ลป.สุภาแมงมุมดักทรัพย์ลพ.เพยวัดบึงสมเด็จสายรุ้งเจ้าคุณนร วัดศีลขันธ์ตะกรุดรกแมว ลพ.ไมอินทสิริ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719657503201.jpg

    https://palungjit.org/threads/ประวัติและประสบการณ์วัตถุมงคลมหัศจรรย์ของครูบาคำเป็ง.171093/
    ประวัติ หลวงปู่ครูบาคำเป็ง ฐิตปัญโญ
    พระอริยสงฆ์แห่งนครชากังราว
    ท่านเป็นชาวสกลนครโดยกำเนิด
    ภูมิถิ่นฐานที่ อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร
    มีพี่น้องร่วมครรภ์มารดาเดียวกันเรา 10 คน
    ท่านเป็นบุตรคนโตลำดับที่ 1สนใจในวิชา
    คาถาอาคมมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ท่านศึกษาทั้ง
    ภาษาไทย ภาษาจีน และ ภาษาขอม
    ร่ำเรียนทั้ง วิปัสสนาธุระ คันถธุระ ทั้งเจริญจิตกรรมฐาน มีจริยวัตรปฏิบัติอันงดงามท่านอุปสมบทในช่วงอายุ 50 ปีที่วัดป่าทรงคุณจังหวัดปราจีนบุรี
    (วัดในสังกัดหลวงปู่สมชาย) ปัจจุบันอายุ 78 ปี
    พรรษา 28 ท่านเป็นคนสมถะเรียบง่ายไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญมีเมตตาต่อชนทุกชั้นรวมถึงเป็นพระเถระที่เปี่ยมด้วยเวทวิทยาคมอันเข้มขลังและไม่เป็นสองรองใครโดยเฉพาะวิชาลงนะมหาเสน่ห์ 108ต่อเส้นวาสนาลงนะหน้าทองรวมถึงแก้คุณไสยมนต์ดําสิ่งอัปมงคลนับได้ว่าท่านเป็นพระเถระอีกรูปที่เปี่ยมล้นด้วยเวทย์วิทยาคมเป็นอย่างสูงมีอำนาจทางกสิณมหาอุตม์ดับดินปืน เคยออกรายการทีวีมิติพิศวง (ตอนรายการยังอยู่ช่อง 7) เคยลงนิตยสารโลกลี้ลับ นิตยสารโลกทิพย์ นิตยสารพุทธามหาเวทนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้คนรู้จักท่านในนามของ "เทพเจ้าแห่งพลังดูดเครื่องย้ายพลังจักรวาล"หลังจากท่านบวช ท่านได้ออกธุดงค์ ไปเรื่อยๆจนมาถึงกำแพงเพชร แล้วได้ปักหลักที่วัดแห่งแรกคือ วัดเขาถ้ำแสงเพชร หลังจากนั้นไม่กี่ปีท่านได้ลงมาจากวัดบนเขา มายัง อาศรมสุขาวดีวราราม บ้านท่าเดื่อตำบลท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของ ญาติโยมที่เลื่อมใสในองค์หลวงปู่ และด้วยความที่หลวงปู่ชราภาพมากพอสมควรจึงควรหาที่สงบ พักผ่อน และสดวก ต่อการพบปะลูกศิษย์ลูกหา รวมถึงการดูแลต่างๆด้วย

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    รูปถ่ายครูบาคำเป็งเลี่ยมพลาสติกให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240629_173650.jpg IMG_20240629_173710.jpg
     
  2. Karoonsur

    Karoonsur Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +222
    จองครับ
     
  3. Karoonsur

    Karoonsur Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +222
    จองครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719661182214.jpg


    หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส วัดบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเกิดวันอังคาร ที่ ๓ เมษายน ๒๔๔๐ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีจอ ท่านเป็นคนบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง โดยกำเนิด โยมบิดาท่านชื่อ พ่อวงศ์ โยมมารดาชื่อ แม่ออน นามสกุล พงษ์คำ
    ท่านอายุได้ ๑๓ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ ต. ช่อแล เป็นพระอุปัชฌายา และท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ กับท่านครูบามโนชัย ซึ่งสมัยนั้นได้เรียนการปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานเป็นส่วนมาก แล้วมักจะได้เรียน วิชาคาถาอาคมควบคู่กันไปด้วย ท่านเล่าเรียน จนท่านสามารถเข้าถึง และปฏิบัติได้ดี
    จนท่านอายุ ๒๓ ปี ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบ้านปง โดยมีท่าน ครูบามโนชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศรีวิชัย วัดป่าบง อินทขิล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้เรียนนักธรรมชั้นต่างๆ จนสอบนักธรรมตรีได้ ในพ.ศ .๒๔๘๔ และนักธรรมโทได้ในปี ๒๔๘๖ และ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ในสมัยที่ท่านเป็นหนุ่มท่านได้เดินธุดงค์จาก อ. แม่แตง ไปสู่ อ.ฝาง ไปตามป่าช้าต่างๆ ถึงสี่เดือน ท่านจึงกลับมาจำพรรษา ที่วัดอีกครั้งหนึ่ง
    ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง เมื่อ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๗๘ และได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๘๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี ที่ "พระครู ชัยวงศ์ วิวัฒน์" ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ และ ชั้นโท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๔ ชันเอกวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๖ และ หลวงปู่ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสได้ร่วมเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ล้านนา ซึ่งก็คือในตอนที่ท่าน ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็น ประธานการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านได้ร่วมกับโยมพ่อ วงษ์ และคณะศรัทธาญาติโยมวัดบ้านปง มาร่วมสร้างทางกับท่านครูบาเจ้าและท่านได้ฝากตัว และอุปัฏฐาก ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยและร่วมงานในการบูรณะวัดสวนดอก วัดพระสิงห์ และที่อื่นๆอีกมากมาย ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาสูง ใครที่เคยไปกราบท่านมักจะประทับใจในรอยยิ้มของท่านอยู่เสมอครับ อีกทั้งท่านยังเป็นที่เคารพรักในบรรดา ลูกศิษย์ลูกหา และพระสงฆ์อีกจำนวนมากมายครับ หลวงปู่ครูบาน้อย
    ท่านได้มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๑ เวลา ๐๘ . ๓๐ น ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุของท่านได้ ๑๐๑ ปี ปัจจุบันทางวัดได้เก็บรักษา สรีระร่างกายของท่านไว้ ในโลงแก้วที่วัดบ้านปง โดยสรีระของท่านยังคงเป็นปกติไม่เน่าไม่เปื่อยแต่อย่างใด
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนครูบาน้อย วัดบ้านปง เมตตาบารมี ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    FB_IMG_1719661188809.jpg FB_IMG_1719661191769.jpg FB_IMG_1719661194567.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719756153084.jpg
    พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ สร้างขึ้นโดยท่านเจ้าคุณพระศีลขันธ์โสภณ (สนิท ทองสีนวล) เจ้าอาวาสวัดศีลขันธาราม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
    โดยท่านเจ้าคุณสนิท เกิดและอุปสมบทที่จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพ โดยมีท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ธัมมวิตกโก เป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ท่านเจ้าคุณสนิทมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นอย่างมาก และท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์เป็นเวลาทั้งสิ้น 11 พรรษา
    จากนั้นท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศีลขันธ์ ซึ่งขณะนั้นวัดศีลขันธ์ ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ละท่านเจ้าคุณสนิท จึงต้องเร่งหาทุนทรัพย์เพื่อมาทำนุบำรุงเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัด รวมทั้งก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ เพิ่มเติม และก็มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทำบุญจนสำเร็จลุล่วง ท่านเจ้าคุณสนิท จึงสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยมิได้คิดมูลค่าใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ท่านเจ้าคุณสนิท ยังได้มอบวัตถุมงคลชุดนี้แก่วัดต่าง ๆ ที่ขาดแคลนต้องการทุนทรัพย์ในการบูรณะหรือก่อสร้างศาสนสถานต่าง ๆ ภายในวัดเพื่อเป็นการพัฒนาวัดอีกด้วย
    วัตถุมงคลชุดนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2513 ประกอบด้วย พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ เป็นหลัก และยังมีพระเนื้อผง และโลหะอีกมากมายนับสิบพิมพ์ โดยวัตถุมงคลชุดนี้ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ ได้อธิษฐานจิตให้เมื่อปลายปี พ.ศ.2513 ซึ่งเป็นวัตถุมงคลชุดสุดท้ายที่ท่านอธิษฐานจิตก่อนที่จะมรณภาพ
    วัตถุมงคลชุดนี้ มีหลายสิบพิมพ์ เช่น
    พระสมเด็จดำ พระสมเด็จขาว หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    พระสมเด็จสายรุ้ง หลังเสือ หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    พระสมเด็จนาคปรก 7 เศียร หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    พระผงรูปเหมือน ธัมมวิตกโก หลังยันต์นูน (ยันต์น้ำเต้า)
    เหรียญ ธัมมวิตกโก เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง หลังยันต์น้ำเต้า
    ฯลฯ
    พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ ที่สร้างในปี พ.ศ.2513 นี้ถือเป็น พระสมเด็จรุ่นแรก ของวัดศีลขันธ์ และทันท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิต ซึ่งทางวัดศีลขันธ์ ได้มีพระสมเด็จรุ่นสอง รุ่นสามออกตามมาด้วย ในปี พ.ศ.2514 และ พ.ศ.2517 โดยที่สร้างขึ้นหลังกาลมรณะของท่านเจ้าคุณนรฯ แต่ใช้มวลสารที่ท่านเจ้าคุณนรฯได้อธิษฐานจิตไว้ให้เมื่อครั้งสร้าง พระสมเด็จสายรุ้ง รุ่นแรก ปี 2513
    หลักการพิจารณา พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ รุ่นแรก จะสังเกตเบื้องต้นได้ง่าย ๆ จากความสวยงามขององค์พระ โดยพระรุ่นแรก พิมพ์ทรงจะไม่สวยงาม เมื่อเทียบกับ รุ่นสอง รุ่นสาม ซึ่งมีพิมพ์ที่สวยงามเป็นมาตรฐาน รวมทั้งสีของลายสายรุ้ง พระสมเด็นสายรุ้ง รุ่นแรกก็จะไม่มีสีและลายไม่ค่อยจะสวยงามมากนัก สีจะซีดกว่า ไม่ชัดมากนัก
    พระสมเด็จสายรุ้ง รุ่นแรก พระจะบางกว่า ไม่หนาเหมือนพระรุ่นสอง และ รุ่นสาม นอกจากนี้ พระสมเด็จสายรุ้ง วัดศีลขันธ์ รุ่นแรก จะไม่มีการอุดผงใด ๆ ที่ขอบบนและล่างขององค์พระจะไม่มีรอยอุดผง
    และจุดสังเกตที่สำคัญคือยันต์หลังองค์พระ พระสมเด็จสายรุ้ง รุ่นแรก จะต้องเป็นยันต์นูนเท่านั้น ส่วน รุ่นสอง และรุ่นสาม จะเป็นแบบยันต์จม
    ขอขอบคุณเจ้าของบทความที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จสายรุ้งยันต์นูน และ ยันต์จม ๒ องค์ ให้บูชา 320 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240630_205925.jpg IMG_20240630_205950.jpg IMG_20240630_210019.jpg IMG_20240630_210039.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    วันนี้ จัดส่ง
    1719830980499.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระสิวลีเนื้อดินรุ่นบูรณะพระธาตุดอยตุง
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    FB_IMG_1719840745257.jpg FB_IMG_1719840747966.jpg FB_IMG_1719840750834.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2024 at 22:19
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719841903070.jpg
    ประวัติโดยย่อ พระครูอุดมภาวนาธิมุต (หลวงพ่อเพย อุตฺตโม)
    ชื่อเดิม ลำเพย นามสกุล พันธุมิตร เกิดวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ณ บ้านเลขที่ ๙ ม.๖ ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ รอด มารดาชื่อ เหนี่ยง
    ได้บวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ วัดบึง ตำบลวังแดง พระอุปัชฌาย์ พระครูอาทรสุตคุณ วัดศักดิ์ และอุปสมบทเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ณ วัดบึง ตำบลวังแดง พระอุปัชฌาย์ พระครูวิบูลวิหารธรรม วัดมะขามโพลง ตำบลท่าเจ้าสนุก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเขียน วัดวังแดงใต้ ตำบลวังแดง พระอนุสาวนาจารย์ พระสมวงษ์ วัดวังแดงเหนือ ตำบลวังแดง ได้รับฉายา อุตฺตโม
    วิทยฐานะ สำเร็จการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ณ โรงเรียนวัดบึง ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สอบนักธรรมเอกได้ปี พ.ศ. ๒๕๐๙
    ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลวังแดง และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบึงตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอุดมภาวนาธิมุต
    ปัจจุบันอายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๒ มีความรู้พิเศษและความชำนาญการทางจิตรกรรมและสถาปัตยกรรม มีความเมตตาปรานีช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยม

    IMG_1998.jpeg IMG_1997.jpeg IMG_1996.jpeg IMG_1995.jpeg IMG_1994.jpeg IMG_1999.jpeg
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญรุ่นสร้างโรงพยาบาลหลวงพ่อเพยวัดบึงพิธีใหญ่ ให้บูชา ๒ องค์ 420 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240701_204411.jpg IMG_20240701_204334.jpg IMG_20240701_204451.jpg IMG_20240701_204433.jpg IMG_20240701_204205.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719851328154.jpg

    ประวัติหลวงปู่สุภา กันตสีโล (พระมงคลวิสุทธิ์) วัดสิริสีลสุภาราม ม.6 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ท่านเป็นคน อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2438 ถึงปีนี้ท่านก็มีอายุย่างเข้าปีที่ 119 แล้ว หลวงปู่บวชเณรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เป็นศิษย์ของพระอาจารย์สีทัตต์ วัดท่าอุเทน จ.นครพนม และปี 2463 ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จากนั้นได้ไปศึกษาทางด้านกสิณและฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นหลวงปู่สุภาได้ออกธุดงค์ไปในทุกภาคของประเทศ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
    หลวงปู่สุภาเข้ามาธุดงค์ที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อประมาณปี 2500 ซึ่งหลวงปู่สุภาได้เล่าให้ฟังการตัดสินใจธุดงค์มาที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ก่อนจะมาภูเก็ตหลวงปู่ได้นิมิตเห็นเทวดาองค์หนึ่งบอกให้ท่านมาช่วยโปรดคนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ ท่านจึงได้ตัดสินใจมาที่ภูเก็ต โดยครั้งแรกท่านมาปักกรดอยู่บนเขารัง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งครั้งแรกท่านตั้งใจที่จะสร้างวัดที่บริเวณเขารังแต่ทางเจ้าของที่ดินไม่ขายที่ดินให้ ท่านจึงตกลงใจถอนกลดธุดงค์เพื่อเดินทางต่อไป แต่ในคืนก่อนที่หลวงปู่สุภาจะถอนกลดนั้น หลวงปู่สุภาก็ได้นิมิต ว่ามีพระภิกษุชราภาพรูปหนึ่งมาปรากฏร่างที่ข้างกลดธุดงค์ท่านจึงออกไปพบ พระภิกษุชรารูปนั้นก็ได้บอกหลวงปู่สุภาว่า “อย่าได้เสียใจเลย ยังมีสถานที่ที่เขาต้องการให้ท่านไปสร้างวัด ชาวบ้านเขารอกันเป็นเวลานาน แต่ไม่มีใครไปสร้างให้ ขอข้ามทะเลไปยังเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง ที่นั่นคือที่ที่ท่านจะสมปรารถนา” หลังจากนั้น หลวงปู่สุภาลงเรือที่ทางญาติโยมจัดให้ เพื่อเดินทางไปเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง แล้วหลวงปู่สุภาก็ปักกลด แสวงหาวิเวกบนเกาะสิเหร่ หลวงปู่สุภา จึงสร้างเป็นวัดขึ้นเป็นวัดแรกของเกาะ เรียกว่า “วัดเกาะสิเหร่” อย่างไรก็ตามเมื่อหลวงปู่สุภาสร้างวัดบนเกาะสิเหร่ เสร็จท่านก็แบกกลดขึ้นไปทางเหนือและพื้นที่อื่นๆ อีกครั้ง เพื่อแสวงหาความวิเวก หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ได้เดินทางกลับมาที่ภูเก็ตอีกครั้งโดยครั้งนี้หลวงปู่ ได้กลับมาที่เขารัง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ซึ่งหลวงปู่ปักกลดที่บริเวณ ด้านหลังของโรงพยาบาลวชิระติดกับที่เก็บศพ ซึ่งเล่าลือว่าผีดุ หลังจากปักกลดมีศิษย์ที่เคยรู้จักมาพบเข้าจึงเล่าลือกันปากต่อปาก จนมีลูกศิษย์ลูกหามานมัสการจำนวนมาก และทุกคนเห็นพ้องว่าท่านอายุมากแล้ว จึงนิมนต์ให้หลวงปู่อยู่กับที่ โดยได้ขอซื้อที่ดินจากเจ้าของที่จะขายให้ 1 ไร่เศษ จึงสร้างสำนักสงฆ์ขึ้น และหลวงปู่สุภาเล็งเห็นว่า หากต้องการสร้างความสงบให้แก่เขารังและแก่จังหวัดภูเก็ต ต้องสร้างพระพุทธรูปปางประทานพรไว้บนยอดเขารัง โดยออกแบบให้มีส่วนฐานขององค์พระขึ้นไปจากหลังคาสำนักสงฆ์ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2544 หลวงปู่สุภาได้สร้างวัดใหม่อีกแห่งหนึ่ง ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ม.6 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 38 ไร่ โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า “วัดสิริสีลสุภาราม” วัดแห่งนี้เป็นวัดลำดับที่ 39 ที่หลวงปู่สุภาได้สร้างขึ้น และถือเป็นวัดสุดท้ายที่หลวงปู่สร้างขึ้นก่อนที่หลวงปู่จะละสังขารซึ่งท่าน ได้อยู่ที่วัดนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อเดือน เม.ย. 55 ท่านก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดคอนสวรรค์ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งนอกจากหลวงปู่สุภาจะสร้างวัดแล้ว ท่านยังได้สร้างตึกสงฆ์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตอีกด้วย และในช่วงวันเกิดของหลวงปู่ทุกๆ ปี จะมีการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน ในจังหวัดภูเก็ตด้วย ซึ่งแต่ละปีในช่วงวันเกิดจะมีประชาชน-ลูกศิษย์จากทั่วสารทิศมาร่วมจำนวนมาก สำหรับเครื่องรางของขลังของหลวงปู่สุภา นิยมมาก ก็มี “พระเสด็จกลับ” ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรกที่วัดเกาะสิเหร่ นอกจากนั้นยังมี แมงมุมเรียกทรัพย์ จระเข้เฝ้าทรัพย์ สำหรับวิชาแมงมุมมหาลาภ เป็นตำราที่หลวงปู่สุภาได้เรียนมาจากหลวงปู่สุข นอกจากนั้นยังมีวัตถุมงคลอื่นๆ อีกจำนวนมาก ส่วนคำสอนที่หลวงปู่บอกลูกศิษย์เป็นประจำ คือ “กินน้อย นอนน้อย รักสันโดษ”
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล (พระมงคลวิสุทธิ์) มรณภาพอย่างสงบ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สิริอายุ 119 ปี ตั้งศพวัดคอนสวรรค์ จ.สกลนคร ขณะที่บรรยากาศที่วัดสิริสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต เงียบเหงา แต่ยังมีประชาชน เดินทางเช่าบูชาของขลังที่หลวงปู่ปลุกเสก...
    จากกรณี หลวงปู่สุภา กันตสีโล หรือ พระมงคลวิสุทธิ์ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 05.20 น. วันนี้ (2 ก.ย.2556) ที่วัดคอนสวรรค์ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ด้วยสิริอายุ 119 พรรษา ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับลูกศิษย์ ทั้งชาวจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เนื่องจาก
    หลวงปู่สุภา เป็นพระเกจิที่ผู้คนให้ความศรัทธาและให้ความนับถือเป็นอย่างมาก

