ร่วมทำบุญบูชา พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ชุดปฐมพุทธันดร(มหาเสาร์ล้างอาถรรพ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระนาคปรกจักรพรรดินาคพันธุ์นอนกิน(ฝังท้าวมหากาลนาคราชมัญเชริกภาวัน)

    พระนาคปรกของฉัน..เกิดวันไหนก็พึ่งพาพระคุณได้

    พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยสร้างพญานาคเท่าไหร่ ไม่ใช่ท่านไม่ทำแต่เมื่อท่านจะทำแต่ละทีก็ต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อจะทำพระนาคปรกท่านก็ตั้งใจจะสร้างให้เป็นอาญาสิทธิ์แก่เผ่าพันธุ์นาคทั้งปวงด้วยเหตุว่าถึงยุคที่นาคนั้นจะให้คุณมหาศาลแก่มนุษย์ การบูชาพญานาคจะช่วยให้กิจธุระการงานสำเร็จโดยง่ายและรวดเร็วกว่าการบูชาสิ่งต่างๆด้วยว่าเป็นยุคในความดูแลของพวกเค้า เมื่อพ่อพระพุทธองค์ปฐมให้ท่านทำเหรียญพระนาคปรกเก็บเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้หล่อหลอมธาตุกายสิทธิ์ขึ้นกำกับด้วยแผ่นชนวนคาถาวิชาเทพสายกูโบ๊ส กุสตาฟ ลงมนต์หัวใจจักรพรรดินาคาและนาคราชทุกตระกูลเพื่อใช้บารมีพญานาคทุกหมู่เหล่าหนุนองค์พระให้มีพุทธคุณเฉพาะทางจะได้ใช้สักการะบูชาเป็นสื่อเป็นตัวแทนของวงศ์นาคพันธุ์สืบไป

    พระนาคปรกของฉันสำคัญอย่างไร...พ่ออาจารย์ท่านแจ้งแก่ใจว่าเมืองบาดาลนั้นคือขุมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเหนือสวรรค์ชั้นฟ้าใดๆทั้งสิ้น เพื่อจะเชิญพญานาคทุกตระกูลจำเป็นต้องลงวิชาเปิดบาดาลเปิดนาคพิภพหนุนส่งด้วยวิชามหาคงคาเชื่อมกับหัวใจจักรพรรดินาคาและผูกกับยันต์แก้วมณีโชติกับยันต์ขุมทรัพย์ จะได้เชื่อมต่อญานบารมีของเหล่ามหานาคราชจักพรรดิและโพธิสัตว์นาคาทุกพระองค์เรียกว่าเชิญองค์นาคราชมาช่วยกันทำด้วย เพราะเราต้องเชื่อมต่อญานเข้ากับกษัตริย์นาคและจักรพรรดิบาดาลได้ทุกพระองค์ เห็นเป็นพระนาคปรกแบบนี้ถ้าใจเราปรารถนาเอ่ยนามมหานาคพระองค์ใดเพื่อขอบารมีท่านทุกองค์ต้องเร่งมาหมดเลย(เพราะองค์ปฐมท่านกำกับเอาไว้ว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้ เรียกใครก็ต้องมา) ไม่ว่าเหล่าจักพรรดินาคาหรือโพธิสัตว์นาคาเหล่านี้จะอยู่ที่ไหนย่อมรับรู้และเต็มใจช่วยเหลือเราทุกพระองค์ จะเรียกพญาอนันตนาคราช,ท่านท้าววาสุกรี,ท่านท้าวมหากาล,ท่านท้าวมุจลินทร์,ท่านท้าวนันโทปนันทะ,ท่านท้าวเอรกปัตต,ท่านท้าววิรูปักษ์...พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแต่จะเรียกหามาพึ่งบารมีเพราะพระนาคปรกชุดนี้เดินวิชาเป็นค่ายกลครอบคลุมทั้งหมดตั้งแต่มหานาคดึกดำบรรพ์ตลอดจนจอมกษัตริย์นาคาทั้งหลายในสี่ตระกูลไม่ว่าจะวิรูปักษ์,เอราปถ,ฉัพยาปุตต,กัณหาโคตมะด้วยว่าจะเป็นถลชะหรือชลชะตระกูลใดก็ดี ากเราทราบนามท่านหรือมีสายสัมพันธ์มีความผูกพันธ์อยากเชิญท่านมาคุ้มเกรงเราก็ออกนามท่านได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาสายพญานาคนี้สำคัญเพราะพญานาคนั้นเป็นเทพเดรัจฉานสามารถช่วยเหลือคนได้มาก ยิ่งโคตรวงศ์มีศักดิ์สูงเพียงใดในหมู่มหานาคดึกดำบรรพ์ที่เป็นบรรพชนของเผ่านาคาก็ยิ่งอาราธนาบารมีได้แรงกล้ามากขึ้นเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีพญานาคนั้นนอกจากดึงดูดโชคลาภใช้ปกป้องคุ้มครองตัวแล้ว ยังอธิษฐานดึงดูดคู่ครองอีกด้วย ###แต่ที่สำคัญที่สุดหากใช้วิชาพญานาคที่ฉันลงตามค่ายกลนี้มันจะเปิดทางทรัพย์เปิดทางคู่รักเปิดทางชีวิตทุกสิ่งทีเดียว หากผู้ใดได้ถือครองดุจมือถือแก้วมณีโชติที่จะบันดาลได้ทุกสิ่งเสมอความคิดผู้บูชานั่นเอง ท่านว่าขุมทรัพย์บาดาลอยู่ตรงนี้ท่านพูดได้เท่านี้ว่าองค์พระเป็นมหาอุดมเสริมส่งคนอย่างที่สุด ซึ่งอานิสงค์แห่งการบูชาพญานาคนั้นเชื่อถือกันว่า

    - จะทำให้ร่ำรวยขึ้นโดยเร็วพลัน สมบัติทั้งหลายทั้งปวงจะหลั่งไหลมาให้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือไม่เคยคาดคิดมาก่อนเพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งสมบัติมหาศาล

    - จะทำให้ท่านมีความผาสุก ร่มเย็น ปกป้องคุ้มครองให้ท่านพ้นจากภัยอันตรายสารพัด มีชีวิตที่ราบรื่นสุขทั้งกายสุขทั้งใจเหมือนน้ำเย็นหุ้มห่อท่านไว้ตลอดเวลา เพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งความร่มเย็นผาสุก

    - จะทำให้ท่านมีเสน่ห์ มีเมตตามหานิย,มีแต่คนหลงรัก ไปทางไหนทิศใดจะมีแต่คนคอยช่วยเหลืออุปถัมภ์เพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งเสน่หากามคุณ

    - จะทำให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งความอุดม..อยากได้เงินเดือนใหม่,อยากได้บ้านใหม่,อยากได้รถใหม่,อยากได้โอกาสความสำเร็จใหม่ๆ ให้บูชาพญานาคแล้วขอพรจะได้สิ่งนั้นอย่างเหลือเชื่อเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง


    แต่พระนาคปรกจักรพรรดิ์นาคพันธุ์ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากสิ่งต่างๆเหล่านั้นแล้ว ท่านยังขอพญานาคราชทั้งหลายไว้เป็นพิเศษให้คอยเกื้อกูลกับผู้อาราธนาเป็นการเฉพาะด้วย

    - ท่านจะเสริมมงคลชีวิตทางด้านการเงินให้ไหลคล่องเหมือนดั่งแม่น้ำ

    - ช่วยเสริมและบำรุงจิตใจให้ดีขึ้นในภาวะจิตใจย่ำแย่

    - เป็นที่ยำเกรงกับสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยบารมีสูงส่งหนุนนำ

    - ช่วยให้วาสนาคล่องตัวไม่ติดขัดมีใช้ไม่อดอยาก

    - มีพลังแห่งเมตตามหานิยมเป็นที่รักของฝูงชน

    - ปัดเป่าอันตรายจากโรคร้ายและสิ่งที่มองไม่เห็น

    - ป้องกันอำนาจไสยศาสตร์ ภูติผีปีศาจแลอวมงคลทั้งหลาย

    - ประทานพรได้ถ้วนทุกประการ(แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเน้นให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง เวลาติดขัดหรือมีอุปสรรคใดๆนึกถึงท่านจะผ่านไปโดยง่าย)

    - แก้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกดวงติดขัดต่างๆ คนที่ดำรงค์ชีวิตอยู่อย่างติดขัดคือคิดทำการอย่างใดก็ไม่ได้เสมอใจเราซักอย่าง ที่หวังไว้ก็ไม่เคยสมหวังพบแต่เรื่องผิดพลาดผิดหวัง มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดผีซ้ำด้ามพลอย ส่งผลให้ความรู้สึกอ่อนล้ามัวหมองจิตใจหดหู่ถดถอย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาตึงมือแต่อย่างใดด้วยบารมีกษัตริย์นาคพันธุ์(โคตรวงศ์นาคราช)ขอให้เรามั่นใจเท่านั้น

    - ช่วยในเรื่องการเจริญสติ แรงครูจะเป็นดุจแสงสว่างกระจ่างจ้าเบื้องบนที่จะทำลายความทุกข์โศกมืดมิดที่เราหาทางออกไม่ได้ มีคุณใหญ่ชัดเจนคือการดลบันดาลความสำเร็จมาให้

    - ช่วยให้เรามีทัศนคติที่ดีมองอะไรทะลุปรุโปร่ง..เห็นช่องทางความสุข..เห็นประโยชน์ใหญ่..จิตใจปลอดโปร่งรู้แจ้งแทงตลอด..เห็นสิ่งที่ปกติตัวเองคิดไม่ถึงมองไม่เห็น เมื่อจะพิจารณาการณ์และกิจสิ่งใดย่อมทำไปโดยความรอบคอบไม่ปล่อยโอกาศทุกครั้งให้หลุดรอดไป

    - พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าบารมีนาคพันธุ์จะช่วยบันดาลสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริง เพราะสมบัติในโลกีย์นี้ไม่มีสิ่งใดที่พญานาคราชจะทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้เสมอใจต้องได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเหนือคนอื่นเสมอ

    - กลับสิ่งร้ายให้แปรเปลี่ยนเป็นโอกาศ..กลายเป็นเรื่องดี ผ่อนสิ่งที่หนักตนให้บางเบาเคราะห์กรรมฉาบฉวยให้สูญหายไป

    - ส่งผลต่อจิตวิญญาณเบื้องต่ำและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้หยุดคิดร้ายไม่สามารถรังแกเราได้เพราะเกรงอำนาจเหล่ากองทัพมหานาคดึกดำบรรพ์ที่เราเชื่อมต่อบารมีด้วย

    - ปรับสมดุลย์ความห่างเหิน..ต่ำชั้น..ไม่คู่ควรกับสิ่งที่มุ่งหวังหรือหมายปองด้วยว่าบารมีของเราไม่เสมอกัน,ไม่เท่ากัน,ไม่คู่ควรกันกับสิ่งที่เราหวังที่เราปรารถนาเหล่านั้น เปลี่ยนเป็นให้สมกัน คู่ควรกันไม่มีใครเกินเราหรือเหมาะหรือควรเท่าเรา

    - ท่านว่าในแต่ละวันกิจและชีวิตของคนมีหลากรูปแบบ พระนาคปรกของท่านท่านจึงผูกธาตุวิชาไว้โดยดึงขึ้นมาให้เด่นทุกธาตุสอดคล้องกับกิจที่เราจะเจอในแต่ละวันจะได้ช่วยให้การแก้ไขปัญหาชีวิตเป็นได้ทุกอย่าง เพราะเหล่ามหานาคจะคอยคลุมธาตุของเขาเอง(มหานาคดึกดำบรรพ์นี้ไม่ได้มีแค่ธาตุน้ำ พ่ออาจารย์ท่านว่าดินน้ำลมไฟไม้ทองคำ...ท่านมีทั้งหมดเพราะโคตรวงศ์ท่านยิ่งใหญ่และแตกแขนงออกไปมาก) จะคอยปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสถานการณ์จะเป็นน้ำก็ดีได้ชื่อว่าเป็นโชคลาภเป็นมหานิยมที่สุด..จะเป็นไฟก็ดี..เป็นลมก็ดี..เป็นดินก็ดีล้วนปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ชีวิต ว่าเราต้องการผูกสัมพันธ์ก็จะเป็นเสน่ห์เข้าไส้,ต้องหลบหนีอันตรายก็จะเป็นคลาดแคล้วบังตา,ต้องการแข่งขัน..ต้องการเสี่ยงโชค..ต้องการโอกาศในชีวิตทุกสิ่งล้วนปรับเปลี่ยนตามสมดุลย์ชีวิตไม่ขัดแย้งหรือล่วงเกินกัน


    *** เช่นนี้ฉันจึงมั่นใจว่าพระนาคปรกของฉันคนเกิดวันไหนก็พึ่งพาพระคุณได้
    ด้วยพระชุดนี้ท่านเสกเก็บไว้ยาวนานที่ผ่านมาจะออกให้บูชาเฉพาะสายลูกหลานนาคาจริงๆด้วยเป็นของมีอภินิหาริย์มาก บางคนตาดีเขาว่ากำพระไว้เวลาทำสมาธิทีไรดุจได้เฝ้าจอมกษัตริย์นาคา(องค์ที่ใจเราอาราธนาหรือมีกรรมผูกพันธ์กันอยู่แต่หนหลัง) ด้วยมหานาคนั้นจะแผ่พังพานปกปักรักษาไปไหนไปด้วยกับเราตลอดแม้จะไม่รู้สึกตัวหรือมองไม่เห็นก็ตาม

    นาคปรกฝังเหรียญท่านท้าวมหากาลนาคราชมัญเชริกภาวัน

    บารมีท้าวมหากาลนั้นจำเป็นกับคนยุคนี้(เป็นประโยคที่พ่ออาจารย์ท่านพูดอย่างมั่นใจที่สุด) ด้วยพ่ออาจารย์ท่านญาณบารมีของท้าวมหากาลนาคราชได้ ซึ่งท้าวมหากาลนั้นเป็นเทพเจ้าฝ่ายนาคาองค์เดียวกับที่สามารถต่อต้านอำนาจแห่งพระโสนุตระเถระผู้อรหันต์ได้ ท่านได้พูดถึงความพิเศษเกินกว่ามวลเหล่าพญานาคราชทั้งปวงของท้าวมหากาลนาคราชว่า แท้จริงแล้วท้าวมหากาลนาคราชนั้นเป็นเทพแห่งจาตุมหาราชิกาภาคตะวันตกในฝ่ายนาคาซึ่งภาคตะวันตกแห่งจาตุมหาราชิกาสวรรค์นั้นได้ซ้อนทับเข้ากับชมพูทวีปของเราซึ่งเป็นทวีปมนุษย์ภาคตะวันตกของจักรวาลเช่นกัน จึงแน่นอนว่าท้าวมหากาลนาคราชนั้นท่านมีอำนาจเพียงพอที่จะลิขิตหรือเปลี่ยนแปลงชะตามนุษย์ที่พึ่งบารมีท่านได้ ด้วยความสัมพันธ์ในลักษณะภพซ้อนภพและภูมิซ้อนภูมินี้ทำให้เหล่าพญานาคมีบทบาทมากกับมนุษย์ แต่นั่นก็ยังไม่รวมไปถึงพญานาคผู้มีฐานะพิเศษซึ่งอยู่นอกเหนือและโดดเด่นเกินกว่าอายุขัยเชื้อสายวงศ์นาคราชทั้งหมดเช่นท้าวมหากาลนาคราช

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท้าวมหากาลนั้นท่านเป็นพญานาคประเภทชลชะมีพระราชวังอาศัยอยู่ในเมืองบาดาล ซึ่งอาณาเขตของพระองค์นั้นจะเรียกว่ามัญเชริกภาวัน ### ด้วยว่ามีอายุขัยเกินกว่าเหล่าพญานาคและเทพเจ้าในจาตุมหาราชิกาทั้งมวลจึงมีอำนาจ,มีฤทธิ์และบารมียิ่งใหญ่เป็นเงาตามตัวไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า
    ท้าวมหากาลนั้นมีอายุเท่ากับจักรวาลทั้งแสนโกฏิซึ่งมีฤทธานุภาพตลอดจนอายุไม่ด้อยกว่ามหาพรหมองค์ใดเลยทีเดียว(เหนื่อกว่ามหานาคดึกดำบรรพ์ทั้งหลาย) และโดยปกตินั้นท้าวมหากาลนาคราชจะตื่นขึ้นมาเป็นสักขีพยานเมื่อเกิดการลอยถาดทองของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในภัทรกัปป์เพื่อจะเอ่ยสุนทรคาถาร้อยบทบูชาคุณแห่งความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนเทพพรหมทั้งหมด และเมื่อแต่ละพระองค์ทรงตรัสรู้แล้วท้าวมหากาลท่านก็จะนำเหล่าพญานาคตลอดจนนางฟ้าและนางอัปสรสวรรค์ในปกครองของท่านมาเข้าเฝ้าเฉลิมฉลองแก่พระพุทธองค์ ด้วยว่าการเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นท่านรู้ก่อนใครทั้งหมดทั้งความเมตตาของเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งภัทรกัปป์อันล่วงมาสี่พระองค์แล้ว จึงได้เทศนาโปรดท้าวมหากาลนาคราช ถึงแม้จะมีชาติกำเนิดที่เป็นเดรัจฉานไม่อาจบรรลุธรรมเป็นพระอริยะบุคคลในชาตินี้ได้ แต่ด้วยอำนาจการสงเคราะห์ของพระพุทธองค์แลพระสัจธรรมที่โปรดเทศนาก็ทำให้ท้าวมหากาลมีฤทธิ์และอิสระเพิ่มขึ้นเกินกว่าสัญชาติญาณของพญานาคทั้งหลายด้วยกันหลายเท่าจนไม่อาจประมาณการณ์ได้

    โดยปกตินั้นท้าวมหากาลจะสถิตย์อยู่ในพิภพบาดาลบริเวณมัญเชริกภาวัน เนื่องจากเป็นผู้รู้ราตรีนาน มีอายุขัยเท่ากับจักรวาลแสนโกฏิดุจท้าวมหาพรหมจึงมีนามปรากฏว่ามหากาล(กาลเวลา) ท่านจะเสวยสิริสมบัติดุจเทพสวรรค์อยู่ในพิภพนั้นด้วยว่าอยู่นอกเงื่อนไขแห่งกฏเกณฑ์ธรรมชาติจึงไม่มีใครกล้าล่วงเกินหรือรบกวนท่าน แม้แต่เทพยดาผู้มเหศักดิ์หรือผู้บรรลุคุณธรรมตลอดจนพระอรหันต์ก็ตามในครั้งหนึ่งนั้นเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วได้มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระบรมธาตุส่วนหนึ่งนั้นได้ตกไปอยู่กับกษัตริย์แห่งราชวงศ์โกลิยะเมืองรามคามโดยได้สร้างสถูปเพื่อบรรจุไว้สักการะบูชา จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบที่พระบรมสารีริกธาตุจะได้เสด็จไปเป็นสิ่งมงคลสักการะมิ่งขวัญในแดนบาดาล มหาสถูปซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมืองรามคามนั้นได้ถูกน้ำเซาะพังทลายพระบรมสาริริกธาตุก็เลื่อนไหลหายไปกับกระแสน้ำ เหตุการณ์นี้ทำให้ท้าวมหากาลนาคราชไม่อาจบรรทมอยู่ในมัญเชริกภาวันได้ พระองค์จึงได้เสด็จและใช้ฤทธานุภาพรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดที่เลื่อนไหลไปในกระแสน้ำนั้นไปเก็บไว้ยังมัญเชริกภาวันในวิมานซึ่งพระองค์ประทับอยู่ แม้กาลต่อมาพระโสนุตระเถระจะทราบความเป็นมาและสาเหตุแห่งการสูญหายของพระบรมสารีริกธาตุและใช้อำนาจฤทธิ์แห่งความเป็นอรหันต์ติดตามไปขอคืน..ท้าวมหากาลก็หาได้ยินยอมอนุญาติไม่

    พ่ออาจารย์บอกว่ามติครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้น เชื่อว่าท้าวมหากาลนาคราชท่านมีทรัพย์สินเท่าจักรวาลแสนโกฏิตามอายุขัยของท่านและเสวยสุขไม่มีความทุกข์หรือเหตุการณ์ใดมารบกวน เรียกว่าอยู่แบบสบายๆไม่นอนก็ตื่นมากิน..ดูระบำรำฟ้อนของเหล่าอัปสรสวรรค์บ้าง..ถูกบำรุงปรนเปรอด้วยเบญจกามคุณอย่างถึงที่สุด..เพราะท่านมีความสุขอันประณีตเสียยิ่งกว่าเทพเจ้าในฉกามาพจรสวรรค์ใดๆไม่รู้จักทุกข์ร้อนกับผู้ใดเลยดังนี้### จึงเป็นเคล็การใช้ชีวิตเสวยสมบัติอยู่ในบรมสุข ดังนั้นผู้ที่มีบารมีท้าวมหากาลนาคราชให้ความคุ้มครองช่วยเหลือดูแลพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก เอาแค่ว่าสบายนั่งกินนอนกินเป็นเจ้าคนนายคนมีแต่เจริญขึ้นด้วยลาภสักการะไม่รู้จักความทุกข์ยากลำบากใดๆเลยนี่เป็นคุณสมบัติพิเศษของท้าวมหากาลนาคราชท่านโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งแต่ที่พิเศษยิ่งกว่านั้นด้วยการที่ท่านสร้างเหรียญหล่อท้าวมหากาลนาคราชซึ่งต้องลงพระยันต์กาลนาคราชตำรับพิชัยสงครามตามกลบทค่ายกลซึ่งถือว่าเป็นยันต์ใหญ่และยันต์พิเศษอันจะใช้เป็นอาถรรพ์ฝังบ้านเมือง ท่านว่าถ้าไม่สำคัญไม่ดีจริงเพียงแค่ยันต์เดียวคงไม่ถึงกับทำอาถรรพ์ฝังบ้านเมืองได้ ท่านว่าต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อจะทำชนวนเทเหรียญเนื้อมหายันต์นอนกินเพราะจะได้มั่นใจได้ว่าเหรียญนี้จะต้องเปลี่ยนชีวิตผู้บูชาทุกด้าน..ท่านว่าอย่าว่าแต่ชีวิตคนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังเปลี่ยนมาแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงอาศัยฤกษ์ยามอันเป็นมงคลบูชาครูอัญเชิญท้าวมหากาลนาคราชแห่งมัญเชริกภาวันขึ้นมาเพื่อประกอบพิธีลงอาถรรพ์กาลนาคนอนกินท่านว่าทำวิชาเหล่านี้ผูกไว้ให้สมกับเป็นเหรียญที่สื่อบารมีของท้าวมหากาลนาคราชซึ่งท่านจะลงเน้นประโยชน์ไปที่คนใช้ให้ชีวิตความเป็นอยู่แบบง่ายๆแต่สะดวกสบายไร้อุปสรรค..ปราศจากความทุกข์ใดๆ..อยากได้อะไรก็มีทุกอย่างเสมอใจเช่นนั้น

    เมื่อจะเสกเหรียญพระนาคปรกที่พ่ออาจารย์ตั้งใจทำและเสกเก็บไว้ยาวนานนั้นท่านว่าจะเสกแบบพระปกติไม่ได้เพราะนี่เรารวมเอามหานาคทุกตระกูลเข้ามาทั้งหมด ท่านจะต้องเสกเหรียญซึ่งนำไปแช่น้ำทิพย์เมืองบาดาลซึ่งท่านเก็บรักษาไว้ซึ่งกรรมวิธีนี้ท่านว่าเป็นการชุบและปลุกเหรียญอีกวาระหนึ่งให้มีอำนาจเข้าขั้นกายสิทธิ์อย่างแท้จริงแล้วจึงนำมาเสกกลางแจ้งในราชาฤกษ์ตอนเที่ยงวันในเวลาที่พระอาทิตย์อยู่จุดสูงสุดเพื่อให้ชีวิตคนใช้ได้ขึ้นสูงอย่างถึงที่สุดด้วย จากนั้นท่านก็เพียรทำการปลุกเสกเชิญครูเชิญบารมีจักรพรรดิวงศ์บาดาลทีละตระกูลมาทำให้ทั้งยังเชิญท้าวมหากาลนาคราชมาอธิษฐานฤทธิ์และปรกเพิ่มบารมีเสกเหรียญสำคัญนี้เรื่อยมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะวิชาท้าวมหากาลนั้นมีคุณานุภาพครบถ้วนทุกประการท่านว่าอยากได้ด้านไหนในนี้มีหมดด้วยเป็นวิชาที่ใช้ฝังอาถรรพ์บ้านเมือง ซึ่งนานๆครั้งท่านจะมีเมตตาจัดสร้างของสำคัญประเภทนี้ขึ้นเนื่องจากสร้างยากเพราะต้องเดินอักขระแยบคายตามวิธีบังคับกว่าจะทำชนวนได้จำนวนมากมาเทรูปท่านเพื่อให้เป็นอาถรรพ์แก่ชะตาชีวิตของตนเอง..ของใครของมัน คนเราถ้าไม่มีอาถรร์ตรงนี้เสริมก็เหมือนคนธรรมดาที่อยู่ในกฏของกรรมซึ่งอาถรรพ์นี้จะอยู่กับตัวติดตัวเราไปจนตาย เป็นอาถรรพ์ที่จะหนุนชีวิตเราให้เจริญให้มั่งมีด้วยลาภสักการะตลอดจนความสุขความสบายทั้งปวงเสมอด้วยท้าวมหากาลนาคราชผู้เสวยทิพย์สมบัติไม่เป็นสองรองใครในเรื่องความสุขสบายเช่นนั้น *** ท่านว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมท่านพูดมากไม่ได้ ถ้าใครที่กรรมบังตายังไม่ถึงวาระหรือไม่มีบุญสัมพันธ์กับท้าวมหากาลนาคราชเขาก็จะมองข้ามไป

    พระนาคปรกจักรพรรดิ์นาคพันธุ์นอนกินนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะให้เป็นเครื่องมงคลแห่งนาคพันธุ์อย่างแท้จริงจึงต้องเสกตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านกำชับและเกิดนิมิตเป็นขั้นตอนครบถ้วนตามที่ท่านบอกจึงจะสำเร็จ คือต้องเห็น
    พญานาคราชทั้ง 4 ตระกูลใหญ่ อันได้แก่

    - ตระกูลวิรูปักข์
    - ตระกูลเอราปัถ
    - ตระกูลฉัพยาปุตต์
    - ตระกูลกัณหาโคตมะ

    ได้พากันเลื้อยเข้าไปในที่อยู่ของเหรียญนี้ทีละตนๆแล้วก็ไม่กลับออกมาเป็นเช่นนี้อยู่ตลอดหลายวัน ท่านจึงขอเหล่านาคราชทั้งสี่ตระกูลเข้าพิทักษ์รักษาด้วยแต่ละตนนั้นก็ครอบครองทรัพย์สมบัติมากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้อาราธนาพระนาคปรกนี้ก็เหมือนมีญาณของเหล่าพญานาคอยู่กับตัวจะร่ำรวยมีโชคมีลาภบ่อยๆถี่ๆโดยไม่รู้ตัวซ้ำยังจะเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวอย่างมากดั่งเหล่านาคราชมีแต่เพศตรงข้ามที่มีเชื้อสายดีเป็นชนชั้นสูงปรารถนาจะเข้าหามาทำความรู้จัก(ดั่งคติว่านาคราชไม่สมสู่กับงูดิน) ซ้ำเมื่อเสกเสร็จยังมีนิมิตเห็นเหล่ามหานาค,กษัตริย์นาคา,โพธิสัตว์นาคามากมายพากันเลื้อยลงไปยังเหรียญนี้นับร้อยพันเป็นเวลาติดต่อกันถึงสามคืน ดุจจะพิทักษ์รักษามหาสมบัติแห่งพิภพบาดาลและมาให้คุณกับผู้ครอบครองจริงๆอย่างใดอย่างนั้น

    คาถาบูชา
    สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร สุมนะนาโค สุมนจละนาโค อรวาฬะนาโค กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร มะณิกัณโฐ มะณิอักขิ นันทะนาโคปะนันทะโก วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโลปะลาละโก จิตระนาโค มะหาวีโร ฉัพยาปุตโต จะวาสุกี กัณหาโคตะโม ภุชะคินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา จูโฬทะโร อะหัจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย อาสีวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา ชะลัฏฐา วา ถะลัฏฐาวา ปัพพะเตยยา นะทีจะรา กะโรนตุโน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา มะหันตา นาคะสา นาคา เวสาลา สะหะ ตัจฉะกา กัมพะลัสสะตะรา จาปิ เมรุปาทะสิตา พะลา ยามุนา ธะตะรัฏฐา จะ สัพเพ นาคา ยะสัสสิโน เอราวันโณ มะหานาโค โน กะโรนตุ อะนามะยัง


    *** ด้วยกาลบัดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงเวลาที่สายญาณบารมีของพญานาคจะได้พิทักษ์รักษาพระศาสนาสร้างบารมีไปร่วมกับสรรพชีวิต และท่านเล็งเห็นว่าความเป็นอยู่วาสนาในชะตาโชคลาภต่างๆของหลายคนเริ่มมีปัญหา ท่านจึงให้นำเหรียญพระนาคปรกจักรพรรดิ์นาคพันธุ์ออกไปสร้างบารมีกับผู้ศรัทธาเป็นกาลเร่งด่วน ด้วยพระนาคปรกนี้มีเหรียญ ###ท่านท้าวมหากาลนาคราชที่ทำวิชาอย่างเอกอุฝังไว้(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้เคล็ดวิบากความรันทดในชีวิตคนได้ดีนัก นับเป็นเหรียญบารมีที่จะใช้ทำอาถรรพ์ในบ้านในวงศ์ตระกูลยิ่งดี..ท่านว่าเหรียญนี้ยิ่งมีมากยิ่งดีกับคนผู้นั้นเพราะเป็นเคล็ดทางวาสนาบารมีถึงขั้น..นอนกินเสวยบรมสุข จะบูชากี่เหรียญก็ได้ขึ้นอยู่กับความปรารถนาความสบายของแต่ละคน) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระนาคปรกจักรพรรดินาคพันธุ์นอนกิน(ฝังท้าวมหากาลนาคราชมัญเชริกภาวัน) บูชา 900 บาท

    100740970-238677847434864-3048666712682528768-n.jpg 101907711-255934805622855-1358268224650608640-n.jpg
    101109534-278612846879109-3050120417378304000-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2023
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์ยอดปรารถนามหาวัฏจักรจัตุรงคโชค(สร้างกฎสามวัฏจักรสี่การเปลี่ยนแปลง)

    สร้างไว้..แก่คนไร้โชค
    เรื่องของ โชค,ลาภ,วาสนา นั้น เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ชีวิตคนประสบความสำเร็จ ทั้งโชคยังแบ่งเป็นดีร้ายมีทั้งศุภมงคลและคราเคราะห์ เช่นนั้นคนที่มีโชคจึงต้องคิดทบทวนกันให้ดี เพราะโชคจริงๆนั้นไม่ได้เกิดจากการเสี่ยงทายหรือโชคดีฟลุ๊คๆแบบขอไปทีก็เรียกว่ามีโชคมีลาภได้ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้ว "โชค" ก็คือโอกาสของชีวิต การที่เราได้รับมาซึ่งโอกาสในเรื่องต่างๆอยู่ตลอดไม่ขัดสนเช่นนี้จึงเรียกว่าโชค ส่วนวาสนาก็ไม่ใช่บุญเก่าเก็บหรือของเก่านับประมาณเวลาไม่ได้หากแต่เป็นความบากบั่นหมั่นเพียรที่เราสร้างขึ้นเองได้ หากใจเรามุ่งมั่นมีใจต่อสู้ไม่ท้อถอยเช่นนี้ย่อมเปิดวาสนาได้ต่างกับโชคที่ความเพียรมากเท่าไหร่ก็แลกมาไม่ได้ เพราะวาสนานั้นเราสามารถสร้างได้เองแต่โชคต้องใช้โอกาส เช่นนั้นคนที่ขาดโชคจึงยากที่จะพัฒนาตนเองไปสู่ความสำเร็จได้พอไม่มีโชคแต่แรกวาสนาก็ไม่ต้องไปพูดถึงให้เสียเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีโชคจึงจะมีวาสนา...เมื่อได้รับโอกาสจึงเร่งทำความเพียรเช่นนี้นั่นเองความขยันมุมานะบากบั่นจึงจะไม่สูญเปล่า ความสำเร็จของเราก็ขึ้นอยู่กับโอกาสและการกระทำนั่นเอง..อันบุคคลล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียรเพื่อให้คนได้กำหนดโชคชะตาของตน ได้เป็นผู้สร้างและผู้ต่อยอดท่านจึงให้นำยอดแห่งเครื่องรางรุ่นนี้ออกมาเปิดจองเพียงวาระเดียวเท่านั้น

    ที่สุดแห่งศาสตร์บันดาลโชคในสายพ่ออาจารย์...ท่านว่าโชคคือสิ่งที่เกิดกับชีวิตเราแบบคาดเดาไม่ได้เหมือนมีความบังเอิญมาชักนำให้ชีวิตเราเป็นไปต่างๆนานาแบบที่คนหลายๆคนชอบพูดว่าถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่เนื้อแท้แล้วโชคนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะคาดการณ์ไม่ได้หรือต้องชูคอรอเวลาวาสนาหากแต่เราสามารถสร้างขึ้นได้ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้คือตะกรุดสามวัฏจักรแห่งโชคลาภ เพราะในจักรวาล...ในทุกๆโลก..ในทุกๆสรรพสิ่งนั้นล้วนมีโชคอยู่ด้วยกันเพียงสามประเภท ซึ่งโชคทั้งสามที่หมุนวนเป็นวัฏจักรนี้ส่งผลกับเรามาทุกภพทุกชาติตั้งแต่เกิดจนตาย มหาวัฏจักรแห่งโชคที่สงผลกระทบต่อชะตาชีวิตเรานั้นประกอบไปด้วย โชคชั้นฟ้า,โชคชั้นดิน,และโชคมนุษย์
    - โชคชั้นฟ้า คือสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับเราเรียกว่าพระเป็นเจ้าหรือฟ้าสวรรค์มอบให้มาแบบนี้ เจ้าคนนี้ต้องเป็นอย่างนี้แหละกำหนดมาแล้วตั้งแต่เราเกิดจะต้องเป็นเช่นนี้ไปจนตาย สรรพสิ่งทั้งหลายไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงโชคฟ้าได้ เพราะมันคือเจตจำนงของฟ้าสวรรค์ที่จะตัดสินว่าเธอคนนี้คนนั้นไปเกิดที่ไหน...เกิดมาในครอบครัวของใคร...เกิดมาเป็นคนอย่างไร...เกิดมามีภูมิหลังเช่นใด..เกิดมามีฐานะแบบไหน...เกิดมาได้รับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนอย่างไร ทุกสิ่งกำหนดขึ้นเป็นวงจรเมื่อมีหนึ่งจึงมีสองและมีลำดับถัดไปตามมาเรื่อยๆจะเรียกว่าเป็นสิ่งกำหนดโชคชะตาก็ได้
    - โชคชั้นดิน คือสถานที่อันเราลงหลักปักฐานอยู่อาศัย จะเหมือนโชคชั้นฟ้าก็คือเราเลือกเกิดไม่ได้ เมื่อเกิดมาแล้วต้องอยู่ตรงนี้ในสถานที่เช่นนี้(ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงได้) เรียกได้ว่าเกิดมาก็โอกาสไม่เท่ากันเสียแล้ว สถานที่อันเราอยู่อาศัยในโลกมนุษย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีพลังชีวิตกระจายตัวอยู่หนาแน่นอ่อนบางแตกต่างกันไป ในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างกันย่อมมีคุณลักษณะที่ไม่เหมือนกัน เช่นนี้พลังชีวิตของโลกนี่เองก็คือโชคชั้นดิน เรียกว่าใครเกิดมาในจุดที่อยู่ซึ่ีงมีพลังชีวิตหนาแน่นมากกว่าก็สบายไปไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา เพราะพลังชีวิตนั้นจะเป็นพลังงานปลุกเร้าโชคชะตาได้อย่างดีทั้งจะทำให้ชีวิตคนมั่งคั่งร่ำรวยหรือมีโชควาสนาสูงส่ง เพราะเราอยู่ในสถานที่มงคลอันมีพลังชีวิตให้เราเสพย์ตลอดเวลาเช่นนี้
    - โชคมนุษย์ คือสิ่งที่คนเลือกจะทำเรียกว่าแต่ละคนก็มีเป้าหมายต่างๆกันไป ทั้งศีลธรรมจริยธรรมความเชื่อรวมไปถึงการใช้สติตัดสินใจเหตุกาณ์ต่างๆในชีวิตของคนก็ไม่ได้เท่ากันไม่ได้เสมอกัน โชคมนุษย์ก็คือสิ่งที่แต่ละคนพากเพียรพยายามจะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นไปถึงความฝันเห็นผลสำเร็จไวขึ้น เป็นเรื่องของการผลักดันตัวเองด้วยพลังงานชีวิตภายใน(เอาพลังชีวิตที่รับเข้ามาผลักดันตัวเอง) เพื่อสร้างความคิดเชิงบวกสร้างแรงจูงใจให้ตนก้าวไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ คนที่มีโชคมนุษย์ที่ดีก็คือใช้พลังงานชีวิตได้ถูกหลักการก็จะเร่งความเพียรให้หนักจะได้พัฒนาตนเองให้ถึงพร้อมความก้าวหน้าในทุกด้าน แต่กลับกันหากคนที่ความคิดมัวหมองพฤติกรรมผิดบาปชีวิตมีเป้าหมายไม่ชัดเจนพลังงานแรงบวกอะไรก็ไม่มีคนประเภทนี้ย่อมพัฒนาตนเองได้ยากนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเป็นคนไม่เห็นคุณค่าในตัวเองแล้วคนประเภทนี้จะถึงทางตันเลยทำได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆเท่านั้น


