ปิดรับบริจาค อภิมหากุศลสมัย ครบ 80 พระชันษา เราทำความดีอย่างไร เพื่อน้อมถวายเป็นความสุขแด่พระองค์

ในห้อง 'ในนามเว็บพลังจิต' ตั้งกระทู้โดย มหาหินทร์, 17 ตุลาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    ส.ค.ส. ๒๕๔๗ พระราชทานแก่คนไทย ..... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน ส.ค.ส.ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ แก่ปวงชนชาวไทย ส.ค.ส. ดังกล่าวทรงประดิษฐ์ขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ มีข้อความว่า .....

    ส.ค.ส. พ.ศ. ๒๕๔๗ สวัสดีปีใหม่ ..... ใต้ลงมา เป็นภาพแผนที่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีน บนพื้นที่เป็นภาพตารางช่องเล็กๆ ด้านบนทั้งสองด้านมีเสาธงปักอยู่ มีภาพระเบิดและควันล้อมรอบ คาบสมุทรอินโดจีนอยู่ทั้ง 4 ด้าน ด้านบนซ้ายมีข้อความว่า มีระเบิดเกือบทั่วโลก

    ใต้ภาพระเบิดลงมา ..... เป็นภาพเรือสำเภาขนาดใหญ่ แล่นมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ใบเรือด้านหลังมีอักษร ม.ช.ปรากฏอยู่ บนคาบสมุทรอินโดจีนเป็นภาพแผนที่ประเทศไทยสีขาว ที่ขนานกับส่วนที่เป็นด้ามขวาน เป็นเส้นตรงสามเส้น บนแผนที่ประเทศไทยมีข้อความว่า สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย เส้นตรงทั้งสามเส้นนั้นเปรียบเป็นเสาหลักของประเทศ ขณะที่ความสามัคคีของคนในชาติเป็นพลังที่ร่วมกันค้ำจุนให้ประเทศไทยเป็นปึกแผ่นมั่งคง

    ด้านล่างลงมามีข้อความว่า ..... ขอจงมีความสุขความเจริญ
    บรรทัดต่อมาเป็นอักษรภาษาอังกฤษว่า ..... แฮปปี้ นิวเยียร์ และมีภาพสุนัข ขนาบข้างละตัว

    กรอบล่างด้านใน มีข้อความว่า ..... ก.ส. 9 ปรุง 291929 ธันวาคม 2546 มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ บ้านเชียง และ มีภาพสุนัข ขนาบ 2 ข้างคำว่า ห้าพันปี ตัวหนึ่งไม่มีปลอกคอ อีกตัวหนึ่งมีปลอกคอ

    ส่วนกรอบล่างด้านนอก ..... เป็นภาพสุนัขขนาดลดหลั่นกันรวม 7 ตัว ตัวใหญ่สุดยืนเต็มตัวอยู่ด้านซ้าย ตัวถัดไปค่อยๆ ย่อตัวลง และขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ จนถึงตัวสุดท้ายด้านขวาสุดเป็นสุนัขตัวเล็กนอกหมอบอยู่

    ....................................................................................
     
  2. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    ในหลวงทรงมีพระราชดำรัส ..... พระราชทานพรแก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ วันพฤหัสบดีที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ..... ทรงพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรชาวไทย โดยทรงขอให้คิดดี ทำดี ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมกับทรงชื่นชมการจัดการประชุมเอเปคในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งขอใช้ความรู้ และสติในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ของประเทศ เมื่อวันพุธที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรชาวไทย ว่า

    ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ..... บัดนี้ถึงวาระที่จะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าของส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ทั้งขอขอบใจในน้ำใจไมตรีของทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่ได้ให้ความร่วมมือสนับสนุนข้าพเจ้าในภารกิจทั้งปวงด้วยดีเสมอมา ในขวบปีที่แล้ว บ้านเมืองเรามีหลายอย่าง อย่างแรก ก็คือ การที่นานาประเทศเขาเชื่อถือไว้วางใจให้ประเทศของเราจัดการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ ๑๑ ขึ้นนั้น ข้อนี้ต้องนับเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ ทุกคนต่างก็ทราบตระหนักเป็นอย่างดี จึงยินดีร่วมมือร่วมงานกันด้วยความเต็มใจเสียสละ ทำให้งานครั้งนั้นผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อยและงดงาม

    สิ่งที่ดีอีกอย่างหนึ่ง ..... ที่ควรกล่าวถึง ก็คือ เป็นเวลาหลายปีติดต่อกันมาที่เราต้องประสบกับเหตุไม่ปรกติต่างๆ หลายเรื่อง จนทำให้หลายๆ คนเกิดความวิตกห่วงใยในอนาคตของตนเองและของบ้านเมืองเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุที่ส่วนใหญ่มีสติรู้เท่าทัน มีความรู้ความสามารถจึงต่างขวนขวายช่วยตัวเอง และร่วมมือร่วมความคิดกันปฏิบัติแก้ไขอย่างจริงจัง จนบัดนี้อาจจะกล่าวได้ว่า สถานการณ์ต่างๆ ได้ผ่อนคลายลงและมีความหวังว่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังจะต้องพยายามปฏิบัติตนปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังต่อไปอีกมาก

    ในปีใหม่นี้ ..... ทุกคนจึงชอบที่จะตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ว่าจะคิดจะทำสิ่งใดก็ขอให้คิดให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง ผลของการคิดดี ทำดี ทำถูกต้องนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนตลอดจนประเทศชาติดำเนินก้าวหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงสวัสดี

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ..... และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา ขออภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรค ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบความสำเร็จสมหวังตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

    ....................................................................................
     
  3. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    ในหลวงพระราชทานเงิน ๗๒ ล้านให้กรมการศาสนา

    เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ... นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเงินจำนวน ๗๒ ล้านบาท ที่ทางธนาคารออมสินและประชาชนทุกหมู่เหล่า ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อให้พระองค์ใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗๒ พรรษา ให้แก่กรมการศาสนาและมหาเถรสมาคม เพื่อใช้ในการแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน โดยมอบให้กรมการศาสนาร่วมกับมหาเถรสมาคม เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารกองทุน

    นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ... อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินพระราชทานดังกล่าวกรมการศาสนาและมหาเถรสมาคม ได้กำหนดให้มีการร่างระเบียบว่า ด้วยกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาตามพระราชประสงค์ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งการร่างระเบียบดังกล่าวเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ของกองทุนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้ชัดเจน จะมีคณะกรรมการบริหารกองทุนทั้งพระสงฆ์และฆราวาส โดยผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานบริหารกองทุนนั้น และเปิดรับมืออาชีพเข้ามาดูแลเงินทุน รวมทั้งการระดมทุน ซึ่งจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง ๒ ปี เช่นเดียวกับผู้จัดการกองทุน

    สำหรับการใช้เงินกองทุนนั้น ... คณะกรรมการได้ข้อสรุปว่า จะใช้เฉพาะดอกเบี้ยของเงิน ๗๒ ล้านบาทเท่านั้น โดยเงินดังกล่าวจะฝากไว้ที่ธนาคารออมสิน ส่วนการเพิ่มทุนและระดมทุนนั้น จะขอจากงบประมาณของรัฐบาล และจากเงินบริจาคเท่านั้น

    ส่วนรูปแบบในการเผยแผ่ธรรมะ ... ในพระพุทธศาสนาตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น คณะกรรมการจะเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเน้นที่หน่วยงานราชการเป็นหลัก โดยจะใช้ศีล ๕ ซึ่งเป็นศีลขั้นพื้นฐานของชาวพุทธยึดเป็นต้นแบบในการสร้างและเผยแผ่พระธรรมในพุทธศาสนา เพราะหากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามศีล ๕ เชื่อว่า พระธรรมจะนำชาติรอด ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งการประพฤติผิดลูกเมียจะลดลง

    อย่างไรก็ตาม ... ในส่วนของเด็กและเยาวชนตามสถานศึกษาต่าง ๆนั้น จะใช้เครือข่ายของศูนย์พระสงฆ์ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวจะมีพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธานศูนย์ และเป็นสื่อในการเผยแพร่

    สำหรับร่างระเบียบกรมการศาสนา ... ว่าด้วยกองทุนเผยแผ่พระธรรมคาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม มส. เร็วๆนี้ ทั้งนี้หาก มส.มีมติจะมีผลบังคับใช้ทันที โดยก่อนหน้านั้น มส. ได้ส่งตัวพระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมเป็นกรรมการที่ปรึกษาจำนวน ๒ รูป ประกอบด้วย พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ และ วิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพวราราม

    ....................................................................................
     
