หลวงปู่อินตอง สุภวโร วัดวีระธรรม อ.พังโคน จ.สกลนคร

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ติสาโร, 14 มิถุนายน 2022.

  1. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ก่อนหน้าก็เคยสงสัยตัวเองนะว่า เก็บอะไรเยอะแยะ…ไม่ค่อยขาย
    มาถึงวันนี้ เริ่มพอรู้บ้างคร่าวๆและ…อ๋อ!!!ไว้สร้างสั่งสมบุญบารมีใหญ่นิเอง
    - เกศา จีวร คำเมี่ยง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
    - เกศา จีวร ชานหมาก เล็บ สายสิญจน์ ครูบาตั๋น สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น
    - เกศา จีวร หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี
    - กำไลเฮง เฮง เฮง หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    - ทองล้นเบ้า พิธีรุ่น 80 ปี หลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม
    .
    เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้
    ตายไปทั้งที เอาดีฝากไว้

    45.jpg 46.jpg 47.jpg 48.jpg 49.jpg 50.jpg
     
  2. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    แผ่นทองแดง แผ่นทองเหลือ แผ่นเงินก็ถึงบ้านของอ.หมาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    อ.หมานก็เริ่มลงมือเชิญบารมีครูบาอาจารย์มาช่วยลงจารแผ่นยันต์

    60.jpg 61.jpg
     
  3. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    กว่าจะได้แต่ละอย่าง อ.หมานส่งภาพมาให้ดู บอกปวดตาตุ๊บๆเลย

    63.jpg
     
  4. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เฑาะว์พุทโธ

    อ.หมานเขียนยันต์ตามที่เรียนมาทำให้พิเศษเอาไปฝังในองค์พระในชุดพิเศษ เรียกยันต์มาเต็มแบบครบสูตร
    มีนะกวัก เฑาะว์ และยังเหลือนะฤๅชา อีกชุด
    เขียนกันจนปวดตาละงานนี้...(อ.หมานบอก)

    ส่วนผมมีหน้าที่ลงภาพ ลงข้อมูลเก็บไว้555+

    64.jpg
     
  5. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อ.หมาน เรียนวิชากับอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใยอยู่ถึง5ปีจนอ.ตั้วมรณภาพ และได้เรียนวิชาสายในดง และอ.หมานเป็นศิษย์คนสุดท้ายของพ่อหนานปัน จินา

