พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั่วทิศแดนไทย = "หลวงพ่อเหลือ" วัดหงษ์ จ.พิจิตร: ตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ และ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย MonYP, 3 เมษายน 2024.

  1. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    เจ้าแม่กวนอิม เทียนฟ้า: พลังแห่งความเมตตาและสุขภาพอันเป็นมงคล

    เจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ถือเป็นเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงและได้รับการเคารพบูชาอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน องค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นที่รู้จักกันในฐานะของสัญลักษณ์แห่งความเมตตาและความกรุณา และในประเทศไทยก็มีสถานที่ที่เจ้าแม่กวนอิมได้รับการเคารพบูชาอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ มูลนิธิเทียนฟ้า ที่ประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิม เทียนฟ้า ซึ่งเป็นองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 800 ปี

    เจ้าแม่กวนอิม เทียนฟ้า: ศิลปะที่เหนือกาลเวลา
    องค์เจ้าแม่กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ที่มูลนิธิเทียนฟ้านั้นสร้างขึ้นจาก ไม้จันทน์แกะสลัก โดยรูปแบบขององค์พระเป็นศิลปะจากยุคราชวงศ์ถัง แต่สันนิษฐานว่าอาจสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งทำให้องค์เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีอายุมากกว่า 800-900 ปี การอัญเชิญองค์เจ้าแม่กวนอิมจากประเทศจีนมายังมูลนิธิเทียนฟ้าในปี พ.ศ. 2501 เป็นการกระทำที่สะท้อนถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คนที่ต้องการได้รับพรแห่งความกรุณาและความคุ้มครอง

    วัตถุมงคลแห่งสุขภาพ
    ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิมที่มูลนิธิเทียนฟ้าโดดเด่นในเรื่องของการ ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และการให้พรให้ผู้ที่มาสักการะมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ผู้คนจำนวนมากนิยมมาขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมเพื่อป้องกันและรักษาโรคภัย ทั้งร่างกายและจิตใจ การมอบความศรัทธาและความเคารพต่อเจ้าแม่กวนอิมนี้ถือเป็นการสร้างบุญกุศลและเป็นการปัดเป่าความทุกข์ยากต่างๆ ในชีวิต

    วิธีการสักการะและขอพร
    ผู้ที่ต้องการขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมควรทำการ จุดธูปเทียน และ ถวายดอกไม้ หรือผลไม้ที่เป็นมงคล เมื่อสักการะเสร็จ ควรตั้งจิตให้บริสุทธิ์ ทำสมาธิแล้วกล่าวอธิษฐานขอพรโดยมุ่งเน้นที่การขอให้สุขภาพแข็งแรงและปราศจากโรคภัย การกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้วยความบริสุทธิ์ใจนั้น เป็นที่เชื่อกันว่าจะได้รับพรจากองค์ท่านและคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ

    ความเมตตาแห่งเจ้าแม่กวนอิม
    เจ้าแม่กวนอิมไม่ได้เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาและกรุณาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พึ่งพิงของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ผู้คนเชื่อว่าท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือและปัดเป่าความทุกข์ทรมานของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหมายลึกซึ้งของความเป็นพระโพธิสัตว์ที่ยึดถือในหลักความเมตตาอย่างเต็มที่

    เจ้าแม่กวนอิม เทียนฟ้า ที่ประดิษฐาน ณ มูลนิธิเทียนฟ้า เป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาและความเมตตาที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพสักการะ การอธิษฐานขอพรจากองค์ท่านไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสุขภาพที่แข็งแรงและการปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ แต่ยังเสริมสร้างความสงบสุขและความสบายใจแก่ผู้ที่ศรัทธา
    FB=มูลนิธิเทียนฟ้า
    https://hlpvirtualtour.com/kuan-yim-shrine-thian-fa-foundation/#

    SDnMO71VCRKz9yWzfPIy9HxzrrtmyjzI8T5F3hIs&_nc_ohc=r2GhUqLPatoQ7kNvgHDMQCN&_nc_ht=scontent.fphs4-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2024
  2. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    หลวงพ่อทศพล วัดหนองตะแบก ระยอง
    ===========================

