เรื่องเด่น อาชีพหนึ่งเดียวในไทย รับจ้างอยู่ห้องผีสิง พิสูจน์ความหลอน สิ่งลี้ลับ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 29 กันยายน 2019.

  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    อาชีพหนึ่งเดียวในไทย รับจ้างอยู่ห้องผีสิง พิสูจน์ความหลอน สิ่งลี้ลับ!

    ?temp_hash=80c47fe7920f7c704507497c6fdd7631.jpg


    เรื่องราวน่าสลดที่ผ่านมา เมื่อร่างของ "ลันลาเบล" ถูกลากพบเป็นศพในอาคารชุดแห่งหนึ่ง และข่าวสุดช็อกกับการคิดสั้นตัดสินใจลาโลกของ "เหม ภูมิภาฑิต นิตยารส" นักแสดงหนุ่ม บริเวณระเบียงภายในห้องพักคอนโดฯดังย่านลาดปลาเค้า จึงมีคำถามและคนสงสัย จะมีใครกล้าไปอยู่ หรือซื้อห้องพักที่เกิดเหตุหรือไม่?

    ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก เมื่อหนุ่มรายหนึ่ง พร้อมผองเพื่อนไอเดียสุดบรรเจิดประกาศ "รับจ้างอยู่ห้องมีผี" โดยเปิดเพจรับสมัครหาคนใจกล้ามาอยู่ในห้องที่มีประวัติคนเสียชีวิต มีเสียงร่ำลือในความหลอนชวนขนหัวลุก จนหลายคนมองอาจเป็นแนวคิดแบบเล่นๆ ขำๆ ของเด็กหนุ่มเท่านั้น

    สุดท้ายอาชีพแปลกๆ แบบนี้ ถือเป็นหนึ่งเดียวในไทย เป็นไปได้จริงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมีเสียงตอบรับจากบรรดาเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมืองกรุงและต่างจังหวัด โดยเฉพาะโรงแรม รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ คอนโดฯ ห้องชุดต่างๆ เป็นจำนวนมาก มองว่าดีกว่าปิดตายหาประโยชน์ไม่ได้ จึงไปที่มาของแนวคิดในการรับจ้างเข้าไปอยู่อาศัยแบบจริงๆ เพื่อพิสูจน์สิ่งเร้นลับ เรื่องราวสยองในสถานที่นั้นๆ อย่างน้อยก็ได้ช่วยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของสถานที่ในการปล่อยซื้อ ปล่อยขาย หรือให้เช่าพัก ได้อย่างไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

    สำหรับอาชีพนี้ทางผู้ว่าจ้างมีเงื่อนไขชัดเจนต้องเป็นความลับเท่านั้น จากการเปิดเผยของชายหนุ่ม หนึ่งในทีมงานรับจ้างอยู่ห้องมีผี บอกกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” โดยเพื่อนของเขาที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการทำอาชีพนี้ได้เก็บตัวเงียบไม่เปิดเผยตัวตนใดๆ เพื่อทำภารกิจที่ตกลงไว้กับผู้ว่าจ้าง แม้คนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดก็บอกไม่ได้ เป็นงานต้องไปอาศัยอยู่คนเดียวในสถานที่ที่มีผีอยู่ จะเป็นระยะเวลาเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตกลงกันกับผู้ว่าจ้าง ส่วนค่าจ้างอยู่ประมาณหลักหมื่น

    ?temp_hash=80c47fe7920f7c704507497c6fdd7631.jpg

    “งานแบบนี้ไม่มีใครอยากทำ เพราะไม่มีกำไรอะไรมากก็พออยู่ได้ แต่เป็นงานที่ทำแล้วสนุกมาก บางเคสก็จ่ายให้ไม่อั้น มีการจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก 3-4 เดือน ผมอยากให้ในไทยมีบริษัทแบบนี้เปิดมาให้บริการอีก เพราะตั้งแต่ทำมา 3 ปี มีลูกค้ารอคิวยาวลอตใหญ่ ซึ่งตอนเปิดรับสมัครคนมาเป็นทีมงานในช่วงแรกมีเป็นหมื่นคน จากทั่วประเทศ อายุ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อคัดแล้วเหลือ 30-40 คน เพราะต้องใจรัก กล้าพอสมควร มีทั้งคนมีเซนส์ พวกกลัวผีมากๆ และไม่กลัวผีเลย บางคนเจอดีจนหัวโกร๋นทำงานไม่จบ ต้องเลิกกลางคันก็มี ทำให้ตอนนี้ยังคงรับสมัครทีมงานจากรายชื่อคนเคยมาสมัคร เพื่อมาแทนคนที่ออกไป”