  4. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    พระอัจฉริยภาพ "พ่อของแผ่นดิน"

    วิทยาศาสตร์ มีคำตอบ ... คำขวัญ งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2547 ที่ นายกร ทัพพะรังสี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ประกาศไว้ตั้งแต่ช่วงเตรียม ความพร้อมจัดงาน เป็นคำขวัญที่ฟังก็เหมือนจะ สื่อให้รู้สึกถึงความน่าสนใจ และยิ่งใหญ่อลังการของ วิทยาศาสตร์ ที่จะมีคำตอบทุกเรื่องในโลก

    งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติครั้งนี้ นอกเหนือจากการนำผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งนวัตกรรมต่างๆ มาแสดงให้คนไทยได้รู้ถึงศักยภาพของคนไทยในการคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งต่างๆ รวมถึงเพื่อให้คนไทยได้ก้าวทันโลกแล้ว สิ่งที่พิเศษกว่าอื่นใด และเป็นครั้งแรกที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งรับหน้าเสื่อแม่งานจัดให้ มีขึ้น นั่นคือ ... โลกวิทยาศาสตร์ไทย 200 ปี จากฟ้าสู่ดิน จากดินสู่ชีวิต

    เพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติในวโรกาสครบ 200 ปี พระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ... พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

    ทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติ พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช โดยในส่วนนี้มีการจัดแสดงพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์

    พสกนิกรชาวไทยที่จะได้เห็นพระอัจฉริย-ภาพด้านวิทยาศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทย 2 ยุคด้วยกัน

    ยุคเริ่มต้นของวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านดาราศาสตร์ และทรงแสดงพระปรีชาสามารถในการคำนวณการเกิดสุริยุป-ราคาเต็มดวง ที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2411 ได้อย่างแม่นยำไม่คลาดเคลื่อน และเป็นการคำนวณเหตุการณ์ล่วงหน้าก่อนถึง 2 ปี ถือเป็นสัมฤทธิผลทาง ด้านวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกของประเทศไทย และคือที่มาของ พระราชสมัญญานาม "พระบิดาวิทยาศาสตร์ไทย"

    และอีกยุคหนึ่ง คือ ยุคการใช้วิทยาศาสตร์ในการพัฒนาระบบชลประทาน

    ฉันสนใจชลประทานมาตั้งแต่เล็ก ... กระแสพระราชดำรัสเพียงสั้นๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับสั่งแก่เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน สื่อความหมายเป็นอย่างดีว่าทรง นำวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ ด้านใด

    โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แต่ ละโครงการ ไม่ว่าจะเป็น กังหันชัยพัฒนา โครงการแก้มลิง เขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โครงการฝนหลวง ล้วนเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ ด้านชลประทานแก่ชาวไทยทั้งสิ้น

    แต่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ครั้งนี้ มีอีกโครง-การหนึ่ง ที่แม้จะมีมานาน แต่บางคน อาจจะไม่เคยรู้

    โครงการแกล้งดิน ... โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ที่พสกนิกรชาวไทย หลายคน ต้องแอบอมยิ้มกับชื่อโครงการ ที่นอกจากจะแสดงถึงพระอัจฉริยภาพในงาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อช่วยเกษตรกรแล้ว ชื่อของโครงการ ยังแสดงถึง พระอารมณ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์ กับพระราชดำริที่เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ ทำให้ดินเปรี้ยว สามารถนำมาใช้ ปลูกพืชได้ โดยโครงการทั้งหมดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะถูกนำมาจัดแสดงในรูปแบบของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

    ทั้งนี้ ภายในโลกวิทยาศาสตร์ไทย 200 ปี ยังจัดแสดงพระอัจฉริยภาพของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในด้านการคมนาคม, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในด้านผงไหม ที่พัฒนามาจากเศษไหม และนำไปสู่สบู่ไหมไทย, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กับคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ กับพันธกิจของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และสมุนไพรต้านโรค

    ขณะที่ส่วนต่างๆ ของสัปดาห์วิทยาศาสตร์นี้ก็น่าสนใจเช่นกัน อีก 7 โลกประกอบด้วย โลกแห่งอวกาศโลกอุตสาหกรรมและยานยนต์ โลกแห่งอิเล็กทรอนิกส์ โลกแห่งเทคโนโลยีชีวภาพและสุขภาพ โลกแห่งพลังงาน โลก นาโนเทคโนโลยี และอนาคตวิทยาศาสตร์ไทย

    จะได้เห็น เสื้อผ้าที่ไม่ เปียกน้ำ ซึ่งทำตัดเย็บจาก ผ้าที่เกิดจากนาโนเทคโนโลยี ซึ่งหมายถึง การสร้างและประยุกต์ วัตถุมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ โดยอาศัยความสามารถที่จะสร้าง และจัดเรียงอนุภาคต่างๆ ได้ตามความต้องการ เพื่อสร้างสสารหรือโครงสร้างของสารในแบบใหม่ๆ ที่ให้คุณสมบัติพิเศษที่อาจจะไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ผ้าไม่เปียกทั้งน้ำและน้ำมัน

