สร้างศาลาอเนกประสงค์สำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม (หลวงพ่อไก่) พระที่เข้าฌาณสมาบัติตลอด 24 ชั่วโมง

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย rravikran, 11 พฤษภาคม 2011.

  1. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    ผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์ร่วมทำบุญสร้าง

    “สำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม” สามารถร่วมบริจาคจตุปัจจัย

    โดยโอนเงินเข้าบัญชี

    พระสมศักดิ์ ญาณคุตโต

    ธนาคารกรุงไทย สาขาดอนเจดีย์

    หมายเลขบัญชี 739-0-11019-8 (บัญชีออมทรัพย์)

    ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาดอนเจดีย์

    หมายเลขบัญชี 522-240310-7 (บัญชีออมทรัพย์)

    ขณะนี้ทางวัดกำลังก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ (ศาลา 2 ไร่) ซึ่งหลวงพ่อเมตตาให้สร้างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาวัด โดยศาลานี้เป็นศาลาชั้นเดียว มีโถงใหญ่และกั้นห้องบางส่วน หลังคาโครงเหล็ก สร้างง่ายๆ แต่แข็งแรง จะประกอบด้วย​
    - พื้นที่ปฏิบัติศาสนพิธี เช่นทำวัตร สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม รักษาโรค ฟังธรรม​
    - เป็นพื้นที่พักผ่อน ที่เก็บของที่นอนของผู้มาบวชเนกขัมมะ เป็นที่พักผู้ป่วย​
    - เป็นโรงอาหาร โรงครัว และเป็นห้องเก็บของส่วนกลางของวัด ​
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    ศาลาอเนกประสงค์หลังเก่า คือศาลาที่พวกเรารอเข้ากราบหลวงพ่อนั่นเองค่ะ เห็นสร้างง่ายๆ อย่างนี้ใช้ประโยชน์สารพัด เป็นครัว เป็นหอฉันของพระสงฆ์ เป็นที่รับประทานอาหาร เป็นที่บวช เป็นที่สนทนาธรรม และเป็นที่พักรอเข้ากราบหลวงพ่อ เป็นที่พักของพระสงฆ์ เป็นที่เก็บของ เป็น Office ของพระ ฯลฯ ปัญหาคือรองรับคนไม่เพียงพอ และเมื่อฝนตกจะเปียกหมด หลบฝนได้ยาก

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  2. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    พระพิทักษ์ศาสนวงศ์ (หลวงพ่อไก่) พระเถระผู้ทรงฌานตลอด 24 ชั่วโมง และฉันท์เพียงแค่น้ำปานะมานานหลายปี


    [​IMG]

    ญาณะคุตโต มหาเถโร เตวิชโช
    ฉะฬะภิญโญ จตุปฏิสัมภิทัปปัตโต
    พุทธัสสะ อริยะสาวะโก
    วันทามิ ตัง สิระสา อะหัง
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    สัพพะโสตถี ภะวันตุ เต


    ขอ ขึ้นต้นด้วยบทบูชา พระพิทักษ์ศาสนวงศ์ หรือพระอาจารย์สมศักดิ์ ญาณคุตโต หรือหลวงพ่อไก่ หรือท่านพระอาจารย์ใหญ่ แห่งสำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม ด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงสุดเศียรเกล้า


    ขอเริ่มการดำเนินเรื่องโดยขออนุญาตยกเนื้อหาจาก BlogGang.com : : chaosy : �Ҿ�ȡ���Ҧ�٪ҷ���Ѵ��ç�����ط�Ը���


    [​IMG]


    ญาติ ธรรมที่มาใหม่ อาจจะสังเกตเห็นว่า พระอาจารย์ใหญ่ท่านมีธาตุขันธ์ที่ค่อนข้างเปราะบาง แม้ว่าผิวกายท่านจะมีรัศมีที่ดูผ่องใสมากๆ และจะเห็นได้ว่าท่านมีการสำรวมอินทรีย์ตลอดทุกๆ อริยาบถ โดยท่านแทบจะไม่ได้เปล่งเสียงเลย เมื่อออกมานอกกุฏิ

