อยากฝึกสมถะให้เกิดฌาน๔ แต่จิตมักวนเข้าเป็นวิปัสสนาตลอด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Nick_NaJa, 16 มิถุนายน 2020.

  1. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    หลวงพี่อิ่มบุญมาแปลก55
     
  2. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ไม่แปลกหรอกโยม ที่โยมเห็นว่าแปลกเพราะโยมปรุงแต่งมากไป..

    โยมอย่าปล่อยใจไหลไปกับธัมมารมณ์มากนักสิ เมื่อไหร่ที่โยมปล่อยใจไหลไปกับธัมมารมณ์ เมื่อนั้น วิญญาณได้สร้างภพชาติใหม่ไว้รอโยมเรียบร้อยโรงเรียน อวิชชา แล้ว..

    วิญญาหาร อาหารคือวิญญาณ..

    ผัสสาหาร อาหารคือผัสสะ..

    วิญญาณ ก็คือ ความรู้สึกทางใจ นั้นแหละโยม..

    ทั้งผัสสาหารและวิญญาหารย่อมเกิดสืบต่อเนื่องกัน..

    ดับตัววิญญาณได้ ผัสสะก็เป็นแค่รู้ซื่อๆ หรือ สักว่า นะ โยม นะ..

    เจริญพร..
     
  3. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    โยมดูให้ชัด รู้ให้แจ้งให้ละเอียดนะ ระหว่างธัมมารมณ์กับตัววิญญาณ เพราะมันเกิดสืบต่อเนื่องกันเร็วมาก..

    โยมแยกให้ออก แล้วโยมจะเห็นเหตุแห่งการเกิด..
     
  4. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    อาตมาต้องจาริก ไปต่อแล้วนะโยม..

    เดินทางแบบพระเรวัตตะ เมื่อครั้งพุทธกาล..
     
  5. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    วิปัสนา ฝึกแค่ นี่อะครับ
    อะไรเกิด ก็กำหนดรู้



    สมาธิ มี สองอย่าง หรือจะเรียกว่า ฌาน 2 ประเภท

    สมาธิ แบบที่1 คือ การทำสมาธิแบบเพ่งจุดเดียว จะเรียกว่า อารัมณูปนิชฌาน
    (สมาธิที่มีอามิส เป็นไปเพื่ออิทธิฤทธิ์)


    สมาธิ แบบที่ 2 คือ การทำสมาธิแบบเพ่งลักษณะ ลักขณูปนิชฌาน
    (สมาธิที่ไม่มีอามิส เป็นไปเพื่อ อาสวะขญาณ)
    ลักษณะตัวนี้ คือ ลักษณะ ของ ไตรลักณ์ คือ เพ่ง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ไตรลักษณ์ จะออกมาจากจิต เป็นอาการที่จิตเคลื่อน
    อย่างหยาบ คือ กายหยาบเคลื่อน อย่างละเอียด คือ จิตเคลื่อน
    หรือเรียกว่า จิตส่งออก จิตจะส่งออกทาง ทวารหก รับผัสสะทางทวารหก

    ทาง ตา หู จมก ลิ้น กาย ใจ
    พออยู่ในท่า นั่งสมาธิในรูปแบบ จะเด่น ทางผัสสะทางใจ
    ซึ่งที่เข้าใจ ว่าเป็น ความคิดต่างๆ

    ความคิด เป็นภาษาไทย ภาษาปฏิบัติ ก็คือ อารมณ์

    พุธโธ คำบริกรรม ก็คือความคิด
    ความว่างก็คือ ความคิด
    ปัญญาก็คือความคิด คำคัพย์พวกนี้ คือ อารมณ์ ทั้งหมด
    อารมณ์ เป็น สิ่ง ปกติของจิต ที่ต้องส่งออก
    ฉะนั้นจึงต้องเอามาฝึกเพ่งลักษณะ
    หรือเรียกว่า เอามากำหนดรู้ นั่นละ นี่จึงเรียกว่า ฝึกวิปีสนา คือไม่ได้เพ่งที่อารมณ์เดียว

    และการ ทำวิปัสนา มันจะมีไล่ ลำดับฌานเหมือนกัน
    มีวิตก วิจาร ปิติ สุข เหมือน ในสมาธิแบบที่1

