สมบูรณ์ม๊ากมาก หาดูนะครับบน แอนดอยด์ หรือ ios ลองหาดูครับ

 

ผมเลิกสวดมนต์ไปนานแระ เน้นนั่งมาธิมากกว่า
ทำใจสบายๆจิตใสๆ ก็ดับเหตุแห่งทุกข์ได้มากขึ้น
วางจากทุกข์ได้ ความเจ็บปวดมันก็ลดลง

 

สวด พาหุงมหากาฯ อิติปิโส ชิณบัญชร และกรณียเมตตาสูตร สวดเสร็จก็นั่งสมาธิ 15 นาที เดินจงกรม 15นาที แล้วแผ่เมตตา เป็นประจำทุกวันค่า ^_____^

 

การสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิไปด้วย จะทำให้จิตนิ่งอยู่ในสมาธิได้ดี เพราะเราจะไม่ได้ยินเสียงบรรดาชายหญิงที่มาคอยพากย์ว่า ตอนนี้เราเห็นอะไร หรือไม่เห็นอะไร จะหมดความรำคาญจากเสียงคนพวกนี้ได้ทันที เพราะเราจะได้ยินแต่เสียงตัวเองกำลังสวดมนต์เท่านั้นค่ะ

 

เอาแค่ตั้งใจจะกินมังฯแค่นั้นนะ แล้วก็กินไปได้วันนึง สิ่งที่เห็นๆเลยคือไปไหนธุระกรรมอะไร ง่ายฉะลุย คนเห็นก็เมตตาอย่างประหลาด แม้แต่เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย มีอยู่ทีดิฉันมาบ่นๆในเวปนี้ว่าคนยืมเงินและไม่คืน ก็มีสมาชิกคนนึงเขาก็แนะนำให้สวดบทจักรพรรดิ ก็สวดไป เก้าจบสองวัน ได้เงินเลย

 

เวลาผมมีเรื่อง จะต้องเข้าไปเจรจา มีปัญหา ผมอย่างให้เรื่องคลี่คลายไปได้ด้วยดี ผมมันจะท่องนะโมสามจบ ตามด้วย พุทธคุณ และอธิษฐานขอให้เรื่องไปได้ด้วยดี พบว่าการเจรจามักไปได้ด้วยดี คนที่คุยด้วยมีความเมตตา เรื่องคลี่คลายไปในทางที่ดี

เวลามีเรื่องขับจขันผมมักจะท่องคาถาหลวงปู่ทวดและขอให้ท่านช่วย

มีอยู่คืนหนึ่งผมไปพักโรงแรม ผมเจอผีอำ มีผีใส่ชุดจีนมายืนทับตัวผม หนักมาก ผมเอามือดันให้ออกไป เพราะปรกติถ้ามีเรื่องแนวนี้ผมจะลองจัดการเองก่อน มัดมวย หรือ ใช้พลังจิต ปรากฎว่าดันเท่าไหร่ก็ดันไม่ไป หนักมาก และแถมโดนตัวแล้วมือผมร้อนด้วย เขาบอกประมาณ (จำไม่ค่อยได้) นี่เป็นคนธรรมดามือพองไปแล้วนะเนี่ย ผมเลยท่องคาถาหลวงปู่ทวด เท่านั้นแหละครับ เพดานโรงแรมเปิด เห็นท้องฟ้า เหมือนมีแสงส่องทะลุลงมา เพียงอึดใจหลุดหมด ลืมตามามือยังร้อนอยู่เลยครับ

ก่อนทำสมาธิ สวดมนต์สักพัก ช่วยให้จิตใจสงบเหมาะแก่การทำสมาธิได้

เวลามีปัญหาสวดมนต์ ขอพระเป็นกำลังใจได้ดี

ก่อนนอน ไม่อยากฝันร้าย สวดมนต์ ขอให้ฝันดี ลงนอนอย่างมีสติ พบว่าหลับฝันดี ไม่ฝันร้าย

บทสวดมนต์ที่มักจะใช้กัน ถ้าดูคำแปล มีแต่คำพูดดีๆ ทั้งนั้น สวดไปมีแต่คุณ เป็นมงคล อย่างยิ่ง

 

