บาปในใจ...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 23 สิงหาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table style="font-size: 12px;" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr style="font-size: 12px;"><td style="font-size: 12px;" colspan="3" class="title1" align="right" background="../images/box10.gif" height="72" valign="bottom">บาปในใจ...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม[​IMG]</td> </tr> <tr style="font-size: 12px;"> <td style="font-size: 12px;" background="../images/box12.gif" width="20">[​IMG]</td> <td style="font-size: 12px;" height="100" valign="top" width="460">[​IMG]
    บางครั้งคนเราจิตพลุ่งพล่านฟุ้งซ่าน
    บางครั้งจิตเพ้อฝันถึงเรื่องต่างๆ ที่เราอยากได้
    มันก็คุ้มคลั่งไปตามสภาพของจิต
    แต่จิตที่จะนิ่งและมีสมาธินั้นน้อยมาก
    แต่สมาธิที่เราตั้งใจปฏิบัติมันก็ได้ผล
    แต่เราจะรู้สึกนึกคิดว่าสมาธิจิตที่เราจะได้นี้
    แสนจะยากที่จะให้จิตอยู่กับที่
    อาตมาเคยพูดอยู่เสมอว่า
    เราจะมีสติอยู่สัก ๕ นาที ก็แสนจะยากมาก
    ยากเพราะจิตมันอยู่กับที่ไม่ได้มันฟุ้งซ่าน
    ที่เราคิดมาหลายวัน ที่เราฝังใจอยากได้อะไร
    เป็นการใฝ่ฝัน มาตั้งแต่เป็นเด็ก
    เมื่อมาถึงตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว ก็เป็นการเพ้อฝัน
    แต่คำว่าเพ้อฝันนั้นมันมีอยู่ในจิตครบทุกดวง
    แต่พอเราจะมานั่งสมาธิ มาทำให้จิตอยู่กับที่
    เรื่องเพ้อฝันอันเก่ามันก็มาปรากฏขึ้นในขณะนี้
    มันปรากฏขึ้นมาในขณะที่เราเดินจงกรม
    ถ้าหากเรามีสมาธิเมื่อไร มันจะโผล่มา
    บางครั้งมันจะโผล่ในตอนเดินจงกรม และ นั่งสมาธิ
    ขณะนั่งเราก็ตั้งสติไว้ให้มั่น
    หายใจเข้ายาวๆ ท้องจะพองออกไป
    หายใจออกยาวๆ ทำพองหนอ ยุบหนอให้คล่องให้ได้
    พอเราทำพองหนอ ยุบหนอ จิตมันก็ยุบหนอ พองหนอ
    แต่อีกจิตหนึ่งมันจะฟื้นคืนขึ้นมา
    ที่เราเคยลืมไว้ในอดีต มันจะโผล่ขึ้นมา
    ให้เราคิด ถึงเรื่องโน้น เรื่องนี้ จิปาถะ

    ถ้าเราทำงานเพลินๆ ที่เราชอบ
    เรื่องพวกนี้จะไม่โผล่มาให้เราคิด
    แต่ถ้าเราสำรวมจิต สำรวมกาย ให้มันอยู่ที่
    พอมีสติบ้าง พอมีสมาธิบ้าง เรื่องเก่าโผล่มาเลย
    เดี๋ยวเราจะเข้าใจผิดคิดว่าทำไม่ได้ผล
    แต่แท้ที่จริงแล้วมันได้ผล
    ที่มันโผล่ขึ้นมานี้เราจะได้กำหนด คิดหนอ
    พอทำหนักเข้า สติเราครบ สมาธิเราครบวงจร
    ความคิดจะปรากฏชัดว่า
    เรื่องในครั้งอดีตมาแล้วนั้น ไม่ควรจะคิด
    แต่คำว่าไม่ควรจะคิดมันเกิดขึ้นเอง
    ไม่ใช่เราไปนึกว่าอย่าไปคิดมันนะ

    บางทีเราไปฟังวิทยากรว่า
    อย่าไปคิดเรื่องเก่า เอาแต่ปัจจุบัน
    มันก็ถูก แต่โดยวิธีปฏิบัติแล้วไม่ให้คิดไม่ได้
    มันจะต้องคิดตลอด คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้จิปาถะ
    แปลว่าเป็นกฎแห่งกรรม

    ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตอนที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่นั้น
    มักจะแต่เรื่องชู้สาว พออายุเรามากขึ้นแล้ว
    มาเจริญกัมมัฏฐานเมื่อสติดี สมาธิดีแล้ว
    เรื่องเก่ามันจะโผล่ออกมา
    พอเรากำหนด คิดหนอๆ รู้หนอๆ ที่ลิ้นปี่
    เรื่องที่โผล่ออกมาก็จะหายไป
    แต่แล้วเรื่องเก่าอีกเรื่องก็จะโผล่ออกมาอีกเรื่องหนึ่ง
    จิตมันจะคิดตลอดรายการ มันเป็นอย่างนี้

    เพราะฉะนั้น ก็ขอให้ทุกท่านกำหนด
    อย่าปล่อยให้เรื่องผ่านไปเฉยๆ
    ถ้าเราปล่อยผ่านไปโดยไม่กำหนด
    มันก็จะโผล่ขึ้นมาอีกเรื่อยๆ เรื่องที่เป็นกุศล เป็นอกุศล
    เรียกว่า ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    เพราะฉะนั้นท่านจะได้ปัญญา
    ซึ่งปัญญามันจะบอกเราเองว่ามนุษย์เราก็เป็นอย่างนี้
    บางคนก็ซบเซา บางคนก็หดหู่
    มนุษย์เราก็เป็นอย่างนี้แหละหนอ
    ไม่มีอะไรสดชื่นหรอก
    เราจะได้กำไรจากตอนนั่งสมาธิ และตอนเดินจงกรม
    เรื่องจิปาถะมันจะมา ใครคิดอะไรก็ให้กำหนด ให้มันหายไป
    เอาแต่ปัจจุบัน อนาคตมันยังอยู่อีกไกล
    เราคิดจะทำงานให้เป็นตามที่เราคิดมันเป็นไม่ได้หรอก
    แต่ตัวปัญญามันจะช่วยบอกเราเอง
    ปัญญาซึ่งเป็นตัวรอบรู้ในข้อเท็จจริง
    มันจะฝังอยู่ในจิตใจเราแล้วจะจำได้ว่า
    ต่อไปนี้มันจะจำแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดีมันจะคัดออกไป
    ซึ่งเรียกว่า "แยกแยะ" คิดอย่างแยกแยะ
    แยกแยะสิ่งที่ไม่ดีในใจ เรียกว่า บาปในใจ ออกไป
    เป็นทุกคน อาตมาก็ขอให้ทุกท่านพยายามหน่อย
    ให้กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก
    ตรงนี้จะได้ผล เมื่อทำได้เราก็เก็บรวบรวมผลงานไว้
    เมื่อต่อไปในภายหน้าหากมีปัญหาเราก็จะแก้ไขได้ง่าย

    </td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...