    ฌาน ชนิด นี้ เป็นกำลัง สมาธิ ที่ตัดกิเลส ตามที่ จขกท. เข้าใจ
    เป็น กำลังสมาธิ ที่ตัดกิเลสได้จริง ไม่ใช่สมาธิ ที่เป็นหินทับหญ้า
    หากเข้าใจว่า จะเอาฌานเพื่อ ทำให้ตัดกิเลสได้เร็ว ได้จริง คือ สมาธิคือฌาน ชนิดนี้


    สมาธิชนิดนี้ใช้กำลัง สมาธิ ตั้งแต่ สมาธิเล็กน้อย จนไปถึง สมาธิขั้นอัปนาสมาธิ

    ไม่ว่าจะเป็น สมาธิขั้นเล้กน้อย หรือ อัปนาสมาธิของสมาธิ ชนิดนี้

    สามารถ แจ้ง แทงตลอด มรรค4 ผล4 ที่สมควรแก่ธรรม

    บางองค์ ใช้ สมาธิ 20 ส่วน ปัญญา 80 ส่วน
    บางองค์ใช้ สมาธิ 80 ส่วน ปัญญา 20 ส่วน


    ผลจึง มีพระอรหันต์ ที่ ต่างประเภทกัน คือ สุขวิปัสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทา

    พระอรหันต์ ทุกประเภท ใช้ทางเดียวกันนี้ เหมือนกันหมด



    อีกอย่างนึงนะครับ

    จิตที่เป็น สมาธิจริงๆ นิมิตจะไม่ค่อยมีหรือแทบจะไม่มีเลย

    จะมีแต่ความแช่มชื้น แจ่มๆ มีปีติ สุข เบิกบาน เบาในภายใน

    บางขณะจะมีแสงสว่างแล้วแต่ บุคคล

    อีกอย่างนึง อย่าไปเข้าใจ ว่าเห็น เทวดานางฟ้า ว่า นี่จึงเป็นสมาธินะครับ
    อันนี้เป็นอาการจิตส่งออกนอก
    ถ้าเข้าใจ วิปัสนาจริงๆแม้จะเกิด นิมิต ที่จิตส่งออกนอก
    ก็จะกำหนดรู้ ที่จิต จะเห็น ยินดี ยินร้ายไม่ ขาดสาย เป็นเครื่องรู้เครื่องระลึก
    ฝึกต่อได้ ตลอดสาย

    วิปัสนาจึงเป็น ท่ารุกและรับในคราเดียว ไม่มีแก้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2020
  6. Nick_NaJa

    Nick_NaJa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2020
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณสำหรับความรู้มากนะคะ เป็นความรู้ที่เราเพิ่งรู้จริงๆค่ะ

    เราเข้าใจ ตามความเข้าใจเท่าหางอึ่งว่า

    ฌาน ต้องเกิดจากสมถะ
    ญาน เกิดจากการวิปัสสนา

    และการจะเจริญวิปัสสนาได้ ก็ต้องอาศัยสมถะเป็นกำลัง อย่างน้อยก็ระดับปฐมฌาน ถึงจะเข้าถึงวิปัสสนาได้ ขาดสมถะก็ไม่ได้

    ที่เราอ่านของคุณถ้าเข้าใจไม่ผิด คือ การวิปัสสนาสมาธิใช่ว่าจะทำให้เกิดญาณอย่างเดียว ก็ยังทำให้เกิดฌานอย่างหนึ่ง และเป็นฌานที่ทำให้เกิดปัญญาตัดกิเลสได้ เป็นฌานที่ทำให้เรามองเห็นความเป็นไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยง เกิดดับ ในกาย ในจิต ไม่ได้เป็นฌานที่ดิ่งไปในจุดเดียวเหมือนฌานจากสมถะ

    เราเข้าใจถูกหรือเปล่าไม่รู้นะคะ ชี้แนะเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ปล. คาดว่าที่นี่คงมีสไตล์การสนทนาที่เข้มข้น ยอมรับว่ายังไม่ค่อยชิน และไม่ค่อยเข้าใจหลายประการค่ะ แต่ก็ขอบคุณค่ะ ถือเป็นกรรมฐานไว้ให้เราดูใจตัวเองอย่างดีเลย