    และอย่าตกใจ หากเดินเที่ยวในงานอยู่ดีๆ แล้วฝ่ายจัดงานรู้ว่าคุณอยู่ส่วนไหนของงาน

    เพราะจะมีการนำเทคโนโลยี ที่ใช้กับ บัตรสมาร์ทการ์ด คือ RFID มาเป็นสีสันของงานด้วย ซึ่ง RFID นี้ คือ ชิป คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กฝีมือคนไทย และสามารถบรรจุข้อมูลของสิ่งของ สัตว์ หรือแม้แต่มนุษย์ได้อย่างดี โดยเมื่อลงทะเบียนก่อนเข้างานทุกคน จะได้บัตรสมาร์ทการ์ดที่มีชิป RFID ติดอยู่ ซึ่งเปรียบเสมือนเรดาร์ที่จะบอกตำแหน่งที่อยู่ของทุกคน เรียกได้ว่ามางานนี้คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้ ลูกไม่หายแน่นอน ทั้งบัตรนี้ยังสามารถนำไปใช้เล่นเกมส์ชิงรางวัลตามบูธต่างๆ ได้ทั่วงาน

    นอกจากนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ของคนไทยในการนำวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมา ใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต แสงไฟที่ ส่องสว่างเจิดจ้าภายในงานนี้ จึงขอยืนด้วยขาของตัวเอง ด้วยการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ เพื่อนำพลังงานจากดวงอาทิตย์ มาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าเพื่อใช้ในงาน เรียกว่าไม่ต้องกลัวจะเปลืองพลังงาน ของชาติแน่นอน

    หุ่นยนต์ นับเป็นอีกส่วน หนึ่งที่ขาดไม่ได้ และนอกจากเจ้า อาซิโม ขวัญใจเด็กๆ เจ้าเก่าแล้ว ยังจะมี หุ่นยนต์นักดำน้ำสัญชาติไทยตัวแรก "ไทยเอ็กซ์โป" (ThaiXPole) ที่ ผลิตโดยคนไทยทั้งหมด และเจ้าหุ่นตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นหุ่นยนต์ที่จะได้ไปร่วมสำรวจขั้วโลกแถบแอนตาร์กติกา กับคณะวิจัยชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะมาโชว์ตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการที่งานนี้เป็นงานแรกด้วย

    ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2547 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี

    ทีมวิทยาศาสตร์ ... เชื่อว่า หลายคำถามที่ยังค้างคาในหัวใจ เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี คงค้นพบคำตอบได้ในงานนี้ ที่สำคัญการได้ชมพระอัจฉริยภาพของ "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" และ "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย" ตลอดจนพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ก็ถือเป็นมงคลของชีวิตแล้ว!!!

    ....................................................................................
     
  5. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    พุทธศักราช ๒๕๔๖ ..... ความสำเร็จยิ่งใหญ่ของการเป็นเจ้าภาพ เอเปค ๒๐๐๓ ครั้งนี้คือ ภาพลักษณ์ หน้าตา และ ศักดิ์ศรี ของ ประเทศไทย คนไทย มากกว่า เนื้อหา ที่ทั้ง ไม่ให้ผลทันตา และทั้งยังต้อง ผ่านการพิสูจน์ด้วยระยะเวลา ว่าจะเป็นผลที่ตกแก่ คนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะ กลุ่มทุน ส่วน ชาวบ้านทั่วไป นั้นต้องรอผลจาก ทฤษฎีน้ำหยาด : Trickle Down Effect เหมือนเดิม

    ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่เพียงเป็นเพราะ ..... ฝีมือ, ความสามารถ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงลำพัง วิเคราะห์ดูให้ดีแล้ว “เซี่ยงเส้าหลง” เห็นว่าเกิดขึ้นจาก ลักษณะพิเศษของประเทศไทย ที่ปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข รวมถึง ลักษณะพิเศษของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และ บุญญาธิการในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ด้วย

    เป็นบุญยิ่งนักของประชาชนชาวไทย ..... ที่มี พระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน อยู่ เหนือเกล้า หลายครั้งหลายหนแล้วที่ วิกฤตในบ้านเมือง สามารถ ยุติลง เพราะ พระบารมี นับจากเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖, ๑๗ - ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕ และ ฯลฯ รวมทั้ง พระราชทานการต้อนรับผู้นำทั้ง ๒๐ เขตเศรษฐกิจ ในฐานะ แขกเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่าย ๆ และบ่อยครั้งนักที่ ผู้นำ ๓ ชาติมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย และ จีน จะมา พบกัน และเป็น พระราชอาคันตุกะ ใน ห้วงเวลาเดียวกัน ความสมบูรณ์ใน กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำลอง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทาน มาให้เป็น การแสดงพิเศษ นั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งใน ประเทศมหาอำนาจทางวัฒนธรรม นี่คือ คุณูปการ ของ สถาบันพระมหากษัตริย์ในระบบรัฐสภา ที่แม้จะไม่มี พระราชอำนาจทางการเมือง-การบริหารราชการแผ่นดิน ปรากฏอยู่ในมาตราใดมาตราหนึ่งของ รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร แต่ความจริงแล้วใน รัฐธรรมนูญจารีตประเพณี, รัฐธรรมนูญในหัวใจพสกนิกร หรือนัยหนึ่ง Constitutional Convention ย่อมมี พระราชอำนาจ อยู่อย่างแน่นอน

