เรื่องเด่น หลวงปู่ชอบเล่าเรื่อง เมื่อครั้งพบลูก"พญานาค" มาเล่นน้ำ ที่ลำธารกลางป่าเมืองเจียงทอง ในประเทศพม่า

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 25 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    3069.jpg



    100405-2-2(1).jpg


    ในช่วงพอออกพรรษาปี ๒๔๘๑ ท่านคิดถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อยากจะกลับมาหาองค์หลวงปู่มั่นที่เชียงใหม่ คืนหนึ่งองค์ท่านหลวงปู่มั่นมาปรากฏในนิมิตให้เห็นองค์ท่านแสดงธรรมเป็นกาพย์พญาภาษาอีสานว่า หันหลังถ้ำกุมพันสิเตะดาก หันหน้าไว้เตะดากกุมพัน ไปตายหน้าเพิ่นจั่งล่าว่าดี แปลความหมายโดยธรรมว่า อย่าหันหลังยอมแพ้ให้กับอุปสรรคกิเลส ให้หันหน้าสู้กับอุปสรรคกิเลสนั้นจนแตกหักกันไปข้างหนึ่ง นักปราชญ์ราชบัณฑิตท่านสรรเสริญว่าดี
    หลวงปู่ชอบท่านนำธรรมนิมิตนี้ขึ้นมาพิจารณา ท่านจึงเปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับมาหาองค์ท่านหลวงปู่มั่นที่เชียงใหม่ ทั้งที่ใจตนเองนั้นอาลัยคิดถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์ท่านหลวงปู่เป็นอย่างมาก ศิษย์ของท่านคนหนึ่งได้เรียนถามองค์ท่านว่าเวลาหลวงปู่คิดถึงองค์ท่านหลวงปู่มั่นแล้วทำยังไง ท่านบอกคิดฮอดกะอดสา (คิดถึงก็อดทนเอา) บ่เห็นหน้าท่านในใจก็เห็นคำสอนของท่านอยู่ทุกวัน


    หลวงปู่ชอบได้ลาชาวบ้านไทยใหญ่เชียงตุงออกเดินทางไปเที่ยววิเวกตามสถานที่ต่างๆ ของเมืองพม่า ไปพักอยู่ตามหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงบ้าง หมู่บ้านพี่น้องชาวไทยใหญ่บ้าง บางหมู่บ้านที่ผ่านเข้าไปเขาไม่รู้จักพระพุทธศาสนาก็ไม่ใส่บาตรให้ท่านฉัน สมัยนั้นคนทางเมืองพม่าเขายังไม่รู้จักพระป่ากรรมฐานมากเท่าไร พระเณรทางเมืองพม่าเขาไม่ได้ออกเที่ยววิเวกเหมือนกับพระป่ากรรมฐานเมืองไทย จึงเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับพระป่ากรรมฐานในยุคนั้น



    หลวงปู่ชอบท่านเดินทางเที่ยววิเวกมาถึงเขตเมืองเจียงตอง หรือคนไทยจะรู้จักกันในนามเมืองเชียงทอง ท่านหลงทางอยู่ในป่าเขตเมืองเจียงตองหาทางออกจากป่าไม่เจอ จนท่านต้องอาศัยนอนร้างค้างแรมอยู่ภายในป่าแห่งนี้หนึ่งคืน พอรุ่งสว่างแจ้งได้อรุณท่านจึงรีบออกสำรวจหาเส้นทางออกจากป่าแห่งนี้ ท่านเดินหลงวนอยู่ในป่าจนเวลาคล้อยสายใกล้จะเที่ยงก็ยังหาทางออกจากป่าไม่เจอ จนท่านมาพบลำธารแห่งหนึ่งกว้างประมาณสิบเมตร น้ำในลำธารแห่งนี้ลึกประมาณเท่านกับหน้าอกของท่าน


    น้ำในลำธารนี้ใสเย็นจนสามารถเห็นพื้นดินข้างล่างได้ ท่านหยุดพักกรองน้ำในลำธารเพื่อเอาไว้ฉัน ปรากฏน้ำที่ไหลมาจากทางต้นน้ำเกิดขุ่นมันและมีกลิ่นคาวคลุ้งขึ้นอย่างผิดปรกติ จนท่านแทบจะอาเจียนออกมา ทีแรกท่านเข้าในว่ามีซากสัตว์ตายไหลน้ำมา ท่านจึงขึ้นจากน้ำเดินเลียบฝั่งไปดูที่มาของกลิ่นคาวที่ท่านสงสัย
    พอเดินจากจุดที่สรงน้ำอยู่ประมาณสามร้อยเมตร ท่านได้ยินเสียงเหมือนมีคนหรือสัตว์เล่นน้ำเสียงดังชุ่มๆ ช่ำๆ อยู่เป็นระยะ ท่านเห็นงูตัวหนึ่งมีขนาดลำตัวเท่ากับโคนขาของท่าน งูตัวนี้มีสีดำมะเลื่อมแวววาวน้ำบริเวณที่งูตัวนี้มันเล่นอยู่จะมีกลิ่นคาวคลุ้งมาก ท่านนั่งดูอยู่ไม่นานเท่าไรก็มีงูอีกตัวโผล่ออกมาจากรูหินตรงน้ำผุดขึ้น งูตัวที่สองมีลักษณะและขนาดเท่ากับงูตัวแรกที่ท่านเห็น งูทั้งสองตัวพากันเล่นน้ำดำผุดดำว่ายเกี้ยวพันกันไปมา ท่านนั่งดูงูทั้งสองตัวนี้เล่นน้ำอยู่นานจนงูทั้งสองตัวพากันมุดหายเข้าไปในรูหินที่มีน้ำไหลผ่านออกมา



    ท่านจึงพิจารณาดูงูทั้งสองตัวนี้มาจากไหน งูสองตัวนี้คือลูกพญานาคที่ขึ้นมาเล่นบนเมืองมนุษย์น้ำในลำธารมีกลิ่นคาวคลุ้งเกิดจากฤทธิ์ของพญานาคแสดงข่มสัตว์ที่อยู่บริเวณแถวนั้นให้เกรงในอำนาจของตน ท่านสังเกตดูว่าขณะที่งูสองตัวนี้เล่นน้ำไม่มีสัตว์ตัวไหนกล้าลงไปในลำธารนี้เลย เพราะสัตว์เหล่านั้นเกรงในอำนาจของผู้มีพิษเหนือกว่าตน ท่านรอดูอยู่นานงูดำทั้งสองตัวก็ไม่ออกมาอีก ท่านจึงเก็บบริขารเดินจากไปเพื่อมุ่งหน้าไปเมืองเจียงตอง
    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม


    100405-3-1(1).jpg


    ที่มา พระอรหันต์ ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยุค FB : @Ayuthay เพจเกร็ดธรรมะ ประวัติ พระกรรมฐาน


    เรียบเรียงโดย
    อุทัย เลิกสันเทียะ

    http://www.tnews.co.th/index.php/contents/419144

     

แชร์หน้านี้

Loading...