    เราฝึกนั่งสมาธิหลายปีค่ะ เริ่มมาแต่ปี ๒๕๕๕ แต่ค่อยๆเป็นค่อยไป จากน้อยๆจนทำทุกวัน และฝึกที่บ้านสะส่วนใหญ่ มีไปปฏิบัติข้างนอกไม่กี่ครั้งหรอกค่ะ เคยไปมาแค่สองที่ คือ คุณแม่สิริ กับ อ.โกเอ็นก้าค่ะ

    เราเป็นคนที่ก่อนหน้า ไม่สนใจเรื่องธรรมะ และการปฏิบัติเลย ไม่เชื่อเรื่องสมาธิเลยค่ะ ครั้งแรกในชีวิตเราไปหลักสูตรคุณแม่สิริ ที่ไปก็ไปแก้บน และครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ค่ะ ที่ทำให้เราหักเห มาสนใจธรรมะ ทั้งๆที่เป็นคนไม่เอาเรื่องนี้เลย ความรู้เรื่องธรรมะเราแทบไม่มีเลยค่ะ ความรู้ที่ได้มาคือปฏิบัติก่อน ไม่เข้าใจก็ไปหาข้อมูลอ่านขยายความเอาค่ะ เช่นมาหาความรู้ที่นี่เป็นต้น

    ขอบพระคุณทุกคำชี้แนะนะคะ เราถือว่าเป็นครูบาอาจารย์ของเราเลยค่ะ ถ้าเราทำให้ใครรู้สึกไม่ดี ก็ขออภัยด้วยนะคะ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    พรึ่บเดียวมีคนโปรดมา 3 ดวง
    คนได้ 2 ดวงอ้าปากค้าง555
     
  8. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    จขกท. เกิดที่ไหน เป็นลูกคนที่เท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน อายุเท่าไหร่..

    ปล. ที่ถามอายุเพราะจะได้รู้ไว้ โบราณว่าไม้แก่ดัดยาก..

    (หากจะดัดต้องใช้ไฟแรงสักหน่อย)

    นะ โยม นะ..
     
  9. Nick_NaJa

    Nick_NaJa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2020
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +64
    น่าจะเป็นไม้แก่ดัดยากนะคะ เพราะเราอายุจะ ๔๐ แล้วค่ะ สามสิบปลายๆ

    เป็นคนเมืองหลวง มีพี่น้องสี่คน เป็นคนที่สองค่ะ
     
  10. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ดัดยากก็ไม่ต้องดัดครับ ไม้ตรงดีแล้ว จะไปดัดทำไม
     
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    แค่นี้ยังไม่จัดว่าแก่ พอดัดได้สบาย ใช้ไฟปานกลางก็ดัดได้แล้วล่ะโยม..

    แนวทางการปฏิบัติโยมก็ทำถูกแล้ว..

    ปฏิบัติไปพบเจออะไร ทำถึงสภาวะไหนก็ไปหาฟังคำสอนหลวงปู่หลวงตาเทียบเคียงนั้นแหละ โยมทำถูกแล้ว..
     
  12. Nick_NaJa

    Nick_NaJa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2020
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +64
    เรียนตามตรง เราไม่ค่อยชินกับวิธีการโต้ตอบกันของคนที่นี่เลยค่ะ เข้มข้น จนเรารู้สึกเกรงๆ แต่ยอมรับว่าได้ความรู้ที่เราไม่รู้เยอะเลยค่ะ
     
  13. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762

    การวิปัสสนาสมาธิใช่ว่าจะทำให้เกิดญาณอย่างเดียว ก็ยังทำให้เกิดฌานอย่างหนึ่ง และเป็นฌานที่ทำให้เกิดปัญญาตัดกิเลสได้ เป็นฌานที่ทำให้เรามองเห็นความเป็นไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยง เกิดดับ ในกาย ในจิต ไม่ได้เป็นฌานที่ดิ่งไปในจุดเดียวเหมือนฌานจากสมถะ



    เข้าใจถูกแระครับ
     
  14. Nick_NaJa

    Nick_NaJa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2020
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +64
    ถามคุณปราบเทวดา ขยายความเข้าใจอีกนิดได้มั๊ยคะ ฌานที่ได้จากการวิปัสสนา คือ การดูความไม่เที่ยง ดูไตรลักษณ์ ฌานนี้ สามารถไปถึงฌาน ๔ ได้หรือไม่คะ
     
  15. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    มันมีประเภทคุยธรรมะแต่กามราคะพุ่งปี๊ด ก็มีนะโยม..

    ดูให้ดี เลือกให้ดีก็แล้วกัน..
     
