สายธารศรัทธาแห่งพระบรมสารีริกธาตุ

ที่แรกที่แวะเที่ยวกัน คือ อุทยานสมเด็จโต ซึ่งผมเองเคยไปครั้งแรก อยากไปมากๆเลย อยากไปกราบสมเด็จโต สักครั้งหนึ่ง ผมเคยไปตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ว่าเค้าสร้างอะไร ไปยังเป็นบ่อน้ำอย่างเดียวเอง แต่ที่แน่วันนี้รอมานาน เห็นแต่ในภาพ สักวันหนึ่งต้องไป เคยจะนั่งรถทัวร์ไปเองด้วย แต่คิดว่าคงลำบาก รอไปกับคณะที่เค้าไปกันดีกว่า อยากบอกว่ามาที่นี้ครั้งเดียวได้ทำบุญเยอะมากเลย จะลงให้โมทนาบุญกันนะครับ เท่าที่จำได้
- ร่วมสร้างพระนอน ยาวที่สุดในโลก 89 เมตร
- ร่วมสร้างหอแก้ว หอพระ
- ร่วมสร้างกระเบื้องมุงหลังคา
- สรงน้ำพระพุทธรูปและสมเด็จโต
- ร่วมทำบุญสร้างดวงตาสมเด็จโต
- ร่วมสร้างวิหารสมเด็จโต
- ร่วมสร้างวิหารพระพุทธชินราช
- ร่วมปิดทองฝังลูกนิมิต 9 ลูก
- ร่วมบุญสร้างระฆัง
- ร่วมบุญเติมน้ำมันตะเกียง
- ร่วมบุญซื้อที่ดิน ถวาย สมเด็จโต
- ทำบุญบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
ฯลฯ
ก็ขอให้ทุกท่านร่วมโมทนาบุญกันนะครับ ไปทำบุญตอนที่อุทยาน ฯ ยังไม่เสร็จดีกว่า อย่างน้อย ปัจจัยเราทุกคนก็ได้มีส่วนร่วมสร้าง ทุกสิ่งในอุทยานฯแห่งนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ฝากไว้ในพระพุทธศาสนา ท่านใดยังไม่มีโอกาสได้ไปก็ชวนทุกท่านนะครับ
อีกอย่างราดหน้าชาววัง อร่อย สมคำร่ำลือจริงๆ ซัด ไปซะ 3 จานต่อไปให้ภาพแทนคำพูดจากผมดีกว่าครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ถวายพระบรมสารีริกธาตุวัดแรก

ไปครั้งนี้ทราบล่วงหน้าไม่กี่วันว่าจะมีกลุ่มของพี่ๆที่รู้จัก จะไปถวายพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดศิริมงคลชัย ต.ดอนตะหนิด อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ด้วย เห็นว่าไปวันเดียวกัน และ เวลาใกล้เคียงกัน เลยถือโอกาสชวนไปร่วมงานกันซะเลย
ครั้งนี้กลุ่มพี่เดย์ พี่มิน พี่แก้ว อัญเชิญเจดีย์แก้วสวยงามและเจดีย์แก้วอคิลิกหลายองค์ไปถวายด้วย ต่างคนก็ไม่เคยไปวัดนี้กันเลย หนทางก็ไกลนิดหน่อย แต่ด้วยใจที่ศรัทธา และ กำลังใจที่เต็มร้อยทุกคน ก็ไปกัน ด้วยรถตู้สองคัน ก็มุ่งตรงหาวัดนานมาก หลงกันบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เข้าไปวัดแล้ว ก็โล่งอก ซะที เข้าไปครั้งแรก เห็นพระพุทธชินราช องค์โตมาก ที่เจ้าอาวาส วัดศิริมงคลชัย หรือ หลวงน้าสาท (เห็นชื่อท่านเขียนบนกระดาน) สร้างไว้
ไปก็เข้าไปกราบท่าน และอัญเชิญเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนพานทอง ทำพิธีเรียบง่ายกล่าวคำถวายเป็นภาษาไทย ทุกคนก็พนมมือว่าตามกันด้วยจิตใจชุ่มชื่น
จากนั้นหลวงน้าสาท ก็เทศน์ให้กลุ่มบัวผลิหน่อ และ ญาติธรรมได้ฟังพอสมควรแก่เวลา เกี่ยวกับบุญอันเกิดจากการถวายพระธาตุ ศีล สมาธิ ปัญญา และที่สำคัญท่านสอนเรื่อง การสร้างบารมี ทั้ง 3 ขั้น บารมีก็คือ กำลังใจ ในการตัดในสิ่งที่รักสิ่งที่หวง ให้หลุด ความสรุปย่อ คือ หลวงน้าสาทองค์นี้ เป็นพระภิกษุสงฆ์ องค์หนึ่ง ที่ปฎิบัติตามคำสั่งสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทศนาธรรมได้ไพเราะ เข้าใจ และ ลึกซึ้งกินใจมาก
ท่านพูดเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธชินราช ว่าท่านไม่ได้บอกบุญใครมีเท่าไหร่ก็สร้างไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร เก็บไว้เป็นสมบัติพระศาสนา ไปอีก 100 ปี 1000 ปี (คำพูดอาจจะไม่ตรงเท่าที่ควร ก็ประมาณนี้ครับ)
ก็ถ่ายรูปกับท่านเป็นที่ระลึก และ ถวายปัจจัยร่วมสร้างพระพุทธชินราช กับ ท่านด้วยจำนวนหนึ่ง
จากนั้นก็ลาท่านไปวัดสันติวนารามกันต่อ
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