    หากได้เคยมากราบท่านบ้างแล้วที่กุฏิ หรือเคยมาบวชที่วัดบ้าง ก็คงจะได้ทราบว่าพระ อาจารย์ใหญ่ท่านเป็นพระเถระผู้ทรงฌานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ท่านไม่ได้นอนหลับ และไม่ได้ฉันอาหารหยาบ (นานหลายปีแล้ว) แต่ละวันท่านฉันเพียงน้ำปาณะบ้าง เครื่องดื่มบำรุงและโอสถบ้าง เพียงเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายธาตุขันธ์ดำรงอยู่ได้ ทั้งนี้เพื่อทำหน้าที่โปรดสัตว์ให้มากที่สุด สมกับที่ท่านกล่าวว่า "ครั้งนี้..เป็นการมาครั้งสุดท้ายของท่านแล้ว"

    เคยมีผู้ถามว่าทำไมท่านไม่ฉันอาหารบ้างคำตอบของท่านทำให้เราน้ำตาตก

    หลวง พ่อท่านเล่าว่า.. บางวันตั้งแต่เช้าจนบ่าย น้ำสักหยดยังไม่ล่วงผ่านลำคอ..อย่างน้อยในยามนั้น ท่านจะต้องใช้เสียงเทศน์ไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว แต่เพราะว่าท่านใช้เวลาทุกวินาทีในการช่วยเหลือญาติโยม ท่านจะต้องทรงฌานตลอดเวลาเพื่อยังอัตภาพให้อยู่ได้ น้ำหรืออาหาร แม้เพียงเล็กน้อย บางครั้งก็ทำให้ขันธ์ของท่านหนัก ญาณทัศนะจะไม่แจ่มใสเท่าที่ควร บางวันหากมีญาติโยมมามาก ท่าน ก็ต้องอดอาหารและน้ำ เพื่อให้ญานทัศนะแจ่มใส จะได้เห็นภาพของพวกเราทุกคนได้ชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็วที่สุด จะได้ตอบคำถามให้พวกเราหายสงสัยกัน..

    ท่านตอบคำถามมาประมาณนี้ สรุปง่ายๆ ว่า คำถามต่างๆ ที่พวกเราพากันไปถามท่านกัน ทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบัน อนาคต คำตอบเหล่านั้น แลกมาด้วยธาตุขันธ์ การอดน้ำ อดอาหาร อดนอน ของท่านนั่นเอง (หากทราบอย่างนี้แล้ว เวลาท่านถามว่า..อยากรู้เรื่องอะไรกัน ก็ขอให้เลือกเรื่องที่สำคัญกับชีวิตของเราจริงๆ เป็นประโยชน์ต่อเราจริงๆ นะคะ)

    มีผู้สงสัยว่าหลวงพ่ออยู่ได้อย่างไร ท่านเมตตาบอกว่า "อยู่ได้ด้วยกำลังของฌานสมาบัติ"


    ใครที่เคยทำสมาธิใหม่ๆ เมื่อจิตเริ่มสงบเป็นปฐมฌาน จิตจะมีความไวมากขึ้นสัมผัสต่างๆ จะไวมากขึ้น เสียงรอบตัวก็จะเหมือนว่าดังและทำให้ตกใจได้ง่ายกว่าปกติ บางทีมีเสียงดังในบ้านแม้อยู่ไกล แต่บางครั้งดังเหมือนแทงเข้าไปในอกใจของเราทำให้เรามีเวทนา เป็นต้น


    ฉัน ใดก็ฉันนั้นให้ลองนึกว่าธรรมชาติทางประสาทสัมผัสของพระอาจารย์ใหญ่นั้น ละเอียดอ่อนและไวกว่าเราเป็นล้านๆ เท่า ดังนั้นเสียงดังแม้เพียงเล็กน้อยที่เราทำในกุฏิท่านตอนเข้ากราบ เช่นเสียงของตก เสียงพานกระทบพื้น เสียงคุยกัน สามารถทำร้ายธาตุขันธ์ท่านได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเสียงโทรศัพท์ รวมทั้งสัญญาณโทรศัพท์ เป็นอันตรายต่อธาตุขันธ์ท่านมากค่ะ เจ้าหน้าที่เขาจึงขอให้ปิดโทรศัพท์ทุกครั้ง คือถ้ารักหลวงพ่อจริงต้องปิดเครื่องเลยนะคะและขอให้อดใจมาคุยกันภายหลัง จากกราบท่านเสร็จแล้ว


