"เสียดายน่าจะทำก่อนตาย" ขอเชิญถวาย..."เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไทยในต่างแดน"

ในห้อง 'อนุโมนาบุญ - อุทิศบุญส่วนกุศล' ตั้งกระทู้โดย mc, 3 กันยายน 2009.

  1. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    เนื่องในวันมหามงคล วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 คือวันพุธที่จะถึงนี้ ที่วัดแอนนาเดล ในซิดนีย์ออสเตรเลีย จัดเป็นสัปดาห์พระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่มีเลขมงคล นานๆทีจะมีสักครั้ง(ปีนี้ผมอายุ 54 ปีรวมกันได้ 9 เหมือนกัน ขอแจม
    ด้วยคนครับ)และเป็นช่วงที่จะเกิดภัยพิบัติ (โลกกาวินาศ) ซึ่งอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้ในยุคนี้ ชีวิตที่ตั้งอยู่ในความประมาทย่อมน่าเสียดาย.....
    "เสียดายน่าจะทำก่อนตาย"
    ในวันพุธที่ 9 เดือนกันยา 09 นี้ผมจะไปจัดหมู่พระเจดีย์บรรจุ พระธาตุพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่คุณปรมะได้ถวายที่วัดไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้จัดบรรจุให้สมพระเกียรติ สมกับที่เป็นพระธาตุพระพุทธเจ้า กลับจากเมืองไทยเมื่อคราวที่แล้ว ได้(บอกบุญและมีผู้ศรัทธามอบเงินร่วมทำบุญ)จัดำการซื้อผอบเจดีย์อย่างสวยงาม 29 ใบเพื่อนำมาจัดเป็นหมู่พระเจดีย์(จำลอง) ถวาย ผมเพิ่งทำฐานเสร็จเมื่อคืนนี้ นำมาประกอบกันแล้วสวยงามอลังการมากครับ แม้ทุนน้อยแต่มากด้วยศรัทธา หลังถวายแล้วจะนำรูปมาให้ชมกันครับ
     
  2. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    และต่อเนื่องกับงานนี้ ผมได้จัดผอบองค์เล็ก เป็นหมู่ให้สวยงามถวาย วัดแสตนมอร์ที่ซิดนีย์ด้วย เพราะเมื่อต้นปีได้ถวายพระธาตุไว้ แต่ไม่มีผอบใส่ คราวนี้ได้ซื้อผอบมาด้วย ที่จริงกะซื้อมาไว้ใช้เอง แต่พอนึกถึงวัดแสตนมอร์เลยต้องนำไปถวายท่านก่อน (ของส่วนตัวเมื่อไรก็ได้ ไม่มีไม่เป็นไร)
    และยังมีพระธาตุอาการสามสิบสองของคุณปรมะ ที่เพิ่งถวายเพื่อนำไปประดิษฐานที่ญี่ปุ่นด้วย ผมก็จะมอบถวายในคราวเดียวกันทั้งสามวัด ในวันมหามงคลนี้
    ขอท่านญาติธรรมชาวเวปทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญกันทุกท่านนะครับ เพื่อเป็นกระแสบุญเข้าสู่พระนิพพาน
     
  3. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    และต่อเนื่องกับงานนี้ ผมได้จัดผอบองค์เล็ก เป็นหมู่ให้สวยงามถวาย วัดแสตนมอร์ที่ซิดนีย์ด้วย เพราะเมื่อต้นปีได้ถวายพระธาตุไว้ แต่ไม่มีผอบใส่ คราวนี้ได้ซื้อผอบมาด้วย ที่จริงกะซื้อมาไว้ใช้เอง แต่พอนึกถึงวัดแสตนมอร์เลยต้องนำไปถวายท่านก่อน (ของส่วนตัวเมื่อไรก็ได้ ไม่มีไม่เป็นไร)
    และยังมีพระธาตุอาการสามสิบสองของคุณปรมะ ที่เพิ่งถวายเพื่อนำไปประดิษฐานที่ญี่ปุ่นด้วย ผมก็จะมอบถวายในคราวเดียวกันทั้งสามวัด ในวันมหามงคลนี้
    ขอท่านญาติธรรมชาวเวปทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญกันทุกท่านนะครับ เพื่อเป็นกระแสบุญเข้าสู่พระนิพพาน
     
