เรื่องเด่น อ่วม! ปีนี้ภัยธรรมชาติทำเสียหาย 8.36 ล้านล้านบาท

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 15 ธันวาคม 2021.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    e0b899e0b8b5e0b989e0b8a0e0b8b1e0b8a2e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0b8b4e0b897e0b8b3.jpg

    Swiss Re บริษัทประกันภัยต่อรายใหญ่ที่สุดของโลก ประเมินว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากสภาพอากาศสุดขั้วทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.36 ล้านล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนหน้า

    สำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยเพียงอย่างเดียว เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่หนาวจัด น้ำท่วม พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง คลื่นความร้อน และพายุเฮอริเคนลูกใหญ่ ส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยสูญเสียประกันรายปีจากภัยพิบัติทางธรรมชาติประมาณ 1.05 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 นับตั้งแต่ปี 1970

    ความสูญเสียของผู้เอาประกันภัยจากภัยธรรมชาติในปีนี้ เกินค่าเฉลี่ยของช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอีกครั้ง โดยยังคงเป็นแนวโน้มของการสูญเสียที่เพิ่มขึ้น 5-6 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา


    สำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างความสูญเสียมากที่สุด 2 ครั้งในปีนี้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา นำโดยพายุเฮอริเคนไอดา ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกันตนประมาณ 3.0-3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นยังรวมถึงทำให้เกิดน้ำท่วมในนิวยอร์ก อีกกรณีหนึ่งคือพายุฤดูหนาว Uri ซึ่งทำให้เกิดหิมะตกหนักและอากาศหนาวเย็นจัดจนทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้องในเท็กซัส ซึ่งทำให้ผู้ประกันตนเสียทรัพย์ไปถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์


    ส่วนภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในยุโรปคืออุทกภัยในเยอรมนี เบลเยียม และประเทศใกล้เคียงในเดือนกรกฎาคม ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และคิดเป็นความเสียหายในเงินประกัน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์

    นอกจากภัยพิบัติทางธรรมชาติแล้ว ภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นยังก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 38% จากปีก่อนหน้า และสร้างความสูญเสียต่อผู้เอาประกันภัย 7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

    ขอบคุณที่มา
    https://www.matichon.co.th/foreign/news_3087847
     

แชร์หน้านี้

Loading...