ประมวล Global Issues 2007 อะไรคือภัยคุกคามที่โลกพึงระวัง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 28 ธันวาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    ประมวล Global Issues 2007 อะไรคือภัยคุกคามที่โลกพึงระวัง



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG][​IMG] 14.jpg </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ปี 2549 เป็นปีที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม จากปัญหารอบด้าน ทั้งก่อการร้าย ความขัดแย้งในหลายๆ ภูมิภาค ความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่าน และเกาหลีเหนือในเรื่องปัญหานิวเคลียร์ จนถึงโรคระบาดร้ายแรงอย่างไข้หวัดนก และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กระหน่ำคุกคามภูมิภาคเอเชีย ทั้งภัยน้ำท่วมและแผ่นดินไหวส่งท้ายปี ซึ่งเป็นลางบอกเหตุว่า ถึงแม้โลกจะย่างเข้าสู่ปีใหม่ (ปี 2550) โลกยังคงต้องเผชิญภัยคุกคามเหล่านี้อยู่ต่อไป


    อิหร่าน-เกาหลีเหนือ

    ความตึงเครียดที่เริ่มปะทุรอบใหม่ระหว่างอิหร่าน และชาติมหาอำนาจ อันเป็นผลมาจากการประกาศเร่งติดตั้งเครื่องปั่นเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม 3,000 ตัวทันที ของผู้นำอิหร่าน เพื่อตอบโต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยเฉพาะการห้ามประเทศต่างๆ ให้ความช่วยเหลือการเงิน อุปกรณ์ และเทคโนโลยีนิวเคลียร์กับรัฐบาลเตหะราน ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของสหประชาชาติและสหภาพยุโรป ที่ต้องการให้อิหร่านคืนสู่โต๊ะเจรจา

    [​IMG]


    ทั้งนี้คณะมนตรีความมั่นคงลงมติเอกฉันท์ให้ออกมาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่าน โดยมุ่งเป้าที่โครงการขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถือเป็นครั้งแรกที่ยูเอ็นลงโทษอิหร่าน หลังรัฐบาลเตหะรานปฏิเสธข้อเสนอให้ผลตอบแทนของ 6 ชาติมหาอำนาจแลกกับยุติโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งสามารถนำไปใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์

    มติยูเอ็นที่ 1737 กำหนดให้ทุกประเทศหลีกเลี่ยงการจัดหา จำหน่าย หรือถ่ายโอน อุปกรณ์ สินค้า และเทคโนโลยีทุกชนิดที่อาจถูกนำไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มสมรรถนะสารกัมมันตรังสี หรือการพัฒนาระบบส่งอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงให้มีการอายัดเงินทุน หรือสินทรัพย์การเงินอื่นๆ รวมถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ของบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมนิวเคลียร์หรือการพัฒนาระบบส่งอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน

    มตินี้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงกับอิหร่าน โดยกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า อิหร่านจะเดินหน้าติดตั้งเครื่องปั่นเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของนายลาริจานีในเวลาต่อมา

    มาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีของอิหร่านเรียกขานมติของยูเอ็นว่า เป็นแค่เศษกระดาษ พร้อมประกาศก้องว่า อิหร่านจะเป็นชาตินิวเคลียร์ต่อไป

    โครงการอาวุธนิวเคลียร์เป็นที่คัดค้านของชาติตะวันตก เนื่องจากวิตกว่า อิหร่านอาจใช้เทคโนโลยีเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่กำลังพัฒนาอยู่เพื่อช่วยให้ตัวเองสามารถใช้ทักษะดังกล่าวผลิตระเบิดนิวเคลียร์ในอนาคต

    กรณีโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่านเป็นหนึ่งประเด็นปัญหาโลกที่คาดว่าจะสร้างความอึมครึมและความตึงเครียดต่อเนื่องในปี 2550 เช่นเดียวกับปัญหาเกาหลีเหนือ