    ส่วนเหตุผลหลักๆ ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ลูกค้าเข้าไปพักแล้วเจอสิ่งเร้นลับเรื่องหลอนๆ ด้วยตนเอง จึงจ้างแก๊งพวกเราให้เข้าไปอยู่ ซึ่งแต่ละสถานที่มีทีมงานทั้งหมด 3 คนต้องเข้าไปอยู่ แต่ไม่ได้เข้าอยู่พร้อมกันทั้ง 3 คน โดยจะเข้าไปอยู่ทีละคน รวมถึงคนมีเซนส์พวกนี้ เพื่อทำการพิสูจน์ หากเจอหรือไม่เจออะไร ต้องรายงานผู้ว่าจ้าง นอกจากนี้ที่ผ่านมามีบ้านราคาหลายล้าน ไม่สามารถปล่อยขายได้ ทางเจ้าของได้ติดต่อมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพื่อให้สามารถขายบ้านหรือปล่อยให้เช่าให้ได้ แม้ประวัติที่ผ่านมาอาจไม่สามารถลบความทรงจำผู้คนในละแวกใกล้เคียงได้ก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยบ้านเอาไว้เฉยๆไม่ทำประโยชน์อะไร

    “เคยไปพักอยู่โรงแรมแถวๆ ที่เคยเกิดสึนามิในภาคใต้ ยอมรับมีทีมงานเคยเจอดีกันมาแล้ว ก็ต้องบอกลูกค้าไปตามตรง หรือไม่เจออะไรเลยก็ต้องบอกไป ส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปอยู่ไม่ค่อยเจอสิ่งแปลกๆ หรือบางเคสมีลูกค้ากลัวผีมากๆ ทั้งๆ ที่บ้านหลังนั้นไม่มีอะไร แต่เพื่อความสบายใจได้จ้างพวกเราไปอยู่สักพัก ให้ไปกินไปนอน ดูหนังฟังเพลง เล่นไลน์เล่นแชตได้ทุกอย่าง ยกเว้นห้ามแชร์ตำแหน่งพิกัดสถานที่ทำงาน และเมื่อถึงเวลากินข้าว จะมีคนมาส่งอาหารให้กินทุกมื้อ โดยมีการติดกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อให้คนข้างนอกดูว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”

    ที่ผ่านมาแม้เป็นงานที่ทำแล้วสนุก แต่ต้องยอมรับมีบางเคสทำแล้วรู้สึกเครียด กลัวเป็นอันตรายจากสภาพแวดล้อม หรือบางเคสเป็นเคสที่หนักมากๆ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยกตัวอย่างรีสอร์ตบางแห่งเคยเกิดเรื่องเฮี้ยนสยองขวัญ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาดว่าวิญญาณน่าจะสลายไปตามกาลเวลา ส่วนอีกเรื่องเฮี้ยนที่ทีมงานเคยเจอ ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่งเคยมีคนแก่ผูกคอตาย โดยทีมงานไม่เคยรู้มาก่อนเพื่อไม่ให้เกิดจินตนาการต่างๆ นานา กระทั่งเจอกับตัวเองตรงกับที่หลายคนเคยเจอมาก่อน

    “งานที่ทำถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจ อาศัยจากความเชื่อของคนไทยซึ่งเชื่อในเรื่องผี เรื่องวิญญาณ โดยรับจ้างเข้าไปอยู่สถานที่ที่มีผี แต่ไม่ใช่การปราบผี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าสามารถปล่อยขายปล่อยให้เช่าได้ และที่สำคัญเพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจ เชื่อได้ว่าสถานที่นั้นๆ ไม่มีผีอย่างแน่นอน ซึ่งมีลูกค้าเป็นเจ้าของธุรกิจได้บอกต่อกันปากต่อปากในการเรียกใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนมีคิวยาวไปถึงปีหน้า” หนึ่งในทีมงานรับจ้างอยู่ห้องมีผี กล่าวในตอนท้าย

    ขณะที่ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ซึ่งมีกรณีศึกษาห้องชุดหรือบ้านในลักษณะแบบนี้หลายรายการ ระบุว่า กรณีนี้คงเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว อย่างในอาคารชุดที่ลันลาเบลเสียชีวิตนั้น ผู้ที่ย้ายออกก็คือผู้เช่ารายหนึ่ง แต่เจ้าของคงไม่ย้ายออกเพราะลงทุนซื้อไว้แล้ว บ้างก็ยังผ่อนไม่หมด เมื่อเวลาผ่านไป ก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ

    ส่วนอีกกรณีจากประสบการณ์ของนักวิจัยหนุ่มของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ปรากฏว่าผู้อยู่อาศัยในห้องชุดข้างๆ กระโดดตึกเสียชีวิต นักวิจัยหนุ่มจึงไม่กล้าเข้าไปอยู่ในห้องของตนเองไปหลายวัน คงกลัวผีห้องข้างๆ จนกระทั่งเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงมีห้องชุดบางห้องในบางอาคารมีผู้เสียชีวิตอย่างอนาถ เช่น ถูกฆาตกรรมภายในห้อง หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งปรากฏว่าห้องเหล่านั้นยังถูกปิดตายไปนาน โดยกรณีเช่นนี้มักเป็นบ้านหรือห้องชุดที่มีเจ้าของหรือผู้อยู่อาศัยรายเดียวหรือครอบครัวเดียวใช้สอยและเข้าออก จึงอาจเกิดอาการ “หลอน” หรือรู้สึกไม่ดี กลายเป็นตำหนิ (Stigma) ที่บางคนไม่ชอบเสี่ยงที่จะอยู่อาศัย

    แต่ถ้าเป็นในกรณีโรงแรม อาคารสำนักงานหรืออาคารสาธารณะทั่วไป มักไม่ค่อยมีปัญหา เช่น มีโรงแรมหนึ่งเกิดไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตจากการสูดควันไฟเกือบ 100 ศพ และได้ปิดตัวไปเกือบ 10 ปี แต่โครงสร้างยังแข็งแรงอยู่ ต่อมาได้เปิดใช้ใหม่แล้ว โดยไม่ปรากฏว่าจะมีข่าว “ผีลากผู้เข้าพักตกเตียง” หรือเรื่องเฮี้ยนใดๆ นอกจากนี้ยังมีที่ดินจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2552 มีผู้เสียชีวิต 61 ศพ หรือเหตุรถแก๊สระเบิด ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2533 มีผู้เสียชีวิต 80 ศพ โดยพบว่าที่ดินบางส่วนไม่ได้นำไปใช้ แต่เชื่อว่าสาเหตุหลักไม่ใช่เพราะ “ผีสิง” แต่เพราะยังเคลียร์ภาระผูกพันกับที่ดินไม่สำเร็จ

    อีกอย่างหนึ่งประเทศไทยไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีประสิทธิภาพ เจ้าของที่ได้เก็บที่ดินไว้โดยแทบไม่ต้องเสียภาษีใดๆ รวมถึงบ้านที่มีตำหนิแบบนี้ อาจมีอุปสงค์จำนวนจำกัด ปกติบ้านหรือห้องชุดทั่วไปอาจมีคนซื้อภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับแต่ประกาศขาย แต่บ้านแบบนี้อาจต้องใช้เวลาขายถึง 24 เดือน จึงจะพบคนซื้อที่ไม่กลัวผี ไม่ถือสาเรื่องแบบนี้ ดังนั้นกว่าจะมีคนซื้อต้องทอดเวลาผ่านไปถึง 18 เดือน หากราคาขายได้พอๆ กับคนอื่น เช่น สมมติที่ 1,000,000 บาท แต่การรับรู้มูลค่าช้ากว่าถึง 18 เดือน มูลค่าก็จะลดลง หากสมมติว่าเดือนหนึ่งมีดอกเบี้ยประมาณ 1% มูลค่าของห้องชุด “ผีสิง” จะเป็นเงิน 836,017 บาท หรือลดลงไปราว 163,983 บาท

    พร้อมทิ้งท้ายว่า “เราต้องคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ อย่าได้กลัวผีไปใย อย่าคิดมาก ใครพาผีมาให้ ดร.โสภณ ดูได้ ยินดีให้ 100,000 บาท”.

    ขอขอบคุณเรื่องราวจาก ไทยรัฐ
    https://www.thairath.co.th/news/loc...o98BN5-pZtUs0jbVH0HCInB3v6AEu3DXJ3OM#cxrecs_s
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Untitled.jpg
      Untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.6 KB
      เปิดดู:
      619
    • Untitled2.jpg
      Untitled2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      422

แชร์หน้านี้

Loading...