เรื่องเด่น พรปีใหม่ที่ดีที่สุด

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 1 มกราคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,390
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,529
    ค่าพลัง:
    +26,368
    392B8818-0121-456D-AABD-CD21C53C3C30.jpeg

    พรปีใหม่
    ถาม :
    พรปีใหม่ที่ดีที่สุด สำหรับการปฏิบัติปีนี้คืออะไร ?
    ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก เอาโอวาทปาฏิโมกข์ของพระพุทธเจ้า ละเว้นความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม ชำระจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์ รับรองว่าไม่มีอะไรดีกว่านี้

    สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง คำว่า อะกะระณัง คือ เว้นการกระทำ สัพพะปาปัสสะ คือ ความชั่วทั้งปวง ก็คือละเว้นกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต กายทุจริตก็คือ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม วจีทุจริตก็คือ พูดโกหก พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้ประโยชน์และพูดคำหยาบ มโนทุจริตก็คือ โลภคิดอยากได้ของเขา คิดอาฆาตพยาบาทเขา มีความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ

    กุสะลัสสูปะสัมปะทา ก็คือ ทำความดีให้ถึงพร้อม ก็คือ ทำกาย วาจา ใจให้สุจริต กายสุจริตก็คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม วจีสุจริตก็คือ ไม่พูดโกหก ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล และไม่พูดคำหยาบ มโนสุจริตก็คือ ไม่โลภคิดอยากได้ของเขา ไม่คิดอาฆาตพยาบาทเขา มีความเห็นว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนนั้นดี เราจะทำตาม

    สจิตตะปะริโยทะปะนัง การชำระจิตใจของตนให้ผ่องใส เป็นเรื่องสำคัญ การจะรักษาใจของเราให้ผ่องใสบริสุทธิ์ อย่างน้อย ๆ ต้องทรงกำลังตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป เพราะว่ากำลังใจที่ทรงฌานได้ รัก โลภ โกรธ หลง จะถูกกดให้ดับลงชั่วคราว เมื่อ รัก โลภ โกรธ หลง ดับลงชั่วคราว จิตใจจะมีสภาพผ่องใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับใจ สติจะรู้รอบ ถ้าหากสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา ก็จะขับไล่มันออกไปทัน แล้วก็สามารถระมัดระวังไว้ไม่ให้มันเข้ามาอีก ถ้าหากว่าสิ่งที่ดีไม่มี...ก็สร้างมันขึ้นมา แล้วสามารถที่จะรักษามันให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้น เพราะฉะนั้น..การชำระใจของตนให้ผ่องใสเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะว่าจะสร้างความก้าวหน้าในการปฏิบัติให้เราได้มาก

    ฉะนั้น..พรปีใหม่อะไรดีที่สุด ? ก็โอวาทปาฏิโมกข์ของพระพุทธเจ้า ไม่มีอะไรดีกว่านี้แน่ ๆ จะว่าไปแล้ว ส่วนใหญ่พวกเราขอพร ก็ได้แค่กำลังใจ ต้องลงมือทำให้เกิดผล พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ชัดเจน สุทธิ อะสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธะเย ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน บุคคลหนึ่งจะทำอีกบุคคลหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่ ก็คือ ไม่สามารถที่จะเสกเป่าบันดาลให้พวกเราบรรลุได้ ประสบความสำเร็จได้ แต่ว่าขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา

    ปัจจุบันนี้มีบางสำนัก สามารถที่จะไปปฏิบัติแล้วเลื่อนชั้น เลื่อนระดับ เลื่อนภูมิของความเป็นพระอริยเจ้าได้ ขอให้ฟังแล้วก็ตรองให้เป็นด้วย ถ้าทำอย่างนั้นได้ พระพุทธเจ้าเอาพวกเราไปหมดแล้ว ไม่เหลือหรอก ต่อให้เขาใช้คำว่าได้รับพรพิเศษมาทำหน้าที่นี้ เราก็ไม่ต้องฟัง เพราะถ้าจะทำพระพุทธเจ้าท่านทำเอง