    65.jpg
     
  6. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    2728.png บุญสัมพันธ์ของความไม่บังเอิญ 2728.png
    .
    หลังจากที่ อ.วิกรานต์ แซ่ลี้ ประธานชมรมสู่ร่มโพธิญาณ ได้มีนิมิตเห็นพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม และพระพิฆเนศ มาบอกในนิมิตว่า " ให้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์และหินหัวใจพระแม่ธรณี จำนวน 1 ก้อน ไปถวายหลวงปู่อิ่ม วัดทุ่งนาใหม่ "
    ต่อมาไม่นาน อ.วิกรานต์ ได้โทรศัพท์มาบอกกับดิฉันว่า " ให้รีบนำต้นพระศรีมหาโพธิ์และหินหัวใจพระแม่ธรณี เข้าไปฝากอนุบาลกับพระอาจารย์หยก
    เจ้าอาวาสวัดทุ่งนาใหม่ ไว้ก่อน "
    (อ.วิกรานต์ ได้พูดประโยคสั้นๆ แค่นี้ ดิฉันถามเหตุผลว่าทำไมต้องรีบเอาไปฝากอนุบาล อาจารย์บอกว่า " ท่านจะได้มั่นใจ " )
    วันศุกร์ ที่ 17 มิ.ย. 2565 ดิฉันได้เดินทางนำต้นพระศรีมหาโพธิ์ และหินหัวใจพระแม่ธรณี เข้าไปที่วัดทุ่งนาใหม่ ตามที่อาจารย์ให้รีบดำเนินการ ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ดิฉันได้โทรไปหาท่านหยก เพื่อกราบเรียนปรึกษาเรื่องงานปลูกต้นพระศรีฯ และบรรจุหินฯ ท่านหยกได้เล่าเรื่องเหตุอัศจรรย์ให้ฟังว่า.. วันนั้นที่โยมพี่ฝนได้นำต้น พระศรีฯ และหินฯ มาฝากไว้ก่อน พอตกกลางคืนผมก็อยากจะพิสูจน์ว่าต้นพระศรีฯ และหินฯ มีความศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ ผมได้นั่งสวดมนต์ภาวนาไปครู่หนึ่ง และได้อธิฐานว่า ตอนนี้ทางวัดยังไม่มีปัจจัยไปชำระค่าไฟจำนวนเงินประมาณ 15,000 บาท หากต้นพระศรีฯ และหินฯ มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ขอให้มีเงินเข้ามาจากทางใดทางหนึ่ง จะได้นำเงินส่วนนี้ไปจ่ายค่าไฟที่ค้างอยู่ เช้าวันต่อมาก็มีชาวมาเลเซีย มาจากไหนไม่รู้ มาบูชาวัตถุมงคลของวัดไป ได้เงินจากการบูชาวัตถุมงคลมาประมาณ 15,000 บาท พอดีกับที่จะต้องจ่ายค่าไฟ และท่านยังเล่าให้ดิฉันฟังอีกว่า..
    พอโยมพี่ฝนเล่าถึงนิมิตของ อ.วิกรานต์ ว่าพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ให้นำหินฯ มาถวายหลวงปู่อิ่ม อยู่ๆ ความจำในอดีตของผมก็เริ่มกลับมา แม่ผมเล่าให้ฟังว่า ตอนตั้งท้องลูกทุกคนแม่จะถือศีลอย่างเคร่งครัด และไม่กินสัตว์ใหญ่ มีอยู่คืนหนึ่งแม่เคยฝันว่ามีผู้หญิงมาบอกว่า เทวดาที่มาอยู่กับแม่และมีบุญสัมพันธ์กับแม่คือพระแม่ธรณี ตอนเด็กๆ ผมกินเนื้อวัวไม่ได้เลย พอกินเข้าไปก็อาเจียนออกมา และต้องเข้าโรงพยาบาล แค่ได้กลิ่นเนื้อวัว ผมก็มีอาการมึนหัวจะอาเจียน และมีอยู่วันหนึ่งแม่ได้เดินไปซื้อข้าวสารที่ร้านคนจีนในหมู่บ้าน อยู่ๆ เจ้เจ้าของร้านก็หยิบเจ้าแม่กวนอิมเนื้อหยกเขียว ส่งให้แม่ผม แล้วผมก็สวดมนต์บทเจ้าแม่กวนอิมได้เองโดยที่ไม่ต้องดูหนังสือ ต่อมาพอโตขึ้น ผมมาบวชพระ ผมก็จำเรื่องนี้ไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งมีเหตุที่ อ.วิกรานต์ ให้นำต้นพระศรีฯ และหินฯ มาฝากอนุบาลไว้ก่อน ความทรงจำเรื่องนี้ก็ค่อยๆ กลับมา ผมยังงงเลย เพราะผมลืมเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่ผมมาบวช แต่ส่วนตัวผม ผมศึกษาเรื่องมหายานมานานแล้วแต่ไม่มีใครรู้ ผมไม่ได้บอกใคร ผมศึกษาประวัติขององค์ดาไลลามะที่ 14 มานานแล้ว ผมนับถือท่าน ผมศรัทธาท่าน เป็นการส่วนตัว เมื่อก่อนนี้ถ้าผมเจอรูปเจ้าแม่กวนอิม ผมจะเก็บไว้หมด เก็บไว้อย่างดี ผมชอบรูปเจ้าแม่กวนอิมมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ทั้งๆที่ตั้งแต่บรรพบุรุษมาไม่ได้มีเชื้อสายจีนเลยครับ
    ดิฉันได้นำเรื่องราวของท่านหยก โทรไปเล่าให้ อ.วิกรานต์ ฟัง ประโยคแรกที่ดิฉันได้ยินอาจารย์พูดคือ " ผมไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมหินต้องไปอยู่ที่วัดทุ่งนาใหม่ เพราะเหตุนี้เอง ท่านหยกมีบุญสัมพันธ์กับเจ้าแม่กวนอิม "
    ดิฉัน : อาจารย์ช่วยเล่าแบบละเอียดให้ฝนฟังได้
    มั๊ยคะ เจ้าแม่กวนอิมท่านมาบอกอะไรบ้าง
    ในนิมิต
    อาจารย์ : ในคืนหนึ่งขณะที่นั่งภาวนาอยู่นั้น ก็บังเกิด
    นิมิตเห็น พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม
    ประทับนั่งบนหลังกบ ในพระหัตถ์ถือรวง
    ข้าวสีทองสุกสกาว และพระพิฆเนศอยู่
    เบื้องหน้า พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ใน
    นิมิตท่านพูดว่า " ให้นำหิน 1 ก้อน ไป
    ถวายหลวงปู่อิ่มวัดทุ่งนาใหม่ หลวงปู่อิ่มนี้
    ท่านเป็นอริยสงฆ์ และเคยบำเพ็ญบารมี
    ร่วมกันมาในอดีตชาติ ท่านหยกเคยเป็น
    ลูกหลานบริวารของเรามา ในชาตินี้ท่าน
    กำลังจะมาสร้างบารมีต่อ "
    ดิฉันได้ฟังเรื่องราวจากที่ท่านหยกเล่า ทำให้ดิฉันสงสัยและตั้งคำถามกับตัวเองว่า " แปลกดีนะ เคยได้ยินแต่คนไทยเชื้อสายจีน ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม แล้วไม่ทานเนื้อวัว เนื้อควาย แต่นี่ท่านหยกไม่ได้มีเชื้อสายจีนเลย ทำไมถึงทานเนื้อวัวไม่ได้ อย่าว่าแต่ทานเนื้อวัวเลย แค่ได้กลิ่นท่านหยกก็มีอาการแล้ว
    1f64f.png ขออนุญาติหยิบยกบทความนี้จากเพท ข้าวสวยร้อน มาลงนะคะ
    เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนเชื้อสายจีนรุ่นเก่าในไทย ที่นับถือพระกวนอิมหรืออวโลกิเตศวรถึงไม่กินเนื้อวัว ทำไมการนับถือท่านต้องงดเนื้อวัว การงดเนื้อวัวถวายกวนอิมมันมีที่มา ผมว่าน่าจะเริ่มมาจากเรื่องสมัยราชวงศ์ซ่งเรื่องนี้
    ไจ๋จี๋ (翟楫) อาศัยที่เมืองหูโจว (湖州) อายุ 50 ปี ไม่มีลูกชาย จึงวาดภาพพระอวโลกิเตศวรหรือกวนอิม แล้วบูชาอย่างยิ่งยวด เมียเขาตั้งท้อง ต่อมาเขากับเมียฝันเห็นหญิงชุดขาวถือถาด มีเด็กชาย 1 คนบนถาด หน้าตาน่ารักน่าชัง ในความฝันเมียดีใจมากอยากไปอุ้มเอามา แต่มีวัวตัวนึงขวางทางไว้ทำให้ไปเอาไม่ได้ ต่อมานางคลอดลูกชาย แต่อายุครบเดือนก็ตาย เขาจึงบูชาเหมือนตอนแรก เขากับเมียฝันเห็นผู้หญิงชุดขาวคนเดิม หญิงชุดขาวถามไจ๋จี๋ว่า
    子酷嗜牛肉。豈謂是歟?
    (เจ้าชอบกินเนื้อวัวใช่ไหม?)
    ไจ๋จี๋หวาดกลัวเมื่อได้ยินคำถามนี้
    หญิงชุดขาวบอกว่า
    "即誓闔家不複食。遂複夢前婦人送兒至。"
    (สาบานว่าต่อไปจะไม่กินเนื้อวัวทั้งบ้านอีก ก็จะให้ลูกชายแก่เมียเหมือนที่ฝันครั้งก่อน)
    เมียได้อุ้มเด็กคนนั้น ต่อมาเมียเขาก็คลอดเด็กชายและเลี้ยงจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งคู่ล้วนยินดี
    洪邁:《夷堅志》
    สมัยราชวงศ์ซ่ง ความเชื่อเรื่อง
    กวนอิมแพร่หลายสู่ชาวบ้าน ตำนานเกี่ยวกับแม่กวนอิมที่เรียบเรียงสมัยถัง ก็แพร่หลายสู่ชาว บ้านในสมัยซ่ง
    เครดิต
    ข้าวสวยร้อน 1f64f.png
    คงจะเป็นด้วยเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้ท่านหยกได้รับของมงคล อันเกี่ยวเนื่องกับทางสายมหายาน และวัชรยาน รวมถึงของกายสิทธิ์ตามธรรมชาติ 3 สิ่งนี้ เป็นของคู่บารมีในการสร้างวัตถุมงคล
    1. ข้าวเปลือก พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ธัญญาทิพย์
    กวักทรัพย์
    2. เส้นเกศาสามเณรี ผู้สำเร็จวิชากายสายรุ้ง
    3. ขนทิพย์เมืองลับแล ซึ่งถือว่าเป็นต้นไม้อาถรรพ์ที่มีคุณวิเศษ

    59.jpg 60.jpg 61.jpg 62.jpg 63.jpg 64.jpg 65.jpg
     
  7. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    บล๊อคพิมพ์แรก ตอนนี้ทางวัดให้ผ่านเรียบร้อยแล้ว