    เพราะ ..... การเมือง การปกครอง และ การบริหารราชการแผ่นดิน ที่ สมบูรณ์ นั้นจะต้องมี ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นส่วนที่มีไว้เพื่อ ธำรงศักดิ์ศรีของบ้านเมือง อีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ บริหารบ้านเมืองตามความต้องการของประชาชน, รับผิดชอบต่อประชาชน ส่วนแรกคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนหลังคือ รัฐบาล-รัฐสภา นั่นเอง

    ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ..... วอลเตอร์ แบกชอท (ค.ศ. ๑๘๒๖ - ๑๘๗๗) พรรณนาไว้ในหนังสือชื่อ The English Constitution เมื่อ ปี ๑๘๖๗ และ เกษม ศิริสัมพันธ์ นำมาอรรถาธิบายในปาฐกถาพิเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง เมื่อ ๑๕ ปีก่อน โน้นแล้ว บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมขยายความเมื่อ ๑๐ ปีก่อน โน้นว่า พระราชอำนาจที่ไม่ได้บัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรของพระมหากษัตริย์ไทยมีมากกว่าพระมหากษัตริย์ของยุโรป เพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงอยู่ใน ราชสมบัติ มา ต่อเนื่อง-ยาวนาน ไม่แพ้กษัตริย์พระองค์ใดในโลก ๕๗ ปีเต็ม นับแต่ วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๘๙ เกือบจะเท่ารัชสมัย ควีนวิคตอเรีย ที่ครองราชย์อยู่รวม ๖๔ ปี (ระหว่าง ปี ๑๘๓๗ - ๑๙๐๑) ทำให้ ทรงรู้ทรงเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองมาโดยตลอด เป็น แหล่งสะสมประสบการณ์ของบ้านเมืองไว้มากที่สุด มากกว่า รัฐสภา, รัฐบาล เพราะทั้ง ๒ สถาบันดังกล่าว เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของการเมือง ชนิดที่เรียกว่า มาแล้วก็ไป แตกต่างจาก สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรง ดำรงอยู่ ชั่วกาลนาน

    ประเด็น พระราชอำนาจที่ไม่ได้บัญญัติไว้ นี้ ..... วอลเตอร์ แบกชอท ผู้ดำรงตำแหน่งบรรณาธิการของนิตยสาร The Economist ตั้งแต่ ปี ๑๘๖๐ แจกแจงนี้ว่ามีอยู่รวม ๓ ลักษณะ คือ The right to be consulted - พระราชอำนาจในการที่จะทรงรับคำปรึกษาและพระราชทานคำแนะนำให้แก่รัฐบาล, The right to encourage - พระราชอำนาจที่จะทรงสนับสนุนหรือให้กำลังใจรัฐบาลในนโยบายหรือการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และ The right to warn - พระราชอำนาจที่จะทรงตักเตือนรัฐบาลให้ตระหนักถึงความเสียหายในการกระทำบางประการ นั่นเอง

    ด้วยนัยนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ ..... จึงไม่ใช่แต่มีหน้าที่ในฐานะเป็น ส่วนธำรงศักดิ์ศรีของบ้านเมือง แต่ยังทรงมี พระราชอำนาจที่สำคัญ, พระราชอำนาจซึ่งไม่ประจักษ์แจ้งเปิดเผยออกมา และจะทรงใช้พระราชอำนาจเหล่านี้ด้วย ความระมัดระวัง ไม่เปิดเผย เพราะเป็นเสมือน พระราชอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง คอยประคับประคองการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในพระองค์ นี่เป็นข้อสรุปจาก วอลเตอร์ แบกชอท ในหนังสือที่เขียนขึ้นเมื่อ ปี ๑๘๖๗ เป็นที่เห็นพ้องต้องกันจาก เกษม ศิริสัมพันธ์ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และเชื่อว่า ผู้อ่านทุกท่าน เช่นกัน