    โชคทั้งสามประการนี้นี่แหละองค์ปฐมท่านชี้แจงแก่พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นวัฏจักรของโชคชะตาชีวิตคนมีความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกันอย่างเหนียวแน่น เช่นนั้นโชคที่เราได้รับไม่ว่าจะดีหรือจะร้ายอยู่ดีๆไม่ใช่ว่ามันผุดขึ้นมาของมันเองหากแต่มันมีวัฏจักรที่เชื่อมต่อกัน แม้เปลี่ยนแปลงได้เพียงหนึ่งสิ่งวัฏจักรของมันย่อมเปลี่ยนไปทั้งหมด..ในขณะเดียวกันแม้พังทลายลงหนึ่งสิ่งก็จะพังทลายทั้งวัฏจักรเช่นกัน วัฏจักรแห่งโชคนี้เป็นพลังจักรวาลที่ก่อปฏิสัมพันธ์กันในเชิงลึก *** พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าคนเรานั้นหากชีวิตมีพลังงานมากคิดเชิงบวกสร้างกำลังใจแก่ตนเองสร้างเจตจำนงค์ของตนขึ้นมา ไม่ว่าจะสร้างขึ้นมามากมายเพียงใดมีแรงผลักดันขับเคลื่อนที่จะเปลี่ยนตนเองเป็น"ยอดคน"มากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ เพราะพลังจิตใจของเราเพียงอย่างเดียวมันยังไม่พอ....ใช้โชคมนุษย์ไปเอาชนะโชคชั้นฟ้าย่อมทำไม่ได้หากเอาโชคมนุษย์ชนะชะตาฟ้าได้บัดนี้คนเพียงแค่สร้างกำลังใจชีวิตก็คงจะเปลี่ยนกันได้ทั้งหมดแล้ว ทั้งความมั่งคั่งรำ่รวยก็ยังไม่ใช่เครื่องวัดว่าชีวิตใครจะประสบความสำเร็จ ### หากแต่ชีวิตคนนั้นมีสิ่งที่อยู่เหนือการคาดการณ์และการควบคุมของตัวเราเสมอพ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนสิ่งที่เรามองไม่เห็นซึ่งพร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งปัญหาการงาน,ปัญหาสุขภาพ,ปัญหาครอบครัว,ปัญหาของมิตรภาพ,ปํญหาความสัมพันธ์ต่างๆ...สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมเหล่านี้ล้วนเปลี่ยนชีวิตคนได้ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเราต้องเปลี่ยน"โชคชั้นฟ้า"ได้เท่านั้นโชคอื่นๆถึงจะเปลี่ยนทั้งหมดตามวัฏจักของตนเอง แต่ทว่าเราเกิดมาที่ไหน...พ่อแม่เราเป็นใคร...เราอาศัยอยู่แห่งใด..มีใครเป็นญาติของเรา..เป็นเพื่อนสนิทของเราช่วงปฐมวัย,มัชฌิมวัย,ปัจฉิมวัยคือใคร สิ่งเหล่านี้คือโชคชั้นฟ้ากำหนดไม่ได้อยู่ในกฎที่เราจะใช้แรงพลังใจเพื่อเปลี่ยนมันได้ ....เช่นนั้นตะกรุดสังวาลย์ยอดปรารถนามหาวัฏจักรจึงเป็นเครื่องรางที่ใช้เปลี่ยนวัฏจักรโชคลาภและชะตาคน

    ด้วยวัฏจักรแห่งโชคตัวหลักที่จะก่อให้เกิดผลกระทบทั้งวงจรก็คือโชคชั้นฟ้า...ซึ่งมันได้กำหนดมาแล้วว่าให้เราเป็นอะไร..ทำอะไรได้แค่ไหน..หากไปทำบางอย่างที่มันไม่ได้กำหนดเราก็ไม่สามารถจะบรรลุผลได้แม้ว่าเราจะพยายามมากขนาดไหนก็ตาม ต่อให้เราต้องการ..เราอยากได้...เราสร้างแรงจูงใจ..ปลุกพลังจิตพลังชีวิตพลังใจทุ่มไปทั้งหมดแล้ว ความเพียรเหล่านั้นย่อมกลายเป็นเรื่องหลอกตัวเองทั้งสิ้นเพราะเบื้องหลังชะตาคนมีความลับของฟ้าดินซ่อนอยู่เช่นนี้ *** ตะกรุดชุดนี้จึงใช้แก้ไขเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระดับที่เหมาะสมที่สุด ด้วยแต่ละคนมีโชคชั้นฟ้าของตนเองที่จะสามารถรับได้ทั้งต้องประกอบด้วยโชคชั้นดินและโชคมนุษย์ด้วย ตะกรุดนี้จึงเข้ามาแทนอาถรรพ์ในโชคชั้นฟ้าทั้งหลายที่ชะตาชีวิตเราขาดเราพร่องไป(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใส่ติดกายไว้ตลอดเพราะวัฏจักรโชคลาภจะเปลี่ยนทั้งวงจรเช่นนั้น) ### ส่วนที่ขาดหายไปจากชีวิตเรา..ชะตาที่ไม่ได้กำหนดมาให้เรา..ปัจจัยมากมายที่ไม่มีอยู่ในตัวเรา...โชคชั้นฟ้าที่อยู่เหนือการควบคุมใดๆต่างจากโชคชั้นดินและชั้นมนุษย์ก็จะเปลี่ยนไปเติมสิ่งที่ขาด..ให้ในสิ่งที่ไม่มี..เพิ่มในส่วนที่หาย..เพื่อให้ชีวิตของเราอยู่ในการควบคุมของตัวเราเอง เพราะโชคชั้นฟ้านี้คือสิ่งที่จะเปลี่ยนวาสนาชะตาคน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อฟ้าเปลี่ยนดินและมนุษย์ก็จะเปลี่ยนทั้งหมดปัจจัยทั้งสามนี้จะเกื้อกูลและต่อยอดซึ่งกันและกัน เมื่อรวมตัวกันในศุภมงคลอันเป็นที่สุดแล้วนับแต่อดีตกาลผ่านพ้นมา...แม้จะเกิดมหาจักรพรรดิ,เกิดกษัตริย์,เกิดมหาเศรษฐีก็เป็นไปได้อย่างง่ายดาย

    ชีวิตที่เกิดมาไม่สามารถใช้ศักยภาพตัวเองเปลี่ยนแปลงสถานะตนตั้งแต่เกิดจนตาย...ต้องใช้ตะกรุดสังวาลย์นี้
    ชีวิตที่ถูกทำลายย่อยยับในระหว่างช่วงขาขึ้นที่สุดของชีวิต...ต้องใช้ตะกรุดสังวาลย์นี้
    ชีวิตคนที่ต้องการจังหวะ,เวลา และโอกาสก็จะพุ่งไปไกล...ต้องใช้ตะกรุดสังวาลย์นี้
    ชีวิตคนที่ต้องการโชค(ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือมหาศาล)เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมที่ตนทำอยู่...ต้องใช้ตะกรุดสังวาลย์นี้
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้บางคนจะเกิดมาในจังหวะที่ดีโชคชั้นฟ้าบริบูรณ์มีโชคชั้นดินและโชคมนุษย์เกื้อหนุน...แต่ขาดมือมืดจากปัจจัยภายนอกส่งเสริม(เรียกว่าพึ่งดวงล้วนๆ)ส่วนมากชีวิตก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ***ตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้ท่านจึงทำขึ้นเพื่อเน้นให้ทุกปัจจัยหนุนส่งกันไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนวัฏจักรทั้งสามเพื่อให้ผู้ใช้ได้กำไรชีวิตสูงสุด จะไม่ใช่คนที่มีเพียงโชคชะตาอันยอดเยี่ยมแต่ไม่สามารถทำในสิ่งที่โชคชะตาเตรียมไว้ให้สำเร็จ เช่นนั้น...เกิดมาเพื่ออะไร

    หนทางรอดของชีวิตตน...ถ้าหากฟ้าไม่ยุติธรรมเพราะโชคชั้นฟ้าได้ลิขิตคนไว้อย่างไม่เท่าเทียมเมื่อเราจะเปลี่ยนวัฏจักรโชคเพื่อยกเครื่องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตตนที่คงที่และตายตัวอยู่นั้นให้พุ่งสูงขึ้นเช่นนี้ โดยประโยชน์ใหญ่ให้เราได้รับประโยชน์จากโชคชะตาชีวิตอย่างแท้จริงสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ฟ้ามอบให้ได้เต็มที่สูงสุดพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้ตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้ *** หากดื้อรั้นแม้จะเพียรเปลี่ยนโชคมนุษย์อย่างไรย่อมไม่เห็นหนทางเลย ทั้งบางคนแม้เกิดมาดีพร้อมอยู่แล้วแต่ต้องรอเวลาและโอกาสไปถามใครผู้วิเศษที่ไหนเขาก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา...รอไปก่อนนะ..ยังไม่ถึงเวลานะ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีประโยชน์อะไรถ้าดวงเราโชคดี..แต่มันจะเกิดขึ้นยามบั้นปลายของชีวิต ด้วยตะกรุดสังวาลย์นี้จะใช้เปลี่ยนแปลงวัฏจักรโชคโดยใช้วัฏจักรก้าวหน้าเพื่อจัดเรียงกิ่งฟ้าก้านดินในวัฏจักรโชคของคนอำนวยผลสร้างสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในเวลาที่ถูกต้อง..สมควร..เหมาะสมที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนักองค์ปฐมท่านว่าชีวิตคนนั้นไม่มีอะไรดีถาวรหรือเลวถาวรเสมอไป..เพื่อช่วยให้โชคชะตาเปลี่ยนโดยไวที่สุด..บางคนนั้นทั้งหมดที่ชีวิตเขาต้องการก็แค่โชคชะตาเพียงเล็กน้อย(ในกรณีที่ทำชีวิตมาดีแล้ว)..แต่บางคนก็ต้องการโชคใช้เอาชนะจุดอ่อนในดวงชะตารวมทั้งช่วยนำศักยภาพซ่อนเร้นในตัวออกมาได้ทำให้เกิดโชคลาภที่ดีไม่กลับเป็นหายนะ
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้สำคัญมากดั่งน้ำที่บรรทุกเรือก็ต้องการแรงลมพัดไป โชคที่ดีก็เหมือนมีเรือดีตั้งแต่ต้นถ้าสายลมกระแสน้ำพัดไปทางเดียวกัน(ทุกสถานการณ์เป็นใจหนุนส่งพร้อมกัน)หนทางของเรือก็จะไปถึงจุดหมายได้อย่างราบรื่นรวดเร็วดุจมีคนคอยมาชักลากเรือนั่นทีเดียว แต่กลับกันถ้ากระแสน้ำกระแสลมพัดหวนทวนทิศทางของเรือชีวิตเราแน่นอนว่าการเดินทางใดๆย่อมไม่ราบรื่น...ชีวิตอาจเลวร้ายดั่งเรือที่ตกอยู่ในพายุมืดมน

    ที่ผ่านมานั้นตะกรุดสังวาลย์ของพ่ออาจารย์ท่านทำเท่าไหร่ก็คนรอเก็บมีผู้บูชาหมด ยิ่งเป็นตะกรุดชุดที่นานๆจะทำออกมาที..นานทีปีหนจึงจะมีให้เห็นสักชุดอันว่า "ตะกรุดสังวาลย์ยอดปรารถนามหาวัฏจักรจัตุรงคโชค" จะต่างจากตะกรุดทั่วๆไปเพราะต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะทำได้ซักชุดนึงค่อยๆทำสะสมมาเรื่อยๆ *** พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าอะไรที่ใช้เปลี่ยนแปลงวัฏจักรชะตาคนล้วนขึ้นชื่อว่าทำได้ยากที่สุดทั้งสิ้นซึ่งก็มีพิธีการลงมากมาย ด้วยท่านรู้ดีว่าวิบากกรรมนั้นไม่เคยปราณีใครเสียเลยซักผู้หนึ่งท่านจึงได้นำยอดตะกรุดชุดนี้ขึ้นมาซึ่งอาจกล่าวได้ว่านอกจากจะทำยากแล้ว การเสกให้ครบวาระต่างๆนั้นยังยากและยาวนานกว่าด้วยพระเวทย์วิชาการทำตะกรุดสูตรองค์ปฐมท่านไม่เคยจะเป็นของทำได้ง่ายดายแต่อย่างเดียวในอดีตกาลจวบจนปัจจุบันนั้นอาจกล่าวได้ว่าแทบไม่มีผู้ใดเลยที่จะกระทำไม่เพียงมหาสังวาลย์นี้ให้คุณมากมีพลังเเละพุทธคุณเป็นเอกล้ำลึกและพิศดาร ที่ว่ายากนั้นก็คงเพราะขั้นตอนในการทำซับซ้อนและมีวิธีทำยุ่งยากทีเดียว
    - พ่ออาจารย์ท่านต้องนำตะกั่วถ้ำโบราณที่เสกสะสมไว้ ด้วยมีความเชื่อว่าตะกั่วถ้ำนั้นครูบาอาจารย์เจ้าถ้ำเจ้าป่าพระฤาษีท่านทำขึ้นมาด้วยฤทธิ์ เป็นของดีชั้นยอดที่ประจุพลังจิตตานุภาพได้ดีที่สุดหากได้รับการลงอาคมจะมีอาถรรพ์มาก เป็นที่เกรงกลัวของสิ่งที่มองไม่เห็นและพลังงานด้านลบทั้งหมดท่านได้นำตะกั่วถ้ำนี้มาหลอมรีดเป็นแผ่น
    - หลังจากนั้นจึงทำการลงถมแผ่นตะกั่วด้วยยอดยันต์ที่ใช้ลงถมเครื่องคาดเครื่องสูงตำรับถวายกษัตริย์ในอดีตกาลที่หาผู้กระทำมิได้ หลังจากนั้นท่านจึงค่อยๆลงถมไปตามกรรมวิธีลงเต็มก็ถูลบลงใหม่(ใช้เวลานานหลายปี)
    - แล้วท่านจึงนำแผ่นตะกั่วนี้ไปเผาไฟด้วยถ่านเเละเชื้อเพลิงที่มาจากว่านยาตามตำราโดยเฉพาะ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเผาไม่ไหม้ไฟมีอิทธิคุณตรงตามที่องค์ปฐมท่านบอกจึงได้นำมารีดซ้ำและตัดเป็นแผ่นเพื่อทำตะกรุดสังวาลย์สังวาลย์ยอดปรารถนามหาวัฏจักรจัตุรงคโชค


    เพื่อให้สมกับคำว่าสังวาลย์พิศดารท่านจึงกระทำโดยพิศดาร กล่าวคือตั้งใจลงไว้เพื่อให้เอามาใช้งานจริงแทนที่จะทำเป็นสายคาดก็ม้วนพันเข้ากลุ่มกันจะได้เลี่ยมห้อยคอได้โดยง่าย ทั้งยังต้องลงจารในดอกเล็กๆไม่ใหญ่โตมากไป(ดุจห้อยพระองค์หนึ่ง) ทำการจารบีบอักขระเต็มสูตรทุกดอกพ่ออาจารย์ท่านว่าวิธีนี้ต้องใช้สมาธิจิตสูงมากกว่าวิธีอื่นเพราะต้องลงจารเต็มสูตรพระยันต์แต่ละดอกซึ่งไม่ใช่อักขระน้อยๆเลย ท่านทำการบีบอักขระเเละทำให้โดยเมตตาเมื่อได้เเต่ละแผ่นยันต์ก็ใส่พานไว้ทั้งหมดสี่ชุดสี่พาน แยกกันเสกในแต่ละด้านก่อนนำมารวมกันพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเมื่อเสกนั้นต้องไล่เสกไปทีละวิชาทั้งที่เป็นเวทย์วิชาคนละตัวกันแต่เมื่อเสกเสร็จนำมาต้องทำความปรารถนาให้บรรจบพร้อมกันทุกๆด้านทั้งสี่ชนิดมิใช่ว่าจะทำสำเร็จได้ง่ายๆเมื่อนำมาเสกรวมจะให้ผลต่อกันเป็นลูกโดดแม้ผู้ใดได้ครอบครองไว้ก็จะส่งผลต่อกันเป็นที่ละขั้น

    จัตุรงคโชค......พ่ออาจารย์ท่านว่าชื่อนี้เราแปลงมาจากพิชัยสงครามเพราะความหมายมันเหมือนกัน...ตะกรุดสร้างกฏสามวัฏจักสี่การเปลี่ยนแปลงนั้นคืออะไร

    จัตุรงคโชคก็คือโชคทั้งสี่ประการอันท่านสรุปไว้ว่าเป็นโชคที่ทุกคนต้องการมีและควรมีให้ถึงพร้อม พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เราเปลี่ยนเพียงวัฏจักรโชคชั้นฟ้าแต่เรายังต้องดึงวัฏจักรนั้นมาหมุนโชคสี่ชนิดไปพร้อมๆกันด้วยเพื่อให้คนที่เขาขาด คนที่เขาไม่มีได้มีได้เติมเต็มในสิ่งที่หล่นหานไปจากชีวิตเขา อันโชคทั้งสี่ที่เสด็จพระใหญ๋องค์ปฐมท่านเน้นไว้แจ่มชัดว่าต้องทำให้เกิดขึ้นชีวิตคนถึงจะหลุดพ้นจากปัญญหาการใช้ชีวิตทางโลกครบถ้วนก็คือ
    1. ธนะ บางคนจะเรียกว่าธนสารสมบัติก็ได้ ธนะนี้คือทรัพย์สินทั้งหลายอันเป็นแก่นสารวัตถุ..เป็นสิ่งของ..เป็นปัจจัยเสริมที่ใช้อำนวยความสุขในชีวิตของคนเพื่อยังความสะดวกสบายให้เกิดขึ้นมีทั้งสิ่งที่เคลื่อนที่ได้(สังหาริมทรัพย์)ทั้ง รถ,เรือ,เครื่องประดับ..(สิ่งสนองกิเลสความต้องการทั้งหลาย) รวมไปถึงสิ่งที่เคลื่อนที่ไม่ได้(อสังหาริมทรัพย์)เช่น บ้าน,ตึก,สวนไร่,ที่นา,ที่ดิน...(เป็นทรัพย์อันตั้งอยู่กับที่) พ่ออาจารย์ท่าว่าต้องบริบูรณ์ด้วยธนสารสมบัติถ้วนทุกประการ เหตุทั้งหลายแห่งการได้มาซึ่งธนสารสมบัติ ### นี่คือโชคชั้นที่หนึ่งแห่งจัตุรงคโชค
    2. โภคะ สิ่งนี้จะเรียกว่าโภคสมบัติก็ได้ พวกนี้จะเป็นทรัพย์สิ้นเปลืองแต่เราก็ขาดมันไม่ได้เพื่อจะยังปัจจัยสี่ให้ถึงพร้อมบริบูรณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีทั้งอาหาร,เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรคต่างๆเป็นของที่เราต้องกินต้องใช้ยามมีชีวิต เป็นทรัพย์ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราและใช้รักษาตัวเราเมื่อเจ็บป่วย เพื่อให้เราได้กินดีอยู่ดีเหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชีวิต เหตุทั้งหลายแห่งการได้มาซึ่งโภคสมบัติ ### นี่คือโชคชั้นที่สองแห่งจัตุรงคโชค
    3. สุวรรณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเข้าใจง่ายๆก็คือทองคำ แต่ในความหมายของท่านนั้นรวมไว้หมดทั้เงินและทองคำ ทั้งสินแร่ล้ำค่าหรือทองนพคุณเก้าอันเป็นสิ่งมีค่าอยู่ในตัวเองไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคล่วงมากี่กาลเวลาเงินและทองคำก็เป็นสิ่งที่คนไขว่คว้าเพื่อความมั่งคั่ง ใช้ความพยายามทั้งชีวิตเพื่อสะสมมันให้ได้มากที่สุด ด้วยจะใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆไม่ให้ชีวิตขาดตกบกพร่องได้รับความยากลำบาก เหตุทั้งหลายแห่งการได้มาซึ่งสุวรรณะ ### นี่คือโชคชั้นที่สามแห่งจัตุรงคโชค
    4. นิธิ สิ่งนี้เรียกว่าขุมทรัพย์รวมทรัพย์ที่อยู่ในปฐพีทุกอย่าง แม้แต่นวะนิธิหรือแก้วทั้งเก้าประการอันเป็นสิ่งประเสริฐในโลก..ทรัพย์ทั้งหลายที่ได้ชื่อว่าฝังไว้เพื่อประโยชน์ต่างๆด้วยขุมทรัพย์ต่างๆนั้นอาจเคลื่อนไปจากที่เดิมเสียบ้างมีอมนุษย์เช่นนาค,ยักษ์,ภูตผี,ปีศาจมาลักลอบเอาไปเสียบ้างท่านว่าขุมทรัพย์ที่ฝังไว้ก็สูญเสียไปไม่เป็นประโยชน์แก่ใคร แม้เจ้าของก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไร...ในกรณีถ้าเรามีของๆเราอยู่ท่านว่าย่อมจะมีเหตุให้กลับคืนสู่มือเรา ...หรือหากเราปรารถนาจะถึงซึ่งความสำเร็จหรืออยากครอบครองลงทุนในทรัพย์ทั้งหลายที่ออกดอกผลอยู่ในแผ่นดินนี้ย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น(ในอีกแง่หนึ่่งก็คือทรัพย์หรือเงินเก็บที่สะสมไว้ไถ่ถอนตัวเองให้พ้นภัยทั้งหลายทั้งคราเคราะห์และหนี้สินตลอดจนทุพภิกขภัย ภัยอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดีหากจะเกิดจะมีขึ้นย่อมใช้ทรัพย์ส่วนนี้เอาตัวรอดได้) แต่หลักใหญ่คือทรัพย์ทั้งหลายในแผ่นดินที่เราปรารถนา เหตุทั้งหลายแห่งการได้มาซึ่งนิธิ ### นี่คือโชคชั้นที่สี่แห่งจัตุรงคโชค

    ด้วยโชคทั้งสี่ชนิดนี้ย่อมเกิดๆดับๆไม่มั่นคงถาวร พ่ออาจารย์ท่านจึงใช้เคล็ดจัตุรงคโชคเพื่อสร้างโชคของเราให้บริบูรณ์ท่านว่าขอให้เป็นโชคทั้งสี่ชนิดนี้ไม่ว่าเหตุแห่งการได้มาคืออะไรย่อมบริบูรณ์ได้ดั่งใจทุกประการ ยันต์ตัวนี้ชื่อพ้องไปกับจตุรงคโชคของพิชัยสงคราม ทั้งแต่ละดอกตอนลงตอนเสกต้องน้อมใจเรียกญาณสมบัติถึงสี่ชนิด(สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วในโลก)ต้องเกิดนิมิตไปทีละขั้นเห็นสมบัติทั้งสี่ไหลมาจนท่วมตัวไม่มีที่ว่าง ตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นลงให้สมบูรณ์ด้วยข้าวของเงินทองทำอะไรมีแต่กำไรไม่ขาดทุน ท่านว่าทำให้ไม่มีอดมีแต่รวย มีโชคมีลาภเข้ามาในชีวิตมีโภคทรัพย์เงินไหลมาเทมา,มีธนสารสมบัติ,ถึงพร้อมซึ่งสุวรรณะและนวะนิธิทั้งเก้าประการ

    คาถาบูชา
    นิจจังกาลังปิโยโหติ เทวะตาปินิปัจเตยยัง มหาเตชัง มหาตะปังพะเลเนเน เตเชชะยะตุชะยะมังคะลัง นะสะจะกะ อุเออะเย พุทธังเป็นเงิน ธัมมังเป็นทอง สังฆังเป็นข้าวของไหลมาเทมา พุทธังโหม ธัมมังโหม สังฆังโหม

    สังวาลย์แก้วสร้างกฎสามวัฏจักรสี่การเปลี่ยนแปลงนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างไว้เพื่อเป็นตัวช่วยในการดำรงค์ชีพ ด้วยปัจจุบันนั้นเป็นยุคแห่งการแข่งขันและสถานการณ์โดยรวมก็แย่ลงการแข่งขันก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวท่านว่าให้พกตะกรุดนี้ติดตัวจะบันดาลโชคให้เกิดขึ้นไม่ว่าเราจะหวังพึ่งโชคทางไหนถ้าอยู่ในเหตุแห่งจัตุรงคโชคก็จะถึงซึ่งความร่ำรวยเงินทองไม่ขาดสาย(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงแล้วจัตุรงคโชคก็คือโชคครบทั้งหมด เหตุแห่งการได้มาซึ่งทรัพย์ทุกอย่างไม่มีเว้น) ### ตะกรุดนี้ท่านลงไว้ให้เด่นด้านการเงินให้มีโชคได้เงินแบบฟลุ๊คๆล้นมือ ท่านว่าคิดอะไรก็ได้แบบนั้นคิดเงินได้เงินคิดงานได้งาน ในส่วนตัวคนใช้ตะกรุดก็ดำเนินชีวิตไปตามปกตินั่นแหละโชคชั้นฟ้าชั้นดินและโชคมนุษย์จะเร่งเหตุแห่งโชคทั้งสี่เหล่าให้เกิดแก่เราเอง ให้โชคดีวิ่งเข้ามาหา ทำอะไรแล้วไม่เสียเงินไม่เสียทรัพย์ไปเปล่าๆทั้งท่านยังเป่ามนต์เรียกทรัพย์ให้ทีละชุดอีกด้วย

    พ่อาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าทุกคำทุกข้อความมีความนัยของมัน เป็นความปรารถนาดีที่เราพูดมากไม่ได้นี่คือครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดเผยได้เท่านี้ ถ้าคนไหนไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าเข้าใจก็เป็นเรื่องของเขา ท่านว่าตะกรุดนี้เราไม่ได้ทำไว้ขายใครจะเอาไม่เอาเราก็ไม่เสียดาย แต่เราทำไว้เพื่อให้คนที่เค้าพร้อม ทำไว้เพื่อเปลี่ยนสามวัฏจักรชะตาฟ้า,ดิน,มนุษย์ให้คนใช้ได้ในสิ่งที่ถึงพร้อมและบริบูรณ์มากที่สุด ...ท้ายที่สุดแม้หลายคนที่ปรารถนาโชค..จะไม่พบโชคร้ายใดๆเลยเพราะจะมีแต่โชคอันเป็นศุภมงคลเกิดขึ้นแก่ผู้ถือตะกรุดจัตุรงคโชคเท่านั้น

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้เสด็จพระใหญ่ท่านให้เราทำสำเร็จได้เพียงครั้งเดียวและไม่ให้เราทำอีกต่อไป ดังนั้นตะกรุดชุดนี้จะฉุดช่วยชีวิตผู้ใดท่านว่าก็ตามแต่แรงครูท่านจะดลจิตดลใจให้เค้าจองทันเพราะหมดเมื่อไหร่ก็คือหมดไม่มีทำอีก รายการนี้ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิด(รวมถึงโชคที่ปรารถนาจะให้เกิดแก่ชีวิตเป็นที่สุด)เอาไว้พร้อมกันด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์ยอดปรารถนามหาวัฏจักรจัตุรงคโชค(สร้างกฎสามวัฏจักรสี่การเปลี่ยนแปลง) บูชา 4,000 บาท

    100925383-542900309716392-8348993244591292416-n.jpg
    101539190-2911978658886263-4746143616055902208-n.jpg
    101689405-188247339162665-1345060104998748160-n.jpg




     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแสดงปาฏิหาริย์ภาคแม่ยกลูกแบกให้ถึงสวรรค์ (ปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา)

    ***เหรียญปฐมมารดาพิมพ์เล็กนี้พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นปางแสดงฤทธิ์หรือแผลงฤทธิ์ ท่านว่าเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ยกลูกออกจากมหันตภัยร้ายแรงทั้งปวง ทั้งเหรียญนี้ยังเป็นเคล็ดที่ปฐมมารดาแบกศิลาซ่อมฟ้า อุดซ่อมชะตาชีวิตลูกๆที่ระลึกถึงพระคุณมารดาอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้จะโลดโผนไปบ้างเพราะเป็นปางปาฏิหาริย์ปางแผลงฤทธิ์ โดยเฉพาะคนที่เจอเหตุการณ์ชีวิตขั้นวิกฤติขอพึ่งบารมีท่านจะฉุดช่วยได้ไว

    "ด้วยมหาภัยพิบัตินับแต่บรรพกาลกำลังทยอยกลับคืนสู่โลกของเรา..."

    พ่ออาจารย์ท่านทราบดีว่าต่อไปจะเกิดอะไรและควรแก้หรือรับมือด้วยอะไร เพราะวิกฤติในอดีตนั้นจะเริ่มหวนกลับคืนมาทีละอย่างครูเทพเบื้องบนจึงให้พ่ออาจารย์ทำ "เหรียญปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา" ขึ้นมาจะได้มีไว้พึ่งบารมีในหมู่ผู้ที่เห็นภัยแห่งชีวิตตน...เพราะเจ้าแม่หนี่วานั้นเป็นเทพบรรพกาลที่ทรงมหิทธานุภาพสูงสุด(เป็นเทพปฐมกาลที่อยู่เหนือศักดิ์มหาเทพทั้งปวง) สามารถปกป้องคุ้มครองเราให้รอดพ้นและปลอดภัยจากภัยพิบัติและผลกระทบของภัยเหล่านั้นอันกำลังหวนย้อนคืนกลับมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาเทวีหนี่วานี้นอกจากป้องกัยภัยพิบัติร้ายแรงทั้งหลายแล้วแม้ภัยที่จะเกิดในชีวิตประจำวันของปุถุชนลูกมนุษย์ท่านก็ไม่อนุญาติให้เกิดขึ้นได้เลย ภัยร้ายแรงทั้งจากสังคม..สิ่งรอบตัว..หรือธรรมชาติที่จะดึงชีวิตเราให้ถดถอยเกินควบคุมนั้นท่านปัดทิ้งออกไปทั้งสิ้น

    โดยพ่ออาจารย์ท่านตระหนักรู้ว่าเภทภัยนั้น..ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว เพราะโลกนั้นทวีความเดือดร้อนด้วยสาเหตุต่างๆทั้งโรคระบาดและสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอย่างถึงที่สุด โลกกำลังหมุนเข้าไปหามหาภัยพิบัติเหมือนเมื่อครั้งบรรพกาลซึ่งจะทวีความรุนแรงจนถึงขั้นร้ายแรงที่สุดในประวัติมนุษยชาติ พ่ออาจารย์ท่านว่าภัยพิบัติบรรพกาลนั้นได้กลืนชีวิตกลืนเอาวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองจนมอดดับสิ้นสูญ ล้างชาติพันธุ์ล้างชีวิตมนุษย์และสรรพสัตว์กว่าครึ่งค่อนโลก...ตอนนี้โลกก็เริ่มหมุนเข้าไปสู่จุดนั้นแล้ว เราอาจจะตายก่อนจะได้เห็นความเสื่อมในระดับมหาภัยพิบัติแต่ก็รับรองว่ายังได้เห็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสขึ้นทุกๆที

    ทำไม...ต้องอัญเชิญพระแม่หนี่ว่าลงมาช่วยตอนนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะพระแม่หนี่วานั้นเป็นบูรพเทพเพียงองค์เดียวที่เสด็จลงมาช่วยโลกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติในปฐมกาลนั่นเอง ท่านจะช่วยคนของท่านเท่าที่จะทำได้(ต่อเมื่อเราเป็นคนของท่านย่อมไม่มีอะไรที่พระแม่ท่านช่วยไม่ได้) ทั้งพระแม่ท่านยังรักมนุษย์ดุจลูกของตนเองด้วยว่าท่านเป็นเทพผู้สร้างและให้ชีวิตมนุษย์ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งหลาย เพื่อลูกมนุษย์นั้นแม่ทรงทุ่มเทและเสียสละได้แม้แต่พระชนม์ชีพ เช่นกาลอดีตที่แผ่นดินแตกแยกมหาอัคคีไหม้ฟ้าเกิดภัยพิบัติดั่งฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย..พระแม่ก็ได้ช่วยโลกให้รอดพ้นมาได้เช่นนี้

    *** ในปัจจุบันนั้นโลกเริ่มร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลายธรรมชาติกำลังแปรปรวนวิปริต ภัยอันเกิดจากธรรมชาติเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆทั่วทุกสถานที่ มนุษย์จะใช้ชีวิตได้ยากลำบากหนักหนา การดำรงค์อยู่จะเดือดร้อนสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆหมุนวนไปจนครบกำหนดที่จะเกิดมหาภัยพิบัติ เช่นนั้นเทพเจ้ายุคปฐมกาลอันทรงกำลังที่จะคุ้มเกรงชีวิตเราข้ามพ้นเรื่องทั้งหลายนี้จึงมีแต่เทพที่รับมือกับมหาภัยเมื่อกำเนิดโลกได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากรอดหรือดำรงค์สืบวงศ์ตระกูลให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆในขณะที่ธรรมชาติปรวนแปรเช่นนี้ก็จำเป็นจริงๆที่เธอต้องพึ่งบารมีเทวีหนี่วา ด้วยพระนางมีหน้าที่ในการกลับมาช่วยเหลือลูกมนุษย์(คนของท่าน)ยามต้องเผชิญหน้ากับเภทภัยโดยตรงดั่งที่เคยฉุดช่วยเหล่าบรรพบุรุษของมนุษย์เอาไว้

    เทวีหนี่วาเป็นเทพสวรรค์ดึกดำบรรพ์(พ่ออาจารย์ท่านว่านับถือมาแต่ยุคโบราณมากๆ)จนผู้คนล้มหายตายจากความศรัทธาเลือนหายกลมกลืนไปกับเทพต่างๆ องค์เทวีท่านสั่งให้พ่ออาจารย์สถาปนารูปท่านขึ้นอีกครั้งเพื่อให้มนุษย์ได้รู้จักและเข้าถึงพระองค์ในฐานะ "เทพมารดาผู้สร้างมนุษย์" ด้วยตราบใดที่โลกนี้ยังมีมนุษย์ที่พระนางสร้างขึ้นอำนาจจิตวิญญาณจากเทพบรรกาลหนี่ว่าย่อมไม่มีทางดับสูญไป ...ย้อนไปเมื่อผานกู่สร้างโลกและสวรรค์แล้ว เจ้าแม่หนี่วาก็ได้สร้างสรรพชีวิตและถูกบูชาในฐานะ "ผู้ปกครองโลกมนุษย์เบื้องล่าง" ชนทั้งหลายจะจำชื่อเจ้าแม่หนี่วาได้จากผลงานที่พระนางปั้นมนุษย์ขึ้นจากดินริมฝั่งแม่น้ำเหลืองและการอุดรูรั่วบนฟ้าด้วยหินห้าสีเมื่อวันมหาวิบัติโลก ...ในฐานะเทพมารดาผู้ให้กำเนิดปฐมชีวิตทั้งมนุษย์และสรรพสิ่ง

    มารดาแห่งมนุษยชาติอุดรอยรั่วพิบัติฟ้า

    เหรีญปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า
    องค์เทวีท่านตั้งใจให้ทำไว้เพื่ออุดรอยรั่วในชีวิตของลูกมนุษย์โดยเฉพาะ ด้วยปฐมมารดาหนี่ว่านั้นทราบดีเพราะท่านเป็นผู้ปั้นมนุษย์ขึ้นมา มนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้นย่อมสูงต่ำดำขาวมีกำเนิดมีชะตาวาสนาไม่เท่ากัน ชีวิตมนุษย์ก็มีเหตุแห่งความวิบัติและรอยรั่วที่ไม่เสมอกัน เช่นนั้นปฐมมารดาท่านจึงจะช่วยอุดรอยรั่วในชีวิตปัจจุบันก่อน คนที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเกิดมาไม่เท่าคนอื่นหรือชีวิตยังติดขัดในเรื่องใดๆทางกายภาพทางการดำรงค์อยู่ ### องค์ปฐมมารดาท่านจะแก้เรื่องเหล่านี้ก่อนเพราะท่านมีหน้าที่โดยตรงที่จะแก้ไขชะตาชีวิตของลูกได้(ในฐานะแม่ใหญ่) พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้มีอาถรรพ์ปิดรูโหว่รอยรั่วทั้งปวงลูกคนไหนขาดอะไรมีรูโหว่อะไรเรื่องไหนในชีวิตบอกกับแม่ได้ แม้แต่ภัยระดับโลกท่านยังช่วยได้เช่นนั้นภัยเรียงตัวเรื่องของแต่ละคนเหล่านี้ท่านย่อมแก้ไขได้ไม่ยากเลย