    41.jpg 42.jpg
     
  8. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อ.หมานก็ส่งภาพมาให้ชม อ.หมานยังคงนั่งจารแผ่นยันต์ให้อย่างต่อเนื่อง เชิญครูบาอาจารย์สายในดงมาลงจารแผ่นยันต์


    68.jpg
     
  9. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อาจารย์หมาน นอกจากเคยได้ไปเรียนวิชากับพระอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใยอยู่ 5 ปี พระอาจารย์ตั้วก็เคยให้อาจารย์หมานเป็นผู้ลงตะกรุดให้ท่าน แต่ไม่ทราบว่านำไปใส่ในพระรุ่นไหนบ้าง จนพระอาจารย์ตั้วมรณภาพแล้ว
    .
    อ.หมานก็เป็นศิษย์คนสุดท้ายของพ่อหนานปัน จินา
    .
    พ่อหนานปัน จินา ท่านเป็นหลานครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาชุ่มท่านเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำและเป็นพ่อหนานปัน จินาเป็นคนลงตะกรุดให้ครูบาชุ่ม ในภาพคืออาจารย์หมานไปเรียนวิชากับพ่อหนานปัน จินา พ่อหนานปัน จินาประสิทธิ์วิชาให้ วิชาที่พ่อหนานปัน จินา สอนก็มีตะกรุดเสื้อ ตะกรุดหนัง ลงทองยันต์หนีบ วิชาอื่นอีกหลายอย่างมากมาย แต่กว่าที่อาจารย์หมานจะได้เคล็ดวิชาครบก็หลายปี
    .
    และอาจารย์หมานก็ได้ไปเรียนวิชาจากสายในดงเพิ่มอีก
    .
    ดังนั้นเรื่องการลงตะกรุด ผมถึงมั่นในตัวอาจารย์หมาน ขอเมตตาท่านเป็นผู้จารตะกรุดให้

    ท่านบอกเสมอว่า ท่านไม่ได้เป็นคนจารนะ เพราะท่านก็ยังเป็นมนุษย์มีกิเลสหนา ท่านทำพิธีเชิญบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์มาลงจารให้ ดังนั้นไม่ต้องห่วง ของไม่มีเสื่อม


    67.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  10. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    68.jpg


    ครูบาบุญชุ่ม ที่กำลังโด่งดัง ณ เวลานี้ ที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ปิดวาจา 3 ปี ที่เพิ่งออกจากถ้ำ ตอนครูบาบุญชุ่มยังเป็นสามเณรเคยติดตามครูบาชุ่ม วัดวังมุยไปวัดท่าซุง ในปีพ.ศ. 2518
     
  11. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    1f308-png-png.png #เส้นเกศาองค์สามเณรีผู้สำเร็จวิชากายสายรุ้ง
    .

