เยือน"พม่า"ย่ำย่างกุ้ง>>ดินแดนแห่งเจดีย์

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 17 มกราคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 มกราคม 2549 18:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : หมวยเกี๊ยะ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจดีย์คาบาเอ ภายในประดิษฐานองค์พระพุทธรูปเงิน พระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ภาพของนางเอกสาวแสนสวย (จอย : ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) แต่งกายแบบสาวพม่า เดินกางร่มทอดน่องอยู่ ณ มหาเจดีย์ชเวดากองที่เหลืองอร่ามงดงามคู่บ้านคู่เมืองพม่า ในละครดังเรื่องรักเดียวของเจนจิรา มันช่างเป็นภาพที่ฉันจำได้ติดตาและติดใจ ถึงกับขนาดวาดฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งอยากจะไปเยือนประเทศพม่าแห่งนี้ให้จนได้ เพราะว่าอยากจะไปเดินกางร่มรอบเจดีย์ทองชเวดากองแห่งนี้บ้าง

    และแล้วก็เหมือนดั่งฟ้าประทานพร เมื่อฉันได้มีโอกาสไปเยือนดินแดนเจดีย์ทอง แห่งประเทศพม่าตามความใฝ่ฝันที่เป็นจริงขึ้นมาจงได้

    การเดินทางมายังประเทศพม่าในครั้งนี้ ฉันเหินฟ้ามากับเจ้านกเหล็กยักษ์ของสายการบินภูเก็ตแอร์ ด้วยเพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงยังสนามบินเมงกะลาโดง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า

    พอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย เดินออกมานอกสนามบิน ก็มีรถรอรับฉันทันที และก็มีหนุ่มพม่าหน้ามน แต่งกายนุ่งโสร่งเต็มยศแบบหม่องพม่า เอ่ยปากทักทายว่า "มิงกะละบา" (สวัสดี) พร้อมกับแนะนำตัวเองด้วยภาษาไทยแปร่งๆ สำเนียงพม่า ว่าตัวเขาชื่อว่า "อากวง" จะมาเป็นไกด์พาฉันเที่ยวพม่าในทริปนี้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระพุทธรูปหินอ่อน ขนาดใหญ่ที่สุดในพม่าที่ วัดเจ้าดอจี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แล้วอากวงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรมากไปกว่านี้ จัดแจงยกกระเป๋าฉันใส่ขึ้นรถ และก็เริ่มพาออกทริปทัวร์เมืองย่างกุ้งตามโปรแกรมที่วางไว้ทันที โดยมุ่งหน้าไปที่ "วัดเจ้าดอจี" หรือที่คนไทยเรียกว่า "วัดพระพุทธรูปหินอ่อน" เป็นที่แรก แถมยังรีบบอกธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการเดินทางเข้าไปเที่ยวชมศาสนสถานทุกแห่งในประเทศพม่า ให้ฉันรับรู้ว่ามีกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด คือนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องถอดรองเท้า ไม่เว้นแม้กระทั่งถุงเท้าและต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไป ซึ่งชาวพม่าเองก็ปฏิบิติอย่างนี้เช่นเดียวกัน

    ฉะนั้นพอรถมาถึงวัดฉันเลยต้องรีบจัดแจงถอดถุงเท้ารองเท้าไว้บนรถ แล้วเดินเท้าเปล่าลงจากรถ ได้เหยียบได้สัมผัสแผ่นดินย่างกุ้งถึงเนื้อถึงเท้าดี

    อากวงพาฉันเดินขึ้นบันไดหลายสิบขั้น ขึ้นสู่ลานกว้างด้านบนของวัด และสิ่งที่ประจักษ์อยู่ตรงหน้าของฉันก็คือ พระพุทธรูปหยกสีขาวขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในห้องกระจก มีชาวพม่าจำนวนมากพากันนั่งกราบไหว้ และนั่งทำสมาธิอยู่ตรงนั้น

    "นี่คือพระพุทธรูปที่แกะสลักขึ้นด้วยหินอ่อนที่นำมาจากมัณฑะเลย์ ที่มีน้ำหนักถึง 60 ตัน สูง 37 ฟุต เป็นพระพุทธรูปหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า" อากวงบอกฉันให้รับรู้ถึงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

    ฉันแหงนหน้ามององค์พระอีกครั้ง แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองช่างดูตัวเล็กกระจ้อยหร้อยเสียเหลือเกินเมื่อเทียบกับองค์พระท่าน พร้อมทั้งก้มลงกราบสักการะขอพรจากท่านเป็นการใหญ่ แล้วอากวงก็พาเดินชมรอบๆ วัดที่ยังมีพระพุทธบาทจำลองไว้ให้ได้ไหว้กันอีก หลังจากสักการะพระพุทธรูปหินอ่อนเรียบร้อยแล้ว อากวงก็รีบพาฉันตรงไปยังที่เที่ยวต่อไป