    สำหรับในงานพิธีแบบนี้ เวลาหลวงพ่อท่านต้องออกมานอกกุฏินั้น สรรพเสียงต่างๆ เสียงคุย เสียงรถ (เอาแค่เสียง ยังไม่นับอย่างอื่น) ความสับสนวุ่นวายต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยทำร้ายธาตุขันธ์ของพระอาจารย์ท่านได้หมดค่ะ เรื่องนี้ยากที่จะบอกทุกคนได้จริงๆ แต่ก็ขอบอกไว้ ณ ที่นี่
     
  3. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    Website: http://www.visudhidham.com

    สำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม)
    ตั้งอยู่ที่ ตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    แผนที่

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  4. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    อานิสงส์สร้างศาลา ......

    นันทิยะได้ถวายศาลาแก่พระบรมศาสดา ความว่านันทิยะเป็นมหาทานบดีสร้างวิหารที่ป่าอิสิปตนะพร้อมด้วยเครื่องเสนาสนะ แล้วทำมหกรรมการฉลองอย่างมโหฬาร ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานได้หลั่งน้ำทักขิโณทก ตกลงเหนือฝ่าพระหัตถ์พระบรมศาสดาในขณะนั้น ปราสาทอันเป็นทิพย์สำเร็จแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ ใหญ่ ๑๒ โยชน์ สูง ๑๗ โยชน์ เพรียบพร้อมไปด้วยนางเทพธิดา ก็อุบัติขึ้นในเทวโลกรอคอยนันทิยะอยู่ “กาลํ กตฺวา”

    ครั้นนันทิยะสิ้นชีพทำลายขันธ์แล้ว ก็ได้ไปเสวยสมบัติในเทวโลกอันรอคอยอยู่นั้น มีนามปรากฏว่านันทิยะเทพบุตรบริโภคทิพย์สมบัติ อันมีนางฟ้าเป็นบาทบริจาริกา แวดล้อมบำเรออยู่ทุกทิพราตรีกาลสุขเกษมสำราญอยู่ในทิพย์วิมานนั้น อย่างไม่มีเวลาสร่างซา

    ที่มา http://www.84000.org/anisong/35.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  5. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    อานิสงส์ของทานตามลำดับ
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสเอาไว้ว่า แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ดี เจตนาในการทำทานจะบริสุทธิ์ดี จะทำให้ทานนั้นมีผลมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับดังต่อไปนี้ คือ

    ๑. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็น้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีศีลไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้เพราะสัตว์ย่อมมีบุญวาสนาบารมี น้อยกว่ามนุษย์และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี

    ๒. ให้ทานแก่มนุษย์ ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมวินัย แม้จะให้มากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า ให้ทานดังกล่าวแก่ผู้มีศีล ๕ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๓. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๔. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพระพุทธศาสนา แม้จะถวายทานดังกล่าว แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๕. ถวายทานแก่สามเณร ซึ่งมีศีล ๑๐ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า ถวายทาน ดังกล่าวแก่พระสมมติสงฆ์ ซึ่งมีปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ
    พระด้วยกัน ก็มีคุณธรรม แตกต่างกัน จึงเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา มีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสเรียกว่าเป็น "พระ" แต่เป็นเพียงพระสมมติเท่านั้น เรียกกันว่า "สมมติ-สงฆ์"
    พระที่แท้จริงนั้น หมายถึงบุคคลที่บรรลุคุณธรรมตั้งแต่พระโสดาบันเป็นต้นไป ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะได้บวช หรือเป็นฆราวาสก็ตาม นับว่าเป็น "พระ" ทั้งสิ้น และพระด้วยกันก็มีคุณธรรมต่างกัน หลายระดับชั้น จากน้อยไปหามาก ดังนี้คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