    ความประทับใจใน เอเปค ๒๐๐๓ ..... ในสายตา ผู้นำ ๒๐ เขตเศรษฐกิจ รวมถึง คนไทยโดยทั่วไป คือ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พระที่นั่งจักรีมหาประสาท พระที่นั่งอนันตสมาคม และ พระราชจริยาวัตรอันสง่างามเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณ รวมแม้กระทั่ง ทำเนียบรัฐบาล ล้วนมาจากส่วนที่ ธำรงศักดิ์ศรีของบ้านเมือง จะไม่สามารถนำมา แสดง ได้เลยหากปราศจากพระราชอำนาจใน ๒ ลักษณะแรก The right to be consulted และ The right to encourage ดั่งว่า

    กระแสของ เอเปค ๒๐๐๓ ..... อาจจะ กลบข่าวบางข่าว บรรทัดนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ขอเตือนความจำให้ ผู้อ่านทุกท่าน ได้รำลึกถึง ความประเสริฐอย่างยิ่ง ของการปกครองการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนที่ ธำรงศักดิ์ศรีของบ้านเมือง นี้

    นั่นคือใน วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๔๖ ..... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน พระราชทานพระบรมราโชวาท แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดในระบบบูรณาการ หรือ ผู้ว่าฯซีอีโอ ทรงย้ำให้ทุกคนเน้น ประสานงาน-อย่าประสานงา และ อย่าทุจริต พระองค์ทรงรับสั่งว่าในช่วง เศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะมี ทุจริตมากขึ้น พระบรมราโชวาทที่ จับใจประชาชนทั่วไป ผ่าน ข่าวในพระราชสำนัก เมื่อค่ำ วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๖ ก็คือ ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียวก็ขอแช่ง แช่งให้มีอันเป็นไป ในพระบรมราโชวาทองค์นี้ยังทรงรับสั่งว่าพระองค์ท่านเป็น พระราชาซีอีโอ และทรงปฏิบัติพระราชกิจมา ๕๐ ปีแล้ว นับตั้งแต่ ปี ๒๔๙๖ ที่ทรงเริ่ม โครงการตามพระราชดำริแห่งแรก ที่ เขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อจากนั้นทรงขยายโครงการไปตาม พื้นที่ทุรกันดารต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทรงแก้ปัญหาทั้งเรื่อง ดิน น้ำ ป่าไม้ ข้อจำกัดในการทำการเกษตรแต่ละพื้นที่ ตลอดจน สร้างอาชีพเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เลี้ยงตัวเอง ใช่หรือไม่ว่านี่คือรูปแบบหนึ่งของ The right to warn นั่นเอง

    เป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่ ..... ทรงแช่ง เพราะนี่คือ พลังแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ ใครขืน ฝ่าฝืน ก็เตรียมตัว วิบัติ ฉิบหาย ได้

    เป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่ คนไทย ..... เสมือนได้มองเห็น พระราชอำนาจสำคัญที่ไม่ได้บัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ครบทั้ง ๓ ลักษณะ ในเวลาใกล้เคียงกัน

    ..............................................................................................
     
  6. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  7. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ให้คนไทยสามัคคี-ช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ
    โดย ... ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 20:45 น.


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ..... พระราชทานพรปีใหม่ ให้ปวงชนชาวไทย สามัคคี และร่วมช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัยธรรมชาติ สึนามิ โดยทรงเห็นแจ้งถึงน้ำใจคนไทย ที่ร่วมใจกันสามัคคีเมื่อภัยพิบัติมาถึง

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
    พระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรชาวไทย เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2548 .....


    ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ..... บัดนี้ถึงวาระขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรให้ท่านทั้งหลายทั่วกัน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิต สนับสนุนข้าพเจ้าในภารกิจทั้งปวง ด้วยดีเสมอมา ตลอดปีที่แล้วมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง ดีดีก็คือ การที่นักกีฬาของเราไปรับเหรียญรางวัลหลายประเภท ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และที่ไม่ดีก็มีอยู่มาก เราต้องประสบเหตุไม่ปกติต่างๆ จนทำให้เกิดความวิตก ห่วงใยกันอยู่ทั่วไป ใกล้ถึงสิ้นปีก็เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ทำให้สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างร้ายแรง เราคงต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูสถานะของบ้านเมืองเป็นการใหญ่ รวมทั้งหาทางป้องกัน เตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ

    อย่างไรก็ตาม เหตุต่างๆ นั้น ..... ได้ทำให้เห็นแจ้งถึงน้ำใจของพวกเราอย่างเด่นชัดว่า ทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน มีความสามัคคีกัน ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง ได้แสดงเจตนารมณ์ ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข และเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนไทยไม่ทิ้งกัน ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันทีด้วยความเสียสละ และจริงใจ ไม่เลือกว่า เป็นชาวไทย หรือต่างประเทศ ข้าพเจ้าอยากกล่าวย้ำแก่ท่านทั้งหลาย เหมือนที่เคยกล่าวมาเมื่อหลายปีก่อนว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีทุกข์ มีภัย ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ในปีใหม่นี้ข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกคนรักษาความสามัคคีและจิตใจอันดีนี้ไว้เป็นนิจ เพราะสิ่งนี้คือคุณลักษณะพิเศษที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองของเราอยู่รอดปลอดภัย และช่วยให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาคุณลักษณะนี้ไว้ได้ ก็มั่นใจได้ว่าชาติบ้านเมืองของเราจะดำรงมั่นคงอยู่ตราบนั้น

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ..... และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจและประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

    .........................................................................................
     
