ภูกระดึง...ใกล้ใจ ไกลตีน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 25 มกราคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ปิ่น บุตรี</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มกราคม 2549 18:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : ปิ่น บุตรี


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผาหล่มสัก ความงามที่อยู่ใกล้ใจแต่ไกลตีนกว่าจะเดินถึง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในการเที่ยวภูกระดึงทุกๆครั้ง ความรู้สึก “ใกล้ใจ ไกลตีน”มักเกิดขึ้นกับผมเสมอ

    ใกล้ใจ...เพราะมโนภาพของธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงล้วนกำเนิดเกิดก่อเด่นชัดอยู่ในใจ

    ไกลตีน...เพราะกว่าจะได้ไปสัมผัสในความสวยงาม คนเที่ยวภูกระดึงต้องรวบรวมพลังเดินเท้าอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปอีกหลายกิโลแม้วกว่าจะถึงยังจุดหมายปลายทาง

    แต่กระนั้นเหล่าผู้รักภูกระดึงทั้งหลายต่างก็ไม่เคยปฏิเสธในความยากลำบาก เพราะหนทางยิ่งยากลำบาก ความประทับใจก็ยิ่งเพิ่มมากเป็นเงาตามตัวเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง...

    1...

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ใกล้แค่ใจเอื้อม แต่ว่ากว่าจะไปให้ถึงมันช่างไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าในเส้นทางสู่จุดหมาย “ใจ”ของเหล่าผู้รักภูกระดึงต่างก็เกิดอาการ“ใกล้”กันโดยไม่รู้ตัว เพราะหลายๆคนต่างเปิดใจและหยิบยื่นน้ำมิตรจิตใจให้แก่กัน

    เมื่อใจใกล้กันบรรยากาศแห่งมิตรภาพและกำลังใจย่อมกำเนิดเกิดก่อตามมา

    ...ในระหว่างที่ผมเดินตุปัดตุเป๋หอบหลายแฮ่กอยู่ในเส้นทางสู่“ซำแฮก” คุณลุงอายุ 60 กว่าที่เดินลงมาจากยอดภูได้ให้กำลังใจว่า “เดินไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อน เหนื่อยก็หยุดพัก อีกไม่นานก็ถึง”

    ...ในระหว่างที่ผมเดินแบบกึ่งเหนื่อยกึ่งท้อจากซำกกไผ่สู่ซำกกโดน ลูกหาบที่แบกของจนเพียบแปล้ค่อยเดินแกว่งแขนแซงผมไปอย่างช้าๆ งานนี้เล่นเอาผมที่มีอาการท้อเล็กๆอดไม่ได้ที่จะต้องกัดฟันเดินต่อไป เพราะขนาดลูกหาบที่แบกของหนักหลายสิบกิโลกรัมยังเดินขึ้นไปได้ นับประสาอะไรคนที่แบกแค่กล้องเพียงหนึ่งตัวอย่างผมจะเดินขึ้นไม่ได้

    ...ในระหว่างที่ผมเดินเหงื่อไหลไคลย้อยจากซำกกหว้าสู่ซำกกไผ่ ผู้ที่เดินสวนทางลงมาหลายๆคนเอ่ยปากเชิญชวนให้ดื่มน้ำของเขา เพราะเห็นผมมีเพียงกล้องติดตัวแต่ไม่ได้พกพาน้ำไป

    ...ในระหว่างที่ผมรวบรวมกำลังขาปีนบันไดลิงจากซำแคร่สู่หลังแป ผู้ที่สวนทางลงมาต่างก็ให้กำลังใจว่า “อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว”

    สิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ที่พานพบได้ในการเดินขึ้นภูกระดึง ที่ไม่อาจพานพบได้ในย่านสีลม สยามสแควร์ สวนจตุจักร หรือย่านธุรกิจอีกหลายแห่งในผืนป่าคอนกรีต นอกจากนี้ยังมิอาจพานพบได้ในการนั่งกระเช้าขึ้นภูกระดึง !?!

    ครั้นเมื่อผมกึ่งเดินกึ่งปีนป่ายจากซำแคร่สู่หลังแปขึ้นไปพบกับภูยอดตัดพื้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าป่าสน แล้วพบกับป้าย“ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง”ตั้งเด่นหรา ผมอดภาคภูมิใจอยู่ลึกๆไม่ได้

    นี่เป็นความภาคภูมิเล็กๆมนุษย์เล็กๆคนหนึ่งซึ่งผมเชื่อว่าผู้พิชิตภูกระดึงหลายๆคนคงไม่แตกต่างจากผม เพราะเราสามารถเอาชนะอุปสรรคด่านที่โหดที่สุดเดินทางสู่จุดหมายเบื้องต้นได้

    “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง”

    ...ความภูมิใจเล็กๆนี้มีแต่คนที่เดินขึ้นภูกระดึงเท่านั้นถึงจะรับรู้และสัมผัสได้

    2...

