อภัยทานกับอโหสิกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Forest_Sa, 15 ธันวาคม 2005.

  1. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อภัยทานกับอโหสิกรรม แตกต่างกันยังไงเหรอครับ
    อย่างมีคนมาทำไม่ดีกับเราชาตินี้แล้วเราอภัยทานให้ พอชาติหน้ามาเราจะโดนเขาทำอีกไหมครับหรือเราต้องอโหสิกรรมด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    อโหสิกรรมคือกรรม ที่เลิกให้ผลแล้วครับ ไม่มีผลของวิบากกรรมต่อไปครับ แต่อภัยทานคือการยกโทษให้ อย่างสมมุติว่ามีคนเดินเหยียบเท้าเรา เขาขอโทษเรา เราก็ยกโทษไม่ถือสาเขา อย่างนี้เรียกว่าอภัยทานคือการยกโทษในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีต่อเรา เรื่องของกรรมทำแล้วต้องได้รับการชดใช้ด้วยวิบากครับ ไม่มีทางหนีทั้งสิ้น นอกจากเข้านิพพาน แต่ว่าเรื่องของเวรระงับด้วยการไม่จองเวรคือการให้อภัยกัน ไม่ใช่ว่าตอนนี้มึงทำกู ถึงคราหน้ากูมีโอกาสกูขอทำมึงบ้าง แบบนี้ มันเป็นการจองเวรจองกรรม กันไม่สิ้นสุดครับ จนกว่าจะฝ่ายหนึ่งจะหนีเข้านิพพานไปเลย หรือไม่ก็จนกว่ายอมยกโทษให้กัน ถ้ายังไม่ยกโทษเวรก็ยังไม่หมด ยังผูกพันตามล้างแค้นกันตลอด ผลัดกันทำ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอันยาวนานนี้เราไม่รู้ว่าเราเคยไปทำให้ใครเจ็บช้ำมาบ้าง หรือเคยไปเบียดเบียนใคร จนต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาบ้าง บางทีเราเป็นเจ้ากรรม นายเวรของอีกคน บางทีเราเป็นหนี้เวรของอีกคน ทางแก้ไขของเวรคือการขอโทษขออภัยกันซะตอนที่มีชีวิตอยู่ หรือไม่ก็เวลาเราทำบุญ ก็ต้องอุทิศส่วนกุศลไปหาเจ้ากรรมนายเวรของเราทุกรูป ทุกนาม ทุกขันธ์ด้วย แล้วขออภัยจากเขาในสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดลงไปต่อเขา ทำไปเรื่อยๆ สักวันเขาก็ให้อภัยเรา หรือว่าถ้าเขาดื้อดึงจริงๆเราก็ไม่ต้องถือสาเขา เราทำดีไปเรื่อย ถึงเขาจะไม่ให้อภัยสักที แล้วเราก็เข้านิพพานไปซะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้อง อยู่ในภพภูมิอันมืดมิดที่เกิดจากดวงจิตของเขาเอง สักวันบุญเขามากพอ เขาก็สิ้นทุกข์เข้านิพพานเอง
     
  3. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    อย่างตัวอย่างของเทวทัตที่ตามผูกเวรกับพระโพธิสัตว์มาตลอด จนในชาติสุดท้ายพระโพธิสัตว์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าและได้ เข้านิพพานไปแล้ว ตนเองต้องมาอยู่ในความมืดบอดที่ตนเองก่อ เทวทัตไม่อยู่ในฐานะที่สมควรผูกเวรเลยเพราะพระโพธิสัตว์ไม่ได้ทำผิดต่อเทวทัต แต่เทวทัตผูกเวรเอง การเริ่มผูกเวรเกิดในเรื่องถาดทองคำ ข้าพเจ้าไม่ขอกล่าวในที่นี้เพราะเรื่องยืดยาวลองไปหาในชาดกดูครับ เรื่องแรกเริ่มการผูกเวรของเทวทัตต่อพระพุทธเจ้าของเรา
     
  4. นิรมิต

    นิรมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +171
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=592 align=center bgColor=#ffffcc border=0><TBODY><TR><TD colSpan=4>สังคหวัตถุ 4

    </TD></TR><TR><TD width=24> </TD><TD colSpan=4>
    สังคหวัตถุ 4 หมายถึง หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่น ผูกไมตรี เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล หรือเป็นหลักการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่ 1. ทาน คือ การให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปันของๆตนเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว คุณธรรมข้อนี้จะช่วยให้ไม่เป็นคนละโมบ ไม่เห็นแก่ตัว เราควรคำนึงอยู่เสมอว่า ทรัพย์สิ่งของที่เราหามาได้ มิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน เมื่อเราสิ้นชีวิตไปแล้วก็ไม่สามารถจะนำติดตัวเอาไปได้
    2. ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน พูดด้วยความจริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์เหมาะสำหรับกาลเทศะ พระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการพูดเป็นอย่างยิ่ง เพราะการพูดเป็นบันไดขั้นแรกที่จะสร้างมนุษย์สัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้น วิธีการที่จะพูดให้เป็นปิยวาจานั้น จะต้องพูดโดยยึดถือหลักเกณฑ์
    ดังต่อไปนี้
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=318 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle>เว้นจากการพูดเท็จ
    เว้นจากการพูดส่อเสียด
    เว้นจากการพูดคำหยาบ
    เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ</TD></TR></TBODY></TABLE>3. อัตถจริยา คือ การสงเคราะห์ทุกชนิดหรือการประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
    4. สมานัตตา คือ การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ หรือมีความประพฤติเสมอต้นเสมอปลาย คุณธรรมข้อนี้จะช่วยให้เราเป็นคนมีจิตใจหนักแน่นไม่โลเล รวมทั้งยังเป็นการสร้างความนิยม และไว้วางใจให้แก่ผู้อื่นอีกด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.learntripitaka.com/scruple/sank4.html
     
  5. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ขอบคุณมากครับ คุณ Palmnaraks สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...