    ๖. ถวายทานแก่พระสมมติสงฆ์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแก่ พระโสดาบัน แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม (ความจริงยังมีการแยกเป็น พระโสดาบันปัตติมรรค และพระโสดาบันปัตติผล เป็นลำดับไปจนถึงพระอรหัตผล แต่ในที่นี้จะกล่าวแต่เพียงย่นย่อ พอให้ได้ความเท่านั้น)

    ๗. ถวายทานแก่พระโสดาบัน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๘. ถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าว แก่พระอนาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๙. ถวายทานแก่พระอนาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าว แก่พระอรหันต์ แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม
    ๑๐. ถวายทานแก่พระอรหันต์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าวแก่ พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๑. ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๒. ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายสังฆทาน ที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะได้ถวายสังฆทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๓. การถวายสังฆทานที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายวิหารทาน แม้จะได้กระทำแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม
    วิหารทาน ได้แก่การสร้างหรือร่วมสร้าง โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงธรรม ศาลาท่านํ้า ศาลาที่พักอาศัยคนเดินทาง อันเป็นสาธารณประโยชน์ ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อนึ่งการสร้าง สิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ หรือสิ่งที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน แม้จะไม่เกี่ยวเนื่องกับกิจ ในพระพุทธศาสนา เช่นโรงพยาบาล โรงเรียน บ่อนํ้า แท็งค์นํ้า ศาลาป้ายรถยนต์โดยสารประจำทาง สุสาน เมรุเผาศพ ก็ได้บุญมากในทำนองเดียวกัน

    ๑๔. การถวายวิหารทาน
    แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ( ๑๐๐ หลัง ) ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ ธรรมทาน แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้ธรรมทาน ก็คือ การเทศน์ การสอนธรรมะ แก่ผู้อื่นที่ยังไม่รู้ให้ได้รู้ ที่รู้อยู่แล้วให้รู้ยิ่งๆขึ้น ให้ได้เข้าใจใน มรรค ผล นิพพาน ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิ ได้กลับใจมาเป็นสัมมาทิฐิ ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรม รวมตลอดถึงการพิมพ์แจกหนังสือธรรมะ

    ๑๕. การให้ธรรมทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียว ก็ตาม การให้อภัยทานก็คือการไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่น แม้แต่ศัตรู ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน เพราะการให้อภัยทาน เป็นการบำเพ็ญเพียรเพื่อละ "โทสกิเลส" และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" อันเป็นพรหมวิหาร ข้อหนึ่งในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น อันพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นคุณธรรมที่เป็นองค์ธรรมของโยคีบุคคล ที่บำเพ็ญฌานและวิปัสสนา ผู้ที่ทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ ย่อมเป็นผู้ทรงญาณ ซึ่งเมื่อเมตตาพรหมวิหารธรรม ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อใด ก็ย่อมละเสียได้ซึ่ง "พยาบาท""ผู้นั้นจึงจะสามารถให้อภัยทานได้ การให้อภัยทาน จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและยากเย็น จึงจัดเป็นทานที่สูงกว่าทานทั้งปวง
    อย่างไรก็ดี การให้อภัยทาน แม้จะมากเพียงใด แม้จะชนะการให้ทานอื่นๆ ทั้งมวล ผลบุญนั้น ก็ยังอยู่ในระดับที่ตํ่ากว่า "ฝ่ายศีล" เพราะเป็นการทำบุญบารมีคนละขั้นต่างกัน


    อานิสงส์ถวายสัพพทาน

    ...... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษเหล่านี้ ๘ อย่าง คือ ๑. ให้ของที่สะอาด
    ๒. ให้ของประณีต ๓. ให้ถูกกาล ๔. ให้ของที่สมควร ๕. เลือกให้ ๖. ให้เสมอ ๆ
    ๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส ๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ สัปปุริสทาน ๘ อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา
    ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวันอันเป็นอารามของนาย
    อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีอยู่ในที่ใกล้ ๆ นครสาวัตถี