    พวกเราในปัจจุบันนี้มีอยู่ส่วนหนึ่ง ต้องบอกว่าคือความขี้เกียจ เพราะเห็นว่าการปฏิบัติเป็นของยาก มักจะหาทางลัดอยู่เสมอ อยากจะบอกว่า ทางลัดก็คือทางลัด แต่ถามว่าสั้นลงไหม ? ถ้าผิดทางอาจจะไกลกว่าเดิม ทางที่สั้นที่สุดคือทางตรง ทางตรงแปลว่า ต้องตั้งหน้าปฏิบัติในทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยตนเอง การที่เราจะให้คนอื่นช่วยเหลือ ก็ได้แค่คำแนะนำและกำลังใจเท่านั้น ถ้าเราไม่ปฏิบัติก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จเป็นตัวเป็นตนเป็นของเราเองได้ เท่ากับว่าเราไปชมสมบัติของเศรษฐีเขา ไปกี่ครั้งเขาก็รวยเหมือนเดิม เราก็จนเหมือนเดิม เพราะเราไม่คิดจะขวนขวายไขว่คว้าให้เกิดขึ้นกับตนเอง

    ในเมื่อพวกเราขี้เกียจ มองหาทางลัด ก็เลยอาจจะพลัดเข้าไปในบางสำนักที่ท่านสอนผิด อ้างว่าเป็นแนวทางลัด ทำให้เราบรรลุมรรคผลได้ง่าย ปัจจุบันนี้ก็มีโยมบางคน ตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ แล้วก็โดนทางสำนักเขาเรียกร้องผลประโยชน์มาก ๆ เพราะว่าตนเองฐานะดี เรื่องพวกนี้ต้องระวังให้หนัก

    ปัจจุบันนี้ญาติโยมเห็นพระ อย่าคิดว่าพระจะมีความเป็นพระเสมอกัน อย่าคิดว่าทุกคนมีปฏิปทาตามสายการปฏิบัติหลวงพ่อเหมือนกัน หลายต่อหลายคนเอาชื่อเสียงทางวัดท่าซุงไปหากิน แม้แต่อาตมาเองก็โดนหวาดระแวงว่า จะเอาชื่อเสียงหลวงพ่อไปหากิน

    คราวนี้ในเมื่อกำลังใจไม่เหมือนกัน ก็จะมีอยู่พวกหนึ่งที่เลือกแต่ลูกศิษย์รวย ๆ ถ้าเราไปเผลอทิ้งที่อยู่หรือเบอร์โทรให้นี่ เขาตามยันบ้านเลย เดี๋ยวก็ให้เป็นเจ้าภาพทำอย่างนั้น เดี๋ยวก็ให้เป็นเจ้าภาพรับอย่างนี้ ในลักษณะที่ใช้จิตวิทยายกย่อง บางท่านรู้ไม่เท่าทันก็ปลื้มใจภูมิใจ ควักสตางค์ไปเยอะ ๆ เป็นเจ้าภาพสร้างเสาวิหารสักต้น หนึ่งแสนบาท เป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานสักองค์หนึ่ง สักห้าแสนหรือล้านหนึ่ง เป็นต้น แล้วเขาจะเลือกแต่บุคคลที่มีฐานะเพื่อที่จะสะดวกในเรื่องการทำบุญกุศลต่าง ๆ

    ดังนั้น...ถ้าหากเราเผลอไปทิ้งที่อยู่หรือเบอร์โทรเอาไว้ เขาจะตามมาถึงบ้าน มีหลายท่านทำบุญในลักษณะที่ตัดรำคาญ เพราะว่าเขาตื๊อไม่เลิก ปัจจุบันนี้วัดใหญ่บางวัดใช้ระบบนี้ โดยการให้ลูกศิษย์ตามตื๊อ หรือไม่ก็ระบบโทรเช้า โทรกลางวัน โทรเย็น โทรกลางคืน จนกระทั่งท้ายที่สุด ต้องควักกระเป๋าจ่ายไป ไม่อย่างนั้นแล้วรู้สึกเสียสุขภาพจิตตัวเอง

    ดังนั้น...โยมทั้งหลายต้องพิจารณาให้ดี ๆ ว่า ในเรื่องของการทำบุญนั้น จริงอยู่...ทำที่ไหนก็เป็นบุญ แต่ถ้ากำลังใจของเรายังไม่ทรงตัว ไม่สามารถวางอุเบกขาในทานได้จริง ๆ ถ้าเราเห็นความไม่ชอบมาพากล กำลังใจของเราจะตก คราวนี้ถ้ากำลังใจตก บุญก็จะลดด้วย ที่เตือนให้เพราะว่า มีเสียงหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้น..ทำอะไรให้รู้จักระมัดระวังไว้ด้วย
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...