  4. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ทีแรกหลังจากถวายพระธาตุและวัตถุมงคล จัดเป็นพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาไทยขนาดย่อมให้วัดธัมธโร แคนเบอร่า เมื่อปีที่แล้ว คิดว่าคงจะหยุดแล้ว อยากหันมาปฎิบัติมากกว่า แต่คงเป็นด้วยสันดาน(นิสัยที่อยู่ลึกแก้ไม่ได้)ที่ชอบหาเรื่องทำบุญอยู่เรื่อย เป็นสันดานดี พอทราบข่าวว่ามีญาติโยมมาติดต่อท่านอาจารย์หมุน(เจ้าอาวาสวัดแอนนาเดล)ไปดูเรื่องจัดสร้างวัดที่ประเทศญี่ปุ่น ผมคิดทันทีเลยว่าเเรต้องทำบางสิ่งบางอย่างแล้ว งานนี้เป็นบุญใหญ่อีกแล้ว ซื้อที่สร้างวัดพลาดไม่ได้ เราไม่มีกำลังด้านทุนทรัพย์แต่เราก็มีด้านอื่น กลับมาบ้านจัดหาพระธาตุที่เหลืออยู่จากถวายสร้างพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว รวบรวมเท่าที่มี จัดถวายท่านอาจารย์หมุน เรียนท่านว่าถวายไปไว้ที่ญี่ปุ่นนะครับ ขอบารมีพระธาตุให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ( น่าจะภายในประมาณ 6 เดือน )ท่านทำพิธีฉลองเปิดวัดไปเมื่อก่อนวันเข้าพรรษานี่เอง ผมเกิดมีความรู้สึกอยากทำพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาที่ญี่ปุ่นอีก เพราะเป็นโอกาสอันดีและเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ที่จะได้เผยแพร่พระบรมสารีริกธาตุและความเป็นไทยไปยังต่างแดน แต่ด้วยพระธาตุและพระเครื่อง วัตถุมงคลของตัวเองเกือบหมดแล้ว ที่บ้านเมืองไทยของคุณพ่อคุณแม่ยังพอเหลืออยู่บ้าง คิดว่าพอทำได้ และหากได้กำลังสนับสนุนจากญาติธรรมชาวเวปพลังจิตหรือเชาวเวปทั่วไป ช่วยกันร่วมส่งของมาถวายเหมือนเข่นคราวที่แล้ว สำเร็จแน่นอน งานนี้ถือเป็นงานของพลังจิตพิชิตภัพิบัติเช่นกันนะครับ และเป็นงานของคนไทย ที่ทำเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาแบบไทยๆ ให้ชาวโลกได้รับรู้และสามารถสืบสาวเรื่องราวการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของชาวทยสู่สายตาชาวโลก มอบไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นการบำเพ็ญเพื่อสร้างบารมีสู่กระแสพระนิพพาน
    ผมตัดสินใจอยู่นานเพราะไม่มั่นใจนัก การจะจัดทำพิพิธภัณฑ์ เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่มีนิดๆหน่อยๆแล้วมาบอกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ก็ไม่เหมาะสม เมื่อคราวที่แล้วมีญาติธรรมร่วมถวายมากมายจัดได้ถึง 10 ตู้ ทำเป็นห้องได้สบายไม่ใช่แค่ตู้สองตู้นะครับ คิดแล้วไม่กล้าทำแต่มันวนเวียนให้คิดอยู่ตลอด เลยกราบเรียนถามท่านอาจารย์หมุนว่าจะเป็นการรบกวนท่านใหมถ้าจะขออนุญาติถวายพระธาตุและมงคลวัตถุเพื่อทำพิพิธภัณฑ์ที่วัดท่านที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ทราบว่าจะหาได้มากน้อยแค่ไหน ที่จริงคิดว่าจะหยุดแล้วครับ ท่านตอบว่า อนุโมทนา ไม่ได้รบกวนอะไรเลย โยมยังต้องบำเพ็ญบารมีไปเรื่อยๆ โยมควรทำเพราะมีบารมีด้านนี้ แต่ละคนมีบารมีไม่เหมือนกัน อย่างบางท่านพระธาตุเสด็จมาเองมากมาย ก็เป็นบารมีที่เขาสะสม ของโยมถึงแม้พระธาตุไม่ได้เสด็จมาเองแต่โยมก็สามารถนำมาถวายได้มากมายไม่มีหมดเหมือนกัน(ได้เคยเรียนท่านว่า ของผมเสด็จมาแค่ไม่กี่องค์ ส่วนมากขอเขามาครับ) ก็ถือว่ามีบารมีในการขอ (สงสัยมีวาสนากับพ่อปู่ชูชก แต่ก็แปลกนะครับเวลาห้อยพ่อปู่แล้วได้ของมาง่ายๆเหมือนกัน แล้วจะเขียนเป็นเรื่องเล่าให้ฟัง แปลกดี) ส่วนจะมากน้อยไม่สำคัญ ทำบุญเท่าเม็ดงาแต่ทำด้วยศรัทธาที่ออกมาจากใจเต็มที่ อย่างโยมย่อมได้บุญมากกว่าการทำบุญด้วยเงินมากมายแต่ศรัทธาไม่ถึงพร้อม
    จากการสนทนากับท่านอาจารย์หมุนวันนั้นผมเลยตกลงที่จะทำพิพิธภัณฑ์ ที่ญี่ปุ่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2009
  5. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ด้วยความผูกพันกับประเทศอินเดียผมคิว่าจะทำพิพิธภัณฑ์ที่อินเดียด้วยเป็นแห่งที่สาม ที่ญี่ปุ่นไม่ทราบว่าจะมีวาสนาได้ไปจัดทำด้วยตัวเองรึเปล่า แต่ที่อินเดียคิดว่าจะไปเองครับ จึงขอตั้งปณิธานเอาไว้วันนี้เลย และขอเรียนเชิญทุกท่าน มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังศรัทธา ร่วมกันส่งของที่เกี่ยวกับพระธาตุและมงคลวัตถุเพื่อจัดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับอีกสองประเทศคือ ญี่ปุ่นและอินเดีย
    ที่คิดเช่นนี้เพราะหากท่านไม่แน่ใจในชาตินี้ ไม่แน่ใจในเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ในอนาคต ไม่แน่ใจว่าจะได้อยู่ในโลกนี้อีกนานเท่าไร มันเป็นสมบัติผลัดกันชม
    วันนี้เป็นของเรา ตายไปก็เป็นของคนอื่นทำไมไม่สร้างวิกฤติให้เป็นโอกาส ผมขอปาวลณา
    ตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ส่งบุญให้ทุกท่านครับ
    วัดที่ญี่ปุ่นคือวัด
    วัดพุทธรังษี ฮาชิโอจิ โตเกียว
    wat pa buddharangsee tokyo
    482 miyashita haehiojishi
    tokyo 192-0005 japan
    tel 0426-963-136
    ท่านใดอยากติดต่อที่ญี่ปุ่น ตอนนี้มีหลวงตาซันเดย์ท่านอยู่เรียนท่านว่ามาจากโยมหม่อมออสเตรเลียครับ ส่วนวัดที่อินเดียน่าจะเป็นวัด
    วัดป่ากุสาวดี กุสินารา ของท่านอาจารย์บุญเลิศ ท่านเก่งมาก บารมีสูงมาก ท่านสร้างวัดเอง พยายามกว่ายี่สิบปี ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆองค์เดียว จนมาถึงวันนี้เป็นรูปเป็นร่างมีตึกมีพระประธาน น่าเยี่ยมชมวัดหนึ่ง และที่สำคัญเมื่อสองปีที่แล้วผมบวชเป็นพระ ไปธุดงค์เป็นหมู่คณะ 22 รูปไปพักวัดท่าน ทั้งๆที่ท่านไม่ค่อยมีอะไร(ไม่ใช่วัดรวย)ท่านยินดีต้อนรับ เอื้อเฟื้อทุกอย่าง ไม่มีรังเกียจมีเท่าไรก็เท่านั้น ผมรู้สึกประทับใจท่านมากๆ และเก็บความรู้สึกนั้นใว้ในใจเสมอมา คิดว่าวันหนึ่งคงได่มีโอกาสร่วมสร้างวัดกับท่าน แล้ววันนั้นก็มาถึงในคราวนี้ คือได้จัดทำพิพิธภัณ์ถวายท่าน ให้เป็น"พิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาของไทยแห่งแรกในประเทศอินเดีย"
     
  6. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    อนุโมทนาจ้าคุณหม่อม ขอที่อยู่ในการจัดส่งพระธาตุและวัตถุมงคลด้วยนะจ๊ะ
    (ถ้าเกินวันที่ 09/09/09 จะได้หรือหรือไม่)
    ปล.วัดป่ากุสาวดี กุสินารา ประเทศอินเดียจะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่จ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆบุญที่พี่หม่อมได้ทำแล้ว
    กำลังทำอยู่ และที่จะทำต่อไปในภายภาคหน้าด้วยนะครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ

    .........................
     
  8. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ที่อินเดียยังไม่ได้กำหนดวันครับ น่าจะเป็นปีหน้า เพียงแต่แจ้งให้ทราบก่อน
    สำหรับที่ออสเตรเลียผมเตรียมจะไปถวายวันที่ 09/09/09
    ที่ญี่ปุ่นคงเป็นหลังออกพรรษาแล้วครับ
    ตอนนี้เนช่วงเตรียมงานก่อน ส่วนของที่จะร่วมถวายผมกำลังติต่อญาติธรรมที่เมืองไทยช่วยเป็นศูนย์กลางรับของอยู่ครับ
     
  9. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ขอบพระคุณมากครับ ที่มีหลานท่านส่งข้อความส่วนตัวมาให้กำลังใจ ที่จริงรู้สึกเกรงใจมากที่ได้ส่งข้อความส่วนตัวไปถึงหลายๆท่าน เพราะมีหลายท่านอีกเช่นกันที่ได้ร่วมอนุโมทนาและส่งของมาร่วมบุญมากมายในคราวที่แล้ว ผ่านไปแค่ปีเดียวขอมาอีกแล้ว แต่ด้วยว่าบุญเป็นของกลาง บุญสามารถแบ่งได้อุทิศให้กันได้ ทำมากบ้างน้อยบ้างด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ย่อมได้บุญมหาศาลนัก แม้เพียงได้อ่านได้อนุโมทนาก็ได้บุญแล้วเช่นกัน ต้องขอโทษด้วยครับสำหรับบางท่านที่ทำให้รู้สึกรำคาญ ผมถือว่าได้พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ได้แค่ไหนก็แค่นั้นครับ ก็เป็นวาสนาบารมีของแต่ละวัดไปครับ
     
  10. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมต้องทำทีเดียวสองประเทศพร้อมกัน ญี่ปุ่นและอินเดีย เนื่องจากผมเห็นว่าไหนๆก็ทำแล้ว ขอทีเดียวพร้อมกันเลยดีกว่า อีกอย่างผมเองก็ไม่รู้จะได้อยู่ทำอีกนานแค่ไหน เหตุการณ์ของโลกก็น่าเป็นห่วงขึ้นทุกวัน เลยคิดว่าถ้าคิดทำอะไรก็รีบทำซะเลยดีกว่ามัวแต่รอเวลามันจะไม่ได้ทำ ตอนนี้พยายามนึกถึงญาติมิตรที่เมืองไทยว่าพอมีใครจะขอได้บ้าง แต่เอาจริงๆแล้วแทบจะไม่มีญาติคนไหนสนใจด้านนี้เลยครับ ทุกคนมีความสุขกับการกินบุญเก่ากัน จนล้มหายตายจากกันไปก็หลายคนแล้ว ผมเองได้มีโอกาสบอกบุญให้ได้ทำกันอยู่ก็ไม่กี่ครั้ง ก็ดีครับเพราะเขาทำเพราะเห็นผมบ้าบุญอยู่คนเดียว เลยทำร่วมด้วย ทุกวันนี้ทุกคนก็รออยู่ว่าเมื่อไรผมจะโกนหัวเข้าวัดอีก จะได้มีกิจกรรมทำบุญร่วมกับหลวงตาบ่อยขึ้น ก็คงไม่นานเกินรอครับ
     