บางช่วงของชีวิตพบเจอปัญหาหนัก ต้องการทางออก ต้องการคำแนะนำ ทางสว่าง ท่องนะโม 3 จบอย่างจริงใจนี่แหละครับ แล้วอธิษฐานขอทางสว่าง ขอที่พึง ตกดึกบางครั้งจะฝัน มีคนมาแนะนำให้คำปรึกษา ครั้งแรกตอนเป็นวัยรุ่น ว่าไปเรื่องยาว ตอนนั้นอยู่อเมริกา ตอนนั้นสับสนชีวิตมาก ท่องนะโมสามจบ ขอคำชี้แนะตกดึก ฝันว่าตัวเองอยู่ในวัดเก่าแก่ เป็นไม้ แล้วเห็นพระพุทธรูปตั้งอยู่จำนวนมากสูงเป็นภูเขาถึงเพดานที่สูงมาก บัญญกาศคล้ายๆ มีควัน แล้วมีเสียงบอกว่า มาแล้วมีอะไร ผมเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง เสียงดังกล่าวเป็นเสียงที่สงบนิ่ง และไม่เห็นผู้พูด เป็นเสียงผู้ชาย ท่านว่า ให้จุดไฟให้คนอื่นแล้วจะดี ทันใดนั้นปรากฎเทียนหนึ่งเล่ม แล้วผมก็จุดไฟ พอผมเอามือไปอังไฟของเทียนปรากฎแสงรุ้งเป็นกระกายสวยงาม น่ารื่นรมอย่างยิ่ง พอตื่นมาตอนเช้าผมพบว่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ พอผมเล่าให้แม่ฟัง ปรากฎแม่ตกใจอย่างมากเพราะเมื่อคืนก็ฝันคล้ายๆ กัน ทั้งที่ไม่ได้คุยกันเลยในคืนดังเกล่า เพราะผมกลับมาแล้วนอนเลย สรุป เล่าสั้นๆ ท่านฝันว่ามีเสียงที่เล่าแล้วว่าเสียงเดียวกัน เหมือนกันเลย ไม่เห็นตัวผู้พูด บอกให้ท่านจุดไฟให้กระผม แล้วจะช่วยผมได้ แถมเทียนรูปลักษณ์สีสันขนาดยังเหมือนกันอีกด้วย

ตอนนั้นผมตีความว่า แม่ผมจะต้องให้ทางสว่างแก่ผม คอยแนะนำต่างๆ ส่วนผมสมควรจะช่วย จุดไฟ ก็คือให้แสงสว่างแก่ผู้อื่น ก็คือนำธรรมไปบอกให้แก่ผู้อื่น แต่ตอนนี้ผมมีหลายอาชีพ แต่หนึ่งในอาชีพหลักก็คือให้แสงสว่าง นั่นก็คือผมเป็นครูด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน

ดังนั้นผมเชื่อเหลือเกิดว่าเราเป็นชาวพุทธนับถือพระรัตนตรัย ถือพระรัตนตรัยเป็นสารณะ เราไม่ได้อยู่คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่มีใคร มีคนเมตตาและคอยช่วยเหลือเราอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะรู้หรือเปล่า เราจะสำนึกหรือเปล่า บางทีอาจจะไม่ได้พบในฝันแต่วิธีช่วยผมว่ามีหลายทาง ดังนั้นการสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ให้ความเคารพแก่พระรัตนตรัย ถือเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เราควรจะสำนึกบุญคุณพระรัตนตรัยอย่างยิ่ง

 

อานุภาพแห่งศีลค่ะ สาธุ

 

ที่ท่านถามมาเรื่องประสบการณ์ผลที่ได้จากการสวดมนต์ นั้น ..
หลายท่านก็ได้เข้ามาให้ความเห็นกันบ้างแล้ว
(ส่วนของท่านอื่นๆ ก็ยังรอฟังอยู่นะครับ)

แต่อีกประเด็นที่ท่านยกมา คือ กรณีที่มีเคราะห์กรรมหนัก ..
หากเป็นกรณีนี้ ได้ยินครูบาอาจารย์ท่านว่า
ควรจะเข้าปฎิบัติธรรมถือศีล 8 ประมาณ 7 วัน อย่างตั้งใจ
เช่น บวชชีพราหมณ์ หรือ นุ่งขาวห่มขาวที่วัด จะได้ผลดี

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการลบล้างบาปกรรม
ในอดีตให้หมดไป แต่จะเป็นการสร้างหรือเพิ่มพูนความดีของตน
เพื่อให้ความดีส่งผลเข้ามาทดแทนบ้าง
หรือบางท่านอาจจะใช้คำว่าการเบี่ยงกระแสไม่ดีออกไป
และนำกระแสที่ดีเข้ามาก็ได้

 