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เทพทันใจ ที่ชาวพม่าและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เชื่อว่ามาขอพรแล้วสมหวังทันดังใจ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นั่งรถยังไม่ทันไรก็มาถึงยัง "เจดีย์คาบาเอ" เสียงอากวงแว่วดังอีกครั้ง "ลงมาได้แล้วครับที่นี่คือ เจดีย์คาบาเอ ชื่อคาบาเอ มีความหมายว่าสันติภาพโลก คนไทยเลยมักเรียกว่าเจดีย์โลกสงบสุข เจดีย์แห่งนี้มีลักษณะเป็นทรงกลม สูง 34 ม. สร้างโดยอูนุ นายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า ที่นี่เป็นศาสนสถานที่สำคัญของประเทศพม่า เพราะเคยเป็นที่ทำสังคายนาพระไตรปิฎกเมื่อครั้งที่ 6 เร็วๆ เดี๋ยวจะพาไปชมสิ่งที่น่าสนใจด้านในเจดีย์กัน"

    ฉันออกเดินตามอากวงเข้าไปด้านในเจดีย์ แล้วก็พากันมาหยุดอยู่หน้าห้องๆ หนึ่งตรงใจกลางเจดีย์พอดี ครั้นพอมองเข้าไปด้านใน ก็เห็นเข้ากับความงดงามขององค์พระพุทธรูปเงินขนาดใหญ่ อากวงกระซิบอยู่ข้างๆ หูว่า "หนักถึง 500 กิโลกรัมเชียวนะ"แล้วชี้ชวนให้ฉันดูโถแก้ว 2 ใบ ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง "นั่นคือที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร"

    พอได้รับฟังดังนั้นฉันก็รีบก้มลงกราบพระอัฐิธาตุ แล้วเกิดความรู้สึกอิ่มเอมบุญ สุขใจเอามากๆ ที่ได้มาที่นี่ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่หากครั้งหนึ่งในชีวิตมีโอกาสได้มากราบพระอัฐิธาตุของพระอัครสาวก ถือว่าเป็นบุญบารมี เสริมสร้างสิริมงคลให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงกับยิ้มแบบอิ่มเอมใจออกมาจนอากวงเห็นแล้วร้องทักว่า "อย่าๆ เพิ่งอิ่มบุญ อิ่มใจไป เพราะเดี่ยวเราจะพาไปอิ่มบุญกันต่อที่เจดีย์โบตะทาวน์ ไปไหว้พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ากัน"

    ชั่วอึดใจเดียว ฉันก็มายืนอยู่ ณ เจดีย์โบตะทาวน์ และเบื้องหน้ามีทางเดินเป็นช่องเล็กๆ ที่เหลืองอร่ามไปด้วยทองวาวแววจับตา พอเดินถึงด้านในใจกลางองค์เจดีย์ ก็ได้เห็นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในมณฑปครอบแก้วใสไว้อย่างใกล้ชิด เรียกว่าห่างกันแค่สุดปลายมือเอื้อมถึงเท่านั้น (แต่เอื้อมไม่ถึงหรอกเพราะมีกระจกกั้นอยู่อีกที) ฉันนะออกอาการขนลุกชันเลยขึ้นมาทันทีเลยเมื่อยกมือไหว้พระเกศาธาตุเสร็จ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่ ณ ใจกลางเจดีย์โบตะทาวน์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> พอออกมาจากไหว้พระเกศาธาตุ อากวงก็พาเดินเที่ยวรอบ ๆ บริเวณวัดต่อ มายังพระวิหารด้านข้างเพื่อมาไหว้พระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยที่มีความงดงามยิ่ง และพามายังศาลาที่มีองค์เทพทันใจประดิษฐานอยู่ อากวงบอกว่า เทพองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก เขาว่าขออะไรแล้วจะได้ทันใจสมชื่อท่านเลย งานนี้ฉันเลยรีบขอพรจากท่านไปหลายอย่าง ส่วนจะสมหวังทันใจหรือไม่นั้นคงต้องตามดูกัน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้อากวงส่งเสียงเรียกให้ฉันรีบออกจากที่นี่ เพราะว่าจะพาไปยังสถานที่ต่อไป