  11. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    เมื่อตอนกลับเมืองไทยคราวที่แล้ว มีเหตุการณ์บังเอิญขึ้นหลายเรื่อง เป็นเหตุบังเอิญที่ดีๆทำให้นำกลับมาเล่าเป็นที่สนุกสนาน และต้องเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีกจนผมเบื่อและเหนื่อยที่จะเล่า เลยคิดว่าเราน่าจะเขียนบันทำกเรื่องราวต่างๆที่มันบังเอิญแบบแปลกรวบรวมไว้แจกให้อ่านกันสนุกๆไม่ต้องมานังเสียเวลาเล่าและบางทีก็ลืมไปบ้าง ลองอ่านเล่นดูนะครับ ให้ดีช่วยเขียนติชมด้วยจะป็นพระคุณครับ
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    มิถุนายน 2009<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ก่อน หน้านี้ข้าพเจ้าอยากกลับเมืองไทยเพื่อไปดูแลพ่อแม่ที่ท่านอายุมากแล้ว พ่อข้าพเจ้าอายุ 89 ปี<O:p></O:p>
    แม่อายุ86 ปี นับว่าอายุมากแล้ว และถือว่าเป็นคนอายุยืน อาจเนื่องด้วยพ่อแม่ทำงานรับราชการมิได้เบียดเบียนชีวิตใคร ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พ่อเกษียณที่ ซี 10 ตำแหน่งสุดท้ายเป็นที่ปรึกษาท่านผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คุณเทียม ในสมัยนั้น ส่วนแม่เกษียณที่ ซี 6 ของกรมแรงงานเช่นกัน ด้วยแรงคิดถึง เพราะเป็นเวลาร่วมสองปีครึ่งแล้วที่ข้าพเจ้าได้กลับไปเมืองไทยซึ่งตอนนั้นไปบวชให้แม่ แม่อายุครบ 84 ปี เลยตั้งใจบวชให้แม่ ให้แม่ได้อนุโมทนากับพระลูก เต็มตื้นกับผ้าเหลืองก่อนที่จะละสังขาร เพราะคิดว่าถ้าคิดจะบวชให้พ่อให้แม่ บวชทั้งๆที่ท่านมีชีวิตอยู่ดีกว่า จะได้อนุโมทนาและรับผลบุญจากพระลูกเต็มๆ ไม่ต้องเคาะโลง ไม่ต้องจุดธูป<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ตัดสินใจอยู่หลายตลบเนื่องจากยังไม่พร้อมหลายด้านทั้งเรื่องการงานการเงิน (ทำร้านอาหารอยู่สองร้าน) ปัญหาต่างๆยังไม่ลงตัว ทีแรกว่าจะยังไม่กลับ แต่ใจว้าวุ่นพิกล มันอยากกลับด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ เลยจุดธูปอธิษฐานถึงหลวงปู่ใหญ่ กราบขอบารมีท่าน หากการกลับไปครั้งนี้เป็นประโยชน์กับข้าพเจ้าแล้วก็ขอให้ไม่มีอุปสรรค แต่ถ้ากลับไปไม่ได้อะไร ก็ให้ยังกลับไม่ได้เพราะเสียดายเงิน เสียดายเวลา ยังไม่อยากกลับ พอจุดธูปบอกท่านเสร็จ ก็ลองติดต่อเรื่องตั๋วเครื่องบินดู ปรากฏว่ายังมีตั๋วโปรโมชั่นอยู่หมดเขตสิ้นเดือน (เหลือเวลาอีกสิบกว่าวัน) พอมาอ่านในเวปพลังจิต ที่ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกอยู่พบเรื่องการลงนะ เมตตามหานิยม ค้าขาย(อันนี้สำคัญ อยากขายร้านอยู่แล้วด้วย นี่แหละเป็กเลย) ลองถามลูกๆ แม่ครัว และพนักงานทั้งหลายดู ปรากฏว่าทุกคนให้ความร่วมมือดี บอกหนึ่งเดือนไม่มีปัญหา ก็มาลงเอยที่ทุกอย่างลงตัวแบบไม่น่าเชื่อ ได้กลับเมืองไทยสมใจ และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงสมคำอธิษฐาน เพราะการเดินทางครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้รับพระบรมสารีริกธาตุ องค์ใหญ่สวยงามมากระดับเดียวกับที่เคยเห็นพระบรมสารีริกธาตุที่สมเด็จพระสังฆราชประทานเลยทีเดียว เพียงแค่นี้ก็นับว่าเกินพอแล้ว สำหรับคนอย่างข้าพเจ้า ที่เฝ้าแต่แอบฝันลึกอยู่ในใจ แต่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีวาสนาเช่นนี้ นี่คงเป็นเพราะครูบาอาจารย์ท่านเมตตาและทราบการทำงานของข้าพเจ้ามาตลอด ท่านจึงมอบให้เป็นมงคลแก่ชีวิต เป็นขวัญและกำลังใจ ซึ่งทีแรกข้าพเจ้าคิดว่าจะหยุดการถวายพระธาตุ เนื่องจากพระธาตุที่เหลืออยู่ไม่มากนัก พระธาตุที่ถวายไปก็ร่วม 30 แห่ง นับว่าเพียงพอ ( ตลอดเวลากว่า 11 ปี) เริ่มจากการถวายพระธาตุให้กับท่านรัศมีวัดป่าสุญญตาราม(ตั้งแต่ปี 1998) ซึ่งพระธาตุช่วงนั้นได้รับมาจากวัดพระธาตุจอมมอญ จ.แม่ฮ่องสอนและจากคุณศรัญธร ยกเชื้อ(ท่านเป็นนักบุญคนหนึ่ง ที่บำเพ็ญบารมีด้านการสร้างรูปหล่อเทพเจ้าและครูบาอาจารย์ถวายไปตามวัดต่างๆมากว่า 20 ปี นับตั้งแต่รู้จักท่านมา) พระธาตุต่างๆที่ได้รับมาข้าพเจ้าไม่เคยสงสัยเพราะทราบที่มา และเมื่อมอบถวายก็มอบด้วยความบริสุทธิใจ หวังเพียงให้พระธาตุได้รับการเคารพบูชาจากสาธุชนทั้งหลาย เพราะการเก็บรักษาไว้ส่วนตัว เกิดประโยชน์น้อยนัก การที่ได้มอบพระบรมสารีริกธาตุให้กับทางวัดนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นการถวายของที่มีค่าที่สุดของข้าพเจ้า เพราะมีค่ากว่าทรัพย์สมบัติมากมายนัก แม้มีเงินร้อยล้านพันล้านก็หาได้ครอบครองไม่ พระธาตุ เป็นของสูงหากผู้ครอบครองไม่มีศีล ไม่มีสัตย์ ความมงคลก็จะกลายเป็นอัปมงคลไป แทนที่จะเป็นคุณก็กลายเป็นโทษ ทำให้เกิดวิบัติฉิบหายกับครอบครัว เป็นการลบหลู่และปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ <O:p></O:p>