    สมัยก่อนตอน อ.วิกรานต์ อายุประมาณ 20 กว่าๆ (ปัจจุบัน อ.วิกรานต์ อายุ 50 ปี) ค้าขายอยู่แถวถนนข้าวสาร จะขายของประเภทของที่ระลึกของฝาก ย่านถนนข้าวสารเป็นย่านที่ชาวต่างชาติชอบเดินเที่ยวเมื่อมาเมืองไทย วันหนึ่งมีหญิงสาวชาวฝรั่งเศส ชื่อลินดา เดินเที่ยวแถวถนนข้าวสารเพื่อหาซื้อของที่ระลึกกลับประเทศฝรั่งเศสในวันรุ่งขึ้น คุณลินดาเดินดูของไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าร้าน อ.วิกรานต์ คุณลินดาได้เลือกซื้อของที่ระลึกในร้าน อ.วิกรานต์ จำนวนพอสมควร ภายในร้านมีพระพุทธรูปตั้งวางบูชาไว้บนหิ้ง คุณลินดายกมือไหว้พระพุทธรูปในร้าน อ.วิกรานต์ เห็นว่าคุณลินดามีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและชอบการปฏิบัติภาวนา จึงอยากที่จะมอบพระองค์เล็กให้ เพื่อเป็นที่ระลึก และเพื่อให้คุณลินดาเกิดพลังในการปฏิบัติภาวนา อ.วิกรานต์ ได้มอบพระองค์เล็กๆ ให้คุณลินดา จำนวนหลายองค์ 1 ในนั้นมีหลวงพ่อแนม วัดเขาหน่อ ที่อาจารย์ พอจะจำได้ จากนั้นคุณลินดาก็พูดว่า.. " ฉันเจอแล้ว "
    คุณลินดา ได้ยื่นของให้ อ.วิกรานต์ 1 ถุงใหญ่
    อาจารย์ : ให้ผมทำไม
    ลินดา : ดาไลลามะฝากมาให้
    (หมายถึงดาไลลามะที่ 14)
    อาจารย์ : ผมไม่รู้จักดาไลลามะ
    ลินดา : ดาไลลามะบอกกับฉันว่า ไปเมืองไทยถ้า
    เจอชายหนุ่มลักษณะรูปร่างหน้าตาแบบนี้
    แล้วเขาส่งของมงคลให้ ให้นำของในถุงนี้
    ยื่นให้ชายหนุ่มคนนั้น
    อาจารย์ : คุณให้ผิดคนแล้ว
    ลินดา : ไม่ผิด ตรงตามที่ดาไลลามะบอกทุกอย่าง
    ฉันมาเมืองไทยหลายวันแล้ว ก็ยังไม่เจอ
    คนที่ดาไลลามะบอก จนวันรุ่งขึ้นฉันจะ
    ต้องเดินทางกลับบ้านที่ฝรั่งเศสแล้ว จนมา
    เจอคุณ
    อาจารย์ : เอาอย่างนี้นะ ผมจะเก็บของในถุงนี้ไว้ให้
    หากไม่ใช่ของผม ก็มาเอาคืนได้ที่นี่
    ในถุงมีของอยู่จำนวนมาก หลายอย่าง แต่ที่อาจารย์พอจะจำได้มี 4 อย่าง คือใบโพธิ์ จีวร รูปภาพ ยาเม็ดเล็กๆ ปั้นเป็นลูกกอน
    คุณลินดา และ อ.วิกรานต์ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการรู้จักกันครั้งแรก
    ในวันเดียวกันคุณลินดา ได้มอบของส่วนตัวของตัวเอง คือเส้นเกศาของสามเณรีผู้สำเร็จวิชากายสายรุ้ง ให้ อ.วิกรานต์ โดยคุณลินดาหยิบเส้นเกศาขึ้นมา 1 กำมือ (ความยาวของเส้นเกศายาวประมาณ 1 ศอก) คุณลินดา เล่าให้ อ.วิกรานต์ ฟังว่า...
    ตัวคุณลินดาเอง เป็นลูกศิษย์ขององค์ดาไลลามะที่ 14 ได้มารู้จักกับสามเณรี ซึ่งท่านก็เป็นลูกศิษย์ขององค์ดาไลลามะที่ 14 เช่นกัน สามเณรีเป็นชาวธิเบตอาศัยอยู่ในวัดในหมู่บ้าน คุณลินดาได้เจอสามเณรี จึงเกิดความศรัทธาเป็นอย่างมาก จากนั้นต่อมาก็ได้อุปัฏฐากสามเณรีท่านนี้มาเรื่อยๆ และได้เรียนกรรมฐานจากท่าน สามเณรีท่านนี้ ในขณะที่ท่านอยู่ในวัด จะมีผู้คนมาให้ท่านรักษาเยอะแยะมากมาย มาวันนึงท่านรู้วาระของตัวเอง ว่าจะอยู่ได้อีกแค่ 3 ปี เท่านั้น ท่านจึงตัดสินใจ ปลีกวิเวกเข้าไปในป่าลึก เพื่อปฏิบัติภาวนาอย่างเต็มที่ และได้มีลูกศิษย์เพียงไม่กี่คนที่ตามไปดูแลอุปัฏฐากท่าน หนึ่งในนั้นมีคุณลินดา เมื่อท่านเข้าป่าไปแล้ว บางวันท่านก็จะออกมาสอนกรรมฐานลูกศิษย์บ้าง แต่จะน้อยลง เพราะท่านเน้นภาวนาเยอะ ต่อมา 3 เดือน ก่อนท่านจะละสังขาร ท่านได้ฉันท์อาหารน้อยลง อย่างข้าวปั้น 1 มื้อ ที่ท่านเคยฉันท์ในทุกๆ วัน ก็เหลือแค่ ก้อนเล็กนิดเดียวเท่าปลายนิ้วก้อย ท่านจะเน้นภาวนาเข้มมาก ร่างกายท่านก็ผอมลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึง ก่อนที่ท่านจะละสังขาร 7 วัน ท่านได้บอกกับลูกศิษย์ว่า " เมื่อท่านละสังขารแล้ว ห้ามใครมาแตะตัวท่านเด็ดขาด ท่านจะทิ้งเส้นผม กับเล็บไว้ให้เป็นที่ระลึก จนกว่าจะครบ 7 วัน " วันสุดท้ายก่อนท่านจะละสังขาร ท่านให้ลูกศิษย์อาบน้ำให้ท่าน ชำระล้างร่างกายให้สะอาด และเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นท่านก็ได้ให้โอวาทธรรม และให้พรลูกศิษย์ 1 ในนั้นมีคุณลินดา แล้วท่านก็ได้ละสังขารอย่างสงบ ท่ามกลางหมู่ลูกศิษย์
    เมื่อท่านละสังขารไปแล้ว ก่อนจะครบ 7 วัน ที่ท่านได้สั่งไว้ว่าห้ามแตะตัวท่านเด็ดขาด ลูกศิษย์และคุณลินดา ได้เข้ามาดูสรีระสังขารท่านอยู่เรื่อยๆ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสรีระสังขาร คือจะหดเล็กลงเรื่อยๆ เท่ากับเด็กทารกแรกเกิด และไม่มีกลิ่นเหม็นเลย แต่แปลกที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบอธิบายไม่ถูก
    ในค่ำวันที่ 7 ของการละสังขารของสามเณรี ในป่าเกิดฝนตกกระหน่ำ คุณลินดาและลูกศิษย์ ได้มองไปที่สรีระสังขารสามเณรี ก็เห็นเป็นละอองไอน้ำปกคลุมแต่แปลกละอองนั้นเป็นสีรุ้งสดใส
    ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 8 ของการละสังขาร สรีระท่านหายไปเหลือเพียงไว้แค่เส้นเกศาที่ไม่ได้ปลงมาตั้งแต่วันที่ท่านเข้ามาอยู่ปฏิบัติภาวนาในป่า ยาวประมาณ 1 ศอก และเล็บมือ เล็บเท้า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก
    .
    เมื่อคุณลินดาได้เกศาและเล็บขององค์สามเณรีมาก็ได้ลงมากราบลาองค์ดาไลลามะที่14 เพื่อที่จะมาเที่ยวและแสวงบุญในเมืองไทย
    ก่อนเดินทางองค์ท่านดาไลลามะได้พยากรณ์ว่า
    ในการเดินทางครั้งนี้เธอจะได้พบ ชายหนุ่มคนหนึ่ง(ที่มีบุญสัมพันธ์กับเรา) ขอให้มอบถุงวัตถุมงคลให้แก่เขา โดยท่านได้สั่งว่า ถ้าเจอคนไทยที่มอบวัตถุมงคลให้คุณลินดา ขอให้คุณลินดามอบถุงนี้แก่คนไทยคนนั้น คุณลินดาก็รับปากท่าน
    .
    การต่อมาคุณลินดาก็ได้มาประเทศไทยได้ท่องเที่ยวแสวงบุญตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ยังไม่เจอชายหนุ่มที่องค์ดาไลลามะบอกเลย จนกระทั้งวันหนึ่งได้มาเดินดูของแถวถนนข้าวสาร คุณลินดาได้เข้าดูสินค้าร้านค้าอยู่หนึ่งร้านและได้เห็นหิ้งพระเลยได้ยกมือไหว้และสวดมนต์ เจ้าของร้านประทับใจมากๆ เลยได้หยิบวัตถุมงคลบนหิ้งให้คุณลินดา(ชายเจ้าของร้านนั้นคืออาจารย์วิการนต์ แซ่ลี้ ประธานชมรมสู่ร่มโพธิญาณ นั้นเอง )
    .
    .
    .
    ผ่านไปประมาณ 1 ปี คุณลินดา ได้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทยอีกครั้ง และได้มาแวะอุดหนุนซื้อของที่ระลึกร้าน อ.วิกรานต์ คุณลินดาเล่าให้ อ.วิกรานต์ ฟังว่า ฉันได้ถามดาไลลามะแล้วว่าใช่ชายหนุ่มคนนั้นหรือไม่ ท่านก็ยิ้ม ฉันถามต่อว่า จะให้เอาของคืนมาหรือไม่ ดาไลลามะท่านก็ยิ้ม ท่านไม่ตอบอะไรเลย เวลาผ่านไปหลายปี อ.วิกรานต์ ได้ย้ายที่ขายของจึงไม่ได้เจอคุณลินดาอีกเลย
    สามเณรีท่านได้ละสังขารตอนอายุ 34 ปี