    ดังความเห็นของ มาร์ค ฟิตซ์แพทริค ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของสถาบันศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ในลอนดอน ที่คาดการณ์ว่า ในปีหน้าแม้จะได้เห็นแท็กติกและกุศโลบายระหว่าง 2 ฝ่าย แต่จุดยืนหลักๆ ของแต่ละฝ่ายยังไม่เปลี่ยนแปลง ในส่วนของมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น แม้จะไม่สามารถหยุดยั้งอิหร่านในเรื่องนี้ แต่ก็อาจชะลอไปได้บ้าง เพราะอิหร่านยังไม่มีเทคโนโลยีหลักในด้านนี้มากพอ และยังต้องการความเชี่ยวชาญจากนอกประเทศ มาตรการต่างๆ ในมติล่าสุดของยูเอ็นจะช่วยเพิ่มข้อจำกัดในการสกัดกั้นการค้าอาวุธนิวเคลียร์ ระหว่างอิหร่านกับประเทศผู้จัดหาเทคโนโลยีนิวเคลียร์รายหลักๆ

    สำหรับปัญหาเกาหลีเหนือค่อนข้างจะแตกต่างจากอิหร่าน ซึ่งแสดงบทบาทอย่างระมัดระวัง นับถึงวันนี้เกาหลีเหนือแบไต๋เขี้ยวเล็บทั้งหมดที่มีเพื่องัดข้อกับชาติมหาอำนาจและยูเอ็น จึงทำให้ตกเป็นเป้าหมายการคว่ำบาตร ทั้งเทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธ แต่มาตรการเหล่านี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์มากนัก เพราะเกาหลีเหนือยังคงละเมิดมติ และดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อย่างไม่เกรงกลัว

    North_Korean_missile_tests.jpg

    ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า การเจรจาซึ่งเริ่มขึ้นอีกครั้งในกรุงปักกิ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ อาจจะดำเนินต่อเนื่องไปได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่มีใครกล้าฟันธงว่า การเจรจาจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นการปูทางที่ดี เพียงแต่นั่นอาจทำให้ประธานาธิบดีคิม จอง-อิล คิดว่าตัวเขาอยู่ในจุดที่สามารถต่อรองได้มากกว่าในการเจรจาปัญหานิวเคลียร์



    ภัยพิบัติธรรมชาติ

    ถึงแม้หลายฝ่ายจะเห็นตรงกันว่า การก่อการร้ายจะเป็นภัยคุกคามสำคัญอันดับต้นๆ ที่โลกจะต้องถูกครอบงำต่อไปในปีหน้า แต่สิ่งที่ต้องระแวดระวังและตั้งรับให้พร้อมกลับเป็นเป็นปัญหาของภัยพิบัติทางธรรมชาติ

    แผ่นดินไหวที่สั่นสะเทือนโลกถี่บ่อยขึ้น และครอบคลุมในหลายภูมิภาค หนักบ้าง เบาบ้าง กลายเป็นพัฒนาการที่นักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยากำลังติดตามดูอย่างใกล้ชิด


    [​IMG]


    ก่อนครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์สึนามิพัดถล่มมหาสมุทรอินเดียไม่กี่วัน ได้เกิดแผ่นดินไหวกระจายอยู่ทั่วไป อาทิ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม มีรายงานการเกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งตะวันออกของสุลาเวสีตอนเหนือ ขนาด 5.6 ริกเตอร์ จากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดใกล้เคียงกันตามมาอีก 2 จุดในวันอาทิตย์ โดยจุดแรกเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 150 กิโลเมตร และอีกจุดเกิดขึ้นในช่วงเย็น ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะบาหลี

    ภัยพิบัติทางธรรมชาติประเภทนี้เป็นที่วิตกของผู้เชี่ยวชาญว่า อาจคุกคามประเทศนี้ในลักษณะเดียวกับเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ในวันใดวันหนึ่งในอีกหลายสิบปีข้างหน้า เนื่องจากหมู่เกาะทั้งหมดของอินโดนีเซียตั้งอยู่บนแนววงแหวนไฟแปซิฟิก (Pacific Ring of Fire) อันเป็นรอยต่อของเปลือกโลกหลายๆ อัน ดังนั้นจึงมักจะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง รวมทั้งทำให้ภูเขาไฟปะทุขึ้นมาอีก

    โดยทีมวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียและสถาบันอื่นๆ ระบุว่า รอยเลื่อนทางธรณีวิทยาขนาดใหญ่แห่งเดียวกันที่เรียกว่าเมกะทรัสต์ (megathrust) ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุสึนามิขนาด 9.1 ริกเตอร์ ในปี 2547 ยังคงพาดผ่านไปทางตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียของเกาะสุมาตรา และมีศักยภาพที่จะทำให้เกิดความเสียหายในบริเวณตอนใต้ของเกาะสุมาตรา เพราะยังคงมีแรงดันเกิดขึ้น และอาจทำให้รอยเลื่อนนี้เคลื่อนตัวเมื่อใดก็ได้ ภายใน 2-3 ทศวรรษข้างหน้า และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงขนาด 4-6 เมตร หรือราว 15-20 ฟุต

    ไม่ใช่แค่อินโดนีเซีย เพราะเมื่อเช้าวันเสาร์ (23 ธ.ค.) ก็เกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลาง ขนาด 6.1 ริกเตอร์ เขย่าหมู่เกาะต่างๆ ของอินเดีย ในแถบทะเลอันดามัน

    แม้แต่ประเทศไทยเอง นับจากวันที่ 11 ธันวาคม หลังเกิดแผ่นดินไหวทางภาคเหนือ โดยมีจุดศูนย์กลางที่อำเภอแม่ริม ก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง

    หรือข้ามฟากไปที่อเมริกาเหนือ ในช่วงเช้าของวันเสาร์ (23 ธ.ค.) ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.5 ริกเตอร์ ที่บริเวณซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย แม้แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในทุกประเทศที่กล่าวถึงจะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือความเสียหาย แต่ข้อสังเกตคือ จะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ ณ จุดเดียวกันถี่บ่อยขึ้น ดังกรณีของซานฟรานซิสโกเบย์แอเรียถือเป็นการสั่นไหวครั้งที่ 3 ในรอบ 4 วัน ในจุดเดียวกัน โดย 2 ครั้งแรกเกิดเมื่อวันพุธและวันศุกร์

    นี่เป็นแค่ตัวอย่างของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คาดเดาได้ยาก สิ่งที่โลกยังต้องระวังตัวอยู่ ยังเกิดขึ้นในรูปของพายุเฮอร์ริเคน ฝนตกหนัก น้ำท่วม และโคลนถล่ม โดยเฉพาะภัยประการหลังกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมาเลเซียและอินโดนีเซีย


    [​IMG]


    โลกร้อน

    ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกกำลังขมวดตึง และเรียกร้องความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลอังกฤษได้เผยแพร่รายงานทำนายอนาคตโลกร้อน และต้นทุนที่โลกต้องจ่าย จัดทำโดย เซอร์นิโคลัส สเติร์น อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก ระบุว่า ปัญหาโลกร้อนจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกสูงสุดมากถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของมูลค่าเศรษฐกิจโลก หากรัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกไม่ดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง ในการควบคุมการแพร่กระจายก๊าซก่อภาวะเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


    [​IMG]


    ขณะที่ กลุ่มเฟรนด์ส ออฟ เอิร์ท ได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งที่จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงงานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์และทางวิทยาศาสตร์กว่า 100 ฉบับ ซึ่งให้ข้อสรุปที่น่าตกใจว่า การปล่อยให้ภาวะโลกร้อนดำเนินอยู่ต่อไปเช่นนี้โดยปราศจากการควบคุมและตรวจสอบ จะทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส ภายในปี 2643 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นตัวเลขสูงสุดถึง 8% ของจีดีพีโลก หรือคิดเป็นมูลค่า 20 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี


    แม้แต่ในเอเชียของเราก็กำลังเสี่ยงมากขึ้น โดยรายงานที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้โดยมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เป็นหัวเรือใหญ่ ระบุว่า ในอีก 25 ปีข้างหน้าภาวะเรือนกระจกในเอเชียจะรุนแรงมากขึ้น อันเนื่องมาจากปัญหามลพิษทางอากาศจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว เพราะมีความเป็นไปได้ว่า จำนวนรถยนต์และการใช้ยานพาหนะในจีนอาจเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 15 เท่า จากระดับปัจจุบัน เป็นมากกว่า 190 ล้านคัน ในอีก 30 ปีข้างหน้า ซึ่งในอินเดียก็อาจไม่แตกต่างกัน รายงานประเมินว่า ปริมาณการจราจรมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับจีนในอีก 30 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่า การแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยานยนต์ต่างๆ ในจีน จะเพิ่มขึ้น 3.4 เท่า และในอินเดียจะเพิ่มขึ้น 5.8 เท่า