    ในกาลครั้งนั้นมีพระยาองค์หนึ่ง ชื่อ มหานามะ ก็เอา ประธูปประทีปคันธรสของหอม
    แล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่
    ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า “ภนฺเต ภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใด
    เลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิด ก็จักมีอานิสงส์ดังรือพระเจ้าข้า “ภควา” อันว่าองค์
    สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธา
    มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิดเป็นต้นว่า

    สร้างพระพุทธรูปก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    สร้างพระไตรปิฏกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ได้อานิสงส์ ๑๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชตนเป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๒ กัลป
    ผู้ไดได้บวชตนเป็นพระภิกษุ ก็จักได้ อานิสงส์ ๒๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธาตุเจดีย์ก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกไม้ศรีมหาโพธิ์ ก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    ผู้ใดให้โภชะนังยังข้าวน้ำ โภชนะอาหารให้เป็นทานแก่ภิกษุสามเณร ก็จักได้บริวารแสนหนึ่ง
    ผู้ใดได้สร้างเจดีย์ทรายก็จักได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกุฏีให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอุโบสถให้เป็น ทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกฐินให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอารามให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐กัลป
    ผู้ใดสร้างพัทธสีมาให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๑๐๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชบุรุษผู้อื่นให้เป็นพระภิกษุก็จักได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    บวชบุตรตนเองให้เป็นภิกษุ ก็จะได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    สามีบวชภรรยาให้เป็นภิกษุณี ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวเปลือกให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๓๑ กัลป
    ผู้ใดสร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวสารให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๔๒ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุเหลือให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างรั้วล้อมอาราม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดปัดกวาดขยะมูลฝอยถอนเสียจากเขตอารามได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างศาลา,สะพาน,บ่อน้ำให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอัฏฐให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๖ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายจีวรเถราภิเษก ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าป่าได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดให้ฝาผนังและเพดานเป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างธงฝ้าย ธงผึ้ง ธงชัย ธงชาย ธงเหล็ก บูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างขันหมากเบ็งบูชาระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายซึ่งข้าวพันก้อนบูชาพระรัตนตรัยได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าอาบน้ำฝน และผ้าจำนำพรรษา ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างปราสาทดอกผึ้งให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๓ กัลป
    ผู้ใดสร้างต้นกัลปพฤกษ์ให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป์
    ผู้ใดสร้าง ฆ้อง กลอง แคน ซอ หอยสังข์ ปี่ แตร แตรวง ดนตรีให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายเสื่อสาดอาสนะได้อานิสงส์ ๔ กัลป
    ผู้ใดถวายเตียงเก้าอี้ฟูกเบาะให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกกุฏีกรรมให้พระภิกษุเข้าปริวาสกรรม และมานัตตกรรม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างบั้งไฟจุดบูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๔ กัลป ผู้ได้สร้างพัทธสีมาน้ำได้อานิสงส์ ๖๗ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างธรรมาสน์ ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี ได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดได้เผาซากศพที่ตกเรี่ยราดอยู่ตามป่าตามดง ได้บริวารหมื่นหนึ่ง
    ผู้ใดได้เผาศพญาติมิตรสหาย ได้บริวาร ๓ หมื่น
    ผู้ใดได้เผาศพบิดามารดาได้บริวารหนึ่งแสน
    ผู้ใดได้เผาศพอุปัชฌาย์อาจารย์ ได้บริวารโกฏิหนึ่ง
    ผู้ใดได้ถวายโอ่งน้ำ และส้วมอาบน้ำ และครุตักน้ำก็ได้อานิสงส์ ๑๖ กัล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  6. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    ภาพกิจกรรมงานเทศกาลมาฆปุรณมีบูชา


    ภาพนี้ขอมาจากเฟสบุ๊ค อ.สุริยา จาก โรงเรียนบรรหารแจ่มใส ด่านช้าง ลูกศิษย์ใหม่เอี่ยม มาช่วยเป็นพิธีกรให้พระอาจารย์ด้วยทำให้งานของเราราบรื่นขึ้นมากเลย..โมทนาสาธุ ท่านนั่งกับคุณปู่ (โยมพ่อ)

