สืบสานพระพุทธศาสนาก่อนจะสิ้นเหมือนศรีลังกา

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย yingthai_nk, 17 สิงหาคม 2009.

  1. yingthai_nk

    yingthai_nk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    ศรีลังกา ดินแดนเพชรจรัสแสงแห่งวงการพระพุทธศาสนาในอดีตช่วงราว 250 ปีก่อนนั้นจะมีสักกี่คนที่ทราบว่าชาวศรีลังกาต้องฝ่าฟันภัยศาสนาอย่างวิกฤติที่สุดถึงขั้นสูญสิ้นนักบวชสืบทอดกันทีเดียวทั้งนี้เนื่องจากชาวต่างชาติและศาสนาอื่น ๆ ที่เข้ามาทำลายวัดวาอาราม และยังมีกษัตริย์นับถือศาสนาอื่นใช้อำนาจจับสึกพระภิกษุและเผาพระไตรปิฏกไปเสียสิ้นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ไม่มีพระภิกษุเหลือมีเพียงสามเณรไม่กี่รูปมีสามเณรรูปหนึ่งชื่อสามเรณสรณังกร ท่านได้จุดประกายการบวชพระจนทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรื่องยิ่งกว่าเดิมท่านบวชตอนอายุ 16 ปี ร่ำเรียนจนแตกฉานภาษาบาลี และอุทิศตนให้กับงานเผยแพร่พระศาสนา หลังจากพระพุทธศาสนาทรุดโทรมมานานเพราะหมดสิ้นพระสงฆ์ท่านมีความคิดว่า "เราน่าจะได้พระภิกษุจากต่างประเทศมาอุปสมบทแก่กุลบุตรเพื่อสืบต่อสมณงศ์ในแผ่นดิน" ครั้นปี พ.ศ.2283 สมัยพระเจ้าศรีวิชัยราชสิงหะ สามเณรสรณังกรได้มีอายุมากแล้วได้ทูลแนะนำพระราชาให้ส่งราชทูตไปขอพระภิกษุจากต่างประเทศให้การอุปสมบทกุลบุตร พระราชาทรงเห็นชอบตามนั้น ครั้นทรงทราบข่าวจากพ่อค้าชาวฮอลันดาว่า ในตอนนี้ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองคือกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น จึงไม่ทรงรอช้าทรงมีรับสั่งให้ราชทูตโดยสารติดเรือไปกับพวกพ่อค้าฮอลันดามุ่งหน้าไปเมืองอยุธยาทันที
    ;aa8
    ราชทูตเดินทางมาไทยไม่กี่วันก็ทราบข่าวพระราชาสวรรคตจังต้องรับกลับไปเพราะไม่ทราบว่าราชาองค์ใหม่จะทรางมีพระทัยฝักไฝ่ในพุทธศาสนาหรือไม่ครั้นได้ทราบข่าวดีว่าทรงสนับสนุนกับการฟื้นฟูพระศาสนาจึงทรงแต่ตั้งให้สามเณรสรณังกรแต่งพระราชสาส์นเป็นภาษาบาลีอีกทั้งยังรังสั่งให้เพิ่มคณะราชทูตให้มากกว่าเดิม
    ;20
    คณะทูตเดินทางมาเมืองสยามครั้งนั้นพระเจ้าบรมโกศได้ทรางโปรดให้อาราธนาพระอุบาลีเถระแห่งวัดธรรมารามผู้แตกฉานในพระไตรปิฏกและวิปัสสนาธุระเป็นหัวหน้าธรรมทูตในภารกิจครั้งนี้
    ;aa8
    การเดินทางของท่าน มีอุปสรรคต้องเจอพายุ และ พัดเรือของไทย กับ ฮอลันดา หลงกัน ซ้ำยังเสากระโดงหัก เรือรั่วน้ำไหลไม่หยุดเกือบอับปาง ต้องทิ้งข้าวของเพื่อมิให้เรือจมแต่พระสงฆ์สวดพระปริตรไม่หยุดทั้งกลางวันและกลางคืนจึงรอดมาถึงฝั่ง นครศรีธรรมราช เมื่อทางอยุทธยาทราบเรื่องจึงนิมนต์กลับ qsqu
    พระอุบาลีต้องรอหลายเดือนกว่าจะได้เดินทางอีกครั้งในช่วงนั้นมีข่าวเรืออับปางในทะเลบ่อย แต่หัวใจในการประกาศพระศาสนาของคณะสงฆ์นั้นพร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่ แต่พระเจ้าบรมโกศ กลับทรงเป็นห่วงไม่กล้าส่งท่านไปอีกต่อมามีชาวฮอลันดาที่ชำนาญในการเดินทางอาสาที่จะนำคณะสงฆ์ไป พระองค์จึงทรงมีพระบรมราชานุญาตให้คณะสงฆ์ออกเดินทาง;aa8
    ครั้งนี้พระอุบาลีก็ต้องเผชิญมรสุมไม่แพ้ครั้งแรกแต่เพราะความชำนาญของชาวฮอลันดาท่านนี้ มาถึงศรีลังกา ณ วันอาสาฬหบูชา เดือนกรกฏาคม พ.ศ.2296 เวลาพลบค่ำ มีพิธีอุปสมบทครั้งประวัติศาสตร์ของศรีลังกา ณ วัดบุปผาราม เมืองแคนดี พระเจ้าเกียรติศิริราชสิงหะได้เสด็จมาร่วมอนุโมทนาด้วยพระองค์เองพระอุบาลีได้ทำการบวชสามเณร 6 รูป ซึ่งมีพระสามเณรสรณังกรเป็นหัวหน้า (อายุ 54 ปี) เมื่อสิ้นการอุปสมบท มหาชนก็พากันไชโยโห่ร้อง แซ่ซ้องสาธุการมิขาดสาย "บัดนี้แผ่นดีศรีลังกาที่ร้างราพุทธบุตรมาช้านานได้รับการฟื้นฟูแล้วและต้องกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน" ในสมัยนั้นพระอุบาลีได้บวชกุลบุตรเป็นจำนวนมาก ทำให้พุทธบุตรในศรีลังกาสืบทอดต่อกันมาไม่ขาดสายแผ่นดินศรีลังกามาเจริญรุ่งเรืองด้วยผ้ากาสาวพัสท์อีกครั้งหนึ่ง(smile):cool:;welcome3

    แต่แผ่นดินไทยปัจจุบันบางวัดร้างไม่มีพระสงฆ์จำวัดสักรูป [Embarrass
    เชิญร่วมท่านชายที่สามารถบวชได้หรือท่านใดที่ไม่สามารถบวชได้แต่มีจิตศัทธาในพระพุทธศาสนา ช่วยกันบอกต่อหรือชักชวน ให้ร่วมบวชพระ 7,000 รูปสืบต่อพระพุทธศาสนา
    ;20-Happy Smile_

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...