    ปฐมมารดานั้นท่านมีลำดับศักดิ์สูงกว่ามหาเทพและบูรพเทพทั้งหมดเแม้กระทั่งองค์หยวนสือเทียนจุน ด้วยท่านเป็นปฐมมารดาที่ประทานชีวิตแก่สรรพสิ่งทั้งปวง ซึ่งตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีของเทพบรรพกาลนั้นย่อมไม่อาจหยั่งวัดกับเทพในชั้นหลังได้ ท่านให้พ่ออาจารย์ปั้นรูปของท่านที่ถือเอาศิลาห้าสีไว้ในมือ(เพื่อจะอุดรอยรั่วของชีวิตคนได้ทันท่วงที) ซ้ำอีกมือหนึ่งยังชูแส้ปัดเสนียด(เหรียญนี้มีผลปัดและขับไล่เคราะห์กรรมทันที..อย่างแรง)ขึ้นมา ***พ่ออาจารย์ท่านพูดอยู่เสมอว่าการสร้างปฐมมารดาให้คนเข้าถึงได้อย่างแท้จริงนั้นต้องทำให้ดี เพราะมันกลืนอายุคนสร้างถ้าข้างบนเขาไม่สั่งแล้วไปทำแบบนี้คนทำรับรองอายุสั้นแน่นอน เมื่อทำออกมาสมบูรณ์ตามที่องค์ปฐมมารดาท่านให้สร้างพ่ออาจารย์ท่านก็นำมาเชิญองค์ปลุกเสกโดยให้องค์ปฐมมารดาท่านทำของท่านเองส่วนตัวท่านได้แต่กำหนดจิตตามดู พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้สว่างมาก จ้ามาก ท่านเน้นลงธาตุแสงเป็นแสงทิพย์ของท่านเลย(ชีวิตใครมามืดนี่ไปสว่างทางเดียวนะ สว่างมาก) อธิษฐานใช้ได้หมดเลยครอบคลุมทุกความมืดหรือปัญหาในชีวิต

    ....ด้วยองค์ปฐมมารดามีอำนาจเหนือเหล่าบุรพเทพทั้งปวท่านให้คุณให้โทษกับมนุษย์ได้ทุกสิ่ง แม้ในยุคโบราณสมัยราชวงศ์ซาง ฮ่องเต้โจ้วหวังไปนมัสการศาลเจ้าแม่หนี่วาตามราชประเพณีแต่ด้วยเป็นคนบ้าราคะเมื่อได้พบเทวรูปเจ้าแม่หนี่วาก็พอพระทัยรูปโฉมถึงกับชมว่า "งามเหนือสตรีใดในใต้หล้า หากข้ามีบุญวาสนานั้นไซร้จะรับท่านไปเป็นมเหสีครองเมือง" ด้วยคำดูหมิ่นเช่นนี้พระแม่หนี่วาจึงสาปแช่งในราชวงศ์ซางถึงกาลล่มสลายและยังบัญชาวิสุทธิเทพและบุรพเทพทั้งหลายลงไปจุติเพื่อเปิดฉากสงครามจนราชวงศ์ซางถึงกาลดับสูญ เช่นนั้นเมื่อจะบูชาพระองค์พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าให้พูดจากับท่านดีๆพูดด้วยความเคารพในสถานะของลูกที่มีต่อแม่คนหนึ่งชีวิตย่อมจะเจริญรุ่งเรืองปราศจากภัยพิบัติใดๆท่านให้คุณถึงขั้นนั้นทีเดียว เพราะท่านถือว่ามนุษย์เป็นลูกของท่าน หากลูกรักแม่และต้องการความช่วยเหลือจากแม่แล้วแม่ย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน

    วิธีบูชา
    หากอยากสำเร็จผลไว หรือมีรอยรั่วใดที่ต้องการอุดต้องการบอกกล่าวปฐมมารดาแบบชัดเจนพ่ออาจารย์ท่านว่า พระแม่ท่านให้จุดเทียนถวายท่านหน้าเหรียญหล่อนี้เท่าอายุของตนเองแล้วจะไหว้จะขอสิ่งใดล่วนสัมฤทธิ์ผลทั้งสิ้น(ช่วยได้ทุกเรื่องตามแต่อาราธนา) ### พ่ออาจารย์ท่านบอกเป็นเคลล็ดไว้ว่าจุดเทียนเท่าอายุชีวิตปัจจุบันสว่างไสวเปิดรับโชคสิบทิศ ถ้าจุดเทียนถวายเกินอายุชีวิตก็จะยิ่งสว่างไม่มืดบอดในกาลข้างหน้า จะจุดแบบไหนให้เลือกเอาถ้าเกินอายุนี่เกินแค่ครั้งละเล่มก็พอ(ตรงนี้ท่านว่าปีหนึ่งจุดครั้งหนึ่งก็ได้ หรือยามใดที่ชีวิตมืดมนไร้ทางออกค่อยจุดก็ได้)

    เหรียญปฐมมารดานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนาท่านแม่ไว้ไอ้ตัวเหตุที่จะพลิกชีวิตเราให้พิบัตินั้นเขากลืนไปหมดเลยพูดได้ว่าต่อไปนี้ไม่มีที่ต้องโหยหาความสุขด้านใดมาเติมเต็มทั้งสิ้น หุ่นนี้แม้พกไว้เฉยๆดวงก็พุ่งแรงด้วยสิริสวัสดิ์จะวิ่งเข้ามาหาเราเอง ***นี่แหละเมื่อได้ฝากชีวิตไว้กับปฐมมารดาแล้วแม้ตายไปเกิดชาติภพหน้าต่อไปอีก 3 ชาติ 7 ชาติก็ยังนับเป็นลูกท่านทั้งสิ้น

    ### รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้เปิดเผยเลยว่าใช้ชนวนมวลสารอะไรเพราะปฐมมารดาท่านว่าให้เก็บเอาไว้เป็นความลับ เพราะ
    ของดีไม่ต้องใช้โฆษณาอะไรต้องใช้เพียงวาสนาเท่านั้น หากไม่มีวาสนาร่วมกันก็ยากที่จะได้เกื้อกูลกัน เพื่อที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองโดยเทวานุภาพอันยิ่งใหญ่สูงสุดของปฐมมารดา ที่ภัยพิบัติจะเกิดจากวิกฤติการณ์ซึ่งทวีคูณซ้อนทับความรุนแรงไปเรื่อยๆท่านจึงให้นำเหรียญแสดงปาฏิหาริย์นี้ออกมาให้คนได้อาราธนา ท่านว่าในยุคสมัยของเราขณะนี้ก็เมื่อฟ้าดินเปิดโอกาสให้แล้ว(แม่ใหญ่หนี่วาท่านอนุญาติ) ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะเลือกอย่างไรด้วยวาสนาของคนเราแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกรรมเก่าแต่ที่มากกว่าเป็นเพราะกรรมในปัจจุบัน ตัวกรรมนี่แหละคือสิ่งที่เราตกลงใจที่จะทำหรือไม่ทำจะรับท่านรึไม่รับเท่านั้นมันจะบังตาเราไว้จนแสงสว่างใดๆก็ส่องเข้าไม่ถึง เช่นนั้นโอกาสใดๆย่อมไม่มีเพราะการเลือกที่จะรับแม่หรือไม่เป็นการเลือกว่าเราจะได้รับชีวิตใหม่ตอบแทนในท้ายที่สุดหรือไม่เช่นกัน

    คาถาบูชา
    นำมอเซียงยงไกผู่สัก

    ด้วยเป็นเทพบรรพกาลที่จริงท่านว่าคาถาไม่ต้องใช้ ให้ใจสื่อถึงท่านได้ก็ไม่มีอะไรจะเร็วและแรงที่สุดไปว่าใจเราที่นึกถึงพระองค์แล้ว ด้วยปฐมมารดาทรงเป็นผู้ให้กำเนิดและเป็นจักรพรรดินีแห่งโลกมนุษย์ที่คอยค้ำจุนอุ้มชูหล่อเลี้ยงคุ้มครองเลี้ยงดูสรรพชีวิตบนโลก(เอาใจเราฝากไว้กับท่านคาถาใดๆไม่ต้องใช้เลย)

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำให้จำเอาไว้ว่า "ลูกๆคนใดก็ดีที่ให้ความเคารพต่อปฐมมารดานั้น ท่านจะแบกรับภาระคอยค้ำจุนปัญหาทั้งปวงให้ ดุจมารดาผู้หล่อเลี้ยงอุ้มชูบุตร"


    *** พ่ออาจารย์ท่านว่ารายการนี้ถือเป็นของสำคัญที่ข้างบนท่านไม่ยอมเลย ไม่ยอมให้พูดให้บอกอะไรมากมายไปกว่านี้ ท่านว่าให้ใช้ใจสัมผัสกันเอาเองว่าปฐมมารดานั้นมีน้ำหนักในใจเราแค่ไหน ถ้าคำว่าแม่ยังไม่รู้สึกไม่มีความผูกพันธ์ลึกซึ้งก็ไม่ต้องเอาไป รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแสดงปาฏิหาริย์ภาคแม่ยกลูกแบกให้ถึงสวรรค์ (ปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา) บูชา 900 บาท

    103250162-259435275286771-4275610888154484098-n.jpg
    102402254-2989825487773267-6492756417097567195-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา องค์รับจิตกลั่นธาตุธรรมบรมจักรพรรดิจับบุญภาคผู้เลี้ยง(สะกดจักรพรรดิขันธ์มาร)

    พระองค์นี้วิชานี้....แม้องค์เดียวก็เลี้ยงคนได้ทั้งทวีป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าจักรพรรดิ(เทวดาอันมีศักดิ์ใหญ่)นั้นย่อมให้คุณกับมนุษย์ท่านจึงมีดำริจะสร้าง "องค์รับจิตสำเร็จแก้วบรมจักรพรรดิภาคผู้เลี้ยง" ตามโองการองค์ปฐมบรมครูซึ่งจะให้คุณสำเร็จบริบูรณ์ในทุกสิ่งอันปรารถนา ด้วยจักรพรรดินั้นเป็นใหญ่ในสมบัติทั้งปวง..ดั่งผู้คอยเลี้ยงดู...ต่อเติม..บำรุงรักษา..ให้วาสนาความสุขสมบูรณ์บริบูรณ์แก่ร่างกายมนุษย์ที่ท่านเป็นธุระอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแยกให้ออกนะเพราะจักรพรรดิเองก็มีหลายฝ่ายทั้งฝ่ายธรรม(พระ)และจักรพรรดิฝ่ายมาร ท่านว่าอย่างหลังนี่แหละจะคอยหาความทุข์ความเดือดร้อนมาให้ โดยปกติในตัวเราก็จะมีผู้เลี้ยงซึ่งเปรียบเสมือนพี่เลี้ยงคอยดูแลรักษาพิทักษ์กายมนุษย์อยู่แล้วจะอยู่ในธาตุธรรมของเรามีอำนาจหน้าที่สนับสนุนเราตามพฤติกรรม(สิ่งที่ทำ)ของตัวเราเรียกว่าเป็นจักรพรรดิภาคผู้เลี้ยงนี่เอง(แต่ต้องมาดูกันอีกทีว่าผู้เลี้ยงของเรานี่เป็นประเภทไหนเอาการเอางานหรือไม่) โดยจักรพรรดิก็มีอยู่ด้วยกันสามขั้นคือ ### จุลจักร,มหาจักร,บรมจักร ซึ่งแต่ละขั้นก็จะมีบริวารหลายแสนโกฏิหลายแสนอสงไขย โดยพวกจุลจักรพรรดิและเหล่าบริวารเค้าก็มีหน้าที่รักษากายมนุษย์ช่วงที่มีวาสนามาน้อย,มีของเก่าน้อย,มีบารมีต่ำ /// สูงขึ้นไปหน่อยก็ชั้นมหาจักรพรรดิพวกนี้กับบริวารเค้าก็จะดูแลกลุ่มคนที่พอมีของเก่าติดตัวมาบ้างมีชะตาอย่างกลางๆวาสนาบารมียังไม่สูงไม่เต็ม /// ส่วนจำพวกบรมจักรพรรดิกับบริวารนั้นจะเข้ารักษากายที่มีบุญเก่ามาก อดีตชาติสั่งสมบารมีมามากชนิดที่ว่ามีของเก่าติดตัวเหลือกินเหลือใช้ เรียกได้ว่าจะแฝงอยู่กับคนที่มีบารมีสูงนั่นเอง

    ด้วยปกตินั้นมนุษย์จะมีพี่เลี้ยงทั้งสามขั้น(จักรพรรดิภาคผู้เลี้ยง)พร้อมบริวารทั้งหลายคอยดูแลโดยจะสลับผลัดเปลี่ยนกันไปเป็นวาระเป็นครั้งคราว ช่วงไหนกุศลหนุนนำมากหน่อยบรมจักรพรรดิก็เข้ามาชีวิตในช่วงนั้นจะหวังอะไรก็ได้อย่างที่คิดทั้งสมบัติพัสถานความสุขใดๆในโลกล้วนบริบูรณ์ทุกประการ แต่คราวใดที่บุญเก่าเราทำมาน้อยพวกมหาจักรพรรดิก็จะเข้ามารักษากายเราแบบนี้สิ่งที่คิดที่ทำหรือความสุขที่เรามีเราได้มันก็เกิดแบบกลางๆไม่หวือหวาใจเต้นเหมือนบรมจักรพรรดิเข้ารักษา สุดท้ายเลยคือจุลจักรพรรดิถ้าวนมาถึงตรงนี้ความสุขบริบูรณ์ต่างๆก็จะลดลงเป็นลำดับขั้นบันไดไปเรื่อยๆ ...เช่นนี้องค์ปฐมท่านจึงดำริจะให้เชิญให้อาราธนาเหล่าทิพย์กายผู้มีอำนาจถึงขั้นบรมจักรพรรดิมารักษาธาตุขันธ์มนุษย์อยู่เป็นอาจิณเพื่อไม่เปิดช่องให้เหล่าจุลจักรและมหาจักรเวียนเข้ามาทำหน้าที่ของตน ซ้ำเมื่อเหล่าบรมจักรเข้ารักษาเขาไม่เพียงแต่จะบำรุงธาตุขันธ์เราให้สมบูณ์ถึงซึ่งความสุขทั้งปวงเช่นนั้นหากแต่จะบำรุงไปทั้งหมดรอบตัวเราแม้จิตเราเป็นมหากุศลมีกุศลจิตมากหากแผ่บุญแผ่บารมีออกไปท่านก็จะบำรุงไปทั้งโลก ***แต่เราต้องเจาะจงคนด้วยนะเพราะยุคสมัยนี้โลกยังไม่เข้าถึงยุคบรมจักรพรรดิรักษา(พ่ออาจารย์ท่านว่านึกถึงใครแผ่ให้ใครนี่ท่านเกื้อกูลหมดเลยนะพระแบบนี้นอกจากโปรดตัวเองแล้วถ้าเอาไปอธิษฐานแผ่วาสนากำลังบุญช่วยเหลือคนหรือจะโปรดภพภูมิต่างๆย่อมทำได้ทั้งสิ้น) นี่คือการที่เราดึงบรมจักรเข้ารักษาตัวเราโดยเฉพาะให้รุ่งเรืองขัดกับกระแสโลกด้วยเป็นยุคที่มหาจักรจุลจักรครองอยู่ความบริบูรณ์ของโลกก็จะด้อยลงไปตามลำดับ เช่นนั้นในยุคนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจำต้องสร้าง "องค์รับจิตสำเร็จแก้วบรมจักรพรรดิภาคผู้เลี้ยง" ขึ้นมา เพื่อให้อาราธนาสงเคราะห์เจาะจงเฉพาะคนไม่ขัดขวางกฏธรรมชาติ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากรักษาธาตุขันธ์มนุษย์แล้วจักรพรรดิทั้งสามขั้นยังรักษาโลกด้วย ต้องดูว่ายุคไหนใครรักษาโลกผลที่ได้ก็จะเป็นไปตามนั้น หากโลกปรากฏทรัพย์สมบัติทรัพย์สินหาได้ง่ายชนมีความสุขกันถ้วนทั่วนี่คือบรมจักร / ถ้าสุขบ้างทุกข์บ้างอย่างกลางๆปนๆกันนี่ก็พวกมหาจักร / แต่ถ้าทุกข์เกินกว่าสุขแต่ความเป็นอยู่อัตคัดขัดสนซึ่งก็ไม่ถึงกับไม่มีความสุขเลยนี่พวกจุลจักร ด้วยว่ามีหน้าที่หล่อเลี้ยงมนุษย์ทั้งแต่ละท่านยังมีบริวารมากมายหากมนุษย์มีวาสนาดีก็แล้วไป แต่หากมีใจเป็นอกุศลไปดึงเอามารเอาจักรพรรดิมารเข้าตัวชีวิตก็จะวนอยู่แต่ในห้วงทุกข์ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่แค่ทุกข์แต่พฤติกรรมยังข้องเสพย์แต่บาปอกุศลเขาจะปิดตาปิดใจดลจิตใจให้มีความเห็นผิด..คิดในสิ่งที่ผิด...ทำในสิ่งที่ผิด..รู้ในสิ่งที่ผิด..สุดท้ายจึงกลายเป็นใช้ชีวิตแบบผิดๆ ทั้งเวลาฝ่ายจักรพรรดิมารเข้าครอบงำเขาจะปิดกั้นกุศลและความดีของเราทั้งหมดเลย ท่านว่าคนบางคนมีของเก่ามากก็ตกหล่นได้ถ้าบรมจักรถอยออกแล้วมารเข้ามานี่แม้แต่เทวดายังตกฟ้าตกสวรรค์ได้เลยนับอะไรกับมนุษย์ ...เคยเห็นกันมั๊ยคนที่เค้าดีๆอยู่ เราก็รู้ว่าเขาดี แต่อยู่ดีๆกลายเป็นคนทุศีล..กลายเป็นพาลทุจริต..กลายเป็นคนหลงมัวเมาในกิเลสทั้งหลาย *** เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีผู้เลี้ยงก็ย่อมมีผู้ขัดขวาง เมื่อมีคนคอยหาช่องขวางแบบนี้เราก็ต้องปิดทางเขาซะเพื่อไม่ให้คุณแห่งบรมจักรพรรดิเคลื่อนไปจากตัวเรา..เพื่อให้เราคิดสิ่งใดทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จและเพื่อให้โลกนี้ให้คุณกับเราอย่างถึงที่สุด

    ซึ่งองค์รับจิตกลั่นธาตุธรรมบรมจักรพรรดิภาคผู้เลี้ยงนี้ เป็นวิชาขององค์ปฐมบรมครูที่จะช่วยปิดทางผู้ขัดขวางภาคมารทั้งหลายเปิดทางให้กุศลธรรมและกำลังแห่งเหล่าบรมจักรพรรดิสงเคราะห์เราตลอดทุกทิวาราตรีกาล ให้ชีวิตบริบูรณ์ไปด้วยความสุขทางโลกและความสำเร็จแห่งกิจที่ทำถ้วนทุกประการ ### ท่านว่าปรารถนาสิ่งใดทรัพย์สมบัติอะไร(บอกพ่อบรมจักรพรรดิท่าน) ทุกสิ่งเลยเธอเอ๋ยไม่มีเว้นเหมือนมันมีวิญญาณมีเท้าเดินเข้ามาหาเราเอง เพราะนี่คือกายที่บรมจักรพรรดิเลือกและบรมจักรพรรดิให้คุณอยู่ เราใช้บารมีบรมจักรพรรดิเรียกได้ทั้งสิ้น ...พ่ออาจารย์ท่านยังพูดติดตลกว่าเรียกแค่นี้ยังน้อยไปถ้ามันวิ่งได้มันก็วิ่งเข้ามาแล้ว ด้วยบรมจักรพรรดิที่เข้าหล่อเลี้ยงเรานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจำเอาไว้ให้ดีนะถ้าเราเลือกท่านความมั่งคั่งสมบูรณ์ความบริบูรณ์ในชีวิตย่อมไม่หนีไปไหนเลย..เธอจะมีทุกสิ่งได้โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนใครซักผู้เดียว ทั้งกำลังของท่านยังจะชำระจิต..ความคิด...ความรู้ของเธอให้ผ่องใสไม่มัวหมอง แบบที่เรียกว่าคนเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยนสิ่งต่างโดยรอบย่อมเปลี่ยนแปลงดีขึ้นไปทั้งหมดจะนำชีวิตเธอไปสู่ความสุขความเจริญอยู่ฝ่ายเดียวมีแต่ดีกับดีมีแต่ได้กับได้(เพราะเราปิดประตูผู้ขัดขวางไปเรียบร้อยแล้วต่อไปฝ่ายมารผู้ขัดแข้งขัดขาพวกนี้จะไม่เข้ามายุ่งอีก) เพราะถ้าบรมจักรพรรดิฝ่ายกุศลธรรมยังอยู่ยังครองธาตุขันธ์เราเช่นนี้จะฝ่ายมารรึจุลจักรมหาจักรใดๆย่อมต้องถอยไปทั้งสิ้น ท่านมีหน้าที่ชำระมารชำระธาตุขันธ์เราโดยตรงทำให้เราผ่องใสจากภายใน...เมื่อบรมจักรพรรดิอยู่นอกจากจะเจริญทางเดียว(มีแต่ต้องเจริญเท่านั้นไม่มีตัวเลือกอื่น)ท่านจะให้คุณที่เป็นประโยชน์เป็นความสุขกับเราอย่างถึงที่สุดไม่ให้ชีวิตเราเจอภัยเบียดเบียนหรือมีความทุกข์ร้อนใดๆซักอย่างเดียวในระหว่างที่บรมจักรพรรดินั้นประทับรักษาเราอยู่

    วิชารับจิตกลั่นธาตุธรรมบรมจักรพรรดิภาคผู้เลี้ยง พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำมาทำพระผงจะเรียกได้ว่าเป็นของสูงหรือเครื่องสูงด้วยมีไว้รองรับผู้มีบุญญาธิการเท่านั้น...นั่นคือผู้ได้ครอบครองย่อมกลายเป็นผู้มีบุญญาบารมีตามวาสนาแห่งจิตองค์บรมจักรพรรดิ พระผงนี้เมื่อเราอาราธนาขึ้นคอบูชาท่านจะไปประทับอยู่ในกายของเราเรียกว่าคอยดูแลเราทั้งระบบตั้งแต่กายหยาบจนถึงกายละเอียดทีเดียวด้วยจะเปิดวาสนาเราเชื่อมกับองค์ต้นธาตุต้นธรรม พอเรารับท่านไปประทับในกายเราเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าบรมจักรท่านมีอำนาจมากทั้งเป็นใหญ่เหนือทรัพย์เหนือสมบัติทางโลกทั้งปวงสิ่งดีๆท่านก็จะดึงเข้าสู่ตัวเราตั้งแต่ปัจจัยสี่ขาดตกบกพร่องอะไร สิ่งอำนวยความสุขความสะดวกของนายคนนี้มีอะไรบ้าง..สมบัติทั้งหลายทุกอย่างพอกพูนถึงขั้นบริบูรณ์และสมบูรณ์ทั้งสิ้น(พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอเคยเห็นบรมจักรพรรดิที่ไหนขาดแคลนสมบัติรึไม่เล่า) นี่คือบรมจักรพรรดิประทับกับตัวเราแต่ถ้าเราจะแผ่กุศลอาราธนาบารมีท่านโปรดคนอื่นโปรดคนในครอบครัวเช่นนี้ก็ทำได้เช่นกันเพื่อให้เขาทั้งหลายได้รับความสุขบริบูรณ์ในโภคทรัพย์เรียกว่ามีอำนาจแห่งบรมจักรพรรดิซึ่งเป็นผู้ปกครองทั้งสามภพ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์นี้วิชานี้..แม้องค์เดียวก็เลี้ยงคนได้ทั้งทวีป

    คนที่เจอชะตากรรมวิบัติ..สิ่งที่ให้คุณเปลี่ยนแปลงเป็นให้โทษ
    คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด...วงจรชีวิตหมุนสู่จุดเลวร้ายที่สุด
    คนที่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค...เขาสูงเราต่ำ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเหล่านี้
    ชีวิตเขาตกอยู่ในห่วงบงการแห่งจุลจักรพรรดิ จะหยิบจับทำอะไรที่ควรเป็นคุณก็กลายเป็นโทษเสียหมด ชีวิตเดินๆหมุนวนอยู่แต่เรื่องบัดซบก้าวขาไม่พ้นปัญหา..เหล่านี้ก็เพราะจุลจักรพรรดิเขามีอำนาจน้อยที่สุดพอเข้ามากุมวาสนาบารมีเราความเหลื่อมล้ำกับคนอื่นยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเปลี่ยนประโยชน์กลายเป็นโทษทำให้เราโดนเอารัดเอเปรียบบ้าง..ถูกคดโกงบ้าง..มีชีวิตที่ต้องดิ้นรน..ต้องแย่งชิงความสุขจากคนอื่น เช่นนี้จึงเป็นที่มาแห่งความเดือดร้อนทั้งปวง ยิ่งถ้าจักรพรรดิไปจับเอาผลกรรมชั่วของเรามาหล่อเลี้ยงตัวเราด้วยแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นยิ่งวิบัติหนักขึ้นไปอีกเธอจะเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในขุมนรกที่รุ่มร้อนได้รับทุกข์เวทนาไม่คลายลงเลยก็ว่าได้เพราะจักรพรรดิที่ดูแลเรานั้นไปเพาะเลี้ยงผลกรรมที่สนองคืนแก่ตัวเราความทุกข์ความเดือดร้อนไม่รู้จบย่อมหนีไม่พ้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจักรพรรดิไปจับเอาวิบากกรรมมาดูแลหล่อเลี้ยงเราแล้วชีวิตนั้นไม่ต่างจากตกนรกเลยไฟนรกที่ว่าร้อนเท่าไหร่เหตุการณ์ในชีวิตเธอก็จะวุ่นวายมากเท่านั้น ..เช่นนั้นวิชารับจิตกลั่นธาตุธรรมบรมจักรพรรดิจึงว่าด้วยการที่บรมจักรกำกับกุศลมูล *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราทำบุญทำกุศลให้นึกถึงองค์บรมจักรของเรา พอเรานึกปุ๊ปท่านจับทั้งหมดทันทีนะ กุศลต่างๆที่เราทำเมตตาใดๆที่เราแผ่ท่านจับหมดแล้ว นี่เป็นกุศลฝ่ายดีที่หนุนนำชีวิตเราได้ต่อเนื่องไม่มีจุดพักจุดจบใดๆ..คนที่บอกว่าของเก่าฉันทำมาน้อยของเก่าฉันไม่พอ..ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเก่าจะใหม่ท่านไม่ใส่ใจเลยเพราะท่านจับเฉพาะกุศลมาหล่อเลี้ยงธาตุขันธ์ร่างกายเราเท่านั้นปิดกั้นการจับอกุศลเวรกรรมใดๆขึ้นมาชักนำเราตกต่ำทั้งสิ้น ด้วยว่าบรมจักรพรรดินั้นให้ผลใหญ่มากบางคนบรมจักรพรรดิเข้ามาแต่คราเคราะห์ดันไปจับอกุศลหล่อเลี้ยงชีวิตก็วิบัติแบบไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ...เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าวิชานี้สำคัญมากนอกจากจะประทับทิพย์กายระดับบรมจักรพรรดิให้ดูแลเราตลอดไปแล้ว ยังต้องให้ท่านสงเคราะห์...จับแต่บุญ..จับเฉพาะบุญมาหล่อเลี้ยงเราเท่านั้น ตลอดไปอีกด้วย

    พระผงรุ่นสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้กายสิทธิ์ธาตุที่ท่านรวบรวมมาทั้งชีวิตพลีบดเป็นมวลสาร และนำเข้ากับผงพุทธคุณต่างๆตามตำรับพิชัยสงครามที่ท่านลบผงเก็บเอาไว้(ท่านว่าไม่ใช่แค่ยันต์จักรพรรดินะแต่มีมากกว่า 108 พระยันต์เสียอีก) เมื่อได้ผงสำคัญทั้งหมดก็นำมาบดนำมาร่อน..ร่อนแล้วบดใหม่อยู่เช่นนั้นผสมกันแล้วจึงนวดเข้ากับน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในถ้ำอันมีเทพรักษา ก่อนจะปั้นเป็นแท่งชอล์คตากแห้งไว้เพื่อทำการลบ"ผงบรมจักรพรรดิจับบุญ"ต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดสั้นๆเหมือนทำง่ายๆแต่เอาเข้าจริงๆแล้วทำอยู่ครึ่งปีจึงสำเร็จ เมื่อเสร็จแล้วองค์ปฐมท่านให้ฉันแกะบล๊อคเป็นบรมจักรพรรดิแหวกม่าน *** โดยที่ในมือนั้นอุ้มกายสังขารของผู้บูชาอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการรับเราไว้ในสงเคราะห์อย่างชัดเจนที่สุด..ยกบุญ..ยกตัว โดยพระผงรุ่นนี้นั้นด้านหลังท่านกำชับให้ฝังของวิเศษสำคัญสองชนิด
    - หุ่นไฟลวกมือบรมจักรพรรดิล้มลุก พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นนี้องค์ปฐมท่านให้ฉันปั้นเป็นรูปองค์พระพิมพ์ล้มลุก ท่านว่ารูปองค์พระนี้ใช้แทนกำลังฝ่ายกุศลกรรมทั้งปวง ปิดทางอบาย ปิดทางโรคเวรโรคกรรมอันจะก่อให้เกิดทุกข์เวทนาทั้งหลาย เป็นหุ่นแทนกำลังบรมจักรพรรดิโดยท่านเน้นให้ทำพิมพ์ล้มลุกเพราะคนที่ล้มไปจะได้ใช้กำลังบรมจักรพรรดินี้ลุกขึ้นมาได้ พ่ออจารย์ท่านว่าผงวิเศษที่ใช้ปั้นหุ่นนี้เป็นสูตรวิชาของเสด็จพระใหญ่ท่านโดยเฉพาะ ท่านให้ฉันลบแต่ไม่ให้ฉันพูดออกไป ผงนี้มีกำลังแรงมากดุจกำลังวาสนาบรมจักรที่จะลงมาสงเคราะห์ชะตาผู้คน พ่ออาจารย์ท่านว่าลบเสร็จต้องเอามาเสกเชิญพระในนิพพานท่านมาทำผงให้จนเสร็จดี... พอจับๆเอามาจะปั้นเท่านั้นแหละร้อนอย่างกับไฟลวกมือ พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งชื่อหุ่นนี้ว่าหุ่นไฟลวกมือ นั่นคือหุ่นที่สร้างจากผงวิเศษล้วนๆ เป็นผงที่แก่กล้าอิทธิคุณมากที่สุด เป็นผงที่ครูท่านเมตตาทำและเสกให้อย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงนี้ก็ริดรอนเคราะห์กรรมได้ส่วนหนึ่งแต่พอเอามาปั้นหุ่นและเสกเต็มวิชายิ่งทวีอานุภาพมากขึ้นไปอีก
    - ลูกสะกดจักรพรรดิขันธ์มาร ลูกอมสีดำๆนี้ท่านลบผงวิชาชุดสะกดขันธ์มารเอามาปั้นไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้องค์ปฐมท่านสั่งให้ใช้คู่กันกับหุ่นบรมจักร..ด้วยว่าจะได้สะกดจักรพรรดิฝ่ายมารทั้งปวงไม่ให้กำเริบขึ้นมาได้อีก ทั้งยังสะกดอกุศลกรรมในธาตุขันธ์ทั้งหลายของเราไม่ให้บรมจักรท่านจับขึ้นมาหล่อเลี้ยงสังขารเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เมื่อไม่มีลมจะมากระพือไฟ...ไฟนั้นย่อมไม่ลุกลาม ### ลูกสะกดนี้จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของมีค่าเสียยิ่งกว่าทองยิ่งกว่าเพชรเพราะปิดกั้นการกลัั่นแกล้งกรารังแกขัดแข้งขัดขาของฝ่ายมารได้ทั้งหมดด้วยเป็นการปิดเหตุแห่งเคราะห์..เหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงอันต่อเนื่องมาจากภพชาติที่เป็นอนันต์ของตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงสะกดไว้ไม่ให้กำเริบแต่มันก็ยังมีอยู่ของมัน มีอยู่ที่เดิมเช่นนั้น ...ที่สะกดไว้นี่เพราะองค์ปฐมท่านต้องการเปิดโอกาสให้รับบุญรับกุศลกันได้มากที่สุด ให้มีโอกาสได้สร้างบุญชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในภพชาติก่อนๆ ท่านว่าจะได้มีสุคติเป็นที่ไปเป็นของสำหรับคนที่ยังไม่หมดความหวัง..คนที่ยังต้องการโอกาส

    ### มารไม่อยากให้สร้างพระ
    พระพิมพ์สำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอะไรๆก็ดีไปเสียทั้งหมด มีไม่ดีอยู่อย่างเดียวนั่นคือเรากดออกมาได้แบบนี้ กดออกมาไม่สวยเลย จริงๆแล้วท่านเล่าว่าเป็นพิมพ์ที่มีอาถรรพ์มากที่สุดตั้งแต่สร้างพระมาเลยก็ว่าได้เพราะตอนแรกท่านตั้งใจทำเป็นเหรียญหล่อแล้วนำมาอุดผงแต่ปั้นและหล่อยู่สองครั้งสองหนหล่อได้องค์สวยมาหนึ่งองค์ที่เหลือบล๊อกแตกทั้งสิ้น แตกเดี๋ยวนั้นเลย (ก่อนจะแตกองค์ปฐมท่านยังเข้าฝันฉันเลยว่าพรุ่งนี้หล่อพระบล๊อกจะแตกแล้วก็แตกจริงๆ) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้เพราะเป็นพระที่เทพฝ่ายมารเขาไม่อยากให้เราสร้างได้สำเร็จมากที่สุดจึงลงมือก่อกวนไปทุกอย่างนี่ขนาดขอท้าวมาลัยท่านให้คุมแล้วก็ยังมีมารเกเรมากวนทุกครั้งถ้าเราไม่ขอเห็นว่าบล๊อคคงระเบิด... จนองค์ปฐมท่านบอกให้เราทำเป็นพระพิมพ์เสีย พอทำออกมาจริงๆเขาก็แกล้งให้รูปลักษณ์ผิดเพี้ยนไปเพราะไม่ต้องการให้คนรู้สึกอยากได้อยากครอบครองอีก เรียกว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อยากให้เกิดนี่แหละพระรุ่นนี้จึงทำอย่างไรก็ไม่มีวันสวย เป็นพระรุ่นเดียวที่ฉันกล้าพูดได้เลยว่าไม่สวยมากที่สุดแต่ใช้ดี..ใช้ได้และแรงมากที่สุด เพราะเป็นเครื่องมงคลที่มีอำนาจต่อต้านฝ่ายมารได้ชัดเจนเช่นนี้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นของคู่ชีวิตผู้รับไปอาราธนา
    *** แต่ก็นั่นแหละถ้าใช้แค่ตาดูฉันเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากได้เพราะองค์พระนั้นไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดใดๆเลยตามที่ฝ่ายมารเขาต้องการให้เป็นไปเพราะเขาไม่อยากให้มนุษย์พ้นจากอำนาจของเขา ด้วยว่าถ้าบรมจักรท่านประทับลงที่ใดฝ่ายมารจะหมดบทบาททันทีทั้งยังสวมรอยรึแทรกแซงเข้ามาไม่ได้จนกว่าบรมจักรนั้นจะถอนออกไป

    พระผงรุ่นนี้มีอานิสงค์ใหญ่...ด้วยเมื่อเราประกอบกุศลทำบุญใดๆบรมจักรท่านย่อมเก็บเหตุแห่งกุศลนั้นถ่ายทอดเข้าสู่ธาตุธรรมของเราโดยตรง เป็นการปรุงแต่งให้กุศลที่เราสร้างสนองคืนแก่เรา(เป็นผลของกุศลกรรมแบบทันตาเห็น)และเจริญในจิตใจลึกไปจนถึงวิญญาณ เปลี่ยนให้ชีวิตเราสุขมากขึ้นมีความเป็นอยู่สบายมากขึ้น ด้วยบรมจักรนั้นหากเราอาราธนาให้สถิตย์อยู่กับตัวแล้วจะเป็นสิริมงคลยิ่งเพราะท่านกลั่นธาตุกลั่นธรรมได้ *** ไม่ว่าเครื่องมงคลใดๆพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมทำไม่ได้เลย มีแต่จักรพรรดิภาคผู้เลี้ยงเท่านั้นที่คอยกลั่นธาตุกลั่นธรรมให้แก่เราได้พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ฉันพูดไม่ได้มากนอกจากบอกได้แค่มันเป็นผลใหญ่สืบเนื่องกันไปเป็นขั้นๆตั้งแต่บารมี,อุปบารมี,ปรมัตถะบารมี,ไปจนถึงเข้านิพพานนั่นทีเดียว บรมจักรท่านจะกลั่นธาตุกลั่นธรรมที่เราทำภายนอกนี้เข้าสู่ภายในจุดที่ลึกที่สุดเรียกว่าส่งเข้าผลักดันให้สัมพันธ์กับกายเนื้อเชื่อมต่อบุญกุศลระหว่างกายหยาบและกายละเอียดพ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งรับส่งมากขึ้นบารมีเราก็จะแก่กล้ามากขึ้น มีผลให้เราเจริญในมนุษย์สมบัติ,สวรรค์สมบัติ,นิพพานสมบัติ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะสำเร็จไปทีละสิ่งเริ่มจากสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ พอสิ้นบุญไปธรรมที่มีในจิตในวิญญาณก็จะนำมาซึ่งสวรรค์สมบัติแบบนี้สั่งสมบารมีไปทีละขั้นจนเต็มนั่นคือถึงซึ่งนิพพานสมบัติ