    [​IMG]


    อนาคตที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและต้นทุนมหาศาล ทำให้ปัญหาโลกร้อนจะคุกรุ่นและเป็นประเด็นใหญ่อยู่ต่อไป โดยเฉพาะในปี 2550

    นอกเหนือจากประเด็นปัญหาเหล่านี้แล้ว ภัยคุกคามที่จะต้องอยู่คู่กับโลกต่อไปอีกนาน ยังรวมถึงการก่อการร้าย ความขัดแย้งและภัยสงคราม



    -----------------------------------
    Ref.
    http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02for03281249&day=2006/12/28
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2006
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,348
    ขอบคุณครับ..
     
  3. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,998
    ค่าพลัง:
    +5,064
    เฮ้อ... กรรมหนีไม่พ้นจริงๆ
     
  4. A~MING

    A~MING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,734
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ขอบคุณมากนะคะ ^^
     
  5. ลุงคนเชียงใหม่

    ลุงคนเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +2,521
    อีก 3 ปี
     
  6. paweepawee

    paweepawee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +218
    กรรม
     
  7. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    War of the World
     
  8. bbjuatm

    bbjuatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +636
    แล้วโลกเราจะรอดไหมเนี่ย?
     
  9. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    ไม่ใช่2ปีเหรอลุงเชียงใหม่
     
  10. seberton

    seberton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2006
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +655
    ถ้าโลกแตก จนมนุษย์อยู่ไม่ได้ แล้วมนุษย์จะชดใช้กรรมที่ไหนตอนมาเกิดอะ จะเกิดบนดาวดวงใหม่เหรอ อิอิ
     
  11. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    โลกยังไม่แตก
    อยู่ได้อีกไม่ต่ำกว่าสิบล้านปี
    พอแตกก็ไปเกิดบนดาวดวงใหม่แหละจ้ะ
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">หวั่นไข้หวัดนกระบาดใหญ่ อาจคร่าชีวิตคนถึง 62 ล้าน [25 ธ.ค. 49 - 00:32]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>นักวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคำนวณว่า หากว่าโรคไข้หวัดนกระบาดใหญ่ หนักหนาขนาดเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่วโลก สมัย พ.ศ. 2461-2463 จะต้องมีผู้ล้มตายสูงถึง 62 ล้านคน และส่วนใหญ่จะเป็นพลเมืองของชาติยากจนเสียตั้ง 60 ล้านคน
    นายคริสโตเฟอร์ เมอเรย์ กับคณะ ได้ลองคิดคำนวณหาตัวเลขดูว่า หากเกิดโรคไข้หวัดนกระบาดใหญ่ขึ้น อย่างที่ชาติต่างๆยังคงหวั่นหวาดกันอยู่ในเวลานี้ ด้วยความรุนแรงขนาดการระบาดทั่วโลกของไข้หวัดใหญ่สเปน สมัยเมื่อ พ.ศ.2461-2463 ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ล้านคน โดยใช้ข้อมูลของการระบาดหนนั้นของชาติต่างๆ 27 ชาติด้วยกัน ที่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
    เขาเปิดเผยผลลัพธ์ในวารสารการแพทย์ “แลนเซต” ว่า “ผลลัพธ์ส่อว่า ชาติที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย จะต้องรับกรรมส่วนใหญ่ ไม่ว่าเชื้อไวรัสที่ระบาดจะร้ายแรงสักเท่าใด และแม้ว่าช่องว่างของความก้าวหน้าทางการแพทย์และอนามัยสมัยนี้ จะน้อยกว่าสมัยเมื่อเกือบ 90 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังคงไม่อาจจะช่วยเหลือชาติเหล่านี้ได้มากเท่าใดนัก หากว่าโรคเกิดระบาดขึ้นในวันหน้า”
    ตามสถิติแล้ว ในศตวรรษหนึ่งๆ มักจะเกิดโรคหวัดระบาดใหญ่ทำให้ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ขึ้นสัก 3-4 หน และมีนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า กำลังใกล้จะเกิดครั้งใหม่ขึ้นอีก ด้วยโรคไข้หวัดนกระบาดนี่เอง แม้ว่าตามรายงาน เท่าที่เป็นมาจะมีผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 รวมกันแค่ 258 รายเท่านั้น แต่ก็เกรงกันว่ามันจะกลายพันธุ์ กลับระบาดขึ้นง่ายและรวดเร็วอีกได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">อิทธิฤทธิ์ของอากาศแปรปรวน ทำอาณาจักรจีนเมื่อ พันกว่าปีล่ม [9 ม.ค. 50 - 00:20]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>ผลการศึกษาพบว่า ราชวงศ์ถังของจีนที่นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่ารุ่งเรืองที่สุด ในประวัติศาสตร์จีนล่มสลายลง เพราะฤดูมรสุมแปรปรวน
    คณะนักวิทยาศาสตร์แห่งจีเอฟแซด ในเมืองปอตสดัม เยอรมนีตะวันออก นำตัวอย่างตะกอนในทะเลสาบหูกวงหยาน เมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ตรงข้ามกับเกาะไหหลำ ไปตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อว่า สารที่มีคุณสมบัติทางแม่เหล็กและธาตุไทเทเนียมในตะกอนเหล่านี้ เป็นตัวบ่งชี้ความรุนแรงของวงจรฤดูหนาว พวกเขาพบว่าตลอด 15,000 ปีที่ผ่านมา มีสามช่วงที่ลมมรสุมในฤดูหนาวมีความรุนแรง
    ราชวงศ์ถังเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาอับแสงในปี ค.ศ. 751 เมื่อกองทัพพ่ายแพ้ให้แก่ชาวอาหรับ แต่สิ่งที่ทำให้ราชวงศ์นี้ถึงกาลอวสานคือ ภาวะแห้งแล้งยืดเยื้อ ผลผลิตทางการเกษตรขาดแคลนจนกระทั่งชาวนาพากันลุกฮือโค่นล้มราชวงศ์.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. aew.st