    ในสังคมไทย พุทธศาสนามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิถีชีวิตของผู้คนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในสิ่งสำคัญที่เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาคือ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายของความเมตตา ความสงบ และการปกป้องคุ้มครอง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ เช่นเดียวกับ หลวงพ่อทศพล พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่ง วัดหนองตะแบก จังหวัดระยอง ที่ได้รับการเคารพบูชามาอย่างยาวนาน

    หลวงพ่อทศพล: ศูนย์กลางแห่งความศรัทธา
    หลวงพ่อทศพล เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐาน ณ วัดหนองตะแบก จังหวัดระยอง ตั้งแต่ยุคก่อนปี พ.ศ. 2509 ก่อนที่ทางวัดจะนิมนต์องค์หลวงพ่อขึ้นไปประดิษฐานบนศาลาการเปรียญ เพื่อให้สะดวกต่อการกราบไหว้และอธิษฐานขอพรของชาวบ้านและผู้ที่มาเยี่ยมเยียน ว่ากันว่า หลวงพ่อทศพล มีความเมตตาและศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับผู้ที่ทำการขอพรด้วยความบริสุทธิ์ใจ การกราบไหว้บูชาที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการได้รับพรตามปรารถนา

    วิธีการสักการะและขอพร
    เพื่อให้ได้รับพรจากหลวงพ่ออย่างเต็มที่ ต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง เริ่มต้นด้วยการสมาทานเบญจศีลและเจริญกรรมฐาน เพื่อให้จิตใจสงบนิ่ง และอุทิศบุญกุศลแก่พระรัตนตรัยและบุคคลผู้มีพระคุณ จากนั้นจึงทำการอธิษฐานขอพรตามที่ต้องการ

    หลักการแห่งการให้
    หลักธรรมที่ซ่อนอยู่ในกระบวนการขอพรนี้ สะท้อนถึงความสำคัญของการเป็น "ผู้ให้" มากกว่า "ผู้รับ" การให้ด้วยการภาวนาถือเป็นทานที่มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ การภาวนาจึงถูกเปรียบเหมือนการถวายวัตถุทานอันเลิศรส ก่อนที่เราจะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ให้เสียก่อน

    พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เช่น หลวงพ่อทศพล วัดหนองตะแบก เป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาและความเชื่อของชาวไทยที่สืบทอดต่อกันมา การกราบไหว้บูชาด้วยใจที่บริสุทธิ์ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ที่มาขอพรได้รับสิ่งที่ปรารถนาเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความสงบสุขและสติปัญญาให้เกิดขึ้นในจิตใจ
    ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
    FB=วัดหนองตะแบก จ.ระยอง
    EZ2YOgnC7Q9uYeMwm5uJVQB-YX6R-jlqK0Z-nVoe&_nc_ohc=UjkVamPlhGAQ7kNvgGvWLm_&_nc_ht=scontent.fphs2-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2024
  3. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    หลวงพ่อโต (ซำปอกง) วัดอุภัยภาติการาม: ตำนานความศรัทธาแห่งเมืองฉะเชิงเทรา
    =========================================================
    a2EHzC6dU6cgvoc1mhwko6t4BOS-ihfg3DJ6NCAK&_nc_ohc=czfxxztTeiEQ7kNvgFj1WHA&_nc_ht=scontent.fphs2-1.jpg


    หากท่านผู้อ่านมีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดฉะเชิงเทรา อย่าลืมแวะสักการะ "วัดอุภัยภาติการาม" หนึ่งในวัดที่มีความสำคัญและเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยวิหารแห่งนี้มีศิลปะแบบจีนโบราณอันงดงาม อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือ "หลวงพ่อโต" ที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างมาก