    <center>
    [​IMG]


    [​IMG]
    </center>


    ปีนี้มีโปรดักชั่นของคุณธงชัย ประสงค์สันติ มาช่วยสร้างสีสันให้กับงาน คุณธงชัยกับคุณเก๋ เพิ่งรู้ว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อตั้งแต่สมัยวัดตรีญาติ ก็นำทีมงานมาช่วยถ่ายทำบรรยากาศทั้งงาน เพื่อผลิตสื่อธรรมให้หลวงพ่อ โมทนา มหาโมทนากันเลยทีเดียว..

    [​IMG]


    กิจกรรมบุญต่างๆ ที่วัดไตรรงค์วิสุทธิธรรม ในช่วงเทศกาลมาฆปุรณมีบูชา ๑๗-๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้วด้วยความสมบูรณ์แบบทว่าเรียบง่ายตามประสาวัด เรา
    แม้กระนั้นก็นับว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีอีกงานหนึ่ง ซึ่งญาติโยมต่างก็ซาบซึ้ง อิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มบุญ เบิกบานกันถ้วนหน้า..
    เราได้สวดมนต์ตลอดคืน ถือศีล ปฏิบัติธรรม บ้างก็ถือเนสัชชิก ได้ตักบาตรพระอาจารย์ใหญ่และพระสุปฏิปันโนนับสิบองค์ ได้ร่วมพิธีถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า หล่อรูปเหมือนหลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ ฟังธรรม เวียนเทียนบูชาพระรัตนตรัย
    วิสุทธิธรรมดอทคอม ขอโมทนาสาธุการกับพ่อแม่ครูอาจารย์ คณะสงฆ์ทุกองค์ทุกท่าน อีกทั้งคณะ แม่ชี ชีพราหมณ์ คณะเจ้าภาพและศรัทธาญาติโยมทุกคน และขอน้อมนำภาพบางส่วน(เท่าที่มีในมือขณะนี้)

    พร้อมนำบุญมาฝากญาติธรรมที่แวะมาชมเว็บโดยทั่วกัน

    [​IMG][​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  7. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    เรามาร่วมสร้างบุญด้วยกันนะครับ ชีวิตจะได้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองนะครับ แล้วบุญนี้จะติดตัวไปในภพเบื้องหน้าไม่มีใครเอาไปได้เหมือนเพื่อนแท้ที่เป็นเงาติดตามตัวเราไปตลอดครับ
     
  8. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    เป็นภาพของครอบครัวตัวอย่าง นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ศิษย์จะทำถวายพระอาจารย์ ก่อนและหลังใส่บาตร หรือเมื่ออยู่ในงานพิธีต่างๆ แม้ว่าจะทำยาก หรือทำไม่ได้ทั้งหมดทุกคน แต่มีผู้ทำบ้าง ก็ช่วยได้มาก

    <center>[​IMG]</center>


    ขอ โมทนากับครอบครัวของคุณพี่ท่านนี้ ทั้งคุณพ่อและคุณลูก และชีพรามหณ์ทุกท่านเลย.. ท่านคงเป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ของพระอาจารย์ อยากให้ผู้มาใหม่ได้เห็นและเจริญรอยตามศิษย์พี่ท่านนี้

    ศรัทธาญาติโยม หลวงพ่อมีลูกศิษย์ชาวต่างประเทศหลายคนทีเดียว ท่านนี้ก็เป็นขาประจำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    เห็นภาพนี้แล้วอดถ่ายไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่พาลูกมาทำบุญ
    ความสุขง่ายๆ ที่ให้ผลทั้งทางโลกและทางธรรม

    [​IMG]