    64.jpg
     
  12. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ข้าวเปลือกแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม
    .
    ข้าวเปลือกจากต้นข้าวที่งอกเองบริเวณหลังบ้านอ.วิกรานต์ แซ่ลี้ หลังจากอัญเชิญรูปภาพพระกวนอิมธัญญาทิพย์กวักทรัพย์เข้ามาบูชาที่บ้าน จึงถือว่าเป็นนิมิตมงคลยิ่ง
    .
    .
    ประวัติความเป็นมาของข้าวเปลือกชุดนี้
    .
    ข้าวเปลือก 1f33e-png-png-png.png 1f33e-png-png-png.png 1f33e-png-png-png.png
    พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมธัญญาทิพย์กวักทรัพย์
    ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีกว่าๆ สมัยก่อตั้งชมรมใหม่ๆ ในคืนวันหนึ่ง อ.วิกรานต์ แซ่ลี้ ได้นั่งภาวนาตามปกติเหมือนที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำในทุกๆ คืน ในคืนนี้ขณะที่นั่งภาวนาอยู่เมื่อจิตสงบดีแล้ว ก็เกิดเห็นเป็นภาพนิมิตของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ตามที่เห็นในนิมิตคือ ท่านนั่งในดอกบัวและอยู่บนหลังกบ มือขวาถือแจกัน ในแจกันมีรวงข้าวสีทองและต้นของรวงข้าวหันเข้าหาตัวพระองค์ท่าน พระหัตถ์ซ้ายกวักเหมือนนางกวัก จากนั้นภาพนิมิตก็เลือนหายไป
    วันต่อมา อ.วิกรานต์ ก็ได้หาช่างวาดรูป เพื่อให้เขาช่วยวาดรูปตามนิมิตนี้ให้ หลังจากที่ได้รูปตามนิมินมาแล้ว อ.วิกรานต์ ได้นำรูปนี้ไปให้พระเถระที่ อ.วิกรานต์ นับถือได้ปลุกเสกรูปนี้ และได้อัญเชิญเข้าห้องพระ และวางไว้ในห้องพระ
    ต่อมาไม่นานพื้นที่หลังบ้านของ อ.วิกรานต์ ที่อยู่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นตึกสูง และหลังบ้านเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อ.วิกรานต์ ก็จะปลูกต้นไม้บ้างเล็กน้อย เหตุการณ์ในวันนั้นก็คือ อ.วิกรานต์ เห็นเหมือนต้นหญ้าขึ้นมาเขียวชอุ่ม แต่ก็ไม่เหมือนต้นหญ้าทั่วไป ขึ้นมาเป็นกระหย่อมๆ ประมาณ 9 กระหย่อม แต่ละจุดที่ต้นหญ้าขึ้นมาจะอยู่ห่างกันประมาณ 1 - 2 ก้าว ตอนแรก อ.วิกรานต์ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็รดน้ำไปเรื่อยๆ ต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ ก็ได้เจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ
    วันหนึ่งต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ก็มีรวงข้าวงอกออกมา เป็นสีทองงอกออกมา พอ อ.วิกรานต์ เห็น อาจารย์ก็คิดในใจว่า นี่มันต้นข้าวนี่ ไม่ใช่ต้นหญ้า แล้วต้นข้าวมางอกที่หลังบ้านได้ยังไง ถ้าไม่มีคนมาปลูกไว้ ต้นข้าวไม่น่าสามารถขึ้นเองได้ หรือถ้าขึ้นเองได้ตามธรรมชาติก็ไม่น่าจะใช้พื้นที่แบบนี้ ปกติต้นข้าวจะอยู่ในนาอยู่กับน้ำแฉะๆ
    เมื่อ อ.วิกรานต์ เห็นเป็นเช่นนี้แล้ว อาจารย์ก็ได้เก็บรวงข้าวนั้นไว้ ในทุกๆ ต้น ที่มีรวงข้าวงอกออกมา เก็บได้จำนวนมากพอสมควรเลยทีเดียว จากนั้นต้นข้าวทั้งหมดก็ได้ค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงไปตามธรรมชาติ
    .
    ก่อนข้าวออกรวงเคยนำใบข้าวและรูปพระแม่กวนอิมไปขอให้หลวงปู่พรม วัดป่าชนะสงคราม สุโขทัย
    ท่านพิจารณา
    ท่านกล่าวว่าแปลกดีเป็นมงคล
    ท่านว่า รูปเกิดจากจิต ทุกอย่างเกิดแต่บารมีโยม ทิพย์อำนาจท่าน(พระแม่กวนอิม)บันดาลดลทุกอย่างก็สำเร็จเป็นไปได้
    ท่านประทานให้มาก็เพื่อเป็นกำลังใจให้เราเร่งสร้างบารมี
    .
    มีอยู่วันหนึ่ง อ.วิกรานต์ ได้นำคณะเข้าไปกราบหลวงพ่อสาย ที่วัดท่าไม้แดง จ.ตาก (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) อาจารย์ได้นำข้าวเปลือกทั้งหมด และมวลสารพร้อมด้วยวัตถุมงคลเข้าไปด้วย เพื่อให้หลวงพ่อสายได้เมตตาปลุกเสกและอธิฐานจิตให้ ทุกๆ ครั้งที่ไปอาจารย์จะนำของหลายๆ อย่างไปให้หลวงพ่อสายปลุกเสกและอธิฐานจิต ครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้าวเปลือกและมวลสาร วัตถุมงคลทั้งหมดอยู่ในลังกล่องกระดาษปิดไว้อย่างดี อาจารย์จะนำทั้งหมดไปกองๆ ไว้ที่ด้านหน้าตรงที่หลวงพ่อสายนั่งอยู่
    หลังจากที่หลวงพ่อสายอธิฐานจิตของทั้งหมดให้เสร็จแล้ว พอท่านออกจากสมาธิ ท่านได้ถาม อ.วิกรานต์ ว่า " ไปเอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมมาทำไม " อ.วิกรานต์ รู้สึกงงที่หลวงพ่อสายท่านล่วงรู้ได้อย่างไรว่า มีข้าวเปลือกอยู่ในลังกล่องกระดาษนั่น แม้แต่คนใน กลุ่มคณะก็ยังไม่รู้เลยว่าในลังกล่องกระดาษนั้นมีอะไรอยู่บ้าง อีกทั้งท่านยังทราบด้วยญาณวิถีอีกด้วยว่า.. " นี่คือข้าวเปลือกอันบังเกิดจาก ทิพยอำนาจแห่งพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม " ทุกคนรู้สึกขนลุกไปตาม ๆ กัน
    จากนั้นหลวงพ่อสายได้บอกกับอาจารย์ว่า " ให้เอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาจากในกล่องกระดาษ " จากนั้น อ.วิกรานต์ ก็ได้นำข้าวเปลือกส่วนหนึ่งถวายหลวงพ่อสาย
    .
    .
    กบ : 1f438-png-png-png.png
    หมายถึง อายุยืน ความอุดมสมบูรณ์ กบมีญาณวิเศษรู้จักจำศีล
    .
    รวงข้าว : 1f33e-png-png-png.png
    หมายถึง ความอิ่ม ความอุดมสมบูรณ์ การบูชารวงข้าวก็เหมือนได้บูชาแม่โพสพ
    .
    พระหัตถ์ซ้ายกวักเข้ามา : 1f91a-png-png-png.png
    หมายถึง การกวักสิ่งดีๆ เข้าหาตัวเอง กวักเงิน กวักทอง กวักโชค กวักลาภ