  16. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ใครที่เห็นอารมณ์ที่เกาะเกี่ยวมากับข้อความ ก็จะได้เปรียบหน่อย..

    แค่อ่านข้อความที่โพสต์ก็เห็นยันเครื่องใน ตับ ใต ใส้ พุง..
     
  17. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    มีครับ

    อย่างที่บอก แค่ ขนิกสมาธิ ของ สมาธิชนิดนี้ ก็สามารถแทงผล 4 ได้
     
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    กำลังสมาธิสำหรับใช้เป็นฐานในเรื่องปัญญานั้น
    ใช้ในกำลังระดับปฐมฌาน หรือ ฌาน ๔
    อย่างใดอย่างก็ได้หมดครับ

    ต่างกันที่ มุมในการเห็นความเข้าใจทางนามธรรม
    ผลที่ได้ช้าหรือเร็ว ช้าเร็วหมายถึง เข้าถึงระดับ
    ที่ละเอียดได้มากน้อยเพียงใด.....
    และกำลังพื้นฐานที่ใช้ในการตัดกิเลสก็ต่างกัน
    รวมทั้งพื้นฐานของการใช้ผลของสมาธิ
    ในชีวิตประจำวันก็ต่างกัน

    ทั่วไป ท่านจะสอนในระดับกำลังสมาธิไม่มาก
    เพราะคนส่วนมากเข้าถึงได้ง่ายกว่า
    แต่ก็มีบางส่วนที่ไปในกำลังระดับสูงได้........


    มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
    ของการเข้าถึงในกำลังระดับต่างๆอยู่
    ดังนั้น เราก็เลือกตามเหตุและปัจจัยของตน

    เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะหนักทางด้านปัญญา
    หรือด้านสมถะก็ตาม

    หากจะไปถึงระดับปัญญานได้ คือ รู้เหตุแห่งการเกิดได้เลย
    จนตัวจิตสิ้นสงสัยและไม่เกิดอีกในเรื่องนั้นๆ
    มันก็ต้อง อาศัยสมดุลย์ทั้งด้านปัญญาและด้านสมถะอยู่ดี

    ไม่งั้นมันจะติดอยู่ในส่วน ของปัญญาทางธรรม

    ยกตัวอย่างนะในภาพรวม ให้อ่านไว้ก่อน
    ให้... ลองนึกว่า
    ๑.จิตเป็นก้อนกลมๆก่อนนะครับ
    และจิตดวงนี้ มี ๒ เส้นสายเส้นหนึ่งที่ออกจากตัวมัน
    ออกไปกระทบ วัตถุ หรือ แสดงให้เห็น เป็น ๓ ภาพอะไรก็ได้

    เพราะถ้าหนักด้านปัญญา
    สายตาเราจะเหมือนมองออกจากก้อนกลมๆนี่ไป
    คือ เราจะมองเห็น ๒ และ ๓ ได้ แต่จะไม่เห็น ๑
    ข้อควรระวังคือ จะไปคิดว่า กระบวนการที่เกิด
    จาก ๒ นั้นเป็นการรู้ ผู้รู้ เป็นตัวปัญญาได้


    หรือถ้าเราหนักมาทางสมถะ
    เราจะมองเห็น ๑ โดยมีตัวที่ ๔ เพิ่มขึ้นมาให้เรามองเห็น ๑
    และจะปรากฏให้ ๓ ได้
    ข้อควรระวังคือ เราจะคิดว่า ๑ นั้นเป็นผู้รู้ ตัวรู้ เป็นการรู้ต่างๆ
    จากการที่มันทำให้เห็น ๓ ได้นั่นเอง

    ดังนั้น เราจึงต้องหาสมดุลย์ ทั้งสมถะและปัญญาให้เจอ
    ด้วยตัวเราเอง

    มันถึงจะถอย ออกมามองเห็นได้ ทั้ง
    ๑ ๒ ๓ และ ๔ จนเข้าใจได้ว่า
    ทั้งหมดนี้เป็นกระบวณการปรุงแต่งอย่างหนึ่งอยู่

