มาร้าย-ไปดี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 24 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้ เราจะเลือกเกิดเองตามชอบใจไม่ได้ ฉะนั้น จึงมีมนุษย์ถือกำเนิดเกิดมาในตระxxxลที่สูงศักดิ์ อุดมสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ และก็มีมนุษย์ที่เกิดมาในตระxxxลยากจนเข็ญใจ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่กฎแห่งกรรมจะบันดาลให้เราเกิด ไม่มีใครเลือกเกิดได้ตามใจชอบ ต้องแล้วแต่บุญกุศลบารมีที่เราได้เคยสร้างสมเอาไว้

    สิ่งใดที่เราได้กระทำไว้เราก็จะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นชาติปัจจุบันหรือชาติข้างหน้าต่อไป จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ย่อมจะเป็นเงาติดตามเราไปทุกหนทุกแห่ง คอยโอกาสที่จะเกิดผลตอบแทนตามสนอง

    สิ่งที่คนเราจะต้องประสบด้วยกัน ทุกรูปทุกนาม ไม่ว่าผู้นั้นจะเกิดมาในตระxxxลสูงศักดิ์หรือเกิดมาในตระxxxลต่ำต้อย สิ่งนั้นก็คือความทุกข์ เมื่อได้บรรลุนิติภาวะแล้วย่อมจะมีปัญหาชีวิตก็จะต้องคอยขบคิดแก้ไขยากบ้าง ง่ายบ้าง แล้วแต่เหตุการณ์ในชีวิต จะต้องเกิดขึ้น

    เมื่อยังมีความรู้สึกในรูปรส กลิ่น เสียงและยังลุ่มหลงอยู่ในกิเลสตัณหายังมีความโลภ รัก โกรธ หลง ก็ย่อมจะวนเวียน ตายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็ตาย ตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงรู้แจ้งเห็นจริงตามธรรมชาติที่เกิดดับไม่รู้สิ้นสุด หมกมุ่นอยู่บนกองกิเลสตัณหา

    ฉะนั้น องค์พระศาสดาจึงทรงชี้ทางดับทุกข์ พ้นจากความเวียนว่ายตายเกิด ให้สุดสิ้นลงจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยอาศัยอำนาจจิตที่มีศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะกำจัดทุกข์จากความรู้สึกให้สูญสิ้นไปจากใจ ไม่มีวันจะกลับคืนมาอีก เมื่อมนุษย์เรารู้แล้วว่า เราเกิดมาต้องรับทุกข์ด้วยกันทุกคน ที่สุดก็ไม่มีผู้ใดหนีความแก่ ความเจ็บ ความตายไปได้

    ทำไมเราจึงไม่ทำจิตใจให้มีความเมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ที่เกิดมาร่วมทุกข์ด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในเมื่อเรามีโอกาสสามารถจะช่วยเหลือได้ โดยไม่ทำให้เราได้รับความเดือดร้อนข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต

    ระวังอย่าทำบุญได้บาป เพราะเคยมีบางท่านหลงงมงายในการทำบุญทำทาน โดยxxx้หนี้ยืมสินแทนที่จะก่อสุขทางใจกลับเกิดทุกข์ เพราะกระทบกระเทือนครอบครัวในการครองชีพ ฉะนั้น พระพุทธองค์จึงทรงสั่งสอนให้ปฏิบัติสายกลางย่อมจะได้ผลดีกว่า

    ฉะนั้น ผู้ซึ่งเกิดมาดี เมื่อเป็นคนแล้วก็ควรจะประกอบแต่กรรมดี เมื่อตายไปแล้วก็จะไปสู่ทางดี และผู้ที่เกิดมาไม่ดี แต่เมื่อเป็นคนที่อยู่ในโลกก็ประกอบแต่กรรมดี ความดีนั้นย่อมตามสนองโลกนี้และโลกหน้า เมื่อตายไปแล้วก็จะไปสู่ทางดี ผู้เกิดมาดี แต่เมื่อเป็นมนุษย์ก็ประกอบแต่กรรมชั่ว ย่อมจะได้รับกรรมตามสนองเช่นเดียวกัน

    ได้เคยมีเรื่องมา ผู้สร้างความดีมีจิตใจเมตตาสงสารแล้วในอดีต ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย และก็ไม่เป็นสิ่งที่เก่าแก่ล้าสมัยเกินไป คล้ายเพชรมณีอันมีค่าแม้จะตกจมอยู่ในโคลนตมจะช้านานเพียงไร เมื่อมีมนุษย์ไปเห็นเข้าก็ย่อมมีคุณค่าไม่เสื่อมคลาย ย่อมจะนำเอามาเป็นเครื่องประดับกาย และเรื่องของผู้ประกอบกรรมดีประดับความรู้เช่นเดียวกัน

    เรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นนับย้อนหลังจาก พ.ศ. ๒๕๐๐ ไปประมาณสี่สิบกว่าปี ครอบครัวผู้อันจะกินครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีมีคุณธรรมสูง ได้ขอพระราชทานบัตรทำเหมืองแร่พลอย แขวงเมืองกาญจนบุรี ซึ่งต่อมาเป็นกิ่งอำเภอบ่อพลอย ขึ้นกับอำเภอพนมทวน

    เย็นวันหนึ่งมีคนเดินทางหมู่หนึ่งมาหยุดพักแถวเขตหน้าบ้าน เจ้าของบ้านเมื่อเห็นก็เกิดมีความสงสารเพราะเป็นคนมีเมตตาจิต เห็นผู้ใดได้รับความลำบากก็อดจะเกิดคิดที่จะช่วยเหลือไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคนหมู่นั้นจะพักแรมในที่แจ้งเช่นนั้นกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะสมัยนั้นมีสัตว์ร้ายชุกชุมกลัวจะเป็นอันตราย

    จึงเรียกให้คนหมู่นั้นขึ้นมาพักบนบ้าน และได้สั่งให้คนในบ้านจัดหาอาหารมาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ และก็สนทนาด้วยความเห็นอกเห็นใจด้วยไมตรีจิตจากเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี และซ้ำยังเชิญแขกที่มาพักให้รับประทานอาหารเช้าเสียก่อน ค่อยออกเดินทางต่อไป

    แต่พอรุ่งเข้าปรากฏว่า หมู่แขกที่มาพักได้ออกเดินทางไปแต่เช้าตรู่ ยังไม่ทันสว่างดี ทำให้พ่อบ้านสงสัยว่า ทำไมเมื่อวานรับปากว่าจะทานอาหารเช้าและจะไป จึงกลับหายตัวไปก่อนเช่นนี้ เมื่อเข้าไปในห้องที่ชายหมู่นั้นพัก ก็เห็นข้างฝาเป็นไม้กระดาน มีตัวหนังสือเขียนด้วยดินสอพอง มีใจความว่า
     
  2. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ตัวที่ถูก censor คือ กอไก่ สระอู ^_^ www.กูเกิ้ล.co.th พี่แกคงเอามาจากเว็บอื่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...