แวะไปบ้านพี่โด่ง

หลังจากเที่ยวอุทยาน ฯ สมเด็จโตเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาสำคัญ ไปบ้านพี่โด่ง กันครับ ขอพระผงจักรพรรดิ์พี่โด่งไว้ 150-200 องค์ เพื่อแจกคนที่มาร่วมงานและทำบุญ ที่วัดสันติวนาราม ไม่เคยเจอพี่โด่งมาก่อนเลยเห็นแต่บทความดีๆ ในเว็บและเห็นแต่ในภาพเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ พี่โด่งใจดีมาก เป็นกันเอง ได้ไปนั่งศาลาอะไรนะจำไม่ได้ อะไร เม้าท์แตกนี่แหล่ะ พี่โด่งนำพระมาให้เป็นพิมพ์หลวงปู่ดู่ พร้อมเชือกร่ม และ พระผงจักรพรรดิ์ พิมพ์หลวงปู่ทวด , พิมพ์พระเหนือพรหม ,พิมพ์สมเด็จองค์ปฐม
ขออนุญาติพี่โด่งดูหล่อลององค์ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ สวยงามมาก เห็นพี่โด่งบอกว่า ไม่มีให้บูชา แจกฟรี แต่น่าจะเป็นในรูปของถวายวัดต่างๆนะครับ
และ ยังได้ทำบุญเพิ่มเติมอีกอย่าง พี่โด่งหยิงแผ่นทองเหลือง มาให้คณะที่แวะไปหาพี่โด่ง 2 แผ่นเขียนชื่อลงแผ่นทองและพี่โด่งจะนำไปหล่อพระ ที่ใดไม่ทราบ ไม่ได้ถามรายละเอียดพี่โด่งเลย เพราะไปถึงก็มืดแล้ว นัดพี่โด่งในเว็บ 13.00 โดยประมาณ นัดอีกที ประมาณ 3-4 โมง ถึงจริงๆ ทุ่มกว่า พี่โด่งเมตตามากรอไม่ได้ออกไปธุระที่ไหน ถ้าพี่โด่งแวะเข้ามาอ่านก็ตอบน้องหน่อยนะครับ ว่าหล่อที่ไหน ยังส่งแผ่นทองเหลืองร่วมได้อีกหรือเปล่าครับ คุยกับพี่โด่งสักพัก ก็ลาพี่โด่งกลับ เพื่อไปวัดสันติวนารามต่อ
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ไปถึงวัดฝนตกและไฟดับ

