เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

​

 

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นวันพระใหญ่แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ - ๘ สองวันที่ผ่านมามีญาติโยมโทรเข้ามาเพื่อที่จะขอบูชาพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านของทางวัดท่าขนุนกันมาก เนื่องจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน

สาเหตุแรกก็คือคุณอัครเดช ขอสงวนนามสกุล บ้านโดนไฟไหม้ราบพนาสูญ ปรากฏว่าพอผ่านไป ๒ วัน ไปคุ้ยดูบริเวณหิ้งพระ เจอพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านที่เป็นเนื้อผง ไฟไม่ไหม้ คุณอัครเดชก็เอามาโพสต์ลงในกลุ่มเพจพระเครื่องในทำเนียบ ++หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน คนก็เลยฮือฮาเร่งหากันใหญ่ เพราะว่าโดยปกติแล้วไฟไหม้ขนาดนั้น เหรียญโลหะยังละลาย แต่นี่พระที่เป็นเนื้อผงไม่เป็นอะไรเลย มีทีท่าว่าจะกลายเป็นเซรามิกอีกด้วย

ส่วนอีกท่านหนึ่งเป็นพระอยู่ประเทศลาว ยูสเซอร์เนมในเฟซบุ๊กเป็นภาษาลาว กระผม/อาตมภาพอ่านได้ความว่า ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกอย่างเป็นอนัตตา ท่านทุกสิ่งฯ ไปลงเอาไว้ว่า สร้างวัดที่ประเทศลาวได้สำเร็จ เพราะพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่นนี้ แล้วก็ลงรูปพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านทั้ง ๔ สี ก็คือ เขียว ขาว แดง เหลือง ครบถ้วนเลย ต้องบอกว่าเก่งมาก

เหตุที่บอกว่าเก่งมาก เพราะว่าท่านอยู่เมืองลาว แต่มีพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน ครบ ๔ สี ปกติแล้วคนอยู่เมืองไทยยังหาสีขาวยากที่สุด เนื่องเพราะว่าสีขาว อาตมภาพเอามาแจกฟรีที่วัดท่าขนุนนี้ ใครทำบุญเท่าไรก็ให้ ๑ องค์ ก็เลยหมดไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ท่านกลับมี แล้วก็ยืนยันว่าเป็นเพราะอานุภาพของพระรุ่นนี้ ทำให้ท่านสร้างวัดที่ประเทศลาวได้สำเร็จ โดยที่เงินทองไม่ขาดมือ ก็เลยเป็นเหตุให้ตามเพจต่าง ๆ วิ่งหาพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๒ ของวัดท่าขนุนกันใหญ่

ทางวัดเองก็ยังไม่รู้ว่าเหลือกี่สิบองค์ เนื่องจากว่ามีเหลือเฉพาะส่วนที่อยู่ที่บ้านเติมบุญสำหรับจำหน่ายเท่านั้น ขอยืนยันว่าอยู่ในหลักสิบเท่านั้น เพราะเท่าที่เห็นก็มีไม่ถึงกล่อง แล้วก็เลยลามไปถึงพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ แต่คราวนี้จากรูปที่เขาส่งให้ดู อาตมภาพเห็นแล้วไม่ค่อยสบายใจ เพราะว่าคนที่เอามาจำหน่ายมีพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ เนื้อผงเยอะมาก แต่ไม่มีกล่องเลย

พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน ไม่ว่าจะรุ่น ๑ หรือรุ่น ๒ มีกล่องทุกองค์ ถ้าไม่มีกล่อง หรือว่าร้องหากล่องเดิมจากผู้จำหน่ายไม่ได้ ยังไม่ควรที่จะไปเสี่ยง เพราะว่าสมัยนี้การถอดบล็อกด้วยคอมพิวเตอร์ สามารถทำได้เหมือนทุกจุด แม้กระทั่งตำหนิ มีอย่างเดียวคือต้องวัดขนาด เพราะว่าจะเล็กกว่าต้นฉบับประมาณ ๑ มิลลิเมตรกว่า ๆ เท่านั้น หรือไม่ก็ดูเนื้อที่เป็นส่วนผสม ซึ่งถ้าหากว่าเราดูไม่เป็น ก็จะดูยากอีก