    ประวัติการสร้างแมงมุมดักทรัพย์ หลวงปู่สุภากนฺตสีโลโดยสำนักสงฆ์พรหมเสนาสุภารามวัดลำดับที่ 39 ของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโลในพี พ.ศ. 2537หลวปู่สุภา กนฺตสีโล ได้บอกให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดไปจ้างช่างแกะงาช้าง เป็นรูปแมงมุมขนาดติดตัว หลวงปู่บอกว่าจะทำของวิเศษให้ใช้เมื่อหลวงปู่ลงให้เรียบร้อยจึงเล่าว่า โดยนิสัยแมงมุมจะชอบชักใย อะไรๆ ปลิวหรือบินมาก็จะติดหมด เปรียบเปรยกับผู้ที่นำกลัดติดตัวเมื่อไปค้าขายเจรจาอะไรก็จะประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้แล้วยังมีขนาดใหญ่ประจำบ้านเพื่อความมงคลเรื่องโชคลาภเช่นกันข้อมูลจาก หนังสือ 100 ปี ส.กนฺตสีโล.
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    รูปหล่อหลวงปู่สุภาและพระผงรูปเหมือนหลังแมงมุมดักทรัพย์ ๒ องค์ ให้บูชา 330 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240701_232502.jpg IMG_20240701_232521.jpg IMG_20240701_232431.jpg IMG_20240701_232601.jpg IMG_20240701_232539.jpg IMG_20240701_232711.jpg IMG_20240701_232640.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2024 at 01:46
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    FB_IMG_1719896616300.jpg
    "หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง"เกจิดังเมืองกรุง
    พระเครื่องเข้มขลังดีทาง"เมตตามหานิยม"
    “หลวงปู่ธูป” หรือ “พระราชธรรมวิจารณ์” เป็นพระยุคเก่าที่สมถะ มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายให้การอนุเคราะห์สาธุชนโดยเลือกชั้นวรรณะ เปี่ยมล้นด้วยพรหมวิหาร ให้การต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือนอย่างมีไมตรีจิต เป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิต และคฤหัสถ์โดยทั่วไป
    นับตั้งแต่สงครามอินโดจีนเรื่อยมา วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแคนางเลิ้ง หรือวัดสนามกระบือ ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือเป็นสถานที่ต้อนรับพระเกจิอาจารย์ที่อยู่ต่างจังหวัดมากมาย หลวงปู่ธูปจึงมีความสนิทคุ้นเคยและมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้ทางพุทธาคมคาถา กับพระผู้ทรงวิทยาคมในสมัยนั้นหลายรูปหลายนามยิ่งกว่านั้น ยังได้รับตำรับตำราจากพระคณาจารย์บางองค์เป็นการเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะวิชา “อยู่ยง”นั้นเป็นที่เล่าลือมาก
    ต่อมาในระยะหลังๆพระเกจิอาจารย์มาเยือนวัดแคนางเลิ้งเพียงไม่กี่รูป เพราะชราภาพไม่สะดวกในการเดินทาง คงมีแต่หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อนอ วัดกลางและหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันคงเหลือแต่เพียงเรื่องราวของท่าน ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเล่าขานสืบต่อกันมา
    หลวงปู่ธูปเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 9 ของวัดแคนางเลิ้งที่มีความเข้มขลังทางพุทธาอาคม เป็นเกจิร่วมยุคกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม โดยเฉพาะหลวงปู่โต๊ะจะสนิทสนมกันมาก เมื่อวัดแคมีการปลุกเสกพระจะต้องนิมนต์หลวงปู่โต๊ะไปร่วมนั่งปรกทุกครั้ง สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ยอมเปิดเผยวิทยาคุณด้านนี้ให้เป็นที่แพร่หลายมากนัก ผู้คนทั่วไปจึงไม่ค่อยมีโอกาสรับรู้ นอกจากผู้อยู่ใกล้ชิดและติดตาม