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ใกล้แค่ใจเอื้อม แต่ว่ากว่าจะไปให้ถึงมันช่างไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง แต่ผู้พิชิตภูกระดึงกลับหลงในเสน่ห์ของการเดินเที่ยวบนภูกระดึง

    เพราะในเส้นทางเที่ยวไปจุดต่างๆถึงแม้จะห่างไกลกัน แต่ว่าระหว่างทางเดินล้วนอบอวลไปด้วยธรรมชาติของภูผา ทุ่งหญ้า ป่าสน ที่ถึงแม้ว่าภูกระดึงในวันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปกว่าก่อนมาก แต่หลายๆคนก็ยังถวิลหาในความงามของภูกระดึงกันอยู่ เพราะการเปลี่ยนแปลงของภูกระดึงที่เกิดขึ้นในวันนี้ยังคงเป็นไปตามสภาพของการจัดการการท่องเที่ยวแบบไทยๆ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ป้ายผู้พิชิตภูกระดึง ความภาคภูมิใจของนักท่องเที่ยวที่ไม่สัมผัสก็จะไม่รู้ได้ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แต่หากว่าภูกระดึงมีการสร้างกระเช้า นั่นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของภูกระดึง เพราะเหล่าผู้ผลักดันการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงไม่เคยพูดถึงการจัดการหลังการสร้างกระเช้าแต่อย่างใด

    ...หลังมีกระเช้าการจัดการกับนักท่องเที่ยวบนภูกระดึงจะเป็นเช่นไร??? เพราะทุกวันนี้ในช่วงวันหยุดยาวคนก็เที่ยวภูกระดึงกันจนล้นแล้ว

    ...หลังมีกระเช้าคนสามารถไปเที่ยวภูกระดึงได้ง่ายขึ้นจะจัดการกับผู้คนจำนวนมากให้ท่องเที่ยวร่วมกับธรรมชาติ(ทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด)ได้อย่างไร??? (ภูกระดึงรองรับคนได้เพียงวันละ 1,500 คน เต็มที่ช่วงหยุดยาวไม่เกิน 5,000 คน แต่ทางผู้ผลักดันสร้างกระเช้าบอกหลังภูกระดึงสร้างกระเช้าจะทำให้มีคนไปเที่ยวภูกระดึงเป็นหมื่น)

    ...หลังมีกระเช้าธรรมชาติบนภูกระดึงจะเป็นเช่นไร??? เพราะทุกวันนี้แม้ทางทางอุทยานฯจะปิดภูกระดึงให้ป่าได้พักฟื้น 4 เดือน แต่กระนั้นภูกระดึงยังบอบช้ำอยู่พอสมควร

    ...หลังมีกระเช้าภูกระดึงต้องปิดป่า 4 เดือนเพื่อให้ป่าพักฟื้น(ตามกฎเดิม) แล้วทางเอกชนผู้รับสัมปทานกระเช้าจะยอมหรือ??? เพราะกระเช้าจะต้องถูกทิ้งล้างแบบไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่าย(จ่ายให้กับผู้ดูแลกระเช้า)

    ...หลังมีกระเช้าจะจัดการกับวิถีชีวิตของลูกหาบ ร้านค้า และชาวบ้านที่มีชีวิตผูกติดกับการท่องเที่ยวภูกระดึงอย่างไร??? เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนร่ำรวยแต่พวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กับผืนป่าแห่งนี้มาช้านาน(ก่อนประกาศเป็นอุทยานฯเสียอีก)

    ...หลังมีกระเช้า ทางผู้สร้างบอกว่าจะให้คนไปเที่ยวภูกระดึงแบบไปเช้า-เย็นกลับ แต่เสน่ห์ของภูกระดึงที่ถือเป็นไฮไลท์นั้นอยู่ที่พระอาทิตย์ตก ณ ผาหล่มสัก และพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ถ้าไม่ค้างแรมบนยอดภูรับรองไม่ได้ยลไฮท์ไลท์ของภูกระดึงแน่นอน(จุดที่คาดว่าจะสร้างกระเช้าขึ้นคือผาเหยียบเมฆ ซึ่งอยู่ห่างจุดชมอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักและพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นหลายกิโลเมตรอยู่) แต่หากว่าจะขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือพอชมพระอาทิตย์ตกแล้วค่อยนั่งกระเช้าลงก็ผิดกฎระเบียบของการเข้า-ออก อุทยานฯแน่นอน เพราะเลยเวลาที่กำหนดแล้ว(ที่ทำการอุทยานฯด้านล่าง(บ้านศรีฐาน) เปิดทำการระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.)