ไปครั้งนี้กว่าจะถึงวัดได้ทุลัก ทุเลตามสภาพที่มืดมาก ไปถึงวัดประมาณ เกือบ 3 ทุ่ม ฝนก็ทำท่าว่าจะตกลงมาซะแล้ว ระหว่างทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสก็เป็นห่วงกลัวว่าจะมาไม่ถูกหรือประสบเหตุอะไรหรือเปล่า ท่านโทร.มาสอบถามเป็นระยะ ๆ ตลอด นับว่าท่านเมตตามากเลย
ไปถึงชาวบ้านที่เป็นส่วนของแม่ครัว ก็ทำอาหารไว้เตรียมพร้อมน่าจะเตรียมกันตั้งแต่เย็นแล้ว กลุ่มบัวผลิหน่อและญาติธรรมก็ยังไม่มาสักที แต่มาแล้วหลายท่านก็เข้ามาแสดงความยินดี กล่าวสวัสดีทักทาย พร้อมทั้งน้ำใจไมตรีที่อบอุ่นมากๆ ครับ จำได้ว่ามีไข่เจียวหนึ่งอย่างล่ะ อีกอย่างจำไม่ได้
ก็แบ่งกำลังกันไปจัดของทำบุญวันอาทิตย์ บางส่วนก็อาบน้ำ ทำภารกิจส่วนตัว นั่งคุยกัน เพราะหลายท่านมาก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ก็รู้จักกันที่นี่แหล่ะ
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ขณะจัดของกันไปครึ่งเดียวประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ เกิดไฟดับสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะติดเลย โชคดีอย่างใหญ่หลวงมีเทียน อยู่แถวนั้นพอสมควร แล้วก็กระหน่ำด้วยสายฝนที่รุนแรงอย่างมาก ทำให้ประตูกระจกของทางวัด เอาไม่อยู่ จนต้องช่วยกันดันประตู้ไว้แล้วก็ล็อคประตู ทำให้ติดอยู่ในความมืด พร้อมแสงเทียนอันเล็กน้อย และสายฝนที่กระหน่ำ ลงมาอย่างไม่ขาดสายและนานมาก ก็อย่างที่ทราบว่า ถ้าไฟดับตามต่างจังหวัด แล้ว ก็จะดับนานมาก ๆ อาจจะถึงเช้าเลย และก็เป็นไปตามคาด เช้าตรู่ก็ยังไม่เสร็จ น้ำก็ยังไม่ได้อาบกัน ก็ต้องมานั่งอกสั่นขวัญหายกันเป็นแถวเลย
กว่าจะได้อาบก็เกือบเที่ยงคืน ฝนก็ตก ต้องจุดเทียนถือมาอาบกัน ทีละคน ใครมากันเป็นคู่ ก็พลัดกันเฝ้า ลำบากนิดหน่อย แต่ได้สิ่งที่กลับมาหลายๆอย่าง เช่น ได้ความสามัคคี ได้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ได้ความเห็นอกเห็นใจกัน ได้ความร่วมมือกัน ได้ความเป็นพี่น้อง ทำให้ไฟดับและฝนตก เป็นเรื่องเล็กไปเลย อาบน้ำเสร็จ ก็ไปนอนเฝ้าของในโบสถ์กัน ประมาณ 6-7 คนเฝ้าของ ส่วนหนึ่งก็นอนในศาลาการเปรียญฯ
ก่อนนอนก็ตามอัธยาศัย ใครจะสวดมนต์ ใครจะนอนเลยก็ได้ หลับกันเป็นตาย พี่เม้ง ( Com 007) กรนดังมาก (ล้อเล่นหนะ) แต่ส่วนใหญ่นอนกันไม่ค่อยหลับหรอก ยุ่งกัดมาก ตัวเล็กๆๆๆ ตอมกันมันเลย
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ก่อนแห่พระบรมสารีริกธาต

ก่อนแห่พระบรมสารีรีกธาตุ

 

