ปิดประมูลกริ่ง8รอบ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว รุ่นสุดท้าย เนื้อทองทิพย์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิทย์คนหนึ่ง, 27 มกราคม 2010.

  1. ศิทย์คนหนึ่ง

    ศิทย์คนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,829
    ค่าพลัง:
    +1,044
    พระกริ่งมหามงคล 8 รอบ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ( รุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่ทิมปลุกเสก )

    เนื้อทองทิพย์กะหลั่ยทอง ก้นอุดชานหมาก, ตะกรุดทอง, เม็ดกริ่งมีโค้ดตัว ท หยดน้ำ

    และมีหมายเลขกำกับทุกองค์ จัดสร้างเพียง 4,999 องค์ (ยังอยู่ในถุงซีลโดยวัด)


    ประวัติในวัยเด็ก
    “เด็กชายทิม ชุ่มโชคดี” เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2456 ปีฉลู ที่บ้าน เลขที่ – หมู่ที่ 3 ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคนที่ 5 ของคุณพ่อพร้อม คุณแม่กิ่ม ชุ่มโชคดี


    บวช
    ประมาณเดือนกรกฎาคม 2478 อุปสมบทณ วัดพิกุล อ.บางบาล จ.อยุธยา มีหลวงพ่อปุ้ย วัดขวิดอ.บางบาล เป็นอุปัชฏฃฌาย์อาจารย์ และหลวงลุงหลิ่มวัดโพธิ์กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระอธิการหลิ่ว เจ้าอาวาสวัดพิกุล เป็นพระอนุสาวนาจารย์อุปสมบท อยู่ในบวรพระพุทธศาสนา 1 พรรษา ก็ลาสิกขา เพื่อมาช่วยมารดาทำนาเป็นการตอบแทนพระคุณที่ได้อุ้มเลี้ยงหลวงปู่มาตั้งแต่เล็กจนเติบโตใหญ่ และท่านบวชทั้งหมด 3 ครั้ง

    ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระขาว
    ปี พ.ศ. 2498 หลวงปู่ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นสมภาร ณ วัดพระขาว อ.บางบาล เนื่องจาก วัดพระขาวนี้ขาดสมภาร เพราะท่านสมภารเก่า (สมภารติ่ง พุทฺธสิริ) ท่านลาออก ชาวบ้านพระขาวต่างก็รู้เคยเห็นการประพฤติการปฏิบัติของหลวงปู่มาก่อน ก็ไปขอร้องให้หลวงปู่มาดำรงตำแหน่งสมภารยัง ณ วัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จ.อยุธยา เรื่อยมาจวบจนทุกวันนี้และได้บูรณปฏิสงขรณ์สภาพของวัดที่เก่าแก่แต่เดิมให้เป็นของใหม่ทั้งหมดดังที่เราได้เห็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะด้วยบุญและบารมีของหลวงปู่ท่านอย่างแท้จริง จึงมีผลงานให้ปรากฏเห็นทุกวันนี้


    ผลงานทั้งหมดนี้ หลวงปู่ท่านเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่าหลวงปู่ท่านเป็นนักพัฒนาอย่างยิ่ง พร้อมทั้งบารมีของหลวงปู่อย่างถ่องแท้จริงๆจึงสามารถสร้างและปฏิสังขรณ์วัดพระขาวนี้ สำเร็จลุล่วงอย่างฉับไวดั่งเนรมิต แม้กระทั่งการออกเที่ยวเรี่ยไรตามชาวบ้านก็ไม่เคยเลย มีแต่ไอ้ผีเท่านั้นที่เที่ยวออกใบอนุโมทนาบัตรให้กับชาวบ้านอ้างว่าหลวงปู่จะสร้างนั่นสร้างนี่ หลวงปู่มักจะเรียกบุคคล ที่ประพฤติไม่ดีว่า “ไอ้ผี”หมายถึงพวกที่ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด หลวงปู่ก่อสร้างวัดใหม่ทั้งหมดนี้ ด้วยเงินอันบริสุทธิ์ ของท่านทั้งที่ได้อนุโมทนามากับกองกฐินบ้างผ้าป่าบ้าง ถวายเป็นส่วนตัวบ้าง หลวงปู่ท่านจะนำมาก่อสร้างวัดให้หมดไป เนื่องจากหลวงปู่ท่านไม่หยิบปัจจัย และผ้าป่าของหลวงปู่ที่ได้ดำริจัดสร้างขึ้นมาปีละครั้งนั้น ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายใฝ่ในพุทธศาสนาหลวงปู่ท่านจะเอาจากท่านฝ่ายเดียวไม่ดี จะมีของตอบแทนให้ท่านทุกๆครั้งไป เพื่อเป็นสินน้ำใจของผู้บริจาคของตอบแทนของหลวงปู่นั้น เดี๋ยวนี้มีค่ามากเป็นเหรียญรูปเหมือนของหลวงปู่กับหลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถอยู่ด้านหน้า ปี พ.ศ. 2512 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี พร้อมทั้งได้รับพระราชทินนามว่า “พระครูสังวรสมณกิจ”