    จากการที่ได้ถวายพระธาตุในครั้งแรกทำให้ข้าพเจ้ามีความสุข ปิติ และอิ่มใจเมื่อคิดถึงตลอดเวลา นี่แหละที่เรียกว่าบุญ บุญคือสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข สุขตั้งแต่เริ่มคิดที่จะทำ สุขขณะที่กระทำ สุขเมื่อได้ทำแล้ว แม้กระทั่งนึกถึงเมื่อไรก็มีความสุขเช่นกัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ก่อนเดินทางหนึ่งวันเข้าไปอ่านในเวปพลังจิต เจอเรื่องของอาจารย์ธนะสิทธิ์ ท่านมีญาณของพระศรีอริยเมตไตร ช่วยรักษาคนได้ อ่านแล้วรู้สึกสนใจ(ของชอบอยู่แล้ว) เลยโทรไปขอนัดพบท่านก่อน เพราะกลัวว่าจะไม่ทันเนื่องจากท่านจะกลับเชียงใหม่แล้ว ท่านมากรุงเทพชั่วคราว ขอพบท่านวันเสาร์เพราะจะถึงเมืองไทยเช้าวันพฤหัสบดี ก่อนกลับนึกขึ้นได้ว่าเคยตั้งใจไว้ถ้าได้กลับเมืองไทยจะหาซื้อผอบเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่คุณปรมะได้ถวายไว้ที่วัดแคนเบอร่า เพื่อจัดทำเป็นหมู่พระธาตุจำลองให้สมพระเกียรติ ให้พระบารมีแห่พระธาตุ และสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายที่รักษาพระธาตุ บันดาลให้การก่อสร้างเขตพุทธาวาสของวัดธัมธโรได้สำฤทธิ์โดยเร็ววัน <O:p></O:p>
    พอถึงเมืองไทยรีบโทรหาน้องวัฒน์(ธีรวัฒน์)ที่เดินทางกลับมาก่อนหนึ่งวัน เพราะเป็นคนชอบเรื่องแบบนี้เช่นกัน นัดเจอกันที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานในวันพฤหัสบดี และไปที่บ้านญาติธรรมของอาจารย์ วันนั้นท่านอาจารย์ให้นำพระแก้วจำลองหน้าตัก 9 นิ้วมาถวายด้วย การถวายพระถือเป็นการทำบุญเพื่อเอาบุญนั้นมาแก้กรรมให้ตัวเรา ข้าพเจ้าได้นำเรื่องของพี่สาวภรรยามาให้ท่านช่วยแก้กรรมให้ เนื่องจากพี่สาวมีปัญหาเกี่ยกับขาเดินไม่ได้มากว่าสองปีแล้ว รักษามาหลายหมอแล้ว จนท้อไม่ยอมไป ที่ไหนอีก เพราะครั้งสุดท้ายไปหาหมอจีนฝังเข็มที่เท้ามาแล้วเกิดระบมหนักกว่าเก่า เดินแล้วเจ็บมากเลยไม่ยอมเดินอีกเลย แกบอกว่ารู้แล้วว่าเป็นโรคกรรม ยอมรับกรรมให้มันจบๆกันไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  12. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    อาจารย์ธนะสิทธิ์ท่านเป็นชายวัยกลางคน ใส่ชุดแบบพระจีนสีแดงมีแถบเหลือง ท่านบอกว่าเป็นชุดที่เบื้องบนให้ใส่ท่านทางท่านมีเมตตามาก ขณะทำพิธีท่านจะทำมือโบกสบัดเหมือนที่ดูในหนังจีนท่านจะใส่แหวนหลายนิ้วโดยเฉพาะนิ้วชี้จะมีกระดิ่ง เวลาสบัดมือจะมีเสียงกระดิ่งฟังแล้วไพเราะดี ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    พอถึงคิวข้าพเจ้าจึงรีบคลานเข้าไปหาท่านเรียนท่านว่าได้เคยติดต่อมาจากออสเตรเลียเรื่องพี่สาว ท่านถามเกี่ยวกับอาการ จึงเรียนขออนุญาตท่านขอให้ท่านสนทนากับพี่สาวทางโทรศัพท์โดยตรงดีกว่า แต่เนื่องจากกลัวเสียงไม่ดังพอ ท่านอาจได้ยินไม่ชัด เลยกดปุ่มเปิดเสียง ทำให้ได้ยินกันทั่วรู้สึกตกใจเหมือนกันเพราะไม่ได้บอกพี่สาวไว้ก่อน แกก็คุยเสียงดังลั่นถึงเรื่องบาปกรรมต่างๆที่เคยทำในสมัยเด็ก เรื่องการแท้งลูกที่จำไม่ได้ว่าแท้งรึเปล่าเพราะเมื่อตอนสาวๆพอแต่งงานก็ยังไม่ทราบอะไรพอประจำเดือนไม่มาก็กินยาดองแบบชาวบ้าน ทำให้ขับเลือดออกมา เมื่อตอนเด็กๆชอบเอามีดไปสับขามดแดงบ้างสับก้นมดแดงบ้าง สนุกดีบางทีก็ เอาหญ้าไปเสียบก้นแมลงปอให้มันบินต่ำๆเพราะหนักก้น เคยแกล้งเดินชนยายให้ล้มแล้วไม่ขอโทษไม่สนใจทั้งๆที่ยายรักมาก ตอนนี้เข้าใจหมดแล้วถ้าทำได้อยากขอโทษยายสักครั้ง สำนึกในบาปบุญคุณโทษหมดแล้ว ท่านฟังไปก็โบกมือเหมือนส่งบุญ แล้วบอกว่า<O:p></O:p>
    เอาหละ ไปหมดแล้ว เอาที่นี้ยายมารอแล้วจะพูดอะไรรีบพูดเร็วเวลามีน้อย”<O:p></O:p>
    พี่สาวรีบพูดแต่พูดในใจเลยไม่มีใครได้ยิน สนทนากันกว่าครึ่งชั่วโมง ท่านถามว่า <O:p></O:p>
    ตอนนี้หายปวดรึยังละโยม<O:p></O:p>
    พี่สาวบอกว่า ตอนนี้หายปวดแล้วเจ้าคะ รู้สึกสบายขึ้นมาก<O:p></O:p>
    ลองเดินดูซิ<O:p></O:p>
    ไม่ได้เจ้าคะ ขอรอดูอาการก่อน”<O:p></O:p>
    แกไม่ยอมเดินบอกขอรอดูอาการก่อนกลัวเจ็บ <O:p></O:p>
    เอาหละหายแล้วนะ หายแล้ว ถ้าเจ็บก็โทรมาหาได้เลยนะ เจริญพร<O:p></O:p>
    ท่านอวยพร แล้วมอบตะกรุดพร้อมลูกประคำให้ บอกให้เอาตะกรุดไว้แช่น้ำดื่ม มีอะไรก็ให้ระลึกถึงพระศรีอาริยเมตไตรก็จะหายจากนั้นข้าพเจ้าและคณะก็ลากลับ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เราไปกันสามสี่คน คนหนึ่งคือคุณอนุชา เป็นเพื่อนชาวเวปพลังจิตคุยกันมาเป็นปีไม่เคยเห็นหน้ากัน ได้มาพบกันวันนี้แหละเพราะข้าพเจ้าโทรไปรบกวน ขอให้ช่วยจัดหาพระแก้วมรกตราคาไม่แพงให้เลยได้ราคาเพียง 800 บาทซึ่งถูกมาก <O:p></O:p>
    ถามว่ามีรูปหล่อพระครูบาอาจารย์แบบหล่อเป็นเรซิ่นเหมือนจริงใหม อยากได้แบบหลวงปู่ทวดหรือหลวงพ่อโตก็ได้ เพราะที่เคยมีถวายวัดไปแล้ว แกบอกว่า โห..มีเยอะเลยพี่ องค์หน้าตัก 5 นิ้ว ราคาประมาณ 500 บาทเอง เป็นหลวงปู่ทวด ผมว่าจะเอาไว้สักองค์เหมือนกันร้านอยู่แถววัดราชนัดดาครับพี่ บอกแกว่า โอเค..ว่างๆพาพี่ไปทีอยากได้สักองค์เอาไปออสเตรเลีย ตอนนั้นเวลาราวสามโมงเย็นคุณอนุชาเห็นว่าว่างอยู่เลยถามว่า บ้านคุณศรัณธรอยู่แถวนี้ไม่ช่หรือพี่ เราไปพบแก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  13. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ต้องไปทำธุระก่อน
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  15. coool