    มันถึงจะไปขั้นปัญญาญานได้ครับ
    ไม่งั้นจะติดที่ปัญญาทางธรรม ที่ แม้เคยวาง
    เรื่องใดได้เร็วแค่ไหนมาก่อน
    จากความเข้าใจอะไรก็ตามนั้น
    แต่ว่า ในอนาคตเรื่องนั้น
    เราจะพบว่า ทำไมมันยังทำให้เรา
    ระลึก นึกขึ้น คิดขึ้นมาได้อีก
    ยิ่งกลับไปสู่สภาพแวดล้อมเดิมๆ
    ยิ่งระลึกขึ้นมาเร็ว.......
    (ให้ลองสังเกตุเรื่องนี้ดูนะครับ จะพอเข้าใจ)

    ต่างกับปัญญาญาน นะครับ
    ถ้าได้วางไปแล้ว ต่อให้พยายามนึก
    พยายามระลึก พยายามคิด มันก็ไม่ขึ้นมาอีก
    หรือแม้แต่กลับไปสู่สภาพแวดล้อมเดิมๆ
    ก็ไม่ขึ้นมาอีก


    ประมาณนี้...
     
  19. Nick_NaJa

    Nick_NaJa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2020
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +64
    ชัดเจนเลยค่ะ ว่าเราได้แค่ปัญญาธรรม เพราะ พอเจอสถานการณ์เดิม หรือ สิ่งแวดล้อมเดิม ก็ยังคิดอยู่ค่ะ ยังกลับมาอยู่ ยังมีโกรธ เศร้า เสียใจอยู่เลยค่ะ

    แต่ที่เราว่าตัวเราดีขึ้น เพราะ เมื่อมันมีความคิดเกิดขึ้น ทุกวันนี้เราใช้วิธีดูมันค่ะ ดูจนมันดับ ยังปรุงแต่งอยู่บ้าง ไม่ปรุงแต่งบ้าง คือปล่อยให้มันเป็นแค่มโนกรรม ไม่ระเบิดเป็นวจีกรรม หรือกายกรรมค่ะ เราเป็นคนโทสะเยอะมากค่ะ

    ทุกวันนี้อนุสัยกิเลสลอยขึ้นมาที รู้เลยว่าพลังงานลบในจิตเราเยอะมากกกกก เห็นความทุกข์ชัดมาก ทุกข์สุขเราเกิดดับเกิดดับทั้งวันเลยค่ะ ดูแต่จิตตัวเอง รู้เลยว่าอดีตที่ผ่านมาหลายภพชาติ เลวมาเยอะมากค่ะ เราเลยเน้นฝึกวิปัสสนา มุ่งสู่ความสุขสงบที่แท้จริงค่ะ

    จริงๆเราไม่ได้อยากมีฤทธิ์เพื่ออภินิหารอะไรค่ะ แค่ต้องการหลุดพ้นในชาตินี้เท่านั้นเอง ถ้าสิ่งที่เราเดินทางอยู่มันถูกต้อง ก็จะปฏิบัติต่อไปค่ะ ฌาน ๔ ที่ว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ สำคัญจริงๆคือเราต้องการลดละกิเลสค่ะ
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    มีข้อฝากให้คิดนะครับ
    ในหลายๆมุมนะครับ เฉพาะส่วนของ สมาธินะครับ

    สมาธิ ทั่วไปหรือ การข่ม การกด การจดจ่อ ฯลฯ
    แล้วแต่ว่า ตำราจะเขียนอย่างไร



    แต่ถ้า ในมุมสภาวะ ที่เป็นนามธรรม นะครับ
    มันคือ การยับยั้งไม่ให้เกิด
    ไม่ล่วงละเมิด (ลองค่อยๆคิดนิดหนึง)


    แต่ถ้าสมาธิถ้าพูดในทางนามธรรม
    ในมุมของวิทยาศาสตร์ ที่เป็นด้านแรงแล้ว
    ที่ได้ผลพิสูจน์มาแล้วนะครับ
    ลองไปพิมพ์ใน Google
    เรื่องคลื่นความถี่สมองดูนะ


    มันก็คือ การลดคลื่นความถี่ของสมอง หรือ ลดคลื่น
    ความถี่ของจิตนั่นเอง ......
    คลื่นความถี่ยิ่งมีค่าน้อย Hz
    ระดับสมาธิก็สูงขึ้นตาม