    61.jpg 63.jpg
     
  13. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขนทิพย์เมืองลับแล(เกล้านางนี)
    .
    วันอังคาร ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
    เช้าวันที่ 15 ก.พ. 2565 อ.วิกรานต์ แซ่ลี้ พร้อมด้วยกลุ่มคณะชมรมสู่ร่มโพธิญาณ เดินทางมุ่งหน้าเข้าวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมกันถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์ และหินหัวใจพระแม่ธรณี (หินที่องค์ดาไลลามะที่ 13 ทรงเคยอธิฐานจิตไว้) เพื่อน้อมถวายแด่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
    ในระหว่างที่รอเวลาเพื่อจะถวายหลวงพ่อกัณหา ดิฉัน และเจ้คิ้ม เจ้หลี ได้ชวนกันเดินไปด้านหลังบริเวณที่ทางวัดจัดไว้สำหรับทานอาหาร เพื่อไปหากาแฟดื่มกัน เรา 3 คน รอเวลาให้น้ำเดือด ก็ฉีกซองกาแฟกดน้ำร้อนออกมา กำลังร้อนๆอยู่เลย ซักครู่ อ.วิกรานต์ ก็เดินตรงมาที่ดิฉัน มากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู บอกว่า..
    อาจารย์ : จะชวนไปหาของดี
    ดิฉัน : ของดีอะไรคะ จะมีของเสด็จเหรอคะ
    อาจารย์ : มาเหอะหน่า เร็วๆ
    ดิฉัน : รอด้วยอาจารย์ เดี๋ยวฝนรีบมึ้กกาแฟ
    เข้าปากแป๊บนะคะ
    เมื่ออาจารย์บอกเช่นนั้นดิฉันก็ไม่รอช้า รีบซดกาแฟอย่างเร็ว น้ำก็ร้อนมากเหลือเกิน 1f974-png.png ลิ้นชากันเลยทีเดียวเชียว กลุ่มคณะเราอยู่บริเวณนั้น 4 คน มี ดิฉัน เจ้คิ้ม เจ้หลี พี่หมู ดิฉันได้รีบเดินไปกระซิบทั้ง 3 ท่าน บอกว่าอาจารย์จะชวนไปหาของดี เจ้หลี กับเจ้คิ้ม รีบวางแก้วกาแฟอย่างเร็ว ยังไม่ทันได้ดื่มกาแฟในถ้วยนั้นกันเลย
    พวกเราประมาณ 10 คน ก้าวเดินกันอย่างเงียบๆ อาจารย์บอกว่าอย่าเสียงดัง ในระหว่างที่เดินกันไปอาจารย์ก็บอกว่า.. จะให้ช่วยกันหาเกล้านางนี จะมีลักษณะคล้ายเส้นผม เส้นหนา ยาวกระจุกเป็นก้อน จะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่
    พวกเราทั้งหมดก็ได้ช่วยกันเดินหา ก็ยังหาไม่เจอแล้วอาจารย์ก็พูดว่า.. ผมเห็นแสงพุ่งมาทางนี้ ตอนที่รถตู้ของกลุ่มคณะเราขับเข้ามาในวัด พวกเราก็ได้ช่วยกันเดินหาอีกรอบ ดิฉันเองก็ดูตามต้นไม้บ้าง ตามพื้นบ้าง ตามต้นไม้ใหญ่บ้าง แล้วสายตาก็ได้เหลือบไปเห็นตรงคาคบของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง คิดในใจว่า เอ๊ใช่รึเปล่านะ ลักษณะคล้ายเส้นผม เปียกๆ ดิฉันก็ไม่กล้าเอามือไปจับ ก็เลยก้มหยิบกิ่งไม้ที่พื้นขึ้นมาจะเขี่ยดู ปรากฎว่าเขี่ยไป 1 ที กิ่งไม้อันนั้นได้หักติดกับเส้นดำๆ ก้อนนั้น ของจริงเส้นจะหนามากสีออกดำน้ำตาลเข้ม ดิฉันก็เลยเรียกให้อาจารย์มาดูว่าใช่หรือไม่
    ดิฉัน : อาจารย์คะ มาดูก้อนนี้หน่อยค่ะ ว่าใช่เกล้า
    นางนีรึเปล่า ฝนว่าลักษณะคล้ายๆ ที่
    อาจารย์บอกนะ
    อาจารย์ : ไหนๆ เออใช่แล้ว นี่แหละเกล้านางนี
    ดิฉัน : ฝนไม่กล้าจับ ก็เลยเอาไม้มาเขี่ยดู ไม้หัก
    เลยอาจารย์ ติดอยู่กับก้อนนั้น เหมือนเขา
    มีน้ำหนัก
    จากนั้นอาจารย์ก็เรียกทุกคนมาดูบอกว่าเจอแล้วๆ อาจารย์บอกว่าในป่าจะมีเยอะ เป็นของที่เทวดารักษาไว้ ขึ้นอยู่กับว่าเทวดาจะเปิดให้ใครเห็น และคนๆ นั้นก็ต้องมีบุญสัมพันธ์กับเทวดาองค์นั้นมาก่อนในอดีตชาติ เช่น เคยเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นหลาน กันมาก่อน
    กาฝากเถาว์วัลย์หลง หรือ เกศาเกล้านางนี หรือ ขนทิพย์เมืองลับแล เป็นของดีกลางป่าอันศักดิ์สิทธิ์ นับเป็นของกายสิทธิ์มีฤทธิ์ตามธรรมชาติ ด้วยมีอานุภาพแห่งเทพเซียนรักษา มักจะขึ้นแฝงตามต้นไม้ใหญ่ที่มีเทพเทวาสถิตย์ มีอานุภาพต่างกันไปตามฤทธิ์แห่งเทพเทวาที่ปกปักรักษาอยู่
    ส่วนใหญ่มักมีคุณด้านเมตตามหานิยม มหาลาภ มีเดชมีอำนาจอยู่ในตัว หรือตามที่อธิฐาน ถ้าพบเจอต้องไหว้ให้ดี พลีให้ถูกจึงจะมีคุณไม่เป็นโทษภัย ครูบาอาจารย์หลายท่านกล่าวว่า ของเหล่านี้มีฤทธิ์แรง ผู้ที่จะครอบครองได้ต้องถือว่าเป็นผู้มีบุญบารมี
    ครั้งหนึ่ง อ.วิกรานต์ เคยนำเกศาเกล้านางนีบางส่วน เข้าไปให้คุณยายถุงเงินได้สัมผัสดูที่ จ.ชัยนาท ท่านได้ใช้จิตสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง แล้วท่านบอกกับ อ.วิกรานต์ ว่า อันนี้คือ " ขนทิพย์เมืองลับแล ไม่ใช่ผม เด่นด้านเมตตา ค้าขาย มหาลาภ "