ขอถามหน่อยค่ะ
พอดีไปเสิร์ชเจอบทสวดมหาจักรพรรดิ์มา
เจอของวัดถ้ำเมืองนะ
อยากทราบว่าต้องสวดทุกขั้นตอนตามบทสวดรึเปล่าค่ะ ถึงจะถือเป็นการสวดบทจักรพรรดิ์
บทสวดที่เจอค่ะ


ตั้งสัจจะอฐิษฐาน
?
ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ท่านอันเป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตาอารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุดบารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น
ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุอันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้นพรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดยทั่วทั้งแสนหมื่นโกฎิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมบริวารโดยทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชโดยทุก ๆ พระองค์วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลายที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย ฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองพระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย พญาครุฑพร้อมบริวาร
พญานาคพร้อมบริวาร คนธรรพ์ ชาวเมืองลับแล และสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิพร้อมกันเพื่อเพิ่มกำลัง
?
บทบูชาพระ
พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
?

กราบพระ 6 ครั้ง(กราบด้วยจิต)
?
พุทธัง วันทามิ (กราบ) ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
สังฆัง วันทามิ (กราบ) ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ) พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)
?
?
บทสมาทานศีล 5
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
** อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ ** (3 ครั้ง)
สีเลนะ สุคติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา สีเลนะ นิพพุตติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย
บทอาราธนาพระ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ
?
คาถาหลวงปู่ทวด : น้อมระลึกถึงปู่ทวดแล้วว่าคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภะคะวา (3 ครั้ง)
คาถาหลวงปู่ดู่ : น้อมระลึกถึงปู่ดู่แล้วว่าคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (3 ครั้ง)
บทขอขมาพระรัตนตรัย
โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
บทสวดมหาจักรพรรดิ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)
(สวดตามกำลังของแต่ละวัน อาทิตย์ 6 จันทร์ 15 อังคาร 8 พุธ 17 พฤหัส 19 ศุกร์ 21 เสาร์ 10)
นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
ขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน จงศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จเป็นจริงโดยฉับพลันทันใจทุกประการ
อิมัง สัจจะวานัง อธิษฐามิ พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
การอธิษฐานรวมผู้เกี่ยวข้อง
ข้าพเจ้าขออธิษฐาน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับตัวข้าพเจ้า ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ผู้ที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ดู่ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ผู้ที่เคยอธิษฐานจิตที่ถ้ำนะ รวมถึง ผู้มีพระคุณและเทวดาประจำตัวข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรผู้ที่เคยอธิษฐานช่วย ชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ ผู้ที่ปรารถนาโพธิญาณ ขอบารมีหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ จงจุดประกายทั่วทั้ง ๓ โลกธาตุ แผ่บุญส่งวิญญานทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ ให้เหล่าเทพพรหมโอปาติกะทั้งหลายจงรับ
ขอบารมีหลวงปู่ช่วยน้อมนำให้เขาเหล่านั้นเข้ามาร่วมกัน เพื่อช่วยกันอธิษฐานช่วยชาติ ศาสนา และราชบัลลังก์ รวมถึงหมู่คณะด้วยเทอญ
?
เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาน
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (5 จบ)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (ให้อธิฐานจิตแผ่)
ต่อจากนั้นอธิษฐานแผ่เรื่องส่วนตัวเพื่อประโยชน์ได้
ตั้งจิตอธิษฐานขอสติปัญญา และให้คิดทำสิ่งใดให้สำเร็จทุกประการทั้งทางโลกและทางธรรม
(อธิษฐานเฉพาะเรื่อง.....อธิษฐานเรื่องที่เราต้องการอธิษฐานเป็นพิเศษ)
ขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน จงศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จเป็นจริง โดยฉับพลันทันใจทุกประการ
อิมัง สัจจะวานัง อธิษฐามิ พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (3 จบ)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (ให้อธิฐานจิต)
อธิษฐานรวมบารมี ๑๐
ข้าพเจ้าขอตั้งสัจอธิษฐานสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ บุญบารมีใดที่ข้าพเจ้าเคยสั่งสมอบรมมา เคยปฏิบัติมาจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา
ข้าพเจ้าขอรวมบุญบารมีนี้ น้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ ถวายหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอถวายเป็นพุทธบูชา มหาเตชวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภควะโห ถวายแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ โปรดน้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้ มายังข้าพเจ้าเป็นเท่าทวีคูณ เพื่อข้าพเจ้าจะได้นำมาเป็นกำลังในการช่วยชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งมวล
ตั้งจิตแผ่บุญให้กับผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวรทั้งที่บ้านและหมู่คณะ
?
เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญานอธิษฐานจิต...
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (5 จบ)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (ให้อธิฐานจิตแผ่)
กราบพระ 3 ครั้ง...น้อมระลึกถึงพระ
------------