    คาถาบูชา
    วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ### เริ่มต้นด้วยกายสิทธิ์ จบที่กายทิพย์บรมจักรพรรดิ ..ทุกสิ่งไม่ต้องใช้คาถาใดๆเลยนอกจากบอกกล่าวเจตน์จำนงค์และความประสงค์ของเรา

    *** พระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเรารับคำเหล่าจักรพรรดิฝ่ายมารเขาไว้ไม่ให้บอกไม่ไห้พุดอะไรเยอะ เพราะเขากลัวว่าอำนาจแห่งมารจะไม่สามารถบงการชีวิตคนได้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำได้แค่บอกคร่าวๆที่เหลือก็แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไรจะมีวาสนามีสายสัมพันธ์กับบรมจักรหรือไม่แบบนี้ดีกว่า... รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง ### แล้วจะบอกนามแห่งบรมจักรพรรดิผู้รักษาตัวเฉพาะผู้ครอบครองเท่านั้น(ท่านว่าแต่ละคนก็บรมจักรแต่ละองค์ขึ้นอยู่กับว่าท่านใดจะเข้าประทับรักษาตามวาสนาบารมี) เพื่อให้ง่ายต่อการอธิษฐานและพูดคุยสื่อสารบอกกล่าวสิ่งใดๆต่อกันและกัน รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา องค์รับจิตกลั่นธาตุธรรมบรมจักรพรรดิจับบุญภาคผู้เลี้ยง(สะกดจักรพรรดิขันธ์มาร) บูชา 4,000 บาท


    103443248-740815233391727-807489059836999899-n.jpg 103084745-193389265246031-3292362418779244873-n.jpg
    103178517-630177284521198-3972274838925256445-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเหนือคาดท้าวธตรฐโฐจตุมหาโลกา(ฝังตะกรุดบัญชาโสฬสมหาภูต)

    หากกล่าวถึงท้าวธตรฐย่อมนึกกันออกว่าท่านเป็นจอมเทพจตุโลกบาลที่ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงซักเท่าไหร่ ด้วยเมื่อถึงท้าวจตุโลกบาลคนส่วนใหญ่จะไปพูดถึงท้าวเวสสุวรรณกันมากกว่าซึ่งท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่พระองค์ประกอบไปด้วย
    - ท้าวธตรฐ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก มีรูปร่างสูงโปร่งและสูงใหญ่กว่าทุกๆพระองค์ในท้าวทั้งสี่ปกครองเหล่าคนธรรพ์เป็นบริวาร
    - ท้าววิรุฬหก ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ มีรูปร่างอ้วนใหญ่ดวงตาใหญ่ปกครองเหล่าเทพอสูรเป็นบริวาร
    - ท้าววิรูปักษ์ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันตก มีรูปกายรูปร่างสมส่วนงดงามใบหน้าสีแดงทรงมงกุฎประดับด้วยรูปนาค ปกครองนาคทุกตระกูลเป็นบริวาร
    - ท้าวกุเวร (ท้าวเวสสุวัณ) ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ เป็นหัวหน้าหรือเป็นอธิบดีแห่งอยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผีมีพวกยักษ์เป็นบริวาร

    ...อันท้าวธตรฐเป็นหนึ่งในสี่จตุมหาราช เป็นเทพเจ้าแห่งคนธรรพ์ผู้ปกครองปุริมทิศหรือทิศตะวันออก,ฤดูร้อน,ธาตุไฟ..ทรงพิณเป็นสัญลักษณ์ปกครองเหล่าคนธรรพ์และวิทยาธรรวมถึงนางไม้นางอัปสรทั้งหลาย ตามคติพุทธถือจักรหมายถึงพระเดชและยังเป็นนัยยะแห่งการบันดาลฟ้าฝาเนื่องจากเหล่าอากาสเทวดาก็อยุ่ใต้การปกครองของท่าน ไทยเรานิยมขอพรเรื่องฝนฟ้าอากาศ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับลมฟ้าอากาศทั้งปวง ตามคติพราหมณ์-ตันตระ บูชาเพื่อขอความสนุกสนานรื่นเริงในชีวิต
    ด้วยตำแหน่งจตุมหาราชเป็นตำแหน่งที่ถูกตั้งโดยพระอินทร์ ซึ่งท้าวธตรฐนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นใหญ่แก่เทพยดาฝ่ายตะวันออกทั้งปวงไปจนถึงกำแพงจักรวาลนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าองค์ท้าวธตรฐนี้มีวรกาย(สีผิว)เป็นเงินยวง แต่เหนือสิ่งอื่นใดในศักดิ์ของท้าวจตุโลกบาลก็คือท่านมีอาวุโสสูงสุดในหมู่จอมเทพจตุโลกบาล เรียกว่ายืนหนึ่งขึ้นมาเลยการมีอาวุโสสูงสุดนี่เองทำให้มีวุฒิภาวะแห่งความเป็นทิพย์ของเทวะเหนือกว่าท้าวจตุมหาราชองค์ใดๆ ทั้งอายุ,วรรณะ,สุข,ยศ,อธิบดี,รูป,เสียง,กลิ่น,รส,สัมผัสทิพย์...ด้วยอาวุโสสูงสุดนี่เองจึงเป็นที่เคารพในหมู่ท้าวทั้งสี่ ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในหมู่คนมียศเสมอกันแต่คนที่มีบารมีมากกว่าย่อมเป็นผู้นำเสมอทั้งเป็นที่เคารพยำเกรงในหมู่บริษัทด้วยกัน
    ด้วยความที่ภูมิธรรมของท้าวธตรฐนั้นสูงถึงขั้นพระอนาคามี ### เทียบเท่าปัญจะสุทธาวาสมหาพรหมแต่กลับมารั้งตำแหน่งจตุโลกบาล(คือท่านสามารถวางภาระตรงนี้แล้วเข้าสู่ปัญจะสุทธาวาสรอเข้านิพพานในชั้นมหาพรหมนั้นได้ทันทีเลย) จึงทำให้ท่านมีอำนาจความเป็นทิพย์ทั้งปวงเหนือท้าวทั้งสี่ที่มีภูมิโสดาปัตติผล พ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวธตรฐนี้ทั้งภูมิธรรม..ความเป็นทิพย์..บารมี..กำลังฤทธิ์นั้นย่อมเสมอด้วยท้าวมหาพรหมทีเดียวนี่คือสิ่งที่ไม่มีใครรู้กันมาก และถึงรู้ก็ไม่พูดไม่บอกกัน
    ตำแหน่งของท้าวธตรฐนั้นมีความพิเศษเรียกว่าเป็นตำแหน่งเวียนเหมือนพระอินทร์และจตุโลกบาลนี่แหละ หากแต่ท้าวธตรฐองค์นี้อยู่มานาน...ท่านขึ้นมาเป็นตั้งแต่ยังไม่มีศาสนาเรียกว่าท่านรั้งอยู่ก่อนยุคพระพุทธเจ้าเสียอีก พอมีศาสนาแล้วก็ได้ฟังธรรมได้ปรับภูมิธรรมของตนไปตามลำดับจนมาสุดที่อนาคามีในระหว่างนั้นตำแหน่งจตุโลกบาลองค์อื่นก็หมุนเวียนเปลี่ยนสลับกันไป นี่คือเหตุที่ทำให้ท่านมีความเป็นทิพย์ทั้งอายุและกำลังฤทธิ์ประเสริฐสุดในหมู่ท้าวจตุโลกบาลเรียกได้ว่าอยู่มานานกว่าคนอื่นและพัฒนาได้ไวกว่าผู้อื่น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องอำนาจขององค์ธตรฐนี้นับว่าน่าสนใจเพราะหยิบมาพูดคุยกันได้เป็นวันๆ เราต้องรู้กันก่อนว่ามนุษย์เรานี้อยู่ในทวีปที่มีชื่อว่าชมพูทวีปใช่มั๊ย ซึ่งทวีปที่มีมนุษย์อาศัยอยู่จะประกอบไปด้วยอุตรกุรุทวีป,บูรพวิเทหะทวีป,อมรโคยานทวีป,ชมพูทวีป ...พวกเธอเคยรู้กันมั๊ยว่าท้าวธตรฐนั้นท่านเป็น"จอมภพ"ด้วยนะไม่ใช่เป็นแค่จตุมหาราช แต่ท่านยังเป็นจ้าวในหมู่มนุษย์ด้วยพูดง่ายๆคือภพซ้อนภพภูมิซ้อนภูมินี่แหละ ท่านต่างกับท้าวจตุมหาราชองค์อื่นๆเพราะท่านเป็นจ้าวแห่งบูรพวิเทหะทวีปซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่อันมนุษย์แต่ละคนนั้นมีอายุขัยได้ถึง 700 ปี ตำแหน่งปกครองของท้าวธตรฐนั้นทับซ้อนกับพื้นที่บุรพวิเทหะทวีปแบบนี้ท่านจึงมีฐานะเป็น"จอมคน"ต่างจากจตุโลกบาลทั้งหลายโดยสิ้นเชิง....

    ด้วยเป็นมหาราชที่ทรงบุญญานุภาพมากมีรัศมีแผ่ไปได้ไพศาลรอบทิศ ทั้งยังมีเทพอันมีกำลังมาก,มีบุญญานุภาพมาก,มีรัศมีกว้างไกลมาก,มียศใหญ่มากมาอุบัติเป็นบุตรเป็นบริวารจำนวนมากมิได้ขาด ด้วยการปกครองของท่านยังผลให้เทวดาทั้งหลายได้รับความสุขสำราญทุกวันคืน แต่เราจะได้ยินกันบ่อยว่าพระองค์ท่านนั้นปกครองหมู่คนธรรพ์ซึ่งเป็นเทวดาจำพวกหนึ่ง มีความถนัดในการดนตรีศิลปะระบำรำฟ้อนและชำนาญในเพลงขับเป็นยิ่งนัก ยกตัวอย่างคนธรรพ์ในปกครองที่มีชื่อเสียงมากๆในหมู่เทวดา(พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนดาราใหญ่ในสวรรค์)เช่นคนธรรพ์ปัญจสิขรที่มีฝีมือในการดีดพิณเป็นเลิศแต่งเพลงและขับเพลงเก่ง(ซึ่งองค์นี้พระอินทร์โปรดปรานมากขนาดรับเป็นลูกเลี้ยง),คนธรรพ์เทพบุตรซึ่งมีนามว่าสุธรรมาชำนาญในการตีกลองประจำตัวอันมีชื่อว่าสุรันธะ,คนธรรพ์เทพบุตรซึ่งมีนามว่าพิมพสุรกะชำนาญในการตีกลองหน้าเดียว..เมื่อสุธรรมาและพิมพสุรกะตีกลองด้วยเพลงคนธรรพ์ย่อมปรากฏความไพเราะเสนาะโสตเหล่าเทพยดานักหนา ไม่ว่าจะมีเทวสันนิบาตการประชุมเพื่อความสนุกสนานเบิกบานของเหล่าเทพทั้งหลายในที่ใดย่อมจะมีฝูงคนธรรพ์ทั้งหลายไปแสดงการรื่นเริงด้วยเสมอ โดยทำหน้าที่ขับกล่อมจับระบำรำฟ้อนให้ปวงเทพได้รับความสราญชื่นบานในการดนตรีบางทีก็มีเทพนารีเข้าร่วมด้วย...แม้แต่องค์พระอินทร์เจ้าจอมเทพก็ยังมีพระทัยโปรดปรานตรัสสั่งให้หมู่คนธรรพ์ไปร่วมงานเทวสันนิบาตเช่นนี้เสมอมิขาดสักคราเลย

    โองการแต่งตั้งภูมิเทวดา(รักษาแผ่นดิน)

    *** ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นด้วยท้าวธตรฐมีหน้าที่กว้างใหญ่เพราะต้องดูแลสวรรค์ที่ซ้อนภูมิกับโลกมนุษย์แถมยังมีอาณาเขตบางส่วนซ้อนทับกับบุรพวิเทหะทวีป เช่นนั้นท้าวทั้งสี่จึงให้องค์ธตรฐเป็นใหญ่คอยปกครองเทวดาซึ่งมีหน้าที่รักษาเขตต่างๆของโลกมนุษย์ตั้งแต่เทวดาหลักเมืองไปยันพระภูมิ...รวมถึงเจ้าที่ ตรงไหนจะให้ใครไปดูแลนี่ท่านต้องกำกับทั้งหมด ### เทวดาไหนเกเรเจ้าที่ไหนคนไม่ทำงานก็ต้องเปลี่ยน(พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้าที่เจ้าทางถ้าไม่ให้คุณกับผู้อยู่อาศัยนี่เรียกว่าไม่ทำงาน คนไม่ทำงานเราไม่เก็บไว้ถ้าเราบอกองค์ธตรฐท่านจะเป็นธุระหาแบบที่เอาการเอางานเปลี่ยนให้หมดเลย***เป็นเรื่องของโลกทิพย์เขา) เทวดาต่างๆที่ลงมาอยู่ในโลกมนุษย์ตามหน้าที่นั้นไม่ว่าจะมีรูปร่างลักษณะอย่างไรก็เป็นไปโดยภาระหน้าที่ของเขา องค์ธตรฐก็จะมีบริวารคอยดูแลเป็นลำดับขั้นขึ้นไปแบ่งหน้าที่แบ่งเขตปกครองกันแยกย่อยออกมาแต่ต้องขึ้นตรงกับท้าวเธอทั้งหมดเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรวม พ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวธตรฐนี่เป็นเจ้าที่ใหญ่ของโลกให้คิดง่ายๆแค่นี้เพื่อความเป็นไปเพื่อความสงบสุขของมนุษย์จะเทวดารักษาเมืองรักษาป่าเขาแหล่งน้ำถ้ำพระคูหาหรือแม้แต่บ้านเรือนก็ดีจะให้ดีให้ร้ายย่อมขึ้นอยู่กับท่าน ...ด้วยท่านมีหน้าที่ส่งเสริมความสุขแก่มนุษย์ เหล่าอากาสเทวาภูมิเทวาที่ท่านจะส่งลงมาดูแลโลกหรือทำหน้าที่ต่างๆนั้นแบ่งได้หลายกลุ่ม เช่น
    - ปัพพัฏฐเทวดา เทวดาที่อาศัยภูเขาอยู่
    - อากาสัฏฐเทวดา เทวดาที่อาศัยอยู่ในอากาศ
    - ขิฑฑาปโทสิกเทวดา เทวดาที่มีความเพลิดเพลินในการเล่นกีฬาจนลืมบริโภคอาหารแล้วตาย
    - มโนปโทสิกเทวดา เทวดาที่ตายเพราะความโกรธ
    - สีตวลาหกเทวดา เทวดาที่ทำให้อากาศเย็นเกิดขึ้น
    - อุณหวลาหกเทวดา เทวดาที่ทำให้อากาศร้อนเกิดขึ้น
    - จันทิมเทวปุตตเทวดา เทวดาที่อาศัยอยู่ในโลกพระจันทร์
    - สุริยเทวปุตตเทวดา เทวดาที่อาศัยอยู่ในโลกพระอาทิตย์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเจ้าที่เจ้าทางพระภูมิเหล่านี้ถือว่าสำคัญมาก ถ้าได้เทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่ลงไปปกครองไปเกื้อกูลเรามันก็ต่างกับเทวดาภูมิต่ำหรือผีบ้านผีเรือนทั้งหลาย เพราะพวกศักดิ์สูงนี้เขามีบุญมากมีรัศมีแผ่ไปได้ไกลมากและก็มีความเป็นทิพย์มากกว่า...มีบารมีทางทรัพย์สมบัติเช่นนี้พอได้เทวดาแบบนี้ชีวิตมนุษย์ย่อมเจริญ สถานที่ตรงนั้นย่อมเจริญแบบนี้ แต่ถ้าบ้านเราไปได้เทวดาลำดับกลางๆขออย่างไรความเจริญก็มาไม่ถึงนี่เห็นมั๊ย ในขณะที่อีกบ้านนึงเจ้าที่เจ้าทางเขาให้เลขทุกงวดปรากฏตัวให้โชคลาภอยู่เสมอตรงนี้คือความแตกต่าง ยิ่งถ้าศักดิ์น้อยบุญน้อยกำลังเขาก็ยิ่งน้อยจนกลายเป็นไม่ทำงานไปเลยเพราะจะเกาะแต่บุญเราแบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพพวกนี้เขามีหน้าที่รักษษเราให้ถึงความเจริญรุ่งเรืองให้บ้านห่างไกลภูติผีปีศาจแลอมนุษย์..เห็นมั๊ยถ้าบ้านมีผีแปลว่าเทวดาบ้านเราบารมีเขาอ่อนมากๆพวกนี้ผียังไม่กลัวและก็จะเชื่องช้าทำอะไรก็ช้าไปหมดเหมือนคนคิดไม่เป็น ### พ่ออาจารย์ท่านว่าห้เอาเหรียญท้าวธตรฐของท่านไปวางในศาลพระภูมิ..ศาลเจ้าที่ต่างๆของบ้านเรา วางไว้สามวันจุดธูปสิบหกดอกบอกท่านไปเลยว่าต้องการเปลี่ยนให้เจ้าที่องค์ใหม่มีนิสัยอย่างไรคอยเกื้อกูลเราอย่างไรมีบารมีมากเพียงไหนก็บอกท่านไป นี่คือท่านจะได้เลือกคนได้ถูกใช้งานได้ถูกมอบภาระให้ถูกแบบนี้ พอเทวดาบารมีสูงๆเข้ามาเรายิ่งทำบุญอุทิศให้เขาก็ยิ่งเจริญเร็ว ทั้งอมนุษย์ภูติผี,ยักษา,นางไม้อะไรก็ดีย่อมมาวุ่นวายในอาณาเขตของเราไม่ได้เลย

    บารมีท้าวธตรฐโฐ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ท้าวธตรฐท่านมีหน้าที่รักษาทุกข์สุขของมนุษย์โลกโดยตรงทั้งยังให้การอภิบาลป้องกันอันตรายต่างๆ(ภาษาพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าคุ้มเกรงรักษา)ภัยที่จะเกิดแก่มนุษย์ โดยหน้าที่โดยตรงที่ต้องดูแลทั้งโลกและตัวบุคคลท่านจึงสถิตย์ในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาที่อยู่ซ้อนภูมิกับโลกมนุษย์ใกล้กันมากที่สุด

    ท่านปกครองเหล่าคนธรรพ์และวิทยาธรรวมถึงนางไม้นางอัปสรทั้งหลาย ซึ่งในยุคพระเวทย์นั้นได้แบ่งโลกบาลไว้ทั้งแปดทิศและตำแหน่งโลกบาลของทิศตะวันออกก็คือพระอินทร์แต่เดิมนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าภายหลังพระอินทร์จึงยกฐานะโลกบาลนี้แก่ท้าวธตรฐ(เป็นตำแหน่งเวียนกันทำ) เช่นนั้นผู้มานั่งตำแหน่งท้าวธตรฐจึงจำเป็นต้องมีบารมีมากที่สุดและกลายเป็นหัวหน้าท้าวทั้งสี่โดยปริยายด้วยสมัยโบราณพระอินทร์รับเป็นโลกบาลทางทิศนี้มาก่อน เช่นนั้นบารมีของท้าวธตรฐจึงไม่ต่างจากพระอินทร์แต่อย่างใด ด้วยท้าวเธอทรงจักรเพชรอันแสดงออกถึงพระเดชและเป็นนัยยะแห่งผู้ประทานฤดูกาลควบคุมภูมิอากาศคอยบันดาลฟ้าผ่า(เช่นเดียวกับอำนาจของพระอินทร์) ทั้งอากาศเทวดาทั้งหมดก็อยู่ใต้การปกครองของท้าวธตรฐ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องฝนฟ้าอากาศลมฟ้าฤดูกาลทั้งปวงนี่ท่านให้เทพบริวารไปบันดาลทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีพิณประจำพระองค์ที่ใช้เป็นเทพศาสตราวุธอีกด้วย อานุภาพพิณของท้าวธตรฐนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากระบองของท้าวเวสสุวัณแต่อย่างใด....หากแต่จะเหนือกว่าจนไม่มีผู้ใดกล้าบันทึกไว้ด้วยท่านไม่ได้ใช้บ่อย..นี่หากพูดถึงดีดพิณเป็นอาวุธ(หลายคนคงคิดติดตลกเป็นนิทานว่าฟังแล้วหูคงแตกตายแบบนั้น) แต่แท้จริงแล้วพิณของท้าวธตรฐหากดีดขึ้นเมื่อใดจะเกิดเสียงกัมปนาทกึกก้องบันดาลให้เกิดมหาอุกกาบาตมากมายนับไม่ถ้วนเหมือนเม็ดฝนมากยากประมาณขนาดนัันตกลงมาจากท้องฟ้า...เรียกว่าเป็นห่าฝนอุกกาบาตก็ยังไม่ได้ต้องใช้คำว่าเป็นห่าฝนมหาอุกกาบาตที่ไร้ผู้ต้านทาน(นี่คืออำนาจของเทพศาสตราที่ไม่ค่อยมีผู้ใดกล่าวถึงและเราก็ภาวนาอย่าให้ท่านดีดพิณของท่านเลย ...ไม่ต้องติดทำเนียบอาวุธเทพแบบคฑาของท้าวเวสสุวัณแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าฟังองค์ท้าวท่านพูดแล้วฉันยังใจหายพิณแบบนี้ไม่ต้องลองใช้เป็นดีที่สุด) *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่คนไม่ค่อยรู้กันก็คือองค์ท้าวธตรฐนั้น ท่านมีอำนาจในการครอบงำโลกด้วยเป็นหน้าที่เฉพาะของท่านที่จะให้ความคุ้มครองดูและอาณาจักรทั้งหลายให้มีแต่ความสงบสุขร่มเย็นมาเนิ่นนาน(จะส่งเทพองค์ไหนมารักษอาณาจักรใดเสื้อบ้านทรงเมืองที่ไหนนี่ก็งานท่านเลย)

    บารมีองค์ท้าวธตรฐจะช่วยประทานพรให้วิถีชีวิตคนมีความสุข ทั้งท่านยังเน้นเรื่องประทานความสำเร็จในชื่อเสียงเกียรติยศ...และอำนาจเป็นหลัก ท่านว่ามีเพียงอำนาจก็กลืนโลกได้ทั้งหมด ### องค์ธตรฐท่านบอกกับพ่ออาจารย์ว่าท่านเน้นมากเรื่องนี้ด้วยจะช่วยให้คนที่ถือครองรูปท่านได้เวลาเริ่มต้นชีวิตในช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุด ทั้งชีวิตใครที่ปรารถนาความรื่นเริ่งสนุกสนานไปพร้อมกับชื่อเสียงเงินทองและเกียรติยศ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ต้องท้าวธตรฐนั่นแหละ แต่หากอยากนั่งอดอมเก็บเกี่ยวเคร่งเครียดขยันหมั่นเพียรจนมั่งมี..แลกความสุขกับเวลาแบบนี้ก็ไม่ว่ากัน...เว้นเสียว่าอยากได้ความสบายสามารถร่าเริงไปกับชีวิตได้แบบไม่ขาดตกบกพร่องอะไรก็ค่อยเอาไปใช้ **** ด้วยเหรียญองค์ท้าวธตรฐที่ท่านขอให้ฉันทำนี้ท่านว่านอกจากเป็นเหรียญที่มีเดชมากยังเน้นให้ใช้เพื่อพัฒนาการชีวิตให้ได้ไวและเร็วขึ้นมากที่สุด

    ทั้งเหรียญท้าวธตรฐนั้น ท้าวเธอท่านยังกำหนดให้ทำลูกดวงแสงล้อมกายท่านถึงสี่ลูกแทนบารมีท้าวจตุมหาราชทั้งสี่พระองค์ครบถ้วนกระบวนความ พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเสกท้าวทั้งสี่ต้องลงมาทำให้เสมอกันหมดโดยมีท้าวธตรฐเป็นประธาน เหรียญนี้ใช้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้มากล้ำกลายคุ้มครองป้องกันภัยทั้งสิบทิศทั้งขับไล่ภูติผีปีศาจที่ไม่ดีให้หนีหายไป จะอาราธนาใช้กันคุณไสยมนต์ดำสิ่งไม่ดีหรือจะใช้เสริมดวงเพิ่มวาสนาทำน้ำมนต์อาบกินเสริมสง่าราศรีก็ได้ทั้งสิ้น...พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้แม้กระทั่งขอบารมีท้าวทั้งสี่ให้เราประสบความสำเร็จในเรื่องอะไร..ท่านว่าขอไปเถิดย่อมจะเป็นไปด้วยแรงครู ### ท่านว่าไหว้เหรียญนี้ครั้งหนึ่งองค์ท้าวธตรฐท่านรับเรื่องเลย ท้าวทั้งสี่ท่านถึงกันทั้งหมดไม่ต้องผ่านใคร แต่หากไปตามศาลตามอะไรแบบนี้ออกนามท่านย่อมต้องผ่านบริวารตั้งแต่ชั้นทหารเลวไล่ขึ้นไปกว่าจะถึงเจ้านครมหาอำมาตย์กว่าจะถึงองค์ท้าวเธอทั้งสี่เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้ย่อมไม่ทันการณ์และเนื้อความหลายๆต่อที่จะคงเดิมเหมือนต้นเรื่องย่อมเป็นไปไม่ได้ ท่านจึงว่าเหรียญนี้มีดีของเขาด้วยองค์ธตรฐท่านให้สร้างไว้เพื่อสื่อสารไหว้บอกกับเหล่าผู้ศรัทธา
    ฐานะจอมเทพแห่งความรุ่งเรือง

    ท้าวธตรฐท่านเป็นจ้าวในเหล่าคนธรรพ์ซึ่งเ
    ป็นเทวดาที่เกิดอยู่ตามไม้หอมสิบจำพวก ได้แก่ รากไม้,แก่นไม้,เนื้อไม้,เปลือกไม้,น้ำหอม,ตะคละต้นไม้,ใบไม้,ดอกไม้,ผลไม้,เหง้าใต้ดินโดยคนธรรพ์เหล่านี้จะแบ่งเป็นสามตระกูลได้แก่คนธรรพ์ชั้นสูง,ชั้นกลางและชั้นล่าง พวกชั้นสูงก็จะมีวิมานอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเช่นพระปัญจสิกขรเทวบุตรเหล่านี้...จะมีบริวารนางฟ้าต่างๆประจำในวิมานตามบารมีแต่ละองค์ ส่วนพวกชั้นกลางก็จะไปเกิดขึ้นและอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์มีวิมานอยู่ในต้นไม้เป็นบริวารของคนธรรพ์ชั้นสูง ที่เหลือคือชั้นต่ำนั่นเองที่จะอยู่บนพื้นโลกมนุษย์ เป็นฐานะชาวบ้านพวกนี้จะมีทั้งที่มีครอบครัวและไม่มีครอบครัวคอยสิงอยู่ในต้นไม้จำพวกไม้หอมบ้างสิงตามที่ต่างๆบ้างเช่นนางตะเคียน,นางตานี...ก็ด้วยคนธรรพ์ชั้นล่างเหล่านี้นั่นเองคือที่มาของภูตผีทำให้องค์ท้าวธตรฐนั้นมีฐานะเป็น "จอมภูตพราย" ไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่คนเราแยกคำว่าภูติกับภูติไม่ออก ไม่ว่าจะคำใดก็สรุปไปแล้วว่าเป็นผี แต่จริงๆแล้วภูตต่างหากคือผี ส่วน "ภูติ" นั้นแปลว่าความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรก็ช่าง คนไทยเรานี่แหละไปยกย่ององค์ท้าวธตรฐกันว่าเป็นจอมภูติๆอยู่แบบนี้ไหว้ครูป่าวประกาศอ่านโองการบวงสรวงอะไรก็ดีเรียกว่าไปตั้งฐานะให้ท่าน ในเมื่อมนุษย์ไหว้และยกศักดิ์ให้เทวดาพระอินทร์ท่านก็ให้ท้าวธตรฐรับฐานะจอมภูติไปจริงๆเสียอย่างนั้น กลับกลายเป็นว่าจ้าวแห่งภูตผีที่เราเข้าใจกันนั่นแหละคือจอมเทพแห่งความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นเรื่องโจ๊กใหญ่ในเทวโลกทีเดียว องค์ธตรฐท่านบอกฉันมาว่าท่านได้ตำแหน่งนี้มาแบบนี้ๆ ตอนนี้กลายเป็นว่าใครจะขอพรทางด้านความเจริญรุ่งเรืองแล้วไม่ไหว้ฉันไม่ได้นะเพราะเขายกมาให้ฉันหมดแล้วมันเลยกลายเป็นหน้าที่ของฉันไป ท่านเล่ามาแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงรู้เคล็ดว่าจอมเทพองค์นี้สำคัญเพียงใด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพูดถึงท้าวธตรฐอะไรๆก็พลาดกันไปเยอะและสิ่งที่คนยังไม่รู้จนหลงลืมนามท่านไปยังมีอีกมาก ....เช่นว่าผู้ที่ดีดพิณถวายเตือนสติพระมหาโพธิสัตว์ในคราวบำเพ็ญทุกขกิริยาทำให้พระองค์เกิดสติพิจารณากลับมาเสวยอาหารเดินทางสายกลางมัชฌิมาปฏิปทานั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่พระอินทร์แต่กลับเป็นองค์ท้าวธตรฐนี่เอง(พ่ออาจารย์ท่านจึงยกว่าองค์ท้าวเธอท่านมีบุญคุณกับพระศาสนามาเนิ่นนาน ด้วยหากไม่ลงมาดีดพิณตอนนั้นพระมหาโพธิสัตว์ก็ต้องทรมานพระองค์เองต่อไปเรื่อยๆ) นอกจากนั้นท่านยังเป็นเทพแห่งความร่าเริงอันเป็นคติว่าผู้บูชาท่านจะหมดเรื่องทุกข์ใดๆในชีวิตเพราะท่านมีหน้าที่ขับกล่อมปวงประชาให้อยู่ในความสุขตลอดไป

    การขอโชคลาภลอย(ทุกสิ่งที่เอามาได้แบบฟลุคๆ..ให้ขอกับฉัน)

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามีนายเหนือเกล้าก็ต้องมีบริวาร องค์ธตรฐท่านให้พ่ออาจารย์ลง "ตะกรุดบัญชาโสฬสมหาภูต" ฝังที่รูปหล่อท่านกำกับเอาไว้ด้วยวิชานี้ใช้บัญชามหาภูติสิบหกตนใช้ได้ทุกทางตามใจจะหวังอะไรในโลกียะในกามคุณ(รูป,เสียง,กลิ่น,รส,ฐานะ,โชคลาภ,ลาภลอย...สารพัดจะปรารถนาอยู่ในตะกรุดนี้) เมื่อลงต้องเชิญญาณครูทั้งสิบหกชั้นมหาภูติทั้งต้องดูฤกษ์ยามตลอด เมื่อลงจารก็ต้องเรียกสูตรอักขระ,สูตรยันต์ให้เกิดอิทธิฤทธิ์เมื่อปลุกเสกเดินธาตุขณะนั้นจิตต้องไม่ออกจากตัวต้องวางจิตให้ละเอียดมากจนสื่อสารกับธรรมชาติได้(สูตรขององค์ท้าวธตรฐนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่างหินเลย อาศัยแรงครูของท้าวทั้งสี่ช่วยทำเอาแค่หนนี้หนเดียว)พอถึงจุดที่สื่อสารกับธรรมชาติได้แล้วท่านจึงเสกพร้อมกับเชิญท้าวทั้งสี่มาช่วยกันทำทุกขั้นตอน โสฬสมหาภูตินี้ท่านว่าย่อมมีฤทธิ์ไปทุกทางสารพัดจะใช้ให้เห็นผลแรง อีกทั้งเป็นภูตกระซิบที่คอยเตือนเหตุเภทภัย..ทั้งคอยแก้ไขเรื่องร้ายที่เข้ามาชนกับเราให้กลายเป็นดีเรียกได้ว่าครบเครื่องทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นมหาภูติสิบหกตนที่ท้าวทั้งสี่ช่วยกันผูกด้วยพระเวทย์ไม่ใช่ผีไม่กลัวเทวดาจึงไม่เข้าตัวและไม่มีอันตรายอะไรจะให้เกิดให้มี... แต่กลับมีฤทธิ์มากสารพัดจะเรียกใช้ได้ดั่งใจ ตะกรุดดอกนี้ท่านว่ามีแต่คุณไม่มีโทษ

    คาถาบูชา
    โอมศรี ธตรัฐโฐจะมหาราชา ปุรัตถิมัสมิงทิสาภาเค สันติภูตามหิทธิกา เตปิตุมเหอนุรักขันตุ อาโรคเยนะสุเขนะจะ

    เหรียญจตุมหาโลกานี่พ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมมีเจ้าของทุกเหรียญ มีตราบุญบัญญัติเอาไว้เลยว่าเหรียญไหนเป็นของใครด้วยท้าวทั้งสี่ย่อมเลือกคนของท่าน ทั้งยังเป็นเหรียญที่ใช้ได้หลายทางมีคุณใหญ่หลวงคนที่มีผีในตัวมีผีคุมชะตาชีวิตหรือถูกผีบังตาเค้าจะไม่เอาเลยเพราะเหรียญนี้อยู่ที่ไหนผี(วิญญาณที่ประสงค์ร้ายต่อตัวเรา)เข้าใกล้ไม่ได้ร้อยโยชน์พันโยชน์

    *** เหรียญเหนือคาดนี้เป็นรายการสุดท้ายที่จะเปิดจองของเดือนนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวเธอทั้งสี่ท่านลงตราบุญบัญญัติเอาไว้ เราไม่ต้องประสิทธิอะไรอีกเลยเพราะเป็นเรื่องของโลกทิพย์ท่านทำกันเอง เช่นนี้เหรียญรุ่นนี้ท่านจึงให้เปิดจองและทำการส่งได้ทันที ท่านว่าถ้าเขาอ่านรายละเอียดจบเขาจะรู้เองว่าคนที่ใช้เหรียญนี้ได้มีแต่เจ้าของจริงๆเท่านั้นฉันไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเหนือคาดท้าวธตรฐโฐจตุมหาโลกา(ฝังตะกรุดบัญชาโสฬสมหาภูต) บูชา 4,000 บาท

    103342774-2859547884167023-4097552081810111325-n.jpg 83390299-261753171552529-3402797496353386006-n.jpg
    83145829-963317867445676-3654887539353317204-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา องค์ฉัตรแก้วสุรกานต์นพสูรย์สุริยคราส"ดับปรปักษ์"(ดูดทุกข์โศกโรคภัย)

    องค์ฉัตรแก้วสุรกานต์นั้นเป็นเครื่องมงคลพิเศษในสายวิชาของพ่ออาจารย์ท่านด้วยท่านหล่อเป็นรูปฉัตรบังดวงตะวัน เรียกว่ายกฉัตรดับอาถรรพ์ฟ้าดิน..เพื่อให้ผู้บูชาทำอะไรสะดวกดั่งใจก็ได้(ท่านว่ายกฉัตรบังฟ้าจะทำการใหญ่ปิดฟ้าก็ง่ายดาย) ด้วยองค์ฉัตรแก้วสุรกานต์นั้นแทนร่มฉัตรของพระศาสนาเป็นยอดฉัตรอันสมเด็จองค์ปฐมท่านได้สถาปนาไว้และสั่งให้พ่ออาจารย์ท่านทำขึ้นเสียครั้งหนึ่ง...และต้องทำให้ได้เมื่อตั้งฉัตรปิดอาถรรพ์องค์นี้ชีวิตเราจะมีแต่ขึ้นมีแต่ได้อยู่ตลอด(ทำอะไรเราก็เห็นก็ได้อยู่ฝ่ายเดียว) ด้วยเป็นฉัตรยอดชัยที่องค์ปฐมท่านประทานไว้ให้เป็นมงคลคู่ชีวิตเมื่อสถิตย์อยู่กับเราจะใช้แก้กันศัตรูได้สารพัด..ถึงขั้นดับปรปักษ์(คิดร้ายผู้ที่อยู่ภายใต้ร่มฉัตรย่อมชะตาขาดเช่นนั้น) ทั้งองค์ฉัตรนั้นยังได้ใส่ทรัพย์สินมีค่ามากมายมหาศาลไว้ภายใน *** ด้วยไม่มีใครหักทำลายฉัตรแก้วนี้ได้เพราะเป็นฉัตรของเสด็จพระใหญ่พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่ฉัตรที่ใครก็จะมาหักได้ ด้วยเป็นฉัตรขององค์ปฐมที่ให้ร่มเงาพระศาสนาชีวิตใครมืด..ชีวิตใครดับด้วยว่าต้องอาถรรพ์แรงแค่ไหนเมื่อยกฉัตรนี้ครอบชีวิตแล้วอาถรรพ์นั้นก็ต้องพ่ายยับไป

