หนูมีเรื่องไม่สบายใจ ช่วยหนูด้วยนะค่ะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย iamaumaum, 14 ตุลาคม 2007.

  1. iamaumaum

    iamaumaum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +6
    กราบสวัสดีแม่ชีนะค่ะ (หรือท่านผู้อ่านคนอื่นๆด้วยค่ะ)หนูมีเรื่องไม่สบายใจอย่างมากค่ะ

    เรื่องที่หนึ่ง สามปีที่ผ่านมา เพื่อนหนูเค้าแอบมาคบกับแฟนหนู ซึ่งทำให้หนูเสียใจมาก และเราก็ไม่ได้คุยกันไปซักระยะ ตอนนี้หนูไม่โกดเค้าแล้ว แต่ยังมีความรู้สึกอคติกับเค้าอยู่ แต่ก็จะบอกกับตัวเองทุกครั้งว่า อย่าทำๆ แล้วจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ค่ะ หนูรู้ว่าผิดที่เป็นแบบนี้ อยากให้ช่วยแนะนำวิธีที่จะทำให้หนู ไม่คิดแบบนี้ด้วยค่ะ

    เรื่องที่สองนะค่ะ หนูกับเพื่อนมีปันหากัน และตอนนี้เค้าก็เปลี่ยนไป หนูขอโทษเค้าไปแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ได้โกรธและติดเคืองอะไรแล้ว หนูไม่รู้จะทำอย่างไร เลยจะกินอาหารมังสวิรัติ เก้าวันและแผ่เมตตาให้ ทำแบบนี้จะช่วยให้เค้ากลับมาเป็นเพื่อนหนูเหมือนเดิมได้มั้ยค่ะ
     
  2. grisana-2006

    grisana-2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +450
    การที่มีสิ่งที่มากระทบใจ นั้น เกิดจากสัญญาณ ที่มีอยู่ในขันธ์ ในร่างกายนี้ ที่คอยรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ รู้สึก ร้อน เย็น ไม่สบาย รู้สึกเหนื่อยหนาย ทุกอย่างเกิดจากกายเป็นที่ตั้ง และเจตสิกเป็นผู้คิดและปรุงแต่ง สรุปง่าย ๆ คือ กายคือจิต เจตสิกคือความรู้ที่ปรุงแต่ง ถ้าเจตสิกมีการปรุงแต่งมาก ก็ให้เป็นทุกข์ ให้ปฏิบัติอย่างนี้ ให้เจริญพระกรรมฐาน เพื่อสำรวมจิตให้มีสมาธิเพื่อละและกำจัดกิเลส ให้น้อยลง และในระหว่าง เจริญพระกรรมฐานก็ให้เจริญพรมวิหาร 4 ไปด้วย ครับ การเจริญกรรมฐาน ก็ให้ทำอย่าง ง่าย ๆ ไม่ต้อง กังวลในผลที่ทำทั้งสิ้นว่าจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่จะได้คือความสบายใจและ ความปิติในการเจริญภวานา การเจริญกรรมฐาน ก็ให้นั่งสมาธิ หายใจเข้า พุธ หายใจออกโธ ในช่วงแรก ๆ จะมีเรื่องราวมต่าง ๆ ผุดขึ้นมาให้คิดอยู่เสมอ ๆ แต่ไม่เป็นไร เพราะจิตนั้น ช่วง แรก จะเป็นเช่นนี้ ให้เรากำหนดรู้ตามความคิดไปก่อน พอสักพัก ก็จะมีเรื่องใหม่ เข้ามาอีก ก็ตามไปเช่นนี้อีก แต่พอใจเริ่มสงบก็ให้ตัดเรื่อง ต่าง ๆ นั้นออกไปเสีย พอถึงตอนนี้แล้ว ลมหายใจจะเริ่มละเอียดกว่าตอนแรกมาก เพราะจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว และถ้ามีอาการ ปิติ ทั้ง 5 อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ก็อย่าไปสนใจ เพราะการนั่งสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญา และญาณ เพื่อจะกำจัดกิเลสออกไป ทำให้จิตใจพ่องใสเป็นสุข และพอจิตเริ่มสงบดีแล้ว ก็ให้ใช้ปัญญาที่ได้ คิดในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นว่า สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งใดที่เป็นสุข ให้ใช้ปัญญานั้น กำจัดสิ่งที่เป็นทุกข์นั้นให้เห็นจริง เรียกว่าวิปัสนากรรมฐาน พิจารณา ร่าง กาย เป็นต้น แต่การเจริญวิปัสนากรรมฐานนั้น ให้ทำอย่างช้า ๆ เพราะจิตเราอาจจะยังไม่เข้มแข็งพอ ขอให้ตั้งใจจริงในการเจริญอย่างนี้ จิตก็จะพ่องใส และมีความสุข ในการเจริญกรรมฐาน ครับ แสงสว่างอันใด จะสู้แสงแห่งปัญญาไม่มี สาธุ อนุโมธนาครับ
     
  3. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ทำใจสบายๆ
    นึกถึงความรักของพ่อแม่ไว้
    เดี๋ยวรอท่านแม่ชีมาตอบนะจ๊ะ
    ไปอ่านประวัติท่านพลางๆก่อน
    อาจจะคิดได้เลยก็ได้
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=49489
     
  4. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468

    เจริญธรรม...