    มุมผ้าป่า

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  9. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    สุดท้ายนี้ผมขอเชิญทุกท่านที่เข้ามากระทู้ของผม เข้ามาร่วมสร้างมหาทานด้วยกันนะครับ เราสร้างศาลาให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่ทรงสมาบัติอภิญญา อีกท่านศาลาอเนกประสงค์นี้ก็จะเป็นศาลาที่ใช้แทนทุกอย่างของศาลาเดิม นั่นหมายความว่าทุกๆครั้งที่ทางวัดมีการจัดงานบุญ หรืองานเทศน์ต่างๆ เจ้าของผู้ร่วมสร้างก็จะได้บุญนี้ทุกๆอนุวินาทีที่ศาลาอเนกประสงค์แห่งนี้มีการใช้ประโยชน์ด้วยครับ ซึ่งเป็นวิหารทานอีกเช่นกัน ได้บุญมากหลายเท่าเลยครับ

    จะบริจาคมากบ้างน้อยบ้างก็บุญทั้งนั้นครับ จะทำตามกำลัง และ/หรือเต็มกำลังก็ได้ครับ

    ผมจะขอร่วมบุญนี้อย่างแน่นอน แต่จะแจ้งการโอนปัจจัยให้ทุกท่านทราบเพื่อร่วมอนุโมทนาตอนสิ้นเดือนนี้ครับ
     
  10. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    [​IMG]

    โมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
    เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปกราบนมัสการพระรัตนะตรัยที่นี่มา
    ได้กราบองค์หลวงพ่อด้วย เท่าที่ได้ไปเห็น ณ ที่แห่งนี้จะเป็นที่พึ่ง ทางกาย ทางใจ ของคนทั้งหลายได้เป็นอย่างดี
    พระเดชพระคุณท่านองค์หลวงพ่อไก่ มีเมตตามาก ช่วยเหลือผู้มีทุกข์ทั้งทางกาย ทั้งทางใจ
    ศาลาที่กำลังสร้างอยู่นี้เป็นศาลาที่จะใช้ประโยชน์มากมายจริงๆ เพราะจะไม่มีการว่างเปล่าจากการใช้สอยแน่นอน
    จะต้องมีบุญกุศลเกิดอย่างต่อเนื่องทุกวินาที ใครร่วมบุญไว้ก็จะได้อานิสงส์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา น่าโมทนายิ่งครับ
     
  11. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    ขออนุโมทนาด้วยเช่นกันครับ
     
  12. nababhast

    nababhast Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +79
    คุณแม่ใหญ่ซิวเชง แซ่แต้, คุณพ่อจอเงี้ยว แซ่ตั้ง, คุณแม่เฮง แซ่โต๋ว
    คุณพ่อกิมย้ง แซ่จัง, คุณแม่ซิวเคง แซ่ตั้ง
    คุณมณีวรรณ ตันติจริยางกูร, คุณพนัดดา ตันติจริยางกูร
    คุณธนธร ตันติจริยางกูร, คุณวัฒนีย์ ตันติจริยางกูร
    คุณฐเดช ตันติจริยางกูร, คุณณปภัช ตันติจริยางกูร

    ขอร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาอเนกประสงค์สำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม (หลวงพ่อไก่) โดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระสมศักดิ์ ญาณคุตโต ธนาคารกรุงไทย สาขาดอนเจดีย์ เลขที่บัญชี 739-0-11019-8 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554
     
  13. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    อนุโมทนานะครับ ธรรมอันใดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้บรรลุ ขอให้ท่านจงบรรลุธรรมนั้นด้วย ขอผลบุญนี้จงให้ท่านได้เข้าถึงพระนิพพานโดยเร็วพลันนะครับ
     
  14. สุคน

    สุคน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +898
    โมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ค่ะ
    ท่านผู้สนใจเข้ากราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่ หรือหลวงพ่อไก่ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่เวบไซต์อย่างเป็นทางการของวัด

    www.visudhidham.com หรือบล็อก BlogGang.com : : chaosy :

    เพื่อจะได้ทราบข่าวสารกำหนดการต่างๆ อย่าง update ค่ะ
     
  15. viphard

    viphard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +1,877
    พระครูพิทักษศาสนวงศ์ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ ร่วมปฏิบัติธรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
    [​IMG]
    “หลวงพ่อใหญ่เมตตาออกรับบิณฑบาต” เช้าวันที่ 1 ม.ค. 55 เริ่มพิธี 6 โมงครึ่ง (ตั้งแถวตีห้าครึ่ง)