    ทางชมรมสู่ร่มโพธิญาณ ค้นพบขนทิพย์เมืองลับแล 3 ครั้ง
    .
    1. ครั้งที่ 1 (15 ม.ค. 65) เจอที่วัดประดู่ฉิมพลี กทม. อยู่ที่โพรงต้นพิกุล คุณหมอฐิติ เป็นคนเจอ

    2. ครั้งที่ 2 (19 ม.ค. 65) เจอที่ เขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี อยู่บนยอดเขา คุณซัน เป็นคนเจอ

    3. ครั้งที่ 3 (15 ก.พ. 65) เจอที่ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม จ.นครราชสีมา เจอที่โพลงต้นไม้ใหญ่ค่ะ คุณฝนเป็นคนเจอ

    ทั้ง 3 วาระที่เจอ อ.วิกรานต์ อยู่ด้วยทุกเหตุการณ์ อาจารย์จะมาบอกว่า...ผมเห็นแสงพุ่งไปทางนั้น

    ปล. ในคลิปคือเหตุการณ์ครั้งที่3



    33.jpg 37.jpg 31.jpg 34.jpg 35.jpg 38.jpg 39.jpg 32.jpg 36.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ตอนนี้ผมได้มวลสารอันเกี่ยวเนื่องกับทางสายมหายาน และวัชรยาน รวมถึงของกายสิทธิ์ตามธรรมชาติ 3 สิ่งนี้ มาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคลถวายหลวงปู่อินตอง
     
  15. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สวัสดีครับผม วันนี้จะขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่เห็นมากับตาและได้ยินมากับหู
    .
    เมื่อหลายเดือนก่อนผมมีโอกาสได้เข้ากราบหลวงปู่บุญส่งที่เวลทรอน ได้พบเจอลูกศิษย์ของท่านหลายคน พอดีกำลังนั่งคุยกันเรื่องพุทธคุณของพระ และพอดีมีลูกศิษย์ท่านนึงแนะนำผู้ใหญ่ท่านนึงในวงที่คุยกันว่าผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ปฏิบัติอยู่พอจะสามารถจับพลังพุทธคุณได้บ้าง
    .
    พอได้ยินกันหลายคนก็นำพระให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นตรวจสอบโดยที่ไม่ได้บอกว่าวัตถุมงคลมีอะไรบ้างและของใคร หลังจากจับๆดูๆกันจนสมใจแล้ว ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาว่าที่แรงๆมากเป็นพิเศษเลยมี 2 ชิ้น แล้วผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ถามกับเจ้าของพระว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่ออะไร ซึ่งเจ้าของวัตถุมงคลก็เฉลยออกมาว่า

    - #ชานหมากหลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม
    - #เม็ดยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    .
    .
    30.jpg


    สำหรับชานหมากของหลวงปู่บุญส่ง ผมไม่ได้มีความแปลกใจอะไรเลย...เพราะผมได้ใกล้ชิด ได้พบได้เห็นอะไรหลายอย่าง คำพูดเรื่องใดๆ ก็ตามขององค์หลวงปู่บุญส่งที่ท่านกล่าวไว้หรือปรารภไว้ก็ดี...จะเป็นไปตามที่ท่านพูดไว้อยู่เสมอ...จะว่าวาจาท่านศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน...เพราะอะไร..ก็เพราะท่านประพฤติปฏิบัติองค์ท่านเองจนไม่มีอะไรหรืออาลัยในจิตใจท่านอีกแล้ว...มีแต่ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของจิตอันประภัสสรเท่านั้น....จวบจนท่านออกมานำพาและดำริเหตุแห่งงานบุญในหลายๆ เรื่องให้พวกเราคนรุ่นหลังได้มีโอกาสประกอบเหตุในบุญนั้นร่วมกับองค์ท่านในปัจจุบันนี้ครับ
    --------------------------------------------------------

    #ยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    .
    แต่อีกรายการนึงนี่สิ ตั้งแต่นั้นมาเม็ดยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ก็อยู่ในห้วงความคิดของผมมาโดยตลอด ยิ่งไปหาข้อมูลมาจนรับทราบมาว่า มีวัตถุมงคลอยู่รุ่นนึงที่ใช้เม็ดยาวาสนาจินดามณีเป็นเนื้อพระในการสร้าง และมีความเด่นพิเศษอีกเรื่องนึงคือคุ้มครองดวงชะตาของผู้ที่บูชาด้วย สุดท้ายผมก็ได้รับมอบเม็ดยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบจากผู้สร้างพระรุ่นนั้นมา 1 ถุงใหญ่