    จุดเริ่มต้นของความศรัทธา
    เรื่องราวของวัดอุภัยภาติการามเริ่มขึ้นเมื่อมีชาวจีนสองพ่อลูกที่คาดว่าน่าจะอพยพมาจากเวียดนาม ได้ตั้งรกรากที่ตลาดบ้านใหม่ ในเมืองแปดริ้วหรือฉะเชิงเทรา หลังจากการกราบสักการะ "หลวงพ่อโต" หรือ "เจ้าพ่อซำปอกง" ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร เมืองอยุธยา พวกเขากลับมาพร้อมความศรัทธาและโชคลาภทางการค้าขายที่เจริญรุ่งเรือง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้สร้างองค์หลวงพ่อโตจำลองขึ้นในที่ดินของตนเอง เพื่อเป็นเครื่องสักการะแด่องค์พระศักดิ์สิทธิ์

    การสร้างวัดและพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่า
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรที่ตลาดบ้านใหม่ และทรงทอดพระเนตรเห็นองค์พระพุทธรูปที่ชาวบ้านสร้างขึ้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นโดยพระราชทานนามว่า "วัดอุภัยภาติการาม" และพระราชทานนามให้กับองค์พระพุทธรูปว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ที่ 3 ที่ได้รับพระราชทานนามนี้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

    เที่ยวชมวัดอุภัยภาติการาม
    การมาเยือนวัดอุภัยภาติการาม เริ่มต้นด้วยการเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวิหารศิลปะแบบจีนโบราณ ที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าและพระพุทธรูปสำคัญ อย่างองค์ "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือ "หลวงพ่อโต" ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวบ้านในเรื่องการขอพรเพื่อสุขภาพ ความเจ็บไข้ และความโชคดี นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

    การเยี่ยมชมวัดอุภัยภาติการามไม่เพียงแต่เป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และความศรัทธาที่คนในอดีตส่งต่อมายังปัจจุบัน

    ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก FB วัดอุภัยภาติการาม หลวงพ่อโต ซำปอกง
     
  4. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    พระแก้วมรกต: พระคู่บ้านคู่เมืองสยาม

    %B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%9D%E0%B8%99.jpg


    "พระแก้วมรกต" ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่แผ่นดินสยามมานานนับศตวรรษ พระคู่บ้านคู่เมืองที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองและความสงบร่มเย็นให้แก่ประเทศชาติ

    พระคู่บ้าน...ตำนานเมือง
    พระแก้วมรกตไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายแห่งความศรัทธาของประชาชน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความเกรียงไกรของสยามรัฐ ทำให้ศัตรูต้องยำเกรงในยามศึกสงคราม และให้ฤกษ์ชัยแก่ปวงชนในยามบ้านเมืองต้องการพลังศรัทธา

    ประณตน้อม...ค้อมกราบกราน
    ชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างมาสักการะพระแก้วมรกตด้วยความเคารพ ส่องประกายแห่งความรุ่งเรืองและความสุขให้แก่แผ่นดิน

    พระแก้วมรกต: ส่องใสแวว แกล้วเกรียงไกร เคียงคู่ไทยตลอดกาล
    ขอพระบารมี พระแก้วมรกต คุ้มครองแผ่นดินไทยให้สงบร่มเย็น และนำพาความสำเร็จมาสู่ทุกคน

    #พระแก้วมรกต #ศูนย์รวมใจไทย #พระคู่บ้านคู่เมือง #สยามรัฐ #พระศักดิ์สิทธิ์
     
  5. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    ย้อนตำนาน "สมเด็จเจ้าเกาะยอ" เทพเจ้าแห่งสงขลา

    2017-05_91be110f92777cd.jpg

    หากกล่าวถึงหนึ่งในบุคคลสำคัญในวงการพระพุทธศาสนาภาคใต้ของไทย "สมเด็จเจ้าเกาะยอ" หรือที่รู้จักในนาม "พระราชมุนีเขากุฏิ" เป็นหนึ่งในพระเถระที่มีประวัติและผลงานที่น่าทึ่งที่สุด ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ของนายคำมีและนางแก้ว เกิดในตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ครั้งเมื่อเกิดมากลางฝ่ามือของท่านมีรูปดอกบัวสีขาวซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