    aew.st เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +461
    ทำไมโลกนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย บ่นไปงั้นแหละ เพราะจิตใจหดหู่
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ทำจิตใจให้ผ่องใสครับ สัมผัสทุกข์แต่ใจเราไม่ทุกข์ครับ
    เมื่อเห็นทุกข์ย่อม หาทางออกจากทุกข์ จึงเห็นธรรม ครับ

    นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปี 49 จีนเผชิญภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในรอบ 8 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มกราคม 2550 16:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการจีน กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วเป็นปีที่จีนเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในรอบ 8 ปี โดยมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศถึงกว่า 3,100 คน
    จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งสภาพแห้งแล้งและอุทกภัยบ่อยครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ต่างภูมิภาคกัน ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นมูลค่าถึง 252,800 ล้านหยวน หรือประมาณ 1.26 ล้านล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่เมื่อปี 2541 เป็นต้นมา
    รายงานระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนเผชิญพายุไต้ฝุ่นอย่างน้อย 6 ลูก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม พายุไต้ฝุ่นบิลิสสร้างความเสียหาย 6 มณฑล และคร่าชีวิตผู้คนไป 843 คน ตามมาด้วยพายุไต้ฝุ่นซาวไม พัดกระหน่ำ 2 มณฑล คร่าชีวิตผู้คน 483 คน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. pen@_p@ne

    pen@_p@ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +433
    เยอรมนีเหนือเริ่มเกิดนำท่วมใหญ่!!! นี่อาจจะเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ก็เป็นได้ค่ะ
     
  18. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,087
    ค่าพลัง:
    +13,923
    จะลดจะเพิ่มเริ่มที่เรา

    จะลดจะเพิ่มเริ่มที่เรา เชื่องี้แล้วก็พยายามทำตามที่เชื่อครับ (b-oneeye)
     
  19. aew.st

    aew.st เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +461
    ขอบคุณทุกคนมากที่ให้ข้อคิดดีๆ จะพยายามคิดอย่างมีสติให้มากที่สุด ในแต่ละเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...