ได้เวลาสำคัญแห่พระบรมสารีริกธาตุ

ไปตอนแรกก็ตกใจ เห็นป้ายผ้าใบหน้าวัดและตามทางประมาณ 2-3 ป้าย ขึ้นว่าขอเชิญนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เออ ทางวัดเค้าเตรียมงานดี ทั้งพระภิกษุในวัดเอง ชาวบ้านก็ดี ผู้นำชุมชนก็ดี กำนันผู้ใหญ่บ้านก็ดี นายอำเภอ อีกทั้งมีตัวแทน สจ.และสส.ก็มา แถมด้วยผู้กำกับสภ.ภูเวียง ก็มาด้วยเรียกว่า ครบถ้วนจริง ซึ่งทางกลุ่มไม่ได้เชิญท่านใจจริงก็อยากเชิญนะ แต่เรื่องนี้ทางวัดเค้าจัดการเรียนเชิญมาตั้งแต่ต้นเรียบร้อยแล้ว
ก็นั่งรถออกจากวัดประมาณ 7.30 น.อัญเชิญเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ 3 องค์ ประดิษฐานบนพาน นั่งรถตู้ออกไปที่ สถานีขนส่งอำเภอภูเวียง ระยะทางประมาณ 5-6 กม.เมตร ก็ไปพร้อมกันที่โน่นหมดแล้ว ทั้งรถแห่ ชาวบ้าน กำนัน ไปถึง ก็อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุออกจากรถตู้ และ ช่วยกันโรยดอกมะลิและดอกกล้วยไม้รอบพาน เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พอได้เวลาประมาณ 08.30 น.ก็ตั้งขบวน มีรถตำรวจ จากสภ.ภูเวียง นำหน้า และตามด้วยรถกระจายเสียงเชิญชวนให้ผู้คนออกมาสักการะบูชาและร่วมทำบุญใส่ขันที่ถือเดินตลอดทาง และเชิญชวนไปร่วมงานถวายพระบรมสารีริกธาตุ ณ.วัดสันติวนาราม (บ้านโคกสง่า) ตลอดทางที่แห่จากบขส. – ตลาดสด ก็มีผู้คนที่ศรัทธาก็ควักเงินออกมาใส่ขันเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุกันจำนวนหลายท่าน
จากนั้นขบวนก็ตามด้วยรถ 6 ล้อ ทำเป็นแท่นสูงประมาณ 4 ชั้น ประดับด้วยดอกไม้และริ้วผ้าประดับ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุด้านบน ตามด้วยประชาชนส่วนหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดขาวเดินถือดอกบัวพนมมือ บ้างก็สวดอิติปิโส บ้างก็ภาวนาก็ตามอัธยาศัย เรียกว่า เป็นภาพแห่งความประทับใจในความศรัทธาอย่างแท้จริง ตลอดระยะทางที่แห่มาก็ประมาณ 2 กม.เห็นจะได้ก็เดินกันเรื่อยๆ จนเห็นท่าจะไม่ไหวก็ขึ้นรถกัน และก็อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงจากรถแห่แล้วขับมุ่งตรงสู่วัดสันติวนาราม รวดเดียวเลย

 

ชมขบวนแห่

ชมภาพขบวนแห่อีกชุดครับ

 

ชมกันต่อ

ชมกันต่อครับ

 

ขบวนแห่ถึงวัดครับ

หลังจากที่ขบวนแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากบขส.ภูเวียง เรื่อยมาจนถึงตลาดสด และ แล่นมาเรื่อยๆ จนถึง วัดสันติวนาราม ก็พบกับนายอำเภอภูเวียง พร้อมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้อุปถัมภ์วัด และ ประชาชนจำนวนมาก ตั้งแถวเป็นหน้ากระดาน พร้อมเดินแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ เดินรอบพระอุโบสถ
เจ้าภาพที่ไปด้วยในครั้งนี้ ก็ถืออัญเชิญตู้พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนท่านอื่นๆ ก็ แยกถือกันตามอัธยาศัย อาทิ เช่น นายอำเภอ ก็อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ บนพานดอกไม้แห่รอบ จากนั้นก็เวียนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ มีเจ้าอาวาสวัดสันติวนาราม นำหน้า ตามด้วยคณะนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อุปถัมภ์ และกลุ่มบัวผลิหน่อและคณะญาติธรรม แต่งกายชุดขาวเดินแห่พร้อมกัน เป็นภาพที่น่าประทับใจและแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ของทุกฝ่าย ที่ร่วมกันจัดงานนี้
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ชมภาพต่อครับ

ชมภาพต่อครับ

 

ดีจ้าน้องเิิบิร์ด พี่ตามมาร่วมอนุโมทนาแลวน๊า ตัวไม่ได้ไป (ที่ไกลๆ) ได้แต่ร่วมบุญฝากโน่น นี่ไปทุ๊กที เบิร์ดจะได้บุญมากๆ ร่ำรวย ร่ำรวยไงน้อง