    31.jpg
     
  16. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #ลองอ่านเรื่องราวที่ผู้สร้างได้เขียนเป็นข้อมูลไว้นะครับ
    .
    #ยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    .
    จินดามณีโอสถพิพาส ประกอบดอกคราด ดอกจันทน์ เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำ ผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือ ขื่อดั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตาก กิน เป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมา บูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้น ประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย 1f64f-png.png 1f64f-png.png 1f64f-png.png
    .
    สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2558 ทางคณะเจ้าภาพจัดสร้างพระเจ้าสัวสิทธิมงคลธร เนื้อยาวาสนาจินดามณี ได้นำพระเจ้าสัวชุดนี้ไปกราบขอความเมตตาจากองค์หลวงปู่เล็กอธิษฐานจิตพระชุดนี้ จุดประสงค์เพื่อมอบพระเจ้าสัวชุดนี้ให้แก่ผู้ที่ร่วมบุญผ้าป่าสร้างวิหารวัดสันคะยอม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในการนี้ทางคณะเจ้าภาพได้น้อมถวายเม็ดยาวาสนาจินดามณี(ยากิน)แด่องค์หลวงปู่เล็กด้วย ซึ่งหลวงปู่ท่านหยิบเม็ดยาวาสนาจินดามณีฉันฉลองศรัทธาคณะเจ้าภาพทันที ยังความปลาบปลื้มปิติยินดีแก่คณะเจ้าภาพเป็นอย่างสูง 1f64f-png.png 1f64f-png.png 1f64f-png.png
    .
    ทางคณะเจ้าภาพจึงมีความเห็นสมควรว่าน่าจะทำยาวาสนาจินดามณีถวายองค์หลวงปู่ให้ท่านได้ฉันเป็นยาอายุวัฒนะตามตำราที่สืบสานมาแต่โบราณ อีกทั้งองค์หลวงปู่เล็กท่านเองก็เป็นคนจังหวัดนครปฐมโดยกำเนิด ท่านเป็นญาติเกี่ยวดองกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว(ท่านเรียกหลวงปู่บุญว่า"หลวงตา") และท่านยังมีความสนิทสนมกับหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วอีกด้วย จึงได้กราบเรียนขออนุญาตทำยาวาสนาจินดามณีเพื่อน้อมถวายองค์หลวงปู่เป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้นิมนต์ท่านพระอาจารย์สมยศ วัดลาดบัวขาว จังหวัดอยุธยา นำตำราการสร้างยาวาสนาจินดามณีมาครอบตำรากับองค์หลวงปู่เล็ก เพื่อความเป็นสิริมงคลในการจัดสร้างยาในครั้งนี้ 1f64f-png.png 1f64f-png.png 1f64f-png.png
    .
    ฤกษ์ยามอันเป็นมงคลตามตำราการสร้างยาวาสนาจินดามณีคือวันเพ็ญเดือนสิบสอง ทางคณะเจ้าภาพจึงได้จัดเตรียมเครื่องยาทั้งหมดให้ครบถ้วน ซึ่งนับเป็นความโชคดีที่หนึ่งในคณะเจ้าภาพนั้นเป็นสมาชิกในครอบครัวธุรกิจร้านยาเก่าแก่ที่มีมาตรฐานสูงและมีชื่อเสียงมายาวนานย่านจักรวรรดิ(เยาวราช) จึงทำให้สามารถรวบรวมตัวยาทุกอย่างได้อย่างครบถ้วนตามตำราโบราณ ตัวยาทั้งหมดได้นำไปประกอบพิธีบวงสรวงไหว้ครูที่กุฏิท่านพระครูปลัดมานิตย์ วัดเงิน(ตลิ่งชัน)ในวันเพ็ญพุธ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2558ที่ผ่านมา เสร็จจากพิธีบวงสรวงจึงได้นำยาทั้งหมดไปบดผสมโดยท่านพระอาจารย์สมยศที่โบสถ์วัดลาดบัวขาว จังหวัดอยุธยา เสร็จสิ้นการบดผสมยาแล้วจึงได้นำยาทั้งหมดมาขอความเมตตาจากองค์หลวงปู่เล็กอธิษฐานจิตยาวาสนาจินดามณีเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการโดยสมบูรณ์ภายในวันเดียว 1f64f-png.png 1f64f-png.png 1f64f-png.png
    .
    จากนั้นจึงได้นำยาทั้งหมดกลับไปที่ร้านยาร้านเดิมเพื่อทำการปั้นเม็ดยาและอบยาฆ่าเชื้อโรค การสร้างยาชุดนี้ทางคณะเจ้าภาพพิถีพิถันและเน้นในเรื่องความสะอาดมากที่สุด เพื่อที่จะน้อมถวายองค์หลวงปู่ให้ท่านได้ฉันอย่างดีที่สุด 1f64f-png.png 1f64f-png.png 1f64f-png.png
    .
    อนึ่งการสร้างยาวาสนาจินดามณีในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์มวลสารจากท่านผู้ใจบุญมีจิตศรัทธามอบให้ มีแท่งยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ขนาด1ข้อนิ้วก้อย เม็ดยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว 10เม็ด ยาวาสนาจินดามณีอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร 1เม็ด ยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง 2เม็ด ยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร 1เม็ด ทั้งหมดได้บดรวมผสมอยู่ในยาชุดนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอกราบโมทนาสาธุกับท่านเจ้าภาพมวลสารด้วยจากใจครับ 1f64f-png.png 1f60a-png.png
    .
    เหตุผลที่ผมลงข้อมูลทั้งหมดนี้เพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติการจัดสร้างยาวาสนาจินดามณีเพื่อน้อมถวายองค์หลวงปู่เล็ก และเพื่อให้ท่านที่ได้รับแจกยาชุดนี้ไปเกิดความมั่นใจว่ายาชุดนี้สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ ทางคณะเจ้าภาพได้ร่วมกันจัดสร้างอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน

    Cr. Putsudsoi Archadej


    1.jpg 2.jpg 3.jpg 4.jpg 5.jpg 6.jpg 7.jpg 8.jpg 9.jpg 10.jpg 11.jpg 12.jpg 13.jpg 14.jpg 15.jpg 16.jpg 17.jpg 18.jpg 19.jpg 20.jpg 21.jpg 22.jpg 23.jpg 24.jpg 25.jpg 26.jpg 27.jpg 28.jpg 29.jpg 30.jpg 31.jpg 32.jpg
     
  17. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    พุทธคุณของเม็ดยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    .
    ได้ฟังจากคนที่เจอประสบการณ์จริงๆ ตัวเป็นๆแบบสดๆร้อนๆเลยครับ


    ขอขอบคุณพี่ที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้ฟังครับ

    1.jpg 2.jpg 3.jpg 4.jpg 5.jpg 6.jpg
     
  18. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    31.jpg 32.jpg 33.jpg
     
  19. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    วันนี้หลวงปู่อินตองได้แจ้งให้บล๊อคผ่านเรียบแล้วนะครับ ต่อไปก็คือให้ช่างเริ่มแกะบล๊อคได้แล้ว
    ให้ชมบางส่วนนะครับผม ต้องขออุบไว้ก่อน

    88.jpg 89.jpg 90.jpg 91.jpg
     
  20. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม 2565

    มวลสารพระกรุเก่าอายุ400กว่าปี วัดแก้วฟ้า

    เดินทางไปวัดแก้วฟ้าเพื่อร่วมบุญปั๊มพระตามกำลังวันเกิด ซึ่งทางวัดนำพระกรุเก่าอายุ400กว่าที่ขุดเจอมาบดเป็นมวลสารไว้ปั๊มพระ

    ซึ่งพอผมปั๊มพระเสร็จก็เลยขอมวลสารจากทางวัดเพื่อจะนำมาเป็นมวลสารใช้สร้างพระ และก็ได้เข้าไปกราบขออนุญาตจากหลวงพ่อใหญ่ พระประธานประจำอุโบสถวัดแก้วฟ้าอีกครั้งนึง

    FD073DFF-CDC4-4808-A95E-45D82C6F26D6.jpeg E0E8D31E-C1C0-4716-B6D1-EC90E8ECCF5D.jpeg EBB3F4D5-6319-4DF7-8F0A-C8A27D13637B.jpeg FAE66F4A-6FF7-4CE4-BB91-17B40A1EBE60.jpeg 12DA2076-2EDA-4B40-A4DE-67BB0FF18817.jpeg AC11BC8E-18D9-4C80-A790-CC2023638140.jpeg 7C1951C8-18BD-4CD6-B6E4-3923B4BE9839.jpeg 7C92DF77-623B-4FD3-B0BB-7ADBBEEC95F3.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...