 

ที่ถามว่าส่วนที่เป็น บทมหาจักรพรรดิ์ คือส่วนไหน?
สำหรับคำตอบนั้น ก็คงเป็นส่วนนี้ครับ

นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

สังเกตว่ามีการสวดบทมหาจักรพรรดิ์ เป็นจำนวนครั้งตามกำลังของวันด้วย
ซึ่งหากสวดรอบที่สอง คงไม่มีใครเริ่มสวดตั้งแต่ บทบูชาพระ ถูกมั้ยครับ

แต่ว่าปกติการสวดมนต์ครั้งหนึ่งๆ ผมก็จะเริ่มสวดตั้งแต่
บทบูชาพระ และบทอื่นๆ ตามมาตามลำดับ เพราะว่า
บทต่างๆ นั้นมีคุณนะครับ เราต้องเริ่มตั้งแต่บูชาคุณพระรัตนตรัย
เสียก่อนเพราะว่า หากเราไม่รู้จักคุณท่าน เราจะเจริญในคุณธรรม
ต่อๆ ไปได้อย่างไร .. และส่วนบทขอขมาก็จำเป็นครับ บางกรณี
การเจริญธรรมที่ไม่อาจก้าวหน้าได้นั้น เป็นเพราะในอดีตได้เคยปรามาส
หรือล่วงเกินพระรัตนตรัยหรือครูบาอาจารย์ทั้งที่รู้และไม่รู้ตัวครับ
ซึ่งการขอขมาอย่างน้อย ก็ทำให้เราสบายใจขึ้นด้วยครับ .. ก็ประมาณนี้ครับ

 

แล้วปกติถ้าสวดบูชาพระรัตนตรัยอยู่้แล้วเป็นประจำ
ตามลำดับ ดังนี้ คือ


ริ่มสวดตั้งแต่บท บูชาพระรัตนตรัย ลงมาจนถึงกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาพุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นมัสการพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)

ขอขมาพระรัตนตรัย
วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ ธัมมัง,สัพพะเมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ สังฆัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต

ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ)
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (พุทธคุณ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
(อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ)

พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ (* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต)

ชัยปริตร (มหากาฯ)
มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่นเปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะ ปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะ ติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะ ทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม*

บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด ฯ


บทแผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า มีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า มีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ



แล้วจะสวดบทจักรพรรดิ์ และเป็นการสวดครั้งแรก
ต้องเริ่มสวดตั้งแต่บทบูชาพระอีกครั้งใช่ไหมคะ
ส่วนการสวดครั้งที่สอง สามารถสวดเฉพาะส่วนนี้ได้เลย

นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

ข้าพเจ้าเข้าใจถูกไหมคะ? ^ ^

 

ถูกต้องครับ ^^

อันที่จริงบทบูชาพระรัตนตรัย ผมจะสวด อิติปิโส..สวากขาโต..
เพราะว่าบทนี้ หลวงตามหาบัว ท่านบอกว่าให้สวดบทนี้ครับ
(อีกเรื่องคือการพยายามใส่บาตรพระให้ได้อย่างน้อยวันละรูป
สองอย่างนี้ เป็นกิจวัตรของวัน ที่พยายามรักษาทำอยู่ครับ)

 

ตอบคุณ หัวมัน เพิ่มเติมจากที่คุณ InvisibleForce ได้ตอบไว้ดีแล้วนะครับ...

การสวดบทจักพรรดิ์ นั้นถ้าเอาตามวัดเลยก็จะมีอยู่หลายช่วงนะครับ แต่ช่วงที่เป็นที่นิยมมากสุดคือช่วงเวลา สองทุ่มครึ่งตามเวลาประเทศไทย...ก็สวดตามที่วัดกำหนดอย่างนั้น เอาอย่างนี้ก็ได้นะครับ ปกติตามเวลาต่างๆทางวัดจะมีการถ่ายทอดเสียงสวดมนต์อยู่แล้ว ถ้าคุณเปิดเว็บวัดฯก็สามารถสวดได้ตามนั้นเลยครับ หรือถ้าเป็นช่วงครึ่งปักษ์แรกของเดือน หลวงตามักจะถ่ายทอดสด มีการตอบปัญหาธรรม เข้าสักประมาณ หนึ่งทุ่ม ก็จะทันเวลาฟังหลวงตาตอบปัญหาธรรม พร้อมกับทั้งสวดพร้อมหลวงตา และพร้อมกันทั่วโลกครับ....