  8. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    >>> Operation Royal Rain ปฏิบัติการเหนือเมฆ

    ภัยแล้ง ถือว่า ...... เป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ที่ต้องได้รับ การแก้ไข และปัญหาภัยแล้งในปี 2548 นี้ มีแนวโน้ม ว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะฝนแล้งเกิดขึ้นมา ตั้งแต่ปลายปี 2547 มีผลทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญลดน้อยลง กว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้นผู้ที่ต้องรับบท หนักในการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์จากภัยแล้งให้ แก่ประชาชนก็คือ รัฐบาล

    .................... เว็บไซต์นี้ เป็นของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร รวบรวม ความรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริฝนหลวง อาทิ ประวัติฝนหลวง ตำราฝนหลวง ฯลฯ และถ้าอยาก ทราบว่าการทำเมฆอุ่นและเมฆเย็นเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปดูได้ที่หัวข้อ เทคโนโลยีฝนหลวง ....................

    และภัยแล้งปีนี้ ..... ในหลวงรับสั่งตั้งศูนย์บัญชาการฝนหลวงที่หัวหิน พร้อมขยายฐานจาก 9 เป็น 15 ฐาน ทำฝนหลวงทั่วประเทศ ด้านเกษตรฯ ตั้งวอร์รูมแก้ไขวิกฤติภัยแล้ง เอ็กซเรย์แหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งกักเก็บน้ำ พร้อมสำรวจพื้นที่แห้งแล้ง กว่า 75,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ หลังเจ้าหน้าที่รายงานข้อมูลไม่ชัดเจน

    .................... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้มีการตั้งศูนย์บัญชาการปฏิบัติการฝนหลวง ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยพระองค์ท่านจะทรงเป็นผู้บัญชาการในการสั่งการเครื่องบินทำฝนเทียมด้วยพระองค์เองทั่วประเทศ ....................

    ศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางในการคุมเรดาร์ และตรวจวัดความชื้น ว่า ในแต่ละจุดมีความเหมาะสมจะทำฝนหลวงหรือไม่ จากเดิมที่การทำฝนหลวงจะมีการกระจายต่างคนต่างทำ ทำให้การปฏิบัติการไม่ได้เต็มที่ โดยนับจากนี้การดำเนินการทั้งหมด จะต้องอยู่ภายใต้การสั่งการที่ศูนย์หัวหินเป็นหลัก

    .................... แม้ว่าเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา จะมีฝนตกในพื้นที่ ต่างที่ขึ้นไปปฏิบัติการฝนหลวง แต่บางพื้นที่ยังไม่มีฝนตกเลย ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอีสาน ในแถบทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตก มีใน 13 พื้นที่ ได้แก่ ... บริเวณภาคเหนือ ... จ.นครสวรรค์ ที่อำเภอตากฟ้า ... จ.ชัยนาท ... จ.ขอนแก่น ที่อำเภอชุมแพ ... จ.ชัยภูมิ อ.คลองสาร ... จ.นครราชสีมา ที่อำเภอปากช่อง ... จ.ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองหัวหิน ... จ.สตูล ที่ อ.เมือง ... จ.ฉะเชิงเทรา ที่อำเภอเมือง ... จ.ชลบุรี ที่อำเภอเมือง ... จ.ระยอง ที่อำเภอเมือง ... จ.จันทบุรี ที่อำเภอห้วยโป่ง และ ... จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณรับน้ำเขื่อนรัชประภา มีฝนฟ้าคะนอง ....................

    จากการสำรวจปริมาณฝนตกทั่วประเทศเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ต้องปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มเติมทั่วประเทศต่อไป ซึ่งนอกจากจะต้องการฝนเพื่อมาเติมน้ำในเขื่อนเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยในการแก้ไขปัญหาไฟป่าไปในตัวด้วย โดยเฉพาะในเดือน มี.ค. และ เม.ย.นี้ โอกาสที่จะเกิดฝนตกเป็นเรื่องยาก สำหรับเครื่องบินที่ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร มีทั้งสิ้น 20 ลำ แต่ใช้ได้จริง 15 ลำ ซึ่งจะต้องยืมจากหน่วยงานอื่นเพิ่มเติมอีก 17 ลำ เป็นของกองทัพอากาศ 12 ลำ ที่เหลือเป็นของกองทัพบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ของพสกนิกรชาวไทย
    ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระปรีชาสามารถด้านฝนหลวงมากที่สุดในโลก ..!!