เพียงแต่เตือนว่า ในส่วนของพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านของทางวัดท่าขนุนทั้ง ๒ รุ่น..ต้องมีกล่อง เนื่องจากอาตมภาพสั่งกล่องไปเกินด้วย เหตุที่สั่งกล่องไปเกิน เพราะว่าตอนแรกจะสั่งทำเนื้อชินตะกั่วพรายเงิน แต่แล้วก็ตัดสินใจว่าทำแค่ชุดกรรมการ ๓๐๐ ชุดก็พอ แต่กล่องสั่งไป ๓,๐๐๐ กล่องแล้ว ก็เลยเหลือบานตะเกียง ทุกวันนี้ใครจะจำหน่าย ถ้าหากว่าไม่มีกล่อง มาขอซื้อที่วัดท่าขนุนได้ ยังมีอยู่หลายลัง จะขายกล่องให้ราคาแพงเท่าองค์พระเลย..!

 

คราวนี้พอญาติโยมทั้งหลายมาหาวัตถุมงคลรุ่นเก่า ซึ่งส่วนมากแล้วทางวัดก็ไม่มี จึงเดือดร้อนถึงคนรับโทรศัพท์ คนรับโทรศัพท์ก็ประสาทรับประทาน เพราะว่าคนบูชาจะเอาให้ได้ แล้วโดยเฉพาะท่านทั้งหลายมีนิสัยอย่างหนึ่ง ที่ทำให้กระผม/อาตมภาพเลิกใช้โทรศัพท์มาหลายปีก็คือ "ถ้าตัวกูไม่นอน คนอื่นก็ต้องไม่นอนด้วย" ดึกดื่นเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ถ้าโยมไม่นอน..โยมก็โทรมา เพราะคิดว่าพระก็ยังไม่นอนด้วย ขอให้มีความสุขความเจริญ..!

โปรดรู้จักเกรงใจกันบ้าง ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายกันจริง ๆ หลัง ๖ โมงเย็นแล้ว กรุณาอย่าได้โทรมา สมัยก่อนที่อาตมภาพยังรับโทรศัพท์ด้วยตนเอง ขนาดหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดโทรมาตอนกำลังทำวัตรค่ำ ยังเปิดเสียงทำวัตรให้ท่านฟังไปเกือบ ๕ นาที จนท่านวางหูไปเอง เพราะว่าอาตมภาพไม่พูดด้วย..!

เรื่องของการอยู่ร่วมกันในสังคม เราต้องมีความเกรงใจต่อกัน ตรงนี้อยู่ในสังคหวัตถุ ๔ ก็คือ ธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์ให้คนรักใคร่ เมตตาต่อกัน ได้แก่ สมานัตตตา ที่อาตมภาพแปลว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ใช่คิดแต่ประโยชน์ของเราโดยเฉพาะเท่านั้น อยากได้เดี๋ยวนี้ ต้องโทรเดี๋ยวนี้ ไม่ดูเวล่ำเวลา แต่จะว่าไป ก็เป็นเวรเป็นกรรมของคนรับโทรศัพท์เหมือนกัน เพราะอาตมภาพสั่งไว้แล้วว่า ๖ โมงเย็นให้ปิดโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ยอมปิด ถ้าอย่างนั้นก็ตื่นกลางดึกไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน..!