    วัดเชาท์ทัตจี คือสถานที่ที่อากวงพามาถึง แล้วบอกกับฉันว่าจะพามาดูพระตาหวาน ฉันรีบถาม "มีด้วยเหรอ พระตาหวาน อย่ามาหรอกกันนะ"

    แล้วอากวงก็ไม่ได้หรอกฉันจริงๆ เพราะภาพของพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์โต มีความยาวกว่า 70 เมตรปรากฏอยู่ด้านหน้าตรงที่ฉันยืน และเมื่อลองเดินไปพิจารณาพระพักตร์ของพระนอนองค์นี้ ก็ได้ประจักษ์ชัดกับตาว่าดวงพระเนตรของพระองค์มีความงามหวานหยาดเยิ้ม สมกับสมญานามที่ว่าจริงๆ และเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ก็ได้เห็นว่าตรงที่พระบาทมีลวยลายธรรมจักรสวยงามแปลกตาดี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัดเชาท์ทัตจี สถานที่ประดิษฐาน องค์พระนอนตาหวาน ที่ชาวพม่านิยมมากราบไหว้ขอพร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ฉันใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานนัก ก็ออกมาจากวัดเชาท์ทัตจี และเอ่ยถามอากวงว่า "เธอพาฉันไปเที่ยวเจดีย์มาก็ตั้งหลายแห่งแล้ว เมื่อไหร่จะพาฉันไปไหว้เจดีย์ชเวดากองเสียทีล่ะ ใจฉันนะอยากจะไปชมความงามของเจดีย์ใจจะขาดแล้ว"

    อากวงรีบสวนทันควัน "แหม!! ของดีไฮไลท์แบบนี้ อดใจรอกันหน่อย เพราะ เดี๋ยวเราจะพาไปเที่ยวที่เจดีย์ชเวกาดองต่อจากนี้กัน" (โปรดติดตามเรื่องราวการเดินทางไปเจดีย์ชเวดากองได้ในตอนต่อไป)

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการมาเที่ยวที่ประเทศ "พม่า"

    นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่ "พม่า" (Myanmar) ต้องยื่นขอทำวีซ่าเข้าประเทศพม่าก่อน เวลา-ของพม่าจะช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที การจราจร-ของพม่ารถจะวิ่งเลนขวาแบบฝรั่งเศส ฉะนั้นเวลาคิดจะข้ามถนนที่พม่าต้องมองซ้ายมองขวาให้ดี สกุลเงิน-พม่าใช้ระบบเงินตราแบบธนบัตรพม่า ที่เรียกว่าจั๊ตหรือจ๊าต อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 20 จั๊ต เท่ากับ 1 บาทไทย

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาเยือนประเทศพม่า ทางสายการบินภูเก็ตแอร์ มีบริการจัดแพ็คเกจทัวร์มาเที่ยวพม่า สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ฝ่ายขายสายการบินภูเก็ตแอร์ โทร. 0-2679-8999 ต่อ 509,510, 507, 503, 351 หรือเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.phuketairlines.com/myanmar


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +1,318
    พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

    [​IMG]

    ประวัติย่อๆ ..
    บรรจุเส้นผมของพระพุทธเจ้า 8เส้น เมื่อครั้งได้ตรัสรู้ใหม่ๆ เส้นผมนั้นได้มอบแก่วานิชสองคนไว้เป็นที่ระลึก ที่ได้ถวายภัตตาหารแด่พระองค์ หลังจากออกนิโรธสมาบัติ
    วานิชนั้นได้นำกลับมามอบแด่กษัตริย์ของตน เพื่อสร้างเป็นพุทธบูชา .... อิริยาบท ลูบพระเกศ ของพระพุทธเจ้านั้น ได้ เป็นต้นแบบ ของพระพุทธรูป ปาง พระเกศธาตุ... ที่กำลังเป็นข่าว ว่าเป็น ปาง ตะเบ๊ะ...
    กษัตริย์ มอญโบราณเป็นผู้สร้าง และได้บูรณะสืบต่อกันมา และได้ถวายทองเพื่อเป็นพุทธบูชา มาเรื่อยๆ
    ทองจากอยุธยา เพิ่งได้มาสมทบในระยะหลังเมื่อพม่าเรืองอำนาจเหนืออาณาจักรมอญ และเข้ายึดครองพื้นที่พม่าเบ็ดเสร็จ จนลามมาถึงเพื่อนบ้าน

    มีการสำรวจว่า ปริมาณทองคำที่องค์เจดีย์ มีปริมาณถึง 53 ตัน จากการสำรวจเมื่อปี 1997 ข้อมูลจากหนังสือ ดาวหงอย(Lonely Planet)
     

แชร์หน้านี้

Loading...