    coool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +455
    สาธุ ขออนุโมทนาบุญของทุกท่านด้วยครับ สาธุ
    ทุกภพสืบไปตราบเข้านิพพาน ขึ้นชื่อว่าความป่วยไข้ทั้งปวงอย่าบังเกิดมีแก่เรา​
     
  16. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,329
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,269
    อนุโมทนาครับ เป็นคนที่น่าชื่นชมมาก ขอให้สมปรารถนานะครับ สาธุ
     
  17. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    พบแกดีใหม ข้าพเจ้าเองก็ไม่แน่ใจเลยโทรถามดูปรากฏว่าแกอยู่แถวสนามบินน้ำไม่ไกลจากนี้แต่ให้มาพบได้ตอนสี่โมงเย็น รอจนได้เวลาจึงไปพบแกที่บ้าน แกบอก วันนี้ทีจริงไม่ได้ทำงานหรอกครับ ไปหล่อพระหลวงปู่ใหญ่มา โอ้โห....เข้าทางเลย ถามแกว่า หล่อกี่องค์ครับ อยากขอบูชาสักองค์ได้ไหมครับ แกบอกหล่อตามจำนวนที่สั่งเพราะรุ่นนี้ทำเฉพาะเป็นปางบิณบาตร ลาภมากค้าขายดี ถ้าจะเอาก็จะสั่งเพิ่มให้ ไม่ทราบให้บูชาองค์ละเท่าไรครับองค์ละ 1500 บาทต้นทุนจากโรงหล่อเลย จ้าพเจ้าขอหนึ่งองค์ คุณอนุชาก็เอาด้วยอีกองค์ จากนั้นก็คุยกันเรื่องการปฏิบัติ เหมือนแกมีสัมผัสกับหลวงปู่ใหญ่ แกบอกข้าพเจ้าว่า คุณอิทธิพลต้องปฏิบัติแล้วนะ บอกครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว ข้าพเจ้าก็ฉงนในใจ ถามแกว่าเอ่อหลวงปู่ใหญ่ลงทรงได้ใหมครับ เพราะท่านเคยมาลงที่บ้านที่ออสเตรเลียสองครั้งแล้วท่านก็บอกให้ปฏิบัติเช่นกัน แต่ทำไมการมาทั้งสองครั้งไม่เหมือนกันละครับ เหมือนเป็นคนละเวอร์ชั่นกัน ครั้งแรกมาลงอาจารย์ทิพย์(จากหนังสือโลกทิพย์) เมื่อราวสามปีมาแล้วครับ และล่าสุดมาลงน้องวัฒน์ก่อนมาเมืองไทยไม่กี่อาทิตย์นี่เอง แกบอกว่า ต้องดูที่การสอนธรรมะครับว่าสอนอะไรสอนดีไหม บางทีลงนะลงจริงแต่ที่ลงนะวิญญาณหรืออะไรมาแอบอ้าง ถ้าธรรมะดีก็โอเคนะถือว่าดีข้าพเจ้าตอบว่า ดีนะดีครับคราวแรกสอนให้ปฏิบัติมุ่งพระนิพพาน คราวหลังบอกให้รักษาสัจจะและให้เร่งปฏิบัติเพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว โลกจะเกิดวิบัติครั้งใหญ่ จากนั้นแกก็สอนให้ผมทำสมาธิหนอตามแบบหลวงปู่หมุน แกบอก วิธีนี้เร็วดีครับ สมาธิดีทำเสียนะ เป็นการทำสมาธิที่ต้องลืมตา แล้วให้ตาจ้องอยู่ที่มือ แบบมือขวาเลื่อนไปข้างหน้าแล้วออกเสียงหนอ..หนอ..หนอ..หนอ ออกเสียงให้พอได้ยิน สี่ครั้งแล้วลากมือกลับออกเสียงตามจังหวะของมือ หนอ...หนอ..หนอ..หนอ..แบบนี้ไปเรื่อยๆ เรียกว่ากายานุปัสนา สมาธิเกิดจาการเคลื่อนไหวของกาย ได้ทั้งกาย วาจา ใจ ว่างั้นเถอะ แบบที่ข้าพเจ้าทำอยู่นั้นเป็นการนั่งหลับตา จิตจับอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกใช้คำภาวนาพุธโธซึ่งทำให้เคลิ้มเผลอสติได้ง่าย ซึ่งก็เคลิ้มหลับอยู่เป็นประจำ ก่อนกลับบอกแกว่า พระธาตุที่คุณศรัณธรให้ผมคราวที่แล้วจะหมดแล้วครับ เอาไปถวายตามวัดต่างๆที่ออสเตรเลียและที่ญี่ปุ่นด้วยครับ คุณศรัณธรรีบกล่าวโมทนา และเอ่ยว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดให้ใหม่แต่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ เราสองคนรีบกล่าวลาเพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้วรู้สึกเกรงใจเจ้าของบ้าน ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    อาทิตย์แรกที่ไปถึงเข้าพิธีนะเมตตา รับพ่อปู่ชูชก<O:p></O:p>
    รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ไปพบครูบาคำเป็งที่บ้านญาติธรรมท่านหนึ่งเป็นอดีตโรงงานทำเสาเข็มอยู่แถวๆถนนตก ข้าพเจ้าไปก่อนเวลาเลยได้มีโอกาสขึ้นไปกราบท่านที่ชั้นบนซึ่งคุณบรรพต เพื่อนชาวเวปพลังจิตเช่นกันนำขึ้นไปพบและแนะนำว่า คุณหม่อมแกบินมาจากออสเตรเลียเพื่องานนี้โดยเฉพาะเลยครับหลวงปู่ หลวงปู่ช่วยเปิดกระหม่อมให้ด้วยครับ ขอพิเศษๆเลยนะหลวงปู่ ขอครูบาท่านก็เมตตาให้เป็นพิเศษ เรียกเข้าไปให้แบมือแล้วท่านเปิดกระหม่อมด้วยวิชาพลังดูดและสอนให้ทำตามแบบท่านซึ่งสามารถดูดพลังจากเทพฯมาลงที่วัตถุที่ต้องการได้ และเราก็สามารถรับรู้กับพลังนั้นได้(ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเป็นพลังอะไร แล้วจะเอาไปใช้ยังไง ) หลังจากเสร็จพิธีท่านถามเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ออสเตรเลีย สนทนากันสักพักก่อนลาลงมาพบคณะชั้นล่างได้ขอบูชาเครื่องลางของขลังท่านมาอีก หลวงปู่ครับ ขอที่ค้าขายดีๆ เฮงๆ รวยๆ เอาถูกล็อตโต้รางวัลที่หนึ่งนะครับหลวงปู่ แหมขอซ๊ะครบเลยนะ ท่านก็เมตตาบอก เอ้าเอาชูชกนี่ไป เอาไปสองตัวเลย เอ้าเอาตัวเล็กไปด้วย นี่ก็ดี เอ้าอันนี้แถมเอ้าเอาไปอีก ท่านเอามาให้ซะเยอะแยะเลย ก็อยากขอโน่นขอนี่ดีนัก เบ็ดเสร็จได้ชูชกมาหกตัว ที่บ้านก็มีอีกหนึ่ง แหมงวดนี้สงสัยชูชกมาแรง ขอได้ตลอด<O:p></O:p>
    ลงมาทำพิธีชั้นล่าง ช่วงภาคเช้าเป็นการเรียนพลังจักรวาล ซึ่งเคยเรียนมานานแล้ว ถือว่าได้ทบทวน ส่วนช่วงบ่าย ครูบาคำเป็งท่านมาลงนะเมตตาให้ มีกาสวดมนต์ว่าคาถาแล้วนำสีผึ้งของหลวงปู่ทาไปตามร่างกาย พอจบพิธี หลวงปู่แจกของดีอีกรอบ มีการจับฉลาก รางวัลใหญ่เป็นรูปหล่อหลวงปู่แกะสลักจากขี้เหล็กไหล สวยงามมาก ราคาบูชาอยู่ที่สามพันบาท เงินที่ได้ทั้งหมดท่านเอาไปสร้าง<O:p></O:p>