    เมื่ออายุครบ 20 ปี ตาของท่านได้นำท่านไปบวชเรียนที่วัดต้นปาบ โดยมี "พระอธิการอ่ำ" เป็นผู้ทำพิธีอุปสมบทให้ ท่านจำพรรษาและศึกษาเล่าเรียนธรรมะอยู่ที่วัดนี้ถึง 7 พรรษา ก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินธุดงค์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนานและเรื่องราวที่กลายเป็นตำนาน

    การธุดงค์และปาฏิหาริย์
    สมเด็จเจ้าเกาะยอออกเดินธุดงค์ไปยังวัดสุวรรณคีรี ตำบลหัวเขา และใช้เวลาอีก 6 พรรษาในการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ จากนั้นท่านได้เดินทางต่อไปยังวัดบางโหนด และในที่สุดท่านได้มุ่งหน้าไปยังเมืองสทิงพระเพื่อพบกับ "สมเด็จเจ้าพะโคะ" หรือ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ผู้ซึ่งกลายมาเป็นสหายธรรมะคนสำคัญ

    มีตำนานกล่าวไว้ว่าในระหว่างที่สมเด็จเจ้าเกาะยอและหลวงปู่ทวดกำลังสนทนาธรรมกัน สมเด็จเจ้าเกาะยอได้ตั้งสัจอธิษฐาน หากทั้งสองเคยสร้างบารมีร่วมกันมา ขอให้หลวงปู่ทวดนั่งบนพรมสีแดง และสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อหลวงปู่ทวดนั่งอยู่บนพรมสีแดงจริง ๆ!

    การสร้างบุญบารมีร่วมกับสมเด็จเจ้าทั้งสี่
    หลังจากการพบปะกับหลวงปู่ทวด สมเด็จเจ้าเกาะยอยังได้เดินทางไปพบกับ "สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่" และ "สมเด็จเจ้าท่าเภา" ทั้งสี่ท่านได้ร่วมกันธุดงค์และสนทนาธรรม ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามวิถีของแต่ละคน โดยสมเด็จเจ้าเกาะยอได้มุ่งหน้ากลับไปยังเกาะยอ บ้านแหลมพ้อ ตำบลเกาะยอ และได้ปักกลดจำพรรษาอยู่ที่เขากุฏิ ซึ่งท่านได้รับนิมิตจากสมเด็จพระพุทธเจ้าให้สร้างพระพุทธรูปที่ยอดเขา และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

    สมณศักดิ์และชื่อเสียงที่ลือลั่น
    เมื่อกิตติศัพท์ของท่านแพร่ไปถึงกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงเห็นถึงบุญญาธิการของสมเด็จเจ้าเกาะยอ และได้พระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระราชมุนีเขากุฏิ" ชาวบ้านทั่วไปจึงนิยมเรียกท่านว่า "สมเด็จเจ้าเกาะยอ" หรือ "สมเด็จเจ้าเขากุฏิ"

    เรื่องราวของสมเด็จเจ้าเกาะยอไม่เพียงเป็นตำนานที่สะท้อนถึงความศรัทธาและความเพียรพยายามในพระพุทธศาสนา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังได้หวนรำลึกถึงคุณธรรมอันสูงส่งของพระสงฆ์ที่เคยดำรงอยู่ในแผ่นดินไทย

    ด้วยความศรัทธาและเคารพ สมเด็จเจ้าเกาะยอจะยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่คนไทยภาคภูมิใจ

    หากใครได้มีโอกาสไปเยือนเกาะยอ จังหวัดสงขลา อย่าลืมแวะสักการะพระพุทธรูปที่เขากุฏิ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวกันนะครับ/ค่ะ
    ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
    องค์การบริหารตำบลเกาะยอ
    https://kohyor.go.th/travel/detail/450
     
  6. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    หลวงพ่อวัดไร่ขิง: ศรัทธาและปาฏิหาริย์

    2016-06_e47d872beb4bdf0.jpg


    หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม มีขนาดใหญ่และงดงามด้วยสไตล์การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างศิลปะสุโขทัยและรัตนโกสินทร์ พระพักตร์ที่สง่างามและนิ้วเรียวที่วิจิตรงดงาม ทำให้ผู้คนที่มาสักการะหลงใหลในความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน

    ตำนานที่สืบทอดมา
    หลวงพ่อวัดไร่ขิงมีตำนานที่เล่าขานถึง 4 ตำนาน โดยตำนานที่โดดเด่นคือการที่พระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมาจากแม่น้ำท่าจีน แล้วแสดงปาฏิหาริย์ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง ชาวบ้านเชื่อกันว่าท่านนำพาความร่มเย็นและความสุขมาสู่ผู้ที่ศรัทธา

    ความศักดิ์สิทธิ์และการขอพร
    หลวงพ่อวัดไร่ขิงมีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ที่ลือชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันภัย แคล้วคลาด คงกระพัน และรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผู้คนที่มาขอพรจากท่านจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน โดยตั้งนะโม 3 จบ และสวดพระคาถาบูชา ท่านยังได้รับการนับถืออย่างกว้างขวางในเรื่องการขอพรแล้วสมปรารถนา หลายคนจึงมักจุดประทัดหรือถวายว่าวเพื่อแก้บน

    งานนมัสการประจำปี
    ทุกปี วัดไร่ขิงจะจัดงานนมัสการหลวงพ่อถึง 3 ครั้ง เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้มีโอกาสสักการะบูชา และปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันออกพรรษา

    หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนนครปฐม อย่าลืมมาสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิงที่วัดไร่ขิง เพื่อน้อมรับพรและความเป็นสิริมงคลสู่ชีวิตของคุณและครอบครัว ❤️

    #หลวงพ่อวัดไร่ขิง #วัดไร่ขิง #ศรัทธา #ปาฏิหาริย์ #นครปฐม #สักการะ #บูชา
    ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ
    https://www.nakhonpathom.go.th/travel_top10/detail/7
     
  7. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,347
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +739
    "หลวงพ่อเหลือ" วัดหงษ์ จ.พิจิตร: ตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ และอิทธิปาฏิหาริย์

    หลวงพ่อเหลือ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ที่ วัดหงษ์ ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ท่านมีพุทธลักษณะอันโดดเด่น ฐานกว้าง 96 นิ้ว สูง 133 นิ้ว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีเรื่องราวศักดิ์สิทธิ์มากมายที่เล่าขานกันไม่รู้จบ

    ย้อนกลับไปใน ปี พ.ศ. 2440 ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันย้ายวัดร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกน้ำพัดจนพัง และในปี พ.ศ. 2472 ได้อัญเชิญหลวงพ่อเหลือจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน มาประดิษฐานที่วัดหงษ์ในปัจจุบัน การอัญเชิญท่านนั้นมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อเชือกที่ใช้ดึงล้อไม้ขาด แต่ล้อไม้กลับไม่เคลื่อนที่ เป็นที่น่าประหลาดใจแก่ชาวบ้านและเพิ่มความศรัทธาต่อหลวงพ่อเหลืออย่างมาก

    ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเหลือ ชาวบ้านมักมากราบไหว้บนบานขอพร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคัดเลือกทหาร การหาของหาย หรือขอให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ และเมื่อได้สมหวังแล้วก็จะมาแก้บนด้วยน้ำพระพุทธมนต์ หลายคนเชื่อว่า หากท่านบนหลวงพ่อเหลือไว้ จะได้รับพรสมหวังทุกประการ

    ใครที่มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดพิจิตร อย่าลืมแวะมากราบสักการะบูชาหลวงพ่อเหลือที่วัดหงษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ✨

    #หลวงพ่อเหลือ #วัดหงษ์ #ศักดิ์สิทธิ์ #ตำนานพิจิตร #ศรัทธา #อิทธิปาฏิหาริย์ #ขอพร

    r-VwZAi_P4RwnB4hU-w3TUn3PUzcxTe6wE0lQL15&_nc_ohc=FRnyoO9uCGMQ7kNvgHForl-&_nc_ht=scontent.fphs4-1.jpg

    ที่มาข้อมูลและรูปภาพ
    FB=เที่ยวเมืองพิจิตร
     

แชร์หน้านี้

Loading...