    หนูเอ้ย...เรื่องใคร่ๆมันห้ามกันยากนะ ยิ่งเรื่องหัวใจซุกชนของตัวเองยิ่งห้ามยากกว่าคนอื่นเสียอีก ถ้าห้ามใจตัวเองได้ คนอื่นก็ห้ามได้เหมือนกัน ถ้าเรายังห้ามไม่ได้คนอื่นก็ห้ามไม่ได้เช่นกัน
    แฟนใครไม่มีป้ายแขวนคอนี่...

    ความรักมันอยู่ที่ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ กลายเป็นความประทับใจ และเกิดเป็นความพึงพอใจ

    ไม่มีใครชอบคนงี่เง่า แสนงอนหรอก น่ารำคาญจะตายแต่ถ้ามีผลประโยชน์ก็อาจจะแกล้งง้อไปงั้นๆ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็ถีบหัวส่งไปลงนรกซะ ฮ่าๆๆๆ

    เอาละ...
    นึกถึงพ่อแม่ไว้ดีกว่า นั่นแหละรักแท้และยั่งยืนที่สุด คนอื่นจะคบเราหรือไม่คบช่างเขา เราไม่ได้ขอข้าวเขากิน
    เราขอเงินพ่อแม่ซื้อข้าวกินต่างหาก แต่ถ้าแคร์เพื่อนมากก็ง้อแล้วกัน เพื่อนอาจจะกลัวหนูอาละวาดเอาอีกก็ได้นะ คนมันเสียความรู้สึกไป จะให้รู้สึกดีเหมือนเดิมมันต้องใช้เวลา

    กินเจ ถือศีล ภาวนาก็ดีแล้ว เพราะมันจะทำให้ใจหนูเย็นลงบ้าง แผ่เมตตาให้เพื่อนนั่นยิ่งดีใหญ่ เพราะมันทำให้หนูรู้จักการให้คนอื่นเป็น
    แม่ชีเอาใจช่วยให้หนูสงบลงด้วยการถือศีล กินเจหลายๆวันยิ่งดีนะจ๊ะ

    บุญรักษา/ธรรมะสวัสดี
     
  5. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

    สิ่งแรกที่ต้องช่วยเหลือเลยนั่นก็คือ "จิตใจของเรา" จะช่วยเหลือด้วยการให้ทานก็ดี การรักษาศีล 5 ก็ดี การภาวนาก็ดี มันจะให้ผลคือ ความสุขใจ เมื่อเรามีความสุขใจแล้ว เรื่องดีๆก็จะตามมา ด้วยอำนาจแห่งทาน ศีล ภาวนา แล้วก็อุทิศให้อารักขาเทวดาของเพื่อนคนนั้นด้วยนะครับ ขอให้อารักขาเทวดาช่วยดลจิตใจของเพื่อนคนนั้นให้กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีของเราเช่นเดิม นี่ก็เป็นวิธีที่พี่เคยใช้แล้วเห็นผลก็เลยมาแนะนำต่อนะครับ วิธีอื่นๆก็มีอีกหลายวิธีนะครับ แต่ที่สำคัญ ประคองจิตใจของตนเองให้สงบ มีสติ ก่อน ไม่แน่นะครับ ต่อไปเพื่อนคนนั้นอาจจะแพ้ความดีของเรา ที่เราทำ และไม่ถือโทษโกรธเคืองเรา เอาใจช่วยนะครับ
     
  6. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมจะถามคำถามต่อไปนี้ให้ตอบก่อนนะครับแล้วผมค่อยแนะนำต่อไป 1ในโลกนี้มีอะไรเป็นของเราบ้างลองตอบมาสัก 2 อย่างซิ 2 ในโลกนี้มีอะไรที่ที่คุณสามารถบังคับตามใจคุณได้ร้อยเปอร์เซ็นต์และตลอดเวลาด้วยลองตอบมาสัก 2 อย่างซิ
     
  7. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ชีวิตต้องพบคนอีกมาก อย่าไปยึดติดเลย

    เราอาจพบคนที่ถูกใจเรามากกว่านี้ ก็ได้ ที่ว่ารัก ก็คือรักตัวเอง ไม่ต้องการให้ใจเราเศร้าก็ต้องเลยเก็บเกี่ยวหัวใจอื่นเข้ามา ดูแล หากจิตเรารู้ และสามารถสู้กับ ความรักได้ ท่านก็จะเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ รบกับกิเลส หากแสวงหาโดยไม่มีสติหรือคิดให้ดี ก็จะทุกข์ใจไปเรื่อย ๆ ความรักในรูปแบบนี้เหมือนกับยาเสพติด จะคิดอะไรจะทำอะไร บางครั้งดูเหมือนไม่มีเหตุผล หากทำไม่ดีผลเสียก็จะกลับเข้ามาสู่ตัวเอง การปฎิบัติธรรมเพื่อสร้างบารมี ทำกรรมดี เช่นการทำบุญ สวดมนต์ เป็นเส้นทางที่สวนกับความรักความใคร่ หากไปอธิฐานขอพร อาจผิดหวังได้(เป็นเรื่องของกรรม) แต่หาก อธิฐานให้ละกิเลสเพื่อได้ปัญญา อย่างนี้ได้แน่นอน เพราะเป็นในทางเดียวกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...