    หลวงปู่มักจะสอนให้ทุกๆคนนับถือ คุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งประจำใจ และให้คิดถึงความตายเป็นอารมณ์ ถ้าผู้ใดระลึกไว้เสมอ ก็จะปราศจากทุกข์โศกมีแต่ความสุข คำสอนของหลวงปู่ จะผูกเป็นนิทานและเป็นคติ แล้วก็จะสอดแทรกธรรมะน่าฟังสนุกไม่รู้จักเบื่อหน่ายเลย หลวงปู่เป็นนักแสดงธรรมะที่ยอดเยี่ยมมาก แสดงธรรมได้นุ่มนวลละเอียดอ่อน และน่าฟังยิ่งนัก ทุกวันพระเมื่มีการทำบุญบนศาลาการเปรียญทุกๆครั้ง หลวงปู่ท่านจะขึ้นธรรมมาสแล้วแสดงธรรมให้ประชาชนชาวพุทธศาสนา ที่ได้มาบำเพ็ญบุญฟังเป็นประจำไม่เคยขาด โบราณท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่าเมื่อทำบุญแล้ว ได้สดับฟังพระธรรมเทศนาก็จะได้กุศลอย่างมหาศาลเลยทีเดียว เมื่อตายไปก็จะไปสู่สวรรค์ การประพฤติและปฏิบัติของหลวงปู่เยี่ยมมากตั้งแต่หลวงปู่บวชมาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่จะไห้วพระและสวดมนต์ภาวนา ในเวลาดึกๆ ก่อนจะเข้านอนเป็นประจำไม่เคยขาด หลวงปู่จะกราบพระถึง 5 ครั้งเป็นประจำเสมอ “กราบครั้งที่ 1 ระลึกถึงคุณพระพุทธ , กราบครั้งที่ 2 ระลึกถึงคุณพระธรรม กราบครั้งที่ 3 ระลึกถึงคุณ พระสงฆ์ กราบครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณบิดา-มารดา และปู่ ย่า ตา ยาย กราบครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณ ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณ” เสร็จแล้วก็จะระลึกนึกถึงชาติภูมิของ องค์สมเด้จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนที่จะมาเป็นพระศาสดา คือ “พระเจ้าสิบชาติ” อันได้ พระเตมีราช , พระชนก , พระสุวรรณสาม , พระเนมิราช , พระมโหสถ , พระภูริทัต , พระจันทร , พระนารอทพระวิฑูรย์บัณฑิตย์ และชาติสุดท้าย คือ พระเวสสันดรและหลวงปู่จะใช้ภาวนาเป็นประจำอยู่เสมอหรือที่เรียกว่า หัวใจพระเจ้าสิบชาติ(เต-ชะ-สุ-เน-มะ-ภู-จะ-นา-วิ-เว)

    ชื่อเสียงของหลวงปู่ได้ดังโด่ง “ขจรขจาย” ไปทุกภาคของประเทศไทยก็ว่าได้ และที่ยิ่งไปกว่านี้แม้แต่ชาวต่างชาติที่เป็นบ้านใก้ลเรือนเคียงของประเทศเรา ไม่ว่าจะเป็น “สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน รวมทั้งคนไทยในอเมริกา ฯลฯ ” ก็ยังรู้จักและได้ยินชื่อเสียงของท่านเลย ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจาก “ทานบารมีแห่งความเมตตา” ที่หลวงปู่ได้อนุเคราะห์แผ่เมตตาให้แก่ญาติโยมทั้งหลายโดยแท้จริง








    เปิดราคาประมูลไว้ที่ 1,300บาท
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เพิ่มครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ครับ[/FONT]



    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]กระทู้จะปิดประมูล[/FONT]


    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2553[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เวลา 21.29 น.[/FONT]



    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]***ท่านที่ประมูลได้ถ้าต้องการให้จัดส่งเป็น EMS กรุณาบวกค่าจัดส่ง 50บาท ขอบคุณครับ**[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]***ท่านที่ประมูลได้ถ้าต้องการให้จัดส่งเป็น ลงทะเบียน กรุณาบวกค่าจัดส่ง 30บาท ขอบคุณครับ***[/FONT]
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  2. ศิทย์คนหนึ่ง

    ศิทย์คนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,829
    ค่าพลัง:
    +1,044
    ขอบคุณทุกท่านครับที่เข้ามาเยี่ยมชม
     
  3. ศิทย์คนหนึ่ง

    ศิทย์คนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,829
    ค่าพลัง:
    +1,044
    เปิดราคาประมูลไว้ที่ 1,300บาท
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เพิ่มครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ครับ[/FONT]





    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]กระทู้จะปิดประมูล[/FONT]



    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2553[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เวลา 21.29 น.[/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...