เรื่องสวดบทจักพรรดิ์นั้น ไม่จำเป็นต้องสวดตามเวลาก็ได้ครับ และ ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการ อะไรมากมาย เว้นเสียแต่จะสวดตามวัดและหลวงตา...ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้สวดระหว่างวัน ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ว่างจากงาน จากการใช้ความคิด สวดได้ตลอดทั้งวันครับ....ถ้าทำได้อย่างนี้จะเห็นผลชัด สิ่งแรกเลยที่ได้คือจิตดีขึ้น สงบมากขึ้น สิ่่งที่สอง(อันนี้แบบของผมและหลายๆคนที่ผมสอบถามมา) ถ้าทำได้ตลอดทั้งวัน การงานหรือทำอะไรจะคล่องตัวมากครับ ทำอะไรก็สำเร็จง่ายๆสบายๆ ลองดูได้ครับ.........

 

การสวดมนต์นั้นจริงๆแล้วมีหลายรูปแบบ หลายสำนักก็มีแบบปฏิบัตินะครับ ซึ่งก็ดีทั้งนั้น จริงๆแล้วการสวดมนต์ก็คือการปฏิบัติกรรมฐานอย่างหนึ่ง คือ พุทธานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ธัมมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระธรรมเป็นอารมณ์ สังฆานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระสงฆ์เป็นอารมณ์ ซึ่งกรรมฐานทั้งสามกองนี้ก็เป็นกรรมฐานสำคัญในกรรมฐาน ๔๐ กองที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแนะนำไว้....

ส่วนเรื่องผลที่ได้ก็มีหลายประการ ก็มีหลายประสบการณ์ที่มีเขียน ที่มีคนกล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นแบบสวดแบบหลวงพ่อจรัญ ก็คนกล่าวถึงเยอะ แบบสวดจักพรรดิ์ วัดถ้ำเมืองนะ แบบคาถาเงินล้าน วัดท่าซุง บทชินบัญชร วัดระฆัง....ก็มีประสบการณ์มากมายหาอ่านได้ง่ายๆจากหลายคนที่เล่าและประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยการสวดมนต์ในแบบต่างๆ .....

ส่วนถ้าถามถึงผม ปกติผมจะสวดหลายบท ที่บ่อยในระหว่างวัน ไม่ว่าจะทำอะไรเช่นเดินไปใหน วิ่งออกกำลังกาย หรืออะไร ผมมักจะสวดบทจักพรรดิ์ครับ สิ่งที่ได้คือ ผมมีสติมากขึ้นไม่ว่อกแวกตามปกติที่จะปล่อยจิตให้ไปตามความคิดต่างๆในสิ่งที่ไม่มีสาระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ตลอดจนทั้งเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เป็นต้น....ก็มาสวดมนต์ทำความดีให้ตนเอง ให้ตัวเองอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันขณะ...อันนี้คือสิ่งที่ได้ในอันดับแรก...อันดับสองอย่างที่กล่าวไปแล้วในโพสก่อนหน้า จากเดิมที่ไม่เคยได้สวด และหลังจากสวดแล้วรู้สึกว่าทำอะไรง่าย คล่องตัว ไม่ว่าเรื่องการงาน หรือการเงิน การติดต่อประสานงาน หรือสิ่งต่างๆที่ตั้งเป้าหมายไว้มักสำเร็จได้ง่ายๆ สบายๆ ...อันนี้คือสิ่งที่สัมผัสได้จริง ตามที่ผมสัมผัสมานะครับ.....

หลายท่านมักกล่าวว่า "สวดมนต์คือยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน" ซึ่งผมเข้าใจว่า โรคแต่ละชนิดการรักษาก็คงไม่เหมือนกัน ผมเอาทั้งยาทาและยากิน รักษาตามโรคครับ.....ผมคิดว่าถ้าเป็นโรคผิวหนังที่ต้องรักษาด้วยยาทา แต่มาดันเห็นค่าแต่ยากิน ผมก็ว่าคงรักษาโรคนั้นได้หายช้า หรือ โรคนั้นอาจไม่มีโอกาศหายเลยก็ว่าได้.....ต้องดูตามโอกาศและใช้ให้เหมาะสมครับ.....