    ท่านเกิดในสกุล “วิชาเดช” เกิดวันจันทร์ที่ 11 เม.ย. 2441 ณ บ้านต.บางหลวงเอียง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ “เดช” มารดาชื่อ “ผ่อง”มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ท่านเป็นคนสุดท้อง อายุได้ 8 ปี ญาติผู้ใหญ่นำไปฝากให้เรียนอักษรสมัยที่วัดตะกู โดยมีพระอาจารย์เอม เจ้าอาวาสขณะนั้น เป็นครูสอนเรียนหนังสือไทยเบื้องต้น มีประถมก.กา มูลบทบรรพกิจ หนังสือพระมาลัยและขอม เป็นพื้นฐานเบื้องต้น จากนั้นได้ย้ายมาศึกษาวิชามูลกัจจายน์ และเรียนหนังสือบาลีที่วัดศาลาปูน จ.พระนครศรีอยุธยา

    หลังจากเล่าเรียนจนแตกฉานแล้ว พี่ชายของท่านซึ่งอยู่กับญาติผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯคือ พล.ต.อ.เจ้าพระยาราชศุภนิมิตร และท่านผู้หญิงแปลก ได้มารับท่านไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วย และได้ให้ความเมตตาและอุปการะเป็นอย่างดี โดยให้เข้าเรียนหนังสือต่อที่ ร.ร.วัดส้มเกลี้ยง(วัดราชผาติการาม) จนจบชั้นประถม 4 ในขณะที่เล่าเรียนได้มีโอกาสติดตาม พล.ต.อ.เจ้าพระยาราชศุภนิมิตรเข้าเฝ้า และติดตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชพิธีต่างๆ และการเสด็จแปรพระราชฐานในต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง

    เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารได้สมัครเข้ารับราชการเป็นทหารรักษาวังอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการท่านเจ้าพระยาและท่านผู้หญิง ได้อุปถัมภ์ให้เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดสุนทรธรรมทาน เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2463 สมเด็จพระวันรัต (จ่าย) เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอริยมุนี (หว่าง) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพุทธบาล (เนตร) เจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “เขมสิริ”

    ได้อยู่จำพรรษาที่วัดแคนางเลิ้ง ศึกษาพระธรรมวินัยกับพระครูพุทธบาลมาโดยลำดับ และยังได้ศึกษานักธรรมชั้นตรีในสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตร เมื่อถึงกำหนดสอบธรรมสนามหลวง เกิดอาพาธกะทันหันจึงล้มเลิกการศึกษาทางด้านคันถธุระตั้งแต่นับนั้นและหันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและพุทธาคมคาถา

    ประมาณพรรษาที่ 3 ได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากรรมฐานชั้นสูงกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จนบรรลุฌานชั้นสูง สามารถแสดงอิทธิคุณต่างๆได้ ยิ่งกว่านั้น ยังได้ศึกษาเวทมนต์คาถา ซึ่งเป็นวิชาการแขนงหนึ่งที่พระเถระยุคเก่าต้องใฝ่หาเรียนรู้ไว้เพื่อประโยชน์ในงานพระศาสนาต่างๆ อาทิ การปลุกเสกวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยพระผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้ภาวนาปลุกเสก โดยได้รับการประสิทธิ์ประสาทจากหลวงพ่อปานมาเต็มเปี่ยม จากนั้นจึงไปเรียนวิชากับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ได้วิชาทำเชือกคาดเอวที่มีประสบการณ์ดัง"ไม่ไหม้ไฟ"

    หลวงปู่ธูปใช้เวลาศึกษาอยู่กับหลวงพ่อปานประมาณหนึ่งพรรษา จึงกลับคืนวัดสุนทรธรรมทาน และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทนพระครูพุทธบาล ที่ขอลาสิกขาบทในปีพ.ศ.2470 และผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งจนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ.2471 ขณะมีอายุได้ 30 ปี พรรษา 8 นับเป็นพระหนุ่มที่มีพรรษาน้อยสุดที่ได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดในเขตจ.พระนครสมัยนั้น