    โบสถ์ วัดท่านอยู่ที่กำแพงเพชร ข้าพเจ้าเองมั่นใจว่าจะเพราะมีชูชกหลายตัว ต้องได้ซิน่า ปรากฎว่าคนอื่นได้ไป รางวัลที่สองก็แล้ว สามก็แล้ว เอ...ไม่เห็นได้อะไรเลย จนมาถึงชูชกตัวเล็กที่หลวงปู่พกติดตัวตลอด ท่านแกะออกมาจากย่าม ข้าพเจ้าเห็นแล้วบอกได้เลยว่าน่าจะเป็นของเรานะ คุณโคมฉายซึ่งเป็นคนจับเบอร์ฉลาก พอล้วงลงไปจับเบอร์ขึ้นมายังไม่ทันคลี่ดูก็ชี้มือมาที่ข้าพเจ้า ครับ..เจ้าของชูชกก็คือคุณคนนี้ครับพร้อมกับคลี่กระดาษ เบอร์ 58 ข้าพเจ้าลุกขึ้นยืน ว่าแล้ว..ผมเห็นแสงแว๊บหนึงมาที่พี่พี่คนนี้มาไกลครับ มาจากออสเตรเลีย มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เหมาะสมแล้วสำหรับรางวัลนี้ครับ ข้าพเจ้าเดินไปรับปู่ชูชกมาด้วยความยินดี นึกกระหยิ่มในใจว่าเรานี่ดวงถูกกับปู่ชูชกจริงๆ สาธุ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2009
  18. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    อาทิตย์ที่สอง ทัวร์อีสานกับคณะญาติธรรมชาวเวปพลังจิตffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    อาทิตย์ถัดมานัดคุณเตอร์ เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันในเวปพลังจิต แกอ่านเจอกระทู้ที่ข้าพเจ้าโพสบอกบุญเรื่องอยากหาร้านที่จะซื้อผอบเจดีย์ราคาถูก แกเลยโทรมาบอกว่ามีที่ร้านพัชรพัฒน์ท่าพระจันทร์พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงอาสารหบูชา มีหลายคณะจัดรถผ้าป่าไปตามวัดต่างๆ ข้าพเจ้าเองอยากไปกับคณะของธรรมศาสตร์ไปหลายวัดและมีวัดหลวงตามหาบัวด้วย เนื่องจากเขาจัดรถตู้เพียงคันเดียว จึงไม่มีที่นั้งแต่ก็บอกเขาว่าขอสำรองไว้นะครับถ้ามีใครสละสิทธิ์ละผมขอ ส่วนอีกคณะไปวัดหลวงตามหาบัวเช่นกันแต่วัดที่จะแวะไม่ค่อยรู้จักเดินทางด้วยรถสี่สิบที่นั่งพัดลม อยากไปก็อยากไปแต่นึกถึงสภาพรถแบบขนส่งแล้วไม่น่าจะไหว ส่วนคุณเต้อเองก็จัดเหมือนกันเป็นรถตู้ ที่ยังพอมีครับถ้าพี่จะไป ผมอยากให้พี่ไปทำบุญกับผมครับ เสียงคุณเต้อเชิญชวน แต่ถ้าที่เต็มผมอาจะจะจัดอีกคัน ไม่ต้องห่วงครับ ข้าพเจ้าตอบตกลงหลังจากตัดสินใจแล้ว คณะนัดเจอกันหน้าราม หกโมงเช้า ข้าพเจ้าออกไปรอแต่เช้ากลัวไปสาย คุณเต้อเป็นชายรูปร่างค่อนข้างผอมสูง ผิวขาวอายุราวสี่สิบกว่า อัธยาศัยดีเหมือนพระ แกจัดรถตู้สองคัน ผมถามไปถามมามีเพื่อนๆที่เคยไปทำบุญด้วยกันอยากไปกันหลายคน ก็รู้จักกันเวลาไปทำบุญนี่แหละครับคนนั้นก็อยากไปคนนี้ก็อยากไป เลยจัดรถสองคัน เดี๋ยวค่ารถเราหารกัน วัดแรกที่ไปมีการหล่อสมเด็จองค์ปฐม คุณเต้อแกนำคริสตัลไปประดับที่ซุ้มเรือนแก้ว คณะเราเลยช่วยกันติดคริสตัล สวยงามมาก มีการผสมปูนเทปูน นับเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสส่งถังปูนขึ้นไปเทหล่อพระ ญาติโยมทั้งหญิงชายต่างยืนเข้าแถวแล้วส่งถังปูนที่ผสมจากชั้นล่างขึ้นไปเทหล่อพระชั้นบน เป็นพระหล่อพิมพ์ปูนหน้าตักสิบศอกเห็นจะได้ หลังอาหารเที่งที่วัดเราเดินทางต่อไปอีกวัดหนึ่ง ไม่ไกลกันไปทอดผ้าป่าสร้างสะพาน เพราะสะพานข้ามคลองเข้าวัดผุพังจนน่ากลัวท่านเจ้าอาวาสท่านเพิ่งมาจากอเมริกา ท่านสอนดีมาก ท่านบอก เอ้ามาทดสอบกันดูซิพวกโยมมีสติกันดีใหมถ้าอาตมาบอกอะไรแล้วโยมอย่าเพิ่งทำตามนะจนกว่าจะสั่งว่าทำได้ แล้วจึงค่อยทำท่านอธิบายไปเรื่อย เอาหละ ทีนี้ทุกคนยืนขึ้น ทุกคนลุขึ้นยืนพรึบ อ้าวยังไม่ได้สั่งให้ทำเลย ยืนทำไมทุกคนหัวเราะกันใหญ่หลงกลท่านตั้งแต่ยกแรกเลยท่านยังคงไม่เลิก เอ้าเหลืออีกกี่คนหละที่ยังมีสติ เอ้าลุกขึ้น.....ทำได้ที่เหลืออีกสี่ห้าคนลุกขึ้นอย่างภูมใจ หันซ้าย ไม่มีใครหันทำได้ ทีนี้หันกันอย่างพร้อมเพียง หันขวา ทำได้หันซ้าย ทำได้หันขวา ทำได้แหม..ที่เหลือนี่สติดีกันทุกคนเลยนะ เอาหละนั่งลง ที่เหลือนั่งลงอย่างกระหยิ่ม อ้าว ยังไม่ได้สั่งให้ทำเลย นั่งทำไมหละเสร็จกันไม่เหลือเลยสักคน ก็เป็นที่สนุกสนานกัน วัดท่านร่มรื่นดีมาก มีคนมาปฏิบัติธรรมกัน มีข้อความดีๆติดอยูตามต้นไม้ เรียกว่าต้นไม้สอนธรรม เสียดายจำชื่อวัดไม่ได้ จากนั้นเดินทางไปสุรินทร์ ถึงวัดดึกแล้วร่วมห้าทุ่มวัดอยู่บนเขามีพระประธานเด่นสง่าบนยอดเขา ด้านข้างเป็นแม่น้ำ เล่ากันว่าพอสร้างหลวงพ่อใหญ่เสร็จคืนนั้นท่านเจ้าอาวาสท่านบอกว่าพญานาคท่านลอยขึ้นมาจากแม่น้ำมาอยู่รักษาที่หลวงพ่อใหญ่ เรานอนเรียงกันเป็นตับยี่สิบกว่าคน มุ้งไม่มี แต่ลมแรงคืนนั้นพอหลับตาเหมือนมีคนมาเดินผ่านไปมาอยู่แถวหัวนอน เหมือนมีคนเอาไฟฉายมาส่องที่หัวข้าพเจ้า มีเสียงเด็กวิ่งกันอึกธึกครึกโครม ข้าพเจ้านอนหบับตาปี๋ เอาผ้าเช็ดตัวคลุมศรีษะไว้ ไม่สนใจใครทั้งสิ้น คิดแต่เพียงว่าอยู่กันตั้งหลายคนคงไม่มาลงที่เราหรอน่า(เออ....ช่างคิดนะ)รุ่งเช้าถามไม่มีใครรู้เรื่องสักคน เช้าเราไปดูรอยพระบาทกัน เป็นรอยพระบาทที่แกะสลักขี้นในยุคไหนก็ไม่รู้สมบูรณ์ที่สุดและสวยมาก ทางวัดเอาหนังสือของกรมศิลปมาให้ดูประกอบการอ้างอิงเสียดายจำชื่อวัดไม่ได้อีกเช่นกัน เราไปต่ออีกสองวัด เป็นวัดที่คุณเต้อนำพระธาตุมาบรรจุ ด้วยเพราะท่านกำลังสร้างเจดีย์อยู่ จากนั้นแวะที่วัดโนนจ่าหอม ไปกราบท่านอาจารย์ชยางกูร ท่านจบปริญญาโทและเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่อเมริกาตอนหลังมาบวชเป็นพระแล้วไม่สึก ท่านกำลังสร้างโบสถ์อยู่เช่นกัน ข้าพเจ้ารู้จักท่านมาก่อนทางเวปแต่ไม่เคยพบกับ จึงเรียนให้ท่านทราบ ท่านเอาก้อนหินมาให้ข้าพเจ้าหนึ่งก้อน เอ้า โยมทุบดู ทุบแรงๆข้าพเจ้าออกแรงทุบอีกครั้ง แตกเป็นหลายชิ้น ข้างในมีพลอยสีแสดเม็ดเท่าปลายก้อย เรียกว่าพลอยพญานาค ข้าพเจ้าไม่ตื่นเต้นเท่าไร เพราะเคยมีประสบการณ์แล้ว แต่คณะตื่นเต้นกันใหญ่ มีการถ่ายรูป สัมผัสพลัง ท่านเอาน้ำมาหนึ่งแก้วอมเข้าไปในปากแล้วบ้วนใส่ในถ้วยที่มีพลอยพญานาค มีพลอยออกมาจากปากท่านอีกสองเม็ด ใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย เป็นสีแสด และสีขาว แต่สีขอวนี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีม่วงทีละน้อยๆ เอ้า ให้เขาไป ทั้งหมดนี่แหล ท่านหมายถึงข้าพเจ้า นึกเอะใจปู่ชุชกออกฤทธิ์แล้วเหรอ ท่านชี้ให้ดูต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใต้ใบเป็นกำมหยี่สีน้ำตาลเข้ม นี่ไงใบไม้ที่ให้เราไป หลายคนรีบเข้ามาถาม ใบอะไรเหรอพี่อ้อใบไหลหลง ค้าขายดี ติดไว้หน้าประตู ลูกค้าเข้ามาแล้ต้องกลับมาอีก ท่านให้พระลูกวัดเข้าไปหยิบจากในห้องมาแจกกัน ก็ได้รับกันถ้วนหน้า ที่เหลือท่านส่งมาให้ข้าพเจ้าเป็นปึก เอ้า เอาไป ได้อีกแล้วหรือนี่ บางคนที่ยังไม่ได้หรืได้ไม่พอ บ้างขอฝากเพื่อน ทยอยมาขอข้าพเจ้า เลยแจกจนหมด ก่อนออกจากวัดถ่ายรูปพระใหญ่กันเป็นรูปหล่อพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เห็นช่วงเวลาค่ำแล้วเกิดเป็นดวงเทพมากมาย วัดต่อมามีการสร้างอาคารอยู่สามหลัง ไม่เสร็จสักหลังไม่ทราบด้วยเหตุผมใด พระลูกวัดพูดด้วยน้ำสียงออกเขมรว่า ไม่รู้หลวงพ่อเหมือนกัน สร้างยังไม่เสร็จเลยก็ไปขึ้นหลังใหม่แล้ว อะไรของท่านก็ไม่รู้ เสียดายท่านน่าจะสร้างให้เสร็จไปทีละหลัง จะได้ใช้งานได้ คืนนั้นเราไปค้างกันที่วัดหลวงพ่อชาสุภัทโธ ไปถึงจะสี่ทุ่มแล้ว เขานอนกันหมดต้องค่อยๆย่องกันเข้าไป มีคณะมาปฎิบัติกันร่วมร้อย นอนกันเต็มศาลา คณะเราเข้าไปเพิ่มกันอีกยี่สิบคน ขนาดคนเยอะๆแล้วยุงยังชุมอีก ไม่รู้มันกินไม่อิ่มหรือยังไง นอนไม่ค่อยหลับพอตีสอง ผู้ตนเริ่มตื่นทำธุระส่วนตัวกันละ ตีสามปลุกมาสวดมนต์ทำวัดเช้า คณะเราเพิ่งอาบน้ำเข้านอน ร้องได้คำเดียว โอ้ มายก๊อด ทำวัดเช้าเสร็จก็เลยออกเดินทางไปอีกวัด เป็นพระฝรั่ง สถานที่สะอาดสอ้านมาก เราไปแวะวัดอะไรก็จำไม่ได้แล้วมีพระพุทธรูปขนาดพระประธานสามองค์ องค์กลางเป็นสมเด็จองค์ปฐม คุณเต้อนำพระธาตุมาบรรจุที่เศียรพระประธาน ไปทีแรกมีชาวบ้านอยู่สองสามคน สักพักพากันมาเต็มเลย เขาดีใจที่คนกรุงเทพนำพระธาตุมาถวายเลยมาร่วมอนุโมทนากัน พระงามมากท่านสร้างแบบและหล่อแบบเองเป็นพระพุทธรูปทองเหลือง งามกว่าแถวเสาชิงช้าเสียอีก<O:p></O:p>
    เราไปต่อที่วัดถ้ำดาวเขาแก้ว วัดนี้แถมพิเศษเพราะข้าพเจ้าอยากไปมาก อ่านเจอในหนังสือโลกทิพย์ ท่านอาจารย์ประทวน ท่านมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ใหญ่อยู่ แต่ไปถึงท่านไม่อยู่ เราจึงเข้าไปเยี่ยมชมในถ้ำถึงได้ทราบที่มาของชื่อถ้ำดาวเขาแก้ว เพราะเพดานถ้ำ เป็นรอยแร่หินโผล่ออกมาเป็นดวงๆคล้ายดาวหรือลายเสือดาวทั้งถ้ำ และตามข้างผนังถ้ำจะมีแร่ควอซ์เป็นแผ่นใหญ่ๆเมื่อเอาไฟฉายกดส่องไปที่หินก็จะเห็นเหมือนเป็นแก้ว เดินออกมาด้านหน้าถ้ำ ข้าพเจ้าพบพระองค์หนึ่งเข้าไปเรียนถามท่านเกี่ยกับหลวงปู่ใหญ่ เพราะที่วัดแห่งนี้ก็มีทั้งรูปหล่อขนาดใหญ่และรูปภาพของหลวงปู่ใหญ่เช่นกัน ท่านได้แต่ยิ้มๆยังไม่ทันตอบอะไร โอ๊ย...ไม่ต้องไปตามหาหลวงปู่ใหญ่ที่ไหนหรอกคะ หลวงปู่ท่านอยู่ในใจเรานี่แหละ ยิ่งตามหาเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่มีวันเจอ เสียงแม่ชีที่ยืนกวาดถ้ำ ช่วยตอบแทนพระองค์นั้น ครับ เพียงแต่ผมอยากทราบเรื่องราวของหลวงปู่ใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับที่วัดนี้ ว่าท่านเคยมาที่วัดหรือเคยมีเรื่องราวใดเกี่ยวกับท่านบ้างครับ ข้าพเจ้าถามต่อ หลวงปู่ใหญ่ท่านจะไปไหนมาไหนไม่มีใครรู้หรอก และท่านก็อาจไปในรูปแบบต่างๆ บางที่ก็เป็นพระบางทีก็เป็นเณร บางทีก็เป็นพระวิกลจริตก็มี เอาแน่ไม่ได้หรอกโยม แม่ชีไม่ยอดเปิดโอกาสให้พระท่านพูดเลย ท่านเลยได้แต่นั่งอมยิ้ม คือผมมาจากออสเตรเลียครับ มาคราวนี้ก็อยากมากราบวัดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ ตอนนี้ผมทำงานเกี่ยวเนื่องอยู่กับการแจกพระธาตุ ก็มีอยู่สองเรื่องนี่แหละครับ ผมพยายามรวบรวมพระธาตุจากเมืองไทย แล้วนำไปถวายต่อวัดต่างๆในออสเตรเลีย หรือประเทศอื่นๆสุดแล้วแต่ว่า ศรัทธาหลวงพ่อองค์ไหนผมก็ถวายครับ เพราะถือว่าได้ถวายของที่มีค่าที่สุดที่นับถือที่สุดกับท่าน ตอนนี้ก็ถวายไปกว่ายี่สิบวัดแล้วครับ ข้าพเจ้าสาธยายต่อ ที่ออสเตรเลียผมเคยนิมิตเห็นหลวงปู่ใหญ่เห็นแค่ท่อนบนครับ เป็นพระหนุ่มหน้าตาท่านผ่องใสมาก ผมท่านขาวหมดเลย ท่านมาแป๊บเดียวครับ แล้วอีกทีก็ได้กลิ่นหอม หอมแบบไม่เคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อนครับเขาเรียกว่าหอมศีลโยม ตอนนี้โยมได้กลิ่นหอมไหมล่ะ ที่หลวงพี่ท่านไง หลวงพี่ท่านหอมนะ หอมศีลข้าพเจ้าทำจมูกฟุดฟิด พลางนึกในใจไม่เห็นมีกลิ่นอะไรเลย มีแต่กลิ่นขี้ค้างคาวตุๆในถ้ำ ผมไม่ได้กลิ่นนะครับ สงสัยจมูกไม่ค่อนดี เอ่อ....หลวงปู่ใหญ่ท่านลงทรงได้ใหมครับ เพราะเคยมีว่าที่บ้านผมที่ออสเตรเลียท่านมาลงทรงด้วยครับ ข้าพเจ้าถามรุกอีกเพื้อค้นหาความจริงเกี่ยวกับหลวงปู่ใหญ่ ท่านเคยมาหาแม่ชีเหมือนกันตอนที่แม่ชีไม่สบาย พอแม่ชีเห็นท่านงี้วาบเลยตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ท่านมาช่วยรักษาให้แม่ชี แม่ชีรีบสวนกลับและเริ่มเล่าเรื่องของแม่ชี ในอดีตชาติว่าเคยเป็นเณรรับใช้หลวงปู่ใหญ่ ข้าพเจ้าเห็นว่าสมควรแก่เวลาลาแล้ว และคิดว่ายังไงก็คงไม่ได้สนทนากับหลวงพี่ท่านแน่เพราะแม่ชีจะคอยตอบแทนเสียหมด ผมเห็นทีจะต้องกราบลาแล้วครับ ได้เวลาแล้วเดี๋ยวคณะจะคอยครับข้าพเจ้าก้มกราบลาพระแล้วหันมาลาแม่ชี สาธุ....อนุโมทนากับโยมด้วย แล้วนี่จะไม่ขอพระธาตุจากแม่ชีบ้างหรือ”<O:p></O:p>
