ประกาศลาบวช

ในห้อง 'งานบวช' ตั้งกระทู้โดย QuaOs, 17 พฤศจิกายน 2007.

  1. QuaOs

    QuaOs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +480
    ด้วยกระผมกำลังจะบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ในระหว่างวันที่ 3 ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นี้ ที่จิตตภาวันวิทยาลัย จ.ชลบุรี
    จึงจะขอประกาศลาบวช และขอเชิญทุกท่านร่วมอนุโมทนา
    สำหรับผู้ใดก็ตามที่ได้เคยล่วงละเมิดด้วยประการใดๆ ต่อกระผมไว้ กระผมอโหสิกรรมให้ทั้งหมดแล้ว ไม่ประสงค์จะจองเวรใดๆ ต่อไปอีก
    และกรรมใดที่กระผมเคยล่วงละเมิดต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ไม่ว่าจะโดยเจตนา ไม่เจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ว่าที่ระลึกได้หรือระลึกไม่ได้ก็ตาม กระผมก็ขออโหสิกรรมมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน ฯ
     
  2. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,696
    ถึงจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม แต่ก็ขออนุโมทนาในผลบุญที่กำลังจะได้รับนะครับ
     
  3. QuaOs

    QuaOs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +480
    มารายงานตัว ลาสิกขากลับมาแล้วครับ ตั้งแต่สายๆ วันนี้ (ตอนนี้อยู่กรุงเทพ)

    วันนี้ขอไปนอนก่อน แล้วจะมาบอกเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันอีกที
     
  4. QuaOs

    QuaOs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +480
    บอกเล่าประสบการณ์บวช


    จากที่ผมได้ไปเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ 80 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีเมืองพัทยาเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 3-10 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา ก็จะมาเล่าให้ฟังกันคร่าวๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

    วันที่ 3 เป็นวันโกนผมบวชนาคที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยญาติพี่น้องก็มาตั้งแถวกันตัดผมนาคเอาฤกษ์เอาชัยมากมายทีเดียว ก่อนที่พระพี่เลี้ยงจะช่วยโกนจนเกลี้ยง ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด เข้าสู่พิธีรับผ้าไตร แล้วไปขึ้นรถแห่นาครอบเมืองพัทยา จนไปเข้าพักที่จิตภาวันวิทยาลัยเป็นคืนแรก

    วันที่ 4 พวกเราบรรพชาเป็นสามเณรที่จิตภาวันฯ แล้วแยกย้ายกันไปตามวัดต่างๆ ที่พระอุปัชฌาย์อยู่ สายผมไปวัดหนองเกตุน้อย มีท่านพระครูโสภณประภาธร (ปภาธโร) เป็นอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาที่จิตภาวันฯ

    หลังจากนั้นพวกเราได้ฝึกอบรมปฏิบัติธรรม ภายใต้การดูแลของพระครูบุญประภากร เจ้าอาวาสวัดโพนงาม โดยแขวนกลดปูเสื่ออยู่กันในป่าประดู่ริมทะเลจนถึงวันที่ 10 มีเต็นท์ใหญ่อยู่ตรงนั้นไว้ทำกิจกรรมฝึกอบรมต่างๆ และก็ฉันอาหาร-ฉันน้ำปานะ-อาบน้ำ-เข้าห้องน้ำ กันในบริเวณแถวๆ นั้นนั่นแหละ

    คืน 2 คืนแรกผมแขวนกลดไว้ใกล้เต็นท์ แต่หลังจากนั้นผมย้ายไปอยู่ตรงเหนือเขื่อนติดชายทะเลซึ่งสงบวิเวกมากกว่า มีสหายพระอยู่กัน 4-5 รูป

    ในแต่ละวัน เราก็จะตื่นขึ้นมาด้วยเสียงระฆังปลุกตอนตี 4 เพื่อทำกิจส่วนตัว แล้วห่มครองจีวรเรียบร้อยเข้าไปรวมกันในเต็นท์เพื่อทำวัตรเช้า

    จากนั้นก็ได้เวลาฉันกาแฟ/โอวัลติน พร้อมปาท่องโก๋เป็นการรองท้อง ก่อนจะเข้าปฏิบัติธรรมภาคเช้า

    หลังจากนั้น ตอนสายๆ แดดเริ่มส่องแรง ญาติโยมมาจัดสำรับตั้งบนโต๊ะกันแล้ว ก็เป็นเวลาฉันอาหาร โดยอุ้มบาตรเดินเรียงแถวออกไป แล้วก็ตักกับข้าวที่เรียงอยู่บนโต๊ะยาวมาใส่บาตรตามสมควร แล้วกลับเข้ามานั่งพิจารณาพร้อมกันในเต็นท์ ซึ่งฉันในบาตรวันละมื้อเดียว (จริงๆ แล้วถ้านับปาท่องโก๋รอบเช้า แถมข้าวต้มในบางวันด้วยก็เป็น 2 มื้อ)

    จากนั้นก็เป็นเวลาพักตามอัธยาศัย จนเข้าช่วงบ่าย ก็จะปฏิบัติธรรมต่ออีกรอบ ตามด้วยพักฉันน้ำปานะ

    เสร็จแล้วในช่วงบ่ายแก่ๆ 4-5 โมง ก็บำเพ็ญประโยชน์เช่นเก็บกวาดบริเวณที่พักอาศัย และทำกิจส่วนตัว สรงน้ำ

    จนเสร็จสรรพช่วง 6 โมงเย็น เป็นเวลารวมกันอีกครั้งเพื่อทำวัตรเย็น และในบางวันจะมีการรวมกำลังกันเจริญพระพุทธมนต์ให้ในหลวงท่านเป็นพิเศษ ด้วยธัมมจักกัปปวัฒนสูตรและบทสวดอื่นๆ

    หลังจากทำวัตรเย็นเสร็จ จะเป็นการฟังบรรยายธรรมจากพระวิทยากรรับเชิญในช่วงค่ำ ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะเหลือเวลาอีกช่วงหนึ่งก่อนเข้านอนหลัง 2-3 ทุ่ม

    วันอาทิตย์ที่ 9 ช่วงสายหลังจากฉันแล้ว เราเดินธุดงค์เลียบชายหาดไปถึง "บ้านสุขาวดี" ซึ่งกำลังจัดงานพุทธบารมี 2 แผ่นดิน เพื่อไปกราบนมัสการ และปฏิบัติธรรมต่อหน้าองค์พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน

    สรุปแล้วคนที่มาบวชในครั้งนี้ มีตั้งแต่หนุ่มๆ 20 ต้นๆ ไปจนถึงวัยเกษียณ ฐานะ ความเป็นมา การงานก็หลากหลาย ส่วนใหญ่จะทำงานอยู่แถวพัทยาโดยเฉพาะในวงการศึกษาและข้าราชการ (มีผมและอีกบางคนที่ไปจาก กทม.)

    เรื่องศีล พวกเราแต่ละรูปมาบวชในครั้งนี้ก็ตั้งใจทำความดีถวายในหลวง ก็พยายามรักษาศีลกันอยู่แล้ว แต่ก็ตามประสาพระบ้านและพระบวชใหม่ล่ะครับ มีปลงอาบัติกันเป็นประจำวัน ยิ่งบวชหมู่คราวนี้มีญาติโยมที่ศรัทธาแห่มาเยี่ยม พบปะพูดคุย มาถวายของและปัจจัยมากมาย และรอใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งกันทั่วเมืองพัทยาในเช้าวันที่ 8-9 อีกด้วย ผมก็พยายามสำรวมระวังเท่าที่ทำได้ให้มากที่สุด

    ส่วนการปฏิบัติ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเดินจงกรม มีเน้นสมาธิภาวนาในวันแรกๆ โดยส่วนตัวผมใช้เวลาที่ว่างๆ ในการปฏิบัติในหลายอิริยาบถ ที่รู้สึกว่าทำได้ผลดีก็ตอนยืนสมาธิกับเดินสมาธิ/เดินจงกรมนั่นแหละครับ เพราะในระหว่างวันที่นั่งทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็นและฝึกอบรมในเต็นท์เป็นเวลานาน ทำให้เข่าล้ามาก พอจะมานั่งสมาธิเอง งอเข่าได้ไม่นานก็ปวดแล้ว ส่วนเวลานอนก็พยายามกำหนดลมหายใจไปจนกว่าจะหลับ แต่ก็ยังฝันเรื่อยเปื่อยอยู่พอสมควร