อีกเรื่องหนึ่งที่เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนี้ก็คือ เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กำลังระบาดหนักมาก แต่ว่าที่ระบาดหนักมากของจังหวัดกาญจนบุรี ที่พบผู้ติดเชื้อถึง ๒,๖๐๐ กว่าคน ก็เพราะว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ใช้วิธีตรวจเชิงรุก บุกเข้าไปทุกโรงงาน ในเมื่อตั้งใจตรวจหาในลักษณะเชิงรุก ก็เลยพบว่ามีคนงาน โดยเฉพาะต่างด้าวจำนวนมาก ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ก็เลยกลายเป็นตัวแพร่เชื้ออย่างดี ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของจังหวัดกาญจนบุรีพุ่งกระฉูด แต่ก็ไม่น่าตกใจ เพราะว่าจังหวัดไหน ๆ ก็ตาม ถ้าตรวจเชิงรุกแบบจังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าดีไม่ดีจะเจอมากกว่าอีก..!

คราวนี้ท่านทั้งหลายพึ่งวิทยาศาสตร์ก็คือวัคซีน พึ่งแพทย์ศาสตร์ คือ การรักษาพยาบาลตามแนวใหม่ พึ่งเวชศาสตร์ คือ ยาสมุนไพรทุกประเภท เล่นเอาครัวแทบจะร้างแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม มะนาว กระชาย อะไรก็เอามาใช้กันหมด อยู่ในลักษณะว่า สูตรใครสูตรมันแล้ว ก็คือจนแต้มขึ้นมา ก็ต้องหาทางดิ้นรนด้วยตนเอง กระผม/อาตมภาพก็เลยอยากจะเพิ่มเติมไสยศาสตร์ให้ด้วย..!

 

สมัยหนึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมอบคาถาให้ ๒ บท แต่ท่านให้ใช้ต่อเนื่องกันเป็นบทเดียว เป็นคาถาของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณบทหนึ่ง เอาไว้ป้องกันอันตรายทุกอย่าง และเป็นคาถาของสมเด็จพระพุทธกัสสปอีกบทหนึ่ง เอาไว้ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะใช้ในการเสกข้าวกิน

ตัวคาถาว่า พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ บทที่สองว่า พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ

ถ้าหากว่าเสกอาหารจะเป็นยา ตั้งใจอธิษฐานรักษาโรค ป้องกันโรคอะไรก็ตามแต่ใจของเรา แต่ให้นึกถึงเจ้าของพระคาถาก็คือสมเด็จพระพุทธกัสสปด้วย ถ้าจะป้องกันภัยอันตราย ก็นึกถึงท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณด้วย แต่ว่าต้องบูชาครูเสียก่อน ก็คือมี บัวขาว ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม ธูป ๕ ดอก ตั้งใจบูชาครู ขออนุญาตต่อสมเด็จพระพุทธกัสสปและท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ ขอให้ใช้คาถานี้แล้วให้มีผลดังที่ท่านตั้งใจประสิทธิ์ประสาทให้ด้วย

พูดง่าย ๆ ว่าเราต้องเล่นทุกท่า ในเมื่อสารพัดศาสตร์ ทั้งสมัยใหม่ สมัยเก่าเอาไม่อยู่ ก็ต้องเพิ่มไสยศาสตร์เข้าไป แต่ว่าไสยศาสตร์ตัวนี้ จะว่าเป็นไสยศาสตร์โดยตรงก็ไม่ใช่ เพราะเป็นคาถาที่พระพุทธเจ้าประทานมา ต้องใช้คำว่าพุทธศาสตร์ถึงจะถูกต้อง

แล้วโดยเฉพาะวันนี้เป็นวันพระใหญ่ ข้างแรม โบราณเขาเชื่อว่าเป็นวันยมบาลปล่อยผี แล้วทำไมถึงไปตรงกับเมืองจีนได้ก็ไม่รู้ เพราะว่าข้างแรมวันนี้ ของทางเมืองจีนเขาถือว่าเป็นวันปล่อยผีเหมือนกัน แล้วเป็นวันปล่อยผีประจำปีด้วย ท่านทั้งหลายต้องภาวนาเกาะภาพพระให้ดี ผีอะไรมา ก็ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วผีที่มาก็คือผู้ที่ลำบาก อยากได้ความช่วยเหลือ