    เช่น อุปจารสมาธิ ระดับคลื่นจะวัดได้ ประมาณ ๔ ถึง ๘ Hz(สูงกว่านี้
    เริ่มเป็นคลื่นในระดับลืมตาใช้ชีวิตปกติทั่วไป)
    คือ ช่วงคลื่นมันจะกว้าง เป็นคลื่นที่เรายังฝันได้อยู่
    และเป็นช่วงคลื่น ที่มองเห็นนามธรรมต่างๆ ช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น
    ที่เราเรียกว่า อุปจารสมาธิ รวมทั้งผีอำก็อยู่ในช่วงนี้ครับ


    หรือ ช่วงคลื่น ๑ ถึง ๓ Hz เป็นช่วงคลื่นที่กำลังจะหลับ
    ถ้าลงมา ๑ Hz ก็คือหลับแน่นอน ตรงนี้คือ ปฐมฌาน
    เราจึงพบเห็นได้ว่า การนั่งสมาธิซักพักหนึ่ง
    มักจะหลับกัน...พอลืมตา คลื่นก็จะข้ามไปเกิน ๘ Hz
    ที่นี้จะกลับเข้าสมาธิอีกก็ยาก
    ไม่เหมือนการที่ระลึกรูตัวว่าหลับ แต่เราไม่ได้ลืมตา
    เป็นผลให้กลับมานั่งสู่ระดับความสงบได้ง่าย
    เพราะการไม่ลืมตา ยังรักษาช่วงคลื่น ให้อยู่
    ในระดับ ๔ ถึง ๘ Hz ไว้อยู่ มันเลยรู้สึกว่างาย
    พอเข้าใจได้นะครับ
    (ตรงนี้ลองไปสังเกตุดูได้นะครับ
    เพราะที่พลาดกัน พอหลับแล้วชอบลืมตา
    แทนที่ จะปรับบุคคลิกให้กลับมาเหมือนเดิม
    แล้วไม่ลืมตา )



    และไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึง O Hz นี่คือ ระดับ
    ที่เราเรียกว่า ฌาน ๔ ส่วน ฌาน ๒ และ ๓ ก็จะวิ่งอยู่
    ระหว่าง 0.๙ ถึง o.๒ Hz พอ O Hz คือฌาน ๔ ครับ

    เราเห็นกระบวนการในทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจวัด
    การลดค่าความถี่ของคลื่นไหมครับ


    ดังนั้น ให้เราไปลองพิจารณาดูเองว่า
    ถ้าเรามาเน้นด้านปัญญาในกำลังสมาธิ
    ระดับปฐมฌาน ที่ ๑ Hz แล้ว....
    แม้ว่าจะเกิดปัญญาทางธรรมขึ้นมา
    คิดว่า มันเป็นไปได้ไหมครับ
    ที่คลื่นความถี่ของเรา มันจะสามารถ
    ลดลงมาได้ จากผลของกำลังสมาธิในระดับนี้ของมันเอง
    จนถึงระดับ O Hz ครับ
    0 Hz คือ เรียกง่ายๆ ถอดกาย ถอดจิต ได้เลย
    แบบออกมายืน เห็นร่างกาย อีกกาย ที่นั่งอยู่ได้เลย
    และไม่ความรู้สึกสัมผัสเราจะไม่เงียบ
    แค่เสียงลมพัดผ่าน ได้ยินเหมือนหูแทบแตก
    นึกดูนะครับ นั่งสมาธิธรรมดา ยังได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน
    ระดับที่ สูงกว่า ย่อมได้ยินขนาดไหน


    หรือว่า การลดคลื่นความถี่ของจิตลงมา ยังต้องใช้ด้านสมาธิ
    เพื่อกดข่มลดคลื่นลงมา ให้ถึง O Hz อยู่ครับ


    ไม่ได้สรุปนะ
    ให้ไปพิจารณาเองเองครับ



    ปล. พูดเฉพาะในส่วนสมาธินะครับ
    สมาธิสำคัญที่พิ้นฐานการหายใจนะครับ
    ถ้าระบบลมหายใจ เรายังไม่ละเอียดเพียงพอ
    ให้เราฝึกนั่งกี่ปี กี่ชาติ มันก็เข้าสมาธิระดับสูงไม่ได้ครับ
    หรือฝึกกรรมฐานอะไรก็ไม่สำเร็จ ถึงระดับใช้งานได้ซักที
    ไม่ว่าจะผ่านมีกี่ปีก็ตามครับ

    ช้าแต่ชัว ระวังที่มันเริ่มต้นเหมือนจะง่ายๆนั่นหละให้ระวัง
    เครเนาะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...