    ปรากฎการณ์เร้นลับแปลกๆ อันนี้ก็เจอกันมาบ้างเหมือนกันพอได้เปิดหูเปิดตา ไม่ถึงกับสติแตกวิ่งจีวรปลิวกันแต่อย่างใด

    ในวันสุดท้ายคือวันที่ 10 เราลุกขึ้นมาเก็บข้าวของทุกอย่างกลับมารวบรวมไว้กองกลางแต่เช้า และตอนสายๆ หลังจากฉันอาหารและขึ้นรถเดินสายไปกราบลา ขอขมาโทษพระอุปัชฌาย์แต่ละกลุ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับมาทำพิธีลาสิกขาในเวลาประมาณ 10 โมงครึ่งกว่า กลับมาเข้าพิธีรับวุฒิบัตรจากพระอาจารย์ แล้วยังอยู่ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณห้องน้ำวัดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ญาติๆ จะทยอยมารับตัวกลับกันไป

    ทั้งนี้ ยังมีพระอีกหลายรูปที่ยังไม่ลาสิกขาตามกำหนด และคงจะติดตามพระอาจารย์ คือพระครูบุญประภากร ไปที่ จ.เลย แล้วตอนนี้

    โดยสรุป สิ่งที่ผมได้จากการบวชครั้งนี้อย่างชัดๆ ก็มี
    - ได้ร่วมกันกับคนนับร้อย เพื่อสร้างความดีสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อตนเอง พ่อแม่ผู้มีพระคุณ ในหลวงและพระราชวงศ์ในโอกาสที่เป็นปีมงคลของท่าน ตลอดจนญาติพี่น้องเพื่อนฝูง และสรรพสัตว์ทั่วไป
    - มีความเคยชิน จับหลักในการทำสมาธิได้มากขึ้น
    - รู้จักมีสติอยู่กับตัวในแต่ละอิริยาบถมากขึ้น ฟุ้งซ่านน้อยลง
    - ได้ฝึกความอดทน และมีกำลังใจในการทำความเพียรในเรื่องต่างๆ มากขึ้น
    - ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ในทางศาสนาและวงการสงฆ์มากขึ้น
    - มีความคุ้นเคยกับภาษาบาลีมากขึ้น เมื่อสวดมนต์แต่ละบท พอจะจับใจความได้ว่ากล่าวถึงอะไร

    จบแล้วครับ ก็หวังว่าในโอกาสหน้าที่ผมได้บวช ก็จะได้มาเล่าให้ฟังกันแบบนี้อีก


    สุดท้ายนี้ ขออานิสงส์แห่งการบรรพชาอุปสมบท รวมถึงบุญกุศลและบารมีใดๆ ที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมาแล้วทั้งสิ้น จงเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าได้บรรลุถึงซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในอนาคตกาลเบื้องหน้าด้วยเทอญ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2007
  5. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028

    [​IMG]

    ธมฺมกาโม ภวํ โหติ</SPAN>
    ผู้ฝักใฝ่ในธรรมเป็นผู้เจริญ
    ธมฺมเทสฺสิ ปราภโว

    ผู้ชังธรรม เป็นผู้เสื่อม
    นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ

    สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี.

    จงเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตนไม่ได้ ใครจะเตือน
    อย่าลืมเลือน เตือนตน ให้พ้นภัย


    ...............................................................

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตยที่เคารพบูชาเป็นสรณะสูงสุด
    จงอำนวยอวยชัยให้พรแก่ทุกๆ ท่านที่คิดดี พูดดี ทำดี
    อยู่ในศีล อยู่ในธรรม และหมั่นเจริญพระกรรมฐาน
    ขอให้ท่านเจริญ ซึ่งอายุ วรรณะ สุขะ พละ
    ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ
    สาธุ ๆ ๆ

    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  6. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  7. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์ พร้อมครอบครัวและญาติมิตร
     

แชร์หน้านี้

Loading...