    ....................................................................................
     
  9. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    ฝนของในหลวง

    ๏ ๏ ๏ อันความกรุณาปราณี
    จะมีใครบังคับก็หาไม่
    หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
    จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน ... ฯลฯ

    บทพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 บทนี้ เข้ากันกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาดับความแห้งแล้งของพื้นดิน ช่วยบรรเทาความทุกข์ให้กับปวงชนทั่วทั้งประเทศ ด้วยความห่วงใยของในหลวงที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ โดยไม่เลือกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ น้ำพระทัยที่พระองค์ทรงแผ่ไพศาลไปทั่วทุกอนูของผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยแล้งซ้ำซากตามฤดูกาล นาข้าว พืชไร่ พืชสวน ล้มตาย เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง แม่น้ำลำคลองก็แห้งขอดจนเห็นแต่โคลนตม

    ในหลวงของพวกเราคนไทย มิได้ทรงนิ่งเฉย ทรงตรากตรำพระวรกาย ทอดพระเนตรรายงานสภาพดินฟ้าอากาศ และ ข้อมูลต่างๆ ที่ส่งผ่านระบบดาวเทียมจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อทรงวิเคราะห์ ก่อนจะพระราชทานคำแนะนำแก่นักบิน และ เจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานฝนหลวงอยู่ทั่วประเทศ โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์จากพระราชวังไกลกังวล ที่หัวหิน

    เราได้ฟังรายงานข่าวจากสื่อต่างๆ ว่าในหลวงทรงปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำทุกวันตลอดทั้งปี เพราะทรงห่วงใยพสกนิกรที่ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ฝากชีวิตและอนาคตไว้กับความเมตตาของฟ้าฝน

    ดูจากตำราฝนหลวง และ แผนปฏิบัติการฝนหลวงกู้ภัยแล้ง ที่พระองค์พระราชทานให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ให้ปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงฤดูฝนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มปริมาณน้ำฝนบริเวณเหนือเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ให้นำเทคนิคซุปเปอร์แซนด์วิชมาประยุกต์ใช้ ในการป้องกันและทำลาย พายุลูกเห็บในฤดูร้อน ที่อาจสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

    ช่วงนี้ มีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน
    สร้างความฉ่ำเย็นในหัวใจให้กับพวกเราทั่วหน้า
    เมืองไทยเท่จัง นะคะ...............................ทำฝนใช้เองได้ด้วย
    แถมยังเผื่อแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงของเราอีกด้วย :)


    ๏ ๏ ๏ เมื่อลมฝน บนฟ้า มาลิ่ว....................ต้นไม้พลิ้ว ลู่กิ่งใบ
    เหมือนจะเอน รากคลอน ถอนไป....................แต่เหล่าไม้ ยิ่งกลับงาม
    พระพรหมท่าน บันดาล ให้ฝนหลั่ง....................เพื่อประทัง ชีวิตมิทราม
    น้ำทิพย์สาด เป็นสาย พรายพลิ้ว ทิวงาม....................ทั่วเขตคาม ชุ่มธารา

    ๏ ๏ ๏ สาดเป็นสาย พรายพลิ้ว ทิวทุ่ง....................แดดทอรุ้ง อร่ามตา
    รุ้งเลื่อมลาย พร่างพราย นภา....................ยามเมื่อฝน มาแต่ไกล
    พระพรหมช่วย อำนวยให้ ชื่นฉ่ำ....................เพื่อจะนำดับ ความร้อนใจ
    น้ำฝนหลั่งลงมา จากฟ้า แดนไกล....................พืชพรรณไม้ ชื่นยืนยง ... ฯลฯ

    ....................................................................................

    โพสลำดับที่ 83 ถึง 140 อ้างอิง จาก :
    http://www.pooyingnaka.com/nailuang/index.php

    ....................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2007
  10. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญทุกทิวาราตรีกาล อยู่เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรปวงชนชาวไทยตาบนานเท่านาน ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ท่าน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  11. ปารดา

    ปารดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +866
    ขอจงทรงพระเจริญ ทุกรูปให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆค่ะ โชคดีจริงๆที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย
     
  12. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ภาพเก่าในอดีต ที่บันทึกภาพ และส่วนใหญ่จะเก็บรักษาไวในต่างประเทศ
    จึงจะหาชมได้ยาก....

    ......................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  14. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  15. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  16. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  17. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  18. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  19. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  20. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...