    นี่เป็นแค่การจัดการบางส่วนเท่านั้นหลังภูกระดึงมีกระเช้า แต่ว่าที่ผ่านมาผู้ผลักดันการสร้างกระเช้าไม่เคยมีใครพูดอย่างชัดเชนว่าจะจัดการอย่างไร มีแต่พูดแบบแผ่นเสียงตกร่องว่า การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงทำเพื่อเด็ก คนแก่ คนพิการ เพื่อขนขยะลง และเพื่อการกระจายรายได้ให้กับชุมชน

    ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวบางคนฟุ้งถึงขนาดว่า หลังการสร้างกระเช้าแล้ว อาจจะมีการแบ่งโซนสำหรับนักท่องเที่ยวผู้มีกำลังซื้อสูง มีการสร้างที่พักชั้นดี และมีการนำรถกอล์ฟไปวิ่งบริการบนภูกระดึงสำหรับนักท่องเที่ยวชั้นดีตามที่เขาว่า

    โอว...ปลาร้าไหแตก ปลาแดกไหระเบิด คิดได้ไง(วะ)เนี่ย!?!

    3...

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ใกล้แค่ใจเอื้อม แต่ว่ากว่าจะไปให้ถึงมันช่างไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง

    แม้ธรรมชาติสวยๆงามๆบนยอดภูกระดึงจะอยู่ไกลตีนเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าในเส้นทางสู่จุดหมาย มายาคติแห่งชนชั้น“ชนชั้น”ที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาได้ถูกทำลายลงหรือถูกยับยั้งไว้ในเส้นทางเที่ยวภูกระดึง

    ไม่ว่าจะยากดีมีจน

    ไม่ว่าจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำหรือผู้ดีตีนแดง

    ไม่ว่าจะเลือกไทยรักไทยหรือเลือกประชาธิปัตย์

    เมื่อไปเที่ยวภูกระดึงทุกคนต้องดำรงชนชั้นเดียวกันนั่นก็คือ ชนชั้นตีนติดดิน เพราะเวลาไปไหน มาไหน เดินขึ้น เดินลง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ทุกคนบนภูกระดึงต้องเดินสถานเดียวไม่ว่าจะเดินด้วยความเต็มใจหรือเดินเพราะไม่มีทางเลือกก็ตาม

    แต่น่าแปลกตรงที่เหล่าผู้พิชิตภูกระดึงส่วนใหญ่กลับประทับใจในการเดินเที่ยวภูกระดึง เพราะเมื่อมายาคติแห่งชนชั้นถูกยับยั้งหรือถูกทำลาย มิตรภาพก็บ่มเพาะได้ง่ายขึ้น

    เป็นมิตรภาพตกหล่นที่ไม่อาจพบได้ในป่าคอนกรีต ไม่อาจหาได้ในการนั่งกระเช้า

    บางคนเก็บมิตรภาพที่ตกหล่นนำกลับมาบ่มเพาะเป็นความรักใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

    บางคนเก็บมิตรภาพที่ตกหล่นนำกลับมาต่อยอดกลายเป็นเพื่อนรักกัน

    บางคนเก็บมิตรภาพที่ตกหล่นนำกลับมาพัฒนาร่วมงานเป็นหุ้นส่วนกัน

    แต่หากมีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงบรรยากาศแห่งมิตรภาพที่ตกหล่นส่วนหนึ่งจะหายไป ในขณะที่ชนชั้นบนภูกระดึงก็จะถูกแบ่งเป็น 2 ชนชั้นทันที

    หนึ่งเป็น“ชนชั้นตีนติดดิน”

    ในขณะที่อีกหนึ่งเป็น“ชนชั้นตีนลอยฟ้า”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +1,318
    จะยังไงก็ช่าง ถ้ามันเป็นธรรมชาติก็น่าไปแหละ ^_^
     
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    [​IMG] << 2 คนนี้เค้าจะไปไหนกันอ่ะไผ่...555
     
  4. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +1,318
    555 ไป .. ด้วยกัน ^_^
    <P align="center"><embed src="http://palungjit.org/attachments/a.21258/" width="0" height="99" pluginspage="http://www.apple.com/quicktime/resources/qt/us/proxy/" border="1" autostart="1" ></embed></p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2006

แชร์หน้านี้

Loading...