    ### ดั่งว่าองค์ฉัตรได้บังเงาเราไว้แบกรับอาถรรพ์และวิกฤติทั้งหลายแทนเราหมดแล้วไม่มีเคราะห์ใดจะผ่านเข้ามาใกล้เราได้เลย เมื่อตั้งฉัตรภัยพิบัติใดใดในชีวิตย่อมคลี่คลาย..เมื่อยกฉัตรดุจดั่งได้ยกชีวิตไว้ยอดสุดให้เจริญด้วยเหตุทางโลกเกินกว่าจะหมายประมาณ(ดั่งฉัตรแก้วที่ยกในเวลาสำคัญของแผ่นดิน) ฉัตรนี้จะบังเหตุร้ายกลับชีวิตจากร้ายให้กลายดีพ่ออาจารย์ท่านว่าบังได้แม้กระทั่งดวงชะตาที่อับเฉาลงไปแล้ว คนที่มีศัตรูมากหนึ่ง..คนที่มีปัญหาให้แก้มากมายหนึ่ง..คนที่ต้องอาถรรพ์สารพัดรูปแบบหนึ่ง...คนที่โดนกระทำด้วยคุณไสยอวิชชาหนึ่ง...คนที่ต้องเสนียดจัญไรหนึ่ง...คนที่ชีวิตพินาศย่อยยับหนึ่ง คนเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อตั้งฉัตรค้ำชีวิตกำบังดวงชะตาเราแล้ว ชีวิตย่อมหาอันตรายอันใดมิได้เลย แม้นหมู่มารศัตรูยังมิอาจแผ้วพาน ความวิบัติสารพัดที่เล็งให้โทษย่อมพินาศสูญสิ้น เช่นนั้นองค์ฉัตรแก้วสุรกานต์จึงเป็นยอดฉัตรที่ไม่มีสิ่งใดเทียมทัน *** องค์ปฐมท่านกำชับว่ามอบไว้ใช้กู้ชะตาเมื่อเกิดวิบัติใหญ่ ยกฉัตรบังเงาดั่งตั้งเขาพระสุเมรุป้องกันไม่ให้ชีวิตถูกอาถรรพ์ครอบงำได้ ยกฉัตรค้ำชะตาดั่งประกาศอำนาจราชศักดิ์เป็นเดชานุภาพเข็ดขยาดจะไต่เต้าขึ้นที่สูงขึ้นยศขึ้นตำแหน่งเลื่อนขั้นชีวิตได้โดยไว ฉัตรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญมากจะใช้แก้ชงกันชงได้ทั้งสิ้น หากติดตัวไว้ไม่ห่างคอนั้นท่านว่าให้จพเอาไว้อันนี้สำคัญมากที่สุด ### ถ้าชีวิตใครมีศัตรูเขาจะแพ้ทางเราทั้งหมดคิดอ่านทำสิ่งใดแก่เรามิขึ้นเลย เป็นมหาปราบ กันได้สารพัดทั้งล้างอาถรรพ์อาเพศใดๆ ใช้ล้างตัวล้างเสนียดจัญไรได้ทั้งสิ้น เมื่อยกฉัตรนี้ติดตัวในอาณาเขตรัศมีองค์ฉัตรศัตรูย่อมพ่ายแพ้พินาศไม่อาจตั้งตัวได้ทั้งหมู่มารภูติผีก็ไม่เฉียดใกล้เราเช่นกัน เรียกว่าจะผ่านอุปสรรคพ้นทุกข์ภัยเรียกหาแต่โชคดีดังนี้

    วิชายกฉัตร..ยกชีวิตนี้มีอาถรรพ์มาก คนที่ชีวิตติดบ่วงกรรมมีอุปสรรคขวางกั้นถูกกีดกันถูกรังแกข่มเหงทั้งจากเจ้านายและคนรอบข้าง หรือตัวเรารู้สึกได้เองว่าเป็นคนที่ดวงไม่ดีอยู่ตลอด จะหยิบจับทำงานอะไรก็คว้าน้ำเหลว สิ่งที่เคยรุ่งเรืองเคยมีเคยได้อันกระทำอยู่ก็ซบเซาเงียบเหงา พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละต้อง...ยกชีวิต ด้วยฉัตรแก้วขององค์ปฐมนั้นเมื่อตั้งขึ้นที่ใดแก้วแหวนเงินทองสิ่งของล้ำค่าทั้งแผ่นดินย่อมประชุรวมอยู่ตรงนั้นท่านว่าจะทำอะไรคิดอ่านเอาทรัพย์อะไรในผืนดินนี้ทุกอย่างย่อมเป็นกรรมสิทธิ์แก่เราทั้งสิ้นทีเดียว คนที่ดวงเคยตกชะตาติดๆขัดๆ โชคลาภไม่มี วาสนาพุ่งไม่สุดท่านว่าเหตุทั้งหลายนี้ต้องรีบแก้ให้อาราธนาองค์ฉัตรค้ำชีวิตนี้โดยไว จะเป็นที่รักและเคารพนับถือโดยทั่วทั้งบริวารจะอุ้มชูเมตตาประสบความสำเร็จก้าวหน้าในสิ่งที่คาดหวัง

    ทั้งฉัตรนี้เพื่อจะใช้ปิดบังพิบัติภัยทั้งหลายดั่งกางกั้นขวางรัศมีพระสุริยันอันเผาไหม้ร้อนแรงนั้น องค์ปฐมท่านกำหนดให้เสกเมื่อเกิดสุริยคราสอาจเรียกได้ว่าพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยทำเครื่องมงคลที่สื่อในรูปแบบอุปราคาเต็มตัวเช่นนี้มาก่อน...ท่านว่าที่อื่นเขาทำแต่ราหูอมจันทร์บ้างกลืนอาทิตย์บ้าง...แต่ครูฉัน(องค์ปฐม)ท่านให้ทำองค์ฉัตรสุรกานต์ขวางตะวันด้วยฉัตรนั้นเป็นของสูงเกินเอื้อมเกินใช้ของคนธรรรมดาเช่นนั้นเมื่อชีวิตใครได้ยกฉัตรขึ้นเทวดาประจำตัวย่อมตอบสนองนำมาซึ่งลาภสักการะแลยศศักดิ์ยิ่งใหญ่ ทั้งพิธีสุริยคาสนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้เสกเครื่องมงคลย่อมเกิดความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น..ท่านว่าในพิธีของท่านต้องเข้าป่าเข้าถ้ำปิดถ้ำเสกเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนจนท่านเสกเสร็จออกจากถ้ำก็เป็นเวลาเดียวกับที่หมดสุริยคราสพอดี ฉัตรขวางตะวันท่านให้ทำในพิธีสุริยคราสจะแรงที่สุดและใช้ได้เห็นผลทันตามากที่สุด(ดั่งองค์ปฐมท่านว่ามันมีเชื้อมีเหตุ) ด้วยจะอยู่เหนือกว่าเครื่องมงคลใดๆทั้งปวงทั้งยังได้มหาอำนาจมีพลานุภาพสูงเหนือกว่าเสกในวันอื่นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลที่เสกในพิธีอุปราคาของท่านนี้เป็นของใช้ได้ไม่หมด(ไม่มีวันเสื่อมฤทธิ์) ยิ่งอาราธนาทางป้องกันภัย..กันแก้คุณไสย..แก้อาถรรพ์มนต์ดำ..หนุนดวงต่อชะตา...นำโชคเรียกเงินท่านว่าสารพัดดี สารพัดจะใช้เลยเธอเอ๋ย ทั้งฉัตรนี้จะมีอิทธิพลคอยปัดเป่าเหตุร้ายผันดวงที่ตกอับชีวิตที่เลวร้ายออกจากด้านมืด ทั้งยังมีอาถรรพ์ผ่อนภาระชีวิตคือผ่อนหนักให้เป็นเบา ผู้อาราธนาย่อมได้ลาภอยู่เนืองนิตย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลใดที่เสกในพิธีอุปราคาและยังเป็นสายวิชาจำเพาะที่ต้องเสกในวันนี้จึงจะสำเร็จเท่านั้น เครื่องมงคลนั้นท่านว่าย่อมดีกว่าของที่เสกวันเสาร์ห้าเสียอีก ด้วยคราสนั้นมีพลานุภาพสูงเพราะเป็นเวลาที่มีพลังจักรวาลแห่งดาวนพเคราะห์แผ่ออกมา เมื่อกระทำเครื่องรางดับอาถรรพ์เช่นองค์ฉัตรนั้นย่อมจะดับได้ทุกสิ่งดั่งที่ท่านให้นามไว้ว่าดับปรปักษ์...เรียกว่าแผ้วถางหนทางชีวิตให้ราบเรียบไร้กังขากังวลใดๆอีกต่อไป

    ทั้งพิธีอุปราคา(สุริยคราส)หนนี้ ท่านยังลงอาถรรพ์ให้อีกหลายส่วน ท่านว่าคราสคือการจับต้องเช่นสุริยะคราสก็คือราหูจับตะวันเป็นเคล็ดในการจับการได้มาซึ่งสิ่งที่ไม่มีวันจับได้โดยการเข้าไปกลืนไปเปลี่ยนสีดวงตะวันจันทรา เป็นอาถรรพ์เติมเต็มเรื่องทางโลกทั้งหลาย(ซึ่งจะหาไม่ได้ในพระเครื่องใดๆ) ทั้งองค์ฉัตรนี้ยังอาราธนาใช้ได้ครอบจักรวาลท่านว่าจับ..คว้า..หา..เอา(คือเอามาได้ทุกอย่าง) นอกจากเด่นทางป้องกันภูติผีปีศาจแล้วผู้อาราธนาครอบครองย่อมไม่มีวันตายโหงเลย ทั้งองค์ฉัตรยังคุ้มครองให้พ้นจากอัคคีภัย,โจรภัย,ฟ้าฝ่า...เคราะห์กรรมภัยพิบัติทั้งคุ้มครองให้พ้นภัยจากอำนาจคุณไสยทั้งปวง..สิ่งเลวทรามใดฝืนเข้าใกล้จะมอดไหม้เป็นจุณดั่งต้องรัศมีเพลิงตะวัน ท่านว่าเรื่องเงินเรื่องเรียกทรัพย์นี่กลายเป็นเรื่องเล็กเลยเพราะองค์ฉัตรนั้นเปรียบดั่งจุดศูนย์กลาง ### ใช้ดูดทรัพย์ในแผ่นดินได้ทุกสิ่งเรียกทรัพย์สินเงินทองทำให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี องค์ฉัตรนี้ท่านว่าให้คุณหลายด้านเป็นเมตตามหานิยมทั้งชะลอวัยธาตุขันธ์ปรับธาตุต่ออายุทำให้ผู้บูชามีสุขภาพจิตสุขภาพใจแข็งแรงค้ำชูดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำแม้ยามพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เพื่อให้มีเวลาเสวยวาสนาชะตาที่ขึ้นสู่จุดสูงสุด ดั่งยอดฉัตรแก้วองค์ปฐมที่นพเคราะห์ทั้งเก้าต้องเข้ารักษาซึ่งเทพทั้งเก้านี้ให้ผลตรงกับชะตามนุษย์ทั้งมากฤทธิ์ยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ การที่นพเคราะหืคุ้มครองรักษาให้ความอาทรดั่งมารดาดูแลบุตรเช่นนี้จึงให้คุณมากเป็นพิเศษ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ฉัตรนี้สำคัญเพราะท่านทรงอาคม..คือเสริมคุณแห่งอักขระยันต์มนต์คาถาไม่ว่าจะเครื่องรางของขลังเครื่องมงคลหรือรอยสักรอยยันต์ใดในตัวของเราร่างกายของเรานี้ท่านว่าองค์ฉัตรนั้นจะเสริมตัวเราให้เข้าถึงใช้ได้เต็มร้อยทั้งยังชำระเครื่องรางทั้งหลายให้มีผลบริสุทธิ์เต็มนร้อยด้วยเช่นกันไม่มีมลทินโทษแม้แต่น้อย

    เหรียญองค์ฉัตรนี้ท่านหล่อหลอมขึ้นด้วยพระยันต์บังคับจากครูองค์ปฐมมากมาย...ท่านว่าเยอะจนไม่อาจกล่าวเพราะท่านให้ทำแบบลงถมไปเรื่อยๆเอามาผสมกับตะปูสังฆวานรยอดโบสถ์อยุธยา(ท่านห้ามไม่ให้ออกชื่อเด็ดขาดด้วยเป็นวัดสำคัญมาก)อายุหลายร้อยปี ด้วยตะปูนี้เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ภูติผีปีศาจเกรงกลัวนัก ทั้งตะปูสังฆวานรยอดโบสถ์ยังได้ชื่อว่าอยู่บนยอดสุด ..สูงสุด อยู่เหนือทุกสิ่งในโบสถ์ไม่เป็นรองผู้ใด พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากนอกจากจะผ่านการเสกในโบสถ์มายาวนานซึมซับพุทธคุณนับร้อยปียังได้เคล็ดว่าเป็นยอดที่สุดไม่เป็นรองผู้ใดหรือสิ่งชั่วร้ายใดๆเลยท่านเอาชนวนนี้มาเสกลงวิชาอาถรรพ์ก่อนหล่อหลอมทำด้วยว่าจะให้ดีทางป้องกันภัยกลับดวงที่แย่ทำดวงชะตาให้ดีให้สูงอย่างถึงที่สุด..

    มหาดูด(ดูดทุกข์โศกโรคภัย)

    องค์ฉัตรนั้นมีชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะสั่นจะร้อนเมื่อกระทบกับเรื่องที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา แม้เราต้องอาถรรพ์คุณผีคุณไสยมนต์ดำสิ่งชั่วร้ายที่มองไม่เห็นเมื่อมีพลังงานชั่วร้ายเพ่งเล็งเราอยู่เขาจะสั่นขึ้นมาทันที
    พ่ออาจารย์ท่านว่าหากองค์ฉัตรสั่นหรือร้อนขึ้นมายามเราสัมผัสท่านว่านั่นคือเขาเตือนว่าจะมีภัยมาเป็นแม่นมั่นต้องสวมใส่ไว้ในเวลานั้นจะถอดไม่ได้เด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพอหายร้อนจับต้องแล้วรู้สึกเย็นนั่นเเหละคือทุกข์โทษภัยผ่านไปแล้วนี่คือเขาบังเอาไว้ให้ทั้งหมดเลย(หน้าที่เราคือใส่ห้ามถอดทำอยู่แค่นี้..แต่หากฝืนไปถอดก็ต้องรับอันตรายนั้นด้วยตัวเอง) พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออาราธนาองค์ฉัตรไปแรกๆหากเกิดอาการร้อนหรือวิงเวียนอาเจียนสิ่งใดๆออกมา ทั้งใจยังกระวนกระวายคือร้อนออกมาจากข้างในให้เรารู้ตัวไว้เถิดว่าในตัวเรามีสิ่งที่ไม่ควรจะมีไม่ว่าจะเคยไปต้องคุณไสยมนต์ดำลมเพลมพัดทั้งหลาย อาจจะมีของต่ำน้ำมันผีน้ำมันพรายเคนต้องเนื้อตัวมาก่อน พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้วิตกจนเกินไปให้ห้อยองค์ฉัตรไปเรื่อยๆเขาจะดูดสิ่งแปลกปลอมนั้นออกจากตัวเราเองเรียกว่าดูดของไม่ดีที่แฝงในร่างกายสิ่งที่แฝงมายามเราไปทักไปถามอาถรรพ์ต่างๆในรูปใดๆที่เล่นงานเราอยู่นี่คือท่านดูดออกหมดเลย ดูดจนอาถรรพ์ร้ายเหล่านั้นเสื่อมสลายไปทั้งสิ้น ดูดจนร่างกายเรากลับร้อนผ่อนเย็นหมดจากอาการวิกลเหล่านั้นองค์ฉัตรจึงจะกลับมาเป็นปกติ

    องค์ฉัตรนี้
    ท่านให้อาราธนาดูดทุกข์โศกโรคภัยได้ (ท่านว่าบอกกับท่านทุกข์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องบอกจะได้ใช้ได้ถูกที่ถูกทางเหมือนหมอจะรักษาได้ตรงโรคนั่นคือต้องบอกกล่าวกับครูรักษาองค์ฉัตรนี้) ทั้งเมื่ออาราธนาติดตัวในยามคับขันจะหาอันตรายไม่ได้เลยจะปลอดภัยมีแต่ความสุขความเจริญในด้านหน้าที่การงานธุรกิจไม่ติดขัดและไม่บังเกิดเคราะห์ ไม่ว่าจะเคราะห์ปีเคราะห์เดือนเคราะห์วันพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเคราะห์เข็ญอุปัทวอันตรายทั้งหมดจะมลายสูญ อาราธนาให้องค์ฉัตร์ท่านกลืนแก้ทุกข์สำรับคนที่มีทุกข์...มีโศกมีความเศร้าหมองใดก็บอกให้เขากลืนโศกนั้นออกไป..โรควิกลผิดปกติที่ภัยที่หาสาเหตุไม่ได้เหล่านี้ก็อาราธนาให้องค์ฉัตรท่านกลืนกินได้...ทั้งภัยร้ายทั้งหลายอันมีต้นตอยากเกินจะแก้พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละใช้ให้เป็นบอกกล่าวกับท่าน ให้บอกกล่าวทีละเรื่องๆจะเห็นผลไวกว่าค่อยๆแก้แต่แก้ให้จบเป็นเรื่องๆไปเช่นนี้ อยาไปอธิษฐานด้วยจิตทะลึ่งร้อนรนยกมือท่วมหัวอ้าปากทีก็มีปัญหาแปดพันเก้าพร้อมๆกัน(ท่านว่าเช่นนี้แรงครูเขาจะไม่สงเคราะห์ต้องใช้ให้เป็นจึงจะมีแต่ได้กับได้และหายทุกข์หายโศกขาดสิ้น) ทั้งนี้องค์ฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของการประกาศอำนาจและความรุ่งเรืองทั้งทับถมทรัพย์สินให้ทวีมากมาย เพื่อจะให้ร่มเงาชีวิตแก่เราให้ร่มเย็นเป็นสุขใช้กันคุณไสยได้ทุกชนิดหรือจะอธิษฐานทำน้ำมนต์ถอนของเช่นนี้ก็ได้เช่นกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะเสกต้องปิดถ้ำทำยามเกิดสุริยะคราส เป็นพิธีกรรมเร้นลับที่ให้รายละเอียดใดๆไม่ได้ แต่ข้อดีขององค์ฉัตรนี้ไม่เพียงมีแรงครูรักษายังพกไปได้ทุกที่ไม่มีวันเสื่อม ใช้กันแก้ถอดถอนอาถรรพ์ชีวิตได้ทั้งปวง ยังเป็นเครื่องหนุนนำดวงไม่ให้ตกต่ำแก้ปีชงได้ทุกราศีปีเกิด เมื่อเข้ารักษาแก่ใครจะสะท้อนสิ่งไม่ดีให้ออกไปไกลจากตัวเราทั้งป้องกันภัยดับปัจจามิตรให้ชนะศัตรูหมู่มารทั้งสิบทิศเลยทีเดียว ท่านว่าติดคอไว้ศัตรูทำอันตรายไม่ได้..กันทุกข์โศกโรคภัยนำมาซึ่งเกียรติยศชื่อเสียงหาตกต่ำยากจนล้มเหลวไม่ได้เลย เกิดความเป็นสิริความเป็นมงคลแก่ตัวเองแพร่ไปถึงบริวาร เกิดพลังอำนาจบารมีแฝงในตนทำให้ยิ่งใหญ่กว่าคนทั้งหลายมีอำนาจมากยิ่งขึ้น จะใส่ไปณ.สถานที่แห่งใดก็ทำให้เกิดมงคลที่นั้นเป็นมงคลแก่งานนั้นๆแก่กิจที่เราทำอยู่ดึงดูดทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองในที่นั้นๆอันเราอาศัยอยู่..ทำงาน..ทำกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ไหลมาเทมาหาเราดั่งน้ำพระคงคาไหลทะลักทำให้มีโชคมีลาภร่ำรวยเร็วไว..นี่คือมงคลแห่งฉัตรแก้วขององค์ปฐม..ฉัตรค้ำพระศาสนา

    ด้านหลังองค์ฉัตรนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษเอาไว้ทั้งยังแปะเพิ่มไปอีกสองชนิดรวมเป็นสามสิ่ง ท่านว่าแต่ละอย่างล้วนเร่งอานุภาพเสริมแกองค์ฉัตรทั้งสิ้น
    - ลูกอมพยนต์รัตนไตรจักร ท่านปั้นขึ้นจากผงเถ้าที่บูชาไฟในพิธีบูชาองค์พระสยมอันถือว่าเป็นผงที่ผ่านการชำระจากไฟพระเวทย์ได้ชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ไร้มลทินใดๆผสมด้วยผงเขาสัตว์เจ็ดชนิดเช่นเขากวาง,เขาควาย,เขาวัว,เขาแกะ,เขากระทิง...และผงเขี้ยวสัตว์เก้าอย่างเช่นเขี้ยวเสือ,เขี้ยวหมี,เขี้ยวจระเข้,เขี้ยวหมู,เขี้ยวแรด,งาช้าง...ผสมด้วยผงทองศักดิ์สิทธิ์เพราะธาตุทองเเสริมธาตุได้ทุกธาตุแล้วนวดเข้ากับน้ำมันว่านและผงกำเนิดพยนต์,ผงสิบสองนักษัตร(ให้ช่วยเราได้ทุกฤกษ์ทุกปี)นำมาปั้นตากแสงตะวันจันทราในวันพญาวันเพื่อให้เหนือกว่าแรงกว่าวันใดๆ วิชานี้เป็นการผูกพยนต์โดยไม่ต้องขึ้นรูปหุ่นดั่งวิชาเสกพยนต์จากใบไม้หรือก้อนหินและผืนผ้าเช่นนั้น อันพยนต์นี้จะใช้ป้องกันได้ทุกสิ่งเสมือนมีพยนต์คอบอาสาช่วยเราป้องกันคนคิดร้ายหรือศัตรูที่มองไม่เห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นลูกกลมๆเช่นนี้แหละสำคัญนัก หากใครทำอันตรายแก่เราจะถูกมายาสะกดไว้ให้เห็นดั่งเผชิญหน้ากับคนนับร้อยนับพัน..ท่านว่าให้คุณมากนักจะอธิษฐานบอกกล่าวขอความช่วยเหลืออะไรเขาก็ได้ เช่นทำของหายจะตามของ..สุดแล้วแต่จะขอเขา
    - ตะกรุดประจุขาด เป็นวิชาที่ไม่ค่อยเปิดเผยให้ทราบกัน เด่นทางคุ้มครองป้องกันทำลายสิ่งไม่เป็นมงคลทั้งหลายในชีวิตเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เกจิยุคโบราณมักจะทำใส่เทพศาสตราวุธด้วยว่าใช้ล้างอาคมได้ทั้งสิ้นแม้ศัตรูเรามีของดีอะไรคุ้มครองอยู่จะทำให้อยู่คงหนังเหนียวหากโดนเทพศาสตรานั้นหนั่งย่อมอ่อนนุ่มดั่งสำลี ทั้งหากโดนทำร้ายแล้วอาคมที่รักษาก็หาได้ทรงอยู่อีกไม่ ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้แปลงมาใช้รักษาปัองกันตัวโดยท่านติดใส่องค์ฉัตรแก้วเพื่อใช้พิฆาตทำลายผู้มุ่งร้ายหวังร้ายแก่เรา ไม่ว่าเขาจะมีอาคมดีมีวิชามีความเก่งกาจมาจากไหน เมื่อมาถึงเรามาถึงรัศมีองค์ฉัตรท่านว่านั่นแหละแพ้หลุดลุ่ยหาทางไปไม่เป็นทีเดียว ติดเอาไว้ให้พิฆาตอาถรรพ์ชั่วร้ายหรืออาคมอันกล้าแกร่งใดๆที่เล่นงานเราอยู่ที่เขาใช้ให้กระทำมาจะได้ปัดเสนียดให้พ้นตัวสยบอัปมงคลต่างๆข่มอาถรรพ์ทำลายอาคม ถอดถอนสิ่งแปลกปลอมในตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเป็นตะกรุดดอกเล็กๆนี้อย่าได้ดูถูกไปเอาว่าฉันไม่พูดมาก ฉันบอกแค่ว่าเจ้าดอกจิ๋วนี่แหละแม้ผู้มากฤทะฺ์จิตวิญญาณทั้งหลายหรือเทพเกเรก็ยังทนอานุภาพเขาไม่ได้ เช่นนี้ท่านจึงติดไว้เสริมกำลังคู่กับองค์ฉัตรเพื่อให้เราใช้ยามคับขันแก้ไขสถานการณ์อันฝ่าออกไปได้ยากลำบากท่านว่าจะได้ไม่ติดอะไร ...อาถรรพ์ใดๆทำแก่เราก็พินาศดับสูญทั้งสิ้น
    - ปลาตะเพียนเงินคำ ปลาเพียร(หา)เงินทอง ด้วยปลาเป็นสื่อตัวแทนของโชคลาภวาสนาใหญ่โตต่อเนื่องไม่ขาดตอนที่พ่ออาจารย์ท่านลงเสกด้วยวิชาตะเพียนเงินตะเพียนทองตามตำรับหลวงพ่อจงไว้ด้วย วิชาเสกปลานี้ท่านว่าเหมือนมีโชคลาภชอนไชเข้ามาในชีวิต คนที่ไม่มีดวงทางการเสี่ยงโชค ซื้อให้ตายก็ไม่ถูกเล่นยังไงก็เจ๊งท่านว่านี่ดีครบหมดเลย เป็นมหาอุดมอย่างมากท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกให้เต็มที่ท่านว่าเสกจนเต็ม จนเสกไม่เข้า และนำมาอธิษฐานจิตเสกปิดในฤกษ์จันทรคราสที่ร้อยปีนับจากนี้ก็ไม่มีจันทรคราสเช่นนี้อีก ด้วยถือเป็นมงคลเอาฤกษ์เอาชัยว่าคนที่ได้ไปชีวิตจะได้เหมือนจันทร์เต็มดวงที่ผุดเกิดขึ้นมาใหม่บนท้องฟ้าที่มืดดับ(องค์ฉัตรนี้จึงมีครบทั้งเครื่องมงคลที่เสกในฤกษ์อุปราคาทั้งสอง)

    องค์ฉัตรนี้ท่านเน้นเป็นฉัตรเก้าชั้นด้วยใครบูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิตการงานแม้มีอุปสรรคใดขวางกั้นก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ก้าวหน้าคือเจริญรุดหน้าก้าวไกลก้าวไวกว่าใครเขา ทั้งยังเสกให้หาทรัพย์เก็บทรัพย์ได้ไม่มีรั่วไหล คนที่อุปสรรคมากมารเยอะท่านให้อาราธนาฟ่าฟันทุกวิกฤตทุกปัญหานำพาชีวิตสู่จุดหมายที่ตั้งใจได้ ### องค์ฉัตรนี้จะดึงดูดพลังงานด้านบวกเข้ามาเสมอให้มีกินไม่รู้สิ้นมีกินมีใช้ไม่ขาด คนไม่มีโชคจะมีโชคโชคลาภเงินทองจะเข้ามาแบบไม่คาดฝัน เมื่อจะถอดยามนอนหลับให้อาราธนาไว้หัวนอนจะป้องกันฝันร้ายทำให้ฝันดีและฝันเห็นนิมิตมงคลของเรา,ฝันเห็นช่องทางการทำมาหากินที่จะทำให้รวย..เทวดาท่านจะบอกจะให้ลาภลอย

    คาถาบูชา
    ปราบศัตรู พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
    บรรเทาเวรกรรมดูดทุกข์โศก ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ


    *** องค์ฉัตรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาลแต่จะคงอยู่ไปนับกัปกัลป์ ให้บูชาติดตัวเอาไว้เสมอไม่จำเป็นอย่าถอดเลย ### หากปักลงที่บ้านทั้งสี่สิศจะเจริญรุ่งเรืองดั่งได้วาสนาเข้าอยู่ในราชวัง...หากปัลงในที่ดินทั้งสี่ทิศท่านว่าเป็นการจับจองบอกกล่าวแก่เทพยดาที่ดินเรานั้นจะเจริญรุ่งเรืองดั่งมหานคร...หากปักไว้สี่ทิศรอบบริเวณใดที่นั้นจะเป็นกรรมสิทธิ์แก่เราเป็นเขตหวงห้ามวิญญาณร้ายคุณไสยสิ่งไม่ดีเข้าใกล้ไม่ได้เลย ท่านว่าองค์ฉัตรนี้ใช้ได้สารพัดสุดแต่แรงครูท่านจะนิมิตให้เรารู้เราเห็นว่าควรอาราธนาอย่างใด รายการนี้ท่านให้จองทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา องค์ฉัตรแก้วสุรกานต์นพสูรย์สุริยคราส"ดับปรปักษ์"(ดูดทุกข์โศกโรคภัย) บูชา 2,500 บาท

    106171525-1451316811743820-2094243521457841860-n.jpg 83236156-2604679046412136-3554620581278682625-n.jpg
    105594417-558643834801537-2530892860484450941-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าโองการสี่กรปกปิดกรรมซัดป้องปัดเคราะห์เข็ญ(แกะจากไม้ท้าวโองการบรมครู)

    ไม้ท้าวโองการบรมครูของพ่ออาจารย์นั้น เมื่อนำมาสร้างพระเครื่องท่านว่าจะเน้นแก้คนที่พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดทำอะไรก็ติดๆขัดไม่ได้เสมอใจดั่งนึกประเภทคนที่พบเจอแต่ความผิดหวังเหล่านี้...ทั้งเรื่องเงินขาดมือ..ทรัพย์ขาดบ้าน..จิตใจทดท้อห่อเหี่ยวด้วยชีวิตเจอกับอุปสรรคที่ถาโถมหนักขึ้นเรื่อยๆ...ดวงที่ตกก็มีแต่หดลงๆทำอะไรก็ไม่สมหวัง พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนนี่ถึงกับปลงไปเลยก็มีเพราะเจอมาจนชินมันเซ็งไปหมดแล้วชีวิตนี้คิดแค่จะอยู่ไปวันๆเท่านี้ไม่ต้องไปแสวงหาพยายามอะไรเพราะทำไปมันก็ติดก็ข้องก็ขัดไปเสียทั้งหมด จะออกไปสมาคมกับใครก็พูดไม่เข้าหูแทนที่จะได้มิตรกลายเป็นสร้างศัตรูทะเลาะกับคนอื่นสะสมมาเรื่อยๆ ถ้ามีคู่หาคนรักก็เจอแต่ฉาบฉวยไม่ไยดียิ่งยุ่งมากทรัพย์ก็ยิ่งจางลงๆชีวิตจมจ่ออยู่กับความเศร้าและปัญหาที่รุมเร้าทุกสิ่ง *** พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่พบเจอกับปัญหารุมเร้าจนชีวิตมีอันเป็นไปย่ำแย่ถึงเพียงนี้ต้องแก้ด้วยอาถรรพ์ไม้โองการ(ไม้ครู) พ่ออาจารย์ท่านว่าในบรรดาเครื่องมงคลทั้งหมดของท่านนั้นไม้ครูถือเป็นเครื่องมงคลระดูบสูงสุดเสมือนด้วยเป็นของสูงที่ไม่อาจจับต้องด้วยเป็นตัวแทนบรมครูสูงสุดในโลกทิพย์ คนที่ถือครองไม้ครู ถือครองโองการบรมครูก็มีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังแรงครูนั้นได้ เมื่อนำไม้ครูมาสร้างเครื่องมงคล เครื่องมงคลนั้นจึงถือเป็นเครื่องสูงที่ยากจะพบซักคราในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลที่แกะจากไม้ครูนี้ใช้แก้ปัญหาข้างต้นได้ทั้งสิ้น ในสายวิชาของฉันถือว่าเป็นของสูงที่อยู่เหนือกว่าวิชาสายพิชัยสงครามค่าควรเมือง(ซึ่งเป็นเครื่องสูงที่นานๆครั้งพ่ออาจารย์จะทำซักรุ่น)เสียอีก เช่นนั้นท่านจึงย้ำว่าไม้โองการนี้สุดแต่จะคิดปรารถนานึกใช้กันทีเดียว

    ท่านว่าเครื่องมงคลที่ฉันแกะจากไม้ท้าวโองการนี้เป็นสุดยอดเครื่องมงคลที่ใช้เคลื่อนผ่านพลังงานของโลกทิพย์ ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องกล่าวว่าทำเอาไว้ให้เจ้านายชั้นสูงแม่ทัพพระยาจึงจะมีวาสนาได้เห็น ด้วยพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจและมั่นใจของท่านมากเพราะท่านนำมาใช้อาราธนาห้อยคอด้วยตัวท่านเองและเจอประสบการณ์กับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนจึงมั่นใจมากที่สุดว่านี่คือมงคลแทนครูที่มีกำลังหนุนนำผู้บูชาให้ประสบพบเจอแต่ความเจริญโดยฝ่ายเดียว พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าท่านใช้พระที่แกะจากไม้โองการนี้(ใช้แทนไม้ครูหลังจากนำมาแกะพระแล้ว)ท่านใช้มานานมากเวลาเจอเรื่องราวไม่สบายใจหรือมีเหตุการณ์ใดที่เกินกำลังก็อธิษฐานบอกกับองค์พระท่านจากร้ายก็จะกลายเป็นดีทุกครั้งชั่วพริบตาไม่ช้าไม่นาน กล่าวได้ว่าอธิษฐานขอบารมีองค์พระสงเคราะห์คนรายไหนรายนั้นชีวิตเขาก็มีทางออกมีทางไปไม่ตีบตันเลย เพราะมันดีมันสะดวกจนไม่พบกับทุกข์ใดๆก็เลยไม่รู้จะเอาเรื่องร้ายๆอะไรมาเล่าท่านว่าก็พูดสั้นๆได้แค่ว่า"ดี"เท่านี้ หากใครที่พบเจอกับเคราห์เข็ญเวรกรรมอันก่อให้เกิดโทษเกิดทุกข์ขึ้นกับชีวิต ท่านว่าให้อาราธนาพระเจ้าโองการสี่กรเถิด...ไม่เกินสี่เดือนสรรพเข็ญสรรพเคราะห์ที่หนักหนาจะคลี่คลายทุเลาเบาหายเจือจางลงดั่งหยดน้ำหมึกสีดำเข้มลงทะเลที่จะหยดจะสาดเท่าไหร่ก็เปลี่ยนสีน้ำในทะเลไม่ได้ ทั้งพระเจ้าโองการยังส่งเสริมราศีและเส้นกรรมการดำเนินชีวิตให้ประสบพบลาภเป็นมหานิยมเทวดาเอ็นดูนักหนา ชนะศัตรูคลาดแคล้วจากภัยทั้งปวง..พ่ออาจารย์ท่านว่า"ปกปิดป้องปัด"เข็ญเคราะห์ทุกสิ่ง

    "ไม้ท้าวโองการบรมครู" พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นไม้วิเศษที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ท่านว่าเป็นไม้ท้าวที่ขรัวแสงเคยใช้และมอบให้กับสมเด็จโต...สืบกันมาจากยุคสู่ยุค พ่ออาจารย์ท่านนำมาใช้เป็นไม้ครูประจำตัวด้วยรับรู้แก่ใจดีว่าไม้นี้มีอิทธิฤทธิ์เหลือคณามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงรักษา..เมื่อถือไว้เอ่ยเอื้อนสิ่งใดมักจะกลายเป็นเรื่องจริงดั่งโองการพระเจ้าที่พูดสิ่งใดก็เป็นไปตามปากเช่นนั้น *** ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงปิดวาจาไม่ค่อยกล่าวอะไรมากมายนักด้วยกลัวปากพลั้งเผลอไป ท่านว่าไม่ใช่ฉันกลัวเผลอพูดไม่ดีแต่กับไม้ครูนี่แม้ให้พรใครก็ให้ชุ่ยๆไม่ได้เราจะไปเจหน้าใครก็อวยพรเขาทุกคนยิ่งไม่ได้ เพราะทุกสิ่งจะเป็นไปตามปากดั่งโองการพระเจ้าเช่นนั้นทั้งหมด เป็นไม้ครูที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้บูชาในทุกๆเรื่องด้วยอธิษฐานได้ตามใจไม่ต้องมีคาถาใดๆกำกับจึงต้องระวังในการใช้งานอยู่มากแต่โบราณมาครูบาอาจารย์ที่ครองครองรุ่นสืบรุ่นก็ได้ใช้อวยพรให้คนสามัญเคลื่อนเป็นคนใหญ่คนโตนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศมากมากมายทั้งไม้นี้ยังมีอาถรรพ์ใครเห็นก็อยากจะจับอยากจะได้ไว้ในครอบครอง(ท่านจึงถือเป็นเคล็ดทางมหานิยมดั่งแค่เห็นก็เกิดอยากเดินเข้ามาดูเข้ามาลูบมาหยิบ) ด้วยอาถรรพ์แฝงของตัวไม้ท้าวเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นอิทธิคุณแฝดในการดึงดูดผู้คนและเรียกลาภเรียกโชควาสนามาสู่ผู้ครองครอง ***ท่านว่าสมัยก่อนนะนานนักหนาแล้วฉันยังเล่นหวยอยู่บ้างวันดีคืนดีอยากเห็นฤทธิ์ไม้ครูโองการงวดไหนงวดนั้นถือไม้ครูเดินไปหยิบไม่เคยพลาดซักใบฉันก็ตั้งสัจจะหยิบทุกงวดมันก็เข้าทุกงวดไม่รางวัลใดก็รางวัลหนึ่งหยิบจนบอกแก่ตัวเองและครูบาอาจารย์ว่าฉันพอแล้ว..เห็นแล้ว..ไม่เอาแล้ว(ท่านว่าฉันทดลองของฉันพอแล้ว) ตัวไม้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านเองไม่อยากเดาเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นไม้อะไรรู้แต่ผ่านมือครูบาอาจารย์จากรุ่นสู่รุ่นซึ่งมั่นใจได้อยู่อย่างหนึ่งว่าเป็นไม้ทนสิทธิ์มีดีเหนือดีมีความวิเศษอยู่ในตัวเอง ผู้ที่มอบให้ก็บอกเล่าต่อๆกันมาลดลาตัดทอนจากไม้อะไรก็เหลือแต่เพียงว่าเป็นไม้ฟ้าผ่าคือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ดั่งฟ้าประทานลงมาให้เช่นนั้น ครูบาอาจารย์แต่โบราณใช้กันมาเสกกันมาหลายรุ่นท่านว่าผู้ใดถือครองจะมากวาสนาดั่งพระเจ้าโองการสั่งฟ้าสั่งเกณฑ์ชะตาตนได้ ไม้ครูที่มีอาถรรพ์เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเกิดแล้วตายใหม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอชิ้นที่สองท่านถือใช้มานานหลายสิบปีจนมีนิมิตแปลกประหลาดเห็นไม้ครูหักออกเป็นท่อนๆ ท่านจึงถามครูองค์ปฐมว่าเกิดสิ่งใดขึ้นจึงรู้ว่าเทวดาเขาอยากให้เราเอาไปแกะพระจะได้แบ่งกันไปใช้อนุเคราะห์สัตว์ผู้ยาก พ่ออจารย์ท่านจึงได้สละไม้ครูคู่บารมีด้ามนี้(ท่านว่าแม้เราเองก็ยังทำใจอยู่นานจะบอกไม่หวงก็ไม่ได้เพราะเป็นของรักของฉัน เมื่อเเกะเมื่อเสกแล้วในส่วนของเราเองจึงห้อยไว้ไม่ห่างคอเช่นนี้) ท่านจึงได้ขอบารมีพระใหญ่คือองค์ปฐมว่าจะแกะเป็นแบบพิมพ์ใดดีจะทำพระอะไร...ด้วยไม้นี้เป็นไม้โองการที่ใช้สื่อสารติดต่อกับครูกับพระเป็นเจ้าเบื้องบนผู้ครอบครองย่อมเข้าถึงซึ่งขุมพลังแห่งอำนาจแรงครูจะใช้มัวเมาฝูงชน...หรือเพิ่มพูนตบะเดชะวาสนาบารมีแก่ตนแลผู้อื่น...จะอาราธนาต่อชะตาชีวิต...เปิดหนทางชีวิตให้ก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองย่อมได้ทั้งสิ้นท่านจึงต้องขอมติจากองค์ปฐมบรมครู