    แม่ชีตอบทิ้งท้ายทำให้ข้าพเจ้าหันขวับรีบตอบด้วยความดีใจ ขอครับ ขอเอาไว้ไปถวายที่ออสเตรเลียครับ งั้นตามแม่ชีไปที่กุฎิ ว่าพลางแมีชีก็เดินนำหน้วลิ่วออกจากถ้ำ แม่ชีพามายังกุฎิที่ท่านพัก เป็นห้องเล็กๆ ห่างจากถ้ำไม่มากนัก ข้าพเจ้าก้มกราบที่หน้าโต็ะหมู่บูชา พร้อมกับยื่นซองพลาสติกสำหรับใส่พระธาตุซองเล็กๆซึ่งมีติดตัวมาเพียงสองซอง แม่ชีบ่นเสียดายว่าซองน้อยไป อยากจะให้ทุกแบบที่แม่ชีมี จะปนกันก็ไม่สมควรและจะคัดแยกชนิดลำบาก เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะโยม แหมที่จริงก็มีหลวงปู่ใหญ่จะให้ด้วยนะ แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่กับแม่ชี เอาไว้ตราวหน้าละกันคงจะอีกนานครับกว่าจะได้มาเมืองไทยอีกที ไม่เป็นไรครับ ข้าพเจ้ากล่าวด้วยความเสียดาย เอ่อ..นี่ลูกอะไรครับสายตาข้าพเจ้าจับจ้องไปที่ลูกกลมๆขนาดใหญ่สองลูกขนาดเล็กสองลูก ดูแล้วคล้ายลูกสาลี่ แต่ทำไมกลมดิกเลย แม่ชีไม่ตอบแต่เดินมาปิดประตูกุฎิทำให้ห้องนั้นมืดลงทันที และทันใดนั้นข้าพเจ้าได้เห็นแสงสว่างเรืองๆออกมาจากทั้งสี่ลูกเหมือนดวงไฟ คล้ายฟอสฟอรัสเรืองแสง เขาเรียกว่าหินสุริยันต์จันทราจ๊ะโยม จากนั้นแม่ชีก็เปิดปประตูกุฎิ ให้แสงภายนอกเข้ามาทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาพเดิม แม่ชียื่นซองที่บรรจุพระธาตุแล้วมอบให้ข้าพเจ้า พร้อมกำชับว่า มาคราวหน้าจะให้มากกว่านี้ แม่ชีเองก็อยากร่วมทำบุญกับข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้ากระพุ่มมือรับ ขอบพระคุณมากครับ เอ่อ..ขอสักลูกได้ใหมครับจะเอาไปทำอะไรล่ะ ไม่ใช่ของแม่ชีหรอกเขาฝากเอาไว้ผมอยากได้เอาไปไว้ที่ออสเตรเลีย เพราะที่นั่นคงหาดูได้ยาก แล้วก็จะถวายวัดแต่ยังไม่ทราบว่าวัดไหนครับเอ้า...ให้ลูกหนึ่ง แพงนะเนี่ย โยมเอาไว้นั่งสมาธิก็ดีนะข้าพเจ้ารับมาด้วยความดีใจและก้มลงกราบลาแม่ชี ออกมาจากกุฎิ เจอคุณเต้อมายืนรอ เพราะคณะพร้อมกันหมดแล้ว ข้าพเจ้ารีบวิ่งนำคุณเต้อขึ้นรถพร้อมกับกล่าวคำขอโทษขอโพยที่ทำให้คณะรอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอาของต่างๆที่ได้รับจากแม่ชีออกมาอวด<O:p></O:p>
    ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องในใจสาธุ...พ่อปู่ชูชกแผลงฤทธิ์อีกแล้ว จากนั้นคณะเดินทางกันต่อไปยังวัดถ้ำเขานารายณ์ แต่กว่าจะถึงก็ค่ำแล้ว ไม่มีเวลาได้เข้าไปชมในถ้ำก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพ รถแวะส่งตามจุดต่างๆ จุดสุดท้ายคือบ้านคุณเต้อ ข้าพเจ้าขอไปลงที่บ้านคุณเต้อเพราะจะต้องไปรับพระพิฆเนศร์ที่คุณเอื้อมเดือนฝากมาให้ พร้อมกำชับว่าให้เอาไปออสเตรเลียด้วย หลวงปู่ใหญ่ท่านลงให้เป็นพิเศษเลย ให้ไปช่วยคุณหม่อมที่ออสเตรเลียโดยเฉพาะ หนักมากครับองค์นี้ และมีผอบพระธาตุมาด้วยครับคุณเต้อเดินอุ้มมาส่งให้ข้าพเจ้าที่รถแท็กซี่ซึ่งเรียกรอไว้แล้ว ขอบคุณมากครับ โอ้โห...หนักจริงๆ ลำบากคุณเต้อแย่เลยครับไม่เป็นไร เห็นว่าเอามาได้ก็เอามาให้ครับ คุณเอื้อมเดือนแกอุตส่าห์ขนจากบ้านมาฝากผมเพื่อให้คุณหม่อม โชคดีแล้วครับ สวัสดีครับ ร่ำลากันเสร็จกว่าแท็กซี่จะถึงบ้านก็ร่วมสองยาม ข้าพเจ้ารีบแกะกันกระแทกออกดู โอ้โหเป็นพระพิฆเนศร์ที่แกะสลักจากหินที่งามมาก ท่านนั่งเอกขเนกอย่างมีความสุข ทาสีทองทั้งองค์และประดับด้วยพลอย แลดูเก่าและขลังอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆคือถูกใจข้าพเจ้ามาก เรียกว่างานนี้ต้องเอากลับออสเตรเลียให้ได้ว่างั้นเถอะ ส่วนอีกผอบปิดฝาแน่นภายในเป็นพระธาตุที่บรรจุอยู่เต็มผอบ คืนนั้นข้าพเจ้านอนหลับอย่างมีความสุขและเต็มตื้นในหัวใจหลังจากเสร็จสิ้นภาระแสวงบุญในทริปทัวร์อีสาน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2009
  19. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ขอรบกวนเรียนเชิญท่านที่พอมีเวลาและปรารถนาที่จะทำงานเพื่อพระศาสนาร่วกับผมในต่างแดนร่วมเป็นคณะกรรมการของชมรม"พระธาตุและมงคลวัตถุเพื่อสันติภาพของโลก"ในโครงการณ์ "พิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาไทยแห่งแรกในญี่ปุ่นและแห่งแรกในอินเดีย"ร่วมลงชื่อเพื่อสะดวกในการติดต่อและร่วมทำงานครับ
    และขอท่านที่ยินดีรับเป็นแกนกลางในการติต่อของเมืองไทยด้วยครับ ท่านใดอยากรับหน้าที่ใดระบุได้ครับ
    คุณคณานันท์ คุณศรัณธร คุณเม้า คุณยายผีป่า คุณเต้อ คุณอนุชวนครับ สะดวกใหมครับ ญาติธรรมชาวเวปทุกท่านครับ ช่วยอนุเคราะห์ด้วยนะครับ ตอนนี้ผมทำงานอยู่คนเดียว งานมันใหญ่และเนื้องานเยอะมาก เกรงว่าจะรับไม่ไหวซะแล้ว ขอบคุณครับ
     
  20. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 12:06 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เตอร์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2006
    ข้อความ: 1,814
    Groans: 0
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 338
    ได้รับอนุโมทนา 21,682 ครั้ง ใน 1,737 โพส
    พลังการให้คะแนน: 843 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>ตอบครับ

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>จากข้อความที่ส่งมาว่า.......

    ขอแรงช่วยอีกครั้งครับ และช่วยเป็นศูนย์ที่เมืองไทยด้วยจะสะดวกใหมครับ หรือจะช่วยวิธีไหนก็ได้ครับ ช่วยหาของให้ด้วยยิ่งดีครับ อยากให้ไปอินเดียด้วยกัน อธิฐานให้ดีเอาของไปถวายและทำพิพิธภัณฑ์ด้วยกันสักครั้ง ทุ่มสุดตัว สุดๆไปเลย......สาธุ....สาธุ.....สาธุ
    ผมลงในหน้าประชาสัมพันธ์ อนุโมทนาบุญ ครับ รีบเข้าไปอ่านด่วน........

    ยินดีที่จะเป็นศูนย์กลางที่ประเทศไทยให้ครับ

    เรื่องไปอินเดีย ถ้าเป็นประมาณปีหน้าปลายปี มีความเป็นไปได้ครับ
    __________________

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...