ประวัติศาสตร์เมืองสุพรรณบุรี 3 วัดดังสร้าง "ชุดไตรภาคีพระกรุ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 7 เมษายน 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    ประวัติศาสตร์เมืองสุพรรณบุรี 3 วัดดังสร้าง "ชุดไตรภาคีพระกรุ"

    [​IMG]

    พระถ้ำเสือ พระขุนแผนทรงพลใหญ่ และพระผงสุพรรณที่จัดได้ว่าเป็นสุดยอดพระเครื่องเมืองสุพรรณ ที่มีพุทธคุณดีเด่นดังครบเครื่องทางด้านมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มีเสน่ห์และเมตตามหานิยม

    ที่ผ่านมานั้นมีการจัดสร้างพระกรุเมืองสุพรรณบุรีย้อนยุคอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือ คือโครงการจัดสร้างชุดไตรภาคี ประกอบด้วย พระผงสุพรรณ พระขุนแผนทรงพลใหญ่ และพระถ้ำเสือ โดยความร่วมมือของ 3 วัดในประวัติศาสตร์ของเมืองสุพรรณคือ

    1. วัดสาลี วัดเก่าแก่มีอายุนับร้อยปี ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด โดยเล่าสืบต่อกันมาว่าเดิมชื่อ "วัดศาลารี" ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของลำคลองสาลี (ปัจจุบันบางส่วนถูกก่อสร้างเป็นสถานีอนามัยตำบล) เริ่มก่อตั้งวัดในปี พ.ศ. 2396 (ตามทะเบียนวัดที่กรมการศาสนาจัดขึ้น) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและใครเป็นเจ้าอาวาส จนกระทั่งปี พ.ศ.2402 ปู่ป่าน สังฆโร ซึ่งเป็นชีปะขาว ได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่วัดเป็นคุ้งน้ำ มักจะถูกน้ำพัดเซาะตลิ่ง จนเกิดความเสียหายบ่อยๆ ประกอบกับเวลานั้นได้เกิดไฟไหม้กุฏิสงฆ์ ท่านจึงร่วมกับคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน รื้อถอนสิ่งก่อสร้างย้ายวัดมาอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้ พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ว่า "วัดสาลี" ตามชื่อคลอง

    [​IMG]

    2. วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี วัดเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 1860 มีพื้นที่ 20 ไร่เศษ ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ และมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานให้ฟังสืบต่อกันมาว่า สถานที่ตั้งของวัดสำปะซิวเคยเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยกกองทัพมาหยุดพักรบ เพื่อตรวจสอบจำนวนทหารว่ายังมีเหลือจากการสูญเสียในสงครามจำนวนเท่าใด ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า "สางบัญชี" ต่อมาบริเวณดังกล่าวมีการสร้างวัดขึ้นมาชื่อว่า "วัดสางบัญชี" แล้วผิดเพี้ยนจากชื่อเดิมมาเป็น "วัดสำปะซิว" วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านพระเก่า ที่เรียกกันว่า พระเครื่องกรุ "สำปะซิว" ซึ่งได้รับความนิยมและหายากมาก

    3. วัดแค อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี วัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดีเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่ขนาดกว้าง 10 เมตร เชื่อกันว่า ขุนแผนได้วิชาเสกใบมะขามให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากจากต้นมะขามนี้ โดย "ท่านอาจารย์คง" สอนให้ ซึ่งทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า "คุ้มขุนแผน" ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้ นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ พระพุทธบาททองเหลืองสี่รอย สร้างซ้อนกันไว้ในรอยใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ศิลปะรัตนโกิสนทร์ จีวรและอังสะเป็นดอกพิกุลงดงามมาก, ระฆังทองเหลือง, หม้อต้มกรักทองเหลือง ตู้ใส่หนังสือที่รัชกาลที่ 5 ทรงถวายเมื่อปี พ.ศ.2412

    วัตถุมงคลชุดไตรภาคีมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ เช่น ใบมะขามและไม้มะขามยักษ์พันปี จากวัดแค อ.เมือง เศษอิฐโบราณจากพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง ดินศักดิ์สิทธิ์หน้าอุโบสถวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ ดินศักดิ์สิทธิ์วัดเขาถ้ำเสือ อ.อู่ทอง และว่าน 108 ชนิด เป็นต้น ทั้งนี้ ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 51 พระธรรมมหาวีรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ เป็นประธานจุดเทียนชัย โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรก อาทิ พระเทพวรเวที วัดบรมวงศ์, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อสิงห์โต วัดสาลี ฯลฯ และพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ดับเทียนชัย

    สำหรับวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำรายได้ไปสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดสาลี, สมทบทุนสร้างวิหารบูรพาจารย์วัดสำปะซิว และบูรณะศาลาการเปรียญวัดแค ผู้ที่นิยมพระเครื่องย้อนยุคเมืองสุพรรณไม่ควรพลาดติดต่อบูชาได้โดยตรงที่วัดทั้งสาม

    สอบถามโทร. 08-3314-3304-5, 08-9699-9928
    ที่มา http://www.soonphra.com/board/index.php?showtopic=74558

    <!-- THE POST -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...