เรื่องเด่น เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 18 พฤษภาคม 2022.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    01-14.jpg

    02-13.jpg

    fb_155031369123.jpg

    562000000225702.jpg



    เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย

    ผู้ถาม : ลูกได้ดูโทรทัศน์ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เบื่อร่างกาย ทรงเล่าเรื่องว่า เคยป่วยอาการหนัก หมอบอกว่าโรคอย่างนี้ไม่สามารถรักษาได้ มีทรงกับทรุด หรือตายอย่างเดียว พระองค์ก็ทรงพิจารณาว่า ร่างกายนี้ไม่ดีหนอ ไม่ขอเกิดอีกแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอสร้างแต่ความดี โดยเริ่มดำเนินการโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า คนที่ไม่อยากเกิดต่อไปอย่างนี้ จะเรียกว่า ตัดสักกายทิฏฐิ ใช่หรือเปล่าขอรับ?

    หลวงพ่อ : ตัดแน่ ตรง! ใช้ได้เลย ตรงเป้าหมายดี
    แต่ค่อยๆ ตัดนะ อย่าตัดแรง ตัดแรงมันเจ็บ อ้าว! จริงๆ ค่อยๆ ตัด คิดไว้ทีแรกว่า อย่าเกิดต่อไปนะ จะต้องค่อยๆ คิดคลายไปทีละน้อยๆ ว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ร่างกายเป็นแต่เพียงธาตุ ๔ มีดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมกันที่เป็นร่างที่อาศัยชั่วคราว มันพังก็พัง แต่เราไม่ยอมพังด้วย เราต้องการไปนิพพานจุดเดียว ค่อยๆคลำ แบบนี้มีหวังแน่นอน

    ผู้ถาม : ของหลวงพ่อบอกว่า ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียวก็ไปนิพพานได้เลย?

    หลวงพ่อ : ไม่ใช่ของหลวงพ่อ ของพระพุทธเจ้า ของพระสารีบุตรท่าน พระพุทธเจ้าอธิบายแล้วพระไม่เข้าใจ คืออาจจะเข้าใจเหมือนกันแต่ไม่มั่นใจ ฟังกรรมฐานจากพระพุทธเจ้าตั้งแต่ต้นจนเป็นพระอรหันต์ ฟังแล้วพระก็ลาจะขอเข้าป่าไป
    ท่านถามว่า พวกเธอจะเข้าป่าไปลาพระสารีบุตรหรือยัง
    ความจริงไม่ได้นัด แต่ทรงทราบว่าถ้าไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรจะพูดว่าอย่างไร
    พระก็บอกว่า ยังพระพุทธเจ้าข้า
    ถ้าอย่างนั้นก็ไปลาพระสารีบุตรก่อน ในเมื่อพระไปลาพระสารีบุตร พระสารีบุตรก็แนะนำตามสมควร
    ต่อมาพระก็ถามว่า เวลานี้ผมเป็นปุถุชนอยากจะเป็นพระโสดาบันจะทำยังไง?

    ท่านบอกให้พิจารณาขันธ์ ๕ พูดง่ายๆ ขันธ์ ๕ คือร่างกาย ใช่ไหม ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริง ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถ้าเธอมีความรู้สึกหรือตัดได้อย่างแน่นอน เธอก็เป็นพระโสดาบัน
    พระก็ถามว่า ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้วจะเป็นพระสกิทาคามีทำยังไง?

    พระสารีบุตรก็บอกพิจารณาอย่างนี้แหละ
    พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระสกิทาคามีแล้ว ต้องการเป็นพระอนาคามีจะทำยังไง?

    ท่านบอกตัดตัวนี้แหละ จนจิตเบื่อหน่ายในร่างกาย เห็นว่าร่างกายสกปรกโสโครกไม่น่ารัก ตัดได้แน่นอนเมื่อไร เวลานั้นเป็นพระอนาคามี
    พระก็ถามว่า ถ้าผมเป็นพระอนาคามีแล้วต้องการเป็นพระอรหันต์จะทำยังไง?

    ก็ตัดตัวเดียวนี้แหละ จนกระทั่งจิตวางเฉย เห็นว่าร่างกายเรา เห็นร่างกายคนอื่นก็เฉย มันจะเป็นยังไง จิตใจก็สบาย มันก็ไม่กลุ้มไปด้วย ถือว่าเป็นธรรมดาของร่างกาย ในที่สุดมันก็พัง อย่างนี้ก็เป็นพระอรหันต์

    พระพวกนั้นในฐานะที่เป็นปุถุชน มีสมบัติเก่าค้างอยู่ คือความขี้เกียจค้างอยู่
    เลยถามพระสารีบุตรว่า ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ไหม?

    พระสารีบุตร บอกไม่ใช่ พระอรหันต์ต้องนึกเป็นอารมณ์เลย หรือเป็นปกติตลอดวัน นี่แสดงสัญลักษณ์เดิมคือขี้เกียจมาก่อนนะ

    ผู้ถาม : ก็แบบหลวงพ่อชาติก่อน ๆ เคยขยัน ชาตินี้ก็เลยขยันต่อ

    หลวงพ่อ : ไม่ใช่ขยัน ชาตินี้ก็เลยขี้เกียจต่อ ขี้เกียจอะไรทราบไหม ขี้เกียจเกิด

    ผู้ถาม : แล้วก็ขี้เกียจแก่

    หลวงพ่อ : แก่มันไม่ขี้เกียจ เพราะกำลังแก่อยู่ จะแก่เรื่อย ๆ ไปจนกว่าจะตาย ตายแล้วยังไม่เลิกแก่ ยังแก่ต่อไปอีก เวลานี้พวกนี้เรียกหลวงพ่อใช่ไหม เมื่อวาน เลื่อนขั้นมีคนเรียกหลวงตาแล้ว แสดงว่าแก่มาก


    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง
    ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๕๑ หน้า ๗๘-๗๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...