    หลังจากรับตำแหน่งท่านก็ริเริ่มปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้างอาคาร เสนาสนะต่างๆเรื่อยมา โดยเริ่มลงมือตั้งแต่ปีพ.ศ.2472-2500 ซึ่งเป็นปีที่ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. 2533 เวลา 02.26 น. ท่านก็มรณภาพลงที่โรงพยาบาลพญาไท รวมสิริอายุ 92 ปี 3 เดือน 28 วัน พรรษา 70

    ด้านวัตถุมงคล ตลอดเวลาที่ท่านครองเพศพรหมจรรย์ ได้สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆมากมายหลายรุ่น จากการบันทึกของหนังสือวัดทราบว่าสร้างครั้งแรกในปีพ.ศ.2482 และจัดสร้างติดต่อกันมาจนถึงพ.ศ.2529 วัตถุมงคลที่ท่านสร้างเมื่อปีพ.ศ.2482 ได้สร้างร่วมกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เป็นพระสมเด็จฐานสามชั้น พระรอด พระนางพญา และพิมพ์นางกวัก พระที่สร้างครั้งนี้เป็นพระเนื้อผง ผสมกับดินปูชนียสถาน และผงใบลาน ลงรักฉาบเนื้อ เนื้อในสีดอกเทา ด้านหลังจะเป็นรอยจารลึกลงไปในเนื้อทุกองค์

    เมื่อสร้างเสร็จท่านก็แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์และผู้มาแสดงมุทิตาจิต ที่เหลือนอกนั้นนำไปบรรจุที่ใต้ฐานพระประธาน พระชุดนี้ปัจจุบันหาดูได้ยากสักหน่อย นอกจากนี้ท่านได้สร้างตะกรุด เชือกคาดเอว พระเนื้อผงรุ่นปีพ.ศ.2504 เหรียญปีพ.ศ.2513 และอื่นๆ อีกพอสมควร
    วัตถุมงคลวงปู่ธูปทุกชนิดมีพุทธคุณในด้าน “เมตตามหานิยมและความรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน” เป็นหลัก เรื่องคุ้มครองแคล้วคลาดก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญ หลวงพ่อดำ หลังพระประจำวันทั้ง ๗ หลวงปู่ธูป วัดแค(นางเลิ้ง)ปี ๒๕๒๑
    บูชา 130 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240702_115912.jpg IMG_20240702_115935.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,416
    ค่าพลัง:
    +21,326
    fb_img_1717330363994-jpg-jpg.jpg fb_img_1717330373524-jpg-jpg.jpg

    หลวงพ่อแสวงวัดหนองอีดุกท่านเป็นศิษย์อีกรูปของหลวงพ่อกวย วัตถุมงคลพระเครื่องหลวงพ่อกวยที่ปลุกเสกวัดหนองอีดุกนิยมเล่นหาและมีราคาสูง

    เหรียญหลวงพ่อแสวง ครุธมโม รุ่นสรงน้ำ
    สร้างปี 2544 ในปี 44 ทางวัดและลูกศิษย์
    ของหลวงพ่อแสวง ได้มีดำริจะจัดให้มีการ
    สรงน้ำหลวงพ่อแสวง จึงมีการจัดสร้าง
    เหรียญที่ระลึกขึ้นมา เพื่อมอบให้กับศิษย์ที่มาสรงน้ำและนำผ้าป่ามาถวายหลวงพ่อในวันสรงน้ำ หลังจากแจกให้กับศิษย์แล้ว เรียญยังมีเหลืออีกจำนวนมาก พอมาปี 2557 ทางวัดได้นำเหรียญส่วนหนึ่งไปกะไหล่สามกษัตริย์ ทอง,เงิน,นาค,และเลี่ยมกรอบทอง80% ใส่กล่องกำมะหยี่ สวยงาม เพื่อมอบให้กับเจ้าภาพงานกฐิน ปี 2557 และเหรียญสรงน้ำนี้ ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อแสวง ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ในปี 2547เหรียญนี้จึงน่าสะสมไว้บูชาครับ เพราะทันหลวงพ่อครับ สาธุๆๆ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญสรงน้ำหลวงพ่อแสวงวัดหนองอีดุกให้บูชา ๒ เหรียญ 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240702_120059.jpg IMG_20240702_120133.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...