ท่าทางน่าสนุกดีน๊า แต่พี่ว่า พี่โชคดีอย่างแรงเลยงวดเนี้่ย ไม่ไปกะเบิร์ดด้วยเนี่ย ไฟดับ น้ำก็ไม่ได้อาบ...แถมยุงมาเป็นกองทัพฯ อันนี้ยอมแพ้อย่างสูงเลยจ้า สงกะสัียเทวดาจะมาทดสอบความตั้งใจจริงของ "บัวผลิหน่อ" ทั้งหลายหละมั้ง และแล้วเทพ เทวดาก็ได้ประจักษ์ ว่า "บัวผลิหน่อ" ทุกคน ไปด้วย "หัวใจ" ครับผม;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ(f)(f)(f)

 

ถึงเวลาสำคัญ

ถึงเวลาสำคัญแล้ว

 

ชมภาพต่อครับ

ชมภาพต่อครับ ให้ภาพเล่าเรื่องนะครับ

 

ชมภาพต่อครับ

ชมต่อครับ

 

ชมกันต่อ

ชมต่อ

 

ชมต่อ

ถวายพระบรมสารีริกธาตุและสังฆทาน หนังสือธรรมะ ป้ายบูชาแด่พระเถรานุเถระ 9 รูป

 

ชมต่อ

เจ้าอาวาสมอบผอบเซรามิก บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพร้อมภาพบูชามอบแด่ผู้อุปถัมภ์วัดหลายราย

 

ชมกันต่อ

พุทธศาสนิกชนรับของที่ระลึกจากเจ้าอาวาสและสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ

 

ชมต่อ

ก่อนลาเจ้าอาวาสกลับ กลุ่มบัวผลิหน่อและญาติธรรม ร่วมถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาส

 

วัดป่ากิตตาญานุสรณ์

เนื่องด้วยพระอาจารย์ปรีดีย์ ผลญาโณ เจ้าอาวาสวัดป่ากิตติญานุสรณ์ อายุ 40 ปี พรรษาของท่าน 20 พรรษา ได้รับนิมนต์มาเจริญพระพุทธมนต์ ต้อนรับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในงานนี้ด้วย ท่านเห็นว่า กลุ่มบัวผลิหน่อและญาติธรรมได้มาถวายกันแล้ว ท่านอยากให้ไปดูที่วัดท่านและท่านอยากให้ไปถวายพระบรมสารีริกธาตุ ในโอกาสต่อๆไป หากมีโอกาสได้ขึ้นไปภูเวียงอีกครั้ง
ไปถึงวัดท่าน ระหว่างทาง ดูแล้วมีแต่ทุ่งนา ต้นไม้ ไม่มีอะไร เลย จากวัดสันติวนาราม ประมาณ 3-4 กิโลเมตร แต่เข้าถึงวัดท่าน วัดป่ากิตติญานุสรณ์ สวยงามมาก จะเน้นสร้างด้วยไม้ ไม่รู้ท่านสร้างด้วยไม้ชนิดใดมาก ลำต้นใหญ่และสวยงามมาก <O</O
ท่านพาไปดูศาลาการเปรียญฯ ที่ประดิษฐานหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ , พระพุทธชินราช ,รูปเหมือนหลวงปู่ขาว อนามโย ,พระธาตุครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น สักพัก ท่านพา ไปดูหอพระธาตุ ขึ้นไปประมาณ 3 ชั้น ด้านบน ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ , พระอรหันตธาตุ , อัฐิธาตุครูบาอาจารย์หลายองค์สายอีสาน ประดิษฐานไว้ในตู้กระจกด้านบน <O</O
ที่สำคัญท่านพาขึ้นไปดูกุฎีสงฆ์ที่ใช้รับรองเฉพาะพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น ห้ามขึ้นไปเด็ดขาด แต่ช่วงนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างด้วยอาคารไม้ไม่แล้วเสร็จดี พระอาจารย์บอกว่า ประมาณเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม น่าจะแล้วเสร็จกลุ่มบัวผลิหน่อและญาติธรรมได้รวมปัจจัยกันจำนวนหนึ่งถวายท่านเพื่อร่วมสร้างกุฎีรับรองพระ <O</O
พระอาจารย์ปรีดีย์ ผลญาโณ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สอ พันธุโล ด้วย และท่านยังได้กล่าวว่า หากอาคารหลังนี้เสร็จ ก็จะมีพระเถรานุเถระ มาจำวัด กันหลายองค์ ที่สำคัญ โดยเฉพาะ หลวงปู่สอ พันธุโล ท่านจะมาจำพรรษาและเทศน์โปรดญาติธรรมต่อไป <O</O