แต่คราวนี้การที่ผีซึ่งลำบากอยู่มาขอความช่วยเหลือ ก็เหมือนกับขอทานมาหาเรา แต่งตัวอย่างไรก็เป็นแบบขอทาน เช่นเดียวกันกับผีที่มาหาเราเพราะไม่มีบุญ ไม่มีกุศล แต่งตัวได้ดีที่สุดก็คือที่พวกเรามักจะวิ่งกันป่าราบ..! ถ้าหากว่าพวกเราเข้าใจว่า นั่นสวยที่สุดที่เขาทำได้แล้ว แทนที่จะกลัว..ก็จะกลายเป็นสงสารเขาแทน แต่ถ้ายังทำใจไม่ได้ ก็วิ่งไปห่าง ๆ แล้วค่อยไปอุทิศส่วนกุศลให้เขาก็ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ที่มาก็คือต้องการส่วนกุศล

 

อาตมภาพเคยถามเขามาแล้ว ว่า "กินอิ่มไปหรืออย่างไร ถึงได้มาเที่ยวหลอกคน ?" เขาบอกว่า "ไม่ได้หลอกครับ พวกผมตั้งใจจะมาบอกว่า จะมาขอความช่วยเหลือเรื่องอะไร แต่คนเจอมักจะวิ่งหนีเสียก่อน..!" ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่าสวยที่สุดของเขาทำได้แค่นั้น

ในความเป็นโลกทิพย์นั้น ยิ่งบุญมากเท่าไร ก็ยิ่งสวยมากเท่านั้น ก็คือสวยด้วยบุญ ไม่ได้สวยด้วย "มีดหมอ" มีดหมอที่นี่ไม่ใช่มีดหมอที่เรารักษาโรค แต่เป็น "มีดหมอยันฮี..!"

อาตมภาพก็เลยมาบอกกล่าวแก่ทุกท่านว่า วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ควรจะระมัดระวัง เพราะว่าตรงกันทั้งไทยและจีน เป็นวันที่ยมบาลปล่อยผีให้มาโมทนาบุญ เนื่องจากว่าเป็นวันพระใหญ่ ถ้าหากว่าเขาโมทนาบุญ สามารถไปเป็นเทวดานางฟ้าโดยตรงได้เลย ภาระงานของพระยายมราชท่านก็จะน้อยลง ก็ต้องเห็นใจท่านด้วย เพราะว่าแต่ละวันคนตายหลายพัน แล้วช่วงที่เชื่อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดนี้ บางทีเล่นเอาตายหลายหมื่น ท่านเองก็รับงานหนัก ถ้าหากว่าเป็นแพทย์พยาบาลทั่วไป ก็คงประมาณว่าจะเป็นลมคาชุด PPE อยู่แล้ว..!

ถ้าหากว่าท่านปล่อยพวกที่ยังไม่ได้ตัดสินมาหาญาติพี่น้องของตนเอง ถ้าโมทนาบุญได้แล้วไปดี ท่านเองก็ลดภาระของท่านลงไปได้มาก

ดังนั้น...พวกเราทุกคนซึ่งอีกสักครู่หนึ่ง เราจะมีการทำวัตรค่ำรอบสอง และฟังเทศน์กันต่อ เนื่องจากว่าวันพระในพรรษา วัดท่าขนุนมีการเทศน์ทั้งภาคเช้าและภาคค่ำ ก็ให้ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลแก่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นด้วย เพราะว่าบางท่านที่ญาติพี่น้องก็ไม่รู้จักทำบุญสุนทาน ไม่รู้ว่าจะไปไหน ก็ต้องมายืนห่าง ๆ รอดูคนที่เขาตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ไม่ใช่ญาติบ้าง ถ้าได้ที่ไหน ก็จะไปแย่งกันที่ตรงนั้น..!

ก็ขอเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ที่นี่และที่บ้าน ได้รับทราบและช่วยปฏิบัติตามด้วย เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็น่าสงสารมาก..ขอเจริญพร

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)