    “บวชเนกขัมมะ” เนื่องในโอกาส “เก่าไป-ใหม่มา” บวช 7 วัน สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา รักษาทุกโรค เริ่มบวชตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 54 -2 ม.ค. 55

    “สวดมนต์ข้ามคืน” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ป้องกันภิบัติภัย คืนวันที่ 31 และ 1 (เริ่มกิจกรรมหนึ่งทุ่ม ถึงทำวัตรเช้าตีสี่)

    “ใส่เกราะเพชร” ยามดึกของคืนวันที่ 31 และ 1 หลวงพ่อเมตตาจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร(ตำรับพุทธกาล) ให้ผู้ที่ร่วมสวดมนต์ข้ามคืนได้มีพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณไว้คุ้มครองตนตลอดปี 2555


    แล้วขอบอกบุญ ขยายเขตไฟของวัดด้วยนะครับ ทางวัดกำลังจะขยายไฟเป็น 3 เพส 250 วัตต์ครับหม้อเก่าชำรุดครับ ใช้งบประมาณจำนวนมาก ผู้ใด มีจิตศรัทธา ได้ทำบุญแสงสว่าง และทำบุญตรงกับพระอาจารย์ไก่ รวมถึงยังได้ช่วย ผู้ที่มารักษากับพระอาจารย์อีกต่อ ด้วยนะครับ โมทนาสาธุกับทุกคนด้วยนะครับ
    โดยโอนเงินเข้าบัญชี

    พระสมศักดิ์ ญาณคุตโต

    ธนาคารกรุงไทย สาขาดอนเจดีย์

    หมายเลขบัญชี 739-0-11019-8 (บัญชีออมทรัพย์)


    ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาดอนเจดีย์

    หมายเลขบัญชี 522-240310-7 (บัญชีออมทรัพย์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  16. ป้าเล็ก

    ป้าเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +2,447
    “หลวงพ่อใหญ่เมตตาออกรับบิณฑบาต” เช้าวันที่ 1 ม.ค. 54 เริ่มพิธี 6 โมงครึ่ง (ตั้งแถวตีห้าครึ่ง)

    “บวช เนกขัมมะ” เนื่องในโอกาส “เก่าไป-ใหม่มา” บวช 7 วัน สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา รักษาทุกโรค เริ่มบวชตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 54 -2 ม.ค. 55

    “สวดมนต์ข้ามคืน” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ป้องกันภิบัติภัย คืนวันที่ 31 และ 1 (เริ่มกิจกรรมหนึ่งทุ่ม ถึงทำวัตรเช้าตีสี่)

    “ใส่ เกราะเพชร” ยามดึกของคืนวันที่ 31 และ 1 หลวงพ่อเมตตาจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร(ตำรับพุทธกาล) ให้ผู้ที่ร่วมสวดมนต์ข้ามคืนได้มีพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณไว้คุ้มครองตนตลอดปี 2555
    เช้าวันที่ 1 ม.ค. 2555 ใช่หรือไม่คะ
     
  17. viphard

    viphard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +1,877
    ใช่ครับ แต่เป่ากลางคืนนะครับ
     
  18. Kasm

    Kasm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,453
    ค่าพลัง:
    +6,686
    วันนี้โอนร่วมบุญ 150 บาทครับ
     
  19. viphard

    viphard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +1,877
    ว้าว โมทนาสาธุในบุญด้วยนะครับ
     
  20. จับตา

    จับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +310
    อนุโมทนาสาธุ เป็นกระทู้ที่น่าติดตามเเละให้กำลังใจเเละร่วมทำบุญเป็นอย่างยิ่งครับ....สาธุๆ
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ rravikran [​IMG]
    พระพิทักษ์ศาสนวงศ์ (หลวงพ่อไก่) พระเถระผู้ทรงฌานตลอด 24 ชั่วโมง และฉันท์เพียงแค่น้ำปานะมานานหลายปี
     

แชร์หน้านี้

Loading...