    พระสี่กรที่เป็นสื่อผ่านถึง"คุณ"ครูทั้งหลาย
    สมเด็จองค์ปฐมท่านโองการให้พ่ออาจารย์ใช้ไม้ครูแกะเป็นพระพิมพ์สี่กรมีลักษณะปัดหน้าปิดหลัง"ปกปิดปกป้อง" เพื่อจะได้ใช้อาราธนาปิดเคราะห์..ปิดโศก..ปิดอุปัทวเหตุจัญไรทั้งปวง แลจะได้ป้องกันภูติผีปีศาจอาถรรพ์สิ่งอัปมงคลไม่ให้กรายใกล้ ท่านว่าพระพิมพ์นี้ภูติผีอสูรร้ายแค่เห็นก็ขยาดสั่นกลัวเข้าใกล้ไม่ได้เลย(ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านพูดติดตลกไว้เมื่อท่านอาราธนาพระพิมพ์ด้วยตนเองอยู่เสมอว่าถ้าเขาอยากตายซ้ำตายซากอยากตายรอบสองสามสี่ก็ให้เข้ามาเถิด) ด้วยองค์พระนี้ท่านปิดท่านกันทั้งหมดที่ตาเรามองไม่เห็นไม่ว่าจะเป็นเทวดามิจฉาทิฏฐิภูติผีปีศาจคุณคนคุณไสยลมเพลมพัด..แม้สิ่งที่มองเห็นมีรูปกายเหล่าคนพาลความคิดวิกลจริตมุ่งร้ายทั้งหลายก็ปัดทิ้งไป พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากห้อยประทับติดตัวก็ล้างเสนียดจัญไรและสิ่งอัปมงคลออกจากตัวได้..หากร่างกายเจ็บป่วยมีอาการผิดปกติดใดๆก็ขอบารมีองค์พระกดลงไปบริเวณนั้นเช่นนี้ก็หาย..คนทรามคนพาลเข้าใกล้ไม่ได้เลยพ่ออาจารย์ท่านว่าหากเราอาราธนาองค์พระอยู่แล้วเห็นใครหงุดหงิดฉุนเฉียวข้างกายเราให้รู้ตัวได้เลยว่าในกายเขามีพลังงานไม่ดีอยู่จะโปรดเขาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเรา(ถ้าเขาไม่เชื่อก็อย่าไปทำ) ยิ่งพวกผีเข้าเจ้าสิงปอปลงมีคุณไสยในตัวจะยิ่งร้อนรนออกอาการชัดมากที่สุด

    องค์พระสี่กรนี่มีพุทธคุณแฝด
    ### ท่านว่าสี่กรคือคุณซ้อนคุณมีพุทธคุณเหนือกว่าพระพุทธรูปใดๆในสายของพ่ออาจารย์ ดั่งว่าเป็นกายทิพย์ในกายทิพย์ซ้อนกันลงไปของสมเด็จพระชินวร จะอาราธนาใช้ดับทุกข์เข็ญเปิดทางกิจการสิ่งใดท่านว่าสุดแต่จะใช้ *** แต่จำเอาไว้ว่าอย่าไปให้พรหรือไปสาปไปแช่งใครให้หมั่นเอาดีใส่ตัวให้พรตัวเองอยู่เช่นนี้(ไม่ต้องถึงกับพูดไปเรื่อยพูดพร่ำเพรื่อ) ท่านว่าติดคอเอาไว้เถิดไปได้กลับได้ไม่ตายโหงจะบังเกิดโชคลาภมีเงินทองไม่ขาดมือ คนที่ไม่มีก็จะมี..คนที่มีก็จะพึงเพิ่มพึงหาจนพอกพูนรักษาทรัพย์เอาไว้ได้มั่นคงยืนนานกิจที่ทำจะเจริญรุ่งเรือง # พ้นวิกฤตรอดชีวิตด้วยปฐมพุทธบัญญัติ ด้วยไม้ครูโองการพระเจ้านั้นเป็นของสูงท่านว่าหากถือครองไม่คิดชั่วมัวเมาอกุศลแล้วเมื่อถึงกาลกิริยาชีพดับสูญเบื้องบนเขาจะมารับตัวเพราะครูบาอาจารย์ท่านถือว่าไม้ครูเล่มนี้เป็นของสูงเหรือธรรมชาติไปแล้วผู้ครอบครองย่อมถือเป็นคนของครูบาอาจารย์เช่นกัน

    พระสี่กรทวีทับถม...ได้สองเท่า
    พระสี่กรจะมีพุทธคุณต่างจากพระพิมพ์อื่นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่า
    องค์พระพิมพ์นี้เน้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เรื่องที่เหนือวิสัยมนุษย์เหนือธรรมชาติดั่งพระชินสีห์เจ้าแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์เช่นนั้น พุทธคุณจะหนุนส่งอายตนะผู้ถือครองให้มีโสตสัมผัสพิเศษ(ท่านว่ารู้เองเห็นเองบางวันจะมองเห็นเงาขาวเงาดำเจ้าที่เจ้าทางก็อย่าได้ตกใจเขาทำอันตรายเข้าใกล้เราไม่ได้) โดยรวมแล้วท่านว่าจะมีศักยภาพมากกว่าคนปกติ...ที่องค์ปฐมบรมครูท่านเน้นให้สร้างพระสี่กรนั้นก็เพื่อจะเปลี่ยนชีวิตพื้นๆของคนธรรมดาให้เหนือกว่า..มากกว่าธรรมดา ดุจมีกายทิพย์ซ้อนกายทิพย์รักษาปกปักให้รอดพ้นทุกเภทภัยทุกปัญหาและอุปสรรค ด้วยองค์พระมีสัญญาและกำลังจิตวิญญาณที่ครูบาอาจารย์จากรุ่นสู่รุ่นส่งต่อกันสู่ไม้ครูสถิตย์อยู่ทุกองค์...ยามใดที่เกิดโรคระบาดข้าวยากหมากแพง โลกกระสับกระส่ายด้วยวิกฤตการณ์พิศดารประกอบด้วยภัยพิบัติภัยธรรมชาติแลทุพภิกขภัยฝูงชนจะอดอยาก...พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสี่กรนั้นเหมาะสมที่สุดด้วยจะป้องกันเหตุเภทภัยอันตรายทั้งปวงคุ้มดวงนำโชคดึงลาภได้ครบในสถานการณ์ที่โกลาหลมากที่สุดก็ยิ่งจะหนุนให้วิกฤติเป็นโอกาสเปิดชะตาเราได้มากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสี่กรนั้นสมบูรณ์แบบถ้าใช้เป็นจะอาราธนาคุ้มคนทั้งเมืองก็ยังทำได้ ยิ่งคนที่ต้องการอำนาจได้อาราธนาจะยิ่งอยู่เหนือกว่าคนทั้งหลายเลื่องลือระบือนาม เมื่อกำองค์พระสวดมนต์ภาวนาบทสวดใดๆก็ดีมนต์ทั้งหลายจะยิ่งทวีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาหนุนให้เกิดสมาธิเกิดอำนาจแห่งจิตทวีคูณ ท่านว่าพระสี่กรนั้นลงหนึ่งแรงแต่ได้สองเท่า จะทำอะไรก็ตามผลที่ได้ย่อมได้รับกลับมามากมายท่วมท้นพ้นประมาณ แม้องค์พระปรากฏขึ้นที่ใดสิ่งชั่วร้ายภูติผีปีศาจหรือพลังงานด้านลบจะถูกกำจัดขับไล่ออกไปจากที่แห่งนั้นดลให้เกิดแต่อำนาจของมงคลนำมาซึ่งความผาสุข เวลาอธิษฐานสิ่งใดกับองค์พระท่านก็จะนำคำขอของเราสู่โลกทิพย์ให้คำเรานั้นสำเร็จโดยเร็ววัน ..พ่ออาจารย์ท่านว่าถือพระสี่กรอยู่พูดอะไรเทวดาย่อมมีใจยินดีรับฟัง

    ด้านในองค์พระบรรจุหัวใจพระสี่กรเป็นแร่ธาตุพิศดารหลายตำรับที่ครูองค์ปฐมให้พ่ออาจารย์ท่านรวบรวมไว้ล้วนแต่มีอำนาจเผาผลาญทำลายล้างอาถรรพ์ร้ายทั้งปวงให้มลายสิ้นไม่เหลือซาก องค์พระนี้แม้จะอาราธนาแช่น้ำทำน้ำมนต์ท่านว่าก็ย่อมทำได้แม้ภูติผีตัวใดที่เก่งเกินจะไล่เฮี้ยนเกินจะขับหากต้องน้ำสรงองค์พระสี่กรนั้นท่านว่าดั่งจะดับดวงวิญญาณจะตายซ้ำตายซากเอาเช่นนี้(พ่ออาจารย์ท่านจึงกำชับว่าไม่จำเป็นก็อย่าไปทำเขาเลย) ..นอกจากนี้น้ำสรงองค์พระสี่กรเมื่อเราดื่มกินด้วยตนเองยังจะกลายเป็นน้ำมนต์พลิกชะตาชีวิตกำจัดทุกข์โศกโรคภัยมลทินโทษทั้งหลายให้มลายหายสิ้นไปได้อีกทางหนึ่ง ด้วยอำนาจพุทธคุณจะปัดเป่าอาถรรพ์ทำลายคุณไสยขับไล่ภูตผีปีศาจ ทั้งขจัดอุปสรรคและตัวขวางทรัพย์..เป็นมหาระงับแก่เคราะห์หามยามร้าย..เหตุ..เภทภัยและภยันตรายทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราลองชีวิตไม่มีอุปสรรคทรัพย์ก็เข้ามาสะดวก จะเอาอะไรก็เข้ามาโดยง่ายทั้งสิ้น แต่ถ้าจะเอาความเจริญรุ่งเรืองทางโภคทรัพย์นำลาภสักการะเรียกผู้คนที่ดีมีวาสนาเข้ามาสู่ชะตาท่านว่าก่อนจะทำน้ำมนต์ก็บอกองค์พระท่านก่อนว่าจะให้สงเคราะห์ทางไหนถ้าเราไม่บอกก็จะหนักไปทางทำลายอาถรรพ์เสียอย่างเดียว *** ทั้งองค์พระนี้เมื่ออาราธนาติดกายแล้วยังมีผลพิเศษอีกประการหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะช่วยเร่งเร้าในคำอธิษฐานของผู้บูชาให้ส่งผลรวดเร็วทันใจ(เวลาเราขอพรกับสิ่งศักิด์สิทธิ์ทั้งหลาย) ตราบเท่าที่ความศรัทธาไม่แห้งเหือดเงินทองจะหลั่งไหลมาไม่หยุด...จะอาราธนาใช้เรียกคนก็ทำได้ ถ้าบูชาองค์พระด้วยข้าวตอกดอกไม้จะบังเกิดลาภสักการะไม่รู้อดรู้อยาก..ถ้าจุดดวงประทีปถวายองค์พระสิ่งที่ปรารถนาจะเห็นผลทันตา...ถ้าหวังผลในโภคทรัพย์ให้การใช้ชีวิตสะดวกราบรื่นศัตรูหมู่มารที่มุ่งร้ายกลับกลายเป็นมิตรให้ถวายน้ำอบน้ำปรุงสรงองค์พระท่านว่าชื่อเสียงจะระบือไกลทำสิ่งใดก็สะดวกไร้กังขา โดยรวมความแล้วสุขสันติและมงคลจะเกิดขึ้นนับจากนี้ไป
    - องค์พระสี่กรจะดูแลรักษาเครื่องมงคลวิเศษในร่างกายของเราชิ้นอื่นๆไม่ให้กำลังเสื่อมถอย
    - สามารถอาราธนาองค์พระเสริมฤทธิ์เพิ่มพลังอำนาจให้แก่วัตถุมงคลทั้งหลายของเราเองได้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
    - สามารถอาราธนาองค์พระขอบารมีแรงครูเป็นสะพานเชื่อมต่อกับวัตถุมงคลต่างๆที่เราใช้อยู่ได้
    - เปิดบารมีให้เราคู่ควรและเข้าถึงในของอันเป็นของเรา ให้สมบัติคงอยู่กับเราตลอดไป
    - เสริมบารมีให้คนต่ำต้อยครอบครองของสูงค่าได้
    - เสริมวาสนาของคนและสิ่งของให้เสมอกัน ไม่ล้ำเหลื่อมจนนำมาซึ่งความวิบัติ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระสี่กรนั้นอาราธนาใช้ได้หลายทางจะรู้เองเห็นเอง ตัวท่านบอกคร่าวๆได้เพียงเท่านี้ ด้วยองค์พระท่านจะทำให้ชีวิตเราลงตัวและพอดี ท่านว่าตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปองค์พระเราจึงอธิษฐานบอกกล่าวให้ใช้สงเคราะห์เป้นพิเศษทางความราบรื่นในหนทางของแต่ละคน ..### ให้ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ใจต้องการ


    ผงเสด็จ..
    เมื่อบรรจุหัวใจแล้วจึงปิดด้วยยอดผง พ่ออาจารย์ท่านว่าในองค์พระสี่กรนั้นจะหามวลสารธรรมดาซักอย่างหนึ่งเป็นไม่มีแม้ผงวิเศษที่เอามาอุดฐานปิดทับแร่หัวใจวิเศษนั้นยังใช้ผงเสด็จที่เกิดขึ้นเอง
    ยามที่พ่ออาจารย์ท่านเขียนผงลบมวลสารตามสูตรองค์ปฐม ท่านว่าผงลบกระดานนั้นงอกเงยเพิ่มปริมาณได้เองซึ่งท่านก็เคยเห็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่ผงนั้นงอกเงยเองได้ด้วยพุทธานุภาพ ท่านจึงเรียกผงชุดนี้ว่าผงเสด็จ(เสด็จมาเพิ่มเองได้ในขวดที่ปิดสนิท) ท่านว่าผงชุดนี้แรงเป็นเคล็ดวิเศษที่ใช้ในทางงอกเงยเพิ่มพูนทุกๆสิ่งที่ปรารถนา ผงชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่นำพาออกมาสร้างอะไรเลยด้วยท่านกล่าวเสมอว่าผู้ครอบครองต้องมีวสานาสัมพันธ์กันในคุณองค์ปฐมท่าน เรียกได้ว่าต้องมีวาสนาถึงจะได้ถือครอง ผงงอกเงยผงเสด็จนี้แค่พกไว้จะปรารถนาสิ่งใดเพียงอธิษฐานบอก..ทุกความปรารถนาจะสำเร็จดั่งว่าผลอันงอกงามนั้นเสด็จมาเอง มาเกย มารออยู่ถึงที่ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำอะไรก็ไม่เปลืองเเรงนะ เพราะเขาจะเสด็จมาเอง มารอเอง เราไม่ต้องเดินไปหาเลย มันสะดวกถึงเพียงนี้ เช่นนั้นท่านจึงจัดอยู่ในหมวดผงอันตรายด้วยว่าของมีคุณอนันต์ย่อมมีโทษมหันต์ท่านกลัวคนใช้จะขี้เกียจไม่เอาการเอางานท่านจึงเก็บเอาไว้ผสมอุดเฉพาะพระสี่กรนั่นเอง ท่านว่านี่แหละแรงครูเขาคุมอยู่ เอาว่าคนทำมาหากินลืมตาอ้าปากได้ง่ายๆสบายๆดั่งมีราชรถมาเกยทีเดียว

    องค์พระสี่กรนั้นอาราธนาเพื่อให้ได้รับชัยชนะในทุกทิศพิชิตได้ในทุกเรื่อง...อธิษฐานเปิดปากดั่งพระเจ้าโองการสำเร็จสมดั่งใจ มากด้วยพรรณคุณพิเศษเพราะธาตุที่บรรจุในองค์พระเป็นธาตุบรรลุจะเรียกสิ่งที่ตนปรารถนาเอามาได้...ท่านว่าทำได้แม้แต่เบิกบุญเก่ามาใช้(แต่ท่านไม่แนะนำ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญใหม่ให้สร้างไปเรื่อยๆเช่นนี้ดีกว่าอย่าไปแตะของเก่า) อยากจะได้อะไรก็บอกองค์พระ เวลาตนเองทำบุญก็บอกองค์พระเพื่อให้เทวดาร่วมอนุโมทนาเช่นนี้ ด้วยองค์พระนั้นมีคุณแห่งบรมครูสุดพิศดารตามแต่จะอาราธนาโปรดสัตว์ทั้งขจัดภัย..กันอุปสรรค..เบิกโชคลาภ...เบิกดวง...เบิกบุญ ท่านว่าใช้ได้ทุกทางอธิษฐานกันให้ดีๆอย่าทำเป็นเล่นเป็นลิงทะโมนด้วยตัวไม้ครูนี้ท่านรับสัจจะกับองค์ปฐมไว้ว่าไม่ครบตามกำหนดระยะเวลา...กี่ปีจะเผยแผ่ออกไปไม่ได้เลย ท่านว่าบัดนี้ก็ครบแล้วได้ฤกษ์แล้วสมควรแล้วที่จะใช้ไม้ท้าวโองการพลิกชีวิตมนุษย์ผู้มีวาสนาพานพบ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใจมุ่งเอาดีทางโลก สนุกแต่ทางสร้างฐานะ ให้อาราธนาองค์พระให้ดีเถิดครูเบื้องบนท่านว่าจะเปิดทางให้รวยถึงเจ็ดชั่วโคตร เปลี่ยนชีวิตให้สูงให้อยู่ใหกินในที่สูงไม่ลงมาต่ำ

    บรรจุพระนาม
    องค์พระสี่กรแต่ละพระองค์นั้น จะมีนามของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ไม่ซ้ำกันเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านให้บรรจุพระนามด้วยบารมีแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นๆและทำพิธีจุติบารมีให้อานุภาพลงในพระสี่กรก่อนสวดคาถาตามสูตรวิชา(พ่ออาจารย์ท่านสงวนไว้)
    ด้วยการจุติแห่งพุทธบารมีนั้นผู้ครอบครองจะเจริญรุ่งเรืองด้วยโชคลาภวาสนาเงินทองต่างๆ ## แม้ยาจกเข็ญใจคนยากไร้พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเคยสร้างพระแบบนี้ให้ไป(แต่ไม่ได้มีอาถรรพ์เช่นไม้ท้าวครูโองการ)แม้ขอทานก็ยังได้คนอุปถัมภ์จนเดี๋ยวนี้มีทรัพย์มากถึงขนาดบริจาคที่ดินสร้างวัดของตนเองได้ นี่เรียกว่ามีชะตาพุ่งสูงไม่ลงมาตายในที่ต่ำอีกต่อไป ครานี้องค์ปฐมท่านก็ให้ทำการจุติบารมีสู่องค์พระสี่กรเนื้อไม้ครูโองการอีกคำรบหนึ่ง ด้วยอานุภาพแห่งนามพระสัพพัญญูเมื่อกาลก่อนๆนั้นแม้องค์พระสถิตย์อยู่ที่ใดย่อมเกิดความร่มเย็นเป็นสุขในสถานที่แห่งนั้น หากอาราธนาติดตัวย่อมเกิดสิริมงคลอย่างมากแก่ผู้ถือครองจะขออำนาจพุทธบารมีให้ท่านเมตตาอย่างใดก็สุดแล้วแต่เถิด พ่ออาจารย์ท่านเปรยเอาไว้ว่า "คนที่คิดสูงหวังสูงให้ชีวิตตนสูงขึ้น" อย่าได้ประมาทพลาดพลั้งเลย

    คาถาบูชา
    โอมปลุกปลุกลุกลุกกูจะปลุกพ่อครูไม้ท้าวโองการพระเจ้า โอมปลุกมหาปลุก กูจะปลุกไม้เท้าพ่อครูด้วย พุทธัสสะปูชามหาเตชะวันโต ธัมมัสสะปูชามหาปัญโญ สังฆัสสะบูชามหาโภคะวาโห โลกะนาโถ อิมินาสักกาเรนะ ปฏิปัตติปูชายะ นะมะอะอุ สิวังพรหมมา จิตติจิตตังมานิมา จิตตังวา ปุพพังวา พันธังวา วิเลปะนังวา ราชกุมาโรวา ราชะกุมารีวา อัคคมเหสีวา เทวีวา ราชาวา ราชาโนวา เศรษฐีโนวา สะมะโนวา พราหมมะโนวา อิตถีวา ปุริโสวา วานิชโชวา วานิชชาวา เอหิเอหิปะถะตา อะหังวันทามิสัพพะทา


    *** องค์พระสี่กรนั้นท่านนำมาลงรักทุกองค์ท่านว่าเป็นเคล็ดดั่งคำว่า "หลงรัก" ซ้อนกฤติยาคมแฝดทั้งจะได้รักษาเนื้อไม้ครูให้เจริญถาวรไปได้นานขึ้น ### องค์พระนั้นเมื่อจะแช่ทำน้ำมนต์หรือนำไปใช้อย่างใดก็ดีท่านว่าควรเลี่ยมกันน้ำเอาไว้ก่อนจะดีที่สุด รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พระนามขององค์พระพุทธเจ้าที่จุติบารมีประจำพระองค์แต่ละองค์นั้นจะแจ้งเฉพาะเจ้าของอีกทีหนึ่ง(ท่านว่าห้ามเลือกให้เป็นไปตามบุญสัมพันธ์กัน) รายการนี้ท่านว่าไม่ต้องแจ้งชื่อประสิทธิอะไรทั้งสิ้นเพราะข้างบนเขาเลือกคนของเขาเองทั้งวาสนาบารมีพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์หรือแรงครูแห่งไม้ครูโองการทุกอย่างจะบรรจบเลือกตัวเจ้าของด้วยตัวเองจึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระแสแห่งกาลโอกาส ปัจจัยร่วมบริจาคทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาศสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าโองการสี่กรปกปิดกรรมซัดป้องปัดเคราะห์เข็ญ(แกะจากไม้ท้าวโองการบรมครู) บูชา 4,000 บาท

    106671101-2948265621938997-7726861766869307101-n.jpg 106134979-2708320089494673-5851128051299363610-n.jpg 106417484-216686316115529-2417156886885325915-n.jpg
    106400766-3021895624602996-154752991139022541-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญคลี่คลายกรรมวณิพกภิกษาฏนะมูรติ (พ่อยอดขอทานล้างบาป)

    ในสมัยหนึ่งเมื่อพระเป็นเจ้าสูงสุดต้องเร่ร่อนล้างบาปกรรมด้วยการเป็นขอทาน...เมื่อครั้งที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)ได้แสดงอำนาจผ่านเสาศิวลึงค์ พระองค์ได้ทรงโกรธกริ้วในความไม่ซื่อสัตย์ของพระพรหมจนเกิดเป็นพระมหากาลไภรวะขึ้นที่พระนลาฏออกมาตัดพระเศียรที่ห้าของพระพรหม ด้วยเศียรที่ห้านั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเย่อหยิ่งอหังการและหลงใหลก่อเกิดเป็นพรหมรากษสจำนวนมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากพระโอษฐ์ที่โอ้อวดตนว่ากำเนิดขึ้นเอง เป็นผู้สร้างจักรวาลจึงยิ่งใหญ่กว่าผู้ใดไม่มีที่สิ้นสุด...ด้วยการตัดเศียรพระพรหมผู้ถือกำเนิดขึ้นจากความบริสุทธิ์จึงเป็นความผิดบาปมหันต์ที่เรียกว่าพรหมาหัถยากลายเป็นพลังแห่งบาปเคราะห์ที่ถาโถมกลับคืนไปสู่พระกาลไภรวะ เศียรที่ห้าแห่งองค์พรหมได้กลายเป็นถ้วยกปาลติดอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ซ้ายชองพระศิวะเหนียวแน่นจนไม่สามารถสะบัดออกได้ ...หนทางที่จะล้างบาปมหันต์นั้นองค์พระสยมต้องจาริกออกภิกขาจารแสวงบุญ ในส่วนพระพรหมนั้นก็ได้ทําพิธีล้างบาปที่เกิดขึ้นจากอหังการด้วยการบูชาไฟและสวดพระเวทอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระโอษฐ์ทั้งสี่ของพระองค์

    ด้วยถ้วยกปาล(เศียรที่ห้าแห่งพรหม)เป็นบาปกรรมที่บังคับให้องค์ไภรวะต้องเคลื่อนไปเป็นขอทานซึ่งปราศจากทรัพย์สินติดตัวเพื่อจะไม่ได้ใช้ทรัพย์ส่วนพระองค์ในการล้างบาป พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดต้องลงมาเร่ร่อนเนื้อตัวเปลือยเปล่าขอทานอาหารเพื่อประทังชีวิตอย่างเต็มตัว(พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการใช้กรรมอย่างสาหัสนัก) ทั้งบาปพรหมาหัถยาที่พระองค์ได้กระทำไปยังจุติกลายเป็นรูปหญิงชั่วสกปรกน่าเกลียดน่ากลัวคอยย้ำเตือนบาปติดตามไปทุกหนแห่งทั้งสุนัขขาวอันเป็นตัวแทนของความถือดีหยิ่งยโสทะนงตนแห่งพรหมก็ได้ติดตามคอยกินน้ำเลือดน้ำหนองที่ไหลออกมาจากถ้วยกปาล การเดินทางล้างบาปของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ไม่ได้ไปเพียงองค์เดียวเท่านั้นหากแต่ยังนำเหล่าคณะ(เทพสาวกในองค์พระศดาศิวะเจ้า)ติดตามไปด้วย *** จึงเป็นที่มาของยอดขอทานผู้เดินทางล้างบาปที่แม้เทพยดาเจ้ายังน้อมค่อมตัวลงกราบไหว้บูชา

    เมื่อกลายเป็นยอดขอทานที่ต้องภิกขาจารแสวงบุญในนาม“ภิกษาฏนะมูรติ” การเริ่มต้นล้างบาปไปทั่วทั้งสามโลกจึงได้เกิดขึ้นแต่บัดนั้น..พระองค์ต้องเดินไปขอทานอาหารตามบ้านทีละหลังไม่ว่าจะบ้านไหนหญิงสาวใดเมื่อได้เห็นรูปขอทานของพระเป็นเจ้าย่อมหลงใหลไปกับพระองค์ออกเดินร้องรำตามส่งเป็นขบวน จากการขอทานล้างบาปเล็กๆก็กลายเป็นขบวนยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงภิกขาจารไปถึงป่าวนตารุกะในที่นั้นทรงได้ทรมานเหล่าฤาษีทั้งหลายผู้ลุ่มหลงในกามให้สงบระงับไป ยอดขอทานทรงเที่ยวจาริกไปทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลแม้นในแดนอสูร..แดนเทพ..ภพภูมิที่สลับซับซ้อนทั้งหลายพระองค์ทรงไปเยี่ยมเยือนเพื่อล้างบาปกรรมทั้งสิ้นจนล่วงไปถึงเกษียรสมุทรแห่งองค์นารายณ์ซึ่งทวารบาลนามว่าวิศวากะเสนาปฏิเสธไม่ให้ชาติขอทานเข้าเฝ้าพระเป็นเจ้า ยอดขอทานจึงได้สังหารทวารบาลและเสียบโครงกระดูกไว้ที่ตรีศูลทำให้พระองค์ได้รับนามใหม่ว่ากังกาละมูรติผู้ถือไว้ซึ่งโครงกระดูก ### ด้วยการสังหารทวารบาลนี้ทำให้บาปกรรมของพระองค์รุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อได้เข้าไปพบองค์พระวิษณุเพื่อขอทานอาหารองค์พระนารายณ์จึงได้ถวายเลือดของพระองค์ในมื้อแรกเป็นทานบูชาแก่พระศิวะเจ้าและองค์นารายณ์ยังได้ตัดเส้นเลือดบนหน้าผากพระเป็นเจ้าให้เลือดไหลลงสู่ถ้วยกปาลเป็นอาหารในมื้อต่อๆไป..เมื่อจบกิจแห่งการบริจาคแล้วพระองค์ได้ทูลให้พระไภรวะซึ่งได้สร้างบาปอันยิ่งใหญ่ด้วยการประหารพระพรหมและฆ่าทวารบาลแห่งบ้านที่มาภิกขาจารล้างบาปนั้นให้เสด็จไปหาพระแม่คงคา(แม่น้ำคงคา)ที่ตั้งอยู่ในเมืองพาราณสีเพื่อล้างบาปทั้งหมด ...เมื่อทรงเร่ร่อนได้สิบสองปีพระผู้เป็นเจ้าจึงได้เดินทางสู่พาราณสีไปชำระล้างบาปในแม่น้ำคงคาด้วยเหตุนี้บาปเคราะห์ทั้งมวลจึงถูกชำระล้างจนหมดสิ้น ผลแห่งการชำระล้างบาปนั้นถ้วยกปาลอันเกิดจากศรีษะแห่งพรหมก็ได้เคลื่อนหลุดไปจากมือพระองค์ทั้งทวารบาลวิศวากะเสนาที่เสียบอยู่ที่ตรีศูลก็ได้คืนชีวิตกลับมาใหม่...แม้นนางพรหมาหัถยาอันตามย้ำเตือนหลอกหลอนพระเป็นเจ้าก็ได้เดินทางลงไปสู่ยมโลก องค์พระศิวะเจ้าจึงได้กลับเพศจากขอทานคืนสู่ความสง่างามแห่งพระผู้เป็นเจ้ากลับสู่ศิวาลัยไกรลาส

    ยอดขอทานผู้ล้างบาปมหันต์โทษ
    ด้วยโองการพระเป็นเจ้าที่ประสงค์จะล้างบาปกรรมอันเกินเรื่องเกินควรแก่ชะตามนุษย์ พ่ออาจารย์จึงได้ทำยอดขอทานไว้โดยท่านกำหนดปั้นหุ่นเทียนให้ตรงตามตำรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อยอดขอทานนี้ต้องเปลือยกายปล่อยผมรกยาวรุงรังเป็นก้อนเป็นลอนประดับกายด้วยสร้อยโครงกระดูกยกถ้วยกปาล(ศรีษะพรหม) เช่นนี้จึงจะเป็นรูปขอทานในอาถรรพ์การดับล้างบาปทั้งสามโลกธาตุแห่งพระเป็นเจ้า ด้วยรูปนี้จะมีสตรีทั้งเจ็ดอันเป็นภรรยาของสัปตฤๅษีและเหล่าภูติเหล่าเทพอันได้ชื่อว่าคณะศิวะสาวก(อินทร์พรหมแลเทพเจ้าทั้งปวง)คอยตามอารักขา พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดขอทานต้องทำปางร่ายรำถือเคล็ดว่าใช้สุขกลืนทุกข์ได้..กลืนบาปกรรม..กลืนความผิดบาปได้ทั้งสิ้น ด้วยยอดขอทานบันเทิงร่ายรำในขบวนแห่ของเหล่าสาวกเป็นเคล็ดต่อต้านบาปเคราะห์ดั่งบาปกรรมไม่สามารถขัดความสุขใดๆของพระองค์ได้

    รูปอาถรรพ์แห่งยอดขอทานนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่
    ามีอาถรรพ์เหนือกว่ารูปใดๆเช่นชูชกเหล่านั้นเสียอีก เพราะเป็นรูปที่มีคุณหลายด้านแม้คนเห็นก็เคลิบเคลิ้มหลงใหลยินดีในตัวเราถึงขั้นไร้สติเดินตามกันไป ทั้งวิชาสร้างยอดขอทานของครูพระสยมนั้นยังเป็นของการล้างบาปไปทั่วทั้งสามโลกด้วยยอดขอทานอันปรากฏรูปว่าครั้งหนึ่งนั้นพระเป็นเจ้าสูงสุดได้กระทำฉากแห่งวงจรชีวิตคลี่คลายบาปเคราะห์อันร้ายแรงทั้งปวง ### ครูพระสยมท่านโองการเอาไว้ว่าต้องแช่ต้องเสกในน้ำที่ได้จากแม่น้ำคงคาถึงสิบสองปีตามเวลาที่ท่านจาริกแสวงบุญนั่นจึงจะถือว่าทำได้สำเร็จมีอานุภาพล้างบาปมหันต์โทษในชีวิตทั้งปวงให้เคลื่อนให้หลุดออก การจะสร้างเครื่องมงคลสายล้างบาปที่ให้อานิสงค์ใหญ่ *** ท่านว่าเป็นการจาริกล้างบาปทั้งสามโลกธาตุล้างบาปมหันตโทษได้ทุกชนิดในคติไสยเวทย์แห่งครูพระสยม เครื่องรางนี้จะต่างจากสิ่งที่ใช้ล้างบาปกรรมทั่วๆไปในชั้นต้นเช่นนั้นการจะสร้างจึงไม่ใช่ของง่ายครูพระสยมท่านต้องให้พ่ออาจารย์มนต์(เสก)ด้วยเวทย์ดึกดำบรรพ์เป็นร้อยบทจนบังเกิดอักขระศักดิ์สิทธิ์เป็นชุดๆประทับเข้าไปในตัวพ่อยอดขอทานต้องทำไปเรื่อยจนเต็มวิชาใช้เวลาถึงสิบสองปี จึงครบตามอาถรรพ์เวทย์ได้พ่อยอดขอทานที่มีกำลังยิ่งใหญ่ไม่ขาดตกบกพร่องมีกำลังแรงกล้าไม่มีวันดับ อำนาจการดับล้างบาปในทุกระดับ(ความร้ายแรง)จะแผ่จากพ่อยอดขอทานมาสู่ตัวเราสะสมไปเรื่อยๆเพื่อให้เราได้ใช้กำลังของท่านเปลี่ยนวงโคจรทางเดินของชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอดีตชาติจะทำกรรมใดไว้หนักหนาทั้งจากกรรมปัจจุบันสมทบเข้าไปอีกจึงต้องใช้เครื่องลางที่มีอำนาจโดยตรงทางล้างบาปเด็ดขาดดังนี้เพื่อเปลี่ยนชีวิตที่ขาดกำลังและที่พึ่งให้สะดวกสบายไม่มีความลำบาก ดั่งมีครูมีที่พึ่งคอยล้างบาปเพื่อให้เราตักตวงสิ่งที่ปรารถนาได้ไม่มีวันหมดสิ้นจะปรารถนาสิ่งใดก็มีหมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆอยู่ตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานเอาได้เลย เพราะยอดขอทานนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ล้างบาปพ่อท่านยังเป็นผู้ให้และผู้ทำลายสิ่งที่ขวางหนทางสำเร็จของเราแบบไม่เกรงบาปกรรมอีกด้วย(ดั่งที่ท่านสังหารทวารบาลแห่งพระวิษณุเพื่อขอทานให้สำเร็จ) พ่อล้างบาปยอดขอทานนี้จึงใช้ขอได้ทุกเรื่อง ขอได้ไม่เลือก แม้อยู่กับตัวเราก็จะได้พบสิ่งที่ปรารถนาโดยเร็ววันจะสมหวังในชีวิตยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยผ่านมา พ่ออาจารย์ท่านเชิญปฐมดวงจิตแห่งพระเป็นเจ้าลงมากำกับทั้งแบ่งกำลังสู่เหรียญยอดขอทานนี้จึงมั่นใจได้ว่าเหรียญนี้จะมีอาการสามสิบสองพร้อมที่จะสดับรับรู้ความต้องการของลูกๆไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร..ติดกรรมอะไรขอให้บอกท่านไปตรงๆด้วยหน้าที่ของท่านคือการล้างบาปสูงสุดท่านจึงไม่เลือกว่าจะเป็นเรื่องหนักหนาร้ายแรงที่เกิดจากความผิดบาปสักปานใดท่านช่วยแบบไม่มีถือตัวตั้งแต่เรื่องสูงไปจนต่ำ

    พ่อยอดขอทานนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำเร็จเป็นเครื่องรางที่ใช้ง่ายพกง่ายจะพกไว้ส่วนใดก็ได้ขอให้โดนเนื้อโดนตัว ยิ่งมีกรรมมีบาปเป็นขวากหนามชีวิตมากยิ่งต้องสัมผัสเนื้อตัวคือเลี่ยมใช้แบบเปิดเพื่อให้ถูเนื้อถูตัวเลยยิ่งดี จะใช้ทางสะกดจิตสะกดใจคนก็ได้จะล้างบาปปัดภัยในกรรมที่ไม่อาจแก้ไขได้เพื่อหลีกเลี่ยงจุดวิกฤติของชีวิตเรียกว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่องตามเหตุที่พึงจะเป็นไปได้ ด้วยเป็นรูปอาถรรพ์ที่เป็นดั่งขุมพลังแห่งการล้างและอภัยบาปทั้งหมดต่อหน้าพ่อผู้ประเสริฐ เป็นขุมกำลังแห่งพระเวทย์ในสายล้างบาปทุกแขนงของครูพระสยมจึงบันดาลได้ทุกสิ่งแบบปราศจากเงื่อนไขในอันที่จิตมนุษย์ผู้ใช้นั้นปรารถนาในเหตุปัจจัยที่เป็นไปได้ พ่อยอดขอทานจะปราบศัตรูอย่างร้ายกาจและเติมเต็มความปรารถนาที่เราขาดไถ่ถอนเคราะห์กรรมและหนี้สินหนี้ชีวิตทั้งปวงที่อดีตเราหลงผิดเดินเหยียบย้ำผิดทางออกนอกลู่นอกทางเช่นนี้ ยอดขอทานท่านจะเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเรียกว่าขาดอะไรก็ได้อย่างนั้น กรรมใดที่ปิดกั้นทำให้วาสนาเราไม่ดีไม่ได้ท่านจะดูดกลืนรับความผิดบาปนั้นไว้เองเพราะรูปท่านเป็นรูปอาถรรพ์แห่งการชำระล้างบาปกรรมอันเป็นมหันตโทษทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าตามไสยเวทย์นี่ถ้ามีรูปและวิชานี้อยู่ติดตัวบาปกรรมจะไม่ออกฤทธิ์ออกเดชอย่างใดเลย ยิ่งสัมผัสเนื้อตัวยิ่งให้ผลมากท่านไม่ได้ช่วยแค่บรรเทาไปเป็นพักๆช่วงๆแต่พลังของพ่อขอทานคือรับและชำระแทน ชำระทิ้งไปให้เสื่อมให้สูญให้สลายในจังหวะที่ความผิดบาปนั้นตามเล่นงานเราไม่เลิกรา

    นอกจากนี้พ่อยอดขอทานยังเป็นเครื่องรางแห่งการขอที่ขอได้ทุกสิ่ง ท่านบอกว่าชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไว้"ขอ"สำหรับคนที่ความต้องการมากและอยากขอแบบไม่หยุดไม่เหนื่อย..มีเรื่องให้พึ่งเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พัวพันมากมายก็ต้องขอกับพ่อยอดขอทานนี้ด้วยท่านถือคติว่าขออะไรแล้วย่อมได้ทุกอย่างแม้ต้องคร่าชีวิตก็ต้องได้รับมา คือท่านจะช่วยเราให้ได้ทุกสิ่งแบบไม่เลือกวิธีเลยจะดลบันดาลโชคลาภให้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นเมตตามหานิยมอย่างล้นเหลือและสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค เปลี่ยนชีวิตให้ถึงพร้อมทั้งเสน่ห์..โชคลาภ..ข้าวปลาอาหารความสุขสบาย..ที่อยู่อาศัยปัจจัยสี่ถึงพร้อมด้วยบริวารมากมาย ***พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดขอทานของท่านนั้นไม่ใช่เราต้องบากหน้าไปขอจากผู้อื่นนะ แบบนั้นเอาไว้ให้พวกหน้าหนาเขาใช้ ยอดขอทานนี้อยากได้อะไรก็ขอกับองค์พ่อได้เลยด้วยท่านเป็นผู้เสียสละถ้าเอาไปใช้ทางทำมาหากินก็ได้ชื่อว่าเก่งที่สุด จะขอโชคขอลาภก็แม่นที่สุด...ด้านหลังท่านอุดด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ชำระล้างบาปกรรมเอามาทำวิชานวดกับน้ำจากต้นสายพระแม่คงคาที่พลีอธิษฐานจิตมาเพื่อใช้ทางชำระล้างดับสูญบาปกรรมทั้งปวง ผงนี้เน้นหยุดความฝืดเคืองในชะตาชีวิตเปลี่ยนคนให้มีกินอิ่มหนำสำราญไม่อดอยาก จะเป็นเมตตาทำอะไรก็ง่ายเข้าหาใครก็สะดวก จะเอาพ่อไปขอเปลี่ยนชีวิตด้านใดไม่ว่าจะขอเอาทรัพย์สินเงินทองโภคทรัพย์ลาภสมบัติท่านว่านี่งานง่ายๆของท่านเลยเพราะหน้าที่ของพ่อยอดขอทานท่านก็เดินขอจนท้องอิ่มไม่มีใครกล้าขวางจะถามทางโภคทรัพย์ก็มีบารมีเต็มสมบูรณ์ ทั้งเรื่องเมตตาความสงสารหลงใหลก็ไม่มีสิ่งใดเกินไปกว่านี้ *** ท่านว่าที่เราให้ขอกับพ่อยอดขอทานไม่ต้องไปขอกับผู้อื่น เพราะว่าถ้าลองขอกับใครเดี๋ยวเขาจะหลงๆงงๆมาตามเอ็นดูอุปถัมภ์เชื่อลมปากเราไปทั้งชีวิต จะของานขอเมียขอบ้านขอความมั่นคงใดๆก็ตามก็ให้ขอกับองค์พ่อท่านว่าจะได้มาง่ายๆบางสิ่งจะได้แบบคาดไม่ถึงทั้งเวลาได้ย่อมได้มากกว่าคนอื่น..ได้มากกว่าครั้งใด..ได้มากกว่าขอกับใคร..ได้สิ่งที่ปรารถนาสมปรารถนามากมายนับไม่ถ้วนทันตาทันใจ จะใช้ขอเก็บขอเกี่ยววาสนาอะไรก็ตามแต่ใจจะขอจะถึงซึ่งวาสนามีให้เก็บเกี่ยวไม่รู้หมด ทั้งอำนาจพ่อยอดขอทานยังต่างจากเครื่องรางอื่นๆ "ด้วยขอแล้วต้องให้ แม้นไม่ยินยอมพร้อมใจให้จะต้องตาย" ท่านมีอำนาจบังคับคนและขจัดอุปสรรคแก่เราได้จึงวางแลว่างเรื่องปัญหาลงไปได้เลย รูปพ่อขอทานนี้เป็นรูปอาถรรพ์กุมอำนาจแห่งการขอทุกสรรพสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าขอไปในทางที่ดีแก่ชีวิตตนนั้นขอไปเถิดท่านช่วยไม่ได้อยู่เรื่องเดียวคือขออายุคนถึงที่ตายเท่านั้น

    เมื่ออาราธนาพ่อยอดขอท่าน ### ชีวิตย่อมมีผลแรงมากเป็นลูกโดด
    จักจำเริญรุ่งเรืองอย่างแรงไม่มีสิ่งใดให้คลางแคลงสงสัยเลย ด้วยมีอาถรรพ์มีตัวตน
    ทั้งพ่ออาจารย์ยังทำวิชายาวนานมาถึงสิบสองปีเสกให้ถึงจิตถึงใจเต็มสูตรตามที่ครูพระสยมท่านโองการดั่งคำว่าปลุกจนลุกเสกจนเดิน ญาณของพ่อยอดขอทานนั้นคุมได้ทั้งโลกนี่แหละยอดนักขอของแท้ที่ดึงเอาเทวดามาเดินตามรับใช้ต้อยๆ จะขออะไรคนเขาก็ให้..แม้ไปขอเทวดาด้วยเดชพ่อยอดขอทานเขายังต้องทูนหัวเข้ามาให้ เครื่องรางพ่อยอดขอทานนี้ท่านทำไว้เพื่อช่วยคนที่ชีวิตตกอับดวงชะตาตกต่ำโดยเฉพาะ..คนที่เป็นหนี้เป็นสิน..คนที่ยากจนข้นแค้น..คนที่อยากลืมตาอ้าปาก นั่นแหละท่านว่าค่อยเอาพ่อยอดขอทานไปใช้ เอาว่าขอกับท่านเถอะยิ่งขอยิ่งได้เพราะวิชาพ่อยอดขอทานนั้นทำไว้เพื่อเลื่อนฐานะคนให้มีฐานะดีเป็นมหาเศรษฐี..เลิกจน..เลิกตกต่ำจะได้ยกตนให้เสมอคนอื่นไม่มีจุดปิดแยกแบ่งกั้นฐานะทางสังคมยกฐานะให้อุดมทรัพย์ให้ขอได้..ขอกิน..ขอใช้..ขอล้างผลาญอุปสรรคใดๆขอได้ไม่มีวันหมด..เวลาเราขอท่านก็เหมือนเราไปเติมบารมีให้ท่านได้สงเคราะห์เรา แบบนี้ต่างคนต่างได้มีแต่ดีกับได้ ...เอาพ่อยอดขอทานใส่ที่เก็บเงินเงินก็ล้นก็เต็มเอามาแนบกายห้อยคอรึจะลงเอวตามสะดวกนี่ก็เป็นเคล็ดเรียกลาภสักการะ ถ้าบาปกรรมตามหลอกหลอนแล้วทุกข์มากจะเรื่องหนี้สิน..ตกงาน..ทำกินลำบาก..ชีวิตฝืดเคืองท่านว่าเอาเหล้าเซ่นพ่อยอดขอทานซักแก้วแล้วจุดธูปเก้าดอกบอกท่านอย่างช้าสุดไม่เกินสามวันเจ็ดวันปัญหาย่อมคลี่คลาย เป็นเคล็ดให้สิ่งที่ปรารถนาสำเร็จผลไวที่สุด พ่อยอดขอทานนี้ใช้ยกชีวิตให้ร่ำรวยใหญ่..ใช้นำความเจริญรุ่งเรื่องมั่งคั่งโถมเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านรับรองว่ารายไหนรายนั้นจะเจอเหตุอัศจรรย์ใจปรากฏให้เห็นไม้ช้าเลย

    ฝังไก่เถื่อนเจ้าฟ้าพญาแถน
    ย้อนกลับไปในอดีตกาลอันยาวนานนับหาประมาณกาลเวลามิได้ เมื่อพระกกุสันโธเสวยพระชาติเป็นไก่ป่านั้น ในกาลต่อมาก็มีการนำชื่อสัตว์เหล่านั้นมาตั้งเป็นนามของพระพุทธเจ้า เป็นรูป เป็นนาม เป็นอาการสามสิบสองของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสปะ พระโคตโม พระศรีอริยเมตไตย เช่นนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำพญาไก่เถื่อนตามตำรับสมเด็จพระสังฆราชสุก ให้ทรงคุณวิชาสูงสุด..ขลังที่สุด ท่านจึงได้เอ่ยอ้างอดีตชาติแห่งสมเด็จพระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นปฐมพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ พร้อมเชิญบารมีของพระองค์อาราธนามาสำเร็จเครื่องมงคลเพื่อให้ได้พญาไก่เถื่อนที่มีอานุภาพสูงสุด..มีอานุภาพมาก แม้ผู้ใดได้บูชาเป็นนิจสินก็จะเกิดลาภสักการะทั้งยศฐาบริวารไหลหลั่งมามิรู้ขาด ทำมาค้าขึ้น กิจการที่ประกอบล้วนราบรื่นเป็นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรค แม้จะทำนา ทำสวน ทำไร่ผลการเกษตรก็เจริญงอกงามดี ทั้งทำให้บังเกิดสติปัญญามีมโนสำนึกแจ่มใสดุจพระพุทธโฆษาจารย์อันได้ชื่อว่ามีปัญญามากในหมู่สงฆ์ทั้งหลาย ถ้าอาราธนาติดตัวไว้เวลาจะเดินทางไปหนใด ไปทำกิจการงานใดหากมีอันตรายก็ให้คลาดแคล้วจากภัยทั้งหลายดีนักแล หากบูชาอย่างมีสติหมั่นสั่งสมคุณงามความดีตามหลักวิธีองค์คุณสมบัติของพญาไก่เถื่อน ในบั้นปลายก็จะบรรลุพระนิพพานด้วยเมตตาบารมีนี้เอง



    ในยุคสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เห็นจะมีแต่สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) ที่ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวิชานี้ เพราะท่านสามารถใช้คาถาจนไก่ป่าเดินเข้ามาจิกอาหารจากมือท่านได้ แม้ท่านเดินไปที่ใดไก่ป่าที่ได้ชื่อว่าตื่นกลัวมนุษย์อย่างถึงที่สุดก็เดินตามท่านไปเป็นฝูง ด้วยไก่ป่านี้มีนิสัยปราดเปรียว มักจะคอยหนีคนหนีภัยอย่างเดียวเพราะเชื่องกับคนยาก แต่ท่านก็ยังสามารถเสกข้าวด้วยเมตตาให้กินจนไก่ป่าที่หวาดกลัวภัยของมนุษย์นั้นเชื่องได้ ท่านปฏิบัติตามองค์คุณแห่งไก่ป่าจนถึงซึ่งมรรคผลนิพพานเป็นที่สุด เกี่ยวกับวิชาไก่ของพ่ออาจารย์นั้น ท่านว่าไก่เป็นสัตว์ให้คุณที่มีสัญลักษณ์ต่างๆตามร่างกายอยู่ 5 ประการ คือ
    - ตัวไก่ หมายถึง ความขยัน ทำมาหากิน
    - หงอนไก่ หมายถึง สติปัญญา
    - เดือยไก่ หมายถึง อาวุธ
    - การต่อสู้ หมายถึง ความกล้าหาญ
    - การขันตอนเช้า หมายถึง ความยึดมั่น
    ดังนั้น เมื่อท่านทำไก่แก้วพญาแถนหรือไก่เถื่อนของเจ้าสวรรค์ ท่านจึงใส่ใจในองค์คุณทั้งหมดของวิชาไก่เป็นพิเศษ ท่านว่าหากเสกให้มีชีวิตจิตวิญญาณลงอาการสามสิบสองเฉยๆใครก็ทำได้ แต่การสร้างไก่ให้เพียบพร้อมด้วยคุณทั้งห้าจนแสดงผลตอบสนองแก่ผู้ใช้นั่นแหละ จึงจะเป็นไปได้ยาก ในเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ตรงตามคุณห้าประการนั้น ทำให้ได้ดั่งที่สมเด็จพระกกุสันโธท่านรับสั่งไว้ เพื่อให้ได้ไก่แก้วที่เก่งที่สุด

    พญาไก่เถื่อนที่พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงคาถาวิชาโบราณเรียกอักขระคาถาแผ่นจารทั้งตัวขอม ตัวธรรม ทั้งเวทย์สวรรค์ ทั้งอักษรปัลวะหล่อหลอมขึ้นมานั้น ท่านว่าชนวนมวลสารมีไม่มากทำได้น้อย ท่านจึงหลอมออกมาเป็นตัวเล็กๆเพื่อให้ง่ายต่อการพกพา อันพญาไก่นี้นอกจากดีด้านทำมาหากิน คือหากินง่าย หากินเก่ง กินไม่เหลือ กินไม่เลือก เรียกว่าโชคลาภอยู่ที่ไหนก็พร้อมขุดคุ้ยกันจนกว่าจะเจอแล้ว แม้นผู้ใดได้อาราธนาท่านว่าให้สังเกตุดูนะวันนั้นเจ้าจะมีสติ มีคติ มีมโนสำนึกที่แจ่มใส มีกำลังใจสูงส่งอย่างน่าประหลาด ก็ไอ้กำลังใจตัวนี้แหละที่จะเปลี่ยนชะตาคนได้จะดูดดึงมงคล ลาภสักการะ และเรื่องราวดีๆที่มันตรงกับความคิด ความต้องการจะเข้ามาหาเจ้าได้ทำอะไรก็ล้วนสำเร็จด้วยกำลังใจทั้งสิ้น ทั้งยังทำให้มีปัญญามากดั่งพระพุทธโฆษาจารย์ด้วยคติและสติพร้อมมโนสำนึกนั้นใสกระจ่างแล้วนั่นเอง ทั้งคุณแห่งไก่ป่านั้นยังขันขานได้ไพเราะนัก ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านยกคุณสมบัติไว้ว่าเสียงไก่ป่าขันดุจเสียงสาลิกาสวรรค์ ดังนั้นวิชาไก่เถื่อนที่เสกเต็มวิชาจึงเป็นทั้งเมตตามหาเสน่ห์ เป็นทั้งอาถรรพ์ทำให้วาจาคำพูดนั้นน่าฟังน่าเชื่อถือยิ่งกว่าลงสาลิกาใดๆ ทั้งยังเป็นอาถรรพ์ที่จะปลอบประโลมสิ่งมีชีวิตแลจิตวิญญาณรอบด้านให้ผ่อนปรน ให้รู้สึกสบายตัวอย่างน่าประหลาดด้วยวิชาไก่เถื่อนแท้ๆนั้นเป็นกระแสเมตตาเจโตวิมุติที่ใช้เพื่อปลดปล่อยพันธนาการจิตวิญญาณของตนเองและผู้อื่นโดยถ้วนทั่ว ด้วยการปลอบประโลมนี้สรรพสัตว์ มนุษย์และเทวดาทั้งหลายล้วนจะเกิดความรู้สึกดี ความปรารถนาดี ความเมตตาแก่เจ้าของไก่เถื่อนนี้ตามคติวิชาเมตตามหานิยมขั้นสูงสุด เป็นกระแสเมตตาเจโตวิมุติที่ชุมเย็นเป็นที่สุด นอกจากนั้นท่านว่าเสียงไก่ธรรมดายังใช้ปลุกคนได้ แล้วเสียงขันพญาไก่เถื่อนนั้นเล่า พ่ออาจารย์ท่านถึงกับอุปมาไว้ว่า"กลในไก่ขันให้คนตื่น" ด้วยคำๆนี้ เฉพาะคำๆนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีค่ายิ่งยวดนักเพราะคำๆนี้สมเด็จพระกกุสันโธท่านรับสั่งไว้ อุปมาดั่งชีวิตที่เงียบสนิท ชีวิตที่หลับใหล ไร้สีสัน ไร้ชีวิตชีวา คือชีวิตที่หยุดความก้าวหน้าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแล้ว ชีวิตเหล่านี้ล้วนแต่จะตื่นขึ้น ตื่นเพื่อเจริญก้าวหน้า ตื่นพ้นจากอวิชาและอกุศลกรรมทั้งหลาย ด้วยอาถรรพ์คุณวิชาพญาไก่เถื่อนนี้เองอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการตื่นทางโลกียะ อีกส่วนหนึ่งคือการตื่นขึ้นทางโลกุตระโดยนัยยะของคำพูดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามันกว้างมากนะ ถ้ามีสติพอจะระลึกได้ คงรู้ว่าการตื่นนั้นหมายถึงการตื่นรู้ ตื่นจากความเป็นปุถุชนกลายเป็นอริยบุคคล ตื่นจากห้วงทุกข์เข้าสู่พระนิพพานดุจดั่งสมเด็จพระสังฆราชสุกเช่นนั้น นี่คือการตื่นตามองค์คุณพญาไก่เถื่อนอย่างแท้จริง

    เช่นนั้นวิชาพญาไก่เถื่อนนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดว่าทำได้ยากและมีความลึกซึ้งมากนัก ถ้าไม่ได้สมเด็จพระสังฆราชสุกแลบารมีสมเด็จพระกกุสันโธแล้ว จะทำไก่เถื่อนนี้ให้เต็มวิชาได้คงหาใครที่ทำสำเร็จไปกว่าทั้งสองท่านแล้วเป็นไม่มี นอกจากนี้อำนาจพญาไก่เถื่อนยังได้ชื่อว่าเป็นตบะเดชะยิ่งนัก หากพูดถึงตบะแล้วหลายคนจะนึกถึงตบะเสือหากแต่ตบะของพญาไก่เถื่อนที่ใช้สะกดสรรพชีวิตนั้นเป็นตบะที่เกิดจากพลังเมตตาต่างจากตบะที่น่าหวาดกลัวของสัตว์อื่น ทั้งคุณแห่งวิชาพญาไก่เถื่อนของพ่ออาจารย์นั้น ท่านว่าให้พกติดตัวไว้เถิด ใจเราจะเกิดลางสังหรณ์พิเศษที่เรียกว่าญาณหยั่งรู้ขึ้นมา ไอ้ญาณตัวนี้นั้นสำคัญนักเพราะอาจสามารถรู้ใจคนได้ รู้ความคิด รู้น้ำใจของเค้าที่จะปรากฏชัดอยู่ในความรู้สึกของเราดุจพญาไก่เถื่อนที่รู้กลิ่นตัวคน รู้ว่าใครมาดีมาร้ายหมายชีวิตเช่นนั้น เมื่อหยั่งรู้น้ำใจผู้อื่นแล้วท่านว่าให้เชื่อความรู้สึกตัวเองเป็นที่สุดเถิดแล้วจะรู้ว่าใครเขาร้ายหรือดีกับเราและเราควรจะปฏิบัติตอบเค้าเช่นใด และด้วยอำนาจแปลกประหลาดของไก่เถื่อนเจ้าฟ้าพญาแถนนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติภูติผีปีศาจจะเกรงกลัวไก่เถื่อนนัก มงคลไก่เถื่อนนี้ก็เช่นกันผีร้าย วิญญาณบาปทั้งหลายล้วนเกรงกลัวจะตกตายด้วยอำนาจพญาไก่ยิ่งนัก ที่สำคัญที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญเหนือกว่าผีเลยก็คือคน เพราะคนนี่แหละที่เลี้ยงผี ทั้งผีที่เป็นวิญญาณ กับผีในจิตใจที่คิดโทษให้ร้ายรังแกคนอื่น ท่านว่าด้วยอาถรรพ์พญาไก่เถื่อนที่ท่านลงไว้นี้นับว่าแปลกมาก เพราะใครมีผีในใจ ใครที่มาร้ายไม่หวังดีกับเรา ถึงเขาจะมาได้แต่เขาล้วนล้มหมด ท่านว่าคนล้มสมัยนี้ลุกยากนะ มันยิ่งกว่าแพ้ภัยตัวเองเสียอีกเพราะหากชีวิตเขาล้มแล้วย่อมไม่เหลืออำนาจใดๆมารังแกเราอีกเลย นี่คืออาถรรพ์แห่งพญาไก่เถื่อนที่จะมาเปลี่ยนชีวิตคน นั่นคือไม่ว่าใครก็ข่มเราไม่ได้ ล้วนล้มหายตกต่ำไปทั้งสิ้นพ่ายแพ้แก่อำนาจเรา

    พ่ออาจารย์ท่านนอกจากจะเสกไก่ให้เป็นมหาภูติมีชีวิตแล้ว ท่านยังลงคุณห้าประการให้ครบเพราะตั้งใจจะทำไว้ให้คนยกระดับขยับฐานะกัน เขาจะได้ลืมตาอ้าปากได้ด้วยการทำมาหากิน โชคลาภวาสนาการเงินนั้นสำคัญ และไก่เถื่อนก็มีความสามารถทางขวนขวายทรัพย์จะเห็นได้จากคนโบราณที่สังเกตจากพฤติกรรมของไก่มาประกอบเปรียบเทียบไว้ว่าไก่ฝูงหนึ่ง มักมีตัวผู้เป็นจ่าฝูงเพียงตัวเดียว แต่มีตัวเมียล้อมรอบนับสิบ นี่จึงเป็นกฤติยาคมแฝดทางมหาเสน่ห์ ทั้งยังสื่อว่าแม้บุรุษเพียงคนเดียวก็ยังหาเลี้ยงภรรยาได้นับสิบ พญาไก่เถื่อนนี้จึงเก่งทางขวนขวายทรัพย์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้ บอกได้แค่เก่งมากจนเหลือกินเหลือใช้เผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ทุกชีวิต ด้วยอานุภาพไก่เถื่อนมีคุณดั่งแก้วสารพัดนึก นึกสิ่งใดย่อมสมปรารถนาในสิ่งนั้นทุกอย่าง ขอเพียงให้ศรัทธาเชื่อมั่นไว้เถิด จะเกิดลาภผลอย่างประเสริฐ ทั้งเป็นทางอยู่ยงคงกระพัน เป็นเมตตา เป็นมหาอำนาจ มีตบะเดชะครบถ้วน แม้มีบูชาไว้และหมั่นภาวนาพระคาถาให้ได้ทุกวันแล้วไซร้ย่อมเป็นเจ้าคนนายคน ไม่มีวันอับจน มีผู้คนเมตตาอุปถัมภ์โดยตลอดแล แต่ทั้งนี้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องพื้นๆ ท่านว่าจริงอยู่ที่เสกไก่พยนต์เป็นไก่ฟ้า ไก่แก้ว ใช้ได้ทั้งการป้องกันตัว ข่มภูติผีปีศาจทั้งหลาย แต่ถ้าหากทำไก่อาคมทั้งทีแล้วทำได้ดีเพียงเท่านั้น ท่านกึงกับพูดไว้ว่า "เราถือว่าน่าผิดหวัง" พญาไก่ของพ่ออาจารย์นี้ท่านเรียกว่ามงคลฟื้นวาสนา เพราะท่านตั้งใจทำให้วาสนาที่หดหาย จืดจางลงด้วยเหตุผลอันประกอบด้วยปัจจัยหลักๆหลายด้านเช่นเหตุผลทางเศรษฐกิจ การเงิน การจับจ่ายใช้สอยที่ฝืดเคือง... ด้วยปัจจัยต่างๆรุมเร้าท่านว่าแม้คนดวงดีมีวาสนาก็ยังหากินยาก ดังนั้นพญาไก่ของท่านจึงเป็นมงคลฟื้นวาสนาอย่างแท้จริง


    ฝังตะกรุดแฝดดับล้างบาปอวิชชากาลโกลาหล
    สืบจากยุคสมัยที่บีบรัดด้วยกฏแห่งวัฏสงสารยังผลให้เกิดกาลโกลาหลและเภทภัยทั้งปลุกมารในใจมนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดแฝดดับล้างบาปอวิชชากาลโกลาหลขึ้นเพื่อให้พลังงานคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ปิดกั้นทุกข์โทษโทสาทั้งหลายให้เข้าไม่ถึงตัว ตะกรุดนี้สำคัญนักนอกจากใช้ล้างบาปแล้วยังสามารถอาราธนาขอประสิทธิคุณขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านว่าแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพไม่มีได้กินซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย

    เพราะเป็นตะกรุดดับล้างท่านว่าคนอาราธนาจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแผ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้าย ล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้พลีผ้าแดงที่ใช้พับรองฐานถวายครูแม่ย่ากาลี อันผ่านพิธีการปลุกเสกเชิญครูนับเนื่องหลายสิบปี มาตัดเป็นแผ่นและเชิญครูแม่ย่านำหมึกมาลงจารอักขระเลขยันต์เต็มแผ่นแปะเป็นไส้กลางเล็กๆไว้ในตะกรุดด้วยวิชาที่แม่ย่าบอกกล่าวให้กับท่านเท่านั้นและยังเฉพาะเจาะจงให้คนที่มีปัญหาทางการเงินและปากท้องไว้บูชา ดุจดังว่าครูต้องการจะช่วยแก้ไขความอัตคัดขัดสน เพราะแม่ย่านั้นท่านมีพลังพิเศษเฉพาะทางที่จะหนุนนำโชคลาภตลอดจนอำนาจราชศักดิ์มาสู่ผู้บูชาเป็นหน้าที่ของท่านที่จะช่วยศิษย์อันมีน้ำใจจงรักภักดี กอปรกับสีแดงยังเป็นสีแห่งกำลังอำนาจ เป็นสีของสุริยะเทพ เป็นสีมงคลที่เชื่อว่าจะดึงดูดทรัพย์สินและสิ่งที่ดีงามมาสู่ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเหมาะและควรที่สุดแล้วที่จะใช้ผ้าแดงนี้มาทำยันต์ของแม่ย่า เมื่อท่านนำยันต์แดงรับทรัพย์มาม้วนเป็นไส้ตะกรุดท่านว่าตะกรุดนี้จะดีทางโชคลาภโภคทรัพย์ขึ้นมาในตัวด้วย ไม่ใช่เพียงอานุภาพของครูแม่ย่าหรือยันต์แดง แต่เป็นเพราะว่าตะกรุดนั้นมีไส้ เวลาท่านนำมาเชิญครูจุติมันครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งภายในภายนอกเพราะว่าวิชานี้มันกินมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ด้วยอานุภาพของตะกรุดซ้ำยังจะมีไส้อีกโบราณถือนักไม่เจริญก็ให้มันรู้ไป เอาว่ามีเหลือกินเหลือใช้เลี้ยงคนทั้งเมืองได้ก็พอ ที่ผ่านมาคนถามหายันต์แดงของท่านกันเยอะมากทำกี่ครั้งก็เกิดอาถรรพ์รุนแรงจนคนที่เอาไปใช้เห็นผลคาตาทุกครั้ง หนนี้ท่านจึงทำไว้ให้ในตะกรุดดับล้างด้วย

    ท่านว่าตะกรุดดับล้างกาลโกลาหลนี้มีบารมีแม่ย่าอยู่ทุกดอกให้รู้กันเอาไว้ด้วยว่าทำยากมาก*ตอนเสกนี่ถึงกับทำเอาพานรองที่วางตะกรุดเป็นรูทีเดียว ท่านว่าแม้ตัวเราเองเกิดมาก็ไม่เคยพบเจอตะกรุดรุ่นไหนครั้งไหนที่จะเสกจนพานทะลุได้เช่นนี้ ใช้ปราบไพรีสยบอาถรรพ์ร้าย ทั้งทำลายพลังงานลบในมหาทิศที่จะออกสัญจรไปตามม่านฉากแห่งละครชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดแฝดนี้แรงนะเป็นตะกรุดสายกำราบปราบปราม ตอนเสกต้องเชิญเทพสงครามทั้งยังครูที่มีฤทธิ์รุนแรงมาสำเร็จให้ด้วยหลายวาระ เพราะครูเขารักเขาหวงคนใช้ดุจลูกรักเขา ก็ครูพระครูเทพเขาหวงเช่นนี้ถึงขนาดตอนเสกครูพระขันธกุมารที่เป็นดาวกษัตริย์สงครามที่เราเชิญมาขอบารมีท่าน ถึงกับออกวาจาหลังประสิทธิ์ให้ว่าเราขอให้ผู้ทำผิดคิดร้ายมีชีวิตอันวิบัติอัปรี อย่ามีซึ่งสิ่งใดที่จะตั้งมั่นดำรงค์อยู่ได้อย่างสถาพร พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเรื่องปัจจัตตังพูดมากไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าแรงจริงๆ

    *** ส่วนลูกกลมๆนั้นพ่ออาจรย์ท่านว่าเป็นธาตุเป็นผงที่พลีมาจากแดนศิวาลัยไกลลาส เป็นของสำคัญของครูพระสยมท่านไม่ให้ฉันพูดว่าเป็นอะไร ท่านพูดแค่ปล่อยไปตามวาสนาของเขา ถ้าคนรู้พระนี้จะยิ่งมีค่ามาก คนจะยิ่งอยากได้กันมากจนไม่สนใจแก่นแท้เลยว่าเอาไว้ทำอะไร

    พ่อยอดขอทานนั้นมีตัวตนพ่ออาจารย์ท่านเชิญครูเสกจนแฝงเงา ท่านว่าถ้าครูปรากฏเห็นเงาเดินไปเดินมาอย่าตกใจเพราะท่านลงมาอยู่ด้วยแล้ว

    *** รายการนี้เป็นของกายสิทธิ์ อธิษฐานได้เลยไม่ต้องใช้คาถาบูชาใดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตถึงจิตใจถึงใจ

    ### พ่อยอดขอทานนั้นควรเลี่ยมเปิดให้ถูกเนื้อถูกตัวท่านว่าจะดีมากขึ้นไปอีสำหรับคนที่หวังทรัพย์สินแบบถาวรณ์ท่านว่าให้บูชาเป็นคู่ ติดตัวไว้องค์หนึ่งใส่ที่เก็บทรัพย์องค์หนึ่งเพื่อล้างบาปอาถรรพ์เรื่องการเงิน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาท่านว่าให้แจ้งชื่อนามสกุลกับพ่อยอดขอทานด้วยตนเองได้เลยเพื่อขอเป็นกรรมสิทธิ์ในการพึ่งพาท่าน รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญคลี่คลายกรรมวณิพกภิกษาฏนะมูรติ (พ่อยอดขอทานล้างบาป) บูชา 2,500 บาท

    107333688-3185012158225147-1116824600125300038-n.jpg 107376374-631731130779905-8862855327233768562-n.jpg
    107209572-557172221833868-4454041956176806865-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสมพรหมสิเหน่หา(เทวดาร้อนอาสน์)
    ตะกรุดตัวนี้ฉันเขียนให้ทำให้ดีแล้ว ให้เอาไว้ขออะไรก็ได้จะสมปรารถนาทุกด้าน ถ้าขอในทางที่ถูกต้องเทพเทวดาจะร้อนอาสน์เร่งมาช่วยให้สำเร็จดั่งใจหวัง

    ตะกรุดนี้ฉันใช้วิชาเทพอุ้มสมสร้างขึ้น หลายๆคนอาจคิดไปว่าจะอุ้มใครไปรักกับใครเพราะเมื่อพูดถึงเทพอุ้มสมมักจะปักใจกันว่าได้ลงเอยกันทางรักๆใคร่ๆดั่งอุ้มคนหนึ่งไปสมสู่กับอีกคนหนึ่งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่วิชาเทพอุ้มสมของพ่ออาจารย์ท่านสำคัญกว่านั้นมากกล่าวคือการยกอุ้มให้สูงขึ้น อุ้มไปหาสิ่งที่ปรารถนาให้สมกับเจตนาความปรารถนาของตน(ไม่ใช่ว่าใช้เฉพาะทางรักๆใคร่ๆ) หากปรารถนาแม้นไม่คู่ควรไม่สมควรวิชาเทพอุ้มสมนี้ก็ย่อมดลให้ควรคู่ได้ทุกสิ่งพกไปทางใดเทพยดาเจ้าก็เกิดความพอใจบังเกิดความเมตตา..ต่อให้ไม่มีบุญสัมพันธ์..ไม่มีวาสนาเกื้อหนุนกัน..ก็ยังปรารถนาจะเข้ามาอนุเคราะห์เรา *** พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้สำคัญมากเทวดาบางองค์นี่ถ้าไม่มีสัญญาเก่าร่วมกันมาไหว้ให้ตายเขาก็ไม่ช่วยนะยกเว้นเราจะเริ่มสร้างศรัทธาและบวงสรวงบูชาเขาเสียใหม่ เช่นนั้นวิชาเทพอุ้มสมนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงยกว่าประเสริฐในยอดวิชาทั้งหลายเพราะไม่ต้องใช้ความสัมพันธ์ปางหลังครั้งเก่าก่อนยกขึ้นอ้างเขาก็เต็มใจช่วย

    อุ้มสมให้พบเจอสิ่งที่เหมาะสมและคู่ควรแก่ความศรัทธา ..ชักพาคู่วาสนาและบริวารทรัพย์สินอันประเสริฐทั้งหลายให้สมบูรณ์พูนพร้อม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเทพอุ้มสมก็คือให้เทวดาท่านช่วยจัดแจงชีวิตเราได้เลยแบบที่เราแทบไม่ต้องไปขออะไรท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเทวดาแต่เขาจะถือกันว่าเป็นภารกิจที่ต้องเร่งทำให้เสร็จด้วยวิชาเทพอุ้มสมความต้องการของเราก็เหมือนภารกิจของเทวดาแบบนี้ ...สิ่งที่มนุษย์ว่ายากหนักหนาสำหรับเทวดานั้นเขาว่าไม่เห็นจะยากเพียงอุ้มชูให้มนุษย์สุขสมมีชีวิตสมบูรณ์พร้อมไปเสียทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนตายปานเทวดาสรรค์สร้างดั่งเทพอุ้มสมเช่นนี้ ความปรานาใดๆก็ดี..กิจใดๆก็ดี..งานใดๆก็ดีเมื่ออาราธนาวิชาเทพอุ้มสมย่อมสำเร็จได้ไม่ยากเลย ### พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้เจอวิกฤตและแรงกดดันทั้งสิบทิศ แต่เป้าหมายย่อมสำเร็จเพียงคติเดียวเท่านั้น..เพื่อคัดสรรค์สิ่งที่เหมาะสม ชักนำและลิขิตให้สมปรารถน

    ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสม..นี้เวลาเขาสงเคราะห์เราตัวเราเองจะไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยเพราะทุกสิ่งที่เคยติดขัดอยู่ดีๆจะสะดวกราบรื่นไปทั้งหมดเสมอด้วยมีมือที่มองไม่เห็นคอยจัดการให้เราอยู่คอยช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในทุกๆเรื่อง แม้ไม่ตั้งใจหรือทดลองสิ่งใดเล่นๆก็ยังเกิดผลเกิดประโยชน์แบบไม่ตั้งใจเช่นนั้นเพราะเทพยดาเจ้าจะเป็นดั่งมือที่มองไม่เห็นชักนำไปเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งชีวิตใครใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดกฏเกณฑ์แบบตีวงล้อมปิดมาทุกด้าน ยิ่งเงื่อนไขเยอะก็ยิ่งขาดยิ่งเสียมีชีวิตไม่อิสระท่านว่าคนเหล่านี้แหละจะยิ่งเปลี่ยนแปลงได้ไวทันตาเห็น ปกติยิ่งยากเท่าไหร่ยิ่งช่วยช้ายิ่งไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งมากขึ้นเท่านั้น ..แต่เทพอุ้มสมนี่กลับกันกลายเป็นว่าเขาจะจัดการไอ้ที่ยากๆในชีวิตเราก่อนยิ่งยากเท่าไหร่ยิ่งไวเท่านั้น *** พ่ออาจารย์ท่านว่าจะปลดภาระก็ต้องยกของที่หนักที่สุดออกก่อนจึงจะพอหายใจได้คล่องตัว ถ้ามัวแต่ไปแกะทรายแกะหินที่ติดที่เปื้อนตามเท้าเอาออกไปยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามโลกทุกวันนี้มีการแข่งขันกันอย่างอิสระเสรีในทุกๆที่และทุกๆด้านภาระที่เทพจะอุ้มสมให้เราก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญทั้งหมดเพราะของบางอย่างในเกมส์ชีวิตนั้นท่านว่าพลาดหน่อยเดียวก็พลิกทั้งกระดาน เช่นนั้นมือที่มองไม่เห็นที่คอยแก้คอยกอบกู้ให้เกิดผลดีต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดเทพอุ้มสมคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ ไม่ว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างใดหรือเจอเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆแทรกแซงกระดานชีวิตก็จะไม่พลิกกลับออกไปจากหน้าความสมบูรณ์ มีแต่จะช่วยชักนำให้พัฒนาขึ้นปรับตัวขึ้นช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซ้อนการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆนี่คือคุณของวิชาเทพอุ้มสม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเปลี่ยนแปลงไปทีละขั้นซ้อนกันเป็นขั้นบันไดคือเปลี่ยนไปในทางที่ดีซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆไม่หยุดชลอใดๆทั้งสิ้น คุณของตะกรุดเทพอุ้มสมนอกจากดึงเทวดาเข้ามาสู่ชะตาชีวิตอุ้มสมชึวิตเราและดลใจให้เทวดายื่นมือช่วยเหลือเราในทุกสถานที่แล้วยังเน้นทางหาเงินหาทองและถึงพร้อมด้วยการเจริญในวาสนาบารมีดชะอานุภาพของตะกรุดเทพอุ้มสมเมื่อคราใดที่ชีวิตถึงคราววิบัติตกต่ำย่ำแย่ไปตามดวงชะตามือที่มองไม่เห็นมากมายจะฉุดดึงรั้งไว้ไม่ให้ตกต่ำได้อีกเลย (พ่ออาจารย์ท่านว่าให้จำให้ขึ้นใจคนใดก็ตามถ้าเทพสงเคราะห์เทพอุ้มสมให้ทุกอย่างในชีวิตแล้ว ขอให้จำเอาไว้ว่าอย่าใจอ่อนกับเพื่อนฝูงญาติมิตรที่จะมาหยิบยืมอย่างเด็ดขาด เพราะความใจอ่อนนั้นจะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลยอีกครั้งหนึ่ง***ท่านว่าวาสนาบางอย่างไม่ใช่ของเราแต่เทพยดาเจ้าท่านก็หามาให้เรา ตัวเราจึงไม่สมควรนำไปยกให้ใคร อันนี้ไม่นับการทำทานบารมีนะ)

    ตะกรุดเทพอุ้มสมนั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกอีกชื่อว่าตะกรุดสมปรารถนา ท่านว่าเราก็อธิษฐานเอาเลยอยากให้เป็นไปในด้านไหนอย่างไรก็จะสมปรารถนาแต่ท่านอธิษฐานจิตให้เน้นหนักๆ(จริงๆครบทุกด้าน)ให้สมปรารถนาในลาภสักการะทั้งหลาย ท่านว่าเทพอุ้มสมรุ่นนี้ฉันไม่ได้เร่งลาภธรรมดานะแต่ฉันยกให้เป็นลาภหนักๆเลยพอปลดภาระหนักลงก่อนแล้วแล้วก็ให้ได้ลาภหนักยกลาภหนักๆขึ้นแบกแทนเช่นนี้ถึงจะดี ท่านเน้นให้พบเจอแต่ความสุขความสมหวังคิดสิ่งใดก็จะสำเร็จสมปรารถนาได้โดยเร็วพลันสมหวั่งดั่งใจ ด้วยเหตุนี้ใครนำไปใช้ก็จะมีแต่เฮงไปไปหนก็ดีทุกที่ทำอะไรก้รวยทุกเรื่องมีเงินเข้ามาทุกวัน ไปไหนมีคนมารักมาชอบมากมายไปไหนคนก็เมตตามีเสน่ห์ต่อทุกๆเพศ แม้เจ้านายแลมิตรสหายหรือฝูงชนในมหาทิศใดไม่ว่าสูงว่าต่ำได้เห็นเราก็เอ็นดูนักอยากจะอุปถัมภ์แต่เราไม่เอาคนอื่นเลย จะได้ลาภได้ยศได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมีแต่ความสุขความเจริญทำอะไรก็สำเร็จสมปรารถนาโดยพลัน นอกจากใช้อุ้มสมอุปถัมภ์ชีวิตแล้วตะกรุดนี้ยังใช้ได้อีกหลายทาง
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้แม้ศัตรูจะมีอำนาจเพียงใดก็ไม่อาจรุกรานเราได้ต้องแตกพ่ายไป
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ หากมีบุคคลหมายกระทำย่ำยี ร่างกายเขาจะร้อนรนทุกข์ทรมานดั่งพระเพลิงเผาผลาญ
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ ชนทั้งหลายจะเกรงในอำนาจบารมีมึนเมาลืมหลงยับยั้งสติไม่ได้ หากคนที่คิดร้ายย่อมแพ้ภัยมารในใจตนเอง
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ แม้ศัตรูจะใช้ร้อยเล่ห์สารพัดวิธีหรือการกระทำคุณไสยใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้เลย
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ จะปลอดภัยจากการรุกรานด้วยพยนต์อาคมและภูติปีวิญญาณอันมากด้วยกำลัง สิ่งไม่ดีจะเกิดความหวาดหวั่นขลาดขยาดกลัว
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ แม้ผู้ชำนาญทางวิทยาคมชั่วร้ายปานใดก็ไม่อาจเข้ามาราวีได้
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ ดั่งอยู่ในบัญชรแห่งเทพยดาเจ้า ย่อมไม่มีศัตรูหมูมารใดหาญหักมาก่อให้เกิดอันตรายแก่เราได้ ดั่งว่ามีกำแพงแสนชั้นมาปิดล้อมรอบตัวเราทำร้ายไม่ได้เลย
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ หากมีผู้คิดร้ายใดล่วงล้ำเข้ามาในขอบเขตอำนาจแห่งเทพยดาเจ้าที่รักษาเรา จะเกิดนิมิตแสดงให้ปรากฏแก่ครรลองจักษุมหาเมฆจะปิดคลุมท้องฟ้าจนมืดมิด ธรรมชาติจะวิปริตก่อสายอสนีบาตฟาดผู้รุกรานนั้น


    แท้จริงแล้วตะกรุดเทพอุ้มสมยังเป็นยอดตะกรุดทางคุ้มครองทุกด้านเช่นนี้ดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าสิบทิศนี้อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้เทพยดาเจ้าอันมิจฉาทิฏฐิก็ยังไม่อาจจะเข้ามาใกล้ได้ มีตะกรุดติดตัวเราไปในทิศทางใดเสมือนด้วยมีกายทิพย์ของครูบาอาจารย์ประทับในด้วยตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะตะกรุดนี้มีอำนาจกายทิพย์ของเทพยดาผู้มเหศรศักดิ์แฝงกำลังอยู่(เพราะเขาไม่มีกายหยาบจึงแฝงกำลังลงในเครื่องมงคลเช่นนี้) ถ้าเขาจะปรากฏรูปหรือแสดงตัวตนบ้างเป็นครั้งเป็นคราวก็อย่าได้ตกใจ เพราะท่านเหล่านี้มีหน้าที่สนับสนุนและช่วยประคับประคองให้ชีวิตเรามั่งคั่งขึ้น ดีขึ้นทั้งนอกทั้งใน เรื่องไม่ดีของชีวิตเราท่านจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและช่วยสนับสนุนนี่เรียกว่าเทวดารักษา พ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าตะกรุดนี้มีตัวมีตนนะเขาจะคอยเสกสรรให้พึงพบแต่ความรื่นเริงสมหวังจะสำเร็จดั่งใจไปทุกอย่าง เวลาเธอเดือดร้อนอะไรเทพองค์ไหนอยู่ใกล้อาสน์จะร้อนก่อน พกติดตัวไว้เถิดจะได้ยินเสียงคนพูดด้วยบ้าง(เขาอยากสื่อสารกับเรา)ก็อย่าไปตกใจ ท่านว่าเอาว่าได้ยินเสียงอะไรแปลกที่เป็นเสียงทิพย์อันไพเราะล้ำเลิศยากจะหาฟังได้ในโลกนั่นแหละครูท่านเตือนท่านบอกการณ์ที่คิดที่ทำไว้จะได้ชัยครั้งใหญ่ โชคลาภที่หมายมั่นไว้จะได้ก้อนใหญ่ก้อนโต ไปไหนจะมีเทวดาคอยอุ้มยกชูให้สูงให้เด่นอยู่เสมอไม่ให้ฐานชีวิตตกลงมา เมื่อเทพอุ้มสมแล้วจะได้ทุกอย่างที่ปรารถนา

    *** ท่านว่าตะกรุดเทพอุ้มสมฉันถือติดตัวไว้เทวดาต้องหาเลี้ยงเธอนะ
    ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านเสกมายาวนานท่านว่าวิชาเรียกทรัพย์ทั้งหลายถ้าเอามาเทียบก็พ่ายแพ้ราบคาบ ด้วยเทพอุ้มสมเป็นวิชาของชนชั้นสูง ***ท่านย้ำว่าแค่การที่เทพลงมาอุ้มสมผู้ใดย่อมไม่เกิดกับชนชั้นธรรมดาสามัญอยู่แล้ว จึงเชื่อขนมกินได้เลยว่าจะได้ดีเป็นใหญ่เป็นโตกว่าผู้ใดดั่งเทพเจ้าในสวรรค์นำสมบัติพัสถานแก้วแหวนเงินทองมากองให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นของสูงมาก(ท่านเน้นย้ำคำว่ามากและมากๆหลายหน) ท่าวว่ามันดีเพราะว่ามันสะดวก เธอคิดเอาแล้วกันเทพอุ้มสมนี่ชีวิตสบายสุดแล้วปกติมีแต่เทพในปรนิมมิตวสวัตตีภูมิเท่านั้นที่คิดสิ่งใดก็ได้ดั่งใจเพราะจะมีเทวดาภูมินิมานรดีมาคอยเนรมิตถวาย นี่ก็เหมือนกันเป็นยอดวิชาของภูมิปรนิมิตวสวัตตีเช่นนั้นท้าวมาลัยท่านว่าเอาไว้ให้แก่ผู้ที่คู่ควรและมีบารมีสมควรจะได้ไว้ เมื่อได้ครอบครองเสมอด้วยมีเทวดาภูมินิมานรดีคอยมาเนรมิตความปรารถนาต่างๆให้เสมอใจคอยอุ้มสมให้สุขสบายทุกทิวาราตรีกาล เขาจะให้เราจนทับถมได้เป็นกองเป็นภูเขา(ท่านอุปมาไว้ว่าลาภหนักปานนั้น) ถ้าหายใจเข้าออกเป็นทรัพย์สมบัติความมั่งคั่งร่ำรวย(ท่านว่าจะมีมาให้ได้เก็บเกี่ยวอยู่มากโขไม่ขาด) ..คนไม่มีจะกินจะใช้จะกลายเป็นมีเหลือกินเหลือใช้ การลงทุนเสี่ยงโชคจะสำเร็จ ทรัพย์สินทีเก็บไว้จะงอกเงยขึ้นทันตา อยู่แห่งใดเทพยาดาอินทร์พรหมก็รักใคร่แม้มนุษย์ก็เดินเข้ามาหาเอาลาภสักการะมาส่งเอาข่าวดีมาบอก จะรวยจนไม่มีสิ่งใดมาขวางมาหยุดได้เจริญในทรัพย์สินศฤงคารไม่รู้จักคำว่ายากจน ### เมื่อจะใช้แบบเร่งด่วนท่านว่าให้หลับตานึกเอาจะทำอะไรอยากได้สิ่งใดให้นึกเอาว่าเทวดาเขามามอบให้เราแบบนี้จะไวมากตรงตามชื่อเลยว่าเทพอุ้มสมคิดอะไรเทวดาก็หาให้ จะดูดดึงจูงจับเงินทองโภคสมบัติถิ่นฐานบ้านช่องหรือสัตว์สองเท้าเช่นบริวารและคู่ครองท่านว่าไม่ต้องร้อนใจพึงคิดพึงจัดการด้วยตนเองอย่างใดเลยเทวดาเขาหาให้เราทั้งหมด จะพันผูกคล้องจับมัดเกี่ยวเหนี่ยวรั้งสิ่งใดนี่หน้าที่เทวดาเขาเราเพียงแต่บอกเป้าให้เขาหาเขามอบให้ตามความประสงค์เช่นนี้จะจำเริญรุ่งเรืองสำเร็จสมปรารถนาดังใจนึกเกิดผลดีสารพัดทุกประการ

    *** วิธีใช้
    ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านว่าให้แช่ใส่ในขวดน้ำหอมหรือกระแจะจันทน์น้ำมันทาใดๆก็ดี ด้วยจะใช้พกอาราธนาหรือใช้ฉีดประพรมตัวอำนาจฤทธิ์ยิ่งจะซึมซับเข้าเนื้อตัวไวกว่าปกติ ให้อธิษฐานขอเอาแล้วฉีดน้ำหอมพรมเนื้อตัวจะสมปรารถนาทุกประการ ### ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะพกสูงพกต่ำอย่างไรก็ได้ไม่มีเสื่อมต่อให้ค้นเดินข้ามหมาเยี่ยวใส่รอดใต้ราวใต้ทางใดๆทำอย่างใดก็ไม่เสื่อม ท่านว่าพกไปใช้เข้าได้ทุกที่สบายใจหายห่วง

    คาถา
    พ่ออาจารย์ท่านว่านึกถึงคุณเทวดาออกนามเทพที่รักษาตะกรุด(จะมอบให้เฉพาะคนที่บูชา)เพียงเท่านี้ก็อธิษฐานได้เลย

    *** ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านว่าใช้ได้ทุกคนยิ่งมากก็ยิ่งดีเหมือนมีเทพยดาเจ้าชั้นสูงรักษาหลายพระองค์(ท่านว่าจะใช้ไปทางใดบ้างจะใช้กี่ดอกก็ตามแต่จะพิจารณาความเหมาะสมในธุรกิจของตนเอง) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสมพรหมสิเหน่หา(เทวดาร้อนอาสน์) บูชา 2,500 บาท
    107742648-598112271123937-8277551920298623355-n.jpg
    107718078-891044571375005-5355135108635881976-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงกักบารมีรัตนเจดีย์สหัสธาตุเชื่อมหมื่นนามธรรมปรากฏ(พญาเสือข้ามถิ่น)

    พระผงรัตนเจดีย์นั้นองค์ธรรมในโลกทิพย์ท่านกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องทำเป็นพิมพ์นี้ ด้วยเจดีย์เป็นสิ่งที่ใช้สักการะบูชาระลึกถึงผู้ล่วงลับถือกันว่ามีบุคคลที่ควรบรรจุอัฐิธาตุไว้ในสถูปเจดีย์เพื่อเป็นที่สักการะของมหาชนอยู่เพียงสี่จำพวกเรียกว่า"ถูปารหบุคคล" ได้แก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันตสาวกและพระเจ้าจักรพรรดิ์ ซึ่งพระเจดีย์นั้นยังแบ่งได้เป็นสี่ประเภทตั้งแต่
    - ธาตุเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธ,พระปัจเจก,พระอรหันต์และพระจักรพรรดิ
    - บริโภคเจดีย์ ซึ่งหมายเอาสังเวชนียสถานต่างๆอันเป็นสถานที่ประสูติ,ตรัสรู้,ปฐมเทศนาและปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
    - ธรรมเจดีย์ ได้แก่คาถาที่แสดงพระอริยสัจหรือคัมภีร์ในพระพุทธศาสนาเช่นพระไตรปิฎก
    - อุเทสิกะเจดีย์ หมายถึงของที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศแด่พระพุทธเจ้าไม่กำหนดว่าจะต้องทำเป็นลักษณะอย่างไร

    พระผงทรงเจดีย์นี้จึงเป็นสิ่งแทนตัวของถูปรหบุคคลเมื่อเจาะจงทำเป็นเครื่องมงคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อพระพุทธท่านบอกเอาไว้ชัดเจน *** เมื่อเราไหว้องค์เจดีย์นี้เพื่อขอบารมีย่อมเสมอด้วยเราสักการะพระพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันตสาวกทุกพระองค์ในทุกกาลทุกสมัยที่ล่วงเลยมาพร้อมๆกัน...รวมไปถึงยังได้บารมีของพระเจ้าจักรพรรดิทุกพระองค์ที่เคยอุบัติขึ้นมาด้วย เช่นนี้รัตนเจดีย์จึงเป็นของสูงที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าองค์พระในนิพพานทุกพระองค์ตลอดจนพระจักรพรรดิมาแฝงกำลังไว้พร้อมสรรพเพื่อให้ลูกหลานและผู้เคารพนับถือได้สักการบูชา เมื่อจะปั้นนั้นองค์ปฐมท่านเน้นย้ำว่าต้องปั้นหุ่นเทียนเป็นเจดีย์ยอดสูงเท่านั้น (พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดให้ชีวิตพุ่งทะลุถึงจุดยอด,จุดสูงสุด)

    ผงกักบารมี
    องค์รัตนเจดีย์นี้องค์พระข้างบนท่านกำหนดให้กดพิมพ์ไว้เฉพาะในผงวิเศษที่เรียกว่า"ผงกักบารมี" ผงวิเศษนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ให้คติเอาไว้ว่าผู้ที่จะครอบครองได้ต้องมีสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาองค์มหาธาตุทั้งหลาย(อันนำมาทำเป็นมวลสาร)มาหลายภพหลายชาติ ซึ่งท่านว่าเรื่องแบบนี้ใช่จะมีจะเจอกันได้ง่ายๆคนที่อยากมีอาจจะไม่มีแต่คนที่ไม่อยากมีกลับกลายเป็นว่ามีเช่นนั้น เมื่อมีสัญญาผูกพันธ์กันมาย่อมเป็นเหตุให้เกิดผลเกื้อกูลพ่ออาจารย์ท่านว่านี่สัญญาทางจิตเขาจะนำไปเราจะรู้ได้เลยว่าเรามีวาสนารับไว้หรือเปล่า ถ้าคนที่จิตขุ่นมัวยังไม่ใสยังไม่กระจ่างมาพบเขาก็จะวางเฉยเอาไว้อย่างนั้นแม้คนที่ยังเชื่อมต่อสัญญาตนเองไม่เจอคนเหล่านี้ย่อมไม่ได้ตรอบครองแม้อณูผงเลย

    ผงกักบารมีนี้ท่านว่ามีคุณหนักใช้ได้ตลอดชีวิต ด้วยคนเราเกิดมาแตกต่างกันเพราะบุญบารมีที่ทำมาในอดีต ตัวบุญบารมีนี่แหละที่ทำให้คนมีชนชั้นมีชีวิตไม่เสมอกันมีฐานะการเงินที่แตกต่างกัน มีรูปร่างหน้าตาความสวยงามแตกต่างกัน แม้แต่ความคิดสติปัญญาจะเกิดมาฉลาดหรือโง่ก็ด้วยบารมี หากว่าไม่นับเรื่องบุญบารมีแล้วเช่นนั้นสัตว์โลกเกิดมาย่อมเท่ากันทั้งหมดทุกคนย่อมเสมอภาคเท่าเทียมไม่แตกต่าง เช่นนั้นบุญบารมีจึงเป็นเหตุให้ชีวิตคนแปลกแยกแตกต่างกันไป..หากทำบุญมาดีบารมีมากเกิดมาก็สบายทั้งชีวิต แต่กลับกันคนที่ของเก่าไม่มีมากพอและยังศรัทธาที่จะประกอบอาชีพสร้างเนื้อสร้างตัวเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเหล่านี้พยายามมากกว่าทุกคนเช่นนั้นครูในโลกทิพย์ท่านถึงให้ทำผงกักบารมีนี้ขึ้นมา...ผงนี้สำคัญนักท่านว่าของที่ไม่มีก็จะมีขึ้นเองด้วยจะกักสะสมบารมีของชนทั้งหลายในมหาทิศทั้งสี่แปรสภาพเป็นกำลังที่จะใช้สนับสนุนชีวิตเรา ด้วยบารมีนี้ถือเป็นจุดสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าบารมีเต็มนี่ถึงนิพพานเลยนะ ผงเช่นนี้จึงทำได้ยากเพราะใช้กระแสแห่งบารมีของพ่อแม่ครูอาจารย์และองค์พระในอดีตทั้งหลายรอบทิศอันกระจายอยู่รอบตัวเรามารวมกำลังหนุนเรา เมื่อบารมีมากพอย่อมเปลี่ยนชีวิตพลิกได้ชั่วข้ามวันท่านว่าผงนี้เมื่อใช้แล้วให้หมั่นสร้างบารมีไปด้วยเรื่อยๆจะดีมากจะเต็มไวเป็นพิเศษ(พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะสร้างเองก็ต้องว่ากันหลายชาติ)เช่นนั้นคนที่หมั่นเพิ่มบารมีให้แก่ตัวเองชีวิตเขาจึงไปได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด จะมีเป้าอะไรก็ไปเหยียบฝั่งไปถึงฝั่งได้โดยง่ายเพราะเขาอาศัยบารมีช่วยให้บรรลุจุดหมายทุกสิ่งไม่ว่าจะจุดหมายสูงส่งอย่างไรก็ตาม บารมีทั้งสิบนั้นรวมเรียกว่าทศบารมีพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกำลังติดตัวที่สำคัญมากต้องทำให้เต็มไม่ขาดไม่พร่องตั้งแต่ทานคือการให้,ศีลคือการรักษาศีลให้เป็นปกติ,เนกขัมมะคือการละออกจากกาม,ปัญญาคือความรู้,วิริยะคือความเพียร,ขันติคือความอดทนอดกลั้น,สัจจะคือความตั้งใจจริง,อธิษฐานคือความตั้งใจมั่นไม่เปลี่ยนแปลง,เมตตาคือความรักความปรานี,อุเบกขาคือความวางเฉย

    .
    ..ผงกักบารมีนี้ใช้เพื่อกักบารมีไว้กับตัวเรา ท่านว่าตรงๆก็คือยึดไว้ไม่ให้พ้นตัว..บารมีขององค์พระและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ท่านอธิษฐานจิตทิ้งไว้เพื่อโปรดสัตว์ยามยากเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละกักเอาไว้ดึงเข้าตัวเอาตรงนั้นแหละมาใช้ ### ในกรณีคนที่ของเก่าไม่มีจะทำใหม่ก็ต้องว่ากันหลายชาติจะได้มาพึ่งตรงนี้ก่อนเอาตรงนี้ไว้ให้ชีวิตสบายก่อน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้สร้างบารมีได้มากขึ้นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอาสบายแค่ชาตินี้ของใหม่ไม่สร้างมันก็กินได้แค่ชาติเดียว

    แร่สหัสธาตุหมื่นเชื่อมนามธรรมปรากฏ
    แร่สหัสธาตุนี้เป็นการรวมกันของมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ทุกชนิดที่พ่ออาจารย์ท่านรวบรวมไว้ *** มีกำลังในการปรับสมดุลชีวิตที่พังไปแล้วให้ดีขึ้นไวเท่าใจคิดทั้งยังใช้ปรับธาตุปรับดวงชะตาได้ ท่านว่ากายสิทธิ์เหล่านี้เป็นมหาธาตุที่ไม่สามารถบังคับบัญชาได้(ต้องเชิญเขามาสงเคราะห์ร่วมบุญกันให้ช่วยปรับภูมิปรับชะตามนุษย์เช่นนี้เขาจึงทำ) เป็นมหาธาตุที่ทรงไว้ซึ่งจิต,เจตสิก,รูป,นิพพานมีอำนาจบันดาลในสิ่งที่ไม่เที่ยงทั้งหลายนั่นคือสิ่งที่ไม่ยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นและดับลงไปได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ลาภ,ยศ,วาสนาที่มนุษย์ถวิลหากันนั่นแหละ) มหาธาตุเหล่านี้บันดาลให้เกิดดับหรือจะทรงไว้ให้มั่นคงชั่วกาลตามเวลาชีวิตเราก็ย่อมได้ เพราะเขามีอำนาจทำสิ่งที่ไม่อาจปรากฏในชีวิตเราให้ปรากฏขึ้นได้,ช่วยให้คติที่เรายึดถือไว้ได้สมดั่งใจหวัง,ช่วยตั้งและประดิษฐานไว้ซึ่งความสำเร็จทางโลกนานัปการ,ช่วยจัดแจงและคัดสรรนามธรรมทั้งหลายอันจะมาเกื้อหนุนแก่เรา,ช่วยยับยั้งโรคเวรโรคกรรมไม่ให้เป็นไปตามอำนาจกฏเกณฑ์ของสภาวะธรรม...ด้วยมหาธาตุเป็นสภาพไร้ตัวตนที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตนเองดังนี้ครูพระในนิพพานจึงให้พ่ออาจารย์นำเอาผงมหาธาตุนับหมื่นแสนชนิดที่สะสมผ่านชั่วอายุคนของบูรพาจารย์สืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นมาโรยอัดไว้ข้างองค์เจดีย์ทั้งซ้ายและขวาตอนกดพิมพ์ซึ่งผงนี้เรียกว่าผงแร่สหัสธาตุ..ดังมีกายทิพย์แสนโกฏิคอยพิทักษ์รักษาองค์เจดีย์และให้คุณแก่เราช่วยให้นามธรรมทั้งหลายที่สมควรจะเกิดได้อุบัติขึ้น

    ด้วยนามธรรมนั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะเปลี่ยนผ่านรูปธรรมได้ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแก้ที่นามธรรมโดยตรงเท่านั้นชีวิตคนถึงจะเปลี่ยนไปแบบเห็นกันที่ตาเนื้อในรูปธรรม ปกติการแก้ไขนามธรรมนั้นยากแก่การพูดและทำความเข้าใจเพราะนามธรรมนั้นเรามองไม่เห็นเรียกว่ารับรู้ไม่ได้ด้วยตา,หู,จมูก,ลิ้นและสัมผัส เพราะเขาไม่มีรูปไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้จะรู้ได้ก็ด้วยใจเช่นนั้นเมื่อจะแก้กฏนามธรรมที่บีบรั้งดึงเหนี่ยวชีวิตคนก็ต้องใช้กายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ทางใจอย่างมากเข้าแก้ พ่ออาจารย์ท่านว่ากายสิทธิ์ธรรมดาแก้ไม่ได้เลยแต่กลับกันเมื่อเป็นการรวมอำนาจของมหาธาตุอย่างผงแร่สหัสธาตุนี้ กลับมีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงนามธรรมเชิงซ้อนเหล่านั้นได้ เมื่อนามธรรมน้อมเข้าไปสู่อารมณ์เจตสิกก็จะรับรู้ถ้าจะไม่รู้อารมณ์นี่ก็ต้องพระนิพพานเช่นนั้นแร่สหัสธาตุนี้จึงเป็นมหาธาตุที่เร่งเร้ากระตุ้นนามธรรมได้ทุกชนิดยกเว้นแค่ไปเร่งสวรรค์นิพพานไม่ได้ ..เรื่องอื่นอยากได้อะไรบอกครูบาอาจารย์ที่ท่านแฝงกำลังนับแสนโกฏิในแร่สหัสธาตุได้เลย

    เหล็กไหลไพลดำ
    องค์รัตนเจดีย์สำคัญนี้นอกจากบรรจุแร่สหัสธาตุแล้ว มติครูในโลกทิพย์ยังได้ให้พ่ออาจารย์ท่านอัญเชิญองค์เหล็กไหลไพลดำ(แบบของจริงที่ไม่ใช่ขี้เหล็กไหลหรือรังเหล็กไหลแบบที่ขายๆกัน)..."เหล็กไหลไพลดำพูดพร่ำเป็นบ้า เล่นแร่แปรธาตุผ้าขาดตั้งวา ติระตะโสรถนอนอดเหมือนหมา" คำพรรณาที่ปรากฏมาแต่โบราณด้วยสิ่งเหล่านี้แสวงหามาครองได้ยากลำบากแม้จะหาดูของแท้ก็ยังยาก บางที่ก็ว่าไพลดำคืออาหารของเหล็กไหลใช้เพิ่มบุญฤทธิ์อำนาจให้เหล็กไหลได้..แต่เหล็กไหลที่เกิดขึ้นจากไพลดำนั้นต่างหากถึงจะเป็นยอดกว่ามหาธาตุทั้งปวงลำพังเพียงต้นไพลดำนั้นก็มีเทวดารักษาอยู่แค่จะหาดูยังยากแต่ที่ยากที่สุดคือการกู้และพิธีการเอาขึ้นมาครอบครอง ด้วยการกู้ว่านการตัดเหล็กไหลสิ่งเหล่านี้ย่อมกระทำได้ยาก ผู้จะทำได้ต้องถึงพร้อมด้วยบารมีและบุญฤทธิ์ตลอดจนสรรพวิชาทั้งหลาย เหล็กไหลไพลดำนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดของมหาธาตุที่อยู่คู่โลกอันยากจะได้เห็นมีเล่าสืบกันมาในตำนานที่มีมากกว่าสองพันปี ลำพังว่านไพลดำแท้ๆ(ของปลอมเยอะมาก)ยังน่าอัศจรรย์สามารถคุ้มครองป้องกันภัยและใช้ขจัดคุณไสย์ขับไล่สิ่งเลวร้ายใช้ป้องกันอันตรายจากภูตผีปีศาจ,ผีปอบ,เจ้าเข้าทรง,ผีเหยียบร่าง,เจ้าสัมภเวสีทั้งหลายทั้งยังคุ้มครองจากสัตว์ร้ายตลอดจนภัยพิบัติได้ ทั้งว่านนี้เมื่อออกใบยังห้ามแตะต้องด้วยจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตเรียกว่าใครแตะก็ตายทันทีจะกู้ด้วยจอบเสียมใดๆก็ไม่ได้ เหล็กไหลที่เกิดจากต้นว่านไพลดำนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้กันคุณไสย,ยาเบื่อ,ยาสั่งได้ทุกชนิด ใครชอบนอนละเมอผีเข้ามีวิญญาณแฝงนี่หายขาดเลย รวมไปถึงโรคที่เกินวิสัยและวิบากกรรรมในชีวิต(เพราะใช้ระงับวิบากกรรมได้จึงมีค่าควรเมือง) แม้องค์หลวงปู่ชอบเมื่อยังดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่ได้เห็นต้นว่านไพลดำที่มีอยู่จริงในโลกยังถึงกับออกปากว่า"ตายไปก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว" ด้วยเป็นของในตำนานที่อยู่คู่โลกแม้เพียงได้เห็นก็ถือว่าเป็นบุญตาหากได้ครอบครองย่อมถือว่าทำบุญมาดี เหล็กไหลไพลดำจริงๆไม่ใช่โคตรเหล็กไหลที่คนอุปโลกกันหากแต่เป็นองค์เหล็กที่มีชีวิตผู้ที่ได้ครอบครองจะมีตบะเดชะน่าเกรงขามทำให้ไม่ตายโหงและยังระงับให้รอดพ้นจากภัยต่างๆใช้ได้หมดทั้งกันภูตผีและคุณไสย ด้วยองค์เหล็กไหลไพลดำนั้นมีพลังงานชีวิตที่น่าทึ่งที่สุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาชอบเสพย์น้ำผึ้งจะขออะไรเขาให้เอาน้ำผึ้งทาพอเขากินอิ่มเขาก็จะช่วยเราได้เสมอใจ) เมื่ออาราธนาติดตัวนอกจากจะช่วยปรับธาตุรักษาสมดุลย์เติมสิ่งที่สึกหรอที่ร่างกายเราขาดทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายและเกิดโรคที่รักษาได้ยากเหล่านี้แล้ว ยังจะป้องกันทั้งผีและคนไม่ประสงค์ดีที่เข้ามาทำร้าย ***เขากันแม้แต่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำกับเรา ฉันพูดไม่ได้มากกว่านี้เอาว่าพูดได้เท่านี้ก็ไปคิดกันเอาเองไม่เช่นนั้นคงไม่จัดไว้ว่าเป็นยอดเหล็กไหลเป็นของในตำนานคู่โลกแบบนั้นหรอก...องค์เหล็กไหลไพลดำนี้วันดีคืนดีถ้าเห็นดวงไฟสีทองบ้างเขียวบ้างลอยออกมาวนไปวนมาแถบที่ตนวางองค์พระไว้ก็อย่าได้ตกใจพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเขาแค่ออกมาอาบแสงจันทร์เท่านั้นไม่มีอะไร
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าจะไม่ใส่ชื่อเหล็กไหลนี้ไว้ในนามเครื่องมงคลอย่างเด็ดขาด ท่านว่าเดี๋ยวคนจะโลภ คนที่เขารู้อย่าว่าแต่เค้าจะมาเช่าเลย มีเท่าไหร่เค้าก็จะเก็บกันทั้งหมด ท่านจึงไม่ให้ออกชื่อบอกเพียงแต่ว่าใครมีบุญจองทันกันก็ได้ครอง (องค์เหล็กมีวรรณะเหลือบทองคำดำสวยงามเพราะใช้ระงับวิบากกรรม,ใช้กันแม้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำกับเรา จึงเป็นยอดธาตุกายสิทธิ์ในตำนานคู่โลก)

    ด้านหลังฝังตะกรุดปัญจะพรหมมา พ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านว่าชุดเสือข้ามถิ่นคือไปทางไหนทิศไหนก็เอาดีได้ตรงนั้นไม่ต้องเลือกต้องรอวาสนาจะเอาดีในถิ่นรึต่างถิ่นก็อยู่ที่เราคือได้ดีเหมือนกันทั้งยังมีอำนาจเคลื่อนย้ายทรัพย์เข้าหาเราให้เกิดความมั่งมีมั่งคั่งร่ำรวย(จะใช้เรียกทรัพย์ให้กลับมาก็ได้) ดลให้ได้อำนาจวาสนา เป็นเมตตา ทั้งปกป้องคุ้มครองภัยจากโรคร้ายจากเหตุร้ายต่างๆป้องกันอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านดึงพลังจักรวาลเชื่อมต่อกับสุริยเทพ(ท่านว่าต้องเสกกลางแจ้งขอกำลังท่านเสกจนพระอาทิตย์ทรงกลดหมดเมฆเมฆา) ท่านว่าอยู่ตรงไหนก็เอาดีได้ตรงนั้นสาดแสงสาดรังศมีความเป็นเราออกไปดั่งพระอาทิตย์ทรงกลดไร้สิ่งรบกวน

    คาถาบูชา
    วันทามิเจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุ มหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทา นาคะโลเก เทวะโลเก พรัหมะโลเก ชัมพูทีเปลังกาทีเป สะรีระธาตุโย เกสาธาตุโย อะระหันตะ ธาตุโย เจติยัง คันธะกุฏิง จะตุราสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    *** พระผงกักบารมีนี้ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าอย่าพูดอะไรเลยไม่ต้องไปเชิญชวนให้ใครมาเช่า เพราะเหล็กไหลไพลดำเขาจะเลือกผู้ถือครองเขาด้วยตัวเอง เช่นนั้นรายการนี้จึงรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิ์ให้อีกคำรบหนึ่ง ### รายการนี้ท่านจะบอกนามทิพย์กายที่อารักษ์องค์เหล็กไหลแก่ผู้ครอบครองเท่านั้นเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารขอพร ท่านว่าเรียกชื่อเขาจะคุยอะไรกันย่อมไวที่สุด รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงกักบารมีรัตนเจดีย์สหัสธาตุเชื่อมหมื่นนามธรรมปรากฏ(พญาเสือข้ามถิ่น) บูชา 4,000 บาท

    115916802-339424417059549-6015300386467721238-n.jpg 115885586-2547123388932399-8534118869364628987-n.jpg